ความประพฤติที่ดีเปิดทางให้กับการปลูกเมล็ดแห่งความจริง
ตอนนี้ศิษยาภิบาลสนใจฟัง
(จากหนังสือประจำปี 2015 น. 49 ว. 3 ถึง น. 51 ว. 3)
“ผมจะไม่ขาดการประชุมเพื่อระลึกถึงการเสียชีวิตของพระเยซูอีกเลย” นี่เป็นคำพูดของศิษยาภิบาลคนหนึ่งของคริสตจักรที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของนิกายโปรเตสแตนต์ในแอฟริกาใต้ อะไรกระตุ้นให้ผู้นำศาสนาคนนี้เข้าร่วมการประชุมเพื่อระลึกถึงการเสียชีวิตของพระเยซูในเดือนเมษายนปี 2014? เรื่องนี้เริ่มจากพี่น้องชาย 2 คนที่เป็นคนละสีผิวแต่ไปประกาศด้วยกัน และมาเคาะประตูบ้านของเขา พี่น้องรู้อยู่แล้วว่าศิษยาภิบาลไม่อยากคุยกับพวกเขา พี่น้องคนหนึ่งชื่อเอเดนเล่าว่า “เราแปลกใจที่เขาเปิดประตูแล้วเชิญให้เข้าไปในบ้าน เราคุยกันนานทีเดียว เขาแปลกใจที่เห็นคนผิวขาวประกาศในชุมชนคนผิวดำและคุยกับผู้คนโดยใช้ภาษาถิ่น ศิษยาภิบาลเริ่มศึกษาคัมภีร์ไบเบิลเป็นประจำ”
เอเดนเล่าต่อว่า “ผู้ชายคนนี้เคยเป็นมิชชันนารีและศิษยาภิบาลมานานกว่า 40 ปีแล้ว แต่พออายุ 80 เขาเพิ่งจะได้พบคำตอบทุกข้อที่เขาเคยสงสัย ศิษยาภิบาลคนนี้ชอบหนังสือจงเลียนแบบความเชื่อของเขา ตอนที่ศึกษากัน เขาจำบางจุดไว้และใช้เทศน์ในคริสตจักร เขาให้สมาชิกในคริสตจักรดูหนังสือคัมภีร์ไบเบิลสอนอะไรจริงๆ? และศิษยาภิบาลบอกสมาชิกของเขาว่า ‘ถ้าพยานพระยะโฮวาเอาหนังสือนี้มาที่บ้านคุณ ให้ต้อนรับพวกเขาและฟังสิ่งที่พวกเขาพูดเพราะหนังสือนี้มีความรู้ที่มีค่ามากจากพระเจ้า’ ”
ศิษยาภิบาลบอกเอเดนว่าเขาถูกพวกผู้นำในคริสตจักรต่อว่าอย่างแรงและเตือนว่าอย่าพูดเรื่องพยานพระยะโฮวาตอนที่เทศน์ เขาจึงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เอเดนจำได้ว่ามีประสบการณ์เกี่ยวกับนักเทศน์ในพม่า ซึ่งอยู่ในหนังสือประจำปีของพยานพระยะโฮวา 2013 เมื่อเอเดนอ่านให้ศิษยาภิบาลฟัง ศิษยาภิบาลคนนั้นก็พูดว่า “เรื่องนี้ตรงกับชีวิตผมเป๊ะเลย ผมมีเรื่องสำคัญมากที่ต้องตัดสินใจ ผมจะไม่รออีกต่อไปแล้ว”
ศิษยาภิบาลเข้าร่วมการประชุมเพื่อระลึกถึงการเสียชีวิตของพระเยซูครั้งแรกในวันที่ 14 เมษายน 2014 และบอกว่าเขาจะพยายามเข้าร่วมประชุมแบบนี้ให้ได้ทุกครั้ง และตั้งใจจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับศาสนาเท็จ
เร่งก่อสร้างหอประชุมให้เร็วขึ้น
(จากหนังสือประจำปี 2015 น. 140 ว. 3 ถึง น. 141 ว. 3)
เนื่องจากมีสาวกใหม่เพิ่มขึ้นเร็วมาก จึงจำเป็นต้องมีหอประชุมมากขึ้น ดังนั้น ในเดือนพฤศจิกายนปี 2000 พี่น้องในสาธารณรัฐโดมินิกันจึงเริ่มสร้างหอประชุมโดยได้รับการช่วยเหลือจากโครงการสำหรับประเทศที่มีเงินทุนจำกัด ผลคือ ประชาคมหนึ่งสามารถสร้างหอประชุมที่สวยงามและสะดวกสบายเสร็จภายใน 8 สัปดาห์ พอถึงเดือนกันยายนปี 2011 กลุ่มก่อสร้าง 2 กลุ่มสามารถสร้างหรือซ่อมแซมปรับปรุงหอประชุมประมาณ 145 หลัง
หอประชุมเหล่านี้และพี่น้องอาสาสมัครที่มาช่วยก่อสร้างทำให้หลายคนประทับใจความจริงและมองพยานฯในทางที่ดี เช่น ในเมืองเล็ก ๆ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ พี่น้องได้พบที่ดินที่เหมาะจะสร้างหอประชุมใหม่ ไพโอเนียร์พิเศษคนหนึ่งขอซื้อที่ดินจากเจ้าของที่ดิน เจ้าของที่ดินบอกว่า “อย่าเสียเวลาเลย ผมไม่ขายที่ดินให้คุณหรอก ยิ่งคุณจะเอาไปสร้างโบสถ์ผมก็ยิ่งไม่ขาย”
ไม่นานหลังจากนั้น เจ้าของที่ดินคนนี้เดินทางไปเมืองปูเอร์โตปลาตา เพื่อไปเยี่ยมพี่ชายคนโตที่เป็นพยานพระยะโฮวา พอไปถึง เจ้าของที่ดินได้เห็นว่าครอบครัวพยานฯครอบครัวหนึ่งเอาพี่ชายของเขาที่ป่วยมาอยู่ที่บ้านเพื่อเอาใจใส่ดูแล พาไปหาหมอ พาไปประชุม และพาไปประกาศด้วย เจ้าของที่ดินจึงถามพี่ชายว่าเสียค่าจ้างให้คนมาดูแลเท่าไร พี่ชายเขาตอบว่า “พี่ไม่ต้องเสียเงินเลย พวกเขาเป็นพี่น้องของพี่”
เจ้าของที่ดินรู้สึกประทับใจมากที่พยานฯแสดงความกรุณาขนาดนี้ เขาจึงโทรหาไพโอเนียร์พิเศษที่เคยติดต่อเขาก่อนหน้านี้แล้วบอกว่าเขาเปลี่ยนใจจะขายที่ดินให้ พี่น้องได้ซื้อที่ดินนั้นและเริ่มสร้างหอประชุม เมื่อก่อน ภรรยาของเจ้าของที่ดินไม่ชอบพยานพระยะโฮวามาก แต่พอเธอเห็นพี่น้องทำงานก่อสร้างด้วยกัน เธอพูดว่า “พวกเขาสามัคคีกันและน่ารักที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา”