คุณเสนอการศึกษาพระคัมภีร์ไหม?
1 หลายคนประสบผลสำเร็จอันดีในการเริ่มการศึกษาพระคัมภีร์ด้วยการเสนอโอกาสให้การศึกษาคัมภีร์ไบเบิลโดยตรงกับผู้คน. ชายคนหนึ่งซึ่งได้ปฏิเสธจะรับหนังสือหลายครั้งได้ตอบรับทันทีเมื่อมีการเสนอการศึกษาพระคัมภีร์. เขาตอบว่า: “ผมต้องการอยู่เสมอที่จะศึกษาคัมภีร์ไบเบิล.” การศึกษาพระคัมภีร์จึงได้เริ่มขึ้น และทั้งครอบครัวได้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว.
2 ทุกคนควรสำนึกที่จะเริ่มการศึกษา. หากผู้คนจะทำความก้าวหน้าในการเป็นสาวก เขาต้องได้รับการสอน. (มัด. 28:19, 20) เพื่อจะได้รับการสอน จำต้องมีการศึกษาพระคัมภีร์กับเขา. บ่อยครั้ง การศึกษาอาจเริ่มได้เพียงแต่โดยการเสนอจะแสดงให้เจ้าของบ้านเห็นวิธีที่เขาสามารถเรียนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับพระคัมภีร์และคำสัญญาของพระเจ้า. พี่น้องชายคนหนึ่งซึ่งรับใช้ในเบเธลที่บรุกลินได้นำการศึกษาห้ารายในหนึ่งเดือน ซึ่งทั้งหมดนั้นเขาได้เริ่มการศึกษาด้วยแผ่นพับชีวิตสงบสุขในโลกใหม่. แน่นอน เขาไม่อาจนำการศึกษาหลายรายนั้นได้ต่อไปพร้อมกับตารางเวลาทำงานที่เบเธล ดังนั้นเขาจึงโอนรายศึกษาบางรายให้กับคนอื่น.
3 หากเราพบว่าเป็นการง่ายที่จะเริ่มการศึกษา เราก็อาจพาผู้ประกาศอีกคนหนึ่งไปด้วยและช่วยเขาให้มีรายศึกษาเช่นกัน. หรือเราอาจโอนรายศึกษาบางรายที่เราเริ่มให้กับคนอื่นในประชาคมได้. หากคุณอยากจะมีการศึกษาสักรายหนึ่ง คุณก็น่าจะลองเสนอการศึกษาพระคัมภีร์กับคนที่คุณพบในการประกาศตามบ้าน. ครั้งหนึ่ง ผู้ประกาศได้กลับเยี่ยมเยียนเด็กสาวซึ่งไม่ค่อยแสดงความสนใจเท่าไรนัก. แต่กระนั้น ผู้ประกาศได้เสนอการศึกษาพระคัมภีร์กับเธอ และเธอได้ตอบรับ. เดี๋ยวนี้เด็กสาวคนนั้นรับบัพติสมาแล้ว และพี่สาวกับพี่เขยของเธอก็กำลังเข้าร่วมการประชุมด้วย.—ฆลา. 6:6.
4 ไม่ใช่ทุกคนที่เราเริ่มการศึกษากับเขาจะศึกษาต่อไป. ไม่ใช่ทุกคนที่ศึกษาจะเข้ามาในความจริง. แต่บางคนจะเข้ามา. ยิ่งเราเริ่มการศึกษามากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งมีทางเป็นไปได้มากขึ้นเท่านั้นที่เราจะสามารถช่วยคนอื่น ๆ ให้เข้ามาเป็นผู้สรรเสริญพระยะโฮวา.