จดหมายฉบับแรกของยอห์น
1 เราเขียนถึงพวกคุณเรื่องท่านผู้นั้นที่อยู่ตั้งแต่ตอนเริ่มต้น ซึ่งเราได้ยิน ได้เห็นกับตา ได้เฝ้าดู และได้สัมผัสมากับมือ ท่านมีถ้อยคำที่ให้ชีวิต+ 2 (เราได้เห็นและกำลังประกาศ+ให้พวกคุณรู้เกี่ยวกับชีวิตนั้นซึ่งมาจากพระเจ้าผู้เป็นพ่อและมีการเปิดเผยเรื่องนี้กับเรา นั่นคือชีวิตตลอดไป)+ 3 เราได้บอกสิ่งที่เราเห็นและได้ยินเกี่ยวกับท่านผู้นั้นให้พวกคุณรู้+ เพื่อพวกคุณจะเป็นหนึ่งเดียวกับเรา อย่างที่เราเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าผู้เป็นพ่อและพระเยซูคริสต์ที่เป็นลูกของพระองค์+ 4 เราจึงเขียนเรื่องนี้เพื่อพวกเราทุกคนจะมีความสุขอย่างเต็มที่
5 เรื่องที่เราได้ยินจากพระคริสต์และกำลังบอกพวกคุณให้รู้คือ พระเจ้าเป็นความสว่าง+ และไม่มีความมืดในพระองค์เลย 6 ถ้าเราบอกว่า “เราเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์” แต่ยังเดินอยู่ในความมืด เราก็โกหกและไม่ได้ทำตามความจริง+ 7 แต่ถ้าเราเดินอยู่ในความสว่างอย่างที่พระองค์อยู่ในความสว่าง เราทุกคนก็เป็นหนึ่งเดียวกัน และเลือดของพระเยซูลูกของพระองค์จะลบล้างบาปทั้งหมดของเรา+
8 ถ้าเราบอกว่า “เราไม่มีบาป” เราก็หลอกตัวเอง+และไม่ได้เชื่อความจริง 9 ถ้าเราสารภาพบาป พระเจ้าจะให้อภัยเราและลบล้างความชั่วทั้งหมดที่เราเคยทำ+ เพราะพระองค์ซื่อสัตย์และยุติธรรม 10 ถ้าเราบอกว่า “เราไม่ได้ทำบาป” ก็เท่ากับเราหาว่าพระองค์โกหกและไม่เชื่อคำพูดของพระองค์
2 ลูก ๆ ที่รัก ผมเขียนเรื่องเหล่านี้เพื่อพวกคุณจะไม่ทำบาป แต่ถ้าใครทำบาป เราก็มีผู้ช่วยที่อยู่กับพระเจ้าผู้เป็นพ่อ ซึ่งผู้ช่วยนั้นก็คือพระเยซูคริสต์+ที่เชื่อฟังพระเจ้า*+ 2 ท่านเป็นเครื่องบูชา+ไถ่บาปของเราเพื่อให้เราคืนดีกับพระเจ้า+ และไม่ใช่แค่บาปของเราเท่านั้น แต่บาปของคนทั้งโลกด้วย+ 3 ถ้าเราทำตามคำสั่งของท่านเสมอ นั่นก็แสดงว่าเราได้มารู้จักท่านจริง ๆ 4 คนที่บอกว่า “ฉันรู้จักท่าน” แต่ไม่ได้ทำตามคำสั่งของท่าน คนนั้นก็พูดโกหกและไม่มีความจริงในตัวเขา 5 แต่ถ้าใครทำตามคำสอนของท่าน ก็แสดงว่าเขารักพระเจ้าจริง+ และเมื่อเราทำอย่างนั้น ก็แสดงว่าเราเป็นหนึ่งเดียวกับท่าน+ 6 คนที่บอกว่าเขาเป็นหนึ่งเดียวกับท่าน ก็ต้องใช้ชีวิตตามอย่างท่านด้วย+
7 พี่น้องที่รัก ที่ผมเขียนมานี้ไม่ใช่กฎหมายใหม่ แต่เป็นกฎหมายเก่าที่พวกคุณได้รับมาตั้งแต่แรก+ ซึ่งเป็นคำสอนที่พวกคุณเคยได้ยินมาแล้ว 8 และที่ผมเขียนมานี้ก็ถือว่าเป็นกฎหมายใหม่ด้วย ซึ่งทั้งพระเยซูและพวกคุณทำตาม เพราะความสว่างแท้ส่องแสงมาแล้วและความมืดกำลังจะผ่านพ้นไป+
9 คนที่บอกว่าเขาอยู่ในความสว่างแต่ยังเกลียด+พี่น้อง คนนั้นก็ยังอยู่ในความมืด+ 10 คนที่รักพี่น้องก็อยู่ในความสว่าง+ และจะไม่มีอะไรทำให้เขาทิ้งความเชื่อไป* 11 แต่คนที่เกลียดพี่น้องก็ยังอยู่ในความมืด เขาเดินในความมืด+และไม่รู้ว่ากำลังเดินไปไหน+ เพราะความมืดทำให้เขาเป็นเหมือนคนตาบอด
12 ลูก ๆ ที่รัก ผมเขียนถึงพวกคุณเพราะพวกคุณได้รับการอภัยบาปแล้วเพราะชื่อของพระเยซู+ 13 พวกคุณที่เป็นพ่อ ผมเขียนถึงพวกคุณเพราะพวกคุณได้รู้จักท่านผู้นั้นที่อยู่ตั้งแต่ตอนเริ่มต้น พวกคุณที่เป็นคนหนุ่ม ผมเขียนถึงพวกคุณเพราะพวกคุณชนะซาตานตัวชั่วร้ายแล้ว+ พวกคุณที่เป็นลูก ผมเขียนถึงพวกคุณเพราะพวกคุณได้รู้จักพระเจ้าผู้เป็นพ่อแล้ว+ 14 พวกคุณที่เป็นพ่อ ผมเขียนถึงพวกคุณเพราะพวกคุณได้รู้จักท่านผู้นั้นที่อยู่ตั้งแต่ตอนเริ่มต้น พวกคุณที่เป็นคนหนุ่ม ผมเขียนถึงพวกคุณเพราะพวกคุณเข้มแข็ง+และถ้อยคำของพระเจ้าอยู่ในใจพวกคุณ+ และพวกคุณชนะซาตานตัวชั่วร้ายแล้ว+
15 อย่ารักโลกหรือสิ่งของในโลก+ ถ้าใครรักโลก เขาก็ไม่ได้รักพระเจ้าผู้เป็นพ่อ+ 16 เพราะทุกสิ่งในโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นความต้องการของร่างกายที่มีบาป+ ความต้องการที่เกิดจากตา+ หรือการโอ้อวดทรัพย์สมบัติ* ไม่ได้มาจากพระเจ้าผู้เป็นพ่อ แต่มาจากโลก 17 โลกนี้กำลังจะผ่านพ้นไปพร้อม ๆ กับความต้องการของโลก+ แต่คนที่ทำตามความต้องการของพระเจ้าจะอยู่ตลอดไป+
18 ลูก ๆ ที่รัก ตอนนี้เป็นช่วงสุดท้ายแล้ว พวกคุณเคยได้ยินว่าผู้ต่อต้านพระคริสต์กำลังจะมา+ และเดี๋ยวนี้ก็มีผู้ต่อต้านพระคริสต์อยู่แล้วหลายคน+ ซึ่งทำให้เรารู้ว่าตอนนี้เป็นช่วงสุดท้ายจริง ๆ 19 พวกเขาเคยอยู่กับเราแต่ทิ้งเราไป เพราะพวกเขาไม่ได้เป็นพวกเดียวกับเรา+ ถ้าพวกเขาเป็นพวกเดียวกับเรา พวกเขาก็คงยังอยู่กับเรา แต่ที่พวกเขาทิ้งเราไปก็แสดงว่าไม่ใช่ทุกคนเป็นพวกเดียวกับเรา+ 20 พวกคุณได้รับการเจิมจากพระเจ้าองค์บริสุทธิ์+ และพวกคุณทุกคนรู้ความจริง 21 ผมเขียนถึงพวกคุณไม่ใช่เพราะพวกคุณไม่รู้ความจริง+ แต่เขียนเพราะพวกคุณรู้อยู่แล้ว และเพราะคำโกหกจะออกมาจากความจริงไม่ได้+
22 แล้วใครล่ะที่พูดโกหก? ก็คือคนที่ปฏิเสธว่าพระเยซูเป็นพระคริสต์+ คนแบบนี้แหละเป็นผู้ต่อต้านพระคริสต์+ เขาปฏิเสธทั้งพระเจ้าผู้เป็นพ่อและลูกของพระองค์ 23 คนที่ปฏิเสธลูกของพระเจ้า พระเจ้าผู้เป็นพ่อจะไม่ยอมรับเขา+ แต่คนที่ยอมรับลูกของพระองค์+ พระเจ้าผู้เป็นพ่อจะยอมรับเขา+ 24 พี่น้องครับ ให้สิ่งที่พวกคุณได้ยินมาตั้งแต่แรกอยู่ในใจพวกคุณเสมอ+ เพราะถ้าสิ่งที่พวกคุณได้ยินมาตั้งแต่แรกอยู่ในใจพวกคุณ พวกคุณก็จะเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าผู้เป็นพ่อและเป็นหนึ่งเดียวกับลูกของพระองค์ 25 และนี่เป็นสิ่งที่พระองค์สัญญาไว้กับเรา คือ ชีวิตตลอดไป+
26 ผมเขียนเรื่องเหล่านี้มาเพื่อบอกพวกคุณเกี่ยวกับคนที่พยายามหลอกลวงพวกคุณ 27 พี่น้องครับ พระเจ้าเจิมพวกคุณด้วยพลังบริสุทธิ์+และพลังนั้นยังอยู่กับพวกคุณ ดังนั้น พวกคุณไม่ต้องให้ใครมาสอน แต่พลังนั้นสอนพวกคุณทุกสิ่ง+ การเจิมด้วยพลังบริสุทธิ์เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องโกหก ขอให้พวกคุณเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์เสมอ+ตามที่พลังนั้นสอน 28 ดังนั้น ลูก ๆ ที่รัก ให้พวกคุณเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ต่อไป เพื่อว่าเมื่อท่านผู้นั้นมาปรากฏ เราจะกล้าพูด+และไม่ต้องหลบหน้าด้วยความอายในช่วงการประทับของท่านผู้นั้น 29 ในเมื่อพวกคุณรู้ว่าท่านผู้นั้นทำสิ่งที่ถูกต้องเสมอ พวกคุณก็รู้ว่าทุกคนที่ทำสิ่งที่ถูกต้องเกิดมาจากพระเจ้า+
3 ดูสิว่าพระเจ้าผู้เป็นพ่อแสดงความรักต่อเรามากขนาดไหน+ พระองค์ถึงกับยอมให้เราถูกเรียกว่าลูกของพระเจ้า+ และเราก็เป็นลูกของพระองค์จริง ๆ แต่โลกไม่รู้จักเรา+เพราะโลกไม่รู้จักพระองค์+ 2 พี่น้องที่รัก ตอนนี้เราเป็นลูกของพระเจ้าแล้ว+ แต่เรายังไม่รู้ว่าเราจะมีสภาพอย่างไรในอนาคต+ เรารู้ว่าเมื่อพระองค์ปรากฏตัวให้เราเห็น เราจะมีสภาพอย่างพระองค์ เพราะเราจะได้เห็นพระองค์อย่างที่พระองค์เป็นจริง ๆ 3 และคนที่หวังในพระองค์อย่างนั้นก็ชำระตัวเองให้บริสุทธิ์+เหมือนที่พระองค์บริสุทธิ์
4 คนที่ทำบาปเป็นนิสัยก็กำลังทำผิดกฎหมายของพระเจ้า เพราะบาปคือการทำผิดกฎหมายของพระเจ้า 5 พวกคุณก็รู้ว่าพระเยซูมาเพื่อขจัดบาปของเรา+ และท่านไม่มีบาปเลย 6 คนที่เป็นหนึ่งเดียวกับท่านจะไม่ทำบาปเป็นนิสัย+ ส่วนคนที่ทำบาปเป็นนิสัยก็ยังไม่ได้เห็นท่านและยังไม่รู้จักท่าน 7 ลูก ๆ ที่รัก อย่าให้ใครหลอกพวกคุณ คนที่ทำสิ่งที่ถูกต้องเป็นคนเชื่อฟังพระเจ้า*เหมือนที่พระเยซูเชื่อฟัง 8 คนที่ทำบาปเป็นนิสัยก็เป็นคนของมาร เพราะมารทำบาปมาตลอดตั้งแต่แรก*+ และท่านผู้เป็นลูกของพระเจ้ามาก็เพื่อทำลายผลงานของมาร+
9 คนที่เกิดมาจากพระเจ้าจะไม่ทำบาปเป็นนิสัย+เพราะพลัง*ของพระองค์อยู่ในตัวเขา และเขาทำบาปเป็นนิสัยไม่ได้เพราะเขาเกิดมาจากพระเจ้า+ 10 ใครเป็นลูกของพระเจ้าหรือใครเป็นลูกของมารเห็นได้จากสิ่งนี้ คือ คนที่ไม่ทำสิ่งที่ถูกต้องและไม่รักพี่น้องก็ไม่ได้เกิดมาจากพระเจ้า+ 11 พวกคุณได้ยินเรื่องนี้มาตั้งแต่แรกแล้วที่ว่า ให้เรารักกัน+ 12 และอย่าเป็นเหมือนคาอินที่เป็นคนของซาตานตัวชั่วร้าย เขาฆ่าน้องชายตัวเอง+ เขาฆ่าน้องทำไม? ก็เพราะการกระทำของเขาชั่ว+ แต่การกระทำของน้องถูกต้อง*+
13 พี่น้องครับ ไม่ต้องแปลกใจที่โลกเกลียดพวกคุณ+ 14 เรารู้ว่าเมื่อก่อนเราตายไปแล้ว แต่ตอนนี้เรามีชีวิต+เพราะเรารักพี่น้อง+ คนที่ไม่รักพี่น้องก็ยังอยู่ในความตาย+ 15 คนที่เกลียดพี่น้องก็เป็นผู้ฆ่าคน+ และพวกคุณก็รู้ว่าผู้ฆ่าคนจะไม่ได้ชีวิตตลอดไป+ 16 เราได้มารู้ว่าความรักเป็นอย่างไรก็เพราะพระเยซูสละชีวิตเพื่อเรา+ เราจึงควรสละชีวิตเพื่อพี่น้องด้วย+ 17 แต่ถ้าใครมีทรัพย์สิ่งของพอจะช่วยคนอื่นได้และเห็นพี่น้องขัดสน แต่ก็ยังใจดำไม่ยอมแสดงความเอื้อเฟื้อ จะบอกได้อย่างไรว่าเขารักพระเจ้า?+ 18 ลูก ๆ ที่รัก อย่าให้เรารักด้วยลมปากเท่านั้น+ แต่ให้รักด้วยการกระทำ+และด้วยความจริงใจ+
19 เมื่อทำอย่างนี้ เราก็รู้ว่าเราอยู่ฝ่ายความจริง และเรามั่นใจได้ว่าพระเจ้ารักเรา 20 ไม่ว่าใจเราจะตำหนิตัวเองขนาดไหน พระเจ้าก็รู้จักตัวเรา*ดีกว่าที่เรารู้จักตัวเอง และพระองค์รู้ทุกสิ่ง+ 21 พี่น้องที่รัก ถ้าใจเราไม่ตำหนิตัวเอง เราก็กล้าพูดกับพระเจ้าได้อย่างมั่นใจ+ 22 และเมื่อเราขออะไรจากพระองค์ เราก็จะได้รับตามที่ขอ+ เพราะเราทำตามที่พระองค์สั่งและใช้ชีวิตแบบที่พระองค์พอใจ 23 ที่จริง สิ่งที่พระองค์สั่งไว้ก็คือ ให้เราเชื่อศรัทธาในชื่อพระเยซูคริสต์ลูกของพระองค์+ และให้เรารักกัน+อย่างที่พระองค์บอกไว้ 24 นอกจากนั้น คนที่ทำตามที่พระเจ้าสั่งก็เป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ และพระองค์เป็นหนึ่งเดียวกับเขา+ เรารู้ว่าพระองค์เป็นหนึ่งเดียวกับเรา+เพราะพระองค์ให้พลังของพระองค์กับเรา
4 พี่น้องที่รัก อย่าเชื่อทุกถ้อยคำที่ดูเหมือนว่ามาจากพระเจ้า+ แต่ให้ตรวจสอบว่าถ้อยคำนั้นมาจากพระเจ้าจริง ๆ ไหม+ เพราะมีผู้พยากรณ์เท็จอยู่มากมายในโลก+
2 ถ้อยคำที่มาจากพระเจ้าจริง ๆ ต้องเป็นถ้อยคำที่ยอมรับว่าพระเยซูคริสต์มาเกิดเป็นมนุษย์+ 3 ถ้าไม่ได้ยอมรับพระเยซูอย่างนี้ ถ้อยคำนั้นก็ไม่ได้มาจากพระเจ้า+ แต่มาจากผู้ต่อต้านพระคริสต์ พวกคุณเคยได้ยินแล้วว่าเขาจะมาพูดถ้อยคำแบบนั้น+ และตอนนี้ถ้อยคำแบบนั้นก็มีอยู่ในโลกแล้ว+
4 ลูก ๆ ที่รัก พวกคุณเกิดมาจากพระเจ้า และพวกคุณเอาชนะผู้พยากรณ์เท็จพวกนั้นแล้ว+ เพราะพระเจ้าที่คอยสนับสนุนพวกคุณ+ยิ่งใหญ่กว่ามารที่สนับสนุนโลกนี้อยู่+ 5 คนพวกนั้นเป็นคนของโลก+ พวกเขาจึงพูดเรื่องของโลกและโลกก็ฟังพวกเขา+ 6 ส่วนเราเกิดมาจากพระเจ้า คนที่ได้มารู้จักพระเจ้าจะฟังเรา+ แต่คนที่ไม่ได้เกิดมาจากพระเจ้าจะไม่ฟังเรา+ วิธีนี้ทำให้เราแยกออกว่าถ้อยคำที่ดูเหมือนมาจากพระเจ้านั้นเป็นความจริงหรือเป็นเรื่องหลอกลวง+
7 พี่น้องที่รัก ให้เรารักกันเรื่อยไป+ เพราะความรักมาจากพระเจ้า และคนที่แสดงความรักก็เกิดมาจากพระเจ้าและรู้จักพระเจ้า+ 8 คนที่ไม่แสดงความรักก็ไม่รู้จักพระเจ้า เพราะพระเจ้าเป็นความรัก+ 9 พระเจ้าแสดงความรักต่อเราอย่างชัดเจนเมื่อพระองค์ให้ลูกคนเดียว*ของพระองค์+เข้ามาในโลก เพื่อท่านจะเปิดโอกาสให้เราได้ชีวิต+ 10 นี่แหละคือความรักแท้ ไม่ใช่ว่าเรารักพระเจ้าก่อน แต่พระองค์รักเราและให้ลูกของพระองค์มาเพื่อเป็นเครื่องบูชา+ไถ่บาปของเราเพื่อให้เราคืนดีกับพระองค์+
11 พี่น้องที่รัก ถ้าพระเจ้ารักเราขนาดนี้ เราก็ควรจะรักกันด้วย+ 12 ไม่มีใครเคยเห็นพระเจ้าเลย+ แต่ถ้าเรารักกันเรื่อยไป พระเจ้าจะอยู่กับเรา และความรักแบบพระองค์ก็สมบูรณ์ครบถ้วนในพวกเรา+ 13 เรารู้ว่าเราเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์และพระองค์เป็นหนึ่งเดียวกับเรา ก็เพราะพระองค์ให้พลังของพระองค์กับเรา 14 นอกจากนั้น เราได้เห็นด้วยตัวเองและเป็นพยานยืนยันว่าพระเจ้าผู้เป็นพ่อใช้ลูกของพระองค์มาเป็นผู้ช่วยโลกให้รอด+ 15 คนที่ยอมรับว่าพระเยซูคริสต์เป็นลูกของพระเจ้า+ พระเจ้าจะเป็นหนึ่งเดียวกับเขาและเขาจะเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า+ 16 เรารู้และเชื่อมั่นว่าพระเจ้ารักเรา+
พระเจ้าเป็นความรัก+ คนที่แสดงความรักอยู่เสมอก็เป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าและพระเจ้าเป็นหนึ่งเดียวกับเขา+ 17 เมื่อทำอย่างนั้น ความรักก็สมบูรณ์ในหมู่พวกเรา แล้วเราจะกล้าพูด+ในวันพิพากษา เพราะในโลกนี้เราเป็นเหมือนพระเยซูคริสต์ 18 เมื่อมีความรักก็ไม่มีความกลัว+ เพราะความรักที่สมบูรณ์จะขจัดความกลัว ที่จริง ความกลัวเป็นอุปสรรคขัดขวางเรา และถ้าใครกลัว ความรักของเขาก็ไม่สมบูรณ์+ 19 แต่เราแสดงความรักก็เพราะพระองค์รักเราก่อน+
20 ถ้าใครบอกว่า “ฉันรักพระเจ้า” แต่เกลียดพี่น้อง คนนั้นก็พูดโกหก+ เพราะคนที่ไม่รักพี่น้อง+ที่เขามองเห็นจะรักพระเจ้าที่เขามองไม่เห็นได้อย่างไร?+ 21 เราได้รับคำสั่งนี้จากพระองค์ คือ คนที่รักพระเจ้าก็ต้องรักพี่น้องด้วย+
5 คนที่เชื่อว่าพระเยซูเป็นพระคริสต์ก็เกิดมาจากพระเจ้า+ และคนที่รักพระเจ้าผู้เป็นพ่อก็รักลูก ๆ ของพระองค์ด้วย 2 เรารู้ว่าเรารักลูก ๆ ของพระเจ้าจริง+ เมื่อเรารักพระเจ้าและทำตามคำสั่งของพระองค์ 3 การรักพระเจ้าหมายถึงการเชื่อฟังคำสั่งของพระองค์+ และคำสั่งของพระองค์ไม่ยากเกินไป*+ 4 เพราะคนที่เกิดมาจากพระเจ้าเอาชนะโลกได้+ และความเชื่อของเรานี่แหละที่ทำให้เราชนะโลก+
5 ใครล่ะที่ชนะโลกได้?+ ก็คือคนที่เชื่อว่าพระเยซูเป็นลูกของพระเจ้าไม่ใช่หรือ?+ 6 ตอนที่พระเยซูคริสต์มา มีน้ำและเลือดเกี่ยวข้องอยู่ด้วย ไม่ใช่แค่น้ำเท่านั้น+ แต่เป็นน้ำและเลือด+ และพลังของพระเจ้าเป็นพยานยืนยันเรื่องนี้+ เพราะพลังนั้นเป็นพยานที่ยืนยันความจริง 7 ดังนั้น มีอยู่ 3 สิ่งที่เป็นพยานหลักฐานเรื่องพระเยซูคือ 8 พลังของพระเจ้า+ น้ำ+ และเลือด+ และทั้งสามสิ่งยืนยันตรงกัน
9 ถ้าเรายอมรับพยานที่เป็นมนุษย์ว่าเชื่อถือได้ แล้วเมื่อพระเจ้ามาเป็นพยาน ก็ยิ่งเชื่อถือได้มากกว่านั้นอีก เพราะพระเจ้าเองเป็นพยานยืนยันว่าลูกของพระองค์เป็นใคร 10 คนที่มีความเชื่อในลูกของพระเจ้าก็เชื่อพยานหลักฐานที่พระองค์ยืนยันกับเขา ส่วนคนที่ไม่เชื่อพระเจ้าก็เท่ากับหาว่าพระองค์โกหก+ เพราะคนนั้นไม่เชื่อพยานหลักฐานที่พระองค์ให้เพื่อยืนยันเรื่องลูกของพระองค์ 11 พยานหลักฐานนั้นก็คือ การที่พระเจ้าให้ชีวิตตลอดไปกับเรา+ และเราได้ชีวิตแบบนั้นผ่านทางลูกของพระองค์+ 12 คนที่ยอมรับลูกของพระเจ้าก็มีชีวิตแบบนั้น แต่คนที่ไม่ยอมรับลูกของพระองค์ก็ไม่มีชีวิตแบบนั้น+
13 ผมเขียนเรื่องเหล่านี้ถึงพวกคุณที่เชื่อศรัทธาในชื่อของลูกของพระเจ้า+ เพื่อพวกคุณจะรู้ว่าพวกคุณมีชีวิตตลอดไป+ 14 เรามั่นใจในพระเจ้าว่า+ ถ้าเราขออะไรก็ตามที่สอดคล้องกับความประสงค์ของพระองค์ พระองค์จะฟังเรา+ 15 และถ้าเรารู้ว่าพระองค์ฟังเราไม่ว่าจะขออะไรก็ตาม เราก็รู้ว่าจะได้รับสิ่งนั้น เพราะเราได้ขอจากพระองค์+
16 ถ้าใครเห็นพี่น้องทำบาปที่ไม่นำไปถึงความตาย เขาควรจะอธิษฐานเพื่อคนนั้น แล้วพระเจ้าจะให้ชีวิตกับคนนั้น+ คือคนที่ทำบาปที่ไม่นำไปถึงความตาย บาปที่นำไปถึงความตายก็มี+ และผมไม่ได้บอกให้อธิษฐานขอเพื่อคนที่ทำบาปแบบนั้น 17 การทำผิดทุกอย่างเป็นบาป+ แต่บาปที่ไม่นำไปถึงความตายก็มี
18 เรารู้ว่าทุกคนที่เกิดมาจากพระเจ้าไม่ทำบาปเป็นนิสัย แต่ท่านผู้เกิดมาจากพระเจ้า*คอยดูแลพวกเขาอยู่ และซาตานตัวชั่วร้ายจะไม่มีอำนาจเหนือพวกเขา+ 19 เรารู้ว่าเราเป็นคนของพระเจ้า แต่โลกทั้งโลกอยู่ในอำนาจซาตานตัวชั่วร้าย+ 20 เรารู้ว่าลูกของพระเจ้ามาแล้ว+ และท่านให้เรามีความเข้าใจลึกซึ้งเพื่อเราจะรู้จักพระเจ้าเที่ยงแท้ได้ เราเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าเที่ยงแท้+โดยทางพระเยซูคริสต์ลูกของพระองค์ พระองค์นี่แหละคือพระเจ้าเที่ยงแท้และผู้ให้ชีวิตตลอดไป+ 21 ลูก ๆ ที่รัก อย่ายุ่งเกี่ยวกับรูปเคารพ+
หรือ “ที่มีความถูกต้องชอบธรรม” ดูคำว่า “ถูกต้องชอบธรรม” ในส่วนอธิบายศัพท์
หรืออาจแปลได้ว่า “เขาจะไม่เป็นอุปสรรคขัดขวางความเชื่อคนอื่น”
หรือ “การโอ้อวดสิ่งที่ตัวเองมี”
หรือ “คนที่มีความถูกต้องชอบธรรม”
คือ ตั้งแต่มันเริ่มกบฏต่อพระเจ้า
แปลตรงตัวว่า “เชื้อ”
ดูคำว่า “ถูกต้องชอบธรรม” ในส่วนอธิบายศัพท์
แปลตรงตัวว่า “ใจเรา”
หรือ “ลูกคนเดียวที่พระเจ้าสร้างเอง”
แปลตรงตัวว่า “ไม่เป็นภาระ”
คือ พระเยซูคริสต์ลูกของพระเจ้า