ทำไมจึงจดบันทึกเกี่ยวกับบ้านที่ไม่มีใครอยู่?
1 พยานฯ สามีภรรยาคู่หนึ่งออกประกาศแต่เช้า. ต่อมาในวันเดียวกันนั้น เขาทั้งสองกลับไปในเขตนั้นเพื่อประกาศตามบ้านที่ได้จดว่าไม่มีใครอยู่. ชายคนหนึ่งเชิญพวกเขาเข้าในบ้านและฟังอย่างตั้งใจ. เขารับหนังสือชีวิตตลอดไป และถามว่าพยานฯ จะกลับมาอีกได้ไหม. เขาไม่เคยพูดคุยกับพยานพระยะโฮวามาก่อนและมีคำถามหลายข้อที่เขาอยากได้คำตอบ การศึกษาพระคัมภีร์จึงเริ่มต้น. สามีภรรยาคู่นี้ยินดีอย่างยิ่งที่หาพบคนเยี่ยงแกะเช่นนั้น. คุณอยากจะมีประสบการณ์เช่นนั้นไหม? การจดบันทึกที่ดีเกี่ยวกับบ้านที่ไม่มีใครอยู่อาจทำให้คุณมีประสบการณ์เช่นนั้นได้.
2 เราได้รับการสนับสนุนครั้งแล้วครั้งเล่าให้จดบันทึกที่ถูกต้องเกี่ยวกับบ้านที่ไม่มีใครอยู่แล้วไปเยี่ยมอีกในไม่ช้า. ดังที่ประสบการณ์ข้างต้นเผยให้เห็น การเยี่ยมอีกครั้งในวันเดียวกันอาจก่อผลดีเยี่ยม. ขณะที่เราอาจตั้งใจทำให้ทั่วถึงเขตที่ได้รับมอบหมาย บางทีเราไม่ได้ขยันจดบันทึกอย่างดีเกี่ยวกับคนที่ไม่อยู่บ้าน. บางคนบอกว่า ‘เราประกาศในเขตของเราบ่อย ๆ ไม่มีความจำเป็นต้องจดบันทึกอย่างนั้นเพราะเราจะกลับไปประกาศในอีกไม่นานนี่นา.’ แต่นั่นยิ่งทำให้เรามีเหตุผลจะจดบันทึก. ในเขตที่ทำบ่อย ๆ การติดตามบ้านที่ไม่มีใครอยู่ทำให้เราสามารถค้นหาคนที่เหมาะสมได้ถี่ถ้วนยิ่งขึ้น. เป็นเช่นนั้นโดยวิธีใด?
3 ในหลายเขต 50 เปอร์เซ็นต์หรือกว่านั้นของผู้อาศัยไม่อยู่บ้านในตอนกลางวัน. ดังนั้น ตามจริงแล้ว เราทำให้มีเขตประกาศมากขึ้นโดยมุ่งสนใจมากขึ้นในบ้านที่ไม่มีใครอยู่. แม้เขตนั้นจะไม่ค่อยได้ทำ เราก็สามารถทำให้เกิดผลที่ดีขึ้นได้ในเมื่อพยายามเข้าพบทุกคนก่อนทำเครื่องหมายว่า เขตนั้นทำแล้ว.
4 ตามปกติแล้ว อาจจัดเตรียมเพื่อเยี่ยมบ้านที่ไม่มีใครอยู่ในอีกวันหนึ่ง ถ้าจะทำภายในหนึ่งสัปดาห์คงจะดี. หลายคนพบว่าดีกว่าที่จะกลับไปในวันและในเวลาที่ต่างไปจากเมื่อไปเรียกครั้งแรก. คุณอาจเลือกใช้เวลาในวันเสาร์หรือวันอาทิตย์เพื่อติดตามบ้านที่ไม่มีใครอยู่ซึ่งจดไว้ในระหว่างสัปดาห์นั้น. อีกประการ หลายประชาคมพบว่า การเยี่ยมแบบนั้นในตอนหัวค่ำเป็นเวลาที่ได้ผลดี. พวกเขาอาจพบว่าผู้อยู่อาศัยส่วนมากอยู่บ้าน.
5 คุณควรทำรายการกลับเยี่ยมเยียนของคุณในบันทึกส่วนตัว. หากคุณไม่สามารถกลับไปยังบ้านที่ไม่มีใครอยู่ คุณควรมอบบันทึกของคุณแก่พี่น้องที่นำกลุ่มออกประกาศเพื่อให้กลุ่มถัดไปที่ประกาศในเขตนั้นใช้.
6 การเอาใจใส่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นต่องานรับใช้ของเราในลักษณะนี้ทำให้เราบังเกิดผลมากขึ้น อีกทั้งมีความยินดีมากขึ้น. การทำเช่นนี้สามารถทำให้เรามีความพอใจซึ่งเกิดจากการรู้ว่า เรากำลังค้นหาและเอาใจใส่อย่างถี่ถ้วนต่อคนเยี่ยงแกะ.—ยเอศ. 34:11-14.