ดาเนียล
1 ในปีที่ 3 ที่กษัตริย์เยโฮยาคิม+ปกครองยูดาห์ กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ของบาบิโลนยกทัพมาล้อมกรุงเยรูซาเล็ม+ 2 พระยะโฮวาพระเจ้าเที่ยงแท้ปล่อยให้กษัตริย์เยโฮยาคิมแพ้เนบูคัดเนสซาร์+ และยอมให้เนบูคัดเนสซาร์เอาข้าวของเครื่องใช้บางส่วนในวิหารของพระองค์ไปที่ประเทศบาบิโลน*+ แล้วเขาก็นำไปไว้ในคลังที่วิหารเทพเจ้าของเขา+
3 แล้วเนบูคัดเนสซาร์ก็สั่งให้อัชเปนัสหัวหน้าข้าราชสำนักนำชาวอิสราเอลบางคนมา ในกลุ่มนี้ให้มีทั้งเชื้อสายกษัตริย์และลูกหลานของชนชั้นสูงรวมอยู่ด้วย+ 4 พวกเขาต้องเป็นเด็กหนุ่มรูปร่างหน้าตาดี ไม่มีที่ติ เฉลียวฉลาด มีความรู้ความเข้าใจ+ และมีความสามารถทำงานในวังได้ อัชเปนัสต้องสอนภาษาและวิชาความรู้ของชาวเคลเดียให้เด็กหนุ่มพวกนี้ 5 กษัตริย์ยังให้พวกเขากินอาหารอย่างดีและเหล้าองุ่นของกษัตริย์ทุกวัน และให้รับการอบรม* 3 ปี หลังจากครบกำหนดแล้วพวกเขาจะทำงานให้กษัตริย์
6 ในกลุ่มนี้มีบางคนมาจากตระกูลยูดาห์ คือ ดาเนียล*+ ฮานันยาห์* มิชาเอล* และอาซาริยาห์*+ 7 หัวหน้าข้าราชสำนักตั้งชื่อใหม่*ให้พวกเขา ให้ดาเนียลชื่อเบลเทชัสซาร์+ ฮานันยาห์ชื่อชัดรัค มิชาเอลชื่อเมชาค และอาซาริยาห์ชื่ออาเบดเนโก+
8 แต่ดาเนียลตั้งใจว่าจะไม่กินอาหารและเหล้าองุ่นของกษัตริย์ เพราะมีของที่ไม่สะอาดตามกฎหมายของพระเจ้า เขาจึงขอหัวหน้าข้าราชสำนักว่าจะไม่กินของพวกนี้ เพื่อจะไม่ทำให้ตัวเองไม่สะอาด 9 พระเจ้าเที่ยงแท้ทำให้หัวหน้าข้าราชสำนักเมตตาและเอ็นดู+ดาเนียล 10 แต่หัวหน้าข้าราชสำนักพูดกับดาเนียลว่า “ผมกลัวว่ากษัตริย์จะโกรธเพราะท่านเป็นผู้กำหนดอาหารและเครื่องดื่มให้พวกคุณกิน ถ้าเกิดกษัตริย์เห็นว่าพวกคุณซูบผอมกว่าเด็กหนุ่มคนอื่น ๆ ล่ะจะว่ายังไง? ผมก็จะโดนกษัตริย์ลงโทษน่ะสิ” 11 ดาเนียลจึงพูดกับคนที่หัวหน้าข้าราชสำนักมอบหมายให้ดูแลดาเนียล ฮานันยาห์ มิชาเอล และอาซาริยาห์ว่า 12 “นายท่าน ขอให้ลองเอาผักกับน้ำมาให้พวกเรากินสัก 10 วัน 13 แล้วเอาพวกเราไปเทียบกับเด็กหนุ่มคนอื่นที่กินอาหารของกษัตริย์ และค่อยตัดสินตามที่ท่านเห็นก็แล้วกันนะครับ”
14 คนดูแลยอมให้พวกเขาลองทำอย่างนั้น 10 วัน 15 พอครบ 10 วันแล้ว พวกเขาดูแข็งแรงสมบูรณ์กว่าเด็กหนุ่มคนอื่น ๆ ที่กินอาหารของกษัตริย์ 16 คนดูแลก็เลยให้พวกเขากินแต่ผักต่อไปและไม่เอาอาหารกับเหล้าองุ่นของกษัตริย์มาให้พวกเขาอีก 17 พระเจ้าเที่ยงแท้ได้ให้เด็กหนุ่ม 4 คนนี้มีความรู้ความเข้าใจในวิชาและภูมิปัญญาทั้งหมด และให้ดาเนียลเข้าใจนิมิตและความฝันทุกแบบ+
18 เมื่อถึงวันที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์กำหนดไว้ หัวหน้าข้าราชสำนักก็พาพวกเขามาพบ+ 19 เมื่อกษัตริย์พูดกับพวกเขาก็เห็นว่าในเด็กหนุ่มทั้งหมด ไม่มีใครเก่งเหมือนดาเนียล ฮานันยาห์ มิชาเอล และอาซาริยาห์+ พวกเขาจึงได้ทำงานให้กษัตริย์ตั้งแต่นั้น 20 และไม่ว่ากษัตริย์จะถามอะไรก็ตามที่ต้องใช้สติปัญญาและความเข้าใจ เด็กหนุ่ม 4 คนนี้จะตอบได้ดีกว่าพวกนักบวชที่มีเวทมนตร์คาถาและพวกหมอผี+ทั่วอาณาจักรถึง 10 เท่า 21 ดาเนียลยังคงอยู่ที่นั่นจนถึงปีแรกที่กษัตริย์ไซรัสปกครอง+
2 ในปีที่ 2 ที่เนบูคัดเนสซาร์เป็นกษัตริย์ เขาฝันหลายเรื่อง ซึ่งทำให้กังวลมาก+จนนอนไม่หลับ 2 เขาจึงสั่งให้เรียกพวกนักบวชที่มีเวทมนตร์คาถา พวกหมอผี พวกพ่อมด และพวกโหรชาวเคลเดียมาเพื่อให้บอกว่าเขาฝันอะไร คนพวกนี้จึงมาหากษัตริย์+ 3 แล้วกษัตริย์ก็พูดว่า “เราฝัน แล้วก็กังวลเพราะอยากรู้ว่าฝันอะไร” 4 พวกโหรชาวเคลเดียพูดกับกษัตริย์เป็นภาษาอาราเมอิกว่า*+ “ขอให้กษัตริย์อายุยืนยาวตลอดไป เล่าความฝันให้พวกเราฟังเถอะครับ แล้วพวกเราถึงจะบอกความหมายให้ได้”
5 กษัตริย์ตอบว่า “บอกมาว่าเราฝันอะไรและบอกความหมายด้วย ถ้าบอกไม่ได้ พวกคุณจะถูกหั่นเป็นท่อน ๆ และบ้านของพวกคุณจะกลายเป็นที่ถ่ายอุจจาระ* นี่เป็นคำสั่งเด็ดขาดของเรา 6 แต่ถ้าบอกได้ว่าเราฝันอะไรและบอกความหมายด้วย เราจะให้ของขวัญ ของรางวัล และตำแหน่งสูง ๆ+ บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าเราฝันอะไรและบอกความหมายด้วย”
7 พวกเขาจึงบอกอีกครั้งว่า “ขอท่านเล่าความฝันให้พวกเราฟังเถอะครับ แล้วพวกเราถึงจะบอกความหมายให้ได้”
8 กษัตริย์บอกว่า “เรารู้นะพวกคุณกำลังถ่วงเวลาเพราะรู้คำสั่งของเราว่า 9 ถ้าบอกความฝันของเราไม่ได้ ทุกคนจะต้องรับโทษสถานเดียว พวกคุณก็เลยรวมหัวกันโกหกหลอกลวงเรา หวังว่าเราจะเปลี่ยนใจ บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าเราฝันอะไร แล้วเราจะได้รู้ว่าพวกคุณบอกความหมายได้จริง ๆ”
10 พวกโหรชาวเคลเดียก็ตอบกษัตริย์ว่า “ไม่มีใครในโลกจะทำตามที่ท่านสั่งได้หรอกครับ และไม่มีกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่หรือผู้ปกครองคนไหนเคยบอกนักบวชที่มีเวทมนตร์คาถา หรือหมอผี หรือพวกโหรให้ทำอย่างนี้เลย 11 เรื่องที่ท่านถามนั้นยากเกินไป ไม่มีมนุษย์คนไหนในโลกนี้บอกท่านได้ นอกจากพวกเทพเจ้าเท่านั้น”
12 พอได้ยินอย่างนั้นกษัตริย์ก็โกรธจัดและสั่งประหารผู้รอบรู้ทั้งหมดในบาบิโลน+ 13 เมื่อมีคำสั่งออกมาและพวกผู้รอบรู้จะถูกประหาร ดาเนียลกับเพื่อน ๆ ก็ถูกตามตัวเพื่อนำไปประหารด้วย
14 ตอนที่อารีโอคหัวหน้าองครักษ์ออกไปเพื่อจะฆ่าพวกผู้รอบรู้ในบาบิโลน ดาเนียลไปพูดกับเขาอย่างระมัดระวัง 15 เขาถามอารีโอคว่า “ทำไมกษัตริย์ออกคำสั่งที่โหดเหี้ยมอย่างนี้ล่ะ?” อารีโอคก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง+ 16 ดาเนียลจึงไปหากษัตริย์เพื่อขอโอกาสให้เขาบอกความหมายของความฝันให้กษัตริย์ฟัง
17 แล้วดาเนียลก็กลับบ้านไปเล่าเรื่องนั้นให้ฮานันยาห์ มิชาเอล และอาซาริยาห์เพื่อนของเขาฟัง 18 และขอเพื่อน ๆ ช่วยกันอธิษฐานขอพระเจ้าผู้อยู่ในสวรรค์ให้เมตตาและเปิดเผยเรื่องลึกลับนี้ เพื่อเขากับเพื่อน ๆ จะไม่ถูกประหารไปพร้อมกับพวกผู้รอบรู้ในบาบิโลน
19 แล้วในตอนกลางคืน พระเจ้าก็เปิดเผยเรื่องลึกลับนั้นให้ดาเนียลในความฝัน+ เขาจึงสรรเสริญพระเจ้าผู้อยู่ในสวรรค์ 20 ดาเนียลพูดว่า
“ขอให้ชื่อของพระเจ้าได้รับการยกย่องสรรเสริญตลอดไป
เพราะพระองค์ผู้เดียวมีสติปัญญาและพลังอำนาจ+
21 พระองค์เปลี่ยนเวลาและฤดูกาล+
พระองค์แต่งตั้งและถอดถอนกษัตริย์+
พระองค์ให้คนฉลาดมีปัญญาและให้คนที่เข้าใจมีความรู้+
22 พระองค์เปิดเผยเรื่องลึกซึ้งและเรื่องที่ปกปิดไว้+
พระองค์เห็นสิ่งที่อยู่ในความมืด+
พระองค์เป็นผู้ให้ความสว่าง+
23 พระองค์เป็นพระเจ้าของบรรพบุรุษของผม ขอขอบคุณและสรรเสริญพระองค์
เพราะพระองค์ให้ผมมีปัญญาและพลัง
และตอนนี้พระองค์บอกเรื่องที่พวกเราอยากรู้
พระองค์ให้พวกเรารู้เรื่องที่กษัตริย์ฝัน”+
24 แล้วดาเนียลก็ไปพูดกับอารีโอคซึ่งกษัตริย์มอบหมายให้ประหารผู้รอบรู้ในบาบิโลน+ว่า “อย่าฆ่าผู้รอบรู้ในบาบิโลนเลย พาผมไปหากษัตริย์เถอะ ผมจะบอกความหมายของความฝันให้กษัตริย์ฟัง”
25 อารีโอครีบพาดาเนียลไปพบกษัตริย์และบอกกษัตริย์ว่า “ผมพบเชลยจากยูดาห์+คนหนึ่งที่บอกความหมายของความฝันให้ท่านได้” 26 กษัตริย์พูดกับดาเนียล (ซึ่งมีอีกชื่อหนึ่งว่าเบลเทชัสซาร์)+ ว่า “คุณจะบอกได้จริง ๆ หรือว่าเราฝันเห็นอะไรและฝันนั้นหมายความว่ายังไง?”+ 27 ดาเนียลตอบว่า “ไม่มีผู้รอบรู้ หมอผี นักบวชที่มีเวทมนตร์คาถา หรือโหรคนไหนบอกเรื่องลึกลับที่กษัตริย์อยากรู้ได้+ 28 แต่มีพระเจ้าองค์หนึ่งในสวรรค์ที่เปิดเผยเรื่องลึกลับได้+ และพระองค์บอกกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในสมัยสุดท้าย ความฝันและนิมิตที่ท่านเห็นตอนที่ท่านนอนอยู่บนเตียงเป็นอย่างนี้
29 “ขณะที่กษัตริย์นอนอยู่ ท่านคิดถึงอนาคตว่าจะเกิดอะไรขึ้น แล้วพระเจ้าผู้เปิดเผยเรื่องลึกลับก็บอกให้ท่านรู้ 30 และพระองค์เปิดเผยเรื่องนี้กับผม ไม่ใช่เพราะผมฉลาดกว่าคนอื่น แต่เพื่อให้ผมบอกความหมายของความฝันให้ท่าน ท่านจะได้รู้ว่ามีเรื่องอะไรอยู่ในใจ+
31 “ขณะที่กษัตริย์มองดูอยู่ ท่านเห็นรูปปั้นมหึมารูปหนึ่งตั้งอยู่ข้างหน้าท่าน รูปปั้นนั้นสูงใหญ่ มีประกายเจิดจ้าและดูน่ากลัว 32 หัวรูปปั้นเป็นทองคำบริสุทธิ์+ อกและแขนเป็นเงิน+ ท้องและต้นขาเป็นทองแดง+ 33 ขาเป็นเหล็ก+ เท้าเป็นเหล็กปนดินเหนียว+ 34 ขณะที่ท่านมองอยู่นั้น มีหินก้อนหนึ่งถูกงัดออกมาจากภูเขา แต่ว่ามนุษย์ไม่ได้เป็นคนทำ และหินก้อนนั้นมากระแทกที่เท้ารูปปั้นซึ่งเป็นเหล็กปนดินเหนียวจนแตกละเอียด+ 35 แล้วเหล็ก ดินเหนียว ทองแดง เงิน และทองคำก็แตกละเอียดเป็นเหมือนแกลบที่ลานนวดข้าวในฤดูร้อน และถูกลมพัดปลิวหายไปไม่เหลือร่องรอย แต่หินก้อนนั้นที่มากระแทกรูปปั้นก็กลายเป็นภูเขาที่ขยายใหญ่จนเต็มโลก
36 “นั่นแหละเป็นเรื่องที่กษัตริย์ฝัน ตอนนี้พวกเราจะบอกความหมายของความฝัน 37 ท่านเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ พระเจ้าในสวรรค์ให้อาณาจักร+ อำนาจ ความแข็งแกร่ง และเกียรติยศแก่ท่าน 38 พระองค์มอบมนุษย์ทุกแห่งหนให้อยู่ในมือท่าน รวมทั้งสัตว์ในทุ่งและนกในท้องฟ้า และให้ท่านปกครองทั้งหมด+ ท่านเองคือส่วนหัวที่เป็นทองคำ+
39 “หลังจากนั้นจะมีอีกอาณาจักรหนึ่งเกิดขึ้น+ซึ่งด้อยกว่าท่าน แล้วก็มีอีกอาณาจักรหนึ่งเป็นอาณาจักรที่ 3 ซึ่งเป็นทองแดง อาณาจักรนี้จะปกครองทั่วโลก+
40 “สำหรับอาณาจักรที่ 4 จะแข็งแกร่งเหมือนเหล็ก+ เหล็กตีอะไร ๆ จนแหลก อาณาจักรนี้ก็จะตีอาณาจักรก่อนหน้านั้นทั้งหมดจนย่อยยับ+
41 “และที่ท่านเห็นว่าเท้ากับนิ้วเท้ามีบางส่วนเป็นเหล็ก บางส่วนเป็นดินเหนียวของช่างปั้นหม้อ นั่นหมายความว่าอาณาจักรนี้จะแตกแยก แต่ก็มีความแข็งแกร่งเหมือนเหล็กอยู่ เพราะมันมีเหล็กผสมอยู่กับดินที่อ่อนนุ่ม 42 และที่นิ้วเท้ามีทั้งเหล็กและดินหมายความว่า อาณาจักรนี้มีทั้งส่วนที่แข็งแกร่งและส่วนที่อ่อนแอ 43 และที่ท่านเห็นดินที่อ่อนนุ่มปนอยู่กับเหล็กนั้นหมายความว่า จะมีส่วนที่เป็นคนธรรมดาสามัญ*รวมอยู่ในอาณาจักรนี้ด้วย แต่สองส่วนนี้จะเข้ากันไม่ได้ อย่างที่เหล็กผสมเข้ากับดินเหนียวไม่ได้
44 “ในสมัยที่กษัตริย์พวกนั้นปกครองอยู่ พระเจ้าในสวรรค์จะตั้งรัฐบาล*หนึ่ง+ซึ่งจะไม่มีวันถูกทำลาย+ และรัฐบาลนี้จะไม่ตกเป็นของคนชาติไหน+ แต่รัฐบาลนี้จะทำลายอาณาจักรทั้งหมดนั้นให้สูญสิ้นไป+ และจะเป็นรัฐบาลเดียวที่คงอยู่ตลอดไป+ 45 สิ่งนี้จะเกิดขึ้นตามที่ท่านได้เห็นในความฝัน เมื่อหินก้อนนั้นถูกงัดออกมาจากภูเขา แต่ว่ามนุษย์ไม่ได้เป็นคนทำ และหินก้อนนั้นทำให้เหล็ก ทองแดง ดินเหนียว เงิน และทองคำแตกละเอียด+ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่พระเจ้าองค์ยิ่งใหญ่บอกกษัตริย์ว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต+ นี่คือเรื่องที่ท่านฝันและเหตุการณ์จะเป็นไปตามที่บอกไว้แน่นอน”
46 แล้วกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ก็ซบลงกับพื้นและกราบดาเนียล เขาสั่งให้มอบของขวัญและเผาเครื่องหอมเพื่อยกย่องดาเนียล 47 กษัตริย์พูดกับดาเนียลว่า “พระเจ้าของคุณเป็นพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่เหนือพระทั้งหมดจริง ๆ เป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่และเป็นผู้เปิดเผยเรื่องลึกลับ เพราะพระองค์ทำให้คุณเปิดเผยเรื่องลึกลับนี้ได้”+ 48 แล้วกษัตริย์ก็เลื่อนตำแหน่งให้ดาเนียลและให้ของขวัญชั้นเยี่ยมกับเขามากมาย กษัตริย์ตั้งดาเนียลให้ปกครองทั่วรัฐบาบิโลน+และให้เป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ที่ดูแลพวกผู้รอบรู้ในบาบิโลน 49 นอกจากนี้ กษัตริย์ได้ตั้งชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก+เป็นผู้บริหารงานรัฐบาบิโลนตามที่ดาเนียลขอ ส่วนดาเนียลปฏิบัติหน้าที่อยู่ในวัง
3 กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์สร้างรูปเคารพ*ทองคำสูง 60 ศอก* กว้าง 6 ศอก* และตั้งรูปเคารพนั้นไว้ในที่ราบดูราในรัฐบาบิโลน 2 แล้วกษัตริย์ก็สั่งให้พวกผู้ปกครองรัฐ ข้าราชการชั้นสูง เจ้าเมือง ที่ปรึกษา เจ้าหน้าที่การคลัง ผู้พิพากษา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และผู้บริหารงานรัฐทุกคน มาชุมนุมกันในพิธีฉลองรูปเคารพที่กษัตริย์ได้สร้างไว้นั้น
3 พวกผู้ปกครองรัฐ ข้าราชการชั้นสูง เจ้าเมือง ที่ปรึกษา เจ้าหน้าที่การคลัง ผู้พิพากษา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และผู้บริหารงานรัฐทุกคน จึงมาชุมนุมกันในพิธีฉลองรูปเคารพที่กษัตริย์สร้างไว้ และยืนอยู่หน้ารูปเคารพนั้น 4 โฆษกประกาศเสียงดังว่า “ประชาชนทุกชาติทุกภาษา กษัตริย์มีคำสั่งว่า 5 เมื่อได้ยินเสียงแตรเขาสัตว์ ปี่ พิณ* พิณเล็ก เครื่องสาย ปี่ถุงลม และเครื่องดนตรีอื่น ๆ ทุกคนต้องก้มลงกราบรูปเคารพทองคำที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้สร้างไว้ 6 ถ้าใครไม่ก้มลงกราบจะถูกโยนเข้าไปในเตาไฟที่ร้อนแรงทันที”+ 7 ดังนั้น เมื่อได้ยินเสียงดนตรี*ดังขึ้น ประชาชนทุกชาติทุกภาษาก็ก้มลงกราบรูปเคารพทองคำที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้สร้างไว้
8 แต่มีชาวเคลเดียบางคนมาฟ้องกษัตริย์เรื่องชาวยิว 9 พวกเขาพูดว่า “ขอให้กษัตริย์อายุยืนยาวตลอดไป 10 ท่านมีคำสั่งว่า ทุกคนที่ได้ยินเสียงดนตรี*ต้องก้มลงกราบรูปเคารพทองคำ 11 และถ้าใครไม่ก้มลงกราบจะถูกโยนเข้าไปในเตาไฟที่ร้อนแรง+ 12 แต่มีพวกยิวบางคนที่ท่านตั้งให้บริหารงานรัฐบาบิโลน คือ ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก+ได้ขัดคำสั่งของท่าน พวกเขาไม่นับถือเทพเจ้าของท่าน และไม่ยอมกราบไหว้รูปเคารพทองคำที่ท่านสร้าง”
13 กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์โกรธจัดจึงสั่งให้เอาตัวชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกเข้ามา แล้วพวกเขาก็ถูกพามาต่อหน้ากษัตริย์ 14 เนบูคัดเนสซาร์พูดกับพวกเขาว่า “ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก จริงหรือเปล่าที่พวกคุณไม่นับถือเทพเจ้าของเรา+ และไม่ยอมกราบไหว้รูปเคารพทองคำที่เราสร้าง? 15 เอาอย่างนี้ พอได้ยินเสียงดนตรี*ดังขึ้น ก็ให้พวกคุณก้มลงกราบรูปเคารพที่เราสร้าง ถ้ายอมทำก็แล้วไป แต่ถ้าไม่ยอมกราบไหว้ละก็ พวกคุณจะถูกโยนเข้าไปในเตาไฟที่ร้อนแรงทันที ดูซิว่าจะมีเทพเจ้าองค์ไหนช่วยพวกคุณให้พ้นจากเงื้อมมือเราได้?”+
16 ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกบอกกษัตริย์ว่า “พวกเราคงไม่ต้องตอบเรื่องนี้ 17 ถ้าพวกเราถูกโยนเข้าเตาไฟ พระเจ้าที่พวกเรานับถือจะช่วยพวกเราออกจากเตาไฟที่ร้อนแรงได้ และจะช่วยให้พ้นมือกษัตริย์ได้+ 18 แต่ถึงพระเจ้าไม่ช่วย พวกเราก็จะไม่นับถือเทพเจ้าของท่านหรือกราบไหว้รูปเคารพทองคำที่ท่านสร้างอยู่ดี”+
19 เนบูคัดเนสซาร์โกรธชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกมากจนสีหน้าเปลี่ยนไป* เขาจึงสั่งให้เพิ่มความร้อนในเตาให้มากกว่าเดิมเจ็ดเท่า 20 และสั่งพวกทหารที่แข็งแรงให้จับชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกมัดไว้ แล้วโยนเข้าไปในเตาไฟที่ร้อนแรง
21 ทั้งสามคนจึงถูกมัดทั้งที่ยังใส่เสื้อ ผ้าคลุม หมวกและเครื่องแต่งกายอื่น ๆ แล้วถูกโยนเข้าไปในเตาไฟที่ร้อนแรง 22 คำสั่งของกษัตริย์เฉียบขาดมากและเตาก็ร้อนจัด คนที่โยนชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกเข้าเตาจึงตายเพราะเปลวไฟที่ร้อนแรง 23 ส่วนชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกที่ถูกมัดอยู่ก็ตกลงไปในเตาไฟที่ร้อนแรงนั้น
24 ทันใดนั้น กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ก็ตกใจกลัวแล้วรีบลุกขึ้นถามพวกข้าราชสำนักว่า “เราสั่งให้มัดสามคนโยนเข้าเตาไฟไม่ใช่หรือ?” พวกเขาตอบว่า “ใช่ครับ” 25 กษัตริย์บอกว่า “ดูนั่นสิ เราเห็นสี่คนเดินอยู่ในเตาไฟ แถมพวกเขาไม่ได้ถูกมัดและไม่เป็นอะไรสักนิดเลย และคนที่สี่นั้นดูเหมือนเทพเจ้า”
26 เนบูคัดเนสซาร์ไปที่ทางเข้าเตาไฟแล้วบอกว่า “ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกผู้รับใช้พระเจ้าองค์สูงสุด+ ออกมาเถอะ” ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกจึงเดินออกมาจากเตาไฟ 27 ผู้ปกครองรัฐ ข้าราชการชั้นสูง เจ้าเมือง ข้าราชสำนักซึ่งชุมนุมอยู่ที่นั่น+ก็เห็นว่าไฟไม่ได้ไหม้ตัวพวกเขา+ แม้แต่ผมสักเส้นก็ไม่ได้ไหม้เลย ผ้าคลุมของพวกเขาก็เหมือนเดิม ไม่มีแม้แต่กลิ่นควันติดตัว
28 แล้วเนบูคัดเนสซาร์ก็ประกาศว่า “ขอสรรเสริญพระเจ้าของชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก+ พระองค์ส่งทูตสวรรค์มาช่วยผู้รับใช้ของพระองค์ พวกเขาวางใจพระองค์ถึงกล้าขัดคำสั่งเรา และยอมตายดีกว่าที่จะนับถือหรือกราบไหว้เทพเจ้าองค์อื่น นอกจากพระเจ้าของพวกเขา+ 29 ดังนั้น เราขอสั่งว่า ใครก็ตามไม่ว่าชาติไหนภาษาไหนที่พูดจาดูถูกพระเจ้าของชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกจะถูกหั่นเป็นท่อน ๆ และบ้านของพวกเขาจะกลายเป็นที่ถ่ายอุจจาระ* เพราะไม่มีเทพเจ้าองค์ไหนที่ช่วยได้เหมือนพระเจ้าองค์นี้”+
30 กษัตริย์จึงเลื่อนตำแหน่งชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกให้สูงขึ้นในรัฐบาบิโลน+
4 “นี่เป็นถ้อยคำจากกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ ถึงประชาชนทุกชาติทุกภาษาทั่วโลก ขอให้มีสันติสุข 2 เราอยากประกาศเรื่องการอัศจรรย์และปาฏิหาริย์ที่พระเจ้าองค์สูงสุดทำต่อเรา 3 การอัศจรรย์และปาฏิหาริย์ของพระองค์ก็ยิ่งใหญ่ รัฐบาลของพระองค์จะอยู่ตลอดไป และพระองค์ปกครองตลอดทุกยุคทุกสมัย+
4 “เราเนบูคัดเนสซาร์อยู่สุขสบายและมีความสุขความเจริญอยู่ในวังของเรา 5 ตอนที่นอนอยู่เราฝัน ภาพที่เห็นมันน่ากลัวมาก ทำให้เราตกใจเหลือเกิน+ 6 เราเลยสั่งให้เรียกผู้รอบรู้ในบาบิโลนมาให้หมด เพื่อจะได้บอกความหมายให้เรา+
7 “พอพวกนักบวชที่มีเวทมนตร์คาถา หมอผี พวกโหรชาวเคลเดีย และหมอดู+มา เราก็เล่าว่าฝันอะไร แต่พวกเขาบอกความหมายให้ไม่ได้+ 8 ในที่สุดดาเนียลก็เข้ามา เขามีอีกชื่อหนึ่งว่าเบลเทชัสซาร์+ซึ่งตั้งตามชื่อเทพเจ้าของเรา+ เขามีพลังอำนาจของเหล่าเทพผู้ศักดิ์สิทธิ์+ เราเล่าความฝันให้เขาฟังว่า
9 “‘เบลเทชัสซาร์หัวหน้านักบวชที่มีเวทมนตร์คาถา+ เรารู้ดีว่าพลังอำนาจของเหล่าเทพเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์อยู่กับคุณ+ และไม่มีเรื่องลึกลับอะไรที่ยากเกินไปสำหรับคุณ+ ดังนั้นช่วยบอกความหมายของเรื่องราวที่เราเห็นในความฝันให้ด้วย
10 “‘ตอนที่เรานอนอยู่ เราฝันเห็นต้นไม้ต้นหนึ่ง+อยู่ตรงกลางโลก มันสูงใหญ่มาก+ 11 มันโตขึ้นและแข็งแรง ยอดสูงเสียดฟ้าจนคนที่อยู่สุดขอบโลกมองเห็นได้ 12 ใบของมันสวยงาม ผลก็ดกเต็มต้น เป็นอาหารให้ทุกชีวิต สัตว์ป่าอาศัยร่มเงาของมัน พวกนกก็อยู่บนกิ่งก้านสาขาของมัน สิ่งมีชีวิตทั้งหมดได้กินผลจากต้นนั้น
13 “‘ในความฝัน เราเห็นผู้ส่งข่าว*ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์องค์หนึ่งลงมาจากสวรรค์+ 14 เขาพูดเสียงดังว่า “โค่นต้นไม้ลง+ ตัดกิ่งไม้ สลัดใบออก และเขย่าให้ผลกระจัดกระจายไป ไล่สัตว์ที่อยู่ใต้ต้นไม้และนกบนกิ่งไม้ออกไปด้วย 15 ให้เหลือไว้แต่ตอกับราก แล้วเอาปลอกเหล็กและปลอกทองแดงสวมไว้ ปล่อยมันไว้กลางทุ่งหญ้าให้มันเปียกน้ำค้างจากฟ้า ให้อยู่กับสัตว์ป่าในทุ่งหญ้า+ 16 ให้หัวใจของมันเปลี่ยนจากหัวใจของมนุษย์เป็นหัวใจของสัตว์ป่า และให้เป็นอย่างนั้นไป 7 ปี*+ 17 นี่เป็นคำตัดสินและคำสั่งจากผู้ส่งข่าว*+ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าพระเจ้าองค์สูงสุดเป็นผู้ปกครองอาณาจักรของมนุษย์+ พระองค์จะให้อำนาจการปกครองกับใครก็ได้แม้แต่คนที่ต่ำต้อยที่สุด ถ้าพระองค์ต้องการ”
18 “‘เรากษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ฝันอย่างนี้ ตอนนี้ ขอเบลเทชัสซาร์บอกความหมายกับเราเถอะ ไม่มีผู้รอบรู้คนอื่น ๆ ในอาณาจักรของเราสักคนที่บอกเราได้+ แต่คุณทำได้แน่ ๆ เพราะคุณมีพลังอำนาจของเหล่าเทพผู้ศักดิ์สิทธิ์’
19 “ดาเนียลที่มีอีกชื่อหนึ่งว่าเบลเทชัสซาร์+ก็ตกใจกลัวแล้วอึ้งไปพักหนึ่ง
“กษัตริย์เลยบอกว่า ‘เบลเทชัสซาร์อย่าตกใจกลัวกับความฝันและความหมายของมันเลย’
“เบลเทชัสซาร์ตอบว่า ‘ท่านครับ ขอให้เรื่องในฝันเกิดขึ้นกับคนที่เกลียดท่าน และขอให้ความหมายของความฝันเกิดขึ้นกับศัตรูของท่าน
20 “‘ต้นไม้ที่ท่านเห็นซึ่งใหญ่โตและแข็งแรง ยอดของมันสูงเสียดฟ้าจนคนทั้งโลกมองเห็นได้+ 21 ใบของมันสวยงาม ผลก็ดกเต็มต้น เป็นอาหารให้ทุกชีวิต สัตว์ป่าอาศัยอยู่ใต้ต้นไม้นั้น พวกนกก็อยู่บนกิ่งก้านสาขาของมัน+ 22 ต้นไม้นั้นก็คือท่านเอง ท่านมีอำนาจและแข็งแกร่ง ท่านยิ่งใหญ่ขึ้นจนเทียมฟ้า+และปกครองทั่วทั้งโลก+
23 “‘ท่านเห็นผู้ส่งข่าว*ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์องค์หนึ่ง+ที่ลงมาจากสวรรค์พูดว่า “โค่นต้นไม้ลงและทำลายซะ ทิ้งให้เหลือแต่ตอกับราก แล้วเอาปลอกเหล็กและปลอกทองแดงสวมไว้ ปล่อยมันไว้กลางทุ่งหญ้าให้มันเปียกน้ำค้างจากฟ้า ให้อยู่กับสัตว์ป่าจนครบ 7 ปี”*+ 24 ท่านครับ ต่อไปนี้เป็นความหมายของความฝัน พระเจ้าองค์สูงสุดกำหนดว่าท่านจะต้องเป็นอย่างนี้ 25 ท่านจะถูกไล่ออกจากสังคมมนุษย์ไปอยู่กับสัตว์ป่า จะต้องกินหญ้าเหมือนวัว และต้องเปียกน้ำค้างจากฟ้า+ไป 7 ปี*+ จนกว่าท่านจะสำนึกว่าพระเจ้าองค์สูงสุดเป็นผู้ปกครองอาณาจักรของมนุษย์ และพระองค์จะให้อำนาจการปกครองกับใครก็ได้ที่พระองค์ต้องการ+
26 “‘และที่ทูตสวรรค์บอกให้เหลือไว้แต่ตอกับราก+หมายความว่า ท่านจะได้อาณาจักรกลับคืนมาเมื่อท่านสำนึกว่าพระเจ้าในสวรรค์เป็นผู้ปกครองที่แท้จริง 27 ขอท่านโปรดฟังผม ขอให้ท่านเลิกทำบาปแล้วหันมาทำความดี เลิกทำชั่วแล้วมาเมตตาคนจน เผื่อว่าช่วงชีวิตที่รุ่งเรืองของท่านอาจยืดออกไปได้’”+
28 แล้วทุกสิ่งก็เกิดขึ้นจริงกับกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์
29 สิบสองเดือนต่อมา ตอนที่กษัตริย์เดินอยู่บนดาดฟ้าราชวังบาบิโลน 30 เขาพูดว่า “เรานี่แหละที่เป็นคนสร้างเมืองบาบิโลนที่ยิ่งใหญ่นี้ให้เป็นวังของเรา เมืองนี้สร้างขึ้นด้วยอำนาจของเราเองเพื่อเกียรติยศและบารมีของเรา”
31 กษัตริย์พูดยังไม่ทันขาดคำก็มีเสียงดังจากสวรรค์ว่า “กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ มีคำตัดสินมาแล้วว่า ‘คุณไม่ได้ครองอาณาจักรนี้แล้ว+ 32 คุณจะถูกไล่ออกจากสังคมมนุษย์ไปอยู่กับสัตว์ป่า และจะต้องกินหญ้าเหมือนวัวไป 7 ปี* จนกว่าจะสำนึกว่าพระเจ้าองค์สูงสุดเป็นผู้ปกครองอาณาจักรของมนุษย์ และพระองค์จะให้อำนาจการปกครองกับใครก็ได้ที่พระองค์ต้องการ’”+
33 ในตอนนั้นเอง ทุกอย่างที่บอกไว้ก็เกิดขึ้นกับเนบูคัดเนสซาร์ เขาถูกไล่ออกจากสังคมมนุษย์ ต้องกินหญ้าเหมือนวัว ตัวเปียกน้ำค้างจากฟ้า ผมเผ้ายาวเหมือนขนนกอินทรี เล็บยาวเหมือนกรงเล็บของนก+
34 “หลังจากครบกำหนด+ เราเนบูคัดเนสซาร์มองขึ้นไปบนฟ้า แล้วสติของเราก็กลับมา เรายกย่องสรรเสริญพระเจ้าองค์สูงสุดผู้มีชีวิตยืนยาวตลอดไป เพราะพระองค์ปกครองอยู่ตลอดกาล และรัฐบาลของพระองค์คงอยู่เรื่อยไปทุกยุคทุกสมัย+ 35 เมื่อเทียบกับพระองค์แล้วคนทั้งโลกไม่มีค่าอะไรเลย พระองค์จะทำยังไงก็ได้กับทูตสวรรค์และมนุษย์โลก ใครจะขัดขวาง+หรือพูดกับพระองค์ว่า ‘ทำไมพระองค์ทำอย่างนี้?’+
36 “เมื่อสติของเรากลับมา ความยิ่งใหญ่ของอาณาจักร เกียรติยศและความสง่างามของเราก็กลับคืนมา+ ข้าราชสำนักและพวกชนชั้นสูงก็ตามหาเราให้กลับไปปกครองอาณาจักร และเราก็ยิ่งใหญ่กว่าเดิม
37 “เราเนบูคัดเนสซาร์สรรเสริญยกย่อง และให้เกียรติกษัตริย์ในสวรรค์+ เพราะพระองค์ทำทุกอย่างได้อย่างถูกต้องและยุติธรรม+ และเพราะพระองค์ทำให้คนหยิ่งตกต่ำลงได้”+
5 กษัตริย์เบลชัสซาร์+จัดงานเลี้ยงใหญ่ให้ชนชั้นสูง 1,000 คน และดื่มเหล้าองุ่นกับคนพวกนั้น+ 2 พอเมาแล้ว เขาก็สั่งให้เอาถ้วยเงินและถ้วยทองคำที่เนบูคัดเนสซาร์พ่อ*ของเขายึดมาจากวิหารในกรุงเยรูซาเล็มมาใช้+ เพื่อให้กษัตริย์ ชนชั้นสูง นางสนม และพวกภรรยาน้อยของกษัตริย์เอามาใส่เหล้าองุ่นดื่มกัน 3 แล้วพวกเขาก็เอาถ้วยทองคำที่ยึดมาจากวิหารของพระเจ้าในกรุงเยรูซาเล็มมา และกษัตริย์ ชนชั้นสูง นางสนม พวกภรรยาน้อยของกษัตริย์ก็เอามาใช้ดื่ม 4 พวกเขาดื่มเหล้าองุ่นแล้วสรรเสริญเทพเจ้าที่ทำจากทองคำ เงิน ทองแดง เหล็ก ไม้ และหิน
5 ทันใดนั้นก็มีนิ้วมือคนโผล่ขึ้นมา แล้วเริ่มเขียนตัวอักษรบนผนังปูนของราชวังซึ่งมีตะเกียงอยู่ใกล้ ๆ กษัตริย์ก็เห็นมือที่กำลังเขียน 6 เขากลัวจนหน้าซีด* แข้งขาสั่นจนยืนแทบไม่อยู่+
7 กษัตริย์ตะโกนเรียกพวกหมอผี พวกโหรชาวเคลเดีย และหมอดูให้เข้ามา+ แล้วพูดกับผู้รอบรู้ของบาบิโลนพวกนี้ว่า “ใครที่อ่านและแปลข้อความนี้ให้เราได้ จะได้สวมเสื้อยศสีม่วง*และสร้อยคอทองคำ+ แล้วจะได้เป็นใหญ่เป็นอันดับ 3 ในอาณาจักรนี้”+
8 ผู้รอบรู้ทั้งหมดของกษัตริย์ก็เข้ามา แต่อ่านและแปลข้อความนั้นไม่ได้+ 9 กษัตริย์เบลชัสซาร์จึงกลัวจนหน้าซีด และพวกชนชั้นสูงก็สับสนวุ่นวายกันใหญ่+
10 พอได้ยินเสียงกษัตริย์และชนชั้นสูง ราชินี*จึงเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงแล้วบอกว่า “ขอให้กษัตริย์อายุยืนยาวตลอดไป ขออย่าตกใจกลัวจนหน้าซีดเลย 11 ในอาณาจักรของท่านมีผู้ชาย*คนหนึ่งที่มีพลังอำนาจของเหล่าเทพผู้ศักดิ์สิทธิ์ ในสมัยที่พ่อของท่านปกครอง ใคร ๆ ก็เห็นว่าชายคนนี้มีความรู้ ความเข้าใจ และมีปัญญาอย่างเทพเจ้า+ กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์พ่อของท่านถึงกับแต่งตั้งเขาให้เป็นหัวหน้าของนักบวชที่มีเวทมนตร์คาถา หมอผี โหรชาวเคลเดีย และหมอดู+ 12 คนนี้คือดาเนียลซึ่งพ่อของท่านได้ตั้งชื่อให้ว่าเบลเทชัสซาร์+ เขามีปัญญาและความสามารถพิเศษ มีความรู้ความเข้าใจที่จะแก้ฝัน ไขปริศนาและแก้ปัญหายาก ๆ ได้*+ ขอให้ท่านเรียกดาเนียลมาเถอะ แล้วเขาจะแปลความหมายตัวอักษรเหล่านี้ได้”
13 แล้วก็มีคนพาดาเนียลเข้ามา กษัตริย์ถามดาเนียลว่า “คุณคือดาเนียลเชลยที่พ่อของเราพามาจากยูดาห์ใช่ไหม?+ 14 เราได้ยินว่า คุณมีพลังอำนาจของเหล่าเทพ+ มีความรู้ ความเข้าใจ และมีปัญญามากกว่าคนอื่น+ 15 แม้แต่พวกผู้รอบรู้และหมอผีที่มีคนพามาหาเราเพื่อจะอ่านและแปลข้อความนี้ ก็ยังแปลไม่ได้+ 16 แต่เราได้ยินมาว่าคุณสามารถแปลความหมายของเรื่องลึกลับ+และแก้ปัญหายาก ๆ ได้* ถ้าคุณอ่านและแปลข้อความนี้ให้เราได้ คุณจะได้สวมเสื้อยศสีม่วงและสร้อยคอทองคำ แล้วจะได้เป็นใหญ่เป็นอันดับ 3 ในอาณาจักรนี้”+
17 แล้วดาเนียลก็ตอบกษัตริย์ว่า “ขอให้ท่านเก็บของขวัญไว้ หรือเอาไปให้คนอื่นก็ได้ แต่ผมจะอ่านและแปลข้อความนั้นให้ 18 ท่านครับ พระเจ้าองค์สูงสุดได้ให้อาณาจักร ความยิ่งใหญ่ และเกียรติยศแก่เนบูคัดเนสซาร์พ่อของท่าน+ 19 พระองค์ทำให้เนบูคัดเนสซาร์ยิ่งใหญ่ คนทุกชาติทุกภาษาจึงกลัวท่านจนตัวสั่น+ ถ้าท่านอยากฆ่าใครท่านก็ฆ่า อยากให้ใครมีชีวิตอยู่ท่านก็ปล่อยให้มีชีวิตอยู่ อยากยกย่องหรือเหยียดหยามใครก็ทำตามอำเภอใจ+ 20 แต่พอท่านเย่อหยิ่ง ไม่ยอมฟังใครจนทำอะไรเกินขอบเขต+ บัลลังก์ก็หลุดจากมือท่านไป และต้องอยู่อย่างไร้เกียรติ 21 ท่านถูกไล่ออกจากสังคมมนุษย์ นิสัยใจคอก็เหมือนสัตว์ป่า ต้องไปอยู่กับลาป่า กินหญ้าเหมือนวัว ตัวเปียกน้ำค้างจากฟ้า จนในที่สุดท่านก็สำนึกว่าพระเจ้าองค์สูงสุดเป็นผู้ปกครองอาณาจักรมนุษย์และพระองค์จะตั้งใครให้ปกครองก็ได้+
22 “แต่ท่านเอง เบลชัสซาร์ซึ่งเป็นลูก*ของเนบูคัดเนสซาร์ กลับไม่ได้ถ่อมลงทั้ง ๆ ที่รู้เรื่องทั้งหมดนี้แล้ว 23 ท่านกลับตั้งตัวเป็นคู่แข่งกับพระเจ้าผู้เป็นเจ้าของสวรรค์+ สั่งให้เอาถ้วยจากวิหารของพระองค์มา+ แล้วตัวท่านเองกับชนชั้นสูง นางสนม และพวกภรรยาน้อยของกษัตริย์ก็เอาถ้วยเหล่านั้นมาใส่เหล้าองุ่นดื่ม แล้วก็สรรเสริญเทพเจ้าที่ทำจากเงิน ทอง ทองแดง เหล็ก ไม้ และหิน เทพเจ้าที่มองอะไรก็ไม่เห็น ฟังอะไรก็ไม่ได้ยิน และไม่รู้เรื่องอะไรเลย+ แต่พระเจ้าที่กำชีวิตของท่านไว้ในมือ+ ท่านกลับไม่สรรเสริญ 24 พระองค์จึงส่งมือนั้นมาเขียนข้อความนี้+ 25 ซึ่งอ่านว่า เมเน เมเน เทเคล และปาร์ซิน
26 “ต่อไปนี้เป็นคำแปล คำว่า เมเน หมายความว่า พระเจ้านับวันที่เหลือของอาณาจักรของท่านและทำให้อาณาจักรนั้นสิ้นสุดลงแล้ว+
27 “คำว่า เทเคล หมายความว่า ท่านถูกวางบนตาชั่งและเห็นว่าน้ำหนักยังขาดอยู่
28 “คำว่า เปเรส* หมายความว่า อาณาจักรของท่านถูกแบ่งแยกและถูกเอาไปให้พวกมีเดียกับเปอร์เซียแล้ว”+
29 แล้วเบลชัสซาร์ก็สั่งให้เอาเสื้อยศสีม่วงและสร้อยคอทองคำมาสวมให้ดาเนียล และประกาศให้ดาเนียลเป็นผู้ปกครองอันดับที่ 3 ในอาณาจักรนี้+
30 คืนนั้นเอง เบลชัสซาร์กษัตริย์ชาวเคลเดียก็ถูกฆ่า+ 31 แล้วดาริอัส+ชาวมีเดียก็ครองอาณาจักรแทน ตอนนั้นเขาอายุประมาณ 62 ปี
6 กษัตริย์ดาริอัสพอใจที่จะตั้งผู้ปกครองรัฐ 120 คนให้ปกครองทั่วอาณาจักร+ 2 และตั้งรัฐมนตรีฝ่ายปกครอง 3 คนไว้ดูแลพวกเขา ดาเนียลเป็นคนหนึ่งในสามคนนั้น+ พวกผู้ปกครองรัฐ+ต้องรายงานเรื่องต่าง ๆ ต่อรัฐมนตรีฝ่ายปกครองเพื่อรักษาผลประโยชน์ของกษัตริย์ 3 ดาเนียลโดดเด่นกว่ารัฐมนตรีฝ่ายปกครองอีกสองคนและพวกผู้ปกครองรัฐทั้งหมด เพราะเขามีปัญญาและความสามารถพิเศษ+ กษัตริย์จึงคิดจะตั้งเขาให้ดูแลทั่วอาณาจักร
4 รัฐมนตรีฝ่ายปกครอง 2 คนกับพวกผู้ปกครองรัฐก็หาเรื่องจะฟ้องดาเนียลเกี่ยวกับงานราชการ แต่หาเรื่องฟ้องไม่ได้ และไม่เห็นว่าดาเนียลทำอะไรเสื่อมเสีย เพราะเขาเป็นคนซื่อสัตย์ ไม่เคยทุจริตหรือละเลยหน้าที่ 5 แล้วพวกเขาก็พูดกันว่า “เราคงหาเรื่องฟ้องเขาไม่ได้แล้วล่ะ ท่าทางเราต้องใช้เรื่องศาสนาของเขานี่แหละมาเล่นงานเขา”+
6 ว่าแล้วรัฐมนตรีฝ่ายปกครองกับผู้ปกครองรัฐก็พากันมาหากษัตริย์และพูดว่า “กษัตริย์ดาริอัส ขอให้ท่านอายุยืนยาวตลอดไป 7 พวกเราทุกคนที่เป็นรัฐมนตรีฝ่ายปกครอง ข้าราชการชั้นสูง ผู้ปกครองรัฐ องคมนตรี และเจ้าเมืองได้ปรึกษาหารือกันแล้วว่า น่าจะออกกฎหมายห้ามไม่ให้ใครร้องขอต่อเทพเจ้าหรือมนุษย์เป็นเวลา 30 วันนอกจากขอต่อท่าน ถ้าใครฝ่าฝืน คนนั้นจะต้องถูกโยนลงไปในบ่อสิงโต+ 8 ขอท่านออกกฎหมายนี้และลงชื่อไว้ด้วย+ เพื่อจะไม่มีใครมาเปลี่ยนแปลงได้ เพราะกฎหมายของชาวมีเดียและเปอร์เซียนั้นยกเลิกหรือแก้ไขไม่ได้”+
9 กษัตริย์ดาริอัสจึงลงชื่อในกฎหมายที่เป็นคำสั่งห้ามนั้น
10 เมื่อดาเนียลรู้ว่ามีการออกกฎหมายนั้น เขาก็กลับบ้าน ที่บ้านของเขามีห้องบนดาดฟ้า มีหน้าต่างเปิดอยู่ซึ่งหันไปทางกรุงเยรูซาเล็ม+ เขาขึ้นไปคุกเข่าอธิษฐานและสรรเสริญพระเจ้าอย่างที่เคยทำเป็นประจำวันละ 3 ครั้ง 11 ในตอนนั้นเอง คนพวกนั้นก็รีบกรูกันเข้ามา และเห็นดาเนียลกำลังอธิษฐานและอ้อนวอนพระเจ้าของเขาอยู่
12 พวกเขาก็พากันไปเตือนกษัตริย์เรื่องกฎหมายสั่งห้ามนั้นว่า “ท่านได้ลงชื่อในคำสั่งไว้แล้วไม่ใช่หรือว่า ในช่วง 30 วันนี้ ใครก็ตามที่ร้องขอต่อเทพเจ้าหรือมนุษย์นอกจากขอต่อท่านจะต้องถูกโยนลงบ่อสิงโต?” กษัตริย์บอกว่า “ใช่ คำสั่งนั้นออกเป็นกฎหมายแล้ว และตามกฎหมายของชาวมีเดียและเปอร์เซียจะยกเลิกหรือแก้ไขไม่ได้”+ 13 พวกเขารีบบอกกษัตริย์ทันทีว่า “แต่ดาเนียลเชลยจากยูดาห์+ไม่นับถือท่าน และไม่ทำตามคำสั่งที่ท่านลงชื่อไว้ เขายังอธิษฐานถึงพระเจ้าของเขาวันละ 3 ครั้งอยู่เลย”+ 14 พอกษัตริย์ได้ยินอย่างนั้นก็ทุกข์ใจมากและพยายามหาทุกวิถีทางที่จะช่วยดาเนียลจนค่ำ 15 ในที่สุด คนพวกนั้นก็พากันมาพบกษัตริย์แล้วพูดว่า “ขอท่านอย่าลืมว่า ตามกฎหมายของชาวมีเดียและเปอร์เซียนั้น คำสั่งหรือกฎหมายอะไรก็ตามที่กษัตริย์ลงชื่อแล้ว จะแก้ไขเปลี่ยนแปลงไม่ได้”+
16 กษัตริย์เลยต้องออกคำสั่งให้เอาตัวดาเนียลมา แล้วโยนลงไปในบ่อสิงโต+ กษัตริย์พูดกับดาเนียลว่า “พระเจ้าที่คุณนมัสการมาตลอดจะช่วยปกป้องคุณนะ” 17 หินก้อนหนึ่งถูกนำมาปิดที่ปากบ่อ แล้วกษัตริย์ก็เอาแหวนของเขาและแหวนของพวกขุนนางมาประทับตราลงบนหิน จะได้ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงคำสั่งนี้ได้
18 แล้วกษัตริย์ก็กลับวัง ไม่กินข้าวปลาอาหารและงดความบันเทิง* เขานอนไม่หลับทั้งคืน 19 พอเช้าตรู่ กษัตริย์ก็รีบลุกจากที่นอนแล้วไปที่บ่อสิงโต 20 ตอนที่เข้าไปเกือบจะถึงบ่อสิงโต กษัตริย์ก็ร้องเรียกดาเนียลด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย และถามว่า “ดาเนียล คนของพระเจ้า* พระเจ้าที่คุณนมัสการมาตลอดช่วยปกป้องคุณจากสิงโตได้หรือเปล่า?” 21 แล้วดาเนียลก็ตอบกลับมาว่า “ขอให้กษัตริย์อายุยืนยาวตลอดไป 22 พระเจ้าของผมส่งทูตสวรรค์มาปิดปากสิงโตไว้+ พวกมันเลยไม่ทำอะไรผม+ เพราะพระเจ้าเห็นว่า ผมไม่ได้ทำอะไรผิดต่อพระองค์หรือต่อกษัตริย์”
23 กษัตริย์ดีใจมาก จึงสั่งให้เอาตัวดาเนียลขึ้นมาจากบ่อ พอขึ้นมาแล้วก็เห็นว่าดาเนียลไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหนเลย นี่เป็นเพราะดาเนียลไว้วางใจพระเจ้า+
24 แล้วกษัตริย์มีคำสั่งให้เอาตัวพวกที่กล่าวหาดาเนียลมา คนพวกนี้ก็ถูกจับโยนลงไปในบ่อสิงโตพร้อมกับพวกลูก ๆ และภรรยา สิงโตขย้ำพวกเขาจนกระดูกหักเป็นท่อน ๆ ก่อนที่ตัวเขาจะถึงพื้นด้วยซ้ำ+
25 กษัตริย์ดาริอัสมีประกาศไปถึงประชาชนทุกชาติทุกภาษาที่อยู่ทั่วโลกว่า+ “ขอให้ทุกคนมีสันติสุข 26 เราขอออกคำสั่งให้ประชาชนทั่วทุกเขตในอาณาจักรของเราเคารพเกรงกลัวพระเจ้าของดาเนียล+ เพราะพระองค์เป็นพระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่ตลอดกาล รัฐบาลของพระองค์ไม่มีวันถูกทำลาย และพระองค์ปกครองตลอดไปไม่มีวันสิ้นสุด*+ 27 พระองค์ช่วยชีวิต+และปกป้องคนของพระองค์ พระองค์ทำการอัศจรรย์และแสดงปาฏิหาริย์ในสวรรค์และบนโลก+ อย่างที่พระองค์ช่วยดาเนียลให้รอดจากกรงเล็บสิงโต”
28 ดาเนียลก็เจริญรุ่งเรืองในอาณาจักรของดาริอัส+ และในอาณาจักรของไซรัสชาวเปอร์เซีย+
7 ในปีแรกที่เบลชัสซาร์+ปกครองเป็นกษัตริย์ของบาบิโลน ดาเนียลฝันและเห็นนิมิตตอนที่นอนอยู่+ แล้วเขาก็บันทึก+เรื่องทั้งหมดไว้ 2 ดาเนียลเล่าว่า
“ตอนกลางคืนผมเห็นนิมิต ผมเห็นลมพัดมาจากทั้งสี่ทิศทำให้ท้องทะเลปั่นป่วน+ 3 แล้วมีสัตว์ตัวใหญ่มหึมา 4 ตัว+โผล่ขึ้นจากทะเล แต่ละตัวไม่เหมือนกันเลย
4 “ตัวแรกเหมือนสิงโต+ มันมีปีกนกอินทรี+ ขณะที่ผมเฝ้าดูก็เห็นปีกของมันถูกดึงออกไป มันถูกบังคับให้ยืนสองขาเหมือนคน และหัวใจของมันถูกเปลี่ยนเป็นหัวใจคน
5 “และผมเห็นสัตว์ตัวที่สองเหมือนหมี+ มันยกขาขึ้นข้างหนึ่ง มันคาบกระดูกซี่โครง 3 ซี่ และมีเสียงสั่งมันว่า ‘ลุกขึ้นกินเนื้อให้มาก ๆ’+
6 “หลังจากนั้น ผมเห็นสัตว์อีกตัวหนึ่งเหมือนเสือดาว+ มันมีหัว 4 หัว+ บนหลังมีปีกนก 4 ปีก และมันได้รับอำนาจให้ปกครอง
7 “แล้วผมก็เห็นนิมิตต่อไปในคืนนั้น ผมเห็นสัตว์ตัวที่สี่ มันร้ายกาจน่ากลัวและแข็งแรงมาก มันมีฟันเหล็กซี่ใหญ่ มันขย้ำกินทุกอย่างที่ขวางหน้า แล้วอะไร ๆ ที่เหลืออยู่มันก็เหยียบย่ำ+ สัตว์ตัวนี้แตกต่างจากสัตว์ตัวอื่นทั้งหมดที่อยู่ก่อนมัน มันมีเขา 10 เขาด้วย 8 เมื่อผมกำลังดูเขา 10 เขานั้นอยู่ ก็มีเขาเล็กอีกเขาหนึ่ง+งอกขึ้นมากลางเขาทั้งสิบนั้น ทำให้ 3 เขาหลุดออกไป ผมเห็นว่าเขาเล็กนั้นมีตาเหมือนตาของคนและมีปากคุยโวโอ้อวด*+
9 “ผมเฝ้าดูต่อไปจนกระทั่งมีการตั้งบัลลังก์ขึ้นหลายบัลลังก์ แล้วผู้มีชีวิตอยู่ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์+ก็นั่งลงบนบัลลังก์+ พระองค์สวมชุดขาวเหมือนหิมะ+ มีผมขาวเหมือนขนแกะ บัลลังก์ของพระองค์เป็นเปลวเพลิง มีล้อที่มีไฟลุก+ 10 มีไฟพุ่งเป็นสายออกมาจากหน้าบัลลังก์ของพระองค์+ มีทูตสวรรค์เป็นล้านคอยปรนนิบัติพระองค์ และทูตสวรรค์เป็นร้อยล้านยืนอยู่ตรงหน้าพระองค์+ ศาล+เริ่มการพิจารณาคดีและหนังสือหลายเล่มถูกเปิดออก
11 “ผมจ้องดูต่อไปเพราะได้ยินเสียงเขาเล็กนั้นคุยโวโอ้อวด*+ ผมดูจนสัตว์ตัวนั้นถูกฆ่าและร่างของมันถูกทำลายและโยนทิ้งลงไปในไฟ 12 ส่วนสัตว์ตัวอื่น ๆ+ก็หมดอำนาจปกครอง แต่พวกมันยังมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกระยะหนึ่ง
13 “เมื่อดูนิมิตต่อไปในคืนนั้น ผมเห็นผู้หนึ่งเหมือนลูกมนุษย์มาบนเมฆในท้องฟ้า+ ท่านได้รับอนุญาตให้เข้าไปหาผู้มีชีวิตอยู่ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์+ แล้วท่านก็ถูกพาไปพบพระองค์ผู้นั้น 14 ท่านผู้นั้นได้รับเกียรติยศ+ และอำนาจปกครอง+ในรัฐบาล เพื่อประชาชนทุกชาติทุกภาษาจะได้รับใช้ท่าน+ ท่านจะปกครองตลอดกาลและอาณาจักรของท่านจะไม่มีวันถูกทำลาย+
15 “หลังจากเห็นนิมิตทั้งหมดนั้นแล้ว ผมดาเนียลกังวลใจและกลัว+ 16 ผมเลยเข้าไปใกล้ทูตสวรรค์องค์หนึ่งที่ยืนอยู่ที่นั่น เพื่อขอให้เขาช่วยบอกว่าเรื่องทั้งหมดนี้หมายถึงอะไรกันแน่ แล้วเขาก็อธิบายให้ผมรู้ความหมายของสิ่งเหล่านี้ว่า
17 “‘สัตว์ตัวใหญ่มหึมา 4 ตัวนั้น+หมายถึงกษัตริย์ 4 องค์ที่จะปกครองบนโลก+ 18 แต่แล้วพวกผู้บริสุทธิ์ของพระผู้สูงสุด+จะได้รับอำนาจการปกครอง+ และพวกเขาจะได้ปกครองในรัฐบาลนั้น+ตลอดไปไม่สิ้นสุด’
19 “ผมอยากรู้เพิ่มเติมเรื่องสัตว์ตัวที่สี่ซึ่งแตกต่างจากสัตว์ตัวอื่นทั้งหมด มันน่ากลัวจนขนลุกขนพอง มีฟันเหล็ก และกรงเล็บทองแดง มันขย้ำกินทุกอย่างที่ขวางหน้า แล้วอะไร ๆ ที่เหลืออยู่มันก็เหยียบย่ำ+ 20 และผมก็อยากรู้เรื่องเขา 10 เขา+บนหัวของสัตว์ตัวนั้นด้วย รวมทั้งเขาอีกเขาหนึ่งที่งอกขึ้นมากลางเขาทั้งสิบนั้นแล้วทำให้ 3 เขาหลุดออกไป+ คือเขาที่มีตาและมีปากคุยโวโอ้อวด* เขานั้นใหญ่โตกว่าเขาอื่น ๆ
21 “ขณะที่ผมมองดูอยู่ เขานั้นเปิดศึกสู้รบกับพวกผู้บริสุทธิ์และเอาชนะได้ด้วย+ 22 แต่แล้วผู้มีชีวิตอยู่ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์+ซึ่งเป็นพระผู้สูงสุดก็มาตัดสินความให้ผู้บริสุทธิ์ของพระองค์เป็นฝ่ายถูก+ แล้วก็ถึงเวลากำหนดที่พวกผู้บริสุทธิ์จะได้ปกครองในรัฐบาล+
23 “ทูตสวรรค์อธิบายว่า ‘สัตว์ตัวที่สี่คืออาณาจักรที่สี่ที่จะเกิดขึ้นบนโลก อาณาจักรนี้จะแตกต่างจากอาณาจักรอื่นทั้งหมด และจะกลืนและเหยียบย่ำทั้งโลก+ 24 ส่วนเขา 10 เขามีความหมายว่า จะมีกษัตริย์ 10 องค์เกิดขึ้นจากอาณาจักรนั้น และหลังจากนั้นจะมีอีกองค์หนึ่งซึ่งแตกต่างจากกษัตริย์องค์ก่อน ๆ และจะโค่นล้มกษัตริย์ 3 องค์+ 25 กษัตริย์องค์นี้จะพูดจาลบหลู่พระเจ้าองค์สูงสุด+ และข่มเหงพวกผู้บริสุทธิ์ของพระผู้สูงสุด เขาจะพยายามเปลี่ยนแปลงกำหนดเวลาและกฎหมาย และพวกผู้บริสุทธิ์จะอยู่ในกำมือของเขาตลอด 1 ปี 2 ปี และครึ่งปี*+ 26 แต่ศาลตัดสินให้ยึดอำนาจของกษัตริย์องค์นี้ แล้วทำลายเขาให้สิ้นซาก+
27 “‘แล้วอำนาจปกครองและความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรทั่วโลกก็เป็นของประชาชนของพระผู้สูงสุด คือพวกผู้บริสุทธิ์+ รัฐบาลที่พวกเขาปกครองจะเป็นรัฐบาลที่อยู่ตลอดไป+ และอาณาจักรอื่น ๆ จะต้องรับใช้และเชื่อฟังพวกเขา’
28 “เรื่องจบลงแค่นี้ ส่วนผมดาเนียลเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ก็ตกใจกลัวจนหน้าซีด แต่ผมเก็บเรื่องทั้งหมดนี้ไว้ในใจ”
8 ในปีที่ 3 ที่กษัตริย์เบลชัสซาร์+ปกครอง ผมดาเนียลได้เห็นนิมิตอีกเรื่องหนึ่ง+ 2 ผมอยู่ที่วังชูชัน*+ในรัฐเอลาม+ ผมเห็นนิมิตใกล้แม่น้ำ*อุลัย 3 เมื่อผมเงยหน้าขึ้นก็เห็นแกะตัวผู้ตัวหนึ่ง+ยืนอยู่ริมแม่น้ำนั้น มันมีเขายาว 2 เขา+ แต่เขาหนึ่งยาวกว่าอีกเขาหนึ่ง เขาที่ยาวกว่างอกขึ้นมาทีหลัง+ 4 ผมเห็นแกะตัวผู้ขวิดไปทางทิศตะวันตก ทิศเหนือ และทิศใต้ ไม่มีสัตว์ป่าตัวไหนสู้มันได้ และไม่มีใครจะช่วยให้รอดจากแรงขวิดของมันได้+ มันทำตามใจตัวเองและตั้งตัวเป็นใหญ่
5 ขณะที่ผมมองดูอยู่ก็มีแพะตัวผู้ตัวหนึ่ง+มาจากทางตะวันตก มันวิ่งข้ามโลกมาอย่างรวดเร็วจนเท้าแทบไม่แตะพื้น มันมีเขาอันหนึ่งขึ้นเด่นอยู่ระหว่างตา+ 6 มันพุ่งตรงมาทางแกะตัวผู้ที่มี 2 เขานั้นซึ่งผมเห็นยืนอยู่ริมแม่น้ำ แพะตัวนั้นวิ่งเข้ามาด้วยความโกรธจัด
7 ผมเห็นมันวิ่งเข้าใส่แกะตัวผู้ด้วยความโกรธ มันขวิดจนเขาของแกะหักไปทั้ง 2 ข้าง แกะตัวนั้นไม่มีแรงสู้มันได้ มันเหวี่ยงแกะลงกับพื้นแล้วเหยียบซ้ำ และไม่มีใครช่วยแกะให้รอดได้
8 แล้วแพะตัวผู้นั้นก็ตั้งตัวเป็นใหญ่ แต่เมื่อมันมีอำนาจมาก เขาใหญ่ของมันก็หัก แล้วมี 4 เขาที่เด่นงอกขึ้นมาแทนและชี้ไป 4 ทิศ+
9 แล้วก็มีเขาเล็กเขาหนึ่งแตกออกมาจากหนึ่งในสี่เขานี้ มันขยายใหญ่ขึ้นไปทางทิศใต้ ทิศตะวันออก และไปทางเมืองที่งดงาม+ 10 เขาเล็กนี้ขยายใหญ่ขึ้นจนไปถึงกองทัพบนฟ้า และทำให้กองทัพบางส่วนกับดาวบางดวงตกลงมาบนโลกแล้วก็เหยียบย่ำ 11 เขาเล็กนี้ถึงกับยกตัวต่อต้านจอมทัพบนฟ้า มันทำให้การถวายเครื่องบูชาที่ทำเป็นประจำต้องหยุดไป และที่ศักดิ์สิทธิ์ที่พระองค์ตั้งขึ้นก็ถูกเหวี่ยงลง+ 12 และเพราะการกระทำผิด กองทัพกับเครื่องบูชาที่ถวายเป็นประจำจึงตกเป็นของมัน มันเหวี่ยงความจริงลงกับพื้น มันทำสิ่งเหล่านี้จนสำเร็จ
13 ผมได้ยินผู้บริสุทธิ์ผู้หนึ่งพูด และผู้บริสุทธิ์อีกผู้หนึ่งถามผู้นั้นว่า “สิ่งที่เห็นในนิมิตเกี่ยวกับเครื่องบูชาที่ถวายเป็นประจำ การกระทำผิดที่ทำให้เกิดความร้างเปล่า+ และการเหยียบย่ำที่บริสุทธิ์กับกองทัพ ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นนานแค่ไหน?” 14 เขาก็บอกผมว่า “จะเป็นเวลานาน 2,300 วัน* แล้วที่บริสุทธิ์จะกลับสู่สภาพที่เหมาะสมดังเดิม”
15 ตอนที่ผมดาเนียลมองดูนิมิตนั้นอยู่และพยายามจะเข้าใจ ทันใดนั้นก็เห็นผู้หนึ่งดูเหมือนมนุษย์มายืนอยู่ข้างหน้าผม 16 แล้วผมก็ได้ยินเสียงอีกผู้หนึ่งจากกลางแม่น้ำอุลัย+ ผู้นั้นร้องบอกว่า “กาเบรียล+ ช่วยอธิบายให้เขาเข้าใจสิ่งที่เขาเห็นหน่อย”+ 17 กาเบรียลก็เข้ามาใกล้ผม ผมกลัวมากจึงหมอบลงกับพื้น เขาพูดกับผมว่า “ลูกมนุษย์ ขอให้เข้าใจเถอะว่า เรื่องในนิมิตนี้จะเกิดขึ้นจริงในสมัยสุดท้าย”+ 18 ตอนที่เขายังพูดกับผมอยู่ ผมก็หลับไป หลับสนิททั้ง ๆ ที่หมอบอยู่กับพื้น เขาก็มาสะกิดและช่วยพยุงผมให้ลุกขึ้นยืนตรงที่เดิม+ 19 แล้วเขาก็พูดว่า “ผมจะบอกให้คุณรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในช่วงสุดท้ายของการประกาศการลงโทษจากพระเจ้า เพราะเรื่องในนิมิตนี้จะเกิดขึ้นจริงในสมัยสุดท้ายตามเวลาที่กำหนดไว้แล้ว+
20 “แกะตัวผู้ 2 เขาที่คุณเห็นคือ กษัตริย์ของมีเดียและกษัตริย์ของเปอร์เซีย+ 21 แพะตัวผู้*คือ กษัตริย์ของกรีซ+ และเขาใหญ่ที่อยู่ระหว่างตาของมันคือ กษัตริย์องค์แรกของกรีซ+ 22 แล้วที่เขานั้นหักและมี 4 เขาขึ้นมาแทน+ก็หมายความว่า จะมี 4 อาณาจักรเกิดมาจากชาตินี้ แต่ไม่มีอำนาจเท่ากษัตริย์องค์แรก
23 “ในช่วงท้ายของอาณาจักรทั้งสี่นี้ เมื่อผู้ที่ทำผิดทำชั่วถึงขีดสุด กษัตริย์องค์หนึ่งที่ดูดุร้ายและเป็นคนเจ้าเล่ห์*จะยืนขึ้น* 24 เขาจะมีอำนาจยิ่งใหญ่ขึ้น แต่ไม่ใช่ด้วยตัวเขาเอง เขาจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน* อะไร ๆ ที่เขาทำก็สำเร็จ เขาจะทำความเสียหายแก่ผู้ที่มีอำนาจรวมทั้งกลุ่มชนที่เป็นผู้บริสุทธิ์+ 25 เขาจะใช้เล่ห์เหลี่ยมหลอกลวงเพื่อจะประสบความสำเร็จ เขาจะหยิ่งทะนง และในช่วงที่ใคร ๆ รู้สึกปลอดภัย* เขาจะทำลายหลายคน และถึงกับยืนขึ้นต่อต้านเจ้าองค์ยิ่งใหญ่ แต่ในที่สุดเขาจะถูกทำลายแต่ไม่ใช่ด้วยมือมนุษย์
26 “นิมิตเกี่ยวกับเครื่องบูชาที่ถวายเป็นประจำในตอนเย็นและตอนเช้านั้นจะเกิดขึ้นจริง แต่คุณต้องเก็บเรื่องในนิมิตไว้เป็นความลับ เพราะยังอีกนานกว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น”+
27 ผมดาเนียลรู้สึกหมดแรงและไม่สบายไปหลายวัน+ เมื่อผมหายแล้วก็กลับมาทำงานรับใช้กษัตริย์ต่อไป+ แต่ก็ยังงงไม่หายกับสิ่งที่เห็น และไม่มีใครเข้าใจนิมิตนั้นได้+
9 เหตุการณ์ต่อไปนี้เกิดขึ้นในปีแรกที่ดาริอัสลูกชายของอาหะสุเอรัสชาวมีเดียได้รับการแต่งตั้งเป็นกษัตริย์+ในอาณาจักรของชาวเคลเดีย+ 2 ในปีแรกที่เขาปกครองนั้น ผมดาเนียลได้ค้นดูในหนังสือ*แล้วก็เจอข้อความที่พระยะโฮวาบอกผู้พยากรณ์เยเรมีย์ไว้ว่า กรุงเยรูซาเล็มจะร้าง+อยู่ 70 ปี+ 3 ผมจึงขอพระยะโฮวาพระเจ้าเที่ยงแท้ให้ช่วย ผมอธิษฐานอ้อนวอน อดอาหาร+ ใส่ผ้ากระสอบ และเอาขี้เถ้าโรยตัว 4 เมื่ออธิษฐานถึงพระยะโฮวาพระเจ้าและสารภาพบาป ผมพูดว่า
“พระยะโฮวาพระเจ้าเที่ยงแท้ พระองค์ยิ่งใหญ่ น่าเกรงขาม และรักษาสัญญาเสมอ ใครที่รักพระองค์และทำตามคำสั่งของพระองค์+ พระองค์ก็รักเขาไม่เปลี่ยนแปลง+ 5 แต่เราทำบาป ทำผิด ทำชั่ว และกบฏขัดขืน+ เราไม่ได้ทำตามคำสั่งและกฎหมายของพระองค์ 6 พระองค์ใช้ผู้พยากรณ์ซึ่งเป็นผู้รับใช้ของพระองค์ให้มาบอกกษัตริย์ เจ้านาย และบรรพบุรุษของเรา กับประชาชนทุกคนว่าพระองค์ต้องการให้ทำอะไร พวกเขาพูดในนามของพระองค์ แต่พวกเราไม่ฟัง+ 7 พระยะโฮวา พระองค์ทำถูกต้องเสมอ แต่ตอนนี้พวกเราต้องอับอายขายหน้า พวกเราทั้งชาวยูดาห์ ชาวเยรูซาเล็ม ชาวอิสราเอลทุกคนที่กระจัดกระจายไปอยู่ในดินแดนต่าง ๆ ทั้งใกล้และไกล ต้องอับอายขายหน้า เพราะไม่ซื่อสัตย์ต่อพระองค์+
8 “พระยะโฮวา พวกเราทั้งกษัตริย์ เจ้านาย และบรรพบุรุษของเราต้องอับอายขายหน้า เพราะเราทำบาปต่อพระองค์ 9 พระยะโฮวาพระเจ้าของเรา พระองค์เมตตาและให้อภัย+ ทั้ง ๆ ที่เรากบฏขัดขืน+ 10 พระยะโฮวาพระเจ้า เราไม่ได้เชื่อฟังและไม่ได้ทำตามกฎหมายที่พระองค์ให้มาทางผู้พยากรณ์ที่เป็นผู้รับใช้ของพระองค์+ 11 ชาวอิสราเอลทุกคนฝ่าฝืนกฎหมายเหล่านั้น และออกนอกลู่นอกทางไม่เชื่อฟังพระองค์ ในกฎหมายของโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์ผู้เป็นพระเจ้าเที่ยงแท้มีคำสาปแช่งและคำสาบานเขียนไว้ แล้วพระองค์ก็ทำให้เกิดขึ้นกับเราตามนั้น+ เพราะเราทำบาปต่อพระองค์ 12 พระองค์ทำให้เรากับผู้ปกครองบ้านเมืองพินาศย่อยยับตามที่พระองค์บอกไว้+ ในโลกนี้ไม่เคยมีอะไรเลวร้ายเท่ากับสิ่งที่เกิดขึ้นกับกรุงเยรูซาเล็มเลย+ 13 เราต้องเจอกับความพินาศอย่างนี้ตามที่กฎหมายของโมเสสบอกไว้+ แต่เราก็ยังไม่ได้พยายามทำให้พระยะโฮวาพระเจ้าเมตตาเรา โดยเลิกทำผิด+และยอมรับว่าพระองค์พูดจริงทำจริง*
14 “พระยะโฮวา พระองค์คอยดูมาตลอดและในที่สุดก็ทำให้พวกเราพินาศ พระยะโฮวาพระเจ้าของเรา พระองค์ทำทุกสิ่งถูกต้องแล้ว แต่เราก็ยังไม่เชื่อฟังพระองค์+
15 “พระยะโฮวาพระเจ้า พระองค์ได้พาประชาชนของพระองค์ออกมาจากอียิปต์ด้วยอำนาจอันยิ่งใหญ่+และทำให้พระองค์เองมีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วจนถึงทุกวันนี้+ พวกเราได้ทำผิดไปแล้วจริง ๆ 16 พระยะโฮวา พระองค์ทำถูกต้องเสมอ+ ดังนั้น ขออย่าโกรธเยรูซาเล็มอีกต่อไปเลย เพราะเมืองนี้เป็นเมืองของพระองค์และเป็นภูเขาบริสุทธิ์ของพระองค์ ตอนนี้ใคร ๆ ก็เยาะเย้ยเยรูซาเล็มและประชาชนของพระองค์ เพราะความผิดที่เรากับบรรพบุรุษของเราทำ+ 17 พระยะโฮวาพระเจ้าของเรา ขอฟังคำอธิษฐานและคำอ้อนวอนของผมที่เป็นผู้รับใช้ของพระองค์ ขอมาช่วยที่ศักดิ์สิทธิ์+ของพระองค์ที่ยังร้างอยู่+เพื่อเห็นแก่ชื่อเสียงของพระองค์เอง 18 พระเจ้าของผม ขอเงี่ยหูฟัง และมองดูสภาพสิ้นเนื้อประดาตัวของเราและความร้างเปล่าของเมืองที่ถูกเรียกตามชื่อของพระองค์ ที่ขออย่างนี้ไม่ใช่เพราะเราทำดี แต่เพราะพระองค์เมตตาพวกเรามาก+ 19 ขอพระยะโฮวาโปรดฟังเรา ขอพระยะโฮวาให้อภัยเรา+ ขอพระยะโฮวาสนใจและช่วยเรา พระเจ้าของผม ขอรีบมาช่วยเพื่อเห็นแก่ชื่อเสียงของพระองค์เอง เพราะเมืองนี้และชนชาตินี้ถูกเรียกตามชื่อของพระองค์”+
20 เมื่อผมกำลังพูด กำลังอธิษฐาน สารภาพบาปของผมและของชาวอิสราเอลเพื่อนร่วมชาติ และขอความเมตตาจากพระยะโฮวาพระเจ้าเพื่อภูเขาบริสุทธิ์ของพระองค์+ 21 ขณะที่ผมกำลังอธิษฐานอยู่นั้นเอง กาเบรียล+ คน*ที่ผมเคยเห็นในนิมิตก่อนหน้านี้+ก็มาหา ผมกำลังเหนื่อยและท้อแท้มาก ตอนนั้นเป็นเวลาถวายเครื่องบูชาตอนเย็น 22 ท่านอธิบายว่า
“ดาเนียล ที่ผมมาก็เพื่อจะอธิบายให้คุณรู้และเข้าใจ 23 ตอนที่คุณเพิ่งจะเริ่มอธิษฐาน ผมได้รับคำสั่งให้มาบอกคุณ เพราะคุณเป็นคนที่พระเจ้าถือว่ามีค่ามาก+ ดังนั้น เรื่องที่ผมกำลังจะบอกนี้ ขอให้คิดตามไปด้วย แล้วคุณจะเข้าใจเรื่องนิมิตนั้น
24 “พระเจ้ากำหนดเวลาไว้ 70 สัปดาห์*สำหรับเพื่อนร่วมชาติและเมืองบริสุทธิ์ของคุณ+ เพื่อให้การกระทำผิดสิ้นสุดลง ให้บาปหมดไป+ ให้อภัยความผิด*+ ให้เกิดความถูกต้องชอบธรรมซึ่งจะคงอยู่ตลอดไป+ ให้ประทับตรายืนยันนิมิตและคำพยากรณ์*+ และให้แยกห้องบริสุทธิ์ที่สุดไว้ต่างหาก 25 ขอให้คุณรู้และเข้าใจว่า ตั้งแต่มีคำสั่งออกมาให้ฟื้นฟูและสร้างกรุงเยรูซาเล็มขึ้นใหม่+จนถึงเมสสิยาห์*+ผู้นำ+นั้นจะมา จะเป็นเวลา 7 สัปดาห์กับอีก 62 สัปดาห์+ กรุงนี้จะได้รับการฟื้นฟูและสร้างขึ้นใหม่พร้อมทั้งมีลานเมืองและคูเมือง แต่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ยากลำบาก
26 “พอ 62 สัปดาห์นั้นผ่านไป เมสสิยาห์จะถูกฆ่า+ ท่านจะไม่เหลืออะไรเลย+
“แล้วจะมีผู้นำคนหนึ่งยกทัพมาทำลายกรุงนี้และที่บริสุทธิ์+ การทำลายนี้จะมาเหมือนน้ำท่วม จะมีสงครามมาตลอดจนถึงตอนนั้น พระเจ้าตัดสินว่าจะให้กรุงนี้ร้างเปล่า+
27 “เมสสิยาห์จะทำให้สัญญามีผลต่อไปอีก 1 สัปดาห์เพื่อคนหลายคน พอผ่านไปครึ่งสัปดาห์ ท่านจะทำให้การถวายสัตว์เป็นเครื่องบูชาและของถวายต่าง ๆ ถูกยกเลิกไป+
“และจะมีผู้หนึ่งซึ่งทำให้เกิดการร้างเปล่ามาบนปีกของสิ่งที่น่ารังเกียจ+ ส่วนที่ที่ถูกทำให้ร้างเปล่าจะต้องรับผลตามคำตัดสินของพระเจ้าจนกว่าจะถึงความพินาศย่อยยับ”
10 ในปีที่ 3 ที่ไซรัส+ปกครองเป็นกษัตริย์ของเปอร์เซีย พระเจ้าเปิดเผยเรื่องหนึ่งแก่ดาเนียลซึ่งมีอีกชื่อหนึ่งว่าเบลเทชัสซาร์+ เป็นเรื่องจริงเกี่ยวกับการสู้รบครั้งใหญ่ ดาเนียลได้รับคำอธิบายให้เข้าใจเรื่องที่เขาเห็น
2 ในช่วงนั้น ผมดาเนียลเป็นทุกข์+อยู่ 3 อาทิตย์ 3 ผมไม่กินอาหารดี ๆ ไม่กินเนื้อ ไม่ดื่มเหล้าองุ่น และไม่เอาน้ำมันทาตัวเลยตลอดสามอาทิตย์นั้น 4 แล้วในวันที่ 24 เดือน 1 ตอนที่ผมอยู่ริมฝั่งแม่น้ำใหญ่ คือแม่น้ำไทกริส*+ 5 ผมเห็นผู้ชายคนหนึ่งสวมผ้าลินิน+และคาดเข็มขัดทำด้วยทองคำที่มาจากอุฟาส 6 ตัวเขาเหมือนอัญมณีสีเหลือง*+ หน้าสว่างเหมือนแสงฟ้าแลบ ตาเหมือนเปลวไฟ แขนขาเหมือนทองแดงขัดเงา+ และเสียงพูดของเขาดังเหมือนเสียงฝูงชน 7 มีแต่ผมที่เห็นนิมิตนี้ ส่วนคนที่อยู่กับผมไม่เห็น+ แต่พวกเขาก็หวาดกลัวมากจนหนีไปซ่อนตัว
8 ตอนนั้นเหลือผมอยู่คนเดียว เมื่อเห็นนิมิตที่ยิ่งใหญ่นี้ ผมก็หมดสภาพและหมดเรี่ยวหมดแรง+ 9 แล้วผมได้ยินเสียงผู้ชายคนนั้นพูด ตอนที่เขากำลังพูดอยู่ผมก็หลับไป หลับสนิทหน้าฟุบอยู่กับพื้น+ 10 แต่เขาสะกิด+และปลุกผมให้ตื่น ผมเลยใช้มือและเข่ายันตัวขึ้น 11 แล้วเขาพูดกับผมว่า
“ดาเนียล คุณเป็นคนที่พระเจ้าถือว่ามีค่ามาก+ ขอให้ตั้งใจฟังเรื่องที่ผมจะพูดกับคุณ เอาละ ขอให้คุณลุกขึ้นยืน พระเจ้าส่งผมมาหาคุณ”
เมื่อเขาพูดกับผมอย่างนี้ ผมก็ยืนขึ้นและตัวสั่น
12 เขาบอกผมว่า “ดาเนียลอย่ากลัวเลย+ พระเจ้าได้ยินคำอ้อนวอนของคุณตั้งแต่วันแรกที่คุณพยายามเข้าใจเรื่องทั้งหมดนี้ และคุณเป็นคนอ่อนน้อมต่อพระองค์ ผมเลยถูกส่งมาหาคุณ+ 13 แต่เจ้า+แห่งอาณาจักรเปอร์เซียมาขวางผมไว้ 21 วัน จนมีคาเอล*+ซึ่งเป็นเจ้าผู้สูงส่งท่านหนึ่งมาช่วยผม ตอนนั้นผมอยู่ที่นั่นกับกษัตริย์ของเปอร์เซีย 14 ผมมาช่วยคุณให้เข้าใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนร่วมชาติของคุณในสมัยสุดท้าย+ เพราะเรื่องในนิมิตนี้จะเกิดขึ้นในอนาคต”+
15 เมื่อได้ยินผู้ชายคนนั้นพูดอย่างนี้ ผมก็ก้มหน้าลงและพูดไม่ออก 16 แล้วผู้หนึ่งรูปร่างเหมือนมนุษย์ก็มาแตะปากของผม+ ผมเลยพูดกับผู้นั้นที่ยืนอยู่ตรงหน้าว่า “ท่านครับ ผมกลัวจนตัวสั่นเพราะนิมิตนั้น ผมไม่มีแรงแล้ว+ 17 ผมซึ่งเป็นคนรับใช้ของท่านจะพูดกับท่านได้ยังไง+ เพราะตอนนี้ผมหมดแรง แม้แต่จะหายใจก็แทบไม่ไหว”+
18 ผู้ที่รูปร่างเหมือนมนุษย์แตะตัวผมอีกครั้ง ทำให้เรี่ยวแรงผมกลับคืนมา+ 19 เขาบอกว่า “คุณเป็นคนที่พระเจ้าถือว่ามีค่ามาก+ ไม่ต้องกลัว+ ใจเย็น ๆ+ เข้มแข็งไว้ เข้มแข็งเข้าไว้” พอเขาพูดกับผม ผมก็มีแรงขึ้นและพูดว่า “ท่านพูดมาเถอะครับ เพราะท่านทำให้ผมมีเรี่ยวแรงแล้ว”
20 เขาบอกว่า “คุณรู้ใช่ไหมว่าผมมาหาคุณทำไม? เดี๋ยวผมจะกลับไปสู้กับเจ้าแห่งเปอร์เซีย+ เมื่อผมไป เจ้าแห่งกรีซจะมาสู้กับผมด้วย 21 แต่ก่อนอื่น ผมจะบอกคุณเรื่องที่มีเขียนไว้ในหนังสือที่บันทึกความจริง ไม่มีใครช่วยผมให้ทำเรื่องทั้งหมดนี้ได้ นอกจากมีคาเอล+เจ้าผู้สูงส่ง+
11 “ส่วนผมเอง ในปีแรกที่ดาริอัส+ชาวมีเดียปกครอง ผมเคยช่วยเหลือและสนับสนุนมีคาเอล* 2 ต่อไปนี้ผมจะบอกคุณเรื่องหนึ่งที่จะเกิดขึ้นจริง
“จะมีกษัตริย์อีก 3 องค์ขึ้นมาปกครองเปอร์เซีย แล้วจะมีกษัตริย์องค์ที่สี่ซึ่งจะร่ำรวยกว่ากษัตริย์องค์อื่นทั้งหมด เมื่อเขาเข้มแข็งขึ้นเพราะความร่ำรวยของเขาแล้ว เขาจะรวบรวมกองกำลังทั้งหมดไปรบกับอาณาจักรกรีซ+
3 “แล้วจะมีกษัตริย์ผู้เข้มแข็งองค์หนึ่งขึ้นมาปกครอง เขาจะมีอำนาจยิ่งใหญ่*+และทำตามใจตัวเอง 4 แต่เมื่อเขามีอำนาจถึงขีดสุด อาณาจักรของเขาจะแตกแยกและถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วนไปตามทิศทั้งสี่+ แต่ไม่ใช่แบ่งให้ลูกหลานของเขา การปกครองของเขาจะถูกถอนรากถอนโคนและตกเป็นของคนอื่นซึ่งจะไม่มีอำนาจเท่ากับเขา
5 “แล้วกษัตริย์ทิศใต้ซึ่งเป็นแม่ทัพ*คนหนึ่งของเขาจะมีอำนาจมาก แต่จะมีผู้หนึ่งเอาชนะเขาได้และปกครองด้วยอำนาจที่ยิ่งใหญ่กว่า
6 “หลังจากหลายปีผ่านไป ทั้งสองจะมาเป็นพันธมิตรกัน และจะทำข้อตกลงให้ลูกสาวของกษัตริย์ทิศใต้มาหากษัตริย์ทิศเหนือ แต่เธอจะสูญเสียผู้หนุนหลัง และกษัตริย์ก็จะถูกโค่นล้มและหมดอำนาจไป เธอจะพ่ายแพ้ รวมทั้งคนที่พาเธอมา คนที่ให้กำเนิดเธอ และคนที่เคยทำให้เธอเข้มแข็งมาก่อนด้วย 7 แล้วคนหนึ่งในครอบครัวของเธอจะมาแทนที่พ่อของเขาเอง เขาจะมาต่อสู้กับกองทัพและโจมตีป้อมของกษัตริย์ทิศเหนือและเอาชนะได้ 8 เขาจะเอาพวกรูปปั้นเทพเจ้า รูปหล่อโลหะ และของมีค่าที่ทำจากเงินและทองของพวกเขาเอง รวมทั้งเชลยกลับไปที่อียิปต์ด้วย และเขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับกษัตริย์ทิศเหนือเป็นเวลาหลายปี 9 แล้วกษัตริย์ทิศเหนือจะมาโจมตีอาณาจักรของกษัตริย์ทิศใต้ แต่ก็ต้องถอยกลับไปแผ่นดินของเขาเอง
10 “ส่วนลูก ๆ ของเขาจะเตรียมทำสงครามและรวบรวมกองทัพใหญ่ ลูกคนหนึ่ง*จะมุ่งหน้ากวาดล้างแผ่นดินเหมือนน้ำมาท่วม แล้วเขาจะกลับไปและสู้รบไปตลอดทางจนถึงป้อมของเขา
11 “กษัตริย์ทิศใต้จะโกรธแค้นและออกไปสู้รบกับกษัตริย์ทิศเหนือซึ่งจะรวบรวมทหารกองใหญ่ แต่ทหารเหล่านั้นจะตกอยู่ในกำมือของเขา 12 แล้วทหารเหล่านั้นจะถูกพาตัวไป เขาจะเย่อหยิ่งและจะทำให้หลายหมื่นคนล้มตาย แต่ก็ไม่ได้ใช้โอกาสนั้นเผด็จศึก
13 “แล้วกษัตริย์ทิศเหนือจะโต้กลับโดยรวบรวมทหารกองใหญ่กว่าครั้งแรก จนหลายปีผ่านไป ในที่สุดเขาจะยกกองทัพใหญ่มาพร้อมเสบียงและอาวุธครบครัน 14 ในช่วงเวลานั้น จะมีหลายคนต่อสู้กษัตริย์ทิศใต้
“และพวกหัวรุนแรง*ที่เป็นเพื่อนร่วมชาติของคุณจะลุกฮือและพยายามทำให้นิมิตเป็นจริง แต่จะทำไม่สำเร็จ
15 “แล้วกษัตริย์ทิศเหนือจะบุกมาและสร้างเนินดินเพื่อยึดเมืองที่แข็งแกร่ง กองทัพและพวกทหารชั้นยอดของกษัตริย์ทิศใต้จะสู้ไม่ไหว พวกเขาจะไม่มีกำลังต้านทานได้ 16 ผู้ที่มาสู้รบกับกษัตริย์ทิศใต้จะทำตามใจชอบและไม่มีใครสู้เขาได้ เขาจะเข้ามาในเมืองที่งดงาม+และจะมีอำนาจในการทำลายล้าง 17 เขาจะมุ่งหน้ามาพร้อมกับกองกำลังทั้งหมดจากอาณาจักรของเขา และเขาจะทำข้อตกลงกับกษัตริย์องค์นั้น เขาจะได้รับอนุญาตให้ทำร้ายลูกสาว แต่เธอจะไม่ยอม และจะไม่เข้าข้างเขา 18 เขาจะหันหน้ามุ่งไปที่ดินแดนต่าง ๆ แถบชายฝั่งทะเล และจะยึดได้หลายดินแดน แล้วผู้สั่งการคนหนึ่งจะจัดการกับเขาเพื่อไม่ให้มาเหยียดหยามตัวเองอีกต่อไป แต่จะทำให้เขากลับถูกเหยียดหยามแทน 19 แล้วเขาจะกลับไปที่ป้อมในแผ่นดินของเขา เขาจะล้มและไม่มีใครพบเห็นเขาอีก
20 “แล้วจะมีผู้หนึ่งมาแทนที่เขา ผู้นั้นจะส่งคนเก็บภาษี*ไปทั่วอาณาจักรที่รุ่งเรือง แต่ไม่นานเขาจะตาย แต่ไม่ใช่จากความโกรธแค้นหรือจากสงคราม
21 “แล้วจะมีผู้หนึ่งมาแทนที่เขา แต่ผู้คนจะดูหมิ่นและไม่ให้เกียรติผู้นั้นในฐานะกษัตริย์ เขาจะมาในช่วงที่สงบ*และจะใช้เล่ห์เหลี่ยมยึดอาณาจักร 22 เขาจะปราบกองทัพที่มาเหมือนน้ำท่วม กองทัพเหล่านั้นจะถูกกำจัด และผู้นำ+ตามสัญญา+ก็จะถูกกำจัดด้วย 23 และเพราะหลายคนมาเป็นพันธมิตรกับเขา เขาจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมหลอกลวงและขึ้นมามีอำนาจโดยอาศัยชนชาติเล็ก ๆ ชนชาติหนึ่ง 24 ในช่วงที่สงบ* เขาจะเข้าไปในดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดและทำสิ่งที่บรรพบุรุษของเขาไม่เคยทำ เขาจะแบ่งสมบัติและข้าวของที่ปล้นมาให้ประชาชน เขาจะวางแผนโจมตีเมืองที่มีป้อมแข็งแกร่ง แต่จะสำเร็จแค่ระยะหนึ่งเท่านั้น
25 “แล้วเขาจะรวบรวมพลังกับความกล้า และยกกองทัพใหญ่ไปต่อสู้กับกษัตริย์ทิศใต้ ส่วนกษัตริย์ทิศใต้จะเตรียมทำสงครามและยกทัพที่ยิ่งใหญ่และเข้มแข็งมาต่อสู้ เขา*จะอยู่ได้ไม่นานเพราะจะมีหลายคนคิดปองร้ายเขา 26 คนที่กินร่วมโต๊ะกับเขาจะทำให้เขาตาย
“กองทัพของเขาจะถูกกวาดล้าง และคนมากมายจะถูกฆ่าตาย
27 “ส่วนกษัตริย์สององค์นี้ซึ่งเป็นคนคิดชั่วจะนั่งร่วมโต๊ะและโกหกกัน แต่แผนการของพวกเขาจะไม่สำเร็จ เพราะพวกเขาจะพบจุดจบตามเวลากำหนด*+
28 “แล้วกษัตริย์ทิศเหนือจะกลับไปที่แผ่นดินของเขาพร้อมข้าวของมากมาย ใจของเขาจะต่อต้านสัญญาศักดิ์สิทธิ์ เขาทำได้ทุกอย่างตามที่ตั้งใจไว้และกลับไปที่แผ่นดินของเขา
29 “เมื่อถึงเวลาที่กำหนดไว้ เขาจะกลับมาสู้กับกษัตริย์ทิศใต้อีก แต่ครั้งนี้จะไม่เหมือนครั้งก่อน 30 เพราะเรือจากคิททิม+จะมาสู้กับเขา และเขาจะต้องยอมแพ้
“เขาจะกลับมาและระบายความโกรธ*ใส่คนที่อยู่ในสัญญาศักดิ์สิทธิ์+ และจะหันไปสนใจคนที่ทิ้งสัญญาศักดิ์สิทธิ์ 31 กองทัพของเขาจะมาทำให้ที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นเหมือนป้อมนั้นแปดเปื้อน+ และทำให้การถวายเครื่องบูชาที่ทำเป็นประจำต้องหยุดไป+
“แล้วพวกเขาจะตั้งสิ่งน่ารังเกียจซึ่งทำให้เกิดความรกร้างว่างเปล่าขึ้น+
32 “กษัตริย์ทิศเหนือจะใช้คำพูดหลอกลวงชักนำคนทำชั่วที่ละเมิดสัญญาให้กบฏขัดขืน แต่คนที่รู้จักพระเจ้าจะไม่เป็นแบบนั้น พวกเขาจะไม่ยอมแพ้ 33 และคนเหล่านั้นที่มีความเข้าใจดี+จะช่วยคนอื่นหลายคนให้มีความเข้าใจด้วย แล้วพวกเขาจะต้องล้มลงระยะหนึ่งเพราะคมดาบ เพราะเปลวไฟ เพราะตกเป็นเชลย และเพราะถูกปล้น 34 แต่เมื่อพวกเขาต้องทนทุกข์ พวกเขาจะได้รับการช่วยเหลือเล็กน้อย และหลายคนจะมาทำเป็นพูดดีและแกล้งสนใจมาเข้าร่วมกับพวกเขา 35 และบางคนที่มีความเข้าใจดีจะต้องทนทุกข์จนถึงสมัยสุดท้ายเพื่อคัดกรองและชำระพวกเขาให้ขาวสะอาด+ เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นตามเวลาที่กำหนดไว้
36 “กษัตริย์ทิศเหนือจะทำตามใจชอบ เขาจะตั้งตัวเป็นใหญ่และยกตัวเหนือพระเจ้าทุกองค์ และจะพูดลบหลู่พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่เหนือพระทั้งหมด+อย่างน่าตกใจ เขาจะทำได้ตามที่ต้องการจนในที่สุดพระเจ้ามาลงโทษเขา สิ่งที่พระเจ้ากำหนดไว้จะต้องเกิดขึ้น 37 เขาจะไม่สนใจพระเจ้าของบรรพบุรุษ ไม่สนใจความต้องการของพวกผู้หญิง และไม่สนใจพระเจ้าองค์ไหนเลย แต่เขาจะยกตัวเหนือทุกสิ่ง 38 เขาจะยกย่องพระแห่งป้อมปราการแทน คือยกย่องพระที่บรรพบุรุษของเขาไม่รู้จักโดยถวายทองคำ เงิน เพชรพลอย และของมีค่า 39 เขาจะโจมตีป้อมที่แข็งแรงที่สุดได้สำเร็จเพราะไว้วางใจพระองค์ใหม่นี้* เขาจะให้เกียรติคนที่นับถือเขา*และตั้งคนพวกนั้นให้ปกครองคนมากมาย และเขาจะแบ่งที่ดินขายถ้าได้ราคาที่เขาพอใจ
40 “ในสมัยสุดท้าย กษัตริย์ทิศใต้กับกษัตริย์ทิศเหนือจะสู้กัน* กษัตริย์ทิศเหนือจะระดมรถรบ ทหารม้า และเรือมากมายมากระหน่ำโจมตีกษัตริย์ทิศใต้ และจะเข้าไปในหลายดินแดนและกวาดล้างเหมือนน้ำมาท่วม 41 เขาจะเข้าไปในเมืองที่งดงามด้วย+ และหลายดินแดนจะต้องพ่ายแพ้เขา แต่จะมีดินแดนที่รอดพ้นเงื้อมมือของเขาคือ เอโดมกับโมอับ รวมทั้งคนสำคัญ ๆ และคนส่วนใหญ่ของชาวอัมโมนก็จะรอดพ้นด้วย 42 แล้วเขาจะพยายามขยายอำนาจไปยังดินแดนต่าง ๆ แม้แต่แผ่นดินอียิปต์ก็จะหนีไม่พ้น 43 เขาจะครอบครองทรัพย์สมบัติที่ซ่อนไว้ซึ่งเป็นทองคำ เงิน และของมีค่าทั้งหมดของอียิปต์ ชาวลิเบียกับชาวเอธิโอเปียจะทำตามที่เขาสั่ง*
44 “แต่จะมีข่าวมาจากทิศตะวันออกและทิศเหนือที่ทำให้เขาตื่นตระหนก เขาจะโกรธจัดแล้วทำลายหลายคนให้ย่อยยับ 45 เขาจะตั้งค่ายใหญ่*ระหว่างทะเลใหญ่กับภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่งดงาม+ แล้วในที่สุดเขาจะพบจุดจบ จะไม่มีใครช่วยเขาได้
12 “ในช่วงเวลานั้นมีคาเอล*+เจ้าชายองค์ยิ่งใหญ่+ซึ่งคอยช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติของคุณอยู่จะเริ่มปฏิบัติการ และจะเกิดช่วงเวลาที่ทุกข์ยากลำบากอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตั้งแต่เริ่มมีชาติต่าง ๆ ในช่วงเวลานั้นเพื่อนร่วมชาติของคุณทุกคนที่มีชื่อเขียนไว้ในหนังสือของพระเจ้า*+จะรอดพ้น+ 2 หลายคนที่ตายไปแล้วจะฟื้นขึ้นมา บางคนจะฟื้นขึ้นมามีชีวิตตลอดไป แต่บางคนจะฟื้นขึ้นมาแล้วถูกตำหนิและถูกดูหมิ่นเหยียดหยามตลอดไป
3 “คนที่มีความเข้าใจลึกซึ้งจะส่องแสงจ้าเหมือนท้องฟ้าที่สว่างไสว และคนที่ช่วยหลายคนให้ทำสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรมจะส่องแสงเหมือนดวงดาวตลอดไป
4 “ส่วนคุณ ดาเนียล ให้ปิดผนึกม้วนหนังสือนี้และเก็บเรื่องในนั้นเป็นความลับจนถึงสมัยสุดท้าย+ หลายคนจะค้นดูม้วนหนังสือนี้อย่างถี่ถ้วน และความรู้แท้จะมีอย่างมากมาย”+
5 จากนั้น ผมดาเนียลก็มองเห็นทูตสวรรค์อีกสององค์ยืนอยู่ที่นั่น องค์หนึ่งอยู่บนฝั่งแม่น้ำข้างนี้ ส่วนอีกองค์หนึ่งอยู่ฝั่งข้างโน้น+ 6 แล้วหนึ่งในสององค์นั้นพูดกับผู้ชายที่สวมผ้าลินิน+ซึ่งอยู่เหนือแม่น้ำว่า “เหตุการณ์ที่น่าประหลาดใจเหล่านี้จะจบลงเมื่อไหร่?” 7 ผมเห็นผู้ชายที่สวมผ้าลินินซึ่งอยู่เหนือแม่น้ำชูมือทั้งสองข้างขึ้นฟ้าแล้วสาบานโดยให้พระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่ตลอดกาล+เป็นพยาน และผมได้ยินเขาตอบว่า “เหตุการณ์ทั้งหมดนี้จะต้องจบลงตามเวลากำหนด เมื่อครบ 1 ปี 2 ปี และครึ่งปี* คือเมื่อการทำลายล้างอำนาจของชนชาติบริสุทธิ์สิ้นสุดลง”+
8 ผมได้ยินแต่ไม่เข้าใจ+ เลยถามว่า “ท่านครับ เรื่องนี้จะจบลงยังไง?”
9 เขาบอกว่า “ไปเถอะดาเนียล เพราะเรื่องในม้วนหนังสือนี้ต้องเก็บเป็นความลับและปิดผนึกไว้จนถึงสมัยสุดท้าย+ 10 หลายคนจะชำระตัวให้ขาวสะอาดและจะได้รับการขัดเกลา+ ส่วนคนชั่วก็จะทำชั่วต่อไป และจะไม่มีคนชั่วสักคนเข้าใจเรื่องนี้ แต่คนมีปัญญาจะเข้าใจ+
11 “จะเป็นเวลา 1,290 วัน ซึ่งเริ่มนับจากตอนที่การถวายเครื่องบูชาที่ทำเป็นประจำ+ต้องหยุดไปและมีการตั้งสิ่งน่ารังเกียจซึ่งทำให้เกิดความร้างเปล่าขึ้น+
12 “คนที่อดทนรอ*จนครบ 1,335 วันก็จะมีความสุข
13 “ส่วนคุณ ขอให้มั่นคงจนถึงที่สุด คุณจะได้พักผ่อน แต่คุณจะลุกขึ้นมารับส่วนแบ่ง*ของคุณเมื่อถึงเวลา”+
แปลตรงตัวว่า “ชินาร์”
หรืออาจแปลได้ว่า “เลี้ยงดู”
แปลว่า “พระเจ้าเป็นผู้พิพากษาของฉัน”
แปลว่า “พระยะโฮวาโปรดปราน”
อาจแปลว่า “ใครจะเหมือนพระเจ้า?”
แปลว่า “พระยะโฮวาช่วย”
คือ ชื่อในภาษาของชาวบาบิโลน
ในต้นฉบับ ตั้งแต่ตรงนี้จนถึง ดนล 7:28 เขียนเป็นภาษาอาราเมอิก
หรืออาจแปลได้ว่า “ที่ทิ้งขยะ” หรือ “กองมูลสัตว์”
หรือ “ประชาชน”
หรือ “ราชอาณาจักร”
หรือ “รูปปั้น”
26.7 เมตร ดูภาคผนวก ข14
2.67 เมตร
คำภาษาอาราเมอิกคือ คัทโรส เป็นเครื่องสายชนิดหนึ่งในสมัยโบราณ ซึ่งไม่รู้แน่ชัดว่ามีลักษณะอย่างไร
แปลตรงตัวว่า “เสียงแตรเขาสัตว์ ปี่ พิณคัทโรส พิณสามเหลี่ยม เครื่องสาย และเครื่องดนตรีอื่น ๆ ทั้งหมด”
ตรงนี้ในภาษาฮีบรูบอกชื่อเครื่องดนตรีต่าง ๆ เหมือนในข้อ 5
ตรงนี้ในภาษาฮีบรูบอกชื่อเครื่องดนตรีต่าง ๆ เหมือนในข้อ 5
หรือ “ความรู้สึกดี ๆ ที่มีต่อพวกเขาก็หายไปหมด”
หรืออาจแปลได้ว่า “ที่ทิ้งขยะ” หรือ “กองมูลสัตว์”
แปลตรงตัวว่า “ผู้คอยดูแล”
แปลตรงตัวว่า “วาระ” หรือ “ช่วงเวลา”
แปลตรงตัวว่า “ผู้คอยดูแล”
แปลตรงตัวว่า “ผู้คอยดูแล”
แปลตรงตัวว่า “วาระ” หรือ “ช่วงเวลา”
แปลตรงตัวว่า “วาระ” หรือ “ช่วงเวลา”
แปลตรงตัวว่า “วาระ” หรือ “ช่วงเวลา”
หรือ “ตา”
หรือ “จนดูเปลี่ยนไป”
สีม่วงเป็นสีของกษัตริย์ และยังแสดงถึงความร่ำรวยและเกียรติยศ
ดูเหมือนว่าจะเป็นแม่ของกษัตริย์
หรือ “คนที่มีความสามารถ”
แปลตรงตัวว่า “แก้ปมได้”
แปลตรงตัวว่า “แก้ปมได้”
หรือ “หลาน”
คำภาษาอาราเมอิก “เปเรส” เป็นรูปเอกพจน์ของคำว่า “ปาร์ซิน” ในข้อ 25
หรืออาจแปลได้ว่า “ไม่ให้เอานักดนตรีเข้ามา”
แปลตรงตัวว่า “พระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่”
หรือ “พระองค์มีอำนาจปกครองสูงสุดตลอดไป”
หรือ “พูดจาโอหัง”
หรือ “พูดจาโอหัง”
หรือ “พูดจาโอหัง”
แปลตรงตัวว่า “1 วาระและ 2 วาระและครึ่งวาระ” หรือ “1 ช่วงเวลาและ 2 ช่วงเวลาและครึ่งช่วงเวลา”
หรือ “สุสา”
หรือ “คลอง”
แปลตรงตัวว่า “เย็นและเช้า”
แปลตรงตัวว่า “แพะตัวผู้ที่มีขนยาว”
หรือ “รู้วิธีพูดคำที่มีความหมายแฝงเร้น”
หรือ “ขึ้นปกครอง”
หรือ “ทำให้เกิดความพินาศย่อยยับ”
หรืออาจแปลได้ว่า “และโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า”
คือ ม้วนหนังสือศักดิ์สิทธิ์หลายม้วน
หรือ “ซื่อสัตย์”
แปลตรงตัวว่า “ผู้ชาย”
ในที่นี้ 1 สัปดาห์เท่ากับ 7 ปี
หรือ “ทำให้มีการคืนดี” แปลตรงตัวว่า “ปิดคลุมบาป”
แปลตรงตัวว่า “ผู้พยากรณ์”
หรือ “ผู้ถูกเจิม”
แปลตรงตัวว่า “ฮิดเดเคล”
หรือ “คริโซไลต์” ซึ่งเป็นอัญมณีสีเหลืองหรืออาจจะเป็นสีเขียวก็ได้
แปลว่า “ใครจะเหมือนพระเจ้า?”
แปลตรงตัวว่า “เขา”
หรือ “ปกครองอาณาจักรที่กว้างใหญ่”
หรือ “เจ้าชาย”
แปลตรงตัวว่า “เขา”
หรือ “ลูกโจร”
หรือ “หัวหน้างาน”
หรืออาจแปลได้ว่า “โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า”
หรืออาจแปลได้ว่า “โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า”
น่าจะหมายถึงกษัตริย์ทิศเหนือ
หรือ “เพราะจุดจบจะมาภายหลังตามเวลาที่กำหนดไว้” แปลตรงตัวว่า “เพราะจุดจบยังมาไม่ถึงตามที่กำหนดไว้”
หรือ “ด่าว่าแรง ๆ”
แปลตรงตัวว่า “พระของคนต่างชาติ”
หรืออาจแปลได้ว่า “คนที่เขายอมรับ”
หรือ “จะงัดข้อกัน”
หรือ “จะติดตามเขา”
หรือ “ค่ายของกษัตริย์”
แปลว่า “ใครจะเหมือนพระเจ้า?”
แปลตรงตัวว่า “ในหนังสือ”
แปลตรงตัวว่า “1 วาระ 2 วาระ และครึ่งวาระ” หรือ “1 ช่วงเวลา 2 ช่วงเวลา และครึ่งช่วงเวลา”
หรือ “คนที่ตั้งตาคอย”
หรือ “รางวัล”