‘ทำให้สดชื่นในโลกที่วุ่นวายนี้’
นี่คือคำพรรณนาของอิกอร์วัย 22 ปี จากยูโกสลาเวียเกี่ยวกับวารสารหอสังเกตการณ์ ในจดหมายของเขาปีที่แล้ว. เขาอธิบายดังนี้:
“ผมเริ่มอ่านวารสารหอสังเกตการณ์ เมื่อไม่กี่เดือนที่แล้ว. ผมอ่านทั้งฉบับใหม่และฉบับเก่าของหอสังเกตการณ์ (ตั้งแต่ปี 1991) และชอบวารสารเหล่านั้นมาก. ผมคิดว่าวารสารเช่นนี้ทำให้สดชื่นจริง ๆ ในโลกที่วุ่นวายนี้.
“ผมสนใจบทความที่คุณลงเกี่ยวกับพวกมิชชันนารีเป็นพิเศษ และนี่เป็นเหตุผลที่ผมเขียนถึงคุณ. ประการแรก ผมอยากทราบว่าผมจะเป็นพยานพระยะโฮวาได้หรือไม่. ผมต้องบอกว่าผมเป็นคาทอลิก แต่ผมคิดว่าศาสนาของคุณดีกว่าศาสนาอื่นใด โดยเฉพาะเนื่องจากไม่มีศาสนาอื่นที่เพียรพยายามมากขนาดนี้เพื่อเผยแพร่พระคำของพระเจ้า.
“หากการที่ผมเป็นคาทอลิกไม่เป็นอุปสรรค ผมอยากทราบว่าจะเป็นพยานพระยะโฮวาได้อย่างไร. ผมมีความปรารถนาเพียงอย่างเดียว. ถ้ามีทางเป็นไปได้ ผมอยากรับบัพติสมาที่เบลเกรด. ถ้าเป็นไปได้ โปรดแจ้งให้ผมทราบว่าจะไปได้เมื่อไร และมีอะไรบ้างที่ต้องทำก่อนรับบัพติสมา. หากความปรารถนาของผมไม่มีทางเป็นไปได้ โปรดแจ้งให้ผมทราบว่าจะรับบัพติสมาได้ที่ไหนและควรเข้าพบใครในเรื่องนี้.
“ขั้นต่อไป ผมใคร่ทราบว่าจะเป็นมิชชันนารีได้อย่างไร. ผมอยากทราบว่าจะเริ่มฝึกเพื่อรับใช้ฐานะมิชชันนารีทันทีหลังจากรับบัพติสมาได้หรือไม่. จำเป็นต้องรับใช้มาระยะหนึ่งก่อนไหม? . . .
“โปรดพิจารณาจดหมายของผมอย่างจริงจัง. ผมคิดว่าการเป็นมิชชันนารีเป็นวิธีดีที่สุดที่จะเผยแพร่ข่าวดีเกี่ยวกับราชอาณาจักรของพระเจ้า.”
ในหน้า 2 ของหอสังเกตการณ์ ทุกฉบับ มีคำอธิบายถึงจุดประสงค์ของวารสารว่า เพื่อ “ปลอบประโลมใจชนทุกชาติด้วยข่าวดีที่ว่าในไม่ช้าราชอาณาจักรของพระเจ้าจะทำลายคนเหล่านั้นที่กดขี่เพื่อนมนุษย์ และจะเปลี่ยนสภาพแผ่นดินโลกให้เป็นอุทยาน.” หากคุณอยากได้สักเล่มหนึ่ง หรืออยากให้มีใครมาเยี่ยมคุณเพื่อนำการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลฟรีที่บ้าน โปรดเขียนถึงมูลนิธิส่งเสริมการศึกษาพระคัมภีร์ ตู้ ป.ณ. 7 คลองจั่น กรุงเทพฯ 10240 หรือ ที่อยู่ที่เหมาะสมซึ่งลงไว้ในหน้า 5.