ไปล่องแม่น้ำโชบิกันเถอะ
โดยผู้เขียนตื่นเถิด ในแอฟริกาใต้
ขณะนี้เรากำลังนั่งอยู่ในเรือซึ่งล่องตามแม่น้ำโชบิในใจกลางดินแดนแอฟริกาใต้. เป็นจุดสุดยอดแห่งการพักร้อนของเรา. เราฟังเสียงน้ำกระทบเรือเบา ๆ ขณะที่ผู้โดยสารก้าวลงเรือ. ตรงชายฝั่ง ต้นหญ้าโบกสะบัดลู่ตามลมทำให้เราเย็นสบาย. พวกเรารู้สึกดีใจที่มีเมฆช่วยบดบังแสงอาทิตย์ที่แผดร้อนในแถบแอฟริกานี้.
“ดิฉันหวังว่าช้างจะออกมากินน้ำในช่วงบ่ายเช่นเคยค่ะ” จิลผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของโรงแรมซึ่งจัดการล่องเรือนี้ได้กล่าวขึ้น. เราก็หวังเช่นนั้นด้วย. แม่น้ำโชบิเป็นที่ขึ้นชื่อในเรื่องช้าง. ตอนเหนือของบอตสวานาซึ่งมีแม่น้ำโชบิกั้นเป็นพรมแดน กะประมาณว่ามีช้างอยู่ 45,000 เชือก—เป็นแหล่งช้างที่หนาแน่นที่สุดในแอฟริกาใต้. จิลบอกว่า “แต่เนื่องจากฝนตกเมื่อเร็ว ๆ นี้ เราจึงไม่เห็นช้างมาสามวันแล้ว.”
อย่างไรก็ตาม แม่น้ำโชบิมีสิ่งที่ดึงดูดใจอื่น ๆ อีกมากมาย. บนถาดในเรือเราเห็นปลาตายสี่ตัว. เรนฟอร์ดกัปตันเรือชาวบอตสวานาของเรากล่าวว่า “ตามปกติเราพบนกอินทรีชนิดกินปลารอให้โยนปลาลงไปในน้ำ.” เราจะประสบความสำเร็จในการถ่ายภาพนกพวกนี้ขณะที่มันบินโฉบลงเพื่อคาบอาหารของมันไหม? เราตื่นเต้นยิ่งขึ้นเมื่อเรือท่องเที่ยวอีกลำหนึ่งชื่อ เดอะ ฟิช อีเกิล ผ่านไป. เรือของเราชื่อ โมซิ-โอ-ทุนยา เป็นชื่อแอฟริกาของน้ำตกวิคตอเรีย. แม่น้ำโชบิไหลมาบรรจบกับซัมเบซีแม่น้ำใหญ่แล้วไหลพุ่งต่อไปยังน้ำตกที่มีชื่อนี้ซึ่งต้องใช้เวลาขับรถเกือบชั่วโมงจากที่นี่.
คุณเชื่อหรือไม่ ไม่นานหลังจากที่เรือโมซิ แล่นออกมา เรามองเห็นช้างโดยกล้องส่องทางไกล. แต่ อนิจจา ขณะที่เรายังอยู่ในระยะห่างไกล พวกมันก็หันกลับเข้าป่า. แซนดี ผู้นำเที่ยวของเราพูดขึ้นว่า “จนกระทั่งสามสัปดาห์ที่แล้ว เราได้เห็นช้างหลายโขลงมีจำนวนนับร้อย ๆ เชือก.” จากนั้นความสนใจของเราก็ละไปอยู่ที่ฝูงกูดูหกตัวซึ่งกำลังจ้องมองจากฝั่งมายังพวกเรา. ตามปกติแล้ว เมื่อรถยนต์เข้าไปใกล้ กูดูเหล่านี้จะตกใจวิ่งหนีเตลิดเปิดเปิง. “พวกมันดูเหมือนจะไม่กลัวเรือที่แล่นอยู่กลางน้ำเท่าไรนัก” แซนดีกล่าว.
เสียงคูคูอันนุ่มนวลของนกพิราบโดนขัดจังหวะด้วยเสียงร้องแหลม ๆ. นั่นนกอะไร? “เสียงร้องเรียกพิเศษของนกอินทรีกินปลาเป็นเสียงที่ได้ยินเป็นประจำตามลำน้ำโชบิ” ดร. แอนโทนี ฮอลล์-มาร์ติน อธิบายไว้ในหนังสือเอเลแฟนตส์ ออฟ แอฟริกา. นกรูปร่างสง่าเหล่านี้สี่ตัวจ้องมองพวกเราจากบนต้นไม้ริมแม่น้ำ. เรารีบปรับกล้องถ่ายรูปขณะที่แซนดีโยนปลาลงไป. ราวกับรู้สัญญาณ นกตัวแรกละจากกิ่งไม้ที่มันเกาะอยู่และร่อนตรงมายังเรา. จากนั้นเราได้ยินเสียงน้ำกระเซ็นขณะที่นกจับเหยื่อแน่นด้วยกรงเล็บของมัน. และแล้วก็โผขึ้นจากน้ำโดยกระพือปีกอันน่าเกรงขามของมัน พร้อมกับส่งเสียงร้องอย่างผู้ชนะ—วาว-คาเยา-ควาว. เรารู้สึกทึ่งกับการประสานกันของตา กรงเล็บ เสียง และปีก ซึ่งรับคำสั่งจากสมองเล็ก ๆ ของเจ้าอินทรี. บนเรือเงียบกริบ มีเพียงเสียงคลิกจากกล้องถ่ายรูป ขณะที่ภาพอันประทับใจนั้นปรากฏซ้ำอีกสามครั้ง.
ขณะที่เรือแล่นต่อไป เราพบโขลงช้างจำนวน 26 เชือก รวมทั้งลูกอ่อนของมันกำลังเล่นน้ำอยู่. ขณะเฝ้าดูช้างเหล่านั้น เรานึกถึงคำพูดของบรูซ ไอเคนในหนังสือของเขาชื่อเดอะ ไลออนส์ แอนด์ เอเลแฟนตส์ ออฟ เดอะ โชบิ ที่ว่า “ครั้นเมื่อได้บรรเทาการกระหายน้ำแล้ว ช้างที่โตเต็มที่จะใช้งวงของมันพ่นน้ำเย็นฉีดไปทั่วตัว. ช้างบางตัวโดยเฉพาะตัวที่ใกล้จะโตเต็มที่และตัวผู้อาจจะลงไปในแม่น้ำ และว่ายน้ำเล่นอย่างครื้นเครง บ่อยครั้งจะเห็นแค่ปลายงวงของมันโผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำคล้ายกับท่อระบายอากาศของเรือดำน้ำ. อย่างไรก็ตาม ไม่มีตัวไหนจะสนุกมากเท่ากับลูกช้าง. ตอนนี้เป็นช่วงต้นของการเล่น มันกระโดดโลดเต้นไม่หยุดและวิ่งไล่กวดกัน . . . พอหมดความกระหายน้ำแล้ว ก็ถึงเวลาสำหรับรายการต่อไป ไม่ต้องสงสัยนั่นคือกิจกรรมที่มันโปรดปรานมาก—การอาบโคลน. . . . ยังไม่ทันได้สนุกเต็มที่ช้างพังแก่ซึ่งคำสั่งของมันเป็นดุจอาญาสิทธิ์ ก็เข้ามาขัดจังหวะโดยสั่งว่าได้เวลาจะไปกันแล้ว.”
น่าเสียดาย เรือยนต์สองชั้นของเราซึ่งเข้าไปใกล้ทำให้ ‘ช้างพังที่ขัดจังหวะความสนุก’ ตื่นตระหนกเลยนำทั้งโขลงออกไป แต่ก่อนจะไปเราได้บันทึกภาพไว้บ้าง.
วันนี้ยังไม่สิ้นสุด และแม่น้ำโชบิยังมีสิ่งน่าตื่นตาตื่นใจอื่น ๆ อีก. เนื่องจากฝุ่นที่มาจากทะเลทรายคาลาฮารีซึ่งอยู่รอบ ๆ อาทิตย์อัสดงอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำจึงเป็นภาพงดงามยิ่งนัก. นอกจากนั้น ตอนเย็นยังเป็นเวลาที่เจ้าฮิปโปผู้เชื่องช้าจะขยับเขยื้อนเพื่อเตรียมพร้อมจะละจากน้ำไปกินอาหารมื้อค่ำอย่างเต็มที่. ตอนนี้ความปลอดภัยจากเรือลำใหญ่ของเรานับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง. เรนฟอร์ดกล่าวว่า “คุณสามารถเข้าไปใกล้ ๆ เจ้าฮิปโปได้โดยไม่ต้องหวาดวิตกอะไร.”
เสียงร้องทุ้มดังกังวานบอกให้รู้ว่าเรามาถึงแอ่งน้ำที่อยู่ของฮิปโปซึ่งขนาบข้างเกาะในแม่น้ำ. หัวขนาดใหญ่ของเจ้าฮิปโปซึ่งจมอยู่ในน้ำโผล่สลับกันขึ้นมาข้าง ๆ เราทั้งสองด้าน. ทันใดนั้น ฮิปโปสองตัวโถมเข้าหากันพร้อมกับอ้าปากกว้าง—ปากของมันใหญ่ขนาดที่คนเข้าไปนั่งยอง ๆ ในนั้นได้. จากนั้น ใกล้เกาะตรงบริเวณน้ำตื้นฮิปโปอีกตัวหนึ่งเดินตรงมาทางเรา—เข้ามาใกล้กระทั่งร่างมหึมาของมันจ่ออยู่เต็มหน้าเลนส์กล้องถ่ายรูปของเรา. ยิ่งน้ำลึกเท่าไร หัวของมันก็จะยิ่งจมใต้น้ำมีเพียงหลังกว้างใหญ่ของมันโผล่พ้นน้ำ. แล้วมันก็ปล่อยลมออกจากปอด ร่างขนาดมหึมาของมันก็จมลง.
เรารู้สึกประหลาดใจที่ได้รู้ว่า ฮิปโปคล่องแคล่วปราดเปรียวมากเมื่ออยู่ในน้ำทั้ง ๆ ที่มีน้ำหนักถึงสี่ตัน. แบรดเลย์ สมิธ กล่าวในหนังสือของเขาชื่อ เดอะ ไลฟ์ ออฟ เดอะ ฮิปโปโปเตมัส ว่า “มันสามารถว่ายน้ำได้เร็วกว่าปลาหลายชนิด แม้ว่ารูปร่างของมันจะดูเทอะทะ และบ่อยครั้งจะเห็นมันว่ายอย่างเร็วในน้ำใสระดับใต้ผิวน้ำเล็กน้อย.” หรือถ้าหากมันนึกสนุก เจ้าฮิปโปจะใช้พลังขาของมันเต้นรำไปมาใต้ท้องแม่น้ำลึก. เป็นดังเช่นที่พระผู้สร้างมนุษย์ตรัสไว้:
“ดู เบเฮโมท (ฮิปโปโปเตมัส) เถิด ซึ่งเราได้สร้างอย่างที่เราได้สร้างเจ้า มันกินหญ้าเหมือนวัว ดูเถิด กำลังของมันอยู่ในเอว และฤทธิ์ของมันอยู่ในกล้ามเนื้อท้อง ดูเถิด ถ้าแม่น้ำไหลเชี่ยวมันก็ไม่ตกใจ มันวางใจแม้ว่าแม่น้ำจอร์แดนจะพุ่งเข้าใส่ปากมัน.” (โยบ 40:15, 16, 23, ฉบับแปลใหม่) ขณะที่เราถูกห้อมล้อมไปด้วยตัวอย่างอันน่าเกรงขามของสัตว์ที่มี “ฤทธิ์” เช่นนี้ ทำให้เราสำนึกมากขึ้นถึงความจำเป็นในการแสดงความนับถือต่อผู้ซึ่งสร้างสัตว์เหล่านั้น. “ผู้หนึ่งผู้ใดอาจจับนัยน์ตามันลากไป หรือจะเอาบ่วงสนตะพายมันได้หรือ?” พระยะโฮวาเจ้าทรงถามเช่นนี้เป็นการเตือนเราให้นึกถึงขีดจำกัดของมนุษย์.—โยบ 40:24, ฉบับแปลใหม่.
ขณะที่ต้องการเฝ้าดูทั้งอาทิตย์อัสดงอันสง่างามกับเจ้าฮิปโปที่น่าชมนั้น ทำให้เราไม่อยากจะไปจากที่นั่นเลยเมื่อได้เวลาที่เรือต้องกลับ. ต่อมาเมื่ออยู่ในกระท่อมมุงจากริมแม่น้ำ เราจ้องมองอย่างตะลึงงันขณะที่ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีชมพู และสีส้ม พร้อมกับสีสันอันสวยงามยิ่งซึ่งสะท้อนขึ้นมาจากน้ำ. เราใคร่ครวญถึงสิ่งต่าง ๆ ที่น่าตื่นเต้นซึ่งเราได้เห็นและได้ยิน. แซนดีแนะนำเราว่า “ถ้าคุณต้องการจะเข้าไปใกล้สัตว์ป่าพวกนี้จริง ๆ ละก็ คุณควรจะใช้เรือยนต์เล็ก ๆ.” เราตกลงทำตามคำแนะนำของเธอและจ้างเรือลำหนึ่งสำหรับบ่ายวันรุ่งขึ้น.
คราวนี้ เราได้ดูชีวิตสัตว์ป่าใกล้เข้าไปอีก ยกเว้นเจ้าฮิปโปที่อันตราย และยังสามารถสัมผัสกับต้นกกและดอกบัวได้. เรามองดูนกกระเต็นลายขณะที่มันบินวนและนิ่งอยู่กับที่เหนือน้ำเพื่อเสาะหาปลาตัวเล็ก ๆ. นกสีสันสวยงามตัวอื่น ๆ บินอยู่รอบ ๆ เรา เช่นนกกระเต็นพันธุ์แอฟริกา, นกกินผึ้งอกขาวและนกนางแอ่นลาย. แล้วก็มีนกขนาดใหญ่กว่าที่ชอบความปลอดภัยของเกาะในแม่น้ำนี้—ห่านอียิปต์, นกเป็ดน้ำ, นกกาน้ำ และนกกระสา เป็นแต่เพียงบางชนิดเท่านั้น. เราผ่านต้นไม้ซึ่งลำต้นจมอยู่ในน้ำครึ่งหนึ่ง ประดับตกแต่งไปด้วยบรรดานกเหล่านี้.
ในที่สุด เราก็มาถึงบริเวณที่ได้เห็นโขลงช้างเมื่อวันก่อน. มาคราวนี้เราพบช้างพลายตัวเดียวซึ่งดูจะไม่ใส่ใจพวกเราแต่เพลินอยู่กับการกินดื่มของมัน. ครั้นเราจะเริ่มเดินทางต่อไป ทันใดนั้นลูกช้างสองตัวกับแม่ของมันก็โผล่ออกมาจากป่าละเมาะ. แม่ช้างมีทีท่าลังเลขณะเห็นพวกเรา. เรากลั้นลมหายใจพร้อมด้วยความหวัง. เจ้าแม่ช้างจะก้าวมาทางเราหรือไม่? ขอบคุณที่แม่ช้างตัดสินใจยอมเสี่ยงให้ลูกน้อยของมันออกมาปรากฏตัวแก่พวกเรา. ช่างเป็นภาพน่าดูอะไรเช่นนี้ที่ได้จ้องมองแม่ช้าง ลูกช้างตัวพี่พร้อมกับเจ้าตัวน้อยวิ่งตรงมาทางเรา!
ไอเคนให้ความเห็นเพิ่มเติมอีกในหนังสือของเขาเกี่ยวกับสิงโตและช้างว่า “ไม่ยากเลยที่จะนึกภาพว่าสัตว์ใหญ่เหล่านี้จะกระหายน้ำสักเพียงไรในแต่ละวัน . . . ขณะที่เดินทางทั้งร้อนและไกลมาถึงแม่น้ำ. สัตว์พวกนี้จะเดินอย่างเร่งรีบเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ฝูงสัตว์จะปรากฏออกมาจากป่าและมุ่งตรงไปยังแหล่งน้ำ ตามปกติเมื่อถึงระยะราวห้าสิบหรือหนึ่งร้อยเมตรสุดท้ายมันจะวิ่งแบบตัวใครตัวมัน ขณะได้กลิ่นน้ำซึ่งให้ชีวิต.” ที่จริง เราเฝ้าดูอย่างประหลาดใจขณะสัตว์ทั้งสามตัวยืนเรียงแถวกินน้ำ โดยให้เจ้าตัวน้อยอยู่ตรงกลางเพื่อเป็นการปกป้อง. แต่ทว่าเวลากำลังค่ำลง และเราต้องกลับก่อนจะมืด.
นอกจากช้างแล้ว เราเห็นควายป่า, จระเข้, ละมั่งใหญ่, ลิงบาบูน, หมูป่า และสัตว์คล้ายกวางเช่นตัวพูกูส์, กูดู และอิมพาลา. เราอดใจไม่ได้ ที่จะรู้สึกชมชื่นอย่างลึกซึ้งในพระองค์ผู้นั้นที่ทรงสร้างสัตว์ป่าสวยงามหลากหลาย ทั้งยังให้มันมีชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมอันงดงามยิ่ง. ในฤดูแล้ง นกและสัตว์ต่าง ๆ จะมาชุมนุมกันที่แม่น้ำ เหมือนการรวมพลครั้งใหญ่ และจะเห็นได้กระทั่งสิงโต เสือดาว และแรด.
คุณอาจจะอยู่ห่างจากดินแดนอันไกลโพ้นนี้ของแอฟริกา แต่เราหวังอย่างยิ่งว่าการได้ร่วมล่องแม่น้ำกับเรา คงทำให้คุณจินตนาการได้ดีขึ้นในทัศนียภาพอันสวยงามตระการตาซึ่งคอยต้อนรับผู้คนที่จะไปล่องแม่น้ำโชบิ.
[ที่มาของภาพหน้า14]
All wood engravings: Animals: 1419 Copyright-Free Illustrations of Mammals, Birds, Fish, Insects, etc. by Jim Harter