พยายามเสนอการศึกษาพระคัมภีร์มากขึ้น
เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม 2009 ประชาคมต่าง ๆ ได้รับการสนับสนุนให้กำหนดเสาร์หนึ่งหรืออาทิตย์หนึ่งในแต่ละเดือนเพื่อเน้นการเสนอการศึกษาพระคัมภีร์. ผลเป็นเช่นไร? ผู้ประกาศหลายคนประหลาดใจและยินดีอย่างยิ่ง. เขาประหลาดใจเนื่องจากการเสนอการศึกษาง่ายกว่าที่พวกเขาคิดไว้และยินดีที่มีผู้คนหลากหลายประเภทตอบรับการศึกษาหนังสือคัมภีร์ไบเบิลสอนอะไรจริงๆ? ผู้ดูแลเดินทางรายงานว่าประชาคมต่าง ๆ ตอบรับการจัดเตรียมใหม่นี้อย่างกระตือรือร้น และผลในเบื้องต้นก็ดูดีมาก. ยกตัวอย่าง ในห้าเดือนแรกหลังจากมีการจัดเตรียมใหม่นี้ มีการเริ่มการศึกษาพระคัมภีร์มากกว่า 8,000 รายในอิตาลี.
ตอนนี้ ผู้ประกาศซึ่งไม่เคยนำการศึกษาพระคัมภีร์สามารถกลับเยี่ยมและเริ่มการศึกษาได้. คาโรลินาในประเทศเปรู กล่าวว่า “ก่อนมีการจัดเตรียมนี้ ฉันไม่มีรายศึกษาเลย แต่คำแนะนำที่ให้ใช้วันหนึ่งในแต่ละเดือนเพื่อเน้นการเสนอการศึกษาทำให้ฉันเห็นว่าต้องพยายามเริ่มการศึกษาพระคัมภีร์. ฉันสามารถทำให้เจ้าของบ้านเห็นว่าการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลเป็นเรื่องง่ายและไม่ใช้เวลามาก. การทำตามคำแนะนำนี้เกิดผลดี ตอนนี้ฉันมีรายศึกษาสองราย ทั้งหมดเป็นเพราะพระยะโฮวา.”
พี่น้องหญิงคนหนึ่งที่เป็นไพโอเนียร์ในบริเตน ชื่อแซทยา ไม่กล้าเสนอการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลในการพบกันครั้งแรก. แต่ในวันที่จัดไว้เพื่อเสนอการศึกษา เธอตั้งใจว่าจะไม่ยอมกลับบ้านถ้าไม่ได้ลองทำสิ่งนี้. เธอยินดีอย่างยิ่งเมื่อหญิงคนหนึ่งตอบรับการเสนอของเธอทันที. มันง่ายกว่าที่แซทยาคิดไว้มาก!
ปกติแล้ว ลูคา พี่น้องหนุ่มในปาแลร์โมบนเกาะซิซิลี ได้เวียนส่งวารสารให้แก่หญิงม่ายคนหนึ่งซึ่งไม่กล้าให้ใครเข้าบ้าน. ในบ่ายวันเสาร์วันหนึ่ง ซึ่งเป็นวันที่กำหนดไว้สำหรับการเสนอการศึกษาพระคัมภีร์ ลูคาได้ไปหาหญิงม่ายคนนั้นพร้อมกับเปิดไบเบิลสอน และอ่านข้อความตอนหนึ่งจากหนังสือนั้น. หญิงคนนั้นสนใจใคร่รู้ในหนังสือเล่มนี้และพูดคุยกับลูคาพักใหญ่. ลูคาบอกเธอว่า ในหนังสือนี้มีคำตอบเกี่ยวกับสิ่งที่เธออยากรู้ รวมทั้งเรื่องที่ว่าเธอจะได้พบกับสามีอีกไหม. ลูคาเปิดหนังสือไปที่หน้า 72 ซึ่งอธิบายว่าใครจะได้รับการปลุกให้เป็นขึ้นจากตาย. หญิงคนนั้นประทับใจความหวังนี้จากคัมภีร์ไบเบิลและตอบรับการศึกษาพระคัมภีร์. ตอนนี้เธอศึกษาที่บ้านเป็นประจำ เธอเชิญพยานฯ เข้าบ้านโดยไม่กลัวอีกแล้ว.
ผู้ดูแลหมวดคนหนึ่งในเปรูรายงานว่า “ตั้งแต่เริ่มมีการจัดเตรียมใหม่ สิ่งนี้ได้ช่วยเพิ่มจำนวนรายศึกษาคัมภีร์ไบเบิลในประชาคมส่วนใหญ่. ประชาคมหนึ่งในชิคลาโยได้รายงานการศึกษาใหม่ 25 รายในหนึ่งเดือน และเป็นเช่นนี้ในเมืองเชเปน ซึ่งเริ่มการศึกษาใหม่ 24 ราย.”
ผู้ประกาศวัยเยาว์ก็ประสบความสำเร็จในการเสนอการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลด้วย. โยวานนาวัยสิบเอ็ดขวบในเมืองเซาเปาลู ประเทศบราซิล เล่าว่า “บ่ายวันเสาร์วันหนึ่งหนูกำลังประกาศตามบ้านกับแม่และเสนอการศึกษาโดยใช้หนังสือไบเบิลสอน. ที่บ้านหลังแรก หนูถามเจ้าของบ้านที่เป็นนักธุรกิจซึ่งผู้คนรู้จักกันดีว่า เขาเชื่อไหมว่าคัมภีร์ไบเบิลมีขึ้นโดยการดลใจจากพระเจ้า. เขาตอบว่าเชื่อ. จากนั้น หนูเปิด 2 ติโมเธียว 3:16 ให้เขาดู. เขาพูดว่าเขาประทับใจที่ได้เห็นเด็กผู้หญิงบอกเขาถึงสิ่งที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้ และเขารับหนังสือ.
“เมื่อหนูกลับเยี่ยมชายคนนั้น หนูพาคุณตาไปด้วยเพราะท่านรู้จักเจ้าของบ้าน. ชายคนนั้นขอเราเข้าไปในบ้าน และหนูเชิญเขาให้เลือกหัวเรื่องที่เขาสนใจมากที่สุดจากสารบัญในหนังสือไบเบิลสอน. เขาเลือกบท 11 ที่ชื่อ ‘ทำไมพระเจ้ายอมให้มีความทุกข์?’ หลังจากอ่านสองวรรคแรก เขาและภรรยาถามหลายเรื่อง. ทั้งสองดีใจมากที่เห็นว่าคัมภีร์ไบเบิลตอบทุกคำถามได้ และตกลงศึกษาพระคัมภีร์. หนูมีความสุขจริง ๆ ที่ได้เริ่มการศึกษาที่บ้านหลังแรกที่เราประกาศ!”
แน่นอน ใช่ว่าทุกคนจะตอบรับการศึกษาคัมภีร์ไบเบิล และใช่ว่าทุกคนที่เริ่มศึกษาจะศึกษาต่อไป. แต่ฐานะผู้ร่วมงานกับพระเจ้า เราจะเสนอการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลแก่ผู้คนต่อ ๆ ไปให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ โดยรู้ว่าพระยะโฮวากำลังชักนำคนเยี่ยงแกะเข้ามายังองค์การของพระองค์ก่อนการทำลายล้างระบบของซาตาน.—โย. 6:44; 1 โค. 3:9