เฉลยธรรมบัญญัติ
1 ต่อไปนี้เป็นเรื่องที่โมเสสพูดกับชาวอิสราเอลในที่กันดารใกล้ ๆ แม่น้ำจอร์แดน เป็นที่ราบกันดารที่อยู่ตรงข้ามกับสูฟ ระหว่างปาราน โทเฟล ลาบัน ฮาเซโรท และดีซาหับ 2 การเดินทางจากโฮเรบถึงคาเดชบาร์เนีย+ตามเส้นทางไปเขตเทือกเขาเสอีร์ใช้เวลา 11 วัน 3 ในวันที่ 1 เดือน 11 ปีที่ 40+ โมเสสพูดกับชาวอิสราเอลตามที่พระยะโฮวาได้สั่งไว้ 4 ตอนนั้นเขาเพิ่งรบชนะสิโหน+กษัตริย์ของชาวอาโมไรต์ซึ่งอาศัยอยู่ในเฮชโบน และรบชนะโอก+กษัตริย์แห่งบาชานซึ่งอาศัยอยู่ในอัชทาโรทโดยรบชนะที่เมืองเอเดรอี+ 5 และที่แม่น้ำจอร์แดนในแผ่นดินโมอับ โมเสสเริ่มอธิบายบัญญัติของพระเจ้า+ว่า
6 “พระยะโฮวาพระเจ้าพูดกับพวกเราที่โฮเรบว่า ‘พวกเจ้าอยู่ในเขตเทือกเขานี้นานพอแล้ว+ 7 ให้เดินทางไปแผ่นดินของชาวอาโมไรต์+ที่เป็นเขตเทือกเขา และเข้าไปในแผ่นดินทั้งหมดที่อยู่ใกล้ ๆ ซึ่งอยู่ในเขตอาราบาห์+ เขตเทือกเขา เขตเชเฟลาห์ เขตเนเกบ บริเวณริมฝั่งทะเล+ซึ่งเป็นแผ่นดินของชาวคานาอัน เทือกเขาเลบานอน+ เลยไปจนถึงแม่น้ำใหญ่ คือแม่น้ำยูเฟรติส+ 8 เราตั้งแผ่นดินนั้นไว้ตรงหน้าพวกเจ้า ให้เข้าไปยึดครองแผ่นดินซึ่งพระยะโฮวาสาบานไว้กับบรรพบุรุษของพวกเจ้าคือ อับราฮัม อิสอัค+ และยาโคบ+ว่าจะยกให้พวกเขาและลูกหลานของเขา’+
9 “ในตอนนั้นผมพูดกับพวกคุณว่า ‘ผมคนเดียวดูแลพวกคุณทั้งหมดไม่ไหว+ 10 พระยะโฮวาพระเจ้าทำให้พวกคุณมีมากขึ้น และตอนนี้พวกคุณก็มีมากมายเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า+ 11 ขอพระยะโฮวาพระเจ้าของบรรพบุรุษของคุณทำให้พวกคุณมีจำนวนเพิ่มขึ้น+อีกพันเท่า และขอพระองค์อวยพรพวกคุณตามที่สัญญาไว้+ 12 แต่จะให้ผมคนเดียวดูแลพวกคุณทั้งหมด คอยแก้ปัญหาให้พวกคุณ แถมยังต้องทนฟังพวกคุณบ่นว่าได้ยังไง?+ 13 ให้เลือกคนฉลาด สุขุมรอบคอบ และมีประสบการณ์จากตระกูลต่าง ๆ มา แล้วผมจะแต่งตั้งพวกเขาให้เป็นหัวหน้าดูแลพวกคุณ’+ 14 ตอนนั้นพวกคุณตอบว่า ‘ก็ดีเหมือนกัน’ 15 ผมจึงเลือกพวกหัวหน้าจากตระกูลต่าง ๆ ซึ่งเป็นคนฉลาดและมีประสบการณ์ แล้วแต่งตั้งพวกเขาให้เป็นหัวหน้าดูแลพวกคุณ โดยให้เป็นหัวหน้าดูแลคนพันคนบ้าง ร้อยคนบ้าง ห้าสิบคนบ้าง และสิบคนบ้าง และบางคนก็ให้เป็นเจ้าหน้าที่ประจำตระกูลต่าง ๆ+
16 “ในตอนนั้นผมสั่งพวกผู้พิพากษาของพวกคุณว่า ‘เมื่อพิจารณาคดีความ ต้องตัดสินอย่างยุติธรรม+ ไม่ว่าจะเป็นคดีระหว่างชาวอิสราเอลกันเอง หรือระหว่างชาวอิสราเอลกับคนต่างชาติ+ 17 อย่าตัดสินด้วยความลำเอียง+ ให้ฟังทั้งคนต่ำต้อยและคนใหญ่คนโต+ อย่าเกรงกลัวใคร+ เพราะเมื่อทำการตัดสินคุณก็เป็นตัวแทนของพระเจ้า+ คดีไหนยากเกินไปก็เอามาให้ผมพิจารณา’+ 18 ในตอนนั้น ผมสั่งพวกคุณให้ทำทุกสิ่งที่ควรทำ
19 “แล้วพวกเราก็เดินทางจากโฮเรบผ่านที่กันดารทั้งหมดที่กว้างใหญ่และน่ากลัว+ อย่างที่พวกคุณเห็นระหว่างที่เดินทางมาแผ่นดินของชาวอาโมไรต์+ที่เป็นเขตเทือกเขาตามคำสั่งพระยะโฮวาพระเจ้าของพวกเรา ในที่สุดพวกเราก็มาถึงคาเดชบาร์เนีย+ 20 ผมจึงพูดกับพวกคุณว่า ‘พวกคุณมาถึงแผ่นดินของชาวอาโมไรต์ที่เป็นเขตเทือกเขาซึ่งพระยะโฮวาพระเจ้าจะให้เรา 21 นี่คือแผ่นดินที่พระยะโฮวาพระเจ้ายกให้พวกคุณแล้ว ให้ขึ้นไปยึดครองตามที่พระยะโฮวาพระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกคุณได้บอกไว้+ อย่ากลัวหรือวิตกกังวลเลย’
22 “แต่พวกคุณเข้ามาพูดกับผมว่า ‘ให้พวกเราส่งคนไปสอดแนมดูแผ่นดินนั้นก่อน จะได้กลับมาบอกพวกเราว่าควรจะไปทางไหน และเมืองที่เราจะไปครอบครองนั้นเป็นเมืองแบบไหน’+ 23 ผมก็เห็นด้วยกับข้อเสนอนั้น จึงเลือกผู้ชายจากพวกคุณมา 12 คน ตระกูลละคน+ 24 จากนั้นพวกเขาก็ออกเดินทางไปเขตเทือกเขา+ พวกเขาเข้าไปจนถึงหุบเขาเอชโคล์และสอดแนมดูแผ่นดินนั้น 25 พวกเขาหามผลไม้บางอย่างจากแผ่นดินนั้นมาให้พวกเรา แล้วรายงานว่า ‘แผ่นดินที่พระยะโฮวาพระเจ้าของเราจะให้นั้นเป็นแผ่นดินที่ดีเยี่ยมจริง ๆ’+ 26 แต่พวกคุณไม่ยอมขึ้นไป พวกคุณขัดคำสั่งพระยะโฮวาพระเจ้า+ 27 แถมยังบ่นในเต็นท์ของตัวเองว่า ‘เพราะพระยะโฮวาเกลียดพวกเรา พระองค์ถึงพาเราออกมาจากอียิปต์และให้ชาวอาโมไรต์ทำลายพวกเราให้สิ้นซาก 28 เราจะขึ้นไปที่นั่นได้ยังไง? พวกพี่น้องทำให้เรากลัว+ พวกเขาบอกเราว่า “คนพวกนั้นแข็งแรงกว่าและสูงใหญ่กว่าพวกเรา เมืองต่าง ๆ ก็ใหญ่โตและมีป้อมปราการสูงเสียดฟ้า+ แถมเรายังเห็นลูกหลานของอานาค+ที่นั่นด้วย”’
29 “ผมจึงบอกพวกคุณว่า ‘อย่าไปกลัวพวกเขาเลย+ 30 พระยะโฮวาพระเจ้าจะนำหน้าพวกคุณไปและจะต่อสู้แทนพวกคุณ+ เหมือนตอนที่คุณเห็นพระองค์ทำเพื่อพวกคุณในอียิปต์+ 31 และคุณก็ได้เห็นแล้วว่า ในที่กันดารพระยะโฮวาพระเจ้าโอบอุ้มคุณเหมือนพ่อที่โอบอุ้มลูกน้อยตลอดการเดินทางจนมาถึงที่นี่ยังไงบ้าง’ 32 แต่พวกคุณก็ยังไม่มีความเชื่อในพระยะโฮวาพระเจ้า+ 33 ที่นำหน้าพวกคุณในการเดินทางเพื่อหาที่ตั้งค่ายพักให้พวกคุณ พระองค์ปรากฏให้เห็นเป็นไฟในตอนกลางคืนและเป็นเมฆในตอนกลางวัน เพื่อให้รู้ว่าควรเดินไปทางไหน+
34 “เมื่อพระยะโฮวาได้ยินเสียงบ่นของพวกคุณ พระองค์ก็โกรธและสาบานว่า+ 35 ‘จะไม่มีใครเลยแม้แต่คนเดียวในคนรุ่นที่ชั่วร้ายนี้ได้เห็นแผ่นดินที่ดีเยี่ยมซึ่งเราสาบานไว้ว่าจะยกให้บรรพบุรุษของพวกเจ้า+ 36 ยกเว้นคาเลบลูกชายของเยฟุนเนห์ เขาจะได้เห็นและเราจะยกแผ่นดินที่เขาไปเหยียบนั้นให้เขากับลูกหลานของเขา เพราะเขาเชื่อฟังพระยะโฮวาอย่างสุดหัวใจ*+ 37 (พระยะโฮวาก็โกรธผมเพราะพวกคุณด้วย พระองค์บอกว่า ‘เจ้าก็เหมือนกันจะไม่ได้เข้าไปที่นั่น+ 38 โยชูวาลูกชายของนูนซึ่งเป็นคนที่คอยรับใช้เจ้าจะได้เข้าไป+ เจ้าต้องช่วยเขาให้เข้มแข็ง*+เพราะเขาจะนำชาวอิสราเอลเข้าไปครอบครองแผ่นดินนั้น’)+ 39 ส่วนลูก ๆ ของพวกเจ้าที่เจ้าบอกว่าจะถูกจับเป็นเชลย+ และลูกหลานของพวกเจ้าที่ตอนนี้ยังเด็กไม่รู้ว่าอะไรดีอะไรชั่ว คนพวกนี้จะได้เข้าไป และเราจะยกแผ่นดินนั้นให้พวกเขาครอบครอง+ 40 แต่พวกเจ้าจะต้องวกกลับไปเดินในที่กันดารตามเส้นทางทะเลแดง’+
41 “แล้วพวกคุณก็พูดกับผมว่า ‘พวกเราทำบาปต่อพระยะโฮวาแล้ว เราจะขึ้นไปต่อสู้ตามที่พระยะโฮวาพระเจ้าของเราสั่ง’ พวกคุณทุกคนก็ถืออาวุธพร้อมออกไปรบ คิดว่าจะขึ้นไปบนภูเขาได้ง่าย ๆ+ 42 แต่พระยะโฮวาบอกผมว่า ‘ไปบอกพวกเขาอย่างนี้ “อย่าขึ้นไปสู้รบเลย เพราะเราไม่อยู่กับพวกเจ้าแล้ว+ ถ้าพวกเจ้าขึ้นไปจะแพ้ศัตรูแน่ ๆ”’ 43 ผมก็มาบอกพวกคุณ แต่พวกคุณไม่ฟัง พวกคุณขัดคำสั่งพระยะโฮวาและยังดันทุรังขึ้นไปบนภูเขานั้น 44 ชาวอาโมไรต์ซึ่งอาศัยอยู่ในภูเขาก็ออกมาปะทะกับพวกคุณและไล่ตีพวกคุณเหมือนฝูงผึ้ง จนพวกคุณแตกร่นเข้าไปในเสอีร์จนถึงโฮร์มาห์ 45 แล้วพวกคุณก็กลับมาร้องไห้คร่ำครวญต่อหน้าพระยะโฮวา แต่พระยะโฮวาไม่ฟังและไม่สนใจพวกคุณ 46 เพราะอย่างนี้ พวกคุณถึงต้องอยู่ในคาเดชนานขนาดนี้
2 “พวกเราวกกลับไปเดินในที่กันดารตามเส้นทางทะเลแดงตามที่พระยะโฮวาสั่งผมไว้+ พวกเราเดินวนเวียนเลียบเขตภูเขาเสอีร์เป็นเวลานาน 2 ในที่สุด พระยะโฮวาก็บอกผมอย่างนี้ 3 ‘พวกเจ้าเดินวนเวียนเลียบเขตภูเขานี้นานพอแล้ว ให้วกขึ้นไปทางเหนือ 4 และสั่งประชาชนว่า “พวกเจ้าจะต้องเดินผ่านเขตแดนของพี่น้องของเจ้า คือลูกหลานของเอซาว+ซึ่งอาศัยอยู่ในเขตภูเขาเสอีร์+ พวกเขาจะกลัวเจ้า+ แต่พวกเจ้าต้องระวัง 5 อย่าไปสู้รบกับพวกเขา เพราะเราจะไม่ยกแผ่นดินของเขาให้พวกเจ้าแม้แต่คืบเดียว* เรายกเขตภูเขาเสอีร์ให้เอซาวครอบครองแล้ว+ 6 เจ้าจะต้องซื้อน้ำซื้ออาหารจากเขา+ 7 พระยะโฮวาพระเจ้าอวยพรทุกสิ่งที่เจ้าทำ พระองค์รู้ทุกย่างก้าวที่พวกเจ้าเดินผ่านที่กันดารอันกว้างใหญ่นี้ พระยะโฮวาพระเจ้าอยู่กับเจ้าตลอดทั้ง 40 ปี พวกเจ้าไม่ขาดอะไรเลย”’+ 8 พวกเราก็เดินทางผ่านพี่น้องของเรา คือลูกหลานของเอซาว+ซึ่งอยู่ในเสอีร์ พวกเราไม่ได้ใช้เส้นทางอาราบาห์และไม่ได้ไปทางเอลัทกับเอซีโอนเกเบอร์+
“จากนั้น เราก็เลี้ยวขึ้นไปตามเส้นทางที่จะไปที่กันดารโมอับ+ 9 พระยะโฮวาพูดกับผมว่า ‘อย่าไปรุกรานหรือทำสงครามกับพวกโมอับ เพราะเราจะไม่ยกแผ่นดินส่วนไหนของเขาให้เจ้าครอบครองเลย เรายกเมืองอาร์ให้ลูกหลานของโลทแล้ว+ 10 (แต่ก่อนพวกเอมิม+เคยอาศัยอยู่ที่นั่น พวกเขาเป็นคนแข็งแรง มีจำนวนมาก และรูปร่างสูงใหญ่เหมือนพวกอานาค 11 พวกเรฟาอิม+ก็มีรูปร่างเหมือนพวกอานาค+ด้วย ชาวโมอับเคยเรียกพวกเรฟาอิมว่าเอมิม 12 ก่อนหน้านี้ชาวโฮรี+อาศัยอยู่ในเสอีร์ แต่ลูกหลานของเอซาวกวาดล้างและไล่พวกเขาออกไป แล้วเข้าไปอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้นแทน+ เหมือนกับที่ชาวอิสราเอลจะทำกับแผ่นดินซึ่งพระยะโฮวาจะยกให้พวกเขาครอบครอง) 13 ให้เดินทางข้ามหุบเขาเศเรด’ พวกเราก็ข้ามหุบเขาเศเรด+ไป 14 ระยะเวลาที่พวกเราเดินทางจากคาเดชบาร์เนียจนถึงวันที่เราข้ามหุบเขาเศเรดนับได้ 38 ปี ซึ่งตอนนั้นพวกผู้ชายที่เป็นทหารในคนรุ่นนั้นตายไปหมด ตามที่พระยะโฮวาเคยสาบานไว้+ 15 พระยะโฮวาเหยียดมือออกต่อสู้พวกเขา และกำจัดพวกเขาจนหมดสิ้นไปจากค่ายพัก+
16 “พอผู้ชายที่เป็นทหารตายหมดแล้ว+ 17 พระยะโฮวาพูดกับผมอีกว่า 18 ‘วันนี้เจ้าจะต้องเดินทางผ่านเขตแดนโมอับ คือผ่านเมืองอาร์ 19 และเมื่อเจ้าไปใกล้ชาวอัมโมน อย่าไปรุกรานหรือก่อกวนพวกเขา เพราะเราจะไม่ยกแผ่นดินส่วนไหนของชาวอัมโมนให้เจ้าครอบครองเลย เรายกแผ่นดินนั้นให้ลูกหลานของโลทแล้ว+ 20 แผ่นดินนี้เคยเป็นของพวกเรฟาอิม+ด้วย (แต่ก่อนพวกเรฟาอิมอาศัยอยู่ที่นั่นและชาวอัมโมนเคยเรียกพวกเขาว่าศัมซุมมิม 21 พวกเขาเป็นคนแข็งแรง มีจำนวนมาก และรูปร่างสูงใหญ่เหมือนพวกอานาค+ แต่พระยะโฮวาทำลายพวกเขา ชาวอัมโมนจึงเข้าไปครอบครองและอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้นแทน 22 พระองค์ก็ทำอย่างนี้เพื่อลูกหลานของเอซาวซึ่งตอนนี้พวกเขาอาศัยอยู่ในเสอีร์+ ตอนนั้นพระองค์ทำลายพวกโฮรี+ ลูกหลานของเอซาวจึงเข้าไปครอบครองและอาศัยอยู่ที่นั่นแทนจนถึงทุกวันนี้ 23 สิ่งนี้ก็เกิดขึ้นกับพวกอัฟวิมด้วย พวกเขาเคยอาศัยอยู่ในหมู่บ้านต่าง ๆ แถบกาซา+จนชาวคัฟโทริม+จากคัฟโทร์*มากวาดล้างพวกเขาออกไปแล้วเข้าไปอาศัยอยู่ที่นั่นแทน)
24 “‘ให้เดินข้ามหุบเขาอาร์โนนไป+ เรามอบสิโหนกษัตริย์ชาวอาโมไรต์ที่อยู่ในเฮชโบนไว้ในมือของเจ้าแล้ว+ ดังนั้น เข้าไปยึดครองแผ่นดินของเขาและทำสงครามกับเขา 25 วันนี้ เราจะทำให้ทุกชนชาติในโลกที่ได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเจ้าต้องหวาดกลัว พวกเขาจะเกรงกลัวเจ้าจนตัวสั่น’+
26 “ผมส่งคนจากที่กันดารเคเดโมท+ไปบอกกษัตริย์สิโหนที่อยู่ในเฮชโบนด้วยข้อความที่เป็นมิตร+ว่า 27 ‘ผมขอเดินผ่านแผ่นดินของท่าน ผมจะเดินไปตามเส้นทางหลัก จะไม่เลี้ยวขวาหรือเลี้ยวซ้ายเลย+ 28 ผมจะซื้ออาหารและน้ำจากท่านกิน ขอแค่ให้ผมเดินผ่านไปเท่านั้น 29 (อย่างที่ลูกหลานของเอซาวซึ่งอาศัยอยู่ในเสอีร์ และชาวโมอับซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองอาร์ได้อนุญาตให้ข้ามแผ่นดินของเขา) จนกว่าผมจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าไปในแผ่นดินที่พระยะโฮวาพระเจ้ายกให้พวกเรา’ 30 แต่กษัตริย์สิโหนซึ่งอยู่ในเฮชโบนไม่ยอมให้พวกเราเดินผ่าน เพราะพระยะโฮวาพระเจ้าปล่อยให้ใจเขาดื้อดึง+และแข็งกระด้าง เพื่อจะมอบเขาไว้ในมือของพวกคุณตามที่เป็นอยู่ตอนนี้+
31 “ตอนนั้น พระยะโฮวาพูดกับผมว่า ‘เรามอบสิโหนและแผ่นดินของเขาให้เจ้าแล้ว เข้าไปยึดครองแผ่นดินของเขาซะ’+ 32 เมื่อสิโหนและคนทั้งหมดของเขาออกมาต่อสู้กับเราที่ยาฮาส+ 33 พระยะโฮวาพระเจ้าก็ให้เขาอยู่ในมือเรา พวกเราสังหารเขากับลูก ๆ รวมทั้งคนของเขาทั้งหมด 34 ตอนนั้น พวกเรายึดและทำลายเมืองของเขาทั้งหมด พวกเราสังหารผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก ๆ ไม่ปล่อยให้ใครเหลือรอดเลยสักคนเดียว+ 35 พวกเรากวาดต้อนฝูงสัตว์มาเป็นของเรา และริบเอาของต่าง ๆ จากเมืองที่เรายึดได้ 36 ไม่มีสักเมืองรอดพ้นเงื้อมมือเรา ตั้งแต่เมืองอาโรเออร์+ซึ่งตั้งอยู่ริมหุบเขาอาร์โนน (รวมทั้งเมืองที่อยู่ในหุบเขา) จนถึงกิเลอาด พระยะโฮวาพระเจ้าของเรามอบเมืองทั้งหมดนั้นไว้ในมือเรา+ 37 แต่พวกคุณไม่ได้เข้าไปใกล้แผ่นดินของชาวอัมโมน+ หรือพื้นที่ทั้งหมดตรงหุบเขายับบอก+ หรือเมืองต่าง ๆ ที่อยู่ในเขตเทือกเขา หรือที่อื่น ๆ ที่พระยะโฮวาพระเจ้าของเราห้ามไว้
3 “จากนั้น พวกเราก็เดินขึ้นไปตามเส้นทางบาชาน แต่โอกกษัตริย์แห่งบาชานกับคนของเขาออกมาสู้กับเราที่เมืองเอเดรอี+ 2 พระยะโฮวาพูดกับผมว่า ‘อย่าไปกลัวเขาเลย เพราะเราจะมอบเขากับคนของเขารวมทั้งแผ่นดินของเขาไว้ในมือเจ้า เจ้าจะทำกับเขาเหมือนที่ทำกับสิโหนกษัตริย์ของชาวอาโมไรต์ซึ่งอาศัยอยู่ในเฮชโบน’ 3 พระยะโฮวาพระเจ้าของเราก็มอบโอกกษัตริย์แห่งบาชานรวมทั้งประชาชนทั้งหมดไว้ในมือเรา และเราฆ่าฟันเขา ไม่มีใครเหลือรอดสักคนเดียว 4 เรายึดเมืองทั้งหมดของเขา ไม่มีเมืองไหนเลยที่ไม่ถูกยึด เรายึด 60 เมืองที่อยู่ในแถบอาร์โกบทั้งหมดซึ่งเป็นอาณาจักรของโอกในบาชาน+ 5 เมืองต่าง ๆ นี้มีกำแพงสูง มีประตูเมือง และดาลประตูป้องกันเมืองไว้อย่างแน่นหนา และมีเมืองเล็ก ๆ ที่ไม่มีกำแพงอีกมากมายล้อมรอบ 6 แต่เราทำลาย+เมืองพวกนั้นเหมือนที่เราทำลายทุกเมืองของสิโหนกษัตริย์ที่อยู่ในเฮชโบน และสังหารผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก ๆ ทั้งหมด+ 7 เรากวาดต้อนฝูงสัตว์ทั้งหมดมาเป็นของเรา และริบเอาของต่าง ๆ จากเมืองพวกนั้นด้วย
8 “ตอนนั้น พวกเรายึดเอาแผ่นดินของกษัตริย์อาโมไรต์ทั้งสอง+ที่อาศัยอยู่แถบแม่น้ำจอร์แดน ตั้งแต่หุบเขาอาร์โนนจนถึงภูเขาเฮอร์โมน+ 9 (ชาวไซดอนเคยเรียกภูเขาเฮอร์โมนว่าสีรีออน ส่วนชาวอาโมไรต์เรียกว่าเสนีร์) 10 คือเมืองทั้งหมดที่อยู่ในเขตที่ราบสูง กิเลอาดทั้งหมด และบาชานทั้งหมด จนถึงสาเลคาห์และเอเดรอี+ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ในอาณาจักรของโอกในบาชาน 11 โอกกษัตริย์แห่งบาชานเป็นพวกเรฟาอิมคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ ที่ตั้งศพของเขาทำด้วยเหล็ก* และยังคงตั้งอยู่ในเมืองรับบาห์ของชาวอัมโมน ที่ตั้งศพนี้ยาว 9 ศอก* กว้าง 4 ศอก*ตามศอกมาตรฐานที่ใช้กัน 12 ตอนนั้น พวกเรายึดครองแผ่นดินนี้ตั้งแต่อาโรเออร์+ซึ่งตั้งอยู่ริมหุบเขาอาร์โนน และครึ่งหนึ่งของเขตเทือกเขากิเลอาด ผมยกเมืองต่าง ๆ ในแถบนั้นให้ตระกูลรูเบนและตระกูลกาด+ 13 และส่วนที่เหลือในกิเลอาด รวมทั้งบาชานทั้งหมดที่เป็นของอาณาจักรโอก ผมยกให้ตระกูลมนัสเสห์ครึ่งตระกูล+ ส่วนแถบอาร์โกบทั้งหมดซึ่งเป็นของบาชานนั้นเคยเรียกกันว่าดินแดนของพวกเรฟาอิม
14 “ยาอีร์+คนในตระกูลมนัสเสห์ได้แถบอาร์โกบทั้งหมด+ จนถึงริมเขตแดนของชาวเกชูร์และชาวมาอาคาห์+ และเขาเรียกชื่อหมู่บ้านต่าง ๆ ในบาชานตามชื่อของตัวเองว่า ฮัฟโวทยาอีร์*+จนถึงวันนี้ 15 และผมยกกิเลอาดให้มาคีร์+ 16 และจากกิเลอาดถึงหุบเขาอาร์โนน (โดยมีแนวกลางหุบเขาเป็นเส้นเขตแดน) จนถึงหุบเขายับบอกที่เป็นเขตแดนของชาวอัมโมน ผมยกให้ตระกูลรูเบนและตระกูลกาด+ 17 เขตแดนของพวกเขาจะไปจดเขตอาราบาห์และแม่น้ำจอร์แดนตามแนวชายฝั่งแม่น้ำ และทอดยาวจากทะเลคินเนเรทถึงทะเลในเขตอาราบาห์ คือทะเลเกลือ*ตรงฐานของยอดปิสกาห์ด้านตะวันออก+
18 “แล้วผมก็สั่งพวกเขาว่า ‘ในเมื่อพระยะโฮวาพระเจ้ายกแผ่นดินนี้ให้พวกคุณครอบครองแล้ว พวกคุณทุกคนที่เป็นคนกล้าหาญจะต้องถืออาวุธนำหน้าพี่น้องชาวอิสราเอลข้ามแม่น้ำไป+ 19 เฉพาะภรรยากับลูก ๆ และฝูงสัตว์ของพวกคุณเท่านั้น (ผมรู้ว่าพวกคุณมีฝูงสัตว์มาก) จะยังอยู่ในเมืองต่าง ๆ ที่ผมยกให้พวกคุณนี้ 20 จนกว่าพระยะโฮวาจะให้พี่น้องของพวกคุณได้หยุดพักเหมือนที่พระองค์ทำเพื่อพวกคุณ และจนกว่าพวกเขาจะได้ครอบครองแผ่นดินที่พระยะโฮวาพระเจ้ายกให้ซึ่งอยู่อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำจอร์แดน หลังจากนั้น พวกคุณค่อยกลับมาที่ดินของตัวเองซึ่งผมยกให้แล้ว’+
21 “ตอนนั้น ผมสั่งโยชูวา+ว่า ‘คุณก็เห็นด้วยตาตัวเองแล้วว่าพระยะโฮวาพระเจ้าทำยังไงกับกษัตริย์สองคนนั้น พระยะโฮวาจะทำอย่างเดียวกันกับทุกอาณาจักรที่คุณจะข้ามไปพิชิต+ 22 ไม่ต้องไปกลัวพวกเขา เพราะพระยะโฮวาพระเจ้าจะต่อสู้เพื่อพวกคุณ’+
23 “แล้วผมก็อ้อนวอนพระยะโฮวาว่า 24 ‘พระยะโฮวาครับ พระองค์เป็นพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด พระองค์เพิ่งเริ่มแสดงความยิ่งใหญ่และพลังอำนาจให้ผู้รับใช้ของพระองค์ได้เห็น+ มีพระเจ้าองค์ไหนไหมไม่ว่าในสวรรค์หรือบนโลกจะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่เหมือนกับพระองค์ได้?+ 25 ขอผมข้ามไปดูแผ่นดินที่ดีเยี่ยมที่อยู่อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำจอร์แดนซึ่งเป็นเขตเทือกเขาที่สวยงาม และขอไปดูเทือกเขาเลบานอนด้วยเถอะครับ’+ 26 แต่พระยะโฮวายังโกรธผมเพราะพวกคุณอยู่+ พระองค์จึงไม่ฟัง พระยะโฮวาบอกผมว่า ‘พอแล้ว ไม่ต้องมาพูดกับเราเรื่องนี้อีก 27 ขึ้นไปบนยอดปิสกาห์+และมองไปทางตะวันตก ทางเหนือ ทางใต้ และทางตะวันออก แล้วดูแผ่นดินนั้นด้วยตาของเจ้าเอง เพราะเจ้าจะไม่ได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนนี้ไป+ 28 ให้แต่งตั้งโยชูวา+ขึ้นมาแทนเจ้าและให้กำลังใจเขา ช่วยเขาให้เข้มแข็ง เพราะเขาจะเป็นคนนำประชาชนพวกนี้ข้ามแม่น้ำไป+ เขาจะช่วยให้ประชาชนครอบครองแผ่นดินซึ่งเจ้าจะได้เห็นนั้น’ 29 เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นตอนที่พวกเราอยู่ในหุบเขาตรงหน้าเบธเปโอร์+
4 “ชาวอิสราเอล ขอให้ฟังข้อกำหนดและข้อกฎหมายที่ผมจะสอนพวกคุณให้ทำตาม เพื่อพวกคุณจะมีชีวิตอยู่+และเข้าไปครอบครองแผ่นดินที่พระยะโฮวาพระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกคุณจะยกให้ 2 อย่าเพิ่มเติมคำพูดหรือตัดทอนคำสั่งของผม+ แต่ให้ทำตามข้อบัญญัติของพระยะโฮวาพระเจ้าที่ผมจะชี้แจงกับพวกคุณ
3 “พวกคุณได้เห็นแล้วว่าพระยะโฮวาทำอะไรในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพระบาอัลแห่งเปโอร์ พระยะโฮวาพระเจ้าทำลายทุกคนที่ติดตามพระบาอัลแห่งเปโอร์+ 4 แต่ทุกคนที่ยึดมั่นอยู่กับพระยะโฮวาพระเจ้ายังมีชีวิตอยู่จนถึงวันนี้ 5 ผมสอนข้อกำหนดและข้อกฎหมาย+ให้พวกคุณตามที่พระยะโฮวาพระเจ้าสั่งผมไว้ เพื่อพวกคุณจะทำตามตอนที่อยู่ในแผ่นดินที่จะเข้าไปครอบครองนั้น 6 พวกคุณต้องทำตามอย่างเคร่งครัด+ เพราะชนชาติต่าง ๆ ที่ได้ยินถึงข้อกำหนดต่าง ๆ นี้จะได้เห็นว่าพวกคุณมีสติปัญญา+และความเข้าใจ+ และพวกเขาจะพูดว่า ‘ชนชาติใหญ่นี้เป็นชนชาติที่มีสติปัญญาและความเข้าใจจริง ๆ’+ 7 มีชาติไหนบ้างที่ยิ่งใหญ่และมีพระของเขาอยู่ใกล้ ๆ เหมือนที่พระยะโฮวาพระเจ้าอยู่ใกล้ ๆ เราทุกครั้งที่เราร้องหาพระองค์?+ 8 มีชาติไหนบ้างที่ยิ่งใหญ่และมีข้อกำหนดพร้อมข้อกฎหมายที่ดีงามเหมือนข้อบัญญัติทั้งหมดที่ผมจะชี้แจงให้พวกคุณในวันนี้?+
9 “ขอให้เอาใจใส่และระวังอยู่เสมอเพื่อคุณจะไม่ลืมสิ่งที่ได้เห็น และเพื่อสิ่งต่าง ๆ นี้จะไม่เลือนหายไปจากใจของคุณตลอดเวลาที่มีชีวิตอยู่ และให้เล่าสิ่งต่าง ๆ นี้ให้ลูกหลานฟังด้วย+ 10 ในวันที่คุณยืนอยู่ต่อหน้าพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณที่ภูเขาโฮเรบ พระยะโฮวาพูดกับผมว่า ‘ให้รวบรวมประชาชนมาประชุมกันต่อหน้าเราเพื่อฟังเราพูด+ พวกเขาจะได้เรียนรู้ที่จะเกรงกลัวเรา+ตลอดเวลาที่พวกเขามีชีวิตอยู่บนแผ่นดิน และจะได้นำไปสั่งสอนลูกหลานของตัวเอง’+
11 “พวกคุณก็เข้ามายืนใกล้ ๆ ตรงบริเวณที่ราบหน้าภูเขานั้น และมีเปลวไฟพวยพุ่งจากภูเขาสู่ท้องฟ้า มีความมืด มีเมฆดำทะมึนและหนาทึบ+ 12 และพระยะโฮวาเริ่มพูดกับพวกคุณจากเปลวไฟนั้น+ พวกคุณได้ยินเสียงพูดแต่ไม่เห็นพระองค์+ พวกคุณได้ยินแต่เสียงเท่านั้น+ 13 พระองค์ประกาศสัญญาที่พระองค์ทำกับพวกคุณ+ ซึ่งพระองค์สั่งให้พวกคุณทำตาม คือบัญญัติ 10 ประการ+ซึ่งต่อมาพระองค์เขียนไว้บนแผ่นหิน 2 แผ่น+ 14 ในตอนนั้น พระยะโฮวาสั่งให้ผมสอนข้อกำหนดและข้อกฎหมายให้พวกคุณ ซึ่งพวกคุณจะต้องทำตามเมื่ออยู่ในแผ่นดินที่เข้าไปครอบครอง
15 “เนื่องจากวันที่พระยะโฮวาพูดกับพวกคุณที่โฮเรบจากกลางเปลวไฟนั้นพวกคุณไม่เห็นพระองค์ ดังนั้น ระวังให้ดี 16 อย่าทำชั่วโดยทำรูปเคารพ ไม่ว่าจะเป็นรูปอะไรก็ตามไว้กราบไหว้บูชา ไม่ว่าจะเป็นรูปผู้ชายหรือรูปผู้หญิง+ 17 หรือรูปสัตว์ที่อยู่บนแผ่นดิน หรือรูปนกที่บินในท้องฟ้า+ 18 หรือรูปสัตว์เลื้อยคลานที่อยู่บนแผ่นดิน หรือรูปปลาที่อยู่ในน้ำ+ 19 เมื่อพวกคุณมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและเห็นดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว คือหมู่ดาวในท้องฟ้า อย่าหลงไปกราบไหว้หรือนมัสการสิ่งต่าง ๆ นั้นเลย+ พระยะโฮวาพระเจ้าให้สิ่งต่าง ๆ นั้นกับชนทุกชาติในโลก 20 แต่พวกคุณเป็นคนที่พระยะโฮวาเลือกและพาออกจากอียิปต์ ออกจากเตาถลุงเหล็ก* เพื่อมาเป็นชนชาติ*ของพระองค์+อย่างที่เป็นอยู่ในวันนี้
21 “พระยะโฮวาโกรธผมเพราะพวกคุณด้วย+ และพระองค์สาบานว่าจะไม่ให้ผมข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าไปในแผ่นดินที่ดีเยี่ยมซึ่งพระยะโฮวาพระเจ้าจะยกให้คุณเป็นมรดก+ 22 เพราะผมจะต้องตายในแผ่นดินนี้ ผมจะไม่ได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนไป+ แต่พวกคุณจะต้องข้ามไปยึดครองแผ่นดินที่ดีเยี่ยมนั้น 23 ระวังให้ดี อย่าลืมสัญญาที่พระยะโฮวาพระเจ้าทำกับพวกคุณ+ และอย่าทำรูปเคารพไว้กราบไหว้บูชา ไม่ว่าจะเป็นรูปอะไรก็ตามที่พระยะโฮวาพระเจ้าห้าม+ 24 เพราะพระยะโฮวาพระเจ้าเป็นเหมือนไฟที่เผาผลาญ+ เป็นพระเจ้าที่ต้องการให้นมัสการพระองค์เพียงผู้เดียว+
25 “ถ้าพวกคุณอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้นนานหลายปีจนมีลูกหลาน แล้วพวกคุณก็ไปทำชั่วโดยทำรูปเคารพไว้กราบไหว้บูชา+ หรือทำสิ่งชั่วร้ายในสายตาพระยะโฮวาพระเจ้าและทำให้พระองค์ไม่พอใจ+ 26 ผมก็ต้องให้ฟ้าดินเป็นพยานในวันนี้ว่า พวกคุณจะต้องพินาศไปอย่างรวดเร็วจากแผ่นดินที่พวกคุณกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปครอบครอง พวกคุณจะอาศัยอยู่บนแผ่นดินนั้นได้ไม่นาน เพราะจะถูกทำลายจนหมดสิ้น+ 27 พระยะโฮวาจะทำให้พวกคุณกระจัดกระจายไปอยู่ในชาติต่าง ๆ+ และจะมีไม่กี่คนที่เหลือรอด+อยู่ในแผ่นดินซึ่งพระยะโฮวาจะขับไล่ให้ไปอยู่นั้น 28 ที่นั่น พวกคุณจะต้องนมัสการพระที่ทำด้วยไม้และหินซึ่งมนุษย์ทำขึ้น+ เป็นพระที่มองก็ไม่เห็น ฟังก็ไม่ได้ยิน กินหรือดมกลิ่นก็ไม่ได้
29 “แต่ถ้าพวกคุณเสาะหาพระยะโฮวาพระเจ้าจากที่นั่น และทำอย่างสุดหัวใจและสุดชีวิต+ คุณจะพบพระองค์แน่นอน+ 30 ถ้าในวันข้างหน้าเรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นกับคุณและคุณเจอกับความทุกข์เดือดร้อน คุณก็จะกลับมาหาพระยะโฮวาพระเจ้าและเชื่อฟังพระองค์+ 31 เพราะพระยะโฮวาพระเจ้าเป็นพระเจ้าที่เมตตา+ พระองค์จะไม่ทิ้งคุณ หรือทำลายคุณ หรือลืมสัญญาที่พระองค์สาบานไว้กับบรรพบุรุษของคุณ+
32 “ตอนนี้ ให้คิดดูสิว่า ในอดีตก่อนสมัยของคุณ ตั้งแต่ตอนที่พระเจ้าสร้างมนุษย์ไว้บนโลก ให้สืบค้นดูว่าจากสุดปลายฟ้าข้างนี้ถึงสุดปลายฟ้าข้างโน้น เคยมีอะไรที่ยิ่งใหญ่แบบนี้เกิดขึ้นไหม? หรือเคยได้ยินอะไรแบบนี้ไหม?+ 33 มีชนชาติไหนไหมเคยได้ยินเสียงของพระเจ้าพูดออกมาจากเปลวไฟแบบที่คุณเคยได้ยินแล้วยังมีชีวิตรอดอยู่ได้?+ 34 หรือเคยมีไหมที่พระเจ้านำชาติหนึ่งออกมาจากอีกชาติหนึ่งด้วยการพิพากษาลงโทษ การอัศจรรย์ การอิทธิฤทธิ์+ สงคราม+ พลังอำนาจ+ ความเข้มแข็ง และด้วยสิ่งน่ากลัวต่าง ๆ+ อย่างที่พระยะโฮวาพระเจ้าของพวกคุณทำเพื่อพวกคุณในอียิปต์ซึ่งคุณเองก็ได้เห็นกับตา? 35 พระองค์ทำสิ่งต่าง ๆ ทั้งหมดนี้ให้คุณเห็นเพื่อคุณจะรู้ว่าพระยะโฮวาเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้+ ไม่มีพระเจ้าอื่นนอกจากพระองค์+ 36 พระองค์ให้คุณได้ยินเสียงพูดจากท้องฟ้าเพื่อสอนคุณให้เชื่อฟังพระองค์ และให้คุณเห็นเปลวไฟที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์บนโลกซึ่งคุณได้ยินคำพูดของพระองค์จากเปลวไฟนั้น+
37 “พระองค์รักบรรพบุรุษของคุณและเลือกลูกหลานของพวกเขาให้เป็นประชาชนของพระองค์+ พวกคุณถึงถูกพาออกมาจากอียิปต์ด้วยพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์ โดยมีพระองค์ดูแลอย่างใกล้ชิด 38 ชาติต่าง ๆ ที่ใหญ่กว่าและมีกำลังมากกว่าคุณ พระองค์ก็ไล่พวกเขาออกไป เพื่อนำคุณเข้าไปอยู่ในแผ่นดินของพวกเขาซึ่งพระองค์ยกให้คุณเป็นมรดก เหมือนที่เป็นอยู่ในวันนี้+ 39 ดังนั้น ในวันนี้ให้รับรู้และจำไว้เสมอว่าพระยะโฮวาเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้ พระองค์เป็นพระเจ้าทั้งในสวรรค์และบนโลก+ ไม่มีพระเจ้าอื่นอีก+ 40 และคุณต้องทำตามข้อกำหนดและข้อบัญญัติของพระองค์ซึ่งผมจะชี้แจงให้ทราบในวันนี้ เพื่อคุณและลูกหลานจะอยู่ดีมีสุข และมีชีวิตยืนยาวบนแผ่นดินที่พระยะโฮวาพระเจ้าจะยกให้”+
41 ในตอนนั้น โมเสสกันเมืองทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดนไว้ 3 เมือง+ 42 เพื่อคนที่ทำให้คนอื่นตายโดยไม่เจตนาและไม่ได้เกลียดชังกันมาก่อน+จะหนีไปอาศัยที่ 3 เมืองนี้ได้+ 43 สามเมืองนี้คือ เมืองเบเซอร์+บนที่ราบสูงในที่กันดารสำหรับคนในตระกูลรูเบน เมืองราโมท+ในกิเลอาดสำหรับคนในตระกูลกาด และเมืองโกลาน+ในบาชานสำหรับคนในตระกูลมนัสเสห์+
44 ต่อไปนี้คือข้อบัญญัติ+ที่โมเสสชี้แจงต่อหน้าชาวอิสราเอล 45 ซึ่งเป็นข้อเตือนใจ ข้อกำหนด และข้อกฎหมายที่โมเสสให้กับชาวอิสราเอลเมื่อพวกเขาออกมาจากอียิปต์+ 46 ตอนที่พวกเขาอยู่ใกล้ ๆ แม่น้ำจอร์แดนในหุบเขาตรงข้ามกับเบธเปโอร์+ในแผ่นดินของสิโหนกษัตริย์ของชาวอาโมไรต์ซึ่งอาศัยอยู่ในเฮชโบน+ โมเสสกับชาวอิสราเอลรบชนะเขาภายหลังออกมาจากอียิปต์+ 47 ชาวอิสราเอลยึดครองแผ่นดินของเขาและแผ่นดินของโอก+กษัตริย์แห่งบาชาน ซึ่งทั้งสองเป็นกษัตริย์ของชาวอาโมไรต์ที่อาศัยอยู่ในแถบตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน 48 โดยยึดครองตั้งแต่เมืองอาโรเออร์+ซึ่งตั้งอยู่ริมหุบเขาอาร์โนน ขึ้นไปจนถึงภูเขาสิยอนหรือเฮอร์โมน+ 49 รวมถึงเขตอาราบาห์ทั้งหมดที่อยู่ในแถบตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน ไปจนถึงทะเลในเขตอาราบาห์*ตรงฐานของยอดปิสกาห์+
5 โมเสสเรียกชาวอิสราเอลทั้งหมดมารวมกันและพูดกับพวกเขาว่า “ชาวอิสราเอล ขอให้ฟังข้อกำหนดและข้อกฎหมายต่าง ๆ ที่ผมจะประกาศให้พวกคุณรู้ในวันนี้ พวกคุณต้องเรียนรู้และทำตามอย่างเคร่งครัด 2 พระยะโฮวาพระเจ้าทำสัญญากับพวกเราที่โฮเรบ+ 3 พระยะโฮวาไม่ได้ทำสัญญานี้กับบรรพบุรุษของเราแต่ทำกับเรา คือพวกเราทั้งหมดที่มีชีวิตอยู่ที่นี่ในวันนี้ 4 พระยะโฮวาพูดกับพวกคุณโดยตรง*ที่ภูเขา โดยพูดออกมาจากเปลวไฟ+ 5 ตอนนั้นผมยืนอยู่ระหว่างพระยะโฮวากับพวกคุณ+เพื่อนำคำพูดของพระยะโฮวามาบอก เพราะพวกคุณกลัวเปลวไฟนั้นและไม่ได้ขึ้นไปบนภูเขา+ พระองค์พูดว่า
6 “‘เราคือยะโฮวาพระเจ้าของเจ้า ผู้พาเจ้าออกจากอียิปต์ดินแดนของการเป็นทาส+ 7 อย่ามีพระเจ้าอื่นนอกจากเรา+
8 “‘อย่าทำรูปเคารพ+ ไม่ว่าจะเป็นรูปอะไรก็ตามที่เหมือนกับสิ่งที่อยู่ในท้องฟ้า สิ่งที่อยู่บนแผ่นดิน หรือสิ่งที่อยู่ในน้ำ 9 อย่ากราบไหว้หรือหลงไปนมัสการรูปเคารพพวกนั้น+ เพราะเรายะโฮวาพระเจ้าของเจ้าเป็นพระเจ้าที่ต้องการให้พวกเจ้านมัสการเราเพียงผู้เดียว+ เราจะลงโทษคนที่เกลียดเราและให้โทษนั้นตกไปถึงลูก หลาน และเหลนของเขา+ 10 แต่คนที่รักเราและทำตามกฎหมายของเรา เราจะแสดงความรักอย่างมั่นคงต่อเขาไปหลายพันชั่วอายุ
11 “‘อย่าเอาชื่อยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าไปใช้ผิด ๆ+ เพราะพระยะโฮวาจะลงโทษคนที่เอาชื่อของพระองค์ไปใช้อย่างผิด ๆ+
12 “‘ให้รักษาวันสะบาโตและถือเป็นวันบริสุทธิ์ ตามที่พระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าสั่งไว้+ 13 ให้ทำงานทั้งหมดของเจ้า 6 วัน+ 14 แต่วันที่เจ็ดเป็นสะบาโตให้พระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้า+ อย่าทำงานอะไร+ ไม่ว่าเจ้า ลูกชายลูกสาว ทาสผู้ชายทาสผู้หญิง วัว ลา สัตว์เลี้ยง หรือคนต่างชาติที่อยู่ในเมืองของเจ้า+ เพื่อให้ทาสผู้ชายทาสผู้หญิงของเจ้าได้พักเหมือนกับเจ้า+ 15 อย่าลืมว่าเจ้าเคยเป็นทาสในอียิปต์ และพระยะโฮวาพระเจ้าพาเจ้าออกมาจากที่นั่นด้วยพลังอำนาจและความเข้มแข็ง+ นี่เป็นเหตุผลที่พระยะโฮวาพระเจ้าสั่งเจ้าให้รักษาวันสะบาโต
16 “‘ให้นับถือพ่อแม่+ตามที่พระยะโฮวาพระเจ้าสั่งไว้ แล้วเจ้าจะมีอายุยืนยาวและเจริญรุ่งเรืองบนแผ่นดินซึ่งพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าจะให้เจ้า+
20 “‘อย่าเป็นพยานเท็จใส่ร้ายคนอื่น+
21 “‘อย่าโลภอยากได้ภรรยาของคนอื่น+ หรืออยากได้บ้านของคนอื่น หรือทุ่งนา หรือทาสผู้ชายทาสผู้หญิง หรือวัว หรือลา หรืออะไรก็ตามที่เป็นของคนอื่น’+
22 “พระยะโฮวาบอกข้อบัญญัติต่าง ๆ นี้ให้ชาวอิสราเอลทุกคนที่ภูเขา พระองค์พูดออกมาจากเปลวไฟและเมฆที่ดำทะมึนและหนาทึบ+พร้อมด้วยเสียงที่ดังสนั่น พระองค์ไม่ได้บอกอะไรเพิ่มอีก จากนั้นพระองค์ก็เขียนบัญญัตินี้บนแผ่นหิน 2 แผ่นและให้ผม+
23 “แต่พอพวกคุณได้ยินเสียงที่ออกมาจากเมฆหนาทึบตอนที่เปลวไฟพวยพุ่งจากภูเขานั้น+ พวกหัวหน้าในตระกูลต่าง ๆ และพวกผู้นำก็เข้ามาหาผม 24 แล้วพวกคุณพูดว่า ‘พระยะโฮวาพระเจ้าของพวกเราแสดงรัศมีและความยิ่งใหญ่ของพระองค์ให้พวกเราเห็น พวกเราได้ยินเสียงของพระองค์ออกมาจากเปลวไฟ+ วันนี้พวกเราเห็นพระเจ้าพูดกับมนุษย์และมนุษย์ยังมีชีวิตรอดอยู่ได้+ 25 แต่ถ้าพวกเราฟังเสียงพระยะโฮวาพระเจ้าของเราต่อไป พวกเราคงต้องตายแน่ ๆ พวกเราไม่อยากตาย เปลวไฟอันยิ่งใหญ่นั้นคงต้องเผาผลาญพวกเราแน่ ๆ 26 ในพวกมนุษย์โลกทั้งหมดมีใครเหมือนพวกเราบ้าง ที่ได้ยินเสียงของพระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่พูดออกมาจากเปลวไฟแล้วยังรอดชีวิต? 27 ขอให้คุณไปหาพระยะโฮวาพระเจ้าของเราและฟังสิ่งที่พระองค์พูด แล้วนำคำพูดทั้งหมดที่พระยะโฮวาพระเจ้าพูดกับคุณมาบอกพวกเรา พวกเราจะฟังและทำตาม’+
28 “พระยะโฮวาได้ยินสิ่งที่พวกคุณพูดกับผม พระยะโฮวาจึงพูดกับผมว่า ‘เราได้ยินแล้วว่าประชาชนพวกนี้พูดอะไรกับเจ้า พวกเขาพูดถูก+ 29 ขอเพียงให้พวกเขามีใจเกรงกลัวเราเสมอ+ และรักษาข้อบัญญัติทั้งหมดของเรา+ พวกเขาและลูกหลานของเขาก็จะอยู่ดีมีสุขตลอดไป+ 30 เจ้าต้องไปบอกพวกเขาว่า “กลับไปเต็นท์ของตัวเองเถอะ” 31 แต่เจ้าจะต้องอยู่กับเราที่นี่ เราจะบอกข้อบัญญัติ ข้อกำหนด และข้อกฎหมายทั้งหมดกับเจ้า ซึ่งเจ้าจะต้องสอนพวกเขาให้ทำตามเมื่ออยู่ในแผ่นดินที่เราจะยกให้พวกเขาครอบครอง’ 32 ดังนั้น พวกคุณต้องใส่ใจทำตามที่พระยะโฮวาพระเจ้าสั่ง+ อย่าออกนอกลู่นอกทาง+ 33 พวกคุณจะต้องใช้ชีวิตในแนวทางที่พระยะโฮวาพระเจ้าสั่งไว้+ เพื่อพวกคุณจะมีชีวิตอยู่ เจริญรุ่งเรือง และมีอายุยืนยาวในแผ่นดินที่จะเข้าไปครอบครองนั้น+
6 “ต่อไปนี้คือข้อบัญญัติ ข้อกำหนด และข้อกฎหมายที่พระยะโฮวาพระเจ้าให้ไว้สั่งสอนพวกคุณ เพื่อพวกคุณจะทำตามเมื่อข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าไปในแผ่นดินที่พวกคุณจะครอบครอง 2 เพื่อคุณจะเกรงกลัวพระยะโฮวาพระเจ้า รักษาข้อกำหนดและข้อบัญญัติทั้งหมดของพระองค์ ซึ่งผมจะให้คุณและลูกหลาน+ของคุณถือรักษาไว้ตลอดชีวิต แล้วคุณจะมีอายุยืนยาว+ 3 ชาวอิสราเอล ขอให้ฟังและทำตามอย่างเคร่งครัด เพื่อคุณจะเจริญรุ่งเรืองและเพิ่มจำนวนขึ้นในแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งมากมาย ตามที่พระยะโฮวาพระเจ้าของบรรพบุรุษของคุณสัญญาไว้
4 “ชาวอิสราเอล ฟังให้ดี พระยะโฮวาเป็นพระเจ้าของเรา และพระยะโฮวามีเพียงองค์เดียวเท่านั้น+ 5 ให้รักพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณสุดหัวใจ สุดชีวิต+ และสุดกำลัง+ 6 ให้สิ่งที่ผมสั่งคุณในวันนี้อยู่ในหัวใจของคุณ 7 ให้พร่ำสอนลูก ๆ ด้วยคำสอนนี้+เมื่อคุณนั่งอยู่ในบ้าน เดินบนถนน นอนลงและลุกขึ้น+ 8 ให้เอาคำสอนนี้ผูกไว้ที่มือของคุณเป็นเครื่องเตือนใจ และให้คำสอนนี้เป็นเหมือนแถบผ้าซึ่งคาดไว้ที่หน้าผากของคุณ+ 9 ให้เขียนคำสอนนี้ไว้ที่เสาประตูบ้านและที่ประตูเมือง
10 “เมื่อพระยะโฮวาพระเจ้าพาคุณเข้าไปในแผ่นดินที่พระองค์สาบานไว้กับบรรพบุรุษของคุณ คือ อับราฮัม อิสอัค และยาโคบว่าจะยกให้คุณ+ ซึ่งแผ่นดินนั้นมีเมืองที่ใหญ่โตและสวยงามที่คุณไม่ได้สร้าง+ 11 มีบ้านเรือนที่เต็มไปด้วยของมีค่าทุกอย่างซึ่งคุณไม่ได้หามาเอง มีบ่อเก็บน้ำซึ่งคุณไม่ได้ขุด มีสวนองุ่นและต้นมะกอกซึ่งคุณไม่ได้ปลูก แต่หลังจากคุณได้กินจนอิ่มหนำแล้ว+ 12 ระวังให้ดี อย่าลืมพระยะโฮวา+ผู้ที่พาคุณออกจากอียิปต์ ดินแดนของการเป็นทาส 13 ให้เกรงกลัวพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณ+ นมัสการพระองค์+ และสาบานโดยออกชื่อของพระองค์+ 14 อย่ากราบไหว้พระอื่นที่เป็นของชนชาติต่าง ๆ ซึ่งอยู่ล้อมรอบพวกคุณ+ 15 เพราะพระยะโฮวาพระเจ้าที่อยู่กับคุณเป็นพระเจ้าที่ต้องการให้นมัสการพระองค์เพียงผู้เดียว+ ไม่อย่างนั้น พระยะโฮวาพระเจ้าของคุณจะโกรธ+ และจะกวาดล้างคุณให้หมดไปจากโลก+
16 “อย่าลองดีกับพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณ+เหมือนที่พวกคุณลองดีพระองค์ที่มัสสาห์+ 17 พวกคุณต้องทำตามข้อบัญญัติ ข้อเตือนใจ และข้อกำหนดของพระยะโฮวาพระเจ้าอย่างเคร่งครัด ซึ่งพระองค์มีคำสั่งให้คุณทำตาม 18 ให้ทำสิ่งที่ถูกต้องและดีงามในสายตาของพระยะโฮวาเพื่อคุณจะเจริญรุ่งเรือง คุณจะได้เข้าไปครอบครองแผ่นดินที่ดีเยี่ยมซึ่งพระยะโฮวาสาบานไว้กับบรรพบุรุษของคุณ+ 19 คุณจะได้รับตามที่พระยะโฮวาสัญญาไว้ เมื่อคุณขับไล่ศัตรูทั้งหมดไป+
20 “ในวันข้างหน้า ถ้าลูกของคุณถามว่า ‘ทำไมพระยะโฮวาพระเจ้าให้ข้อเตือนใจ ข้อกำหนด และข้อกฎหมายพวกนี้ล่ะครับ?’ 21 คุณจะได้ตอบลูกได้ว่า ‘เราเคยเป็นทาสของฟาโรห์ในอียิปต์ แต่พระยะโฮวาพาเราออกมาจากอียิปต์ด้วยพลังอำนาจของพระองค์ 22 พระยะโฮวาแสดงการอัศจรรย์กับการอิทธิฤทธิ์ที่ทั้งยิ่งใหญ่และก่อผลเสียหายกับอียิปต์+ ฟาโรห์ และผู้คนทั้งหมดที่อยู่ในวัง+ของเขาหลายต่อหลายครั้ง และพวกเราก็ได้เห็นมากับตา 23 พระองค์พาเราออกจากที่นั่นมาที่นี่ เพื่อให้เราได้รับแผ่นดินซึ่งพระองค์สาบานไว้กับบรรพบุรุษของเรา+ 24 แล้วพระยะโฮวาก็สั่งเราให้ทำตามข้อกำหนดทั้งหมดนี้ และให้เกรงกลัวพระยะโฮวาพระเจ้าของเราเพื่อชีวิตของเราจะมีแต่สิ่งดี ๆ เสมอ+ แล้วเราจะได้มีชีวิตอยู่+อย่างที่เป็นอยู่ในวันนี้ 25 และถ้าเราเชื่อฟังพระยะโฮวาพระเจ้าของเราโดยตั้งใจทำตามข้อบัญญัติทั้งหมดที่พระองค์สั่งสอนเรา พระองค์ก็จะถือว่าเราเป็นคนดี’+
7 “เมื่อพระยะโฮวาพระเจ้าพาคุณไปที่แผ่นดินซึ่งคุณกำลังจะเข้าไปครอบครองนั้น+ พระองค์จะกวาดล้างชาติต่าง ๆ ซึ่งเป็นชาติใหญ่ออกไปต่อหน้าคุณ+ คือ ชาวฮิตไทต์ ชาวเกอร์กาชี ชาวอาโมไรต์+ ชาวคานาอัน ชาวเปริสซี ชาวฮีไวต์ และชาวเยบุส+ รวมทั้งหมด 7 ชาติซึ่งเป็นชาติที่ใหญ่กว่าและมีกำลังมากกว่าคุณ+ 2 พระยะโฮวาพระเจ้าจะมอบพวกเขาไว้ในมือคุณ คุณเอาชนะพวกเขาได้+ ให้ทำลาย+พวกเขาซะ อย่าทำสัญญากับพวกเขาหรือสงสารพวกเขา+ 3 อย่าไปเกี่ยวดองกับพวกเขา อย่าให้ลูกสาวของคุณไปแต่งงานกับลูกชายของเขา หรือให้ลูกสาวของเขามาแต่งงานกับลูกชายของคุณ+ 4 เพราะพวกเขาจะทำให้ลูกหลานของคุณทิ้งพระเจ้าไปนมัสการพระอื่น+ แล้วพระยะโฮวาจะโกรธพวกคุณและจะทำลายล้างคุณอย่างรวดเร็ว+
5 “แต่พวกคุณต้องทำกับพวกเขาอย่างนี้ คือ ทำลายแท่นบูชาของพวกเขา ทุบแท่งหินศักดิ์สิทธิ์+ให้แหลกละเอียด โค่นเสาศักดิ์สิทธิ์+ และเผารูปเคารพของพวกเขาให้หมดสิ้น+ 6 เพราะคุณเป็นชนชาติบริสุทธิ์ของพระยะโฮวาพระเจ้า และจากชนชาติต่าง ๆ ทั้งหมดบนโลกนี้ พระยะโฮวาพระเจ้าเลือกคุณให้เป็นประชาชนของพระองค์ เป็นชนชาติพิเศษ*ของพระองค์+
7 “ที่พระยะโฮวาเอ็นดูพวกคุณและเลือกพวกคุณ+นั้นไม่ใช่เพราะพวกคุณเป็นชาติที่ใหญ่กว่าชาติอื่น ๆ ที่จริงพวกคุณเป็นชาติที่เล็กที่สุดด้วยซ้ำ+ 8 แต่ที่พระยะโฮวาพาพวกคุณออกมาด้วยพลังอำนาจ ปลดปล่อยพวกคุณจากดินแดนของการเป็นทาส+ จากอำนาจของฟาโรห์กษัตริย์อียิปต์เป็นเพราะพระยะโฮวารักพวกคุณและทำตามคำสาบานที่ให้ไว้กับบรรพบุรุษของคุณ+ 9 คุณก็รู้ดีว่าพระยะโฮวาพระเจ้าของเราเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้ เป็นพระเจ้าที่ซื่อสัตย์ เป็นพระเจ้าที่รักษาสัญญาและแสดงความรักอย่างมั่นคงต่อคนที่รักพระองค์และทำตามข้อบัญญัติของพระองค์ไปถึงหลายพันชั่วอายุ+ 10 ส่วนคนที่เกลียดพระองค์ พระองค์จะทำลายพวกเขาเอง+ พระองค์จะตอบแทนคนที่เกลียดพระองค์โดยไม่รอช้า พระองค์จะจัดการพวกเขาด้วยพระองค์เอง 11 ดังนั้น ให้ใส่ใจทำตามข้อบัญญัติ ข้อกำหนด และข้อกฎหมายที่ผมกำลังชี้แจงให้คุณทราบในวันนี้
12 “ถ้าพวกคุณเชื่อฟังข้อกฎหมายต่าง ๆ นี้และใส่ใจทำตาม พระยะโฮวาพระเจ้าก็จะรักษาสัญญาและจะแสดงความรักที่มั่นคงต่อคุณ ตามที่พระองค์สาบานไว้กับบรรพบุรุษของคุณ 13 พระองค์จะรักและอวยพรคุณ และทำให้คุณเพิ่มจำนวนขึ้น พระองค์จะอวยพรคุณให้มีลูกมากมาย+ และอวยพรให้แผ่นดินที่พระองค์สาบานไว้กับบรรพบุรุษของคุณว่าจะยกให้คุณ+นั้นเกิดดอกออกผล มีข้าว เหล้าองุ่นใหม่ น้ำมัน+ และมีลูกวัวกับลูกแกะมากมายเกิดจากฝูงสัตว์ของคุณ 14 พวกคุณจะเป็นชนชาติที่ได้รับพรมากกว่าชนชาติอื่น ๆ+ จะไม่มีผู้ชายหรือผู้หญิงคนไหนหรือสัตว์ตัวไหนของพวกคุณเป็นหมัน+ 15 พระยะโฮวาจะปกป้องคุณจากโรคภัยไข้เจ็บทุกชนิด และพระองค์จะไม่ให้คุณเจอกับโรคร้ายที่คุณรู้จักในอียิปต์+ แต่พระองค์จะให้สิ่งนี้เกิดกับคนที่เกลียดคุณ 16 คุณจะต้องทำลายชนชาติทั้งหมดที่พระยะโฮวาพระเจ้ามอบไว้ให้คุณ+ อย่าสงสารพวกเขา+และอย่านมัสการพระของพวกเขา+ เพราะนั่นจะเป็นกับดักที่ดักคุณ+
17 “ถ้าคุณคิดในใจว่า ‘ชนชาติพวกนี้มีคนมากกว่าเรา เราจะขับไล่พวกเขาได้ยังไง?’+ 18 อย่าไปกลัวพวกเขา+ ขอให้นึกถึงสิ่งที่พระยะโฮวาพระเจ้าของคุณทำกับฟาโรห์และชาวอียิปต์+ 19 คือ การพิพากษาลงโทษอย่างหนักที่คุณก็ได้เห็นกับตา การอัศจรรย์ การอิทธิฤทธิ์+ พลังอำนาจ และความเข้มแข็ง ซึ่งพระยะโฮวาพระเจ้าใช้เพื่อพาคุณออกมาจากอียิปต์+ และพระยะโฮวาพระเจ้าจะทำอย่างเดียวกันนี้กับชนชาติทั้งหมดที่คุณกลัว+ 20 พระยะโฮวาพระเจ้าจะทำให้พวกเขาท้อแท้*จนกว่าคนที่เหลือรอดอยู่+และคนที่ซ่อนตัวอยู่จะพินาศไปหมด 21 อย่าตกใจกลัวพวกเขา เพราะพระยะโฮวาพระเจ้าอยู่กับคุณ+ พระองค์เป็นพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่และน่าเกรงขาม+
22 “พระยะโฮวาพระเจ้าจะค่อย ๆ ไล่ชนชาติต่าง ๆ นี้ไปจากคุณ+ พระองค์จะไม่ปล่อยให้คุณกำจัดพวกเขาให้หมดไปอย่างรวดเร็ว เพื่อสัตว์ป่าจะไม่เพิ่มจำนวนจนเป็นภัยต่อคุณ 23 พระยะโฮวาพระเจ้าจะยกพวกเขาให้คุณ และพวกเขาจะพ่ายแพ้อย่างราบคาบและถูกทำลายจนหมดสิ้น+ 24 พระองค์จะมอบกษัตริย์ของพวกเขาไว้ในมือคุณ+ และคุณจะทำให้พวกเขาสิ้นชื่อ+ จะไม่มีใครยืนหยัดต่อสู้คุณได้+ คุณจะกำจัดพวกเขาจนสิ้นซาก+ 25 พวกคุณต้องเอารูปเคารพที่เป็นพระของพวกเขาไปเผาไฟ+ อย่าคิดอยากได้เงินและทองที่หุ้มอยู่ หรือเก็บของพวกนั้นไว้+ เพื่อคุณจะไม่ติดกับดัก เพราะพระยะโฮวาพระเจ้าเกลียดของพวกนั้น+ 26 อย่าเอาของที่น่ารังเกียจเข้ามาในบ้านของคุณ ไม่อย่างนั้นคุณจะถูกทำลายไปด้วย คุณจะต้องรังเกียจและขยะแขยงของพวกนั้น เพราะของพวกนั้นจะต้องถูกทำลาย
8 “คุณต้องตั้งใจทำตามข้อบัญญัติทุกข้อที่ผมกำลังชี้แจงให้ทราบในวันนี้ เพื่อจะมีชีวิตอยู่+และเพิ่มจำนวนขึ้น และเข้าไปครอบครองแผ่นดินที่พระยะโฮวาสาบานไว้กับบรรพบุรุษของคุณ+ 2 ให้คิดถึงเส้นทางอันยาวไกลที่พระยะโฮวาพระเจ้าให้คุณเดินในที่กันดารตลอด 40 ปีมานี้+ เพื่อทำให้คุณถ่อมตัวลงและเพื่อลองใจพวกคุณ+ เพื่อจะรู้ว่าใจของคุณเป็นยังไง+ คุณจะทำตามข้อบัญญัติของพระองค์ไหม 3 พระองค์ทำให้คุณถ่อมตัวลง พระองค์ปล่อยให้คุณหิว+ และเลี้ยงคุณด้วยมานา+ซึ่งทั้งคุณและบรรพบุรุษของคุณไม่เคยรู้จักมาก่อน เพื่อจะทำให้คุณรู้ว่ามนุษย์จะมีชีวิตอยู่ได้ ไม่ใช่ด้วยอาหาร*เท่านั้น แต่ด้วยคำพูดทุกคำที่มาจากพระยะโฮวา+ 4 เสื้อผ้าที่คุณใส่ก็ไม่เก่า เท้าของคุณก็ไม่บวมตลอด 40 ปีมานี้+ 5 คุณก็รู้อยู่แก่ใจว่าพระยะโฮวาพระเจ้าเตือนสอนคุณเหมือนที่พ่อเตือนสอนลูกของตัวเอง+
6 “ดังนั้น คุณต้องทำตามบัญญัติของพระยะโฮวาพระเจ้าด้วยการใช้ชีวิตตามแนวทางของพระองค์และเกรงกลัวพระองค์ 7 เพราะพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณกำลังพาคุณเข้าไปในแผ่นดินที่ดีเยี่ยม+ เป็นแผ่นดินที่มีลำธาร มีบ่อน้ำพุ และมีตาน้ำ*ที่ไหลในที่ราบหุบเขาและในเขตเทือกเขา 8 แผ่นดินที่เต็มไปด้วยข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ต้นองุ่น ต้นมะเดื่อ และผลทับทิม+ แผ่นดินที่เต็มไปด้วยน้ำมันมะกอกและน้ำผึ้ง+ 9 แผ่นดินที่มีอาหารอุดมสมบูรณ์และคุณจะไม่ขาดแคลนอะไร แผ่นดินที่มีเหล็กอยู่ในหิน และขุดทองแดงจากภูเขาได้
10 “เมื่อคุณกินจนอิ่มหนำแล้ว ให้สรรเสริญพระยะโฮวาพระเจ้าผู้ให้แผ่นดินที่ดีเยี่ยมนั้นกับคุณ+ 11 และระวังให้ดี อย่าลืมพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณ อย่าละเมิดข้อบัญญัติ ข้อกฎหมาย และข้อกำหนดของพระองค์ที่ผมกำลังชี้แจงให้ทราบในวันนี้ 12 เมื่อคุณกินจนอิ่มหนำ และสร้างบ้านหลังงามแล้วเข้าไปอาศัยอยู่+ 13 เมื่อฝูงวัวกับฝูงแกะฝูงแพะของคุณเพิ่มจำนวนขึ้น เมื่อเงินและทองของคุณมีมากขึ้น และเมื่อคุณมีทุกสิ่งทุกอย่างมากมาย 14 อย่าผยอง+จนลืมพระยะโฮวาพระเจ้าผู้พาคุณออกจากอียิปต์ ดินแดนของการเป็นทาส+ 15 ผู้ที่นำคุณเดินผ่านที่กันดารกว้างใหญ่และน่ากลัว+ มีงูพิษและแมงป่อง แถมแผ่นดินก็แห้งแล้งไม่มีน้ำ แต่พระองค์ทำให้น้ำไหลออกมาจากหินแข็ง*+ 16 ในที่กันดารนั้น พระองค์เลี้ยงคุณด้วยมานา+ซึ่งบรรพบุรุษของคุณไม่เคยรู้จักมาก่อน เพื่อจะทำให้คุณถ่อมตัวลง+และเพื่อจะลองใจคุณ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับคุณในวันข้างหน้า+ 17 ถ้าคุณจะคิดในใจว่า ‘ทรัพย์สมบัติทั้งหมดนี้ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของเราเอง’+ 18 ก็ขอให้จำไว้ว่าพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณเป็นผู้ทำให้คุณมั่งคั่งขึ้นมาได้+ ซึ่งเป็นการทำตามสัญญาที่พระองค์สาบานไว้กับบรรพบุรุษของคุณ อย่างที่เป็นอยู่ในวันนี้+
19 “ถ้าคุณลืมพระยะโฮวาพระเจ้าและทิ้งพระองค์ไปนมัสการกราบไหว้บูชาพระอื่น ผมก็ขอเตือนพวกคุณในวันนี้ว่าพวกคุณจะพินาศแน่ ๆ+ 20 พวกคุณจะพินาศเหมือนกับชาติต่าง ๆ ที่พระยะโฮวาทำลายต่อหน้าคุณ เพราะพวกคุณไม่เชื่อฟังพระยะโฮวาพระเจ้าของพวกคุณ+
9 “ชาวอิสราเอล ขอให้ฟัง ตอนนี้คุณกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดน+ไปขับไล่ชาติต่าง ๆ ที่ใหญ่กว่าและมีกำลังมากกว่า+ เมืองเหล่านั้นใหญ่โตและมีป้อมปราการสูงเสียดฟ้า+ 2 ผู้คนก็แข็งแรงและมีรูปร่างสูงใหญ่ เป็นลูกหลานของอานาค+ ซึ่งคุณก็รู้และได้ยินคนพูดถึงพวกเขาว่า ‘ใครจะไปสู้ลูกหลานของอานาคได้?’ 3 ดังนั้น วันนี้ขอให้รู้ไว้ว่า พระยะโฮวาพระเจ้าจะนำหน้าคุณไป+ พระองค์เป็นเหมือนไฟที่เผาผลาญ+ และพระองค์จะกวาดล้างพวกเขาให้หมดสิ้น พระองค์จะปราบพวกเขาลงต่อหน้าต่อตาคุณ เพื่อคุณจะขับไล่พวกเขาออกไปอย่างรวดเร็วและทำลายพวกเขา ตามที่พระยะโฮวาสัญญาไว้กับคุณ+
4 “เมื่อพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณไล่พวกเขาไปต่อหน้าคุณ ก็อย่าคิดในใจว่า ‘ที่พระยะโฮวาพาเรามาครอบครองแผ่นดินนี้เป็นเพราะความดีที่เราทำ’+ แต่ที่พระยะโฮวาขับไล่ชาติต่าง ๆ ไปต่อหน้าคุณนั้นเป็นเพราะความชั่วของพวกเขาต่างหาก+ 5 ที่คุณได้ครอบครองแผ่นดินของพวกเขา ไม่ใช่เพราะความดีหรือเพราะหัวใจที่ซื่อตรงของคุณ แต่เป็นเพราะความชั่วของชาติต่าง ๆ นี้ พระยะโฮวาพระเจ้าถึงได้ไล่พวกเขาไปต่อหน้าคุณ+เพื่อจะทำตามคำที่พระยะโฮวาสาบานไว้กับบรรพบุรุษของคุณ คือ อับราฮัม+ อิสอัค+ และยาโคบ+ 6 ดังนั้น ขอให้รู้ไว้เถอะว่า ที่พระยะโฮวาพระเจ้ามอบแผ่นดินที่ดีเยี่ยมนี้ให้คุณครอบครอง ไม่ได้เป็นเพราะความดีของคุณ ที่จริงพวกคุณเป็นประชาชนที่ดื้อด้าน+
7 “ให้จดจำไว้และห้ามลืมเด็ดขาดว่า คุณทำให้พระยะโฮวาพระเจ้าของคุณโกรธยังไงในที่กันดาร+ พวกคุณกบฏต่อพระยะโฮวาตั้งแต่วันที่คุณออกจากอียิปต์จนมาถึงที่นี่+ 8 แม้แต่ตอนอยู่ที่โฮเรบ พวกคุณก็ทำให้พระยะโฮวาโกรธ และพระยะโฮวาโกรธคุณมากจนเกือบจะทำลายพวกคุณอยู่แล้ว+ 9 ตอนผมขึ้นไปบนภูเขาเพื่อรับแผ่นหิน+ คือแผ่นหินที่จารึกสัญญาซึ่งพระยะโฮวาทำกับพวกคุณ+ ผมอยู่บนภูเขานาน 40 วัน 40 คืน+ ไม่ได้กินอาหารและดื่มน้ำเลย 10 แล้วพระยะโฮวาก็เอาแผ่นหิน 2 แผ่นที่พระองค์เขียนด้วยมือ*ของพระองค์เองให้ผม บนแผ่นหินนั้นมีคำพูดทั้งหมดที่พระยะโฮวาบอกพวกคุณจากเปลวไฟบนภูเขาในวันที่พวกคุณมาประชุมพร้อมกันนั้น+ 11 เมื่อครบ 40 วัน 40 คืนแล้ว พระยะโฮวาก็มอบแผ่นหิน 2 แผ่น คือแผ่นหินที่จารึกสัญญานั้นให้ผม 12 และพระยะโฮวาพูดกับผมว่า ‘รีบลงไปจากที่นี่เถอะ เพราะประชาชนที่เจ้าพาออกมาจากอียิปต์นั้นทำผิดร้ายแรงแล้ว+ พวกเขาทิ้งแนวทางที่เราสอนเร็วเหลือเกิน พวกเขาหล่อรูปโลหะขึ้นมากราบไหว้’+ 13 แล้วพระยะโฮวาก็พูดกับผมว่า ‘เราเห็นแล้วว่าชนชาตินี้ดื้อด้านจริง ๆ+ 14 ปล่อยให้เราทำลายพวกเขาและลบชื่อของพวกเขาไปจากโลกนี้เถอะ แล้วเราจะทำให้เจ้าเป็นชนชาติที่มีกำลังมากกว่าและมีจำนวนมากกว่าพวกเขา’+
15 “ผมลงมาจากภูเขาซึ่งตอนนั้นยังมีเปลวไฟลุกโชนอยู่+ แผ่นหิน 2 แผ่นที่จารึกสัญญาก็อยู่ในมือทั้งสองข้าง+ 16 พอผมเห็นว่าพวกคุณทำบาปต่อพระยะโฮวาพระเจ้า พวกคุณหล่อรูปลูกวัวโลหะขึ้นมากราบไหว้ พวกคุณทิ้งแนวทางที่พระยะโฮวาสอนเร็วเหลือเกิน+ 17 ผมก็ทุ่มแผ่นหิน 2 แผ่นนั้นลงกับพื้นจนแตกกระจายต่อหน้าต่อตาพวกคุณ+ 18 แล้วผมก็หมอบลงต่อหน้าพระยะโฮวาเป็นเวลา 40 วัน 40 คืนเหมือนครั้งแรก ไม่ได้กินอาหารหรือดื่มน้ำเลย+ เพราะความผิดทั้งหมดที่พวกคุณทำเป็นสิ่งชั่วร้ายในสายตาพระยะโฮวา และทำให้พระองค์ขัดเคืองใจ 19 ผมกลัวมากเพราะพระยะโฮวาโกรธพวกคุณมาก+จนเกือบจะทำลายพวกคุณอยู่แล้ว แต่ตอนนั้นพระยะโฮวายังฟังผมอยู่+
20 “พระยะโฮวาโกรธอาโรนมากจนเกือบจะทำลายเขาเหมือนกัน+ แต่ตอนนั้นผมอ้อนวอนให้อาโรนด้วย 21 แล้วผมก็เอาสิ่งชั่วร้ายที่คุณทำขึ้นมา คือลูกวัว+นั้นไปเผาไฟ ผมทุบและบดจนละเอียดเป็นผง แล้วโปรยลงไปในลำธารที่ไหลมาจากภูเขา+
22 “ต่อมา พวกคุณก็ทำให้พระยะโฮวาโกรธอีกที่ทาเบราห์+ ที่มัสสาห์+ และที่ขิบโรทหัทธาอาวาห์+ 23 ตอนที่พระยะโฮวาให้พวกคุณออกจากคาเดชบาร์เนีย+ และบอกว่า ‘ขึ้นไปยึดครองแผ่นดินที่เราจะยกให้พวกเจ้า’ พวกคุณก็ขัดคำสั่งของพระยะโฮวาพระเจ้าอีก+ พวกคุณไม่ได้แสดงความเชื่อ+ในพระองค์และไม่เชื่อฟังพระองค์ 24 ตั้งแต่ผมรู้จักพวกคุณ พวกคุณกบฏต่อพระยะโฮวามาตลอด
25 “ผมจึงหมอบลงต่อหน้าพระยะโฮวาอยู่ 40 วัน 40 คืน+ ที่ผมทำแบบนี้ก็เพราะพระยะโฮวาบอกว่าพระองค์จะทำลายพวกคุณให้หมด 26 ผมอ้อนวอนพระยะโฮวาว่า ‘พระยะโฮวาพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด ขออย่าทำลายประชาชนของพระองค์เลย พวกเขาเป็นชนชาติ*ของพระองค์+ พระองค์ไถ่พวกเขาออกมาด้วยความยิ่งใหญ่ของพระองค์ และพาพวกเขาออกจากอียิปต์ด้วยพลังอำนาจของพระองค์+ 27 ขอระลึกถึงผู้รับใช้ของพระองค์ คือ อับราฮัม อิสอัค และยาโคบ+ ขออย่าใส่ใจความดื้อดึงของชนชาตินี้ และอย่าใส่ใจความชั่วและความบาปของพวกเขาเลย+ 28 ไม่อย่างนั้น คนในแผ่นดินที่พระองค์พาพวกเราออกมาจะพูดว่า “พระยะโฮวาพาประชาชนพวกนี้เข้าไปในแผ่นดินที่พระองค์สัญญาไว้กับพวกเขาไม่ได้ พระองค์พาพวกเขาออกมาเพื่อจะฆ่าทิ้งในที่กันดาร เพราะพระองค์เกลียดพวกเขา”+ 29 พวกเขาเป็นประชาชนของพระองค์และเป็นชนชาติ*ของพระองค์+ พระองค์พาพวกเขาออกมาด้วยพลังอำนาจและด้วยความเข้มแข็งของพระองค์’+
10 “ตอนนั้น พระยะโฮวาพูดกับผมว่า ‘สกัดหินมา 2 แผ่นให้เหมือนชุดแรก+ และขึ้นมาหาเราบนภูเขานี้ ทำหีบไม้ใบหนึ่งด้วย 2 เราจะเขียนข้อความบนแผ่นหินนี้ให้เหมือนในแผ่นหินชุดแรกที่เจ้าทำแตกไปนั้น และเจ้าต้องเก็บแผ่นหินนี้ไว้ในหีบ’ 3 ผมก็ทำหีบด้วยไม้อะคาเซียและสกัดหิน 2 แผ่นเหมือนชุดแรก และถือแผ่นหิน 2 แผ่นนั้นขึ้นไปบนภูเขา+ 4 แล้วพระองค์ก็เขียนข้อความบนแผ่นหินนั้น เป็นข้อความอย่างเดียวกับที่เขียนครั้งก่อน+ คือบัญญัติ 10 ประการ+ ซึ่งเป็นคำพูดที่พระยะโฮวาบอกพวกคุณจากเปลวไฟ+บนภูเขาในวันที่พวกคุณมาประชุมพร้อมกัน+ แล้วพระยะโฮวาก็มอบแผ่นหินนั้นให้ผม 5 จากนั้น ผมก็ลงมาจากภูเขา+และเก็บแผ่นหินนั้นไว้ในหีบที่ผมทำขึ้น แผ่นหินนั้นก็ยังคงเก็บไว้ที่นั่นตามที่พระยะโฮวาสั่งไว้
6 “แล้วชาวอิสราเอลก็เดินทางจากเบเอโรทเบเนยาอะคันไปที่โมเสโรท อาโรนตายและถูกฝัง+ไว้ที่นั่น เอเลอาซาร์ลูกชายของอาโรนทำหน้าที่เป็นปุโรหิตต่อจากเขา+ 7 จากที่นั่น พวกเขาเดินทางไปกุดโกดาห์ จากกุดโกดาห์เดินทางไปโยทบาธาห์+ซึ่งเป็นแผ่นดินที่มีลำธารหลายสาย
8 “ตอนนั้น พระยะโฮวาแยกคนเลวีไว้ต่างหาก+เพื่อหามหีบสัญญาของพระยะโฮวา+ เพื่อทำงานรับใช้ต่อหน้าพระยะโฮวา และเพื่ออวยพรประชาชนในนามของพระองค์+ อย่างที่พวกเขาทำอยู่จนถึงวันนี้ 9 นี่เป็นเหตุผลที่คนในตระกูลเลวีไม่ได้รับส่วนแบ่งหรือมรดกร่วมกับพี่น้องของตัวเอง พระยะโฮวาคือมรดกของเขาตามที่พระยะโฮวาพระเจ้าบอกไว้+ 10 ผมอยู่บนภูเขา 40 วัน 40 คืน+เหมือนในครั้งแรก และในครั้งนี้พระยะโฮวาก็รับฟังผมเหมือนกับครั้งแรก+ พระยะโฮวาไม่ต้องการทำลายคุณ 11 พระยะโฮวาพูดกับผมว่า ‘เจ้าต้องเป็นผู้นำประชาชน เตรียมออกเดินทางได้แล้ว พวกเขาจะได้เข้าไปยึดครองแผ่นดินที่เราสาบานไว้กับบรรพบุรุษของเขาว่าจะยกให้เขา’+
12 “ชาวอิสราเอล ตอนนี้พระยะโฮวาไม่ได้ต้องการอะไรจากคุณ+ นอกจากให้คุณเกรงกลัวพระยะโฮวาพระเจ้า+ ให้ใช้ชีวิตตามแนวทางของพระองค์+ รักพระองค์ และรับใช้พระยะโฮวาพระเจ้าของคุณอย่างสุดหัวใจและสุดชีวิต+ 13 ให้ทำตามข้อบัญญัติและข้อกำหนดของพระยะโฮวาที่ผมกำลังชี้แจงให้ทราบในวันนี้เพื่อประโยชน์ของคุณเอง+ 14 สวรรค์เป็นของพระยะโฮวา แม้แต่สวรรค์สูงสุดก็เป็นของพระองค์ รวมทั้งโลกและทุกสิ่งที่อยู่ในโลก+ 15 แต่มีเพียงบรรพบุรุษของคุณเท่านั้นที่พระยะโฮวาใกล้ชิดและแสดงความรักต่อพวกเขา พระองค์เลือกพวกคุณซึ่งเป็นลูกหลานของพวกเขา+จากชนชาติต่าง ๆ ทั้งหมด อย่างที่เป็นอยู่ในวันนี้ 16 ตอนนี้ ขอให้ชำระ*หัวใจ+ของพวกคุณให้สะอาดและหยุดดื้อดึง+ซะที 17 เพราะพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณเป็นพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่เหนือพระทั้งหมด+ และเป็นนายเหนือเจ้านายทั้งหลาย เป็นพระเจ้าองค์ยิ่งใหญ่ มีพลังอำนาจ และน่าเกรงขาม พระองค์ปฏิบัติต่อทุกคนโดยไม่ลำเอียง+ และไม่รับสินบน 18 พระองค์ให้ความเป็นธรรมกับแม่ม่ายและลูกกำพร้าพ่อ*+ พระองค์รักคนต่างชาติ+จึงให้อาหารและเสื้อผ้ากับเขา 19 พวกคุณต้องรักคนต่างชาติเหมือนกัน เพราะพวกคุณเองก็เคยเป็นคนต่างชาติในอียิปต์+
20 “ให้เกรงกลัวพระยะโฮวาพระเจ้า นมัสการพระองค์+ ใกล้ชิดกับพระองค์ และสาบานโดยออกชื่อของพระองค์ 21 พระองค์เป็นผู้ที่คู่ควรแก่การสรรเสริญ+ พระองค์เป็นพระเจ้าของคุณ เป็นผู้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามทั้งหมดนี้เพื่อคุณ คุณเองก็ได้เห็นกับตาแล้ว+ 22 ตอนที่บรรพบุรุษของคุณลงไปอียิปต์+ พวกเขามีกันอยู่ 70 คน แต่ตอนนี้พระยะโฮวาพระเจ้าทำให้พวกคุณมีมากมายเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า+
11 “คุณต้องรักพระยะโฮวาพระเจ้า+และทำตามที่พระองค์สั่งเสมอ คือทำตามข้อกำหนด ข้อกฎหมาย และข้อบัญญัติของพระองค์ 2 พวกคุณก็รู้ว่าวันนี้ผมกำลังพูดกับพวกคุณซึ่งได้รับการสั่งสอนจากพระยะโฮวาพระเจ้ามาแล้ว+ ผมไม่ได้พูดกับลูกหลานของพวกคุณซึ่งยังไม่รู้จักการเตือนสอนนี้ และไม่เคยเห็นความยิ่งใหญ่+ พลังอำนาจ+ และความเข้มแข็งของพระองค์ 3 พวกเขาไม่ได้เห็นการอัศจรรย์และสิ่งที่พระองค์ทำในอียิปต์ ไม่ได้เห็นว่าพระองค์จัดการฟาโรห์กษัตริย์ของอียิปต์ และแผ่นดินของเขาทั้งหมดยังไง+ 4 ไม่ได้เห็นสิ่งที่พระองค์ทำกับกองทัพของอียิปต์ ทำกับม้าและรถศึกของเขา ซึ่งถูกน้ำในทะเลแดงท่วมมิดตอนที่กำลังไล่ตามคุณ แล้วถูกพระยะโฮวาทำลายจนหมดสิ้น+ 5 พวกเขาไม่ได้เห็นสิ่งที่พระองค์ทำเพื่อพวกคุณตั้งแต่ในที่กันดารจนมาถึงที่นี่ 6 และไม่เห็นสิ่งที่พระองค์ทำกับดาธานและอาบีรัมลูกชายของเอลีอับตระกูลรูเบน ตอนที่แผ่นดินแยกออกจากกันและกลืนเขาทั้งสองกับครอบครัว กลืนเต็นท์ และกลืนทุกคนที่ติดตามเขาพร้อมกับสัตว์ทั้งหมดที่เป็นของเขาต่อหน้าต่อตาชาวอิสราเอล+ 7 แต่สิ่งยิ่งใหญ่ทั้งหมดที่พระยะโฮวาทำนั้น พวกคุณได้เห็นกับตาของตัวเองมาแล้ว
8 “ให้ทำตามข้อบัญญัติทั้งหมดที่ผมกำลังชี้แจงให้พวกคุณทราบในวันนี้ เพื่อคุณจะเป็นชาติที่เข้มแข็ง และข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าไปครอบครองแผ่นดินนั้น 9 และเพื่อคุณจะมีชีวิตยืนยาว+ในแผ่นดินที่พระยะโฮวาสาบานว่าจะยกให้บรรพบุรุษของคุณและลูกหลานของพวกเขา+ ซึ่งเป็นแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งมากมาย+
10 “แผ่นดินที่คุณกำลังจะเข้าไปครอบครองนั้นไม่เหมือนแผ่นดินอียิปต์ที่คุณออกมา ที่อียิปต์พวกคุณหว่านเมล็ดพืชแล้วต้องใช้เท้าวิดน้ำ*มารดแผ่นดินเหมือนที่รดสวนผัก 11 แต่แผ่นดินที่คุณกำลังจะเข้าไปครอบครองนั้นเป็นแผ่นดินที่มีภูเขา มีที่ราบหุบเขา+ซึ่งได้รับน้ำฝนจากฟ้า+ 12 และเป็นแผ่นดินที่พระยะโฮวาพระเจ้าเอาใจใส่ พระยะโฮวาพระเจ้าจะดูแลแผ่นดินนั้นตลอดเวลา ตั้งแต่ตอนต้นปีจนถึงปลายปี
13 “ถ้าคุณตั้งใจเชื่อฟังข้อบัญญัติที่ผมกำลังชี้แจงให้ทราบในวันนี้ รักพระยะโฮวาพระเจ้าและนมัสการพระองค์ด้วยสุดหัวใจและสุดชีวิต+ 14 พระองค์*จะให้ฝนตกรดแผ่นดินของคุณตามฤดูกาล ทั้งฝนต้นฤดูและฝนปลายฤดู คุณจะมีข้าว เหล้าองุ่นใหม่ และน้ำมัน+ 15 พระองค์จะให้ท้องทุ่งมีหญ้าให้ฝูงสัตว์ และจะมีพืชผักให้คุณกินอย่างอิ่มหนำ+ 16 ระวังให้ดี อย่าปล่อยให้หัวใจของคุณถูกล่อให้หลงไปนมัสการหรือกราบไหว้พระอื่น+ 17 ไม่อย่างนั้น พระยะโฮวาจะโกรธคุณ และจะปิดท้องฟ้าไม่ให้ฝนตก+ แผ่นดินก็จะไม่เกิดพืชผล พวกคุณจะพินาศอย่างรวดเร็วไปจากแผ่นดินที่ดีเยี่ยมซึ่งพระยะโฮวากำลังจะให้พวกคุณ+
18 “ให้คุณจดจำคำสอนของพระองค์ไว้ในใจและนำไปใช้ในชีวิต เอาคำสอนนี้ผูกไว้ที่มือเป็นเครื่องเตือนใจ และให้คำสอนนี้เป็นเหมือนแถบผ้าซึ่งคาดไว้ที่หน้าผากของคุณ+ 19 ให้สอนลูก ๆ ด้วยคำสอนนี้เมื่อคุณนั่งอยู่ในบ้าน เดินบนถนน นอนลงและลุกขึ้น+ 20 ให้เขียนคำสอนนี้ไว้ที่เสาประตูบ้านและที่ประตูเมือง 21 เพื่อคุณกับลูกหลานจะอยู่บนแผ่นดินที่พระยะโฮวาสาบานว่าจะยกให้บรรพบุรุษของคุณ+ และมีชีวิตยืนยาว+อยู่บนแผ่นดินนั้นไปจนชั่วฟ้าดินสลาย
22 “ถ้าพวกคุณตั้งใจถือรักษาข้อบัญญัติที่ผมกำลังชี้แจงให้ทราบนี้และทำตาม คือ รักพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณ+ ใช้ชีวิตตามแนวทางของพระองค์ และใกล้ชิดกับพระองค์+ 23 พระยะโฮวาจะไล่ชาติทั้งหมดนี้ไปต่อหน้าคุณ+ และคุณก็จะยึดครองแผ่นดินของชาติต่าง ๆ ที่ใหญ่กว่าและมีคนมากกว่าคุณ+ 24 ทุกที่ที่พวกคุณเข้าไปเหยียบก็จะเป็นของคุณ+ อาณาเขตของพวกคุณจะเริ่มตั้งแต่ที่กันดารขึ้นไปถึงเลบานอน และตั้งแต่แม่น้ำ คือแม่น้ำยูเฟรติสจนถึงทะเลด้านตะวันตก*+ 25 จะไม่มีใครสู้พวกคุณได้+ ทุกที่ที่พวกคุณเดินเข้าไปพระยะโฮวาพระเจ้าจะทำให้ผู้คนหวาดผวาและเกรงกลัวคุณ+ ตามที่พระองค์สัญญาไว้
26 “วันนี้ผมจะตั้งคำอวยพรและคำสาปแช่งไว้ตรงหน้าพวกคุณ+ 27 พวกคุณจะได้พรถ้าเชื่อฟังข้อบัญญัติต่าง ๆ ของพระยะโฮวาพระเจ้าซึ่งผมกำลังชี้แจงให้ทราบในวันนี้+ 28 แต่พวกคุณจะได้คำสาปแช่งถ้าไม่เชื่อฟังข้อบัญญัติต่าง ๆ ของพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณ+ และออกนอกลู่นอกทางไม่ทำตามที่ผมกำลังสั่งให้พวกคุณทำในวันนี้ แล้วไปกราบไหว้พระอื่นที่พวกคุณไม่เคยรู้จัก
29 “เมื่อพระยะโฮวาพระเจ้าพาคุณเข้าไปในแผ่นดินที่จะได้ครอบครอง ขอให้ประกาศ*คำอวยพรที่ภูเขาเกริซิม และประกาศคำสาปแช่งที่ภูเขาเอบาล+ 30 ภูเขา 2 ลูกนี้อยู่อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำจอร์แดนคือฝั่งตะวันตกในแผ่นดินของชาวคานาอันซึ่งอาศัยอยู่ในเขตอาราบาห์ ภูเขาทั้งสองนี้อยู่ตรงข้ามกิลกาล ใกล้ต้นไม้ใหญ่ที่โมเรห์+ 31 พวกคุณกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าไปครอบครองแผ่นดินที่พระยะโฮวาพระเจ้ายกให้+ และเมื่อเข้าครอบครองและอาศัยอยู่ที่นั่นแล้ว 32 ขอให้ตั้งใจทำตามข้อกำหนดและข้อกฎหมายทุกข้อที่ผมกำลังชี้แจงให้พวกคุณทราบในวันนี้+
12 “ต่อไปนี้คือข้อกำหนดและข้อกฎหมายที่พวกคุณจะต้องทำตามอย่างเคร่งครัดตลอดเวลาที่พวกคุณมีชีวิตอยู่ในแผ่นดิน ซึ่งพระยะโฮวาพระเจ้าของบรรพบุรุษของคุณจะยกให้ครอบครอง 2 ตอนที่พวกคุณไล่ชาติต่าง ๆ ออกไป ให้ทำลายสถานที่ทุกแห่งที่พวกเขาใช้สำหรับนมัสการพระของเขาให้สิ้นซาก+ ไม่ว่าจะอยู่บนภูเขาสูง บนเนินเขา หรือใต้ต้นไม้เขียวสด 3 พวกคุณต้องทำลายแท่นบูชาของพวกเขา ทุบแท่งหินศักดิ์สิทธิ์ให้แหลกละเอียด+ เอาเสาศักดิ์สิทธิ์เผาไฟให้หมด โค่นรูปเคารพทั้งหมดที่เป็นพระของพวกเขา+ ทำให้พระพวกนั้นสิ้นชื่อไปจากที่นั่น+
4 “อย่านมัสการพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณแบบนั้น+ 5 แต่ให้นมัสการในที่ที่พระยะโฮวาเลือกไว้สำหรับชื่อของพระองค์ และเลือกไว้เป็นที่อาศัยของพระองค์ ซึ่งเป็นที่ที่เลือกจากตระกูลต่าง ๆ ของคุณ พวกคุณต้องไปที่นั่น+ 6 พวกคุณต้องนำเครื่องบูชาเผา+ เครื่องบูชาต่าง ๆ นำส่วน 1 ใน 10+ นำของถวายจากผลผลิตของพวกคุณ+ เครื่องบูชาสำหรับคำปฏิญาณ เครื่องบูชาที่ถวายด้วยความสมัครใจ+ และลูกสัตว์ตัวแรกจากฝูงวัวและฝูงแกะฝูงแพะไปถวายที่นั่น+ 7 พวกคุณกับคนในบ้านต้องกินอาหารที่นั่นต่อหน้าพระยะโฮวาพระเจ้า+ และชื่นชมยินดีกับการงานทั้งหมดที่ทำไป+ เพราะพระยะโฮวาพระเจ้าอวยพรคุณ
8 “อย่าทำอย่างที่พวกเราทำกันที่นี่ในวันนี้ คือทำในสิ่งที่แต่ละคนคิดเอาเองว่าถูกต้อง 9 เพราะพวกคุณยังไม่ได้เข้าไปในที่หยุดพัก+และไม่ได้รับที่ดินมรดกซึ่งพระยะโฮวาพระเจ้าจะยกให้คุณ 10 เมื่อพวกคุณข้ามแม่น้ำจอร์แดน+เข้าไปอาศัยในแผ่นดินที่พระยะโฮวาพระเจ้ายกให้คุณครอบครอง พระองค์จะให้พวกคุณได้หยุดพักโดยไม่ให้ศัตรูที่อยู่รอบข้างมาก่อกวน คุณจะอาศัยอยู่อย่างปลอดภัย+ 11 พวกคุณต้องเอาสิ่งของทั้งหมดตามที่ผมสั่งไปที่ที่พระยะโฮวาพระเจ้าเลือกไว้สำหรับชื่อของพระองค์+ คือ เครื่องบูชาเผา เครื่องบูชาต่าง ๆ ส่วน 1 ใน 10+ และของถวายจากผลผลิตของพวกคุณ พร้อมกับทุกสิ่งที่พวกคุณเลือกไว้เป็นเครื่องบูชาสำหรับคำปฏิญาณให้พระยะโฮวา 12 พวกคุณจะชื่นชมยินดีต่อหน้าพระยะโฮวาพระเจ้า+ ทั้งตัวคุณ ลูกชาย ลูกสาว ทาสผู้ชายทาสผู้หญิง และคนในตระกูลเลวีที่อยู่ในเมืองของพวกคุณเพราะเขาไม่ได้รับส่วนแบ่งหรือมรดกร่วมกับพวกคุณ+ 13 ระวังให้ดี อย่าถวายเครื่องบูชาเผาของคุณที่อื่นตามใจชอบ+ 14 ให้ถวายเครื่องบูชาเผาในที่ที่พระยะโฮวาเลือกจากตระกูลต่าง ๆ ของพวกคุณเท่านั้น และให้ทำทุกสิ่งที่นั่นตามที่ผมกำลังจะสั่งนี้+
15 “ไม่ว่าคุณจะอาศัยอยู่ที่เมืองไหนก็ตาม คุณจะฆ่าสัตว์กินเป็นอาหารเมื่อไหร่ก็ได้+ และจะกินมากแค่ไหนก็ได้ตามที่พระยะโฮวาพระเจ้าให้คุณ คนที่สะอาดและไม่สะอาดก็กินเนื้อสัตว์นั้นได้เหมือนที่เขากินกวาง 16 แต่อย่ากินเลือดของมัน+ พวกคุณต้องเทเลือดให้ไหลลงดินเหมือนเทน้ำ+ 17 อย่ากินของพวกนี้ในเมืองของคุณ คือ ส่วน 1 ใน 10 ของข้าว เหล้าองุ่นใหม่ และน้ำมัน และอย่ากินลูกสัตว์ตัวแรกจากฝูงวัวและฝูงแกะฝูงแพะ+ และทุกสิ่งที่จะใช้เป็นเครื่องบูชาสำหรับคำปฏิญาณ หรือเครื่องบูชาที่ถวายด้วยความสมัครใจ หรือของถวายจากผลผลิตของคุณ 18 แต่ตัวคุณ ลูกชาย ลูกสาว ทาสผู้ชายทาสผู้หญิง และคนในตระกูลเลวีที่อยู่ในเมืองของคุณจะกินของพวกนี้ต่อหน้าพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณได้ในที่ที่พระยะโฮวาเลือกไว้+ และจะชื่นชมยินดีต่อหน้าพระยะโฮวาพระเจ้า ชื่นชมกับการงานทั้งหมดที่ทำไป 19 ระวังให้ดี อย่าละเลยคนในตระกูลเลวี+ตลอดเวลาที่คุณอาศัยอยู่ในแผ่นดินของคุณ
20 “เมื่อพระยะโฮวาพระเจ้าขยายเขตแดนออกไป+ตามที่พระองค์สัญญาไว้+ และถ้าคุณอยากกินเนื้อสัตว์ คุณจะกินเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่ต้องการ+ 21 ถ้าที่ที่พระยะโฮวาพระเจ้าเลือกไว้สำหรับชื่อของพระองค์+อยู่ไกลจากที่อาศัยของคุณ ก็ให้ฆ่าวัวหรือแกะหรือแพะที่พระยะโฮวาให้นั้นตามที่ผมได้สั่งคุณไว้ และให้กินในเมืองที่คุณอาศัยอยู่เมื่อไหร่ก็ได้ที่ต้องการ 22 คุณจะกินเนื้อสัตว์นั้นได้เหมือนที่กินกวาง+ คนที่สะอาดหรือไม่สะอาดก็กินเนื้อสัตว์นั้นได้ 23 แต่อย่ากินเลือดเด็ดขาด+ เพราะเลือดคือชีวิต+ อย่ากินชีวิตที่อยู่ในเนื้อของสัตว์นั้น 24 อย่ากินเลือด พวกคุณต้องเทเลือดให้ไหลลงดินเหมือนเทน้ำ+ 25 อย่ากินเลือด เพื่อคุณและลูกหลานของคุณจะอยู่ดีมีสุข เพราะคุณทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาพระยะโฮวา 26 เมื่อไปที่ที่พระยะโฮวาเลือกไว้ ให้นำเฉพาะสิ่งบริสุทธิ์ที่เป็นของคุณเองและของเครื่องบูชาสำหรับคำปฏิญาณไป 27 ที่นั่น คุณต้องถวายเครื่องบูชาเผา คือ เนื้อสัตว์และเลือด+บนแท่นบูชาของพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณ และเลือดของสัตว์ที่เป็นเครื่องบูชาอื่นจะต้องเทที่แท่นบูชา+ของพระยะโฮวาพระเจ้า ส่วนเนื้อของสัตว์นั้นคุณกินได้
28 “ขอให้ใส่ใจทำตามสิ่งที่ผมกำลังสั่งพวกคุณอยู่นี้ เพื่อคุณและลูกหลานของคุณจะอยู่ดีมีสุขตลอดไป เพราะคุณทำสิ่งที่ดีงามและถูกต้องในสายตาพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณ
29 “เมื่อพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณทำลายชาติต่าง ๆ ที่คุณจะเข้าไปยึดครองแผ่นดินของเขา+ และอาศัยอยู่ที่นั่น 30 ระวังให้ดี อย่าหลงทำตามพวกเขาหลังจากที่พวกเขาถูกทำลายไปต่อหน้าคุณแล้ว อย่าถามเรื่องพระต่าง ๆ ของพวกเขาว่า ‘ชนชาติพวกนี้เคยนมัสการพระของพวกเขายังไง? ผมจะได้ทำอย่างนั้นด้วย’+ 31 อย่านมัสการพระยะโฮวาพระเจ้าอย่างนั้น เพราะทุกสิ่งที่เขาทำเพื่อนมัสการพระของเขานั้นน่ารังเกียจ พระยะโฮวาเกลียดสิ่งที่เขาทำ พวกเขาถึงกับเอาลูกชายและลูกสาวของตัวเองมาเผาถวายพระของพวกเขา+ 32 ทุกสิ่งที่ผมสั่งไว้นั้นขอให้ทำตามอย่างเคร่งครัด+ อย่าเพิ่มเติมหรือตัดทอนเด็ดขาด+
13 “ถ้าเกิดมีผู้พยากรณ์หรือคนที่ทำนายความฝันมาบอกนิมิตหรือลางบอกเหตุกับคุณ 2 พอนิมิตหรือลางบอกเหตุที่เขาบอกกับคุณเกิดขึ้นจริง แล้วเขาพูดว่า ‘มานับถือพระอื่นกันเถอะ มานมัสการพระพวกนั้นกัน’ ซึ่งเป็นพระที่คุณยังไม่รู้จัก 3 พวกคุณอย่าฟังคำพูดของพวกผู้พยากรณ์หรือคนที่ฝันเห็นนั้น+ เพราะพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณกำลังทดสอบคุณ+ว่าพวกคุณรักพระยะโฮวาพระเจ้าสุดหัวใจและสุดชีวิตไหม+ 4 พวกคุณต้องนับถือพระยะโฮวาพระเจ้า เกรงกลัวพระองค์ รักษาข้อบัญญัติของพระองค์ และเชื่อฟังพระองค์เสมอ พระองค์คือผู้ที่พวกคุณจะต้องนมัสการและใกล้ชิด+ 5 แต่ผู้พยากรณ์หรือคนที่ฝันเห็นนั้นจะต้องถูกประหารชีวิต+ เพราะเขายุยงให้คนอื่นกบฏต่อพระยะโฮวาพระเจ้าผู้ที่พาคุณออกจากอียิปต์ และไถ่คุณจากดินแดนของการเป็นทาส พวกเขาพยายามหลอกล่อคุณให้ทิ้งแนวทางที่พระยะโฮวาพระเจ้าสอน พวกคุณต้องกำจัดความชั่วนี้ไปให้หมด+
6 “ถ้าพี่ชายน้องชาย หรือลูกชายลูกสาว หรือภรรยาที่คุณรัก หรือเพื่อนสนิทแอบชักชวนว่า ‘ไปนมัสการพระอื่นกันเถอะ’+ ซึ่งเป็นพระเจ้าที่คุณหรือบรรพบุรุษของคุณไม่เคยรู้จัก 7 เป็นพระของชนชาติต่าง ๆ ที่อยู่ล้อมรอบพวกคุณ ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกลตั้งแต่สุดปลายแผ่นดินข้างนี้ถึงสุดปลายแผ่นดินข้างโน้น 8 อย่าคล้อยตามหรือฟังเขา+ อย่าเมตตาหรือสงสารเขา อย่าปกป้องเขา 9 แต่ต้องประหารชีวิตเขา+ คุณต้องเป็นคนแรกที่ลงมือเอาหินขว้างเขา แล้วหลังจากนั้นคนอื่นค่อยเอาหินขว้างตาม+ 10 คุณต้องเอาหินขว้างเขาให้ตาย+ เพราะเขาพยายามทำให้คุณทิ้งพระยะโฮวาพระเจ้าผู้พาคุณออกจากอียิปต์ ดินแดนของการเป็นทาส 11 เพื่อชาวอิสราเอลจะได้ยินเรื่องนี้และเกรงกลัว จะได้ไม่มีใครทำสิ่งชั่วร้ายอะไรแบบนี้อีก+
12 “ถ้าคุณได้ยินคนพูดถึงเมืองไหนก็ตามที่พระยะโฮวาพระเจ้ายกให้คุณอาศัยอยู่ว่า 13 ‘มีพวกคนเลวพยายามจะชักจูงคนในเมืองว่า “ไปนมัสการพระอื่นกันเถอะ” ซึ่งเป็นพระเจ้าที่พวกคุณไม่เคยรู้จัก’ 14 คุณต้องจัดการกับเรื่องนี้ ต้องสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียด+ ถ้าพิสูจน์ได้ว่ามีเรื่องที่น่ารังเกียจแบบนี้เกิดขึ้นจริง 15 คุณต้องประหารชีวิตชาวเมืองนั้นด้วยดาบ+ ต้องทำลายเมืองและทุกสิ่งที่อยู่ในเมือง ฝูงสัตว์ในเมืองก็ต้องถูกฆ่า+ด้วยดาบ 16 คุณต้องรวบรวมของริบทั้งหมดในเมืองนั้นมาไว้ที่กลางลานเมือง แล้วเอาไฟเผาเมือง และของริบทั้งหมดนั้นจะเป็นเหมือนเครื่องบูชาเผาที่ให้พระยะโฮวาพระเจ้าของคุณ เมืองนั้นจะเป็นซากปรักหักพังตลอดไป อย่าสร้างเมืองนั้นขึ้นใหม่ 17 และอย่าหยิบฉวยเอาของที่ต้องทำลายนั้นมา+ แล้วพระยะโฮวาจะหายโกรธ และจะแสดงความเมตตาสงสารคุณ ทำให้คุณเพิ่มจำนวนขึ้นตามที่พระองค์สาบานไว้กับบรรพบุรุษของคุณ+ 18 คุณต้องเชื่อฟังพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณโดยทำตามข้อบัญญัติทุกข้อของพระองค์ซึ่งผมกำลังชี้แจงให้ทราบในวันนี้ การทำแบบนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณ+
14 “พวกคุณเป็นลูกของพระยะโฮวาพระเจ้า อย่าเชือดเนื้อตัวเอง+ หรือโกนคิ้ว*เพื่อคนตาย+ 2 เพราะคุณเป็นชนชาติบริสุทธิ์+ของพระยะโฮวาพระเจ้า และจากชนชาติต่าง ๆ ทั้งหมดบนโลกนี้ พระยะโฮวาเลือกคุณให้เป็นประชาชนของพระองค์ เป็นชนชาติพิเศษ*ของพระองค์+
3 “อย่ากินสิ่งที่น่ารังเกียจ+ 4 สัตว์ที่พวกคุณกินได้+มีดังนี้ วัว แกะ แพะ 5 กวางชนิดต่าง ๆ แพะป่า แกะป่า และแกะภูเขา 6 สัตว์ที่มีกีบเท้าแยกเป็นสองกีบและเคี้ยวเอื้องพวกคุณกินได้ 7 แต่สัตว์ที่เคี้ยวเอื้องอย่างเดียวหรือมีกีบเท้าแยกจากกันเพียงอย่างเดียวพวกคุณอย่ากิน คือ อูฐ กระต่าย หนูภูเขา* เพราะสัตว์พวกนี้เคี้ยวเอื้องแต่ไม่มีกีบเท้าแยก สัตว์พวกนี้ไม่สะอาดสำหรับพวกคุณ+ 8 หมูก็อย่ากิน เพราะหมูมีกีบเท้าแยกจากกันแต่ไม่เคี้ยวเอื้อง จึงเป็นสัตว์ที่ไม่สะอาดสำหรับพวกคุณ อย่ากินเนื้อของมันหรือแตะต้องซากของมันเลย
9 “สัตว์ทั้งหมดที่อยู่ในน้ำที่พวกคุณกินได้คือ สัตว์ทุกชนิดที่มีครีบและเกล็ด สัตว์พวกนี้พวกคุณกินได้+ 10 แต่อย่ากินสัตว์ที่ไม่มีครีบและเกล็ด สัตว์พวกนั้นไม่สะอาดสำหรับพวกคุณ
11 “นกที่สะอาดทุกชนิดพวกคุณกินได้ 12 แต่อย่ากินนกต่อไปนี้ คือ นกอินทรี เหยี่ยวกินปลา แร้งดำ+ 13 เหยี่ยวแดง เหยี่ยวดำ และเหยี่ยวขนาดเล็กอื่น ๆ ทุกชนิด 14 อีกาทุกชนิด 15 นกกระจอกเทศ นกเค้า นกนางนวล และเหยี่ยวชนิดอื่น ๆ 16 นกเค้าเล็ก นกเค้าแมวหูยาว หงส์ 17 นกกระทุง แร้ง นกกาน้ำ 18 นกกระสา นกยางทุกชนิด นกกะรางหัวขวาน และค้างคาว 19 แมลงมีปีกทุกชนิดซึ่งอยู่กันเป็นฝูงก็เป็นสัตว์ที่ไม่สะอาดสำหรับพวกคุณ อย่ากินสัตว์พวกนี้เลย 20 สัตว์ปีกทุกชนิดที่บินได้และสะอาด พวกคุณกินได้
21 “อย่ากินสัตว์ที่ตายเอง+ คุณอาจให้คนต่างชาติที่อาศัยอยู่ในเมืองของคุณกินได้ หรือขายให้คนต่างชาติก็ได้ คุณเป็นชนชาติที่บริสุทธิ์ของพระยะโฮวาพระเจ้า
“อย่าต้มลูกแพะด้วยน้ำนมแม่ของมัน+
22 “ในแต่ละปี คุณต้องถวายส่วน 1 ใน 10 ของพืชผลทั้งหมดที่ได้จากทุ่งนาของคุณ+ 23 คุณต้องกินส่วน 1 ใน 10 ของข้าว เหล้าองุ่นใหม่ น้ำมัน และต้องกินลูกสัตว์ตัวแรกจากฝูงวัวและฝูงแกะฝูงแพะต่อหน้าพระยะโฮวาพระเจ้าในที่ที่พระองค์เลือกไว้สำหรับชื่อของพระองค์+ เพื่อคุณจะเรียนรู้ที่จะเกรงกลัวพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณเสมอ+
24 “แต่ถ้าระยะทางไกลเกินไปสำหรับคุณ และไม่สามารถนำของต่าง ๆ นี้ไปที่ที่พระยะโฮวาพระเจ้าเลือกไว้สำหรับชื่อของพระองค์+ เพราะที่นั่นอยู่ไกลจากที่อาศัยของคุณ (เพราะพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณจะอวยพรคุณ) 25 ก็ให้คุณเปลี่ยนของพวกนั้นเป็นเงิน และเอาเงินนี้ติดตัวไปเมื่อเดินทางไปที่ที่พระยะโฮวาพระเจ้าของคุณเลือกไว้ 26 และใช้เงินนี้ซื้ออะไรก็ตามที่คุณต้องการ ทั้งวัว แกะ แพะ เหล้าองุ่นและเหล้าอื่น ๆ รวมทั้งสิ่งที่คุณชอบ แล้วคุณต้องกินต่อหน้าพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณที่นั่น และให้คุณกับคนในบ้านของคุณชื่นชมยินดี+ 27 อย่าละเลยคนในตระกูลเลวีซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองของคุณ+ เพราะเขาไม่ได้รับส่วนแบ่งหรือมรดกร่วมกับคุณ+
28 “ทุก ๆ ปลายปีที่ 3 ให้นำส่วน 1 ใน 10 ทั้งหมดที่ได้จากผลผลิตของคุณในปีนั้นมาเก็บไว้ในเมืองของคุณ+ 29 แล้วคนในตระกูลเลวีซึ่งไม่ได้รับส่วนแบ่งหรือมรดกร่วมกับคุณ รวมทั้งคนต่างชาติ ลูกกำพร้าพ่อ* และแม่ม่ายซึ่งอยู่ในเมืองของคุณจะมากินจนอิ่มหนำ+ เพื่อพระยะโฮวาพระเจ้าจะอวยพรทุกสิ่งที่คุณทำ+
15 “ทุก ๆ ปลายปีที่ 7 คุณจะต้องยกหนี้+ 2 วิธียกหนี้จะเป็นอย่างนี้ เจ้าหนี้ทุกคนจะต้องยกหนี้ให้เพื่อนบ้าน เขาจะเรียกร้องเพื่อนบ้านหรือพี่น้องของเขาให้ชำระหนี้ไม่ได้ เพราะจะมีการประกาศการยกหนี้เพื่อถวายพระยะโฮวา+ 3 คุณจะทวงหนี้กับคนต่างชาติได้+ แต่ต้องยกหนี้ทั้งหมดให้พี่น้องของคุณ 4 แต่ไม่น่าจะมีใครในพวกคุณเป็นคนยากจน เพราะในแผ่นดินที่พระยะโฮวาพระเจ้าจะยกให้คุณครอบครองเป็นมรดกนั้น พระยะโฮวาจะอวยพรคุณแน่ ๆ+ 5 ถ้าคุณเชื่อฟังพระยะโฮวาพระเจ้าอย่างเคร่งครัด และตั้งใจทำตามข้อบัญญัติทั้งหมดที่ผมกำลังชี้แจงให้ทราบในวันนี้+ 6 เพราะพระยะโฮวาพระเจ้าจะอวยพรคุณตามที่พระองค์สัญญาไว้ คุณจะให้คนหลายชาติยืม แต่คุณจะไม่ต้องยืมใคร+ คุณจะมีอำนาจเหนือคนหลายชาติ แต่พวกเขาจะไม่มีอำนาจเหนือคุณเลย+
7 “แต่ถ้าพี่น้องของคุณไม่ว่าอยู่ในเมืองไหนในแผ่นดินที่พระยะโฮวาพระเจ้าจะให้คุณนั้นเกิดยากจนขึ้นมา ก็อย่าใจจืดใจดำไม่ช่วยเหลือเขา+ 8 คุณจะต้องยื่นมือช่วยเหลือเขา+ ต้องให้เขายืมสิ่งที่เขาจำเป็นต้องใช้หรือสิ่งที่เขาไม่มี 9 ระวังให้ดี อย่ามีความคิดที่ชั่วร้ายว่า ‘ใกล้จะถึงปีที่ 7 ซึ่งเป็นปีของการปลดปล่อย’*+ คุณก็เลยไม่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่พี่น้องที่ยากจนและไม่ให้เขายืมอะไร ถ้าเขาร้องทุกข์ถึงพระยะโฮวา คุณจะมีความผิด+ 10 คุณต้องใจกว้างให้เขายืม+โดยไม่นึกเสียดาย เพื่อพระยะโฮวาพระเจ้าจะอวยพรการงานทุกอย่างและทุกสิ่งที่คุณทำ+ 11 จะมีคนจนในแผ่นดินเสมอ+ ดังนั้น ผมถึงสั่งพวกคุณว่า ‘คุณจะต้องยื่นมือช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยากและพี่น้องที่ยากจนในแผ่นดินของคุณ’+
12 “ถ้าพี่น้องชาวฮีบรูของคุณไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงขายตัวเองมาเป็นทาส แล้วทำงานให้คุณได้ 6 ปี ในปีที่ 7 คุณจะต้องปล่อยเขาให้เป็นอิสระ+ 13 และถ้าคุณปล่อยเขาเป็นอิสระ ก็อย่าให้เขาไปมือเปล่า 14 คุณต้องแสดงความเอื้อเฟื้อโดยให้อะไรเขาบ้าง ทั้งจากฝูงแกะฝูงแพะ จากลานนวดข้าว จากเครื่องหีบน้ำมันและบ่อย่ำองุ่นของคุณ คุณต้องให้เขาตามที่พระยะโฮวาพระเจ้าของคุณอวยพรคุณ 15 อย่าลืมว่าคุณเคยเป็นทาสในอียิปต์ และพระยะโฮวาพระเจ้าไถ่คุณออกมา นี่เป็นเหตุผลที่ผมสั่งคุณอย่างนี้ในวันนี้
16 “แต่ถ้าเขาบอกคุณว่า ‘ผมไม่อยากไป’ เพราะเขารักคุณกับครอบครัวของคุณ และเขามีความสุขเมื่ออยู่กับคุณ+ 17 ก็ให้คุณเอาเหล็กแหลมเจาะหูเขาที่ประตู แล้วเขาจะเป็นทาสของคุณตลอดไป กับทาสผู้หญิงก็ต้องทำแบบนี้เหมือนกัน 18 เมื่อปล่อยเขาเป็นอิสระและให้เขาไปแล้วก็อย่านึกเสียดาย เพราะที่เขารับใช้คุณมา 6 ปีนั้นคุณได้ประโยชน์มากกว่าการจ้างลูกจ้างถึง 2 เท่า และพระยะโฮวาพระเจ้าก็ได้อวยพรคุณอย่างมากมายมาแล้ว
19 “คุณต้องแยกลูกสัตว์ที่เป็นตัวผู้ตัวแรกทุกตัวจากฝูงวัวและฝูงแกะฝูงแพะไว้ต่างหากเพื่อถวายพระยะโฮวาพระเจ้า+ อย่าเอาลูกวัวตัวแรกมาใช้งาน และอย่าตัดขนลูกแกะตัวแรก 20 คุณกับคนในบ้านจะต้องกินสัตว์พวกนั้นต่อหน้าพระยะโฮวาพระเจ้าทุกปีในที่ที่พระยะโฮวาเลือกไว้+ 21 แต่ถ้าเป็นสัตว์ที่มีตำหนิ พิการ ตาบอด หรือมีความผิดปกติอื่น ๆ อย่าเอามาถวายเป็นเครื่องบูชาให้พระยะโฮวาพระเจ้า+ 22 ให้กินสัตว์พวกนี้ในเมืองของคุณ ทั้งคนที่สะอาดและไม่สะอาดก็กินเนื้อสัตว์นั้นได้เหมือนที่กินกวาง+ 23 แต่อย่ากินเลือดของมัน+ คุณต้องเทเลือดให้ไหลลงดินเหมือนเทน้ำ+
16 “ให้ฉลองปัสกาเพื่อพระยะโฮวาพระเจ้าในเดือนอาบีบ*+ ในเดือนอาบีบนี้เป็นเดือนที่น่าจดจำเพราะเป็นเดือนที่พระยะโฮวาพระเจ้าพาคุณออกจากอียิปต์ตอนกลางคืน+ 2 คุณต้องเอาสัตว์จากฝูงแกะฝูงแพะและฝูงวัว+มาถวายเป็นเครื่องบูชาปัสกาเพื่อพระยะโฮวาพระเจ้า+ในที่ที่พระยะโฮวาเลือกไว้สำหรับชื่อของพระองค์+ 3 อย่ากินขนมปังใส่เชื้อพร้อมกับเนื้อสัตว์นั้น+ คุณจะต้องกินขนมปังไม่ใส่เชื้อเป็นเวลา 7 วัน ซึ่งเป็นขนมปังแห่งความทุกข์เพราะคุณออกจากอียิปต์อย่างเร่งรีบ+ ให้ทำอย่างนี้เพื่อระลึกถึงวันที่ออกจากอียิปต์ตลอดชีวิตของคุณ+ 4 อย่าให้มีแป้งเชื้อ*อยู่ในแผ่นดินตลอด 7 วัน+ และอย่าให้เนื้อของสัตว์ที่จะถวายเป็นเครื่องบูชาในตอนเย็นของวันแรกนั้นเหลืออยู่จนถึงรุ่งเช้า+ 5 อย่าถวายเครื่องบูชาปัสกาตามเมืองต่าง ๆ ที่พระยะโฮวาพระเจ้ายกให้ 6 แต่ให้ถวายในที่ที่พระยะโฮวาพระเจ้าเลือกไว้สำหรับชื่อของพระองค์ และให้ถวายเครื่องบูชาปัสกาหลังดวงอาทิตย์ตก+ ในวันที่ตรงกับวันที่พวกคุณออกจากอียิปต์ 7 คุณต้องเอาเนื้อไปย่างไฟและกิน+ในที่ที่พระยะโฮวาพระเจ้าของคุณเลือกไว้+ พอรุ่งเช้าค่อยกลับไปที่เต็นท์ของตัวเอง 8 ให้กินขนมปังไม่ใส่เชื้อ 6 วัน และในวันที่เจ็ด ให้มีการประชุมศักดิ์สิทธิ์เพื่อพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณ อย่าทำงานในวันนั้น+
9 “คุณต้องนับไปอีก 7 สัปดาห์ โดยเริ่มนับตั้งแต่วันแรกที่เอาเคียวเกี่ยวข้าว+ 10 แล้วให้คุณฉลองเทศกาลเก็บเกี่ยวให้พระยะโฮวาพระเจ้าของคุณ+ โดยถวายเครื่องบูชาที่ถวายด้วยความสมัครใจให้พระยะโฮวาตามที่พระองค์อวยพรให้คุณมี+ 11 และให้ชื่นชมยินดีต่อหน้าพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณในที่ที่พระยะโฮวาพระเจ้าเลือกไว้สำหรับชื่อของพระองค์+ ทั้งตัวคุณ ลูกชาย ลูกสาว ทาสผู้ชายทาสผู้หญิง คนในตระกูลเลวีซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองของคุณ คนต่างชาติ ลูกกำพร้าพ่อ* และแม่ม่ายซึ่งอยู่กับพวกคุณ 12 อย่าลืมว่าคุณเคยเป็นทาสในอียิปต์+ คุณจะต้องถือรักษาและทำตามข้อกำหนดต่าง ๆ นี้
13 “คุณต้องฉลองเทศกาลอยู่เพิง+เป็นเวลา 7 วันเมื่อทำการเก็บรวบรวมพืชผลจากลานนวดข้าว จากเครื่องหีบน้ำมัน และจากบ่อย่ำองุ่น 14 ให้ชื่นชมยินดีระหว่างเทศกาลนี้+ ทั้งตัวคุณ ลูกชาย ลูกสาว ทาสผู้ชายทาสผู้หญิง คนในตระกูลเลวี คนต่างชาติ ลูกกำพร้าพ่อ และแม่ม่ายซึ่งอยู่ในเมืองของคุณ 15 ให้ฉลองเทศกาลนี้ให้พระยะโฮวาพระเจ้า 7 วัน+ในที่ที่พระยะโฮวาเลือกไว้ เพราะพระยะโฮวาพระเจ้าจะอวยพรการเก็บเกี่ยวพืชผลทั้งหมดของคุณและทุกสิ่งที่คุณทำ+ คุณจะมีแต่ความชื่นชมยินดี+
16 “ผู้ชายทุกคนในพวกคุณจะต้องไปหาพระยะโฮวาพระเจ้าปีละ 3 ครั้งในที่ที่พระองค์เลือกไว้ คือในเทศกาลขนมปังไม่ใส่เชื้อ+ เทศกาลเก็บเกี่ยว+ และเทศกาลอยู่เพิง+ อย่าให้ใครไปหาพระยะโฮวามือเปล่า 17 ให้แต่ละคนนำของไปถวายตามที่พระยะโฮวาอวยพรให้คุณมี+
18 “ให้แต่งตั้งผู้พิพากษา+และเจ้าหน้าที่ไว้สำหรับแต่ละตระกูลในทุกเมืองที่พระยะโฮวาพระเจ้าจะให้คุณ และพวกเขาจะต้องตัดสินประชาชนด้วยความยุติธรรม 19 อย่าบิดเบือนความยุติธรรม+ อย่าลำเอียง+หรือรับสินบน เพราะสินบนจะทำให้คนที่มีสติปัญญากลายเป็นคนตาบอด+ และทำให้คนซื่อสัตย์พูดบิดเบือนไปได้ 20 คุณจะต้องยุติธรรม+เพื่อจะมีชีวิตอยู่ต่อไป และครอบครองแผ่นดินที่พระยะโฮวาพระเจ้าจะยกให้คุณ
21 “อย่าปลูกต้นไม้เพื่อใช้เป็นเสาศักดิ์สิทธิ์+ข้างแท่นบูชาซึ่งคุณสร้างไว้ให้พระยะโฮวาพระเจ้า
22 “และอย่าตั้งแท่งหินศักดิ์สิทธิ์ไว้กราบไหว้บูชา+ เพราะพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณเกลียดสิ่งนี้
17 “อย่านำวัวหรือแกะที่มีตำหนิหรือพิการมาถวายเป็นเครื่องบูชาให้พระยะโฮวาพระเจ้าของคุณ เพราะพระยะโฮวาพระเจ้าเกลียดของถวายแบบนี้+
2 “ถ้าพบเห็นผู้ชายหรือผู้หญิงไม่ว่าอยู่ในเมืองไหนก็ตามที่พระยะโฮวาพระเจ้ายกให้คุณ กำลังทำสิ่งชั่วร้ายในสายตาพระยะโฮวาพระเจ้า ละเมิดสัญญาของพระองค์+ 3 และหันไปนมัสการกราบไหว้พระอื่น หรือกราบไหว้ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ หมู่ดาวในท้องฟ้า+ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่ได้สั่งให้ทำ+ 4 เมื่อมีคนมารายงานคุณ หรือเมื่อคุณได้ยินเรื่องนั้น คุณจะต้องสืบสวนอย่างละเอียด และถ้าพิสูจน์ได้ว่ามีเรื่องที่น่ารังเกียจแบบนี้เกิดขึ้นในอิสราเอลจริง+ 5 คุณจะต้องเอาผู้ชายหรือผู้หญิงที่ทำสิ่งชั่วร้ายนี้ออกไปนอกประตูเมือง และต้องเอาหินขว้างให้ตาย+ 6 ต้องมีพยานสองหรือสามปาก+ถึงจะประหารชีวิตคนนั้นได้ ถ้ามีพยานปากเดียวจะประหารชีวิตเขาไม่ได้+ 7 พยานต้องเป็นคนกลุ่มแรกที่ลงมือเอาหินขว้างเขา แล้วหลังจากนั้นคนอื่นค่อยเอาหินขว้างตาม คุณต้องกำจัดความชั่วร้ายนี้ให้หมดไป+
8 “ถ้ามีคดีความเกิดขึ้นในเมืองไหน และคดีนั้นยากเกินกว่าที่คุณจะตัดสินได้ ไม่ว่าจะเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการฆ่าคน+ การฟ้องร้องกัน การกระทำรุนแรง หรือการทะเลาะเบาะแว้งอื่น ๆ ขอให้ไปที่ที่พระยะโฮวาพระเจ้าเลือกไว้+ 9 ไปหาปุโรหิตตระกูลเลวีและผู้พิพากษา+ที่ทำหน้าที่ในตอนนั้น และมอบเรื่องนั้นให้เขาตัดสิน+ 10 คุณต้องทำตามคำตัดสินที่ได้จากที่ที่พระยะโฮวาเลือกไว้ ต้องทำตามที่เขาสั่งทุกอย่างอย่างเคร่งครัด 11 คุณต้องทำตามข้อกฎหมายที่พวกเขาชี้แจงให้ทราบ และทำตามคำตัดสินของเขา+ ต้องไม่ทำอะไรผิดไปจากคำตัดสินที่เขาบอก+ 12 คนที่อวดดีไม่ฟังปุโรหิตที่รับใช้พระยะโฮวาพระเจ้า หรือไม่ฟังผู้พิพากษาจะต้องตาย+ คุณต้องกำจัดความชั่วร้ายนี้ไปจากชาวอิสราเอล+ 13 เพื่อประชาชนจะได้ยินและเกรงกลัว พวกเขาจะได้ไม่กล้าอวดดีอีก+
14 “เมื่อเข้าไปครอบครองและอาศัยอยู่ในแผ่นดินที่พระยะโฮวาพระเจ้ายกให้คุณ และคุณพูดว่า ‘ให้เราตั้งกษัตริย์ปกครองพวกเราเหมือนชาติอื่น ๆ ที่อยู่รอบข้าง’+ 15 ให้ตั้งคนที่พระยะโฮวาพระเจ้าเลือกซึ่งเป็นพี่น้องของคุณให้เป็นกษัตริย์+ อย่าตั้งคนต่างชาติที่ไม่ใช่พี่น้องของคุณขึ้นปกครอง 16 แต่อย่าให้เขามีม้ามาก+ และอย่าให้เขาส่งคนกลับไปอียิปต์เพื่อหาม้ามาเพิ่ม+ เพราะพระยะโฮวาบอกกับพวกคุณว่า ‘อย่ากลับไปอียิปต์อีก’ 17 เขาต้องไม่มีภรรยาหลายคน ใจของเขาจะได้ไม่หลงไป+ และอย่าให้เขาสะสมเงินและทองไว้มากมาย+ 18 เมื่อเขาขึ้นนั่งบนบัลลังก์ในอาณาจักรของเขาแล้ว เขาจะต้องเอากฎหมายนี้ซึ่งปุโรหิตตระกูลเลวีเก็บไว้+มาคัดลอกใส่ม้วนหนังสือเพื่อประโยชน์ของตัวเอง
19 “เขาต้องเก็บม้วนหนังสือนั้นไว้ และต้องอ่านม้วนหนังสือนั้นตลอดชีวิตของเขา+ เพื่อเรียนรู้ที่จะเกรงกลัวพระยะโฮวาพระเจ้าของเขา และทำตามข้อกฎหมายและข้อกำหนดต่าง ๆ นี้ทุกอย่าง+ 20 เพื่อเขาจะไม่อวดตัวว่าสูงส่งกว่าพี่น้องของเขา และไม่ทำอะไรผิดไปจากข้อบัญญัตินี้ แล้วเขากับลูกหลานจะได้ปกครองอาณาจักรของเขาในอิสราเอลได้ยาวนาน
18 “ปุโรหิตตระกูลเลวี และคนในตระกูลเลวีทั้งหมดจะไม่ได้รับส่วนแบ่งหรือมรดกร่วมกับชาวอิสราเอล พวกเขาจะกินส่วนที่ได้จากเครื่องบูชาซึ่งถวายพระยะโฮวาด้วยการเผาซึ่งเป็นส่วนของพระองค์+ 2 พวกเขาไม่ควรได้รับมรดกที่ดินร่วมกับพี่น้องของเขา พระยะโฮวาเป็นมรดกของพวกเขาตามที่พระองค์บอกไว้
3 “ต่อไปนี้คือส่วนที่ประชาชนจะต้องให้ปุโรหิตเพราะเป็นสิทธิ์ที่เขาควรได้รับ เมื่อใครถวายเครื่องบูชา ไม่ว่าวัวหรือแกะ คนนั้นจะต้องมอบส่วนที่เป็นโคนขาหน้า ขากรรไกร และเครื่องในให้ปุโรหิต 4 ส่วนผลแรกจากข้าว เหล้าองุ่นใหม่ น้ำมัน และขนสัตว์ที่ตัดครั้งแรกจากฝูงแกะฝูงแพะ คุณก็ต้องให้เขาด้วย+ 5 เพราะพระยะโฮวาพระเจ้าได้เลือกเขากับลูกหลานของเขาจากตระกูลต่าง ๆ ของคุณ และให้เขาทำหน้าที่ในนามของพระยะโฮวาตลอดไป+
6 “แต่ถ้าคนเลวีคนไหนต้องการย้ายออกจากเมืองที่เขาอาศัยอยู่ในอิสราเอล+เพื่อไปที่ที่พระยะโฮวาเลือกไว้*+ 7 เขาก็จะทำงานรับใช้ที่นั่นในนามของพระยะโฮวาพระเจ้าได้ เหมือนกับที่ญาติพี่น้องทั้งหมดของเขาที่เป็นคนเลวีทำอยู่ที่นั่นต่อหน้าพระยะโฮวา+ 8 เขาจะได้รับส่วนแบ่งอาหารเท่ากับคนอื่น+ แม้เขาจะได้เงินจากการขายทรัพย์สินที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษแล้วก็ตาม
9 “เมื่อคุณเข้าไปในแผ่นดินที่พระยะโฮวาพระเจ้ายกให้คุณแล้ว อย่าทำสิ่งที่น่าเกลียดตามอย่างชาติต่าง ๆ นั้น+ 10 อย่าให้ใครเอาลูกชายหรือลูกสาวไปเผาบูชายัญ+ และอย่าให้ใครเป็นผู้ทำนายโชคชะตา+ ใช้เวทมนตร์+ ถือโชคลาง+ และทำตัวเป็นพ่อมด+ 11 อย่าให้มีคนทำคาถาอาคม ปรึกษาคนทรง+หรือหมอดู+ และอย่าติดต่อคนตาย+ 12 เพราะพระยะโฮวาเกลียดคนที่ทำอย่างนี้ และเพราะการทำสิ่งที่น่าเกลียดแบบนี้แหละพระยะโฮวาพระเจ้าถึงได้ไล่ชาติพวกนั้นไปต่อหน้าคุณ 13 คุณต้องเป็นคนที่ไม่มีตำหนิสำหรับพระยะโฮวาพระเจ้า+
14 “เพราะชาติต่าง ๆ ซึ่งคุณจะต้องขับไล่พวกเขาไปนั้นฟังคนที่ใช้เวทมนตร์คาถา+และคนที่ทำนายโชคชะตา+ แต่พระยะโฮวาพระเจ้าไม่ยอมให้คุณทำอย่างนั้น 15 พระยะโฮวาพระเจ้าจะแต่งตั้งคนหนึ่งเพื่อพวกคุณจากพี่น้องของพวกคุณเอง ให้เป็นผู้พยากรณ์เหมือนผม พวกคุณต้องเชื่อฟังทุกสิ่งที่เขาบอก+ 16 ซึ่งเป็นไปตามที่คุณขอพระยะโฮวาพระเจ้าที่ภูเขาโฮเรบ ในวันที่พวกคุณมาประชุมพร้อมกัน+และพูดว่า ‘อย่าให้ผมได้ยินเสียงของพระยะโฮวาพระเจ้าหรือเห็นเปลวไฟที่ยิ่งใหญ่นี้อีกเลย ผมจะได้ไม่ตาย’+ 17 ตอนนั้น พระยะโฮวาพูดกับผมว่า ‘พวกเขาพูดถูกแล้ว 18 เราจะแต่งตั้งคนหนึ่งจากพี่น้องของเขาให้เป็นผู้พยากรณ์เหมือนอย่างเจ้า+ และเราจะให้เขาพูดคำของเรา+ และทุกสิ่งที่เราสั่งเขานั้นเขาจะเอามาบอกชาวอิสราเอล+ 19 และเมื่อเขาพูดในนามของเราแล้ว คนที่ไม่ยอมเชื่อฟังเรา เราจะลงโทษคนนั้น+
20 “‘ถ้าผู้พยากรณ์คนไหนบังอาจพูดในนามของเราโดยที่เราไม่ได้สั่งให้เขาพูด หรือเขาพูดในนามของพระอื่น ผู้พยากรณ์คนนั้นต้องตาย+ 21 แต่เจ้าอาจจะคิดในใจว่า “เราจะรู้ได้ยังไงว่าคำพูดนี้ไม่ได้มาจากพระยะโฮวา?” 22 ก็ถ้าผู้พยากรณ์คนนั้นพูดในนามของพระยะโฮวา แล้วไม่ได้เป็นไปตามที่เขาพูดไว้หรือไม่เกิดขึ้นจริง แสดงว่าคำพูดนั้นไม่ได้มาจากพระยะโฮวา ผู้พยากรณ์คนนั้นบังอาจพูดเอง เจ้าอย่าได้กลัวเขา’
19 “เมื่อพระยะโฮวาพระเจ้าทำลายชาติต่าง ๆ ซึ่งพระยะโฮวาพระเจ้าจะยกแผ่นดินของพวกเขาให้คุณ แล้วคุณเข้าไปยึดครองและอยู่อาศัยในเมืองและในบ้านของพวกเขาแล้ว+ 2 คุณจะต้องกันเมืองไว้ 3 เมืองในแผ่นดินซึ่งพระยะโฮวาพระเจ้าจะยกให้คุณครอบครอง+ 3 โดยแบ่งเขตแดนในแผ่นดินที่พระยะโฮวาพระเจ้าจะยกให้คุณครอบครองนั้นออกเป็น 3 ส่วน และเตรียมเส้นทางที่จะไปแต่ละเมืองใน 3 ส่วนนั้นเอาไว้เพื่อคนที่ทำให้คนตายโดยไม่เจตนาจะหนีไปที่นั่นได้
4 “ต่อไปนี้เป็นกรณีที่คนที่ทำให้คนตายจะหนีไปอาศัยที่นั่นได้ คือ เมื่อเขาทำให้คนอื่นตายโดยไม่เจตนาและไม่ได้เกลียดชังกันมาก่อน+ 5 เช่น เมื่อเขาเข้าไปตัดฟืนในป่า และเขาเงื้อขวานตัดต้นไม้ แต่หัวขวานหลุดจากด้ามไปโดนคนอื่นตาย เขาจะหนีไปอาศัยที่ 3 เมืองนี้ได้+ 6 แต่ถ้าระยะทางที่จะไปเมืองนั้นไกลเกินไป คนที่มีสิทธิ์แก้แค้น+ที่กำลังโกรธจัดก็อาจไล่ตามมาทันแล้วฆ่าเขา แต่เขาไม่สมควรตายเพราะเขากับคนตายไม่ได้เกลียดชังกันมาก่อน+ 7 นี่เป็นเหตุผลที่ผมสั่งพวกคุณว่า ‘กันเมืองไว้ 3 เมือง’
8 “ถ้าพระยะโฮวาพระเจ้าขยายเขตแดนออกไปตามที่พระองค์สาบานไว้กับบรรพบุรุษของคุณ+ และยกแผ่นดินทั้งหมดให้คุณตามที่พระองค์สัญญาไว้ว่าจะยกให้บรรพบุรุษของคุณ+ 9 (ถ้าคุณตั้งใจทำตามข้อบัญญัติทั้งหมดที่ผมกำลังชี้แจงให้ทราบในวันนี้ คือ รักพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณและใช้ชีวิตตามแนวทางของพระองค์เสมอ)+ ให้กันเมืองเพิ่มอีก 3 เมืองนอกจาก 3 เมืองนี้+ 10 โดยวิธีนี้ จะไม่มีคนบริสุทธิ์ถูกฆ่า+ในแผ่นดินที่พระยะโฮวาพระเจ้าจะยกให้คุณเป็นมรดก และคุณก็จะไม่มีความผิดฐานฆ่าคน+
11 “แต่ถ้าใครเกลียดคนคนหนึ่ง+และดักทำร้ายคนนั้นจนตาย แล้วเขาก็หนีไปเมืองหนึ่งที่ได้กันไว้นี้ 12 พวกผู้นำในเมืองที่เขาอาศัยอยู่จะต้องส่งคนไปเอาตัวเขามาจากที่นั่น และมอบเขาให้กับผู้มีสิทธิ์แก้แค้น เขาจะต้องตาย+ 13 อย่าสงสารเขา คุณจะต้องกำจัดคนที่ทำผิดฐานฆ่าคนบริสุทธิ์ไปจากชาติอิสราเอล+ เพื่อคุณจะอยู่ดีมีสุข
14 “เมื่อคุณได้รับมรดกบนแผ่นดินซึ่งพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณจะให้คุณครอบครอง อย่าย้ายหลักเขตของเพื่อนบ้าน+ ที่บรรพบุรุษปักไว้
15 “พยานปากเดียวไม่อาจยืนยันความผิดหรือบาปที่คนนั้นทำได้+ ทุกเรื่องต้องมีพยานยืนยันสองหรือสามปาก+ 16 ถ้ามีคนหนึ่งเป็นพยานยืนยันว่าอีกคนหนึ่งทำผิด+ 17 ทั้งสองคนที่เป็นคู่กรณีกันจะต้องไปยืนต่อหน้าพระยะโฮวา ต่อหน้าปุโรหิต และผู้พิพากษาซึ่งทำหน้าที่ในตอนนั้น+ 18 ผู้พิพากษาจะต้องสืบสวนอย่างละเอียด+ ถ้าคนนั้นเป็นพยานเท็จใส่ร้ายพี่น้องของตัวเองจริง 19 พวกคุณต้องทำกับเขาตามที่เขาคิดจะทำกับพี่น้องของเขา+ คุณต้องกำจัดความชั่วร้ายนี้ให้หมดไป+ 20 เพื่อคนที่ยังอยู่จะได้ยินเรื่องนี้และเกรงกลัว จะได้ไม่มีใครทำสิ่งชั่วร้ายแบบนี้อีก+ 21 อย่าสงสารเขา+ ชีวิตจะต้องแทนด้วยชีวิต ตาแทนตา ฟันแทนฟัน มือแทนมือ เท้าแทนเท้า+
20 “เมื่อออกไปสู้รบกับศัตรู และเห็นเขามีม้า รถศึก และกองทหารมากกว่า ก็อย่าไปกลัวพวกเขา เพราะพระยะโฮวาพระเจ้าซึ่งพาคุณออกจากอียิปต์อยู่กับคุณ+ 2 ก่อนที่จะออกรบ ปุโรหิตจะต้องเข้ามาพูดกับประชาชน+ 3 เขาจะพูดว่า ‘ชาวอิสราเอล ฟังให้ดี ตอนนี้พวกคุณกำลังจะออกไปสู้รบกับศัตรู พวกคุณต้องกล้าหาญ อย่ากลัวหรือหวั่นเกรงพวกเขา 4 เพราะพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณจะไปกับพวกคุณ พระองค์จะสู้รบกับศัตรูเพื่อพวกคุณ และจะช่วยพวกคุณให้รอด’+
5 “ให้พวกนายทหารพูดกับประชาชนด้วยว่า ‘มีใครไหมที่เพิ่งสร้างบ้านใหม่และยังไม่ทันได้เข้าไปอยู่? ถ้ามี ให้เขากลับไปบ้านของตัวเองก่อน ไม่อย่างนั้น เขาอาจตายในการสู้รบ แล้วคนอื่นจะเข้าไปอยู่ในบ้านของเขาแทน 6 มีใครไหมที่ทำสวนองุ่นไว้และยังไม่ทันได้เก็บผล? ถ้ามี ให้เขากลับไปบ้านของตัวเองก่อน ไม่อย่างนั้น เขาอาจตายในการสู้รบ แล้วคนอื่นจะเก็บผลจากสวนนั้นแทน 7 มีใครไหมที่หมั้นผู้หญิงไว้และยังไม่ได้แต่งงานกับเธอ? ถ้ามี ให้เขากลับไปบ้านของตัวเองก่อน+ ไม่อย่างนั้น เขาอาจตายในการสู้รบ แล้วคนอื่นจะมาแต่งงานกับเธอแทน’ 8 และให้พวกนายทหารถามประชาชนอีกว่า ‘มีใครไหมที่กลัว?+ ถ้ามี ให้เขากลับไปบ้านของตัวเอง จะได้ไม่ทำให้พี่น้องคนอื่น ๆ กลัวไปด้วย’+ 9 เมื่อพวกนายทหารพูดกับประชาชนเสร็จแล้ว ให้เขาแต่งตั้งพวกผู้นำทัพให้นำหน้าประชาชนไป
10 “เมื่อคุณยกทัพไปประชิดเมืองไหนก็ตาม คุณจะต้องแจ้งเงื่อนไขสำหรับการเป็นไมตรีให้เขารู้ด้วย+ 11 ถ้าเขายอมรับเงื่อนไขนั้นและเปิดประตูเมืองให้ คนทั้งหมดในเมืองนั้นจะเป็นทาสทำงานให้คุณ พวกเขาจะต้องรับใช้คุณ+ 12 ถ้าเขาไม่ยอมเป็นไมตรีด้วย แต่จะทำสงครามกับคุณ ก็ให้ล้อมเมืองนั้นไว้ 13 พระยะโฮวาพระเจ้าจะมอบเขาไว้ในมือคุณ คุณต้องสังหารผู้ชายทุกคนในเมืองนั้นด้วยดาบ 14 แต่พวกผู้หญิง เด็ก ๆ ฝูงสัตว์ และทุกสิ่งที่อยู่ในเมือง คือ ของริบทั้งหมดในเมืองนั้น คุณจะปล้นเอามาเป็นของตัวเองได้+ คุณจะกินของที่ริบได้จากศัตรูซึ่งพระยะโฮวาพระเจ้ามอบให้คุณ+
15 “ให้ทำอย่างนี้กับเมืองที่อยู่ไกล ๆ ไม่ใช่เมืองของชาติที่อยู่ใกล้ ๆ 16 แต่เมืองของชาติที่อยู่ใกล้ ๆ ซึ่งพระยะโฮวาพระเจ้าจะยกให้คุณเป็นมรดกนั้น อย่าให้ใคร*เหลือรอดสักคนเดียว+ 17 คุณต้องทำลายพวกเขาให้สิ้นซาก ทั้งชาวฮิตไทต์ ชาวอาโมไรต์ ชาวคานาอัน ชาวเปริสซี ชาวฮีไวต์ และชาวเยบุส+ ตามที่พระยะโฮวาพระเจ้าสั่งคุณไว้ 18 เพื่อพวกเขาจะได้ไม่สอนคุณให้ทำตามการกระทำที่น่ารังเกียจที่พวกเขาทำถวายพระของพวกเขา และทำให้คุณทำบาปต่อพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณ+
19 “เมื่อคุณล้อมเมืองไหนเพื่อจะยึดเมืองนั้นและได้สู้รบกันหลายวันแล้ว อย่าเอาขวานตัดต้นไม้ของเมืองนั้น คุณกินผลของต้นไม้ต่าง ๆ นั้นได้ แต่อย่าโค่นมันลงมา+ ทำไมต้องไปทำลายต้นไม้ในท้องทุ่งเหมือนทำกับคน? 20 คุณจะทำลายได้ก็เฉพาะต้นไม้ที่คุณรู้ว่าไม่ใช่ไม้ผล คุณอาจโค่นมันลงมาและเอามาสร้างเป็นกำแพงล้อมเมืองที่ทำสงครามกับคุณ จนกว่าเมืองนั้นจะแตก
21 “ถ้าในแผ่นดินที่พระยะโฮวาพระเจ้าจะยกให้คุณครอบครองนั้นมีคนถูกฆ่าตายที่ทุ่งนา แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนฆ่า 2 พวกผู้นำและผู้พิพากษา+จะต้องออกไปวัดระยะทางจากศพถึงเมืองต่าง ๆ ที่อยู่โดยรอบ 3 และพวกผู้นำที่อยู่ในเมืองที่ใกล้ศพที่สุดจะต้องเอาวัวสาวที่ไม่เคยใช้งาน หรือไม่เคยเทียมแอกมา 4 แล้วพวกผู้นำในเมืองนั้นจะพาวัวสาวลงไปในหุบเขาที่มีลำธารไหลผ่านและเป็นหุบเขาที่ไม่เคยมีการไถหว่านเลย แล้วฆ่าวัวที่นั่นด้วยการทุบให้คอหัก+
5 “และพวกปุโรหิตตระกูลเลวีจะมาที่นั่น เพราะพระยะโฮวาพระเจ้าเลือกพวกเขาไว้ให้รับใช้พระองค์+และให้ประกาศคำอวยพรในนามของพระยะโฮวา+ พวกเขาจะเป็นคนบอกว่าคดีที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงจะมีการตัดสินอย่างไร+ 6 และพวกผู้นำทุกคนในเมืองที่อยู่ใกล้ศพที่สุดนั้นจะล้างมือของตัวเอง+เหนือวัวสาวซึ่งถูกฆ่าด้วยการทุบให้คอหักในหุบเขา 7 แล้วประกาศว่า ‘พวกเราไม่ได้ฆ่าคนคนนี้ และไม่เห็นตอนที่เขาถูกฆ่า 8 พระยะโฮวาพระเจ้า ขออย่าลงโทษชาวอิสราเอลประชาชนที่พระองค์ไถ่ไว้+ และขออย่าให้ความผิดฐานฆ่าคนบริสุทธิ์มีอยู่ในอิสราเอล’+ แล้วพวกเขาก็จะไม่มีความผิดฐานฆ่าคน 9 โดยวิธีนี้ คุณจะพ้นจากความผิดฐานฆ่าคนบริสุทธิ์ เพราะคุณทำตามขั้นตอนที่ถูกต้องในสายตาพระยะโฮวา
10 “ถ้าคุณออกไปสู้รบกับศัตรู และพระยะโฮวาพระเจ้าทำให้พวกเขาพ่ายแพ้ แล้วคุณจับพวกเขามาเป็นเชลย+ 11 ในพวกเชลยนั้นคุณเห็นผู้หญิงคนหนึ่งสวย และเกิดถูกใจอยากแต่งงานกับเธอ 12 ก็ให้พาเธอมาที่บ้าน ให้เธอโกนหัวและตัดเล็บ 13 ให้เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ตอนที่ถูกจับเป็นเชลย และให้เธออาศัยอยู่ในบ้านของคุณ เธอจะต้องไว้ทุกข์ให้พ่อแม่ตลอดหนึ่งเดือน+ หลังจากนั้น คุณจะมีเพศสัมพันธ์กับเธอได้ คุณจะเป็นสามีของเธอ และเธอจะเป็นภรรยาของคุณ 14 แต่ถ้าคุณเกิดไม่พอใจเธอ ก็ให้เธอไปตามทางที่เธอต้องการ+ คุณจะขายเธอหรือทำรุนแรงกับเธอไม่ได้ เพราะคุณทำให้เธอได้รับความอับอายแล้ว
15 “ถ้าใครมีภรรยา 2 คน และเขารักคนหนึ่งมากกว่าอีกคนหนึ่ง และทั้งสองคนมีลูกชายให้เขา แต่ลูกชายคนโตเกิดจากภรรยาที่เขารักน้อยกว่า+ 16 ในวันที่เขาจะยกมรดกให้ลูกชาย อย่าให้เขาทำเหมือนว่าลูกชายของภรรยาที่เขารักเป็นลูกคนโต และละเลยลูกชายคนโตที่เกิดจากภรรยาที่รักน้อยกว่า 17 เขาจะต้องยอมรับว่าลูกชายของภรรยาที่เขารักน้อยกว่าเป็นลูกชายคนโต และต้องให้ลูกคนนี้ได้รับส่วนแบ่งสองส่วนจากทุกสิ่งที่เขามี เพราะลูกคนนี้เป็นผลงานชิ้นแรกจากพลัง*ของเขา สิทธิของลูกคนโตจะต้องเป็นของลูกคนนี้+
18 “ถ้าใครมีลูกชายดื้อด้านและขืนอำนาจไม่เชื่อฟังพ่อแม่+ ถึงพ่อแม่พยายามจะอบรมสั่งสอนเขาแล้วแต่เขาก็ไม่ยอมฟัง+ 19 พ่อแม่จะต้องจับตัวเขาพาไปหาพวกผู้นำที่ประตูเมือง 20 และพูดกับพวกผู้นำของเมืองนั้นว่า ‘ลูกชายของเราคนนี้เป็นคนดื้อด้านและชอบขืนอำนาจ เขาไม่เชื่อฟังเรา เขาเป็นคนตะกละ+และขี้เมา’+ 21 แล้วผู้ชายทุกคนในเมืองนั้นก็จะเอาหินขว้างเขาให้ตาย คุณจะต้องกำจัดความชั่วร้ายไปจากพวกคุณ และชาวอิสราเอลจะได้ยินเรื่องนี้และเกรงกลัว+
22 “ถ้าใครทำบาปที่มีโทษถึงตายแล้วถูกประหารชีวิต+ และคุณเอาศพเขาแขวนไว้บนเสา+ 23 อย่าให้ศพค้างอยู่บนเสาตลอดคืน+ แต่ให้ฝังศพเขาในวันนั้น เพราะศพที่ถูกแขวนไว้บนเสานั้นเป็นสิ่งที่พระเจ้าสาปแช่ง+ อย่าทำให้แผ่นดินซึ่งพระยะโฮวาพระเจ้าจะยกให้คุณเป็นมรดกนั้นแปดเปื้อน+
22 “ถ้าคุณเห็นวัวหรือแกะของพี่น้องหลงทางมาก็อย่านิ่งดูดาย+ ให้พามันกลับไปให้พี่น้องของคุณ 2 แต่ถ้าพี่น้องคนนั้นอยู่ไกล หรือคุณไม่รู้จักเขา ก็ให้พาสัตว์นั้นไปไว้ที่บ้านของคุณจนกว่าพี่น้องคนนั้นจะมาตามหามัน แล้วค่อยคืนให้เขา+ 3 คุณต้องทำอย่างนี้ อย่าเมินเฉยเมื่อพบลา เสื้อผ้า และอะไรก็ตามที่พี่น้องของคุณทำหาย
4 “ถ้าคุณเห็นลาหรือวัวของพี่น้องล้มลงบนถนน อย่านิ่งเฉยแต่ต้องช่วยเขาพยุงมันขึ้น+
5 “อย่าให้ผู้หญิงใส่เสื้อผ้าของผู้ชาย และอย่าให้ผู้ชายใส่เสื้อผ้าของผู้หญิง เพราะพระยะโฮวาพระเจ้าเกลียดคนที่ทำอย่างนี้
6 “ถ้าคุณเห็นรังนกริมทางเดินไม่ว่าจะอยู่บนต้นไม้หรือบนพื้นดินและมีลูกนกหรือไข่อยู่ในรังนั้น และแม่นกกำลังกกลูกหรือไข่ของมันอยู่ อย่าเอาไปทั้งแม่นกกับลูกนก+ 7 ให้ปล่อยแม่นกไว้ ส่วนลูกนกนั้นเอาไปได้ ให้ทำอย่างนี้เพื่อคุณจะอยู่ดีมีสุขและมีชีวิตยืนยาว
8 “เมื่อสร้างบ้านใหม่ คุณจะต้องทำแนวกั้นรอบดาดฟ้า+ป้องกันไม่ให้คนพลัดตกลงไป เพื่อคุณและครอบครัวจะได้ไม่มีความผิดฐานฆ่าคน
9 “อย่าเอาเมล็ดพืชอีกชนิดหนึ่งมาหว่านในสวนองุ่นของคุณ+ ไม่อย่างนั้น ทุกสิ่งที่เกิดจากเมล็ดที่คุณหว่านรวมทั้งผลผลิตที่ได้จากสวนองุ่นจะต้องตกเป็นของที่ศักดิ์สิทธิ์
10 “อย่าเอาวัวกับลามาเทียมแอกไถนาด้วยกัน+
11 “อย่าสวมเสื้อผ้าที่ทอด้วยด้ายขนสัตว์ผสมกับใยป่าน+
12 “คุณต้องทำพู่ไว้ที่มุมทั้งสี่ของผ้าคล้องไหล่+
13 “ถ้าผู้ชายคนหนึ่งแต่งงานกับผู้หญิงและมีเพศสัมพันธ์กับเธอ แต่ต่อมาเขารังเกียจเธอ 14 และกล่าวหาว่าเธอเคยทำตัวเสื่อมเสียมาก่อนและพูดให้เธอเสียชื่อว่า ‘ผมแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ แต่พอมีเพศสัมพันธ์กัน ผมไม่เห็นหลักฐานเลยว่าเธอเป็นผู้หญิงบริสุทธิ์’ 15 พ่อแม่ของผู้หญิงจะต้องเอาหลักฐานที่แสดงว่าเธอเป็นผู้หญิงบริสุทธิ์มาให้พวกผู้นำที่ประตูเมือง 16 พ่อของผู้หญิงจะต้องพูดกับพวกผู้นำว่า ‘ผมยกลูกสาวให้ผู้ชายคนนี้ แต่เขารังเกียจเธอ 17 และกล่าวหาว่าเธอทำตัวเสื่อมเสียมาก่อนโดยพูดว่า “ผมไม่เห็นหลักฐานเลยว่าลูกสาวของคุณเป็นผู้หญิงบริสุทธิ์” แต่นี่แหละคือหลักฐานที่แสดงว่าลูกสาวของผมเป็นผู้หญิงบริสุทธิ์’ แล้วให้พ่อแม่คลี่ผ้าที่เป็นหลักฐานออกต่อหน้าพวกผู้นำในเมืองนั้น 18 และพวกผู้นำ+จะต้องนำผู้ชายคนนั้นไปลงโทษ+ 19 พร้อมกับปรับเขาเป็นเงินหนัก 100 เชเขล* และเอาเงินนั้นให้พ่อของผู้หญิง เพราะเขาทำลายชื่อเสียงของผู้หญิงบริสุทธิ์คนหนึ่งในอิสราเอล+ และเธอจะต้องเป็นภรรยาของเขาต่อไป เขาจะหย่าเธอไม่ได้ตลอดชีวิต
20 “แต่ถ้าข้อกล่าวหานั้นเป็นความจริง และไม่มีหลักฐานว่าเธอเป็นผู้หญิงบริสุทธิ์ 21 ก็ให้พวกเขาพาผู้หญิงนั้นไปที่ทางเข้าบ้านของพ่อเธอ และคนในเมืองนั้นจะต้องเอาหินขว้างเธอให้ตาย เพราะเธอทำสิ่งที่น่าละอาย+ในอิสราเอลโดยทำผิดศีลธรรมทางเพศในบ้านของพ่อ+ คุณต้องกำจัดความชั่วร้ายไปจากพวกคุณ+
22 “ถ้าพบผู้ชายคนไหนมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาของคนอื่น ต้องประหารชีวิตทั้งสองคน คือผู้ชายคนนั้นกับผู้หญิงที่เขามีเพศสัมพันธ์ด้วย+ คุณต้องกำจัดความชั่วร้ายไปจากชาวอิสราเอล
23 “ถ้าผู้ชายคนไหนพบผู้หญิงบริสุทธิ์ในเมือง เธอมีคู่หมั้นแล้วและเขามีเพศสัมพันธ์กับเธอ 24 คุณจะต้องเอาทั้งสองคนออกไปนอกประตูเมืองและเอาหินขว้างให้ตาย เพราะผู้หญิงไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือทั้ง ๆ ที่อยู่ในเมือง และผู้ชายทำให้ภรรยาของคนอื่นได้รับความอับอาย+ คุณต้องกำจัดความชั่วร้ายไปจากชาวอิสราเอล
25 “แต่ถ้าผู้ชายคนนั้นพบผู้หญิงที่มีคู่หมั้นนั้นในทุ่งนา และใช้กำลังข่มขืนเธอ ผู้ชายคนนั้นจะต้องถูกประหารชีวิตคนเดียว 26 อย่าทำอะไรผู้หญิง เธอไม่ได้ทำบาปที่สมควรตาย คดีนี้เหมือนคดีที่คนหนึ่งทำร้ายอีกคนหนึ่งจนตาย+ 27 เพราะเขาพบเธอในทุ่งนา และผู้หญิงที่มีคู่หมั้นนั้นร้องขอความช่วยเหลือแล้ว แต่ไม่มีใครช่วยเธอ
28 “ถ้าผู้ชายคนหนึ่งพบผู้หญิงบริสุทธิ์ที่ยังไม่มีคู่หมั้น แล้วบังคับเธอให้มีเพศสัมพันธ์ด้วย และมีคนรู้เรื่องเข้า+ 29 ผู้ชายคนที่มีเพศสัมพันธ์กับเธอจะต้องให้เงินหนัก 50 เชเขล*กับพ่อของเธอ และเธอจะเป็นภรรยาของเขา+ เขาจะหย่าเธอไม่ได้ตลอดชีวิตเพราะเขาทำให้เธอได้รับความอับอาย
30 “อย่าให้ใครเอาภรรยาของพ่อมาเป็นภรรยาของตัวเอง เพราะจะทำให้พ่อได้รับความอับอาย+
23 “คนที่ถูกตอนด้วยการทำให้ลูกอัณฑะเสียหาย หรือคนที่อวัยวะเพศชายถูกตัดออกไป จะเข้ามาเป็นประชาชน*ของพระยะโฮวาไม่ได้+
2 “คนที่เกิดนอกสายสมรสจะเข้ามาเป็นประชาชนของพระยะโฮวาไม่ได้+ ลูกหลานของเขาก็เข้ามาเป็นประชาชนของพระยะโฮวาไม่ได้
3 “อย่าให้ชาวอัมโมนหรือชาวโมอับเข้ามาเป็นประชาชนของพระยะโฮวา+ ลูกหลานของพวกเขาก็เข้ามาเป็นประชาชนของพระยะโฮวาไม่ได้ 4 เพราะเขาไม่ได้ให้ความช่วยเหลือโดยให้อาหารและน้ำตอนที่พวกคุณเดินทางออกจากอียิปต์+ แถมยังจ้างบาลาอัมลูกชายของเบโอร์จากเปโธร์ในเมโสโปเตเมียมาสาปแช่งคุณด้วย+ 5 แต่พระยะโฮวาพระเจ้าของคุณไม่ฟังบาลาอัม+ ยิ่งกว่านั้น พระยะโฮวาพระเจ้ายังเปลี่ยนคำสาปแช่งเป็นคำอวยพร+ เพราะพระยะโฮวาพระเจ้ารักพวกคุณ+ 6 อย่าทำให้พวกเขาอยู่สุขสบายหรือช่วยพวกเขาให้เจริญรุ่งเรืองตลอดชีวิตของคุณ+
7 “อย่ารังเกียจชาวเอโดม เพราะเขาเป็นพี่น้องของคุณ+
“อย่ารังเกียจชาวอียิปต์ เพราะคุณเคยเป็นคนต่างชาติในประเทศของเขา+ 8 ลูกหลานรุ่นที่ 3 ของพวกเขาสามารถเข้ามาเป็นประชาชนของพระยะโฮวาได้
9 “เมื่อตั้งค่ายทำสงครามกับศัตรู คุณต้องระวังอย่าทำให้ตัวเองไม่สะอาดในสายตาพระเจ้า+ 10 ถ้าใครไม่สะอาดเพราะมีน้ำอสุจิหลั่งออกมาตอนกลางคืน+ เขาจะต้องออกไปอยู่นอกค่าย อย่าให้เขากลับเข้ามา 11 พอถึงตอนเย็นให้เขาอาบน้ำชำระตัว แล้วกลับเข้ามาในค่ายได้หลังดวงอาทิตย์ตก+ 12 คุณจะต้องจัดที่หนึ่งไว้ต่างหาก*ข้างนอกค่าย เมื่อจะขับถ่ายคุณต้องไปที่นั่น 13 และพวกคุณต้องเอาเครื่องมือที่เป็นไม้ปลายแหลมไปด้วย เมื่อไปนั่งถ่ายคุณจะต้องเอาไม้ปลายแหลมขุดหลุมแล้วกลบอุจจาระของคุณ 14 เพราะพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณเดินอยู่ในค่าย+เพื่อจะช่วยคุณให้รอด และเพื่อจะมอบพวกศัตรูไว้ในมือคุณ ค่ายจึงต้องบริสุทธิ์+เพื่อพระองค์จะไม่เห็นสิ่งที่น่าเกลียดแล้วไปจากพวกคุณ
15 “เมื่อทาสคนไหนหนีนายของเขามาพึ่งคุณ ก็อย่าส่งเขากลับไปหานาย 16 ให้เขาอาศัยอยู่กับพวกคุณที่ไหนก็ได้ที่เขาเลือกและพอใจในเมืองของคุณ อย่าไปข่มเหงเขา+
17 “อย่าให้ลูกสาวและลูกชายของชาวอิสราเอลเป็นโสเภณีประจำวิหาร+ 18 เงินค่าตัวที่ผู้หญิงโสเภณีหรือผู้ชายโสเภณีได้รับและเอามาถวายเพื่อทำตามคำปฏิญาณของเขานั้น อย่าเอาเข้ามาในวิหารของพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณ เพราะพระยะโฮวาพระเจ้าเกลียดเงินแบบนั้น
19 “อย่าคิดดอกเบี้ยกับพี่น้องของคุณ+ ไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ยจากเงิน จากอาหาร หรือจากอะไรก็ตามที่คนเราอาจคิดดอกเบี้ยได้ 20 คุณจะคิดดอกเบี้ยกับคนต่างชาติได้+ แต่อย่าคิดดอกเบี้ยกับพี่น้องของคุณ+ เพื่อพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณจะอวยพรการงานทั้งหมดที่คุณทำในแผ่นดินที่จะเข้าไปครอบครองนั้น+
21 “ถ้าคุณปฏิญาณต่อพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณ+ ก็อย่าชักช้าที่จะทำตามคำปฏิญาณนั้น+ เพราะพระยะโฮวาพระเจ้าต้องการให้คุณทำตามคำปฏิญาณ ไม่อย่างนั้น คุณจะมีความผิด+ 22 แต่ถ้าคุณไม่ปฏิญาณ คุณก็ไม่มีความผิด+ 23 ให้รักษาคำพูดที่มาจากริมฝีปากของคุณ+ ทำตามคำปฏิญาณที่ออกมาจากปากของคุณเพราะคำปฏิญาณนั้นเป็นเหมือนเครื่องบูชาที่ถวายด้วยความสมัครใจให้พระยะโฮวาพระเจ้าของคุณ+
24 “ถ้าคุณเข้าไปในสวนองุ่นของเพื่อนบ้าน คุณเก็บองุ่นกินได้จนอิ่ม แต่อย่าเก็บใส่ภาชนะกลับไปด้วย+
25 “ถ้าเข้าไปในนาข้าวของเพื่อนบ้าน คุณเด็ดรวงข้าวที่สุกได้ แต่อย่าเอาเคียวเกี่ยวต้นข้าวของเพื่อนบ้าน+
24 “ถ้าผู้ชายกับผู้หญิงแต่งงานกัน แต่ผู้ชายไม่พอใจผู้หญิงเพราะเธอทำอะไรบางอย่างที่ไม่เหมาะสม เขาจะต้องทำหนังสือหย่าให้เธอ+ แล้วให้เธอออกจากบ้านเขาไป+ 2 เมื่อเธอไปจากบ้านของเขาแล้ว เธอจะแต่งงานใหม่ได้+ 3 ถ้าสามีคนที่สองรังเกียจเธอและทำหนังสือหย่าแล้วให้เธอออกจากบ้านไป หรือถ้าเขาตาย 4 สามีคนแรกที่เคยไล่เธอไปจะรับเธอกลับมาเป็นภรรยาอีกไม่ได้เพราะเธอแปดเปื้อนแล้ว พระยะโฮวาเกลียดการทำแบบนี้ คุณต้องไม่นำบาปเข้ามาในแผ่นดินที่พระยะโฮวาพระเจ้าจะยกให้คุณเป็นมรดก
5 “อย่าให้ผู้ชายที่เพิ่งแต่งงานออกไปทำสงครามหรือมอบหน้าที่อะไรให้เขา เขาจะได้รับการยกเว้นให้อยู่ที่บ้านเป็นเวลาหนึ่งปีเพื่อทำให้ภรรยาของเขาชื่นใจ+
6 “อย่าให้ใครยึดโม่หรือหินโม่แผ่นบนไว้เป็นของประกันการกู้ยืม+ เพราะสิ่งที่เขายึดเป็นของประกันนั้นเป็นเครื่องยังชีพของคนเรา
7 “ถ้าพบว่าใครลักพาตัวพี่น้องชาวอิสราเอลคนหนึ่งไป แล้วกระทำทารุณและขายเขา+ คนที่ลักพาตัวต้องถูกประหารชีวิต+ คุณต้องกำจัดความชั่วร้ายนี้ไปจากพวกคุณ+
8 “ถ้ามีโรคเรื้อน*เกิดขึ้น คุณต้องทำตามที่ปุโรหิตตระกูลเลวีสั่งทุกอย่างอย่างเคร่งครัด+ ต้องใส่ใจทำทุกอย่างตามที่ผมสั่งพวกเขาไว้ 9 อย่าลืมสิ่งที่พระยะโฮวาพระเจ้าของคุณทำกับมิเรียมระหว่างทางหลังจากพวกคุณออกจากอียิปต์+
10 “ถ้าคุณให้เพื่อนบ้านกู้ยืมอะไร+ อย่าเข้าไปเอาของประกันในบ้านของเขา 11 คุณต้องยืนอยู่นอกบ้าน แล้วให้คนที่กู้ยืมเอาสิ่งที่เขาจะใช้เป็นของประกันออกมา 12 และถ้าคนนั้นยากจน ก็อย่ายึดของประกันนั้นไว้ข้ามคืน+ 13 คุณจะต้องคืนสิ่งที่เขาให้เป็นของประกันนั้นก่อนดวงอาทิตย์ตก เพื่อเขาจะได้มีเสื้อคลุมใส่เวลาเข้านอน+ แล้วเขาจะอวยพรคุณ และพระยะโฮวาพระเจ้าจะถือว่าคุณเป็นคนดี
14 “อย่าโกงค่าแรงของลูกจ้างซึ่งขัดสนและยากจน ไม่ว่าเขาจะเป็นพี่น้องของคุณหรือเป็นคนต่างชาติในแผ่นดินซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองของคุณ+ 15 คุณต้องให้ค่าจ้างเขาในวันนั้น+ก่อนดวงอาทิตย์ตก เพราะเขาขัดสนและมีชีวิตอยู่ได้ก็ด้วยค่าจ้างนั้น ไม่อย่างนั้น เขาจะเอาเรื่องของคุณไปร้องทุกข์ต่อพระยะโฮวา แล้วคุณจะมีความผิด+
16 “อย่าประหารชีวิตพ่อเพราะความผิดของลูก และอย่าประหารชีวิตลูกเพราะความผิดของพ่อ+ แต่ละคนจะถูกประหารชีวิตเพราะความผิดของตัวเอง+
17 “คุณต้องให้ความยุติธรรมเมื่อตัดสินคดีความของคนต่างชาติหรือลูกกำพร้าพ่อ*+ และอย่ายึดเสื้อคลุมของแม่ม่ายมาเป็นของประกันการกู้ยืม+ 18 อย่าลืมว่าคุณเคยเป็นทาสในอียิปต์ และพระยะโฮวาพระเจ้าไถ่คุณออกมาจากที่นั่น+ นี่เป็นเหตุผลที่ผมสั่งคุณอย่างนี้
19 “เมื่อเก็บข้าวที่เกี่ยวจากทุ่งนาและลืมข้าวไว้ฟ่อนหนึ่ง อย่ากลับไปเอา คุณต้องปล่อยทิ้งไว้ให้คนต่างชาติ ลูกกำพร้าพ่อ และแม่ม่าย+ เพื่อพระยะโฮวาพระเจ้าจะอวยพรทุกสิ่งที่คุณทำ+
20 “เมื่อตีกิ่งมะกอก อย่ากลับไปตีซ้ำอีก ผลที่เหลืออยู่นั้นให้ปล่อยทิ้งไว้ให้คนต่างชาติ ลูกกำพร้าพ่อ และแม่ม่าย+
21 “เมื่อเก็บผลองุ่นจากสวน อย่ากลับไปเก็บผลที่เหลือค้างอยู่บนต้น ต้องปล่อยทิ้งไว้ให้คนต่างชาติ ลูกกำพร้าพ่อ และแม่ม่าย 22 อย่าลืมว่าคุณเคยเป็นทาสในอียิปต์ นี่เป็นเหตุผลที่ผมสั่งคุณอย่างนี้
25 “เมื่อมีข้อขัดแย้งเกิดขึ้นระหว่างคนสองคน พวกเขาจะต้องไปหาผู้พิพากษา+ และผู้พิพากษาจะตัดสินคดีความนั้นแล้วประกาศว่าใครเป็นฝ่ายถูก และใครเป็นฝ่ายผิด+ 2 ถ้าฝ่ายที่ทำผิดสมควรถูกโบย+ ผู้พิพากษาจะให้เขานอนราบกับพื้น และเขาจะต้องถูกโบยต่อหน้าผู้พิพากษา มากน้อยตามความผิดที่เขาทำ 3 อาจโบยเขาได้ถึง 40 ที+ แต่อย่าให้มากกว่านี้ ถ้าโบยเขามากกว่านี้ พี่น้องของคุณจะได้รับความอับอาย
4 “อย่าเอาตะกร้อครอบปากวัวที่นวดข้าวอยู่+
5 “ถ้าพี่ชายกับน้องชายอาศัยอยู่ใกล้กันแล้วคนหนึ่งตายไปและยังไม่มีลูกชาย ภรรยาของผู้ตายจะไปแต่งงานกับคนนอกครอบครัวไม่ได้ พี่ชายหรือน้องชายของผู้ตายจะต้องทำหน้าที่ของตัวเองโดยแต่งงานกับภรรยาของผู้ตาย+ 6 และจะถือว่าลูกชายคนโตที่เกิดจากเธอเป็นลูกของสามีที่ตายไป+ เพื่อชื่อของเขาจะไม่ถูกลบหายไปจากชาติอิสราเอล+
7 “ถ้าคนนั้นไม่ต้องการแต่งงานกับภรรยาของผู้ตาย ก็ให้ภรรยาของผู้ตายไปหาพวกผู้นำ*ที่ประตูเมืองและพูดว่า ‘พี่น้องของสามีดิฉันไม่ต้องการให้ชื่อของสามีดิฉันมีอยู่ในอิสราเอลต่อไป เขาไม่ยอมทำหน้าที่ของเขาโดยแต่งงานกับดิฉัน’ 8 พวกผู้นำ*ในเมืองที่เขาอยู่จะต้องเรียกเขามาคุยด้วย ถ้าเขายืนยันว่า ‘ผมไม่อยากแต่งงานกับเธอ’ 9 ก็ให้ภรรยาของผู้ตายเดินเข้าไปหาพี่ชายหรือน้องชายของผู้ตายต่อหน้าพวกผู้นำ* แล้วให้เธอถอดรองเท้าของเขาออกข้างหนึ่ง+ และถ่มน้ำลายใส่หน้าเขา แล้วพูดว่า ‘ต้องทำแบบนี้แหละกับคนที่ไม่ยอมให้พี่น้องของตัวเองมีลูกไว้สืบสกุล’ 10 นับจากนั้น ชาวอิสราเอลจะเรียกครอบครัวของคนนั้นว่า ‘ครอบครัวของคนที่ถูกถอดรองเท้าออก’
11 “ถ้าผู้ชายสองคนต่อสู้กัน และภรรยาของผู้ชายคนหนึ่งเข้าไปช่วยสามีไม่ให้ถูกตี แล้วเธอเอื้อมมือไปบีบของลับของผู้ชายที่ตีสามีเธอ 12 คุณจะต้องตัดมือของเธอทิ้ง ไม่ต้องสงสารเธอ
13 “อย่ามีตุ้มน้ำหนักสองชุดในถุงของคุณ+ ทั้งชุดที่หนักกว่าและชุดที่เบากว่า 14 อย่ามีเครื่องตวงสองชุดในบ้านของคุณ+ ทั้งชุดที่จุมากกว่าและชุดที่จุน้อยกว่า 15 ให้ใช้ตุ้มน้ำหนักและเครื่องตวงที่แม่นยำและเที่ยงตรงเสมอ เพื่อคุณจะมีชีวิตยืนยาวในแผ่นดินที่พระยะโฮวาพระเจ้าจะยกให้คุณ+ 16 เพราะพระยะโฮวาพระเจ้าเกลียดทุกคนที่เอาเปรียบคนอื่นโดยการทำแบบนี้+
17 “อย่าลืมสิ่งที่ชาวอามาเลขทำกับพวกคุณหลังจากพวกคุณออกจากอียิปต์+ 18 พวกเขาออกมาต่อสู้พวกคุณระหว่างทางและโจมตีคนที่อยู่รั้งท้ายซึ่งอ่อนแรงและเหนื่อยล้า เขาไม่เกรงกลัวพระเจ้าเลย 19 เมื่อพระยะโฮวาพระเจ้าให้คุณหยุดพักโดยไม่ให้พวกศัตรูที่อยู่รอบข้างมาก่อกวนในแผ่นดินที่พระยะโฮวาพระเจ้าจะยกให้คุณครอบครองเป็นมรดกนั้น+ คุณต้องกำจัดชาวอามาเลขให้สิ้นซาก เพื่อจะไม่มีใครในโลกนี้พูดถึงพวกเขาอีก+ อย่าลืมเรื่องนี้เด็ดขาด
26 “เมื่อคุณเข้าไปครอบครองและอาศัยอยู่ในแผ่นดินที่พระยะโฮวาพระเจ้าจะยกให้คุณเป็นมรดก 2 ผลแรกที่ได้จากพืชผลทั้งหมดในไร่นาซึ่งคุณเก็บเกี่ยวจากแผ่นดินที่พระยะโฮวาพระเจ้าจะยกให้คุณนั้น คุณต้องเอาส่วนหนึ่งใส่ตะกร้า และนำไปที่ที่พระยะโฮวาพระเจ้าเลือกไว้สำหรับชื่อของพระองค์+ 3 ให้ไปหาปุโรหิตที่ทำหน้าที่ในตอนนั้น แล้วพูดกับเขาว่า ‘วันนี้ ผมมารายงานตัวต่อพระยะโฮวาพระเจ้าว่า ผมได้เข้ามาอยู่ในแผ่นดินที่พระยะโฮวาสาบานไว้กับบรรพบุรุษของเราว่าจะยกให้พวกเราแล้ว’+
4 “และปุโรหิตจะรับตะกร้าจากมือของคุณไปวางที่หน้าแท่นบูชาของพระยะโฮวาพระเจ้า 5 และคุณจะต้องประกาศต่อหน้าพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณว่า ‘บรรพบุรุษของผมเป็นชาวอารัม+ที่ร่อนเร่พเนจร* เขาลงไปอียิปต์+และอาศัยอยู่ที่นั่นในฐานะคนต่างชาติพร้อมกับคนในครอบครัวไม่กี่คน+ แต่เมื่ออยู่ที่นั่น เขากลายเป็นชนชาติใหญ่ที่มีกำลังและมีจำนวนมาก+ 6 ต่อมา ชาวอียิปต์ข่มเหงและกดขี่พวกเรา และบังคับให้เราทำงานเป็นทาสอย่างไร้ความปรานี+ 7 พวกเราจึงร้องหาพระยะโฮวาพระเจ้าของบรรพบุรุษของเรา พระยะโฮวาฟังเสียงของเราและเห็นความทุกข์ยากลำบากและการกดขี่ที่พวกเราต้องเจอ+ 8 ในที่สุด พระยะโฮวาพาพวกเราออกจากอียิปต์ด้วยพลังอำนาจและความเข้มแข็งของพระองค์+ ด้วยสิ่งน่ากลัวต่าง ๆ และด้วยการอัศจรรย์กับการอิทธิฤทธิ์+ 9 แล้วพระองค์พาพวกเรามาที่นี่และมอบแผ่นดินนี้ให้เรา ซึ่งเป็นแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งมากมาย+ 10 ตอนนี้ ผมมาถวายผลแรกที่ได้จากพืชผลในไร่นาที่พระยะโฮวาให้ผม’+
“คุณต้องวางตะกร้านั้นไว้ต่อหน้าพระยะโฮวาพระเจ้าแล้วหมอบลงนมัสการพระยะโฮวาพระเจ้า 11 แล้วคุณจะชื่นชมยินดีกับสิ่งดีต่าง ๆ ที่พระยะโฮวาพระเจ้าให้คุณกับครอบครัว ให้คนในตระกูลเลวี และให้คนต่างชาติที่อยู่กับคุณ+
12 “เมื่อคุณรวบรวมส่วน 1 ใน 10+ ทั้งหมดที่ได้จากผลผลิตในปีที่ 3 ซึ่งเป็นปีแห่งการถวายส่วน 1 ใน 10 เสร็จแล้ว ให้เอาส่วน 1 ใน 10 นั้นให้คนในตระกูลเลวี คนต่างชาติ ลูกกำพร้าพ่อ* และแม่ม่าย ให้พวกเขากินจนอิ่มหนำในเมืองของคุณ+ 13 แล้วให้คุณพูดต่อหน้าพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณว่า ‘ผมเอาส่วนที่บริสุทธิ์จากบ้านไปให้คนในตระกูลเลวี คนต่างชาติ ลูกกำพร้าพ่อ และแม่ม่าย+ตามที่พระองค์สั่งผมแล้ว ผมไม่ได้ละเมิดหรือเพิกเฉยคำสั่งของพระองค์ 14 ผมไม่ได้กินสิ่งต่าง ๆ นี้ตอนไว้ทุกข์ หรือแตะต้องสิ่งทั้งหมดนี้ตอนที่ผมไม่สะอาด หรือนำสิ่งนี้ไปทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับคนตาย ผมเชื่อฟังพระยะโฮวาพระเจ้าของผม และทำทุกสิ่งตามที่พระองค์สั่ง 15 ตอนนี้ ขอพระองค์มองลงมาจากสวรรค์ซึ่งเป็นที่อยู่อันบริสุทธิ์ของพระองค์ และอวยพรชาวอิสราเอลประชาชนของพระองค์ และอวยพรแผ่นดินที่พระองค์ให้พวกเรา+ซึ่งเป็นแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งมากมาย+ ตามที่พระองค์สาบานไว้กับบรรพบุรุษของพวกเรา’+
16 “วันนี้ พระยะโฮวาพระเจ้ากำลังสั่งคุณให้ทำตามข้อกำหนดและข้อกฎหมายต่าง ๆ นี้ ซึ่งคุณจะต้องถือรักษาและทำตามสุดหัวใจ+และสุดชีวิตของคุณ 17 วันนี้ พระยะโฮวาประกาศให้คุณรู้ว่าพระองค์จะเป็นพระเจ้าของคุณ เมื่อคุณเดินในทางของพระองค์ ทำตามข้อกำหนด+ ข้อบัญญัติ+ และข้อกฎหมาย+ของพระองค์ และเชื่อฟังพระองค์ 18 และวันนี้ คุณก็ได้ประกาศให้พระยะโฮวารู้ว่าคุณจะเป็นประชาชนของพระองค์ เป็นชนชาติพิเศษ*+ของพระองค์ตามที่พระองค์สัญญาไว้กับคุณ และประกาศว่าจะทำตามข้อบัญญัติทั้งหมดของพระองค์ 19 และถ้าคุณพิสูจน์ตัวเป็นชนชาติที่บริสุทธิ์สำหรับพระยะโฮวาพระเจ้า+ พระองค์ก็จะยกคุณให้สูงเหนือชนชาติอื่น ๆ ทั้งหมดที่พระองค์สร้างขึ้นมา+ พระองค์จะทำให้คุณได้รับการยกย่อง มีชื่อเสียง และมีเกียรติ ตามที่พระองค์สัญญาไว้”
27 ต่อมาโมเสสกับพวกผู้นำของชาวอิสราเอลก็ยืนต่อหน้าประชาชน แล้วโมเสสก็สั่งว่า “ให้ทำตามข้อบัญญัติทั้งหมดที่ผมกำลังชี้แจงให้พวกคุณทราบในวันนี้ 2 เมื่อพวกคุณข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าไปในแผ่นดินที่พระยะโฮวาพระเจ้าจะยกให้คุณนั้น ให้ตั้งหินก้อนใหญ่จำนวนหนึ่งไว้ เอาปูนขาวทาที่หิน+ 3 แล้วเขียนทุกคำในข้อบัญญัตินี้ไว้บนหินพวกนั้นเมื่อคุณข้ามแม่น้ำเข้าไปในแผ่นดินที่พระยะโฮวาพระเจ้าจะยกให้คุณ ซึ่งเป็นแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งมากมาย ตามที่พระยะโฮวาพระเจ้าของบรรพบุรุษของคุณสัญญาไว้+ 4 เมื่อข้ามแม่น้ำจอร์แดนแล้ว ให้ตั้งหินพวกนั้นไว้ที่ภูเขาเอบาล+และทาด้วยปูนขาวตามที่ผมกำลังสั่งพวกคุณในวันนี้ 5 และให้สร้างแท่นบูชาให้พระยะโฮวาพระเจ้าแท่นหนึ่งที่นั่นด้วย เป็นแท่นที่สร้างด้วยหิน อย่าเอาเหล็กมาสกัดหินพวกนั้น+ 6 คุณต้องสร้างแท่นบูชาให้พระยะโฮวาพระเจ้าของคุณด้วยหินที่ไม่มีการตัดแต่ง และถวายเครื่องบูชาเผาให้พระยะโฮวาพระเจ้าบนแท่นนั้น 7 คุณต้องถวายเครื่องบูชาผูกมิตร+และกินส่วนของเครื่องบูชาที่นั่น+ และชื่นชมยินดีต่อหน้าพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณ+ 8 ให้เขียนทุกคำในข้อบัญญัตินี้ไว้บนหินให้ชัดเจน”+
9 จากนั้น โมเสสกับพวกปุโรหิตตระกูลเลวีก็ยืนต่อหน้าชาวอิสราเอลแล้วพูดว่า “ชาวอิสราเอล ขอให้เงียบและฟัง ตอนนี้คุณได้เป็นประชาชนของพระยะโฮวาพระเจ้าแล้ว+ 10 คุณจะต้องฟังพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณและทำตามข้อบัญญัติ+และข้อกำหนดของพระองค์ ซึ่งผมสั่งพวกคุณในวันนี้”
11 ในวันนั้น โมเสสสั่งประชาชนว่า 12 “เมื่อพวกคุณข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปแล้ว ให้ตระกูลต่อไปนี้ยืนอยู่ที่ภูเขาเกริซิม+เพื่อพูดถึงพรที่ประชาชนจะได้รับ คือ ตระกูลสิเมโอน เลวี ยูดาห์ อิสสาคาร์ โยเซฟ และตระกูลเบนยามิน 13 และให้ตระกูลต่อไปนี้ยืนอยู่ที่ภูเขาเอบาล+เพื่อพูดถึงคำสาปแช่ง คือ ตระกูลรูเบน กาด อาเชอร์ เศบูลุน ดาน และตระกูลนัฟทาลี 14 แล้วให้คนเลวีพูดกับชาวอิสราเอลด้วยเสียงดังว่า+
15 “‘คนที่ทำรูปเคารพไม่ว่ารูปแกะสลัก+หรือรูปหล่อโลหะ+ และคนที่ซ่อนรูปเคารพไว้จะต้องถูกสาปแช่ง พระยะโฮวาเกลียดรูปพวกนั้น+ มันเป็นแค่ผลงานที่เกิดจากฝีมือช่าง’ (แล้วให้ประชาชนทุกคนพูดว่า ‘อาเมน’*)
16 “‘คนที่ดูหมิ่นพ่อแม่ของตัวเองจะต้องถูกสาปแช่ง’+ (แล้วให้ประชาชนทุกคนพูดว่า ‘อาเมน’)
17 “‘คนที่ย้ายหลักเขตของเพื่อนบ้านจะต้องถูกสาปแช่ง’+ (แล้วให้ประชาชนทุกคนพูดว่า ‘อาเมน’)
18 “‘คนที่ทำให้คนตาบอดหลงทางจะต้องถูกสาปแช่ง’+ (แล้วให้ประชาชนทุกคนพูดว่า ‘อาเมน’)
19 “‘คนที่บิดเบือนความยุติธรรมเมื่อตัดสินคดีความ+ของคนต่างชาติ ลูกกำพร้าพ่อ* หรือแม่ม่ายจะต้องถูกสาปแช่ง’+ (แล้วให้ประชาชนทุกคนพูดว่า ‘อาเมน’)
20 “‘คนที่มีเพศสัมพันธ์กับภรรยาของพ่อจะต้องถูกสาปแช่ง เพราะเขาทำให้พ่อได้รับความอับอาย’+ (แล้วให้ประชาชนทุกคนพูดว่า ‘อาเมน’)
21 “‘คนที่มีเพศสัมพันธ์กับสัตว์จะต้องถูกสาปแช่ง’+ (แล้วให้ประชาชนทุกคนพูดว่า ‘อาเมน’)
22 “‘คนที่มีเพศสัมพันธ์กับพี่สาวหรือน้องสาวแท้ ๆ พี่สาวหรือน้องสาวคนละแม่ พี่สาวหรือน้องสาวคนละพ่อจะต้องถูกสาปแช่ง’+ (แล้วให้ประชาชนทุกคนพูดว่า ‘อาเมน’)
23 “‘คนที่มีเพศสัมพันธ์กับแม่ของภรรยาจะต้องถูกสาปแช่ง’+ (แล้วให้ประชาชนทุกคนพูดว่า ‘อาเมน’)
24 “‘คนที่ดักฆ่าคนอื่นจะต้องถูกสาปแช่ง’+ (แล้วให้ประชาชนทุกคนพูดว่า ‘อาเมน’)
25 “‘คนที่รับสินบนซึ่งทำให้คนบริสุทธิ์ต้องตายจะต้องถูกสาปแช่ง’+ (แล้วให้ประชาชนทุกคนพูดว่า ‘อาเมน’)
26 “‘คนที่ไม่ถือรักษาและทำตามข้อบัญญัตินี้จะต้องถูกสาปแช่ง’+ (แล้วให้ประชาชนทุกคนพูดว่า ‘อาเมน’)
28 “ถ้าคุณฟังพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณโดยตั้งใจทำตามข้อบัญญัติทั้งหมดของพระองค์ซึ่งผมกำลังชี้แจงให้ทราบในวันนี้ พระยะโฮวาพระเจ้าจะยกคุณให้สูงเหนือกว่าชนชาติอื่น ๆ ทั้งหมดในโลก+ 2 และถ้าคุณเอาใจใส่ฟังเสียงของพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณอยู่เสมอ พรมากมายทั้งหมดนี้จะเป็นของคุณ+ คือ
3 “คุณจะได้รับพรในเมือง และได้รับพรในทุ่งนา+
4 “คุณจะได้รับพรให้มีลูกหลานมากมาย+ พืชผลในไร่นาจะอุดมสมบูรณ์ และฝูงสัตว์ของคุณก็จะมีลูกดก ทั้งลูกวัวและลูกแกะ+
5 “พระเจ้าจะอวยพรตะกร้าที่ใส่พืชผล+ และอวยพรอ่างนวดแป้งของคุณ+
6 “คุณจะได้รับพรไม่ว่าจะไปที่ไหนหรือทำอะไร
7 “พระยะโฮวาจะทำให้พวกที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับคุณพ่ายแพ้+ พวกเขาจะมาโจมตีคุณทางเดียว แต่จะหนีกระเจิดกระเจิงไป 7 ทาง+ 8 พระยะโฮวาจะอวยพรยุ้งฉางของคุณ+และทุกสิ่งที่คุณทำ พระยะโฮวาพระเจ้าจะอวยพรคุณในแผ่นดินที่พระองค์จะยกให้ 9 พระยะโฮวาจะตั้งคุณเป็นชนชาติบริสุทธิ์ของพระองค์+ตามที่พระองค์สาบานไว้กับคุณ+ เพราะคุณทำตามข้อบัญญัติของพระยะโฮวาพระเจ้าและใช้ชีวิตตามแนวทางของพระองค์เสมอ 10 แล้วชนทุกชาติในโลกจะเห็นว่าคุณเป็นประชาชนที่ถูกเรียกตามชื่อของพระยะโฮวา+ และพวกเขาจะเกรงกลัวคุณ+
11 “พระยะโฮวาจะทำให้พวกคุณมีลูกหลาน มีฝูงสัตว์ และมีพืชผลมากมาย+เต็มแผ่นดินที่พระยะโฮวาสาบานไว้กับบรรพบุรุษของคุณว่าจะยกให้+ 12 พระยะโฮวาจะเปิดท้องฟ้าซึ่งเป็นคลังอันอุดมสมบูรณ์ของพระองค์เพื่อให้ฝนตกลงมาที่แผ่นดินของคุณตามฤดูกาล+ และจะอวยพรทุกสิ่งที่คุณทำ คุณจะให้คนหลายชาติยืม แต่คุณจะไม่ต้องไปยืมใคร+ 13 พระยะโฮวาจะทำให้คุณนำหน้า ไม่ต้องตามหลัง คุณจะอยู่เหนือชาติอื่น ๆ+ ไม่ต้องอยู่ใต้อำนาจพวกเขา ถ้าคุณเชื่อฟังข้อบัญญัติของพระยะโฮวาพระเจ้าเสมอ ซึ่งในวันนี้ผมกำลังสั่งคุณให้ถือรักษาและทำตาม 14 อย่าทำอะไรผิดไปจากที่ผมกำลังสั่งพวกคุณในวันนี้+ แล้วไปกราบไหว้นมัสการพระอื่น+
15 “แต่ถ้าพวกคุณไม่เชื่อฟังพระยะโฮวาพระเจ้า ไม่ใส่ใจทำตามข้อบัญญัติและข้อกำหนดทั้งหมดของพระองค์ซึ่งผมกำลังชี้แจงให้ทราบในวันนี้ คำสาปแช่งทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นกับคุณ คือ+
16 “คุณจะถูกสาปแช่งในเมือง และถูกสาปแช่งในทุ่งนา+
17 “พระเจ้าจะสาปแช่งตะกร้าที่ใส่พืชผล+ และสาปแช่งอ่างนวดแป้งของคุณ+
18 “คุณจะถูกสาปแช่งไม่ให้มีลูกหลาน+ ไม่ให้มีพืชผลในไร่นา และไม่ให้ฝูงสัตว์ของคุณมีลูก ไม่ว่าลูกวัวหรือลูกแกะ+
19 “คุณจะถูกสาปแช่งไม่ว่าจะไปที่ไหนหรือทำอะไร
20 “พระยะโฮวาจะสาปแช่งคุณไม่ว่าคุณจะทำอะไร พระองค์จะทำให้คุณสับสนวุ่นวาย จะลงโทษคุณจนคุณถูกทำลายและพินาศไปอย่างรวดเร็ว เพราะคุณทำสิ่งชั่วร้ายและทิ้งพระองค์ไป+ 21 พระยะโฮวาจะทำให้พวกคุณเจอกับโรคระบาด จนกว่าพวกคุณจะถูกกำจัดให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินที่จะเข้าไปครอบครอง+ 22 พระยะโฮวาจะลงโทษพวกคุณด้วยวัณโรค ไข้สูง+ การอักเสบ ความร้อนจัด คมดาบ+ และจะทำให้พืชผักของคุณเหี่ยวเฉาเพราะความแห้งแล้งและเป็นโรค+ สิ่งต่าง ๆ นี้จะตามหลอกหลอนคุณจนกว่าคุณจะพินาศ 23 พระองค์จะปิดท้องฟ้าไม่ให้ฝนตก* และจะทำให้แผ่นดินไม่เกิดพืชผล*+ 24 พระยะโฮวาจะทำให้ฝุ่นละอองตกลงมาจากท้องฟ้าแทนฝนในแผ่นดินของคุณจนคุณต้องพินาศ 25 พระยะโฮวาจะทำให้พวกคุณพ่ายแพ้ศัตรู+ คุณจะไปโจมตีพวกเขาทางเดียว แต่จะต้องหนีกระเจิดกระเจิงไป 7 ทาง และอาณาจักรทั้งหมดในโลกจะต้องตกใจเมื่อเห็นความหายนะของพวกคุณ+ 26 ซากศพของพวกคุณจะเป็นอาหารของนกทุกชนิดในท้องฟ้าและของสัตว์ทุกชนิดบนแผ่นดิน และจะไม่มีใครไล่พวกมันไป+
27 “พระยะโฮวาจะลงโทษพวกคุณด้วยฝีที่เกิดกับชาวอียิปต์ ริดสีดวงทวาร ผิวหนังอักเสบ และผื่นคัน ซึ่งไม่มีทางจะรักษาได้ 28 พระยะโฮวาจะลงโทษพวกคุณโดยทำให้จิตใจของคุณคลุ้มคลั่ง มืดบอด+ และสับสน 29 คุณจะต้องคลำหาทางในเวลากลางวันเหมือนคนตาบอดที่คลำทางในความมืดมิด+ คุณทำอะไรก็จะไม่ประสบความสำเร็จ คุณจะถูกโกงและถูกปล้นอยู่เรื่อย ๆ จะไม่มีใครช่วยคุณได้เลย+ 30 คุณจะหมั้นผู้หญิงคนหนึ่งไว้ แต่ผู้ชายอื่นจะมาข่มขืนเธอ คุณจะสร้างบ้านแต่จะไม่ได้อยู่+ จะทำสวนองุ่นแต่จะไม่ได้กินผล+ 31 วัวของคุณจะถูกฆ่าต่อหน้าต่อตาคุณ แต่คุณจะไม่ได้กินเนื้อของมัน ลาของคุณจะถูกขโมยไปต่อหน้าต่อตาคุณ แต่คุณจะไม่ได้มันคืนมา ศัตรูจะเอาแกะของคุณไป แต่จะไม่มีใครช่วยคุณได้ 32 คุณได้แต่ยืนดูตอนที่ชนชาติอื่นเอาลูกชายและลูกสาวของคุณไป+ คุณจะเฝ้าคิดถึงพวกเขาแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ 33 พืชผลในไร่นาและผลผลิตทุกอย่างของคุณจะเป็นอาหารของชนชาติอื่นที่คุณไม่รู้จัก+ คุณจะถูกโกงและถูกกดขี่อยู่เรื่อย ๆ 34 คุณจะคลุ้มคลั่งเพราะสิ่งที่เห็น
35 “พระยะโฮวาจะลงโทษคุณให้เป็นฝีที่เจ็บปวดและไม่มีทางจะรักษาได้ทั้งที่เข่าและขา ตั้งแต่ฝ่าเท้าจนถึงกระหม่อม 36 พระยะโฮวาจะไล่คุณกับกษัตริย์ที่คุณตั้งขึ้นไปประเทศที่คุณกับบรรพบุรุษของคุณไม่รู้จัก+ และที่นั่นคุณจะนมัสการพระอื่นที่ทำด้วยไม้และหิน+ 37 และชาติอื่น ๆ ที่พระยะโฮวาไล่คุณไปอยู่นั้นจะตกใจ ดูหมิ่นเหยียดหยามและเยาะเย้ยคุณ+
38 “คุณจะหว่านพืชมากมายในไร่นา แต่จะเก็บเกี่ยวได้น้อย+เพราะตั๊กแตนจะมากิน 39 คุณจะทำสวนองุ่นและพรวนดินรดน้ำ แต่จะไม่ได้กินเหล้าองุ่นและเก็บผลเลย+ เพราะตัวหนอนมากินหมด 40 คุณจะมีต้นมะกอกอยู่ทั่วแผ่นดิน แต่จะไม่มีน้ำมันมะกอกมาทาตัวเพราะผลมะกอกร่วงหมด 41 คุณจะมีลูกชายและลูกสาวแต่พวกเขาจะไม่ได้อยู่กับคุณ เพราะพวกเขาถูกจับไปเป็นเชลย+ 42 ฝูงแมลงจะมาทำลายต้นไม้และพืชผลทั้งหมดในแผ่นดินของคุณ 43 คนต่างชาติที่อยู่ในแผ่นดินของคุณจะรุ่งเรืองขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนคุณมีแต่จะตกต่ำลง 44 เขาจะให้คุณยืม แต่คุณจะไม่มีอะไรให้เขายืม+ เขาจะนำหน้า แต่คุณจะตามหลัง+
45 “คำสาปแช่งทั้งหมดนี้+จะเกิดขึ้นกับคุณและติดตามคุณไปจนกว่าคุณจะพินาศ+ เพราะคุณไม่เชื่อฟังพระยะโฮวาพระเจ้า ไม่ทำตามข้อบัญญัติและข้อกำหนดซึ่งพระองค์สั่งคุณไว้+ 46 และคำสาปแช่งจะเกิดขึ้นกับคุณและลูกหลานของคุณ เป็นหลักฐานและเครื่องเตือนใจตลอดไป+ 47 เพราะคุณไม่รับใช้พระยะโฮวาพระเจ้าของคุณด้วยความชื่นชมยินดีจากหัวใจตอนที่คุณมีทุกสิ่งมากมาย+ 48 พระยะโฮวาจะส่งศัตรูของคุณมาสู้รบกับคุณ และคุณจะต้องรับใช้พวกเขา+ทั้ง ๆ ที่หิว+ กระหาย ไม่มีอะไรจะสวมใส่ และขาดแคลนทุกสิ่งทุกอย่าง พระองค์จะเอาแอกเหล็กใส่คอคุณจนกว่าคุณจะพินาศ
49 “พระยะโฮวาจะให้ชาติที่อยู่ห่างไกลชาติหนึ่ง+จากสุดขอบโลกมาต่อสู้คุณ เป็นชาติที่คุณไม่เข้าใจภาษาของเขา+ และเขาจะตะครุบคุณเหมือนนกอินทรีตะครุบเหยื่อ+ 50 ชาตินี้เป็นคนหน้าตาดุร้าย ไม่นับถือผู้สูงอายุและไม่เมตตาเด็ก ๆ+ 51 พวกเขาจะกินลูกสัตว์ที่เกิดจากฝูงสัตว์ของคุณและจะกินผลไม้จากไร่นาของคุณจนกว่าคุณจะพินาศ พวกเขาจะไม่เหลือข้าว เหล้าองุ่นใหม่ น้ำมัน ลูกวัวหรือลูกแกะไว้ให้คุณเลยจนกว่าพวกคุณจะถูกทำลายจนหมดสิ้น+ 52 พวกเขาจะปิดล้อมคุณไว้ทุกเมืองทั่วแผ่นดินของคุณ จนกว่ากำแพงที่สูงและป้อมปราการซึ่งคุณวางใจจะพังลงมา พวกเขาจะปิดล้อมคุณไว้ทุกเมืองทั่วแผ่นดินซึ่งพระยะโฮวาพระเจ้ายกให้คุณ+ 53 แล้วคุณจะต้องกินลูกของตัวเอง พวกคุณจะกินเนื้อลูกชายลูกสาวของตัวเอง+ซึ่งเป็นลูกที่พระยะโฮวาพระเจ้ามอบให้ เพราะการปิดล้อมที่แน่นหนาและความทุกข์ลำบากที่เกิดจากศัตรูของคุณ
54 “แม้ผู้ชายที่บอบบางและใจอ่อนที่สุดในพวกคุณก็จะไม่สงสารพี่น้องของเขา หรือภรรยาที่เขารัก หรือลูก ๆ ของเขาที่ยังมีชีวิตอยู่ 55 เขาจะกินเนื้อลูกและจะไม่แบ่งให้ใครเลย เขาไม่มีอะไรเหลือแล้ว เพราะศัตรูปิดล้อมเมืองต่าง ๆ ไว้อย่างแน่นหนาและทำให้เกิดความทุกข์ลำบากอย่างหนัก+ 56 ผู้หญิงที่บอบบางและใจอ่อนในพวกคุณซึ่งไม่คิดแม้แต่จะเอาเท้าเปล่าแตะพื้นเพราะเธอเป็นคนบอบบางมาก+ก็จะไม่สงสารสามีที่เธอรัก และไม่สงสารลูกชายลูกสาวของตัวเอง 57 เธอจะกินเนื้อลูกที่เธอคลอดออกมาและไม่ยอมแบ่งให้ใครกิน แม้แต่รกที่ออกมาจากท้อง เธอก็ไม่ยอมแบ่งให้ใคร เธอจะแอบกินเองทั้งหมด เพราะศัตรูปิดล้อมเมืองต่าง ๆ ไว้อย่างแน่นหนาและทำให้เกิดความทุกข์ลำบากอย่างหนัก
58 “ถ้าคุณไม่ใส่ใจทำตามข้อกฎหมายที่เขียนไว้ในม้วนหนังสือนี้+ และไม่เกรงกลัวชื่อของพระยะโฮวา+พระเจ้าของคุณซึ่งเป็นชื่อที่สูงส่งและน่าเกรงขาม+ 59 พระยะโฮวาจะนำภัยพิบัติที่ร้ายแรงอย่างยิ่งมาถึงคุณและลูกหลานของคุณ เป็นภัยพิบัติที่น่ากลัวและยาวนาน+ พร้อมทั้งจะนำความเจ็บป่วยที่เรื้อรังและก่อความทุกข์มาให้คุณด้วย 60 โรคภัยทั้งหมดที่เกิดกับชาวอียิปต์ซึ่งคุณเคยหวาดกลัวนั้นพระองค์จะทำให้เกิดกับคุณและโรคพวกนั้นจะอยู่กับคุณไปตลอด 61 ไม่เพียงเท่านี้ พระยะโฮวาจะนำความเจ็บป่วยและภัยพิบัติทุกชนิดที่ไม่มีเขียนไว้ในม้วนหนังสือกฎหมายนี้มาถึงคุณด้วย จนกว่าคุณจะพินาศไป 62 แม้พวกคุณจะมีจำนวนมากมายเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า+ แต่พวกคุณจะเหลือผู้คนเพียงน้อยนิด+เพราะคุณไม่เชื่อฟังพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณ
63 “พระยะโฮวาเคยยินดีที่ทำให้พวกคุณรุ่งเรืองและเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างไร พระยะโฮวาก็จะยินดีที่จะทำลายและกำจัดพวกคุณให้สิ้นซากอย่างนั้น พวกคุณจะต้องถูกไล่ออกไปจากแผ่นดินที่กำลังจะเข้าไปครอบครอง
64 “พระยะโฮวาจะทำให้คุณกระจัดกระจายไปอยู่ในชาติต่าง ๆ ตั้งแต่สุดขอบโลกด้านนี้ไปถึงด้านโน้น+ และที่นั่นคุณจะนมัสการพระอื่นที่ทำด้วยไม้และหิน ซึ่งคุณและบรรพบุรุษของคุณไม่เคยรู้จัก+ 65 คุณจะไม่มีความสงบสุขเมื่ออยู่กับชาติพวกนั้น+ และจะไม่มีที่ให้เท้าของคุณได้วางพักเลย พระยะโฮวาจะทำให้คุณวิตกกังวลใจ+ ตาของคุณจะมองอย่างละห้อยและจะมีแต่ความสิ้นหวัง+ 66 ชีวิตของคุณจะเต็มไปด้วยอันตราย คุณจะหวาดกลัวทั้งกลางวันและกลางคืน คุณจะไม่รู้เลยว่าจะรอดชีวิตหรือไม่ 67 ในตอนเช้าคุณจะพูดว่า ‘อยากให้เป็นตอนเย็น’ และในตอนเย็นคุณก็จะพูดว่า ‘อยากให้เป็นตอนเช้า’ เพราะความหวาดกลัวที่เกาะกุมในหัวใจของคุณและเพราะสิ่งที่คุณจะได้เห็น 68 และพระยะโฮวาจะพาคุณกลับไปอียิปต์ทางเรือ กลับไปที่ที่ผมเคยบอกคุณว่า ‘คุณจะไม่เห็นอีกเลย’ และที่นั่นพวกคุณจะต้องขายตัวเองไปเป็นทาสผู้ชายและทาสผู้หญิงให้กับพวกศัตรู แต่จะไม่มีใครซื้อคุณ”
29 ต่อไปนี้คือสัญญาที่พระยะโฮวาสั่งโมเสสให้ทำกับชาวอิสราเอลในแผ่นดินโมอับ นอกเหนือจากสัญญาที่พระองค์ทำกับพวกเขาที่โฮเรบ+
2 โมเสสเรียกชาวอิสราเอลทุกคนมา แล้วพูดกับพวกเขาว่า “พวกคุณก็ได้เห็นทุกสิ่งที่พระยะโฮวาทำในอียิปต์ด้วยตาตัวเองแล้ว ได้เห็นสิ่งที่พระองค์ทำกับฟาโรห์ พวกข้าราชการ และทำกับแผ่นดินของเขา+ 3 ได้เห็นการพิพากษาลงโทษอันหนักหน่วง และการอัศจรรย์กับการอิทธิฤทธิ์อันยิ่งใหญ่+ 4 แต่พระยะโฮวายังไม่ได้ช่วยคุณให้เข้าใจว่าสิ่งที่ตาของคุณเห็นและสิ่งที่หูของคุณได้ยินนั้นหมายความว่ายังไงจนถึงทุกวันนี้+ 5 พระองค์พูดว่า ‘ตอนที่เรานำทางพวกเจ้าในที่กันดาร 40 ปี+ เสื้อผ้าของพวกเจ้าก็ไม่เก่า รองเท้าก็ไม่สึก+ 6 ถึงพวกเจ้าจะไม่มีขนมปัง ไม่มีเหล้าองุ่นหรือเครื่องดื่มมึนเมา แต่เราก็ดูแลพวกเจ้า พวกเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือยะโฮวาพระเจ้าของเจ้า’ 7 ในที่สุด พวกคุณก็มาถึงที่นี่ และสิโหนกษัตริย์ที่อยู่ในเฮชโบน+กับโอกกษัตริย์แห่งบาชาน+ออกมาต่อสู้กับเรา แต่เราเอาชนะพวกเขาได้+ 8 จากนั้น เราก็ยึดเอาแผ่นดินของพวกเขาแล้วยกให้เป็นที่ดินมรดกของตระกูลรูเบน ตระกูลกาด และตระกูลมนัสเสห์ครึ่งตระกูล+ 9 ดังนั้น ขอให้เชื่อฟังและทำตามสัญญานี้ เพื่อทุกสิ่งที่พวกคุณทำจะสำเร็จ+
10 “พวกคุณทุกคนมายืนอยู่ที่นี่ในวันนี้ต่อหน้าพระยะโฮวาพระเจ้า ทั้งพวกหัวหน้าจากตระกูลต่าง ๆ พวกผู้นำ พวกเจ้าหน้าที่ ผู้ชายชาวอิสราเอลทุกคน 11 ลูก ๆ ของคุณ ภรรยาของคุณ+ และคนต่างชาติ+ที่อยู่ในค่ายพัก ไม่ว่าจะเป็นคนเก็บฟืนหรือคนตักน้ำ 12 เพื่อคุณกับพระยะโฮวาจะเป็นคู่สัญญากัน ซึ่งเป็นสัญญาที่พระยะโฮวากำลังทำกับคุณในวันนี้โดยที่พระองค์ให้คำสาบานไว้ด้วย+ 13 เพื่อจะตั้งคุณให้เป็นประชาชนของพระองค์+ในวันนี้ และเพื่อพระองค์จะเป็นพระเจ้าของคุณ+ ตามที่พระองค์สัญญาไว้กับคุณ และสาบานไว้กับบรรพบุรุษของคุณ คือ อับราฮัม+ อิสอัค+ และยาโคบ+
14 “สัญญาที่ผมจะทำพร้อมกับคำสาบานนี้ไม่ใช่ทำกับพวกคุณเท่านั้น 15 แต่เป็นสัญญาที่ทำกับทั้งคนที่ยืนอยู่ที่นี่กับพวกเราในวันนี้ต่อหน้าพระยะโฮวาพระเจ้า และกับคนรุ่นหลังด้วย* 16 (เพราะพวกคุณก็รู้ดีว่าเรามีชีวิตอยู่ในอียิปต์ยังไง และเราเดินทางผ่านชนชาติต่าง ๆ มายังไง+ 17 และพวกคุณได้เห็นสิ่งน่าเกลียดของพวกเขา คือ รูปเคารพที่น่าขยะแขยง*+ที่อยู่กับพวกเขาซึ่งทำด้วยไม้ หิน เงิน และทอง) 18 ระวังให้ดี อย่าให้ใครในวันนี้ไม่ว่าผู้ชาย ผู้หญิง ครอบครัว หรือตระกูลไหนคิดทิ้งพระยะโฮวาพระเจ้าของเราแล้วไปนมัสการพระของชนชาติพวกนั้น+ เพื่อจะไม่มีใครเป็นเหมือนรากของต้นไม้ที่มีพิษและขม*+
19 “แต่ถ้ามีใครได้ยินคำสาบานนี้ แถมนึกอวดดีในใจว่า ‘ถึงจะใช้ชีวิตตามใจชอบ ผมก็ไม่เห็นว่าจะเดือดร้อนอะไร’ เขาก็กำลังทำให้ตัวเขาเองและทุกสิ่งที่เขาทำเกิดความหายนะ 20 พระยะโฮวาจะไม่ให้อภัยเขาแน่+ ความโกรธของพระยะโฮวาจะเป็นเหมือนไฟที่เผาผลาญเขา แล้วคำสาปแช่งทั้งหมดที่เขียนไว้ในม้วนหนังสือนี้จะเกิดขึ้นกับเขา+ และพระยะโฮวาจะทำให้เขาสิ้นชื่อไปจากโลก 21 พระยะโฮวาจะแยกเขาออกจากชาวอิสราเอลทุกตระกูล เพื่อให้เขาเจอกับความหายนะตามคำสาปแช่งทั้งหมดในสัญญาที่เขียนไว้ในม้วนหนังสือกฎหมายนี้
22 “เมื่อลูกหลานรุ่นต่อ ๆ ไปของคุณ และคนต่างชาติจากดินแดนห่างไกลเห็นภัยพิบัติในแผ่นดินนั้น และโรคภัยต่าง ๆ ที่พระยะโฮวาทำให้เกิดขึ้น 23 รวมทั้งกำมะถัน เกลือ และการเผาไหม้ จนทั้งแผ่นดินไม่สามารถหว่าน ปลูก หรือมีต้นพืชงอกขึ้นมา และต้นผักก็ไม่สามารถงอกขึ้นได้เลย เหมือนกับเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์+ เมืองอัดมาห์ และเมืองเศโบยิม+ ซึ่งพระยะโฮวาทำลายด้วยความโกรธอันรุนแรงของพระองค์ 24 พวกเขาและชนชาติต่าง ๆ จะพูดว่า ‘ทำไมพระยะโฮวาทำอย่างนี้กับแผ่นดินนี้?+ ทำไมพระองค์ถึงโกรธพวกเขาอย่างนี้?’ 25 แล้วผู้คนก็จะพูดว่า ‘เป็นเพราะพวกเขาละเมิดสัญญาที่ทำกับพระยะโฮวา+พระเจ้าของบรรพบุรุษของเขา สัญญานี้พระองค์ทำกับเขาตอนที่พาเขาออกจากอียิปต์+ 26 และพวกเขาหันไปกราบไหว้นมัสการพระอื่น ซึ่งเป็นพระที่พวกเขาไม่เคยรู้จักและเป็นพระที่พระองค์ไม่ยอมให้พวกเขานมัสการ+ 27 แล้วพระยะโฮวาก็โกรธพวกเขามาก พระองค์ทำให้คำสาปแช่งทั้งหมดที่เขียนไว้ในม้วนหนังสือนี้เกิดขึ้นกับแผ่นดินนั้น+ 28 ดังนั้น พวกเขาถูกพระยะโฮวาถอนรากถอนโคนออกจากแผ่นดินเพราะพระองค์โกรธเคือง+พวกเขามาก และพระองค์ขับไล่พวกเขาไปอีกแผ่นดินหนึ่งซึ่งพวกเขากำลังอาศัยอยู่นี้’+
29 “พระยะโฮวาพระเจ้าของเรารู้ความลับทุกอย่าง+ แต่พระองค์ก็มอบสิ่งที่พระองค์ต้องการเปิดเผยให้เรากับลูกหลานของเราตลอดไป เพื่อพวกเราจะทำตามข้อบัญญัติทั้งหมดนี้+
30 “เมื่อคำอวยพรและคำสาปแช่งที่ผมชี้แจงกับคุณทั้งหมดนี้เกิดขึ้น+ และคุณนึกขึ้นได้+ตอนอยู่ในประเทศต่าง ๆ ที่พระยะโฮวาพระเจ้าทำให้คุณกระจัดกระจายไปอยู่นั้น+ 2 และคุณกลับมาหาพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณ+ และเชื่อฟังพระองค์อย่างสุดหัวใจและสุดชีวิต ทำตามทุกสิ่งที่ผมกำลังสั่งคุณในวันนี้ ทั้งตัวคุณเองและลูกหลานของคุณ+ 3 พระยะโฮวาพระเจ้าก็จะช่วยคุณให้พ้นจากการเป็นเชลยและพาคุณกลับมา+ พระองค์จะเมตตาคุณ+ และจะรวบรวมคุณจากชาติต่าง ๆ ที่พระยะโฮวาพระเจ้าให้คุณกระจัดกระจายไปอยู่นั้น+ 4 ถึงแม้ว่าพวกคุณจะกระจัดกระจายไปจนสุดขอบโลก พระยะโฮวาพระเจ้าก็จะรวบรวมคุณกลับมา+ 5 พระยะโฮวาพระเจ้าจะพาคุณมาถึงแผ่นดินที่บรรพบุรุษของคุณยึดครอง และคุณจะครอบครองแผ่นดินนั้น พระองค์จะทำให้คุณรุ่งเรืองและเพิ่มจำนวนขึ้นจนมีมากกว่าบรรพบุรุษของคุณ+ 6 พระยะโฮวาพระเจ้าจะทำให้หัวใจของคุณและของลูกหลานสะอาด+ เพื่อคุณจะรักพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณอย่างสุดหัวใจและสุดชีวิตและมีชีวิตอยู่ต่อไป+ 7 แล้วพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณจะให้คำสาปแช่งทั้งหมดนี้ไปตกอยู่กับศัตรูที่เกลียดชังและข่มเหงคุณ+
8 “เมื่อคุณกลับมาเชื่อฟังพระยะโฮวาและทำตามข้อบัญญัติทั้งหมดของพระองค์ซึ่งผมกำลังชี้แจงให้คุณทราบในวันนี้ 9 พระยะโฮวาพระเจ้าจะทำให้ทุกสิ่งที่คุณทำเจริญรุ่งเรือง+ จะทำให้คุณมีลูก มีฝูงสัตว์ และมีพืชผลจากแผ่นดินเพิ่มขึ้น เพราะพระยะโฮวายินดีที่จะทำให้คุณกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่ง เหมือนกับที่พระองค์เคยยินดีทำให้บรรพบุรุษของคุณ+ 10 ตอนนั้นคุณจะเชื่อฟังพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณ และทำตามข้อบัญญัติและข้อกำหนดของพระองค์ที่เขียนไว้ในม้วนหนังสือกฎหมายนี้ และคุณจะกลับมาหาพระยะโฮวาพระเจ้าของคุณอย่างสุดหัวใจและสุดชีวิต+
11 “เพราะข้อบัญญัติที่ผมกำลังชี้แจงให้คุณทราบในวันนี้ไม่ยากเกินไป และไม่ได้อยู่ไกลเกินเอื้อม+ 12 ข้อบัญญัตินั้นไม่ได้อยู่ในสวรรค์ คุณถึงต้องพูดว่า ‘ใครจะขึ้นสวรรค์ไปเอามาให้เรา? เราจะได้ฟังแล้วทำตาม’+ 13 และข้อบัญญัตินั้นไม่ได้อยู่อีกฟากหนึ่งของทะเล คุณถึงต้องพูดว่า ‘ใครจะข้ามทะเลไปเอามาให้เรา? เราจะได้ฟังและทำตาม’ 14 เพราะถ้อยคำนั้นอยู่ใกล้คุณมาก อยู่ในปากและในใจของคุณ+ เพื่อให้คุณทำตาม+
15 “วันนี้ผมตั้งชีวิตกับความรุ่งเรือง และความตายกับความหายนะไว้ตรงหน้าคุณ+ 16 ถ้าคุณเชื่อฟังคำสั่งของพระยะโฮวาพระเจ้าซึ่งผมกำลังชี้แจงให้คุณทราบในวันนี้ โดยรักพระยะโฮวาพระเจ้า+ ใช้ชีวิตตามแนวทางของพระองค์ และทำตามข้อบัญญัติ ข้อกำหนด และข้อกฎหมายของพระองค์ คุณก็จะมีชีวิตอยู่+และเพิ่มจำนวนขึ้น และพระยะโฮวาพระเจ้าจะอวยพรคุณในแผ่นดินที่คุณจะเข้าไปครอบครองนั้น+
17 “แต่ถ้าคุณเปลี่ยนใจ+ไม่ยอมเชื่อฟัง และหลงไปกราบไหว้นมัสการพระอื่น+ 18 ผมขอบอกพวกคุณในวันนี้ว่าพวกคุณจะพินาศแน่ ๆ+ พวกคุณจะไม่ได้มีชีวิตยืนยาวในแผ่นดินที่พวกคุณกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปครอบครอง 19 ขอให้ฟ้าดินเป็นพยานในวันนี้ว่า ผมได้ตั้งชีวิตและความตาย คำอวยพรและคำสาปแช่งไว้ตรงหน้าคุณ+ ขอให้คุณเลือกเอาชีวิตเพื่อจะได้มีชีวิตอยู่+ ทั้งตัวคุณและลูกหลานของคุณด้วย+ 20 โดยรักพระยะโฮวาพระเจ้า+ เชื่อฟังพระองค์ และซื่อสัตย์ต่อพระองค์เสมอ+ เพราะพระองค์เป็นผู้ให้ชีวิตพวกคุณ และพระยะโฮวาจะทำให้คุณมีชีวิตยืนยาวอยู่ในแผ่นดินที่พระองค์สาบานว่าจะยกให้บรรพบุรุษของคุณ คือ อับราฮัม อิสอัค และยาโคบ”+
31 ต่อมา โมเสสได้ออกไปพูดกับชาวอิสราเอลว่า 2 “ตอนนี้ผมก็อายุ 120 ปีแล้ว+ ผมนำพวกคุณต่อไปไม่ได้แล้วเพราะพระยะโฮวาบอกผมว่า ‘เจ้าจะไม่ได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดน’+ 3 พระยะโฮวาพระเจ้าของคุณจะเป็นผู้นำหน้าคุณข้ามแม่น้ำไป พระองค์จะกำจัดชนชาติต่าง ๆ ต่อหน้าคุณเพื่อคุณจะเข้าไปครอบครองแผ่นดินของพวกเขา+ โยชูวาจะเป็นคนที่นำคุณข้ามแม่น้ำ+ตามที่พระยะโฮวาบอกไว้ 4 พระยะโฮวาจะทำกับพวกเขาเหมือนที่ทำกับสิโหน+และโอก+กษัตริย์ของชาวอาโมไรต์ และเหมือนที่ทำกับแผ่นดินของพวกเขาตอนที่พระองค์กำจัดพวกเขาออกไป+ 5 พระยะโฮวาจะทำให้พวกเขาพ่ายแพ้ และพวกคุณจะต้องทำกับพวกเขาตามที่ผมสั่งพวกคุณไว้+ 6 ขอให้กล้าหาญและเข้มแข็ง+ อย่าไปกลัวพวกเขา+ เพราะพระยะโฮวาพระเจ้าจะนำหน้าคุณ พระองค์จะไม่ทิ้งขว้างหรือทอดทิ้งคุณเลย”+
7 แล้วโมเสสก็เรียกโยชูวามาพบ และพูดกับเขาต่อหน้าชาวอิสราเอลว่า “ขอให้กล้าหาญและเข้มแข็ง+ เพราะคุณจะต้องพาชนชาตินี้เข้าไปในแผ่นดินที่พระยะโฮวาสาบานไว้กับบรรพบุรุษของเขาว่าจะยกให้พวกเขา และคุณจะต้องมอบแผ่นดินนั้นให้พวกเขาเป็นมรดก+ 8 พระยะโฮวาจะนำหน้าคุณ พระองค์จะอยู่กับคุณต่อไป+ พระองค์จะไม่ทิ้งขว้างหรือทอดทิ้งคุณ อย่ากลัวหรือหวั่นเกรงเลย”+
9 โมเสสได้เขียนข้อบัญญัตินี้ไว้+และมอบให้พวกปุโรหิตกับคนเลวีที่หามหีบสัญญาของพระยะโฮวากับพวกผู้นำทั้งหมดของชาวอิสราเอล 10 โมเสสสั่งพวกเขาว่า “ทุก ๆ ปลายปีที่ 7 ซึ่งเป็นปีที่จะต้องยกหนี้+ ในช่วงเทศกาลอยู่เพิงตามเวลาที่กำหนดไว้+ 11 ตอนที่ชาวอิสราเอลมาชุมนุมกันต่อหน้าพระยะโฮวา+พระเจ้าในที่ที่พระองค์เลือกไว้ คุณจะต้องอ่านข้อบัญญัตินี้ให้ชาวอิสราเอลทุกคนฟัง+ 12 ให้ประชาชนมาพร้อมหน้ากัน+ ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก ๆ และคนต่างชาติที่อาศัยอยู่ในเมืองของคุณ พวกเขาจะได้ฟังและเรียนรู้ที่จะเกรงกลัวพระยะโฮวาพระเจ้า และใส่ใจทำตามข้อบัญญัติทั้งหมดนี้ 13 ลูกหลานของพวกเขาที่ยังไม่รู้จักข้อบัญญัตินี้จะได้ฟัง+ และได้เรียนรู้ที่จะเกรงกลัวพระยะโฮวาพระเจ้าตลอดเวลาที่พวกคุณอาศัยอยู่ในแผ่นดินที่พวกคุณจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าไปครอบครอง”+
14 แล้วพระยะโฮวาก็พูดกับโมเสสว่า “ใกล้จะถึงเวลาที่เจ้าต้องตายแล้ว+ ไปเรียกโยชูวาให้เข้าไปในเต็นท์เข้าเฝ้ากับเจ้า เราจะได้แต่งตั้งเขา”+ โมเสสกับโยชูวาก็เข้าไปในเต็นท์เข้าเฝ้า 15 แล้วพระยะโฮวาก็มาหาเขาที่เต็นท์เข้าเฝ้าในเสาเมฆ และเสาเมฆนั้นลอยอยู่ตรงทางเข้าเต็นท์+
16 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสว่า “เจ้าใกล้จะตายแล้ว และประชาชนพวกนี้จะเริ่มไม่ซื่อสัตย์ต่อเราโดยไปกราบไหว้พระของคนต่างชาติที่อยู่โดยรอบในแผ่นดินที่พวกเขากำลังจะเข้าไป+ พวกเขาจะทิ้งเรา+และละเมิดสัญญาที่เราทำกับพวกเขา+ 17 ในตอนนั้น เราจะโกรธพวกเขามาก+ เราจะทิ้งพวกเขา+และซ่อนตัวไม่ให้พวกเขาพบ+จนกว่าพวกเขาจะพินาศ และเมื่อพวกเขาเจอกับความหายนะและความทุกข์หลายอย่าง+ พวกเขาก็จะพูดว่า ‘ที่พวกเราเจอความหายนะแบบนี้เป็นเพราะพระเจ้าไม่อยู่กับพวกเราแล้วใช่ไหม?’+ 18 แต่เราก็จะยังซ่อนตัวอยู่ในวันนั้นเพราะความชั่วทั้งหมดที่พวกเขาทำ พวกเขาทิ้งเราไปนมัสการพระอื่น+
19 “เจ้าจงเขียนบทเพลงนี้ไว้+และสอนชาวอิสราเอล+ให้ร้องจนขึ้นใจ*เพื่อบทเพลงนี้จะทำให้ชาวอิสราเอลนึกถึงคำเตือนของเรา+ 20 เพราะเมื่อเราพาพวกเขาเข้าไปในแผ่นดินที่เราสาบานไว้กับบรรพบุรุษของเขา+ ซึ่งเป็นแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งมากมาย+ พอพวกเขาได้กินจนอิ่มหนำและเจริญรุ่งเรือง+ พวกเขาจะไปหาพระอื่นและนมัสการพระพวกนั้น พวกเขาจะดูหมิ่นเราและละเมิดสัญญาของเรา+ 21 เมื่อพวกเขาเจอกับความหายนะและความทุกข์หลายอย่าง+ บทเพลงนี้จะทำให้เขานึกถึงคำเตือนของเรา (เพราะลูกหลานของพวกเขาจะไม่ลืมบทเพลงนี้) เรารู้ว่าพวกเขามีแนวโน้มจะเป็นยังไง+ ตั้งแต่ก่อนที่เราจะนำพวกเขาเข้าไปในแผ่นดินที่เราสาบานไว้ด้วยซ้ำ”
22 โมเสสจึงเขียนบทเพลงนี้ไว้ในวันนั้น และสอนชาวอิสราเอลให้ร้องเพลงนี้
23 พระเจ้าแต่งตั้งโยชูวา+ลูกชายของนูนและบอกว่า “ให้กล้าหาญและเข้มแข็ง+ เพราะเจ้าจะต้องพาชาวอิสราเอลเข้าไปในแผ่นดินที่เราสาบานไว้กับพวกเขา+ เราจะอยู่กับเจ้าเสมอ”
24 พอโมเสสเขียนข้อบัญญัติทั้งหมดลงในม้วนหนังสือเสร็จ+ 25 โมเสสก็สั่งคนเลวีที่หามหีบสัญญาของพระยะโฮวาว่า 26 “เอาม้วนหนังสือกฎหมายนี้+วางไว้ข้าง ๆ หีบสัญญา+ของพระยะโฮวาพระเจ้า ม้วนหนังสือนี้จะทำให้คุณนึกถึงคำเตือนของพระเจ้า 27 เพราะผมรู้ดีว่าพวกคุณชอบกบฏ+และดื้อดึง+ ถ้าพวกคุณกบฏต่อพระยะโฮวาทั้ง ๆ ที่ผมยังอยู่ พวกคุณจะทำยิ่งกว่านั้นอีกตอนที่ผมตายแล้ว 28 ให้พวกผู้นำทุกคนในตระกูลต่าง ๆ ของพวกคุณมาหาผม รวมทั้งพวกเจ้าหน้าที่ด้วย ผมจะได้พูดให้พวกเขาฟังและจะได้ให้ฟ้าดินเป็นพยานด้วย+ 29 เพราะผมรู้ดีว่าเมื่อผมตายไปแล้ว พวกคุณจะต้องทำชั่ว+และทิ้งแนวทางที่ผมสั่งพวกคุณไว้แน่ ๆ แล้วในที่สุดพวกคุณก็ต้องเจอกับความหายนะ+ เพราะพวกคุณจะทำสิ่งชั่วร้ายในสายตาของพระยะโฮวา และทำให้พระองค์โกรธเคืองด้วยการกระทำของพวกคุณ”
30 แล้วโมเสสก็ร้องเพลงบทนี้ให้ชาวอิสราเอลทุกคนฟังตั้งแต่ต้นจนจบ บทเพลงนั้นมีดังนี้+
32 “ฟ้าสวรรค์ ขอให้เงี่ยหูฟัง ผมจะพูด
แผ่นดินโลก ขอให้ฟังถ้อยคำจากปากของผม
2 คำสั่งสอนของผมจะโปรยปรายลงมาดั่งสายฝน
ถ้อยคำของผมจะหยาดลงมาเหมือนน้ำค้าง
เหมือนละอองฝนที่พรมลงบนต้นหญ้า
ดั่งสายฝนที่หลั่งรดบนต้นผัก
3 เพราะผมจะประกาศชื่อของพระยะโฮวา+
จะเล่าถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าของเรา+
4 พระเจ้าผู้เป็นเหมือนหินที่แข็งแกร่ง สิ่งที่พระองค์ทำดีเยี่ยมไม่มีที่ติ+
เพราะแนวทางทั้งหมดของพระองค์ยุติธรรม+
พวกเขาไม่ใช่ลูกของพระองค์ ความผิดพลาดทั้งหมดก็มาจากตัวเขา+
พวกเขาเป็นคนรุ่นที่คดโกงและไม่มีศีลธรรม+
พระองค์ไม่ใช่พ่อผู้ให้กำเนิดคุณหรือ?+
พระองค์ไม่ได้สร้างคุณและทำให้คุณมั่นคงหรือ?
7 ขอให้นึกถึงอดีต
คิดถึงปีเดือนที่ผ่านมาของคนรุ่นก่อน ๆ
ลองถามพ่อของคุณดู เขาจะบอกได้+
ถามพวกคนเฒ่าคนแก่ดู เขาจะเล่าให้ฟัง
10 พระองค์พบเขาในที่กันดาร+
ในที่แห้งแล้งและเวิ้งว้าง ซึ่งมีแต่เสียงเห่าหอนของสัตว์ป่า+
11 และเหมือนกับนกอินทรีที่สอนลูกให้บิน
มันบินร่อนอยู่เหนือลูก ๆ
และกางปีกรองรับลูกไว้
แล้วพยุงลูกน้อยบนปีกของมัน+
12 พระยะโฮวาก็นำเขา*มาตลอดแต่ผู้เดียว+
ไม่มีพระของคนต่างชาติอยู่กับเขา+
13 พระองค์ทำให้เขามีชัยเหนือที่สูงทั้งหลายในโลก+
เพื่อให้เขาได้กินผลิตผลจากไร่นาในแผ่นดินนั้น+
พระองค์เลี้ยงเขาด้วยน้ำผึ้งจากซอกผา
และน้ำมันที่ออกมาจากหินแข็ง*
14 เนยจากฝูงวัวและน้ำนมจากฝูงแกะฝูงแพะ
และแกะตัวที่ดีที่สุด
แกะตัวผู้จากบาชานกับแพะตัวผู้
รวมทั้งข้าวสาลีที่ดีที่สุด+
และคุณได้ดื่มเหล้าองุ่นที่ทำจากน้ำองุ่น
15 เมื่อเยชูรูน*อ้วนพีขึ้นก็พยศแข็งข้อ
เมื่ออ้วนพี กำยำ และบึกบึนขึ้น+
เขาก็ทิ้งพระเจ้าผู้สร้างเขา+
และดูหมิ่นผู้เป็นหินแห่งความรอดของเขา
16 พวกเขาเอาพระของคนต่างชาติมายั่วให้พระองค์โกรธ+
พวกเขาเอาสิ่งน่าเกลียดต่าง ๆ มาทำให้พระองค์โกรธเคือง+
17 พวกเขาเอาเครื่องบูชามาเซ่นไหว้พวกปีศาจ ไม่ใช่ถวายพระเจ้า+
พระพวกนี้เป็นพระที่พวกเขาไม่เคยรู้จัก
เป็นพระที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน
เป็นพระที่บรรพบุรุษของพวกคุณไม่รู้จัก
18 คุณลืมผู้เป็นหินที่แข็งแกร่ง+ซึ่งให้กำเนิดคุณ
คุณไม่ได้นึกถึงพระเจ้าผู้ที่ให้คุณเกิดมา+
19 เมื่อพระยะโฮวาเห็นอย่างนี้ พระองค์ก็ทิ้งพวกเขา+
เพราะลูกชายลูกสาวของเขาทำให้พระองค์โกรธเคือง
21 พวกเขาเอาผู้ที่ไม่ได้เป็นพระเจ้ามายั่วให้เราโกรธ+
พวกเขาทำให้เราขุ่นเคืองด้วยรูปเคารพต่าง ๆ ที่ไร้ค่า+
ดังนั้น เราจะยั่วพวกเขาให้อิจฉาด้วยคนพวกหนึ่งที่ยังไม่เป็นชาติ+
เราจะทำให้พวกเขาโกรธเคืองด้วยชาติที่โง่เขลาชาติหนึ่ง+
22 เพราะความโกรธของเราได้ปะทุขึ้นเหมือนเปลวไฟ+
ซึ่งจะลุกไหม้ลงไปถึงหลุมศพ*ที่ลึกสุด+
และจะเผาผลาญโลกกับผลผลิตในโลก
และจะทำให้ฐานรากของภูเขาลุกโชน
23 เราจะเพิ่มความหายนะให้พวกเขา
เราจะยิงลูกธนูใส่พวกเขาจนหมด
24 พวกเขาจะเหนื่อยอ่อนเพราะความหิว+
และจะหมดเรี่ยวแรงเพราะไข้สูงกับการทำลายล้างที่รุนแรง+
เราจะส่งสัตว์ป่ามากัดกินพวกเขา+
และจะส่งงูพิษที่เลื้อยตามพื้นดินมาด้วย
25 ข้างนอกจะมีคมดาบมาปลิดชีวิตพวกเขา+
ส่วนข้างในก็จะมีแต่ความหวาดกลัว+
ทั้งคนหนุ่มและสาวบริสุทธิ์
ทารกและคนผมหงอก+
26 เราพูดไว้ว่า “เราจะทำให้พวกเขากระจัดกระจายไป
เราจะทำให้พวกเขาหายไปจากความทรงจำของผู้คน”
พวกเขาอาจพูดว่า “ที่พวกเราชนะเป็นเพราะฝีมือของพวกเราเอง+
ไม่ใช่เพราะพระยะโฮวา”
29 ถ้าพวกเขาฉลาด+ พวกเขาจะไตร่ตรองเรื่องนี้+
แล้วคิดถึงผลที่เขาจะได้รับ+
นอกจากว่าผู้เป็นหินที่แข็งแกร่งของพวกเขาได้ขายเขา+
และพระยะโฮวามอบพวกเขาไว้ในมือศัตรูแล้ว
31 เพราะพระเจ้า*ของเขาไม่เหมือนพระเจ้าของเราผู้เป็นหินที่แข็งแกร่ง+
แม้แต่ศัตรูของพวกเราก็ยอมรับเรื่องนี้+
ผลองุ่นของพวกเขาเป็นผลองุ่นพิษ
พวงองุ่นของพวกเขาเป็นพวงองุ่นขม+
33 เหล้าองุ่นของพวกเขาเหมือนพิษของงูร้าย
เหมือนพิษอันร้ายแรงของงูเห่า
35 การแก้แค้นและการลงโทษเป็นหน้าที่ของเรา+
พวกเขาจะสะดุดล้มลงตามเวลากำหนด+
เพราะวันแห่งความหายนะของพวกเขามาใกล้แล้ว
และสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับพวกเขาจะมาถึงอย่างรวดเร็ว’
36 เพราะพระยะโฮวาจะพิพากษาประชาชนของพระองค์+
แต่จะสงสารผู้รับใช้ของพระองค์+
เมื่อพระองค์เห็นว่าพวกเขาอ่อนกำลังลง
และมีแต่คนไร้ที่พึ่งและคนอ่อนแอเท่านั้นที่เหลืออยู่
37 แล้วพระองค์จะถามว่า ‘พระของพวกเขาอยู่ที่ไหน?+
คือพระที่เป็นหินซึ่งพวกเขาเข้าไปหาที่หลบภัย
38 พระที่เคยกินเครื่องบูชาที่ดีที่สุดของพวกเขา
และเคยดื่มเหล้าองุ่นจากเครื่องบูชาดื่มของพวกเขา+
ให้พระพวกนั้นลุกขึ้นมาช่วยพวกเจ้าสิ
ให้พระพวกนั้นเป็นที่หลบภัยให้เจ้าสิ
เราทำให้ตาย และทำให้มีชีวิต+
41 เมื่อเราลับดาบอันวาววับของเรา
และเมื่อเราเตรียมจะลงมือพิพากษาตัดสิน+
เราจะแก้แค้นพวกศัตรูของเรา+
และลงโทษคนที่เกลียดชังเราอย่างแน่นอน
42 เราจะทำให้ลูกธนูของเราเมาเลือด
และให้ดาบของเรากินเนื้อ
คือเมาเลือดของคนที่ถูกฆ่าและเลือดของเชลย
และกินเนื้อจากหัวของพวกหัวหน้าศัตรู’
43 ให้ชนชาติทั้งหลายยินดีร่วมกับประชาชนของพระองค์+
เพราะพระองค์จะแก้แค้นแทนผู้รับใช้ของพระองค์ที่ถูกฆ่า+
พระองค์จะลงโทษพวกศัตรูของพระองค์+
และพระองค์จะชำระ*แผ่นดินของประชาชนของพระองค์”
44 แล้วโมเสสกับโฮเชยา*+ลูกชายของนูนก็มาถ่ายทอดบทเพลงนี้ให้ประชาชนฟัง+ 45 เมื่อโมเสสถ่ายทอดบทเพลงนี้ให้ชาวอิสราเอลทุกคนแล้ว 46 โมเสสก็พูดกับพวกเขาว่า “ขอให้เอาใจใส่ถ้อยคำทั้งหมดที่ผมเตือนพวกคุณในวันนี้+ เพื่อพวกคุณจะสั่งลูกหลานให้ทำตามถ้อยคำทั้งหมดในข้อบัญญัตินี้ได้+ 47 เพราะข้อบัญญัตินี้ไม่ใช่ถ้อยคำที่ไร้ความหมาย แต่ถ้อยคำนี้หมายถึงชีวิตสำหรับพวกคุณ+ การทำตามถ้อยคำนี้จะทำให้พวกคุณมีชีวิตยืนยาวในแผ่นดินที่พวกคุณกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปครอบครอง”
48 พระยะโฮวาพูดกับโมเสสในวันเดียวกันนี้ว่า 49 “ขึ้นไปที่ภูเขาเนโบ+ในเขตอาบาริม+ซึ่งอยู่ในแผ่นดินโมอับตรงข้ามกับเมืองเยรีโค และมองดูแผ่นดินคานาอันที่เราจะยกให้ชาวอิสราเอลครอบครอง+ 50 แล้วเจ้าจะตายบนภูเขาที่เจ้ากำลังจะขึ้นไปนั้น เจ้าจะต้องไปอยู่กับบรรพบุรุษของเจ้า* เหมือนอาโรนพี่ชายของเจ้าที่ตายบนภูเขาโฮร์+และไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขา 51 เพราะเมื่ออยู่กับชาวอิสราเอล เจ้าสองคนไม่ซื่อสัตย์ต่อเราในเรื่องน้ำเมรีบาห์+ที่คาเดชในที่กันดารซิน และเพราะเจ้าไม่ให้เกียรติเราต่อหน้าชาวอิสราเอล+ 52 เจ้าจะเห็นแผ่นดินนั้นอยู่ตรงหน้า แต่จะไม่ได้เข้าไปในแผ่นดินที่เราจะยกให้ชาวอิสราเอล”+
33 ต่อไปนี้เป็นคำอวยพรที่โมเสสคนของพระเจ้าเที่ยงแท้พูดกับชาวอิสราเอลก่อนที่เขาจะตาย+ 2 เขาพูดว่า
“พระยะโฮวา พระองค์มาจากซีนาย+
พระองค์ส่องแสงเหนือพวกเขาจากเสอีร์
และพวกนักรบอยู่ด้านขวามือของพระองค์+
5 พระองค์เป็นกษัตริย์ในเยชูรูน*+
เมื่อพวกหัวหน้าของประชาชนมาอยู่พร้อมหน้ากัน+
ร่วมกับทุกตระกูลของอิสราเอล+
“พระยะโฮวาพระเจ้า โปรดฟังเสียงของยูดาห์+
ขอพระองค์นำเขากลับมาที่ชนชาติของเขา
และต่อสู้เขาในเรื่องน้ำเมรีบาห์+
9 เขาพูดถึงพ่อแม่ของตัวเองว่า ‘ผมไม่เห็นแก่พวกเขา’
เขาปฏิเสธพี่น้องตัวเอง+
เขาไม่เข้าข้างลูก ๆ ด้วยซ้ำ
เพราะเขาเชื่อฟังถ้อยคำของพระองค์
และทำตามสัญญาของพระองค์+
ให้พวกเขาถวายเครื่องหอมซึ่งมีกลิ่นหอมที่ทำให้พระองค์พอใจ+
และถวายเครื่องบูชาบนแท่นของพระองค์+
11 พระยะโฮวาพระเจ้า ขออวยพรเขาให้มีกำลังเข้มแข็ง
ขอพระองค์พอใจสิ่งที่เขาทำ
ขอบดขยี้ขาของคนที่ต่อสู้เขา
เพื่อคนที่เกลียดชังเขาจะลุกขึ้นไม่ได้อีก”
12 โมเสสพูดถึงเบนยามินว่า+
“ขอให้คนที่พระยะโฮวารักอาศัยอยู่กับพระองค์อย่างปลอดภัย
ขณะที่พระองค์ปกป้องเขาทั้งวัน
เขาจะอาศัยอยู่บนบ่าของพระองค์”
“ขอให้แผ่นดินของเขาได้รับพรจากพระยะโฮวา+
ได้รับสิ่งดี ๆ จากฟ้า
ได้รับน้ำค้างและน้ำจากบ่อน้ำพุ+
14 ได้รับสิ่งดี ๆ ที่แสงอาทิตย์ทำให้เกิดดอกออกผล
ได้รับผลผลิตที่ดีในแต่ละเดือน+
15 ได้รับสิ่งที่ดีที่สุดที่มาจากเทือกเขาที่มีมาตั้งแต่โบราณ*+
ได้รับสิ่งดี ๆ จากเนินเขาที่มั่นคงถาวร
16 ได้รับสิ่งดี ๆ จากแผ่นดินและความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน+
ได้รับความโปรดปรานจากพระองค์ผู้มาหาในพุ่มหนาม+
ขอให้พรต่าง ๆ นี้ลงมาบนหัวของโยเซฟ
ขอให้ลงมาบนกระหม่อมของคนที่ถูกเลือกจากพี่น้องของตัวเอง+
17 เขามีความสง่างามเหมือนลูกวัวตัวผู้ตัวแรก
เขาของโยเซฟเหมือนเขาของวัวป่า
เขาจะเอาเขาของตัวเองขวิดชนชาติต่าง ๆ
ขวิดชนชาติทั้งหมดไปถึงสุดขอบโลก
เขาคู่นี้จะทำให้เอฟราอิมมีคนเป็นหมื่น+
และทำให้มนัสเสห์มีคนเป็นพัน”
“เศบูลุน ขอให้มีความสุขกับการเดินทางค้าขาย
อิสสาคาร์ ขอให้มีความสุขอยู่ในเต็นท์ของตัวเอง+
19 พวกเขาจะเรียกชนชาติต่าง ๆ มาที่ภูเขา
และถวายเครื่องบูชาด้วยการทำสิ่งที่ถูกต้อง
เพราะเขาเลี้ยงตัวเองด้วยความอุดมสมบูรณ์จากท้องทะเล
และด้วยทรัพย์สมบัติที่ซ่อนอยู่ใต้ผืนทราย”
“คนที่ทำให้เขตแดนของกาดกว้างขวางจะได้รับพร+
กาดจะหมอบอยู่ที่นั่นเหมือนสิงโต
พร้อมจะฉีกแขนและหัวของเหยื่อ
21 เขาจะเลือกส่วนที่ดีที่สุดเป็นของเขา+
เพราะผู้ที่มอบบัญญัติได้กันส่วนนั้นไว้ให้เขา+
พวกหัวหน้าประชาชนของเขาจะมาพร้อมหน้ากัน
เขาจะทำตามความถูกต้องชอบธรรมของพระยะโฮวา
และทำกับชาวอิสราเอลตามข้อกฎหมายของพระองค์”
“ดานเป็นลูกสิงโต+
เขาจะกระโจนจากบาชาน”+
และพรมากมายจากพระยะโฮวา
ขอให้เขาครอบครองที่ดินทางทิศตะวันตกและทิศใต้”
“อาเชอร์จะได้รับพรด้วยการมีลูกหลานมากมาย
ขอให้เขาเป็นที่ชื่นชอบของพวกพี่น้อง
ขอให้เขาจุ่มเท้าลงในน้ำมัน
25 ดาลประตูของคุณจะทำด้วยเหล็กและทองแดง+
และวันคืนทั้งหลายของคุณจะมีแต่ความมั่นคงปลอดภัย
26 ไม่มีใครเหมือนพระเจ้าเที่ยงแท้+ของเยชูรูน+
ผู้ที่มาจากสวรรค์เพื่อช่วยเหลือคุณ
และมาบนเมฆด้วยความยิ่งใหญ่+
27 พระเจ้าเป็นที่หลบภัยมาตั้งแต่สมัยโบราณ+
แขนอันมั่นคงนิรันดร์ของพระองค์ประคับประคองคุณไว้+
28 อิสราเอลจะอาศัยอยู่อย่างปลอดภัย
ลูกหลานของยาโคบ*จะไร้ซึ่งศัตรู
ในแผ่นดินที่เต็มไปด้วยข้าวและเหล้าองุ่นใหม่+
ที่ท้องฟ้าจะโปรยปรายน้ำค้างลงมา+
ใครจะเป็นเหมือนคุณ?+
คุณเป็นชนชาติที่ได้รับความรอดจากพระยะโฮวา+
พระองค์เป็นโล่ป้องกันคุณ+
เป็นดาบที่ยอดเยี่ยมของคุณ
34 จากที่ราบกันดารโมอับ โมเสสขึ้นไปบนภูเขาเนโบ+ ไปที่ยอดปิสกาห์+ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับเมืองเยรีโค+ และพระยะโฮวาให้เขาเห็นแผ่นดินทั้งหมด ตั้งแต่กิเลอาดจนถึงดาน+ 2 นัฟทาลีทั้งหมด เขตแดนของเอฟราอิมและมนัสเสห์ เขตแดนของยูดาห์ทั้งหมดจนถึงทะเลด้านตะวันตก*+ 3 รวมทั้งเขตเนเกบ+ และบริเวณที่ลุ่มแม่น้ำจอร์แดน+ รวมทั้งที่ราบหุบเขาเยรีโคซึ่งเป็นเมืองที่มีต้นปาล์ม จนถึงเมืองโศอาร์+
4 แล้วพระยะโฮวาก็พูดกับเขาว่า “นี่คือแผ่นดินที่เราสาบานไว้กับอับราฮัม อิสอัค และยาโคบว่า ‘เราจะยกให้ลูกหลานของเจ้า’+ เราให้เจ้าดูด้วยตาตัวเอง แต่เจ้าจะไม่ได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปที่นั่น”+
5 แล้วโมเสสผู้รับใช้ของพระยะโฮวาก็ตายที่นั่นในแผ่นดินโมอับตามที่พระยะโฮวาบอกไว้+ 6 พระองค์ฝังเขาไว้ในหุบเขาตรงข้ามกับเบธเปโอร์ในแผ่นดินโมอับ และจนทุกวันนี้ ไม่มีใครรู้ว่าหลุมศพของเขาอยู่ที่ไหน+ 7 โมเสสตายตอนอายุ 120 ปี+ สายตาของเขาไม่ได้ฝ้าฟาง และกำลังของเขาก็ไม่ได้ถดถอยเลย 8 ชาวอิสราเอลร้องไห้คร่ำครวญถึงโมเสสในที่ราบกันดารโมอับอยู่ 30 วัน+ ในที่สุด ช่วงเวลาที่พวกเขาร้องไห้คร่ำครวญและไว้ทุกข์เพื่อโมเสสก็สิ้นสุดลง
9 โยชูวาลูกชายของนูนได้รับพลังจากพระเจ้าซึ่งทำให้เขามีสติปัญญา เพราะโมเสสวางมือบนเขา+ ชาวอิสราเอลก็เชื่อฟังเขาและทำตามที่พระยะโฮวาสั่งโมเสสไว้+ 10 แต่ไม่เคยมีผู้พยากรณ์คนไหนในอิสราเอลที่เป็นเหมือนโมเสส+ พระยะโฮวาสนิทกับเขาเป็นพิเศษ*+ 11 เขาทำการอัศจรรย์และการอิทธิฤทธิ์ทุกอย่างที่พระยะโฮวาใช้ให้ทำกับฟาโรห์ กับพวกข้าราชการ และกับแผ่นดินของฟาโรห์ในอียิปต์+ 12 โมเสสได้แสดงให้ชาวอิสราเอลทุกคนเห็นพลังอำนาจของพระเจ้าและความเข้มแข็งที่น่าเกรงขามของพระองค์+
แปลตรงตัวว่า “อย่างเต็มที่” หรือ “อย่างครบถ้วน”
หรืออาจแปลได้ว่า “พระเจ้าช่วยเขาให้เข้มแข็ง”
แปลตรงตัวว่า “ความกว้างของหนึ่งฝ่าเท้า”
คือ เกาะครีต
หรืออาจแปลได้ว่า “หินบะซอลต์สีดำ”
4 เมตร ดูภาคผนวก ข14
1.78 เมตร
แปลว่า “เมืองเล็ก ๆ ของยาอีร์”
คือ ทะเลเดดซี หรือ ทะเลตาย
เตาถลุงเหล็กเป็นสัญลักษณ์ของการกดขี่อย่างโหดร้ายทารุณ
หรือ “มรดก”
คือ ทะเลเกลือ หรือ ทะเลเดดซี
แปลตรงตัวว่า “หน้าต่อหน้า”
หรือ “ของมีค่า”
หรืออาจแปลได้ว่า “ตื่นตระหนก” หรือ “หวาดผวา”
แปลตรงตัวว่า “ขนมปัง”
หรือ “แหล่งน้ำใต้ดิน”
แปลตรงตัวว่า “หินเหล็กไฟ”
แปลตรงตัวว่า “นิ้วมือ”
หรือ “มรดก”
หรือ “มรดก”
แปลตรงตัวว่า “ขริบหนังหุ้มปลายของ”
หรือ “ลูกกำพร้า”
หรือ “รดน้ำด้วยเท้า” คือ ใช้เท้าถีบกังหันน้ำ หรือขุดร่องน้ำ
แปลตรงตัวว่า “เรา” หมายถึงพระเจ้าทั้งในข้อนี้และในข้อต่อไป
คือ ทะเลใหญ่ หรือ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
หรือ “ให้”
แปลตรงตัวว่า “ระหว่างตา” หรือ “โกนหน้าผาก”
หรือ “ของมีค่า”
สัตว์คล้ายกระต่าย อาศัยอยู่ตามซอกหิน เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ไฮแรกซ์
หรือ “ลูกกำพร้า”
อาจเป็นปีที่อนุญาตให้ผัดเลื่อนหนี้ออกไป
คือ แป้งทำขนมปังที่ใส่เชื้อแล้ว ซึ่งแบ่งเก็บไว้เพื่อนำไปผสมกับแป้งก้อนใหม่ให้ขึ้นฟู
หรือ “ลูกกำพร้า”
คือ ที่ที่พระยะโฮวาเลือกให้เป็นศูนย์กลางของการนมัสการ
หรือ “ทุกสิ่งที่หายใจ”
หรือ “ความสามารถในการสืบพันธุ์”
1.14 กก. ดูภาคผนวก ข14
570 กรัม
แปลตรงตัวว่า “ประชาคม”
คือ ที่ขับถ่าย
คำภาษาฮีบรูที่แปลว่า “โรคเรื้อน” มีความหมายกว้าง อาจหมายรวมถึงโรคติดต่อทางผิวหนังชนิดต่าง ๆ และอาจหมายถึงเชื้อบางชนิดที่เกิดกับเสื้อผ้าและตัวบ้าน
หรือ “ลูกกำพร้า”
แปลตรงตัวว่า “พวกผู้ชายสูงอายุ”
แปลตรงตัวว่า “พวกผู้ชายสูงอายุ”
แปลตรงตัวว่า “พวกผู้ชายสูงอายุ”
หรืออาจแปลได้ว่า “ที่กำลังพินาศ”
หรือ “ลูกกำพร้า”
หรือ “ของมีค่า”
หรือ “ขอให้เป็นอย่างนั้น”
หรือ “ลูกกำพร้า”
แปลตรงตัวว่า “ท้องฟ้าที่อยู่เหนือหัวของคุณจะเป็นทองแดง”
แปลตรงตัวว่า “แผ่นดินที่คุณยืนอยู่จะเป็นเหล็ก”
แปลตรงตัวว่า “คนที่ไม่ได้อยู่ที่นี่กับพวกเราในวันนี้”
คำนี้ในภาษาฮีบรูอาจเกี่ยวข้องกับคำว่า “มูลสัตว์” และใช้ในเชิงดูถูก
หรือ “บอระเพ็ด”
แปลตรงตัวว่า “ใส่ไว้ในปากของพวกเขา”
ดูคำว่า “ถูกต้องชอบธรรม” ในส่วนอธิบายศัพท์
หรืออาจแปลได้ว่า “เผ่าพันธุ์มนุษย์”
คือ ยาโคบ
แปลตรงตัวว่า “หินเหล็กไฟ”
แปลว่า “คนที่ซื่อตรง” เป็นคำที่ใช้เรียกอิสราเอลแบบให้เกียรติ
หรืออาจแปลได้ว่า “ไม่ยอมฟังคำแนะนำ”
แปลตรงตัวว่า “หิน”
หรือ “ทำให้มีการคืนดี” แปลตรงตัวว่า “ปิดคลุมบาป”
เป็นชื่อเดิมของโยชูวา โฮเชยาเป็นชื่อย่อของโฮชายาห์ หมายถึง “ได้รับการช่วยให้รอดโดยยาห์” หรือ “ยาห์ช่วยให้รอดแล้ว”
เป็นสำนวนกวีหมายถึงตาย
แปลตรงตัวว่า “ประชาคม”
แปลว่า “คนที่ซื่อตรง” เป็นคำที่ใช้เรียกอิสราเอลแบบให้เกียรติ
หรือ “ต่อสู้เพื่อ”
หรืออาจแปลได้ว่า “เทือกเขาทางทิศตะวันออก”
แปลตรงตัวว่า “บ่อน้ำพุของยาโคบ”
หรืออาจแปลได้ว่า “ที่สูง”
คือ ทะเลใหญ่ หรือ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
แปลตรงตัวว่า “รู้จักเขาหน้าต่อหน้า”