การสู้วัวศิลปะ หรือทารุณกรรม?
โดยผู้เขียนตื่นเถิด ในสเปน
ลูซิโอ อายุเพียง 19 ปีเมื่อเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น. เป็นตอนฤดูใบไม้ผลิในเมืองเซวิลล์ และสนามสู้วัว มาเอสทรานซา อันมีชื่อนั้นเต็มไปด้วยผู้ชม. แต่ลูซิโออยู่ใกล้เกินไปนิดเดียวในตอนที่วัววิ่งผ่าน. เขาอันร้ายกาจข้างหนึ่งจึงเกี่ยวตาขวาของลูซิโอออกมา.
เมื่อออกจากโรงพยาบาล ลูซิโอฝึกฝนการใช้ผ้าล่อวัวอย่างไม่ย่อท้อถึงสามเดือน. แม้จะสูญเสียตาไปข้างหนึ่ง เขาก็ไม่ยอมละทิ้งความใฝ่ฝันที่เขามีมาตลอดชีวิต. เมื่อถึงปลายฤดูร้อน เขากลับไปสู้วัวที่สนามในเมืองเซวิลล์ และถูกแบกขึ้นจากสนามเพื่อแสดงชัยชนะ. “มันเป็นการเสี่ยงโชคอย่างหนึ่ง” เขายอมรับ “แต่ก็เป็นเช่นนั้นในการสู้วัว.”
รูปโฉมที่น่าดึงดูดของนักสู้วัวเร้าใจพวกนักแต่งเพลง นักเขียน และนักสร้างภาพยนตร์. คงเป็นเพราะเรื่องนี้ที่พวกนักท่องเที่ยวหลายล้านคนรู้สึกว่าการมาเยือนสเปนหรือเม็กซิโกคงจะไม่ครบถ้วนหากไม่ได้เข้าชมการสู้วัว.
แต่ไม่ใช่เพียงพวกนักท่องเที่ยวเท่านั้นที่ทำให้สนามวัวเต็ม. มาทาดอร์ (นักสู้วัว) ผู้มีชื่อเด่นดังดึงดูดคนที่ชื่นชมตัวเขาในท้องถิ่นนั้น ๆ ให้ไปยังสนามสู้วัวสำคัญ ๆ ในมาดริด เซวิลล์ และเม็กซิโกซิตี. สำหรับผู้ที่คลั่งไคล้แล้ว มาทาดอร์ผู้ยิ่งใหญ่ของเขาคือศิลปินซึ่งเทียบได้กับโกญา หรือปิกัสโซ เป็นศิลปินผู้เหยียดความตายเพื่อรังสรรค์ลีลาอันงดงาม.
แต่ไม่ใช่ชาวสเปนทุกคนจะคลั่งไคล้การสู้วัว. จากการสำรวจความคิดเห็นของคนจำนวนมากเมื่อไม่นานมานี้ หกสิบเปอร์เซ็นต์แสดงว่าเขาสนใจเรื่องนี้เล็กน้อยหรือไม่สนใจเลย. มีหลายกลุ่มในสเปนเริ่มรณรงค์ต่อต้าน “ประเพณีรื่นเริงแห่งชาติ” ชนิดนี้ โดยอ้างว่า “การทารุณกรรมไม่ใช่ทั้ง ศิลปะหรือวัฒนธรรม.”
ประเพณีโบราณ
การจัดให้คนต่อสู้กับวัวเป็นประเพณีโบราณอย่างหนึ่งซึ่งเป็นที่ติดตรึงใจแก่บางคน และน่าสะอิดสะเอียนแก่คนอื่น ๆ. ชาวเมดิเตอร์เรเนียนมีความนับถือต่อความทรหดของวัวป่ามาเป็นเวลานานแล้ว. ฟาโรห์แห่งอียิปต์เดินเท้าล่าวัวป่า ส่วนเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งครีตท้าทายวัวที่พุ่งเข้าหาโดยการตีลังกาข้ามเขามันไป.
ในช่วงหนึ่งพันปีแรกแห่งสากลศักราช การปกครองของชาวโรมันและมุสลิมได้ทิ้งสัญลักษณ์ของพวกเขาเอาไว้ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นประเพณีของชาวสเปน. โรงมหรสพโรมันที่เสื่อมลงถูกเปลี่ยนไปเป็นสนามสู้วัวซึ่งยังคงลักษณะบางอย่างไว้ที่คล้ายคลึงกันกับสนามกีฬาของโรมัน. การแทงวัวด้วยหอกโดยผู้ขี่ม้าริเริ่มโดยพวกมัวร์ และเดี๋ยวนี้ได้ถูกรวมเข้าไว้ในพิธีการด้วย.
การสู้วัวเพิ่งจะเริ่มมีความคล้ายคลึงกับการแสดงในปัจจุบันเอาเมื่อศตวรรษที่สิบแปด. ถัดจากนั้นการสู้วัวแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ได้ส่งผ่านจากชนชั้นพวกขุนนาง ไปสู่พวกมืออาชีพชั้นรองลงมา. ประมาณเวลานี้แหละที่โกญาได้ออกแบบชุดแต่งกายพิเศษของผู้มีอาชีพนี้ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในทุกวันนี้ว่า ทราเฮ เด ลูเชส์ หรือ “ชุดแห่งประกายแสง” เนื่องจากใช้ทองและเงินปักตกแต่งชุดนั้น. นอกจากนั้นความสนใจยังได้มุ่งสู่การจัดหาวัวที่เหมาะสมด้วย.
วัวชนิดหนึ่งที่ต่างออกไป
ในศตวรรษที่สิบเจ็ดวัวป่าแท้ ๆ ได้สูญพันธุ์ไปจากแหล่งที่อยู่แห่งสุดท้ายในป่าแถบยุโรปภาคกลาง. แต่ในช่วงสามร้อยปีหลัง วัวป่าสเปนเหลือรอดอยู่ได้เนื่องจากมีการคัดเลือกเพาะพันธุ์เอาไว้สำหรับต่อสู้. ความแตกต่างสำคัญระหว่างวัวป่ากับวัวบ้านคือวิธีที่มันตอบโต้เมื่อถูกคุกคาม. วัวไอบีเรียที่ดุร้ายจะจู่โจมไม่ยอมหยุด ไม่ว่าอะไรหรือใครที่เคลื่อนไหวอยู่เบื้องหน้ามัน.
การสู้วัวต้องพึ่งพาลักษณะนิสัยนี้ของวัว ซึ่งเป็นลักษณะที่ผู้เลี้ยงปศุสัตว์ชาวสเปนพยายามปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา. เป็นเวลาสี่ปีที่วัวถูกเลี้ยงดูอย่างดีจนกระทั่งถึงเวลากำหนดที่มันจะถูกผลักสู่สนามอย่างไม่ปรานีปราศรัย. วัวตัวนั้นไม่เคยเห็นมาทาดอร์หรือผ้าคลุมไหล่มาทาดอร์มาก่อนเลย เพราะถ้ามันเคยเห็น มันคงจะจำได้ถึงวิธีการที่มาทาดอร์ใช้ และวัวจะอันตรายเกินไป. แต่วัวจะโจมตีผ้าที่เคลื่อนไหวนั้นโดยสัญชาตญาณ ไม่ว่าเป็นสีแดงหรือสีอื่น (วัวตาบอดสี). ประมาณยี่สิบนาที ทุกสิ่งก็ยุติลง ร่างไร้ชีวิตหนัก 450 กิโลกรัม ถูกลากออกไปจากสนาม.
ขั้นตอนต่าง ๆ ของการสู้วัว
ในพิธีเปิดที่เต็มไปด้วยสีสันผู้ที่มีส่วนร่วมในการต่อสู้ทุกคนจะเดินขบวนไปรอบบริเวณสนาม รวมทั้งมาทาดอร์สามคนและผู้ช่วย และพิคาดอร์ (นักขี่ม้าสู้วัว). มาทาดอร์แต่ละคนถูกจัดให้สู้กับวัวสองตัว และจะสู้ทีละหนึ่งตัวในระหว่างการต่อสู้สองรอบของเขา. ตลอดการต่อสู้จะมีดนตรีที่เร้าใจบรรเลงตามประเพณี ในขณะที่แตรเดี่ยวส่งเสียงเป็นการประกาศการเริ่มต้นของแต่ละ เทอร์ซิโอ หรือฉากแห่งการแสดง.
ขั้นตอนแรกเริ่มขึ้นหลังจากมาทาดอร์ได้ทำการอุ่นเครื่องแล้วด้วยการเคลื่อนไหวพร้อมกับผ้าคลุมผืนใหญ่หลาย ๆ ครั้ง อันเป็นการยั่วยุวัว. พิคาดอร์ก็ขี่ม้าพร้อมด้วยหอกปลายเหล็กแหลมเข้ามาในสนาม. วัวถูกยั่วให้พุ่งเข้าโจมตีม้าซึ่งด้านข้างลำตัวม้าถูกป้องกันไว้ด้วยเกราะอ่อน. พิคาดอร์จะปัดป้องการโจมตีโดยใช้หอกของเขาแทงไปตรงกล้ามเนื้อที่คอและไหล่ของวัว. ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อที่คอวัวอ่อนกำลัง เป็นการบังคับให้มันต้องก้มหัวลงเมื่อเข้าโจมตี ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะสำหรับการฆ่ามันในขั้นสุดท้าย. (ดูภาพบน) หลังจากเข้าโจมตีอีกสองครั้ง พิคาดอร์ก็ขี่ม้าออกไปจากสนาม และเทอร์ซิโอ ที่สองของการต่อสู้ก็เริ่มขึ้น.
ขั้นตอนที่สองนี้ เป็นส่วนของผู้ช่วยมาทาดอร์ คือบันเดริลเลโร (ผู้ช่วยนักสู้วัว) ซึ่งทำหน้าที่แทงไหล่วัวด้วยบันเดริลลาสองหรือสามคู่ซึ่งมีขนาดสั้น มีเงี่ยงเหล็กแหลม. บันเดริลเลโรกระตุ้นความสนใจของวัวโดยตะโกน และทำท่าทางอยู่ในระยะห่างประมาณ 20-30 เมตร. ขณะที่วัวพุ่งเข้ามา บันเดริลเลโรก็จะวิ่งเข้าหามัน และเบี่ยงตัวหลบทันควันในเสี้ยววินาทีสุดท้าย ขณะเดียวกันก็จะปักเหล็กแหลมสองอันนั้นเข้าที่ไหล่วัว.
ขั้นสุดท้ายของการต่อสู้ มาทาดอร์เผชิญหน้ากับวัว—โดยลำพัง. ขั้นตอนชี้ขาดการต่อสู้นี้เรียกว่า เป็นเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน. ตอนนี้มาทาดอร์จะใช้มูเลตา เป็นผ้าเสิร์จหรือสักหลาดสีแดงสด เพื่อล่อวัว. เขาเข้าไปใกล้วัว ยั่วให้มันพุ่งเข้าหาอย่างบ้าเลือด แต่หลอกล่อมันด้วยผ้าแดงขณะที่มันเข้าใกล้ตัวเขามากขึ้น ๆ. กล่าวกันว่าขั้นตอนการสู้นี้ “ไม่ใช่เป็นการต่อสู้ระหว่างคนกับวัวจริง ๆ หรอก แต่เป็นการต่อสู้ระหว่างคนนั้นกับตนเองมากกว่า กล่าวคือเขาต้องการให้ฝูงชนพอใจมากเท่าใด และกล้าให้เขาวัวเฉียดใกล้ตัวแค่ไหน?”
เมื่อมาทาดอร์แสดงความสามารถที่เหนือกว่า ในการควบคุมวัวซึ่งตอนนี้อ่อนเปลี้ยแล้ว เขาจึงเตรียมจะฆ่ามัน. นี้เป็นช่วงเวลาสุดยอดแห่งการต่อสู้. มาทาดอร์จะทำให้แน่ใจว่าวัวกำลังยืนในตำแหน่งอันเหมาะเพื่อการฆ่าคือขาหน้าของมันชิดกัน. แล้วเขาก็จะเคลื่อนตัวเข้าหาวัว ยื่นมือไปเหนือเขาของมัน และใช้ดาบแทงเข้าระหว่างไหล่ของมัน ขณะเดียวกันก็พยายามหลบหลีกการขวิดอย่างกะทันหันด้วย. เป้าหมายหลักก็คือให้ดาบแทงเข้าไปตัดเส้นเลือดใหญ่ของหัวใจ และทำให้มันตายเกือบจะทันที. สิ่งนี้ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก. วัวส่วนใหญ่แล้วต้องใช้ความพยายามทำหลายครั้ง.
กระทั่งในตอนกำลังจะตาย วัวก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้. เมื่อห้าปีมาแล้ว มาทาดอร์ชื่อดังคนหนึ่ง คือญิโยอายุ 21 ปี ได้หันหลังให้วัว หลังจากสยบมันลงแล้ว. แต่วัวตัวนั้นรวบรวมกำลังขึ้นใหม่ และเขาข้างหนึ่งของมันเสียบทะลุหัวใจนักสู้วัวผู้เคราะห์ร้ายคนนี้.
การตัดแต่งและการตาย
สำหรับคนส่วนใหญ่ การสู้วัวเป็นเหตุการณ์อันน่าตื่นเต้นและดึงดูดใจ. แต่ก็มีด้านที่น่ารังเกียจอยู่มากกว่าหนึ่งอย่าง. ผู้ชอบการสู้วัวคนหนึ่งให้ข้อเห็นว่า “ในธุรกิจอันน่าสังเวชนี้ ที่น่ายกย่องเพียงอย่างเดียวก็คือวัว และพวกเขาทำให้มันพิการโดยเฉือนปลายเขาออกเสียเพื่อทำให้มันยุ่งยากในการกำหนดเป้าหมาย.”a
การจัดการเรื่องการสู้วัวเป็นไปแบบสกปรกจนเป็นที่รู้กันทั่ว ทำให้มาทาดอร์คนหนึ่งกล่าวอย่างเหน็บแนมว่า เขากลัววัว “มากไม่เท่ากับครึ่งหนึ่งที่ . . . [เขากลัว] คนซึ่งจัดการสนามสู้วัว.” แม้ว่ามาทาดอร์ชั้นยอดสามารถมีรายได้หลายสิบล้านบาทก็ตาม การแข่งขันดุเดือด และอันตรายจากการบาดเจ็บ หรือตายก็มีเป็นประจำ. ในพวกมทาดอร์ที่มีชื่อเสียงเด่นในช่วง 250 ปีหลังนี้ ประมาณ 125 คน มีมากกว่า 40 คนที่ตายในสนามสู้วัว. มาทาดอร์ส่วนใหญ่ถูกวัวขวิดอย่างน้อยหนึ่งครั้ง ไม่หนักก็เบาในแต่ละฤดูกาลสู้วัว.
ทัศนคติของคริสเตียน
เมื่อได้พิจารณาถึงสิ่งที่กล่าวมาแล้วทั้งหมด คริสเตียนควรมองดูการสู้วัวอย่างไร? อัครสาวกเปาโลอธิบายว่าหลักพื้นฐานในการแสดงความกรุณาต่อสัตว์ยังคงใช้ได้อยู่สำหรับชนคริสเตียน. ท่านอ้างถึงกฎหมายที่มาทางโมเซซึ่งเรียกร้องกสิกรชาวยิศราเอลให้ปฏิบัติต่อวัวของเขาด้วยความกรุณา. (1 โกรินโธ 9:9, 10) คงยากที่จะกล่าวว่าการสู้วัวเป็นการปฏิบัติต่อวัวอย่างมีมนุษยธรรม. จริงอยู่ บางคนถือว่าการสู้วัวเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง แต่นั้นจะเป็นข้อแก้ตัวให้ฆ่าสัตว์ที่งามสง่าสนองพิธีการไหม?
หลักการอีกข้อหนึ่งที่จำต้องพิจารณาคือ ความศักดิ์สิทธิ์ของชีวิต. คริสเตียนควรจงใจทำให้ชีวิตของตนตกอยู่ในอันตรายโดยเจตนาไหม เพียงเพื่อจะแสดงว่าตนเป็นลูกผู้ชายหรือทำให้ฝูงชนตื่นเต้น? พระเยซูทรงปฏิเสธการทดลองดูพระเจ้าด้วยการทำให้ชีวิตตกอยู่ในอันตรายโดยใช่เหตุ.—มัดธาย 4:5-7.
เออร์เนสท์ เฮมิงเวย์ เขียนไว้ในหนังสือ เดธ อิน ดิ อาฟเตอร์นูน ว่า “ผมคาดว่า จากแง่คิดทางศีลธรรมสมัยใหม่ นั้นคือตามทัศนะของคริสเตียนแล้วทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการสู้วัว เป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัย มีแต่ความทารุณโหดร้าย และอันตรายอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าโดยเจตนาหรือไม่ได้คาดคิด และความตายมีอยู่เสมอ.”
ในหมู่คนหลายพันคนที่เข้าชมการสู้วัวนั้น บางคนรู้สึกสนุก บางคนก็ผิดหวังและอีกหลายคนรู้สึกรังเกียจ. ไม่ว่าคนเราจะมองด้วยแง่คิดเช่นไร แต่พระองค์ผู้ทรงสร้างวัวไม่อาจทอดพระเนตรสิ่งนี้ด้วยความพอพระทัยได้. แม้ว่าหลายคนถือเป็นเรื่องศิลปะ แต่การสู้วัวก็เป็นการหมิ่นประมาทต่อหลักการของพระเจ้าอย่างแท้จริง.—พระบัญญัติ 25:4; สุภาษิต 12:10
[เชิงอรรถ]
a การเฉือนแต่งเขาวัวถูกห้าม แต่ก็ยังคงทำกันอยู่ทั่วไปในสเปน.
[รูปภาพหน้า 20]
พิคาดอร์ใช้หอกแทงกล้ามเนื้อที่คอและไหล่วัว ทำให้วัวอ่อนกำลังลง
มาทาดอร์กำลังจะแทงวัวด้วยดาบ