การแสวงหาสันติภาพและความปลอดภัย
คนเราส่วนใหญ่ มีความปรารถนาโดยธรรมชาติในเรื่องสันติภาพ และความสงบสุข แต่ความปรารถนาเช่นนั้นถูกทำให้ล้มเหลวมาเกือบตลอดประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ. อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่กี่ปีมานี้ มีความก้าวหน้าอันน่าสังเกตในการแสวงหาสันติภาพของมนุษย์ ดังรายการต่อไปนี้.
1985: (ตุลาคม) สหประชาชาติฉลองวันครบรอบ 40 ปี และประกาศให้ปี 1986 เป็นปีสันติภาพสากล.
(พฤศจิกายน) เป็นครั้งแรกในระยะหกปีที่มีการประชุมสุดยอดระหว่างอภิมหาอำนาจเมื่อกอร์บาชอพกับเรแกนพบปะกัน; เรแกนพูดถึง “การเริ่มต้นอันสดใส”.
1986: (มกราคม) กอร์บาชอพเรียกร้องให้มีการห้ามอาวุธนิวเคลียร์ทุกชนิด ภายในปี 2000.
(กันยายน) การประชุมว่าด้วยมาตรการเสริมสร้างความไว้วางใจและความมั่นคงและการลดกำลังอาวุธในยุโรป (35 ประเทศ รวมทั้งสหรัฐ แคนาดา สหภาพโซเวียตและทั่วทั้งยุโรปยกเว้นแอลเบเนีย) มีการลงนามในสนธิสัญญาเพื่อลดอัตราเสี่ยงของการเกิดสงครามโดยบังเอิญ.
(ตุลาคม) การประชุมสุดยอดของกอร์บาชอพกับเรแกนที่ไอซ์แลนด์ล้มเหลว ถึงแม้กอร์บาชอพกล่าวว่าพวกเขาเกือบจะ “ทำการตัดสินใจครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์.”
1987: (มกราคม) นโยบายกลาสนอสต์ (แบบเปิดเผย) มีทีท่าว่าเป็นการชี้ถึงศักราชใหม่ในสหภาพโซเวียต.
(มีนาคม) การไปเยือนมอสโกครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีอังกฤษในรอบสิบสองปี.
(ธันวาคม) กอร์บาชอพและเรแกนลงนามในสนธิสัญญาไอเอ็นเอฟ (กำลังรบนิวเคลียร์พิสัยกลาง) เพื่อกำจัดซึ่งขีปนาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง.
1988: (มีนาคม) นิคารากัวกับพวกคอนทราฝ่ายต่อต้านคอมมิวนิสต์ลงนามในสัญญาหยุดยิง เริ่มต้นเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างถาวร.
(เมษายน) สหภาพโซเวียตประกาศถอนกำลังทหารจากอัฟกานิสถานในเดือนกุมภาพันธ์ 1989; เอธิโอเปียและโซมาเลียตกลงยุติข้อขัดแย้งกัน.
(พฤษภาคม) เวียดนามประกาศถอนทหาร 50,000 คนจากกัมพูชาก่อนสิ้นปี และส่วนที่เหลือในปี 1990.
(มิถุนายน) บ๊อบ ฮอว์ค นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียกล่าวถึงการประชุมสุดยอดของกอร์บาชอพกับเรแกนในมอสโกว่า “เป็นครั้งแรกตลอดระยะเวลาหลังสงคราม ที่มีเครื่องหมายอันแท้จริงปรากฏขึ้นที่ว่าโลกสามารถอยู่ได้อย่างมีสันติภาพสร้างสรรค์.”
(กรกฎาคม) อิหร่านประกาศการยอมรับมติของสหประชาชาติที่เรียกร้องให้หยุดยิงในสงครามอิหร่าน–อิรักที่ทำกันมาแปดปี.
(สิงหาคม) สหรัฐตกลงจะจ่ายค่าธรรมเนียมซึ่งค้างอยู่ให้แก่สหประชาชาติ เช่นเดียวกับที่โซเวียตได้จ่ายไปแล้ว ฉะนั้นจึงเป็นการช่วยยุติปัญหาการเงินของสหประชาชาติและทำให้สถานะมั่นคงขึ้น.
(กันยายน) โมร็อกโกกับฝ่ายกองโจรโปลิซาริโอยอมรับแผนการของสหประชาชาติเพื่อการยุติสงคราม 13 ปีในสะฮาราตะวันตก.
(ตุลาคม) กองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ; ลิเบียกับชาดยุติสถานการณ์สงครามอย่างเป็นทางการ ซึ่งเคยมีเป็นเวลานาน.
(ธันวาคม) ที่สหประชาชาติ กอร์บาชอพประกาศการลดกำลังทหารโซเวียตครั้งใหญ่แต่ฝ่ายเดียวภายในสองปี และการถอนกองทหารและรถถังกลับจาก เชโกสโลวะเกีย ฮังการี และ สาธารณรัฐประชาธิปไตยเยอรมัน; แอฟริกาใต้ นามิเบีย และคิวบาตกลงตามการดำเนินการแก้ไขปัญหาของสหประชาชาติในวันที่ 1 เมษายน 1989 โดยการให้เอกราชแก่นามิเบียและยุติสงคราม 22 ปี; การถอนครึ่งหนึ่งของกำลังทหารคิวบา 50,000 คนในแองโกลากลับไปในวันที่ 1 พฤศจิกายน และที่เหลือ ในวันที่ 1 กรกฎาคม 1991; สหรัฐตกลงจะเจรจากับองค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ หลังจากที่นายยัสเซอร์ อาราฟัตให้การรับรองสิทธิของอิสราเอล “ในการดำรงอยู่ด้วยสันติภาพและความปลอดภัย.”
1989: (มกราคม) 149 ชาติที่เข้าร่วมการประชุม ณ กรุงปารีสเกี่ยวกับอาวุธเคมีได้เรียกร้องให้มีการดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อห้ามการพัฒนา การผลิต การสะสม และการใช้อาวุธเคมี.
(กุมภาพันธ์) คอสตาริกา ฮอนดูรัส เอลซัลวาดอร์ นิคารากัว และกัวเตมาลา ลงนามในข้อตกลงเกี่ยวกับการคุ้มครองสันติภาพในอเมริกากลาง; กองกำลังฝ่ายกบฏที่ใหญ่ที่สุดในโคลัมเบีย FARC (โคลัมเบียน เรโวลูชันนารี อาร์มด์ ฟอร์ซิส) ประกาศหยุดยิง ให้ความหวังว่าสงครามกองโจร 35 ปีอาจยุติลง.
(มีนาคม) รัฐมนตรีต่างประเทศจาก 35 ประเทศเริ่มต้นการเจรจาในกรุงเวียนนาในเรื่อง CFE (การเจรจาเกี่ยวด้วยการควบคุมกำลังอาวุธในทวีปยุโรป) เพื่อลดกำลังทหารในยุโรป.
(เมษายน) เวียดนามประกาศถอนทหารทั้งหมดออกจากกัมพูชาภายในวันที่ 30 กันยายน.
(พฤษภาคม) ฮังการีเริ่มการรื้อรั้วลวดหนามกั้นเขตตามแนวชายแดนออสเตรีย; ณ การประชุมครั้งแรกของผู้นำโซเวียตและจีนในเวลากว่า 30 ปี โซเวียตประกาศลดกำลังทหารในเอเชีย; โซเวียตแต่ฝ่ายเดียวเริ่มต้นถอนทหารและอาวุธกลับจากยุโรปตะวันออก.
(มิถุนายน) ประธานาธิบดีบุชเรียกร้องให้มีการตัดทอนกำลังทหาร รถถัง ปืนใหญ่ และอากาศยาน ที่มีในยุโรปลงขนานใหญ่ภายในปี 1992 เป็นเหตุให้นิตยสารข่าวกล่าวว่า “นั่นอาจเป็นการเปิดโอกาสอย่างแท้จริงให้มีการลดอาวุธครั้งสำคัญที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง.”
(สิงหาคม) ประเทศในอเมริกากลางห้าประเทศให้ความเห็นชอบต่อแผนการที่จะยุติสงครามในนิคารากัว.
ถึงแม้ว่าจะมีความก้าวหน้าอันน่าประทับใจเหล่านี้ก็ตาม แต่ก็ยังมีอีกหลายประเทศที่ยังคงห่างไกลจากการชื่นชมในสันติภาพ. ผู้คนยังต้องตายอยู่เรื่อย ๆ ในไอร์แลนด์เหนือ เลบานอน ซูดาน ศรีลังกา อัฟกานิสถาน และฟิลิปปินส์เนื่องจากปฏิบัติการทางทหาร—ซึ่งที่เอ่ยชื่อมาก็เป็นเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น. ฉะนั้น ขณะที่หลายคนรู้สึกว่ามีความหวังกว่าที่แล้ว ๆ มาในเรื่องสันติภาพ แต่เราไม่ควรลืมว่าผู้ขี่ม้าตัวที่สองแห่งอะพ็อคคาลิพส์ “ม้าสีแดงเพลิง” แห่งการรบราฆ่าฟันนั้นยังคงพากันห้อไปตลอดทั่วแผ่นดินโลก.—วิวรณ์ 6:3, 4.