ติดคุกเพราะความเชื่อ—เอริเทรีย
เป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่รัฐบาลเอริเทรียสั่งจำคุกพยานพระยะโฮวา รวมถึงผู้หญิงและคนสูงอายุ โดยไม่มีการพิจารณาคดีหรือแจ้งข้อหาอย่างเป็นทางการ ประธานาธิบดีอาฟเวอร์คีออกกฤษฎีกาเพิกถอนสิทธิพลเมืองทุกอย่างของพยานฯโดยคำสั่งประธานาธิบดีลงวันที่ 25 ตุลาคม 1994 เพราะพวกเขาไม่ไปลงประชามติเอกราชในปี 1993 และไม่ยอมเป็นทหารเนื่องจากขัดกับความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ก่อนที่จะมีการบังคับให้เกณฑ์ทหาร เจ้าหน้าที่ในเอริเทรียให้เลือกได้ว่าจะทำงานบริการสังคมแทนหรือไม่ พยานฯหลายคนเลือกทำงานบริการสังคมแทนการเป็นทหาร และทำแบบนี้มาหลายรัฐบาลแล้ว เจ้าหน้าที่จึงออก “ใบรับรองการรับใช้ชาติอย่างครบถ้วน” และชมเชยที่พวกเขาทำงานอย่างดี แต่เนื่องด้วยคำสั่งของประธานาธิบดี กองกำลังรักษาความมั่นคงของเอริเทรียได้จับพยานพระยะโฮวาไปจำคุก ทรมาน และคอยกดดันให้พวกเขาทิ้งความเชื่อ
ตอนนี้มีพยานพระยะโฮวา 64 คนในเอริเทรียที่ติดคุกอยู่ (พี่น้องชาย 37 คนและพี่น้องหญิง 27 คน)ในเดือนกันยายน 2024 จำนวนพยานฯที่ต้องติดคุกมีเพิ่มขึ้นเนื่องจากตำรวจได้บุกเข้าไปในบ้านพักที่กำลังจัดการประชุมทางศาสนาอย่างสงบ พี่น้องของเรา 24 คนถูกจับกุม ต่อมาเด็ก 2 คนที่ถูกจับกุมก็ถูกปล่อยตัว ไม่กี่วันต่อมาตำรวจได้จับกุมพี่น้องหญิงอายุ 85 ปี พยานฯทั้งหมด 23 คนถูกส่งตัวไปที่เรือนจำไมเซอร์วา ในวันที่ 7 ธันวาคม 2024 ซารอน เกบรูที่ตั้งท้องลูกคนแรกได้ 9 เดือนถูกปล่อยตัวออกจากคุก และวันที่ 15 มกราคม 2025 พี่น้องมีซาน เกเบรยาซุสที่อายุ 82 ปีก็ถูกปล่อยตัวเหมือนกัน
วันที่ 1 พฤศจิกายน 2024 เจ้าหน้าที่ความมั่นคงแห่งชาติได้ข่มเหงพยานพระยะโฮวาอีกครั้ง โดยจับกุมเด็กพยานฯ 4 คนที่อายุ 16 ถึง 18 ปี เด็ก ๆ ถูกสอบสวนและถูกนำตัวไปที่เรือนจำไมเซอร์วาทันที ต่อมาวันที่ 22 พฤศจิกายน เจ้าหน้าที่ได้ไปที่โรงเรียนของลูกสาวคนเล็กของอัลมัส เกบรีฮีวอต และได้พาเธอไปที่สถานีตำรวจ เมื่ออัลมัสไปที่สถานีตำรวจ เจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวลูกสาวไปแต่จับเธอแทน
สภาพในคุกเลวร้ายมาก
พยานพระยะโฮวาต้องทนกับสภาพที่เลวร้ายในเรือนจำไมเซอร์วาและค่ายกักกันอื่น ๆ นักโทษต้องเบียดเสียดกันในห้องขังเล็ก ๆ ที่แม้แต่จะนอนหงายบนพื้นก็ยังทำไม่ได้ พวกเขาต้องนอนตะแคงเบียดเสียดกัน คุกไม่สะอาดเลย นักโทษชายและหญิงจะทำธุระส่วนตัวได้แค่วันละ 2 ครั้งเท่านั้นโดยมีทหารคอยเฝ้าดู ไม่มีการรักษาทางการแพทย์ อาหารกับน้ำก็ไม่เพียงพอสำหรับนักโทษทุกคน
สภาพการณ์ที่เลวร้ายเหล่านี้ทำให้พยานพระยะโฮวาเสียชีวิตไปแล้ว4 คนและมีพยานฯสูงอายุอีก 3 คนเสียชีวิตหลังจากถูกปล่อยตัวเพราะได้รับผลกระทบจากตอนที่อยู่ในคุก
ในปี 2011 และ 2012 พยานฯสองคนเสียชีวิตเพราะถูกกระทำอย่างไร้มนุษยธรรมในค่ายกักกันไมเทอร์ ในเดือนกรกฎาคม 2011 มิซกินา เกเบรทินซาย อายุ 62 ปี เสียชีวิตเนื่องจากที่ที่เขาถูกขังซึ่งเรียกว่า “คุกใต้ดิน” ร้อนมาก และวันที่ 16 สิงหาคม 2012 โยฮานเนส ไฮเลอ อายุ 68 ปี เสียชีวิตหลังจากอยู่ในค่ายไมเทอร์ในสภาพเดียวกันเกือบ 4 ปี
พยานฯสูงอายุ 3 คนคือคาไซ เมโคนเนน, กอยทอม เกเบรกริสโทส และทีชาเย เทสฟามาเรียม ได้รับการปล่อยตัวและเสียชีวิตในเวลาต่อมาเพราะได้รับผลกระทบจากสภาพที่เลวร้ายในค่ายไมเทอร์
ในปี 2018 พยานฯ 2 คนเสียชีวิตหลังจากถูกส่งตัวไปเรือนจำไมเซอร์วา คือ นายฮับเทอมิคาเอล เทสฟามาเรียม อายุ 76 ปี เสียชีวิตวันที่ 3 มกราคม และนายฮับเทอมิคาเอล เมคอนเนน อายุ 77 ปี เสียชีวิตวันที่ 6 มีนาคม เจ้าหน้าที่เอริเทรียจับพี่น้องชายทั้งสองคนเข้าคุกตั้งแต่ปี 2008 โดยไม่มีการตั้งข้อหา
ติดคุกโดยไม่มีกำหนด
พยานฯที่ถูกจำคุกส่วนใหญ่ต้องติดคุกโดยไม่มีกำหนดและไม่มีหวังที่จะได้รับการปล่อยตัว พวกเขาจึงต้องอยู่ในคุกจนตายหรือจนเกือบตาย เนื่องจากในเอริเทรียไม่มีมาตรการทางกฎหมายที่ช่วยเหลือหรือเยียวยา นี่เท่ากับว่าพวกเขาต้องรับโทษจำคุกตลอดชีวิต
เหตุการณ์ตามลำดับเวลา
16 กันยายน 2025
มีพยานฯถูกจำคุกทั้งหมด 64 คน
22 พฤศจิกายน 2024
อัลมัส เกบรีฮีวอตถูกจับเพราะไม่เข้าร่วมพรรคการเมืองของประเทศ
1 พฤศจิกายน 2024
พยานฯ 4 คนที่เป็นเด็กนักเรียนถูกจับกุมและถูกส่งตัวไปยังเรือนจำไมเซอร์วา
27-30 กันยายน 2024
พยานฯ 23 คนถูกจับกุมและถูกส่งตัวไปที่เรือนจำไมเซอร์วา ในจำนวนนี้มีพยานฯผู้เยาว์ 2 คน ต่อมาพวกเขาถูกปล่อยตัว
1 กุมภาพันธ์ 2021
พยานฯ 3 คนถูกปล่อยตัวออกจากคุก
29 มกราคม 2021
พยานฯ 1 คนถูกปล่อยตัวออกจากคุก
4 ธันวาคม 2020
พยานฯ 28 คนถูกปล่อยตัวออกจากคุก
6 มีนาคม 2018
ฮับเทอมิคาเอล เมโคเนน อายุ 77 ปี เสียชีวิตหลังจากถูกย้ายไปเรือนจำไมเซอร์วา
3 มกราคม 2018
ฮับเทอมิคาเอล เทสฟามาเรียม อายุ 76 ปี เสียชีวิตหลังจากถูกย้ายไปเรือนจำไมเซอร์วา
กรกฎาคม 2017
พยานพระยะโฮวาทั้งหมดในค่ายกักกันไมเทอร์ถูกย้ายไปเรือนจำไมเซอร์วาซึ่งอยู่นอกเมืองอัสมารา
25 กรกฎาคม 2014
คนที่ถูกจับเมื่อวันที่ 14 เมษายนส่วนใหญ่ได้รับการปล่อยตัว แต่อีก 20 คนที่ถูกจับเมื่อวันที่ 27 เมษายนยังถูกคุมขัง
27 เมษายน 2014
พยานฯ 31 คนถูกจับระหว่างประชุมเพื่อศึกษาคัมภีร์ไบเบิล
14 เมษายน 2014
พยานฯมากกว่า 90 คนถูกจับระหว่างประชุมอนุสรณ์ระลึกถึงการเสียชีวิตของพระเยซู
16 สิงหาคม 2012
โยฮานเนส ไฮเลอร์ อายุ 68 ปี ตายเพราะทนความโหดร้ายในคุกไม่ไหว
กรกฎาคม 2011
มิซกินา เกเบรทินซาย อายุ 62 ปี ตายเพราะทนความโหดร้ายในคุกไม่ไหว
28 มิถุนายน 2009
ตำรวจบุกบ้านของพยานฯระหว่างการประชุมทางศาสนา และพยานฯที่เข้าร่วมทั้ง 23 คนซึ่งอายุตั้งแต่ 2 ถึง 80 ปีถูกจับ
28 เมษายน 2009
ตำรวจย้ายพยานพระยะโฮวาเกือบทั้งหมดจากห้องขังที่สถานีตำรวจไปที่ค่ายกักกันไมเทอร์ เหลือไว้แค่คนเดียว
8 กรกฎาคม 2008
ตำรวจบุกจับพยานฯ 24 คนที่บ้านและที่ทำงานของพวกเขา ส่วนใหญ่เป็นคนที่ต้องหาเลี้ยงครอบครัว
พฤษภาคม 2002
รัฐบาลสั่งห้ามกลุ่มศาสนาทั้งหมดที่ไม่ใช่ 4 ศาสนาที่รัฐบาลยอมรับ
25 ตุลาคม 1994
ประธานาธิบดีออกกฤษฎีกาเพิกถอนสิทธิพลเมืองและสิทธิพื้นฐานอื่น ๆ ของพยานพระยะโฮวา
17 กันยายน 1994
เปาโลส อียาซู, อิแซก โมโกส, และเนเกเด เทเกลมาเรียมติดคุกโดยไม่มีการพิจารณาคดี
ทศวรรษ 1950
ตั้งกลุ่มของพยานพระยะโฮวาครั้งแรกในเอริเทรีย