ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • ต92 8/6 น. 22-25
  • ความจริงทำให้ผมเป็นอิสระ

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • ความจริงทำให้ผมเป็นอิสระ
  • ตื่นเถิด! 1992
  • หัวเรื่องย่อย
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • พระเจ้า​มี​จริง​ไหม?
  • วัน​ซึ่ง​เปลี่ยน​ชีวิต​ของ​ผม
  • การ​พูด​ติด​อ่าง​ไม่​อาจ​หยุด​ยั้ง​ผม​ได้
  • เป็น​อิสระ​จาก​วิถี​ชีวิต​แบบ​เก่า
  • การ​ท้าทาย​เรื่อง​การ​พูด​ต่อ​หน้า​สาธารณะ
  • วิธีที่ผมรับมือกับการพูดติดอ่าง
    ตื่นเถิด! 1998
  • ฉันชอบดนตรี แต่จะไม่หลงใหลได้อย่างไร?
    คำถามที่หนุ่มสาวถาม—คำตอบที่ได้ผล เล่ม 2
  • ฉันจะรักษาดนตรีให้อยู่ในขอบเขตอันเหมาะสมได้อย่างไร?
    ตื่นเถิด! 1993
  • การพูดติดอ่าง—แก้ได้อย่างไร?
    ตื่นเถิด! 2010
ดูเพิ่มเติม
ตื่นเถิด! 1992
ต92 8/6 น. 22-25

ความ​จริง​ทำ​ให้​ผม​เป็น​อิสระ

คุณ​พ่อ​เสีย​ชีวิต​เมื่อ​ผม​อายุ​ได้​เจ็ด​ขวบ และ​คุณ​แม่​ผู้​น่า​สงสาร​ถูก​ทิ้ง​ให้​เลี้ยง​ดู​บุตร​หก​คน. เรา​เติบโต​ขึ้น​ใน​เมือง​โยฮันเนสเบิร์ก แอฟริกา​ใต้. เมื่อ​เป็น​วัยรุ่น ผม​ไม่​ชอบ​ร่วม​กลุ่ม​กับ​ผู้​อื่น. คุณ​คง​เข้าใจ ผม​รู้สึก​อึดอัด​ที่​จะ​พูด​คุย​เพราะ​ผม​มี​อาการ​ติด​อ่าง​ขนาด​หนัก.

แต่​อุปสรรค​นี้​ช่วย​ให้​ผม​พัฒนา​ความ​สามารถ​ด้าน​อื่น. ที่​โรงเรียน ผม​มัก​จะ​ได้​ที่​หนึ่ง​ของ​ชั้น​เมื่อ​มี​การ​เขียน​เรียง​ความ. บาง​ครั้ง​ครู​จะ​อ่าน​เรียง​ความ​ของ​ผม​ให้​กับ​ชั้น​อื่น ๆ ฟัง​ด้วย. การ​พูด​ติด​อ่าง​ไม่​มี​ผล​กระทบ​ต่อ​ความ​สามารถ​ด้าน​การ​ร้อง​เพลง​ของ​ผม. เมื่อ​อยู่​ที่​บ้าน​ผม​ใช้​เวลา​ว่าง​ส่วน​ใหญ่​ไป​กับ​การ​เล่น​กีตาร์​และ​ร้อง​เพลง​ใน​ห้อง​นอน.

ใน​ที่​สุด ดนตรี​กลาย​เป็น​สิ่ง​ที่​ผม​สนใจ​จริง ๆ เพียง​อย่าง​เดียว. ผม​ปรารถนา​จะ​ได้​เล่น​ใน​วง​ดนตรี​ร็อก​สัก​วง​หนึ่ง และ​สิ่ง​นี้​กระทบ​กระเทือน​การ​เรียน​ของ​ผม. ที่​จริง​แล้ว ผม​ออก​จาก​โรงเรียน​ทั้ง​ที่​ยัง​ไม่​สำเร็จ​การ​ศึกษา​ขั้น​ต้น​ด้วย​ซ้ำ. ผม​ตั้ง​วง​ดนตรี​ขึ้น​มา​วง​หนึ่ง และ​เรา​ใช้​เวลา​เกือบ​ทุก​สัปดาห์​ตระเวน​เล่น​ไป​ตาม​ที่​ต่าง ๆ รอบ ๆ โยฮันเนสเบิร์ก. ใน​ไม่​ช้า ผม​เริ่ม​ไว้​ผม​ยาว​และ​ดื่ม​เหล้า​จัด.

ผม​จำ​ได้​ว่า​เล่น​อยู่​ที่​ไนท์​คลับ​แห่ง​หนึ่ง​ใน​โยฮันเนสเบิร์ก​เป็น​เวลา​หลาย​สัปดาห์. พนักงาน​คน​หนึ่ง​มอง​แล้ว​ก็​ดู​เหมือน​ว่า​เป็น​สาว​สวย​เกิด​ถูก​ใจ​ตัว​ผม​และ​จะ​เลี้ยง​เหล้า​ผม. ผม​รู้สึก​สะอิดสะเอียน​เป็น​ที่​สุด​เมื่อ​พบ​ว่า​คน​นี้​เป็น​ผู้​ชาย​ที่​แต่ง​ตัว​เป็น​ผู้​หญิง! ใช่​แล้ว ไนท์​คลับ​แห่ง​นั้น​ให้​บริการ​เฉพาะ​พวก​รัก​ร่วม​เพศ. เพื่อ​รักษา​ตาราง​เวลา​การ​เล่น​ที่​ไนท์​คลับ​แห่ง​นี้ คือ​ตั้ง​แต่​สาม​ทุ่ม​จน​ถึง​ตี​ห้า หก​คืน​ต่อ​สัปดาห์ เรา​จึง​ต้อง​พึ่ง​ยา​ที่​ทำ​ให้​ประสาท​หลอน.

หลัง​จาก​เล่น​กับ​วง​ดนตรี​ได้​ห้า​ปี มี​บาง​อย่าง​เกิด​ขึ้น​ซึ่ง​ทำ​ให้​ผม​เริ่ม​คิด​อย่าง​จริงจัง​เกี่ยว​กับ​ศาสนา. บาทหลวง​คาทอลิก​คน​หนึ่ง​เชิญ​วง​ของ​เรา​ไป​เล่น​ให้​กับ​องค์การ​เยาวชน​ใน​หอประชุม​โบสถ์​ของ​เขา. มี​วัยรุ่น​มาก​กว่า 500 คน​เข้า​ฟัง และ​บาทหลวง​คาทอลิก​ผู้​นั้น​เป็น​คน​เก็บ​เงิน. เรา​เล่น​ดนตรี​รุนแรง​เร้า​อารมณ์ และ​เด็ก​หลาย​คน​ตก​อยู่​ภาย​ใต้​ฤทธิ์​แอลกอฮอล์. แต่​กลับ​เป็น​เด็ก​อีก​กลุ่ม​หนึ่ง​ที่​จับ​ความ​สนใจ​ผม. พวก​เขา​กำลัง​นั่ง​เป็น​กลุ่ม​บน​พื้น​เต้นรำ​และ​ส่ง​ยา​เสพย์ติด​ผ่าน​ให้​กัน. ผม​เริ่ม​สงสัย​ว่า​พระเจ้า​มี​อยู่​จริง​ไหม.

พระเจ้า​มี​จริง​ไหม?

ใน​การ​แสวง​หา​ผม​ไป​พบ​พวก​เซเวนธ์-เดย์ แอดเวนตีสท์, เมโธดีสท์, คาทอลิก และ​คริสต์จักร​อื่น ๆ. แต่​ผม​รู้สึก​ว่า​พวก​เขา​ไม่​มี​อะไร​จะ​เสนอ​ให้ และ​ใน​ไม่​ช้า​ผม​ก็​หยุด​เข้า​ร่วม​กับ​พวก​เขา. ความ​รู้สึก​หมด​ศรัทธา​ของ​ผม​ได้​ถูก​ตอกย้ำ​โดย​สิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้น​คืน​วัน​อาทิตย์​ใน​ดิสโก้​แห่ง​หนึ่ง. แสง​ไฟ​สลัว​และ​ดนตรี​ดัง​กระหึ่ม ผม​เหลือบ​ไป​เห็น​พนักงาน​บาร์​เทนเดอร์ เป็น​บาทหลวง​ประจำ​ท้องถิ่น​คน​นั้น​นั่น​เอง. เขา​สวม​กางเกง​ยีนส์​และ​เสื้อ​กั๊ก​โดย​ไม่​ใส่​เสื้อ​เชิ้ต และ​ห้อย​คอ​ด้วย​ไม้​กางเขน​อัน​ใหญ่. เรา​ไม่​คิด​ว่า​เขา​มี​อะไร​ดี​ไป​กว่า​เรา จึง​เรียก​เขา​ว่า​บาทหลวง​ฮิปปี้.

ผม​เริ่ม​สนใจ​ใน​พุทธ​ศาสนา​และ​ซื้อ​พระ​พุทธ​รูป​เล็ก ๆ มา​ตั้ง​ไว้​ใน​ห้อง​นอน​ข้าง​เตียง. ทุก ๆ วัน​ผม​จะ​คุกเข่า​ลง​ต่อ​หน้า​รูป​นั้น​และ​กล่าว​ว่า “โอ พระ​พุทธเจ้า โปรด​ทรง​ช่วย​ข้าพเจ้า.” ผม​เชื่อ​ด้วย​ว่า​มนุษย์​มี​จิตวิญญาณ​ล่อง​ลอย​ได้ ซึ่ง​ติด​อยู่​กับ​ร่างกาย​ด้วย​สาย​เงิน​และ​โดย​วิธี​นี้​คน​เรา​สามารถ​ท่องเที่ยว​ไป​ที่​ใด​ก็​ได้​ทั่ว​เอกภพ​ตาม​ที่​เขา​ต้อง​การ.

ความ​เชื่อ​ผิด ๆ ใน​เรื่อง​จิตวิญญาณ​อมตะ​นี้​ส่ง​ผล​กระทบ​ต่อ​ดนตรี​ของ​ผม. (เปรียบ​เทียบ​ท่าน​ผู้​ประกาศ 9:​5, 10 และ​ยะเอศเคล 18:4.) ผม​เริ่ม​แต่ง​เพลง​ขณะ​ตก​อยู่​ภาย​ใต้​ฤทธิ์​ยา​เสพย์ติด. วง​ดนตรี​ได้​ฝึก​เล่น​เพลง​ที่​ผม​แต่ง​และ​เรา​มี​มือ​อาชีพ​ทำ​การ​บันทึก​เสียง. การ​บันทึก​เสียง​ใช้​เวลา​สอง​ชั่วโมง และ​แนว​เพลง​นั้น​เป็น​เรื่อง​เกี่ยว​กับ​ชีวิต​ของ​คน ๆ หนึ่ง​ซึ่ง​ท่องเที่ยว​ไป​ใน​โลก​วิญญาณ. มี​เพลง​หนึ่ง​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ซาตาน เพลง​นั้น​ส่งเสริม​ความ​คิด​แบบ​หมิ่น​ประมาท​ที่​ว่า​พญา​มาร​มี​อำนาจ​มาก​กว่า​พระเจ้า.

ความ​หลงใหล​ใน​เรื่อง​ลึกลับ​และ​ยา​ที่​ทำ​ให้​ประสาท​หลอน​ทรมาน​ผม​จริง ๆ. ผม​มัก​ตื่น​ขึ้น​กลาง​ดึก​และ​เห็น​ร่าง​ดำ​ทะมึน​เคลื่อน​ไหว​ไป​มา​รอบ​ห้อง. คืน​หนึ่ง​ผม​ตกใจ​มาก​จน​กระทั่ง​แขน​ขา​อ่อน​ปวกเปียก​ไป​หมด และ​ผม​แทบ​เคลื่อน​ไหว​ไม่​ได้​ขณะ​วัตถุ​อัน​น่า​กลัว​ตรง​เข้า​มา​หา. อีก​โอกาส​หนึ่ง ผม​นอน​อยู่​บน​เตียง ทันใด​นั้น​ก็​มี​วัตถุ​ประหลาด​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​ห้อง. ผม​เริ่ม​อยาก​ให้​ตัว​เอง​สามารถ​หลุด​พ้น​จาก​การ​ตก​เป็น​ทาส​นี้.

วัน​ซึ่ง​เปลี่ยน​ชีวิต​ของ​ผม

ใน​ช่วง​นี้ ชาร์ลส์​พี่​ชาย​กับ​ลอเรน​พี่​สะใภ้ ได้​เข้า​มา​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา. เช้า​วันเสาร์​ผม​มัก​ตื่น​ขึ้น​ใน​ลักษณะ​ที่​ยัง​เมา​ค้าง​อยู่​และ​พบ​กระดาษ​แผ่น​เล็ก ๆ วาง​ไว้​ข้าง​เตียง. ชาร์ลส์​เขียน​ข้อ​คัมภีร์​สอง​สาม​ข้อ​ลง​ใน​นั้น ซึ่ง​เกี่ยว​ข้อง​กับ​รูป​แบบ​ชีวิต​ที่​เอา​แต่​ใจ​ตัว​เอง​ของ​ผม.

ต่อ​มา​ใน​วัน​อาทิตย์​วัน​หนึ่ง ชาร์ลส์​และ​ลอเรน​เชิญ​ผม​ไป​กับ​เขา​เพื่อ​ชม​ละคร​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​แสดง​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา ณ การ​ประชุม​ภาค​ประจำ​ปี​ใน​ปรีตอเรีย. ด้วย​ความ​อยาก​ชม​ละคร​ผม​จึง​ตัดสินใจ​ไป. เป็น​ความ​ประหลาดใจ​ที่​น่า​ยินดี​อะไร​เช่น​นั้น​ที่​ได้​เห็น​ฝูง​ชน​สะอาด​สะอ้า​นก​ลุ่ม​ใหญ่! ผม​เพลิน​กับ​วัน​นั้น​ทั้ง​ที่​ร้อย​ละ 90 ของ​สิ่ง​ที่​ผม​ได้​ยิน​ผม​ไม่​เข้าใจ. เมื่อ​ชาร์ลส์​แนะนำ​ตัว​ผม​กับ​เพื่อน ๆ ของ​เขา ผม​รู้สึก​ประทับใจ​ใน​วิธี​อัน​อบอุ่น​ที่​พวก​เขา​ต้อนรับ​ผม​ทั้ง ๆ ที่​มี​ผม​ยาว​และ​แต่ง​ตัว​ไม่​เหมาะ​กับ​โอกาส. มี​การ​จัด​เตรียม​พยาน​ฯ คน​หนึ่ง​ให้​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​ผม.

สัปดาห์​ต่อ​มา แทน​ที่​จะ​ไป​ร่วม​ซ้อม​ดนตรี​กับ​วง ผม​กลับ​ไป​ร่วม​การ​ประชุม​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา ณ หอประชุม​ราชอาณาจักร​ของ​พวก​เขา. ตอน​ปลาย​สัปดาห์​นั้น​เอง ผม​ตัดสินใจ​ยุบ​วง​ดนตรี​และ​ขาย​เครื่อง​ดนตรี​ของ​ผม. หลัง​จาก​วง​แตก พวก​เรา​เห็น​พ้อง​ต้อง​กัน​ว่า​จะ​ให้​ผม​เป็น​ผู้​เก็บ​รักษา​เทป​ต้น​ฉบับ​ที่​ได้​บันทึก​ไว้​เพราะ​ผม​เป็น​ผู้​แต่ง​และ​เรียบเรียง​ดนตรี​ทุก​เพลง. ผม​ไม่​อาจ​ต้าน​ความ​เย้ายวน​ที่​จะ​เก็บ​รักษา​มัน​ไว้. ผม​เก็บ​กีต้าร์​โปร่ง​ไว้​ด้วย และ​ยัง​คง​เล่น​เพลง​ลี้ลับ​ซึ่ง​ผม​แต่ง​ขึ้น​ภาย​ใต้​ฤทธิ์​ยา​เสพย์ติด​อยู่​ต่อ​ไป.

ขณะ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​และ​การ​เข้า​ร่วม​ประชุม​คริสเตียน​ดำเนิน​ต่อ​ไป ความ​เข้าใจ​ของ​ผม​ใน​เรื่อง​ข้อ​เรียก​ร้อง​ของ​พระเจ้า​เพิ่ม​ขึ้น​ที​ละ​เล็ก​ที​ละ​น้อย. ใน​ไม่​ช้า​ผม​เริ่ม​ตระหนัก​ว่า​ที่​จะ​ทำ​ให้​พระเจ้า​พอ​พระทัย​นั้น ผม​ต้อง​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​คริสเตียน​และ​มี​ส่วน​ใน​การ​แพร่​กระจาย​ข่าว​ดี​ไป​ตาม​บ้าน​ฐานะ​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​คน​หนึ่ง. (กิจการ 5:42; โรม 10:10) ความ​คิด​จะ​ทำ​เช่น​นี้ ทำ​ให้​ผม​กลัว​จน​ตัว​สั่น. การ​พูด​ติด​อ่าง​ของ​ผม​แย่​มาก​จนกระทั่ง​ผม​กลาย​เป็น​คน​ไม่​กล้า​แสดง​ออก และ​มัก​จะ​พึ่ง​พา​ผู้​อื่น​ให้​พูด​แทน​ผม.

การ​พูด​ติด​อ่าง​ไม่​อาจ​หยุด​ยั้ง​ผม​ได้

เมื่อ​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม ผม​เคย​พูด​กับ​ตัว​เอง​ว่า ‘ขอ​เพียง​สามารถ​ออก​ความ​คิด​เห็น​ได้​เหมือน​กับ​คน​อื่น ๆ เถอะ​น่า.’ ใน​ที่​สุด​ผม​ก็​ทำ​ได้ แต่​ต้อง​ต่อสู้​อย่าง​หนัก​กว่า​สอง​สาม​คำ​นั้น​จะ​หลุด​ออก​มา​ได้! หลัง​เลิก​ประชุม หลาย​คน​มา​หา​ผม​และ​กล่าว​ชมเชย. พวก​เขา​ทำ​ให้​ผม​รู้สึก​เหมือน​นัก​ฟุตบอล​ที่​เพิ่ง​ยิง​ประตู​ได้. ผม​เริ่ม​รู้สึก​ถึง​ความ​รัก​แท้​อัน​เป็น​เอกลักษณ์​ของ​คริสเตียน​แท้.—โยฮัน 13:35.

ผม​มา​ถึง​สิ่ง​กีด​ขวาง​ขั้น​ต่อ​ไป​เมื่อ​เข้า​ร่วม​โรงเรียน​การ​รับใช้​ตาม​ระบอบ​การ​ของ​พระเจ้า​และ​ต้อง​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล​ต่อ​หน้า​ผู้​ฟัง​กลุ่ม​เล็ก ๆ. ผม​ติด​อ่าง​มาก​จนกระทั่ง​ไม่​สามารถ​จบ​ส่วน​มอบหมาย​นั้น​ได้​ภาย​ใน​เวลา​กำหนด. หลัง​การ​ประชุม ผู้​ดูแล​โรงเรียน​ให้​คำ​แนะนำ​ที่​ใช้​การ​ได้​กับ​ผม​อย่าง​กรุณา. เขา​แนะนำ​ให้​ผม​ฝึก​อ่าน​ออก​เสียง​ดัง​กับ​ตัว​เอง. ผม​ทำ​เช่น​นี้​โดย​ใช้​เวลา​วัน​แล้ว​วัน​เล่า​อ่าน​ออก​เสียง​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​วารสาร​หอสังเกตการณ์. ความ​มั่นใจ​ที่​ผม​ได้​รับ​จาก​โรงเรียน​การ​รับใช้​ตาม​ระบอบ​การ​ของ​พระเจ้า​ช่วย​ผม​เผชิญ​หน้า​กับ​การ​ท้าทาย​ใน​การ​เยี่ยม​คน​แปลก​หน้า​เมื่อ​ทำ​การ​รับใช้​ตาม​บ้าน. ใน​เดือน​ตุลาคม 1973 ผม​รับ​บัพติสมา อัน​เป็น​สัญลักษณ์​แห่ง​การ​อุทิศ​ตัว​แด่​พระ​ยะโฮวา​เจ้า.

เป็น​อิสระ​จาก​วิถี​ชีวิต​แบบ​เก่า

อย่างไร​ก็​ตาม ผม​ยัง​คง​เป็น​คริสเตียน​ที่​ใหม่​และ​อ่อน​อาวุโส. ตัว​อย่าง​เช่น หลัง​จาก​ออก​ประกาศ​ตาม​บ้าน​ใน​วัน​อาทิตย์​อัน​หนาว​เย็น​วัน​หนึ่ง ผม​จะ​เข้า​ไป​ใน​รถ​และ​ปิด​กระจก. ขณะ​กำลัง​เพลิดเพลิน​กับ​แสง​แดด​อัน​อบอุ่น​จาก​ดวง​อาทิตย์ ผม​จะ​เปิด​ฟัง​เทป​เพลง​ที่​อัด​จาก​ต้น​ฉบับ​ของ​ผม. ใน​เวลา​เดียว​กัน ผม​เริ่ม​ชอบ​พอ​หญิง​สาว​นิสัย​ดี​คน​หนึ่ง​ชื่อ เด็บบี้ ซึ่ง​ทำ​งาน​เผย​แพร่​เต็ม​เวลา. ครั้ง​หนึ่ง​ขณะ​ที่​ผม​กำลัง​ฟัง​เทป​นั้น​อยู่ เด็บบี้​เดิน​เข้า​มา​ใกล้​รถ ผม​รีบ​ปิด​เทป​ทันที. ลึก ๆ ใน​ใจ​แล้ว​ผม​ตระหนัก​ดี​ว่า​เพลง​เช่น​นั้น​ไม่​เหมาะ​กับ​คริสเตียน.

ไม่​นาน​หลัง​จาก​ที่​เด็บบี้​กับ​ผม​แต่งงาน​กัน เรา​เริ่ม​มี​ปัญหา. ผม​ตื่น​ขึ้น​กลาง​ดึก​บ่อย ๆ มี​เหงื่อ​เปียก​โชก​และ​ตัว​สั่น. ผม​ฝัน​ร้าย​อย่าง​น่า​กลัว​เรื่อง​การ​ลุย​แม่น้ำ​เลือด​ขณะ​ที่​มี​พวก​ปีศาจ​วิ่ง​ไล่​ตาม. ภรรยา​ผู้​น่า​สงสาร​ของ​ผม​ต้อง​ทน​กับ​ความ​ยุ่งยาก​นาน​หลาย​เดือน​เนื่อง​ด้วย​การ​จู่โจม​จาก​พวก​ปีศาจ. แม้​ว่า​เด็บบี้​ไม่​รู้​เต็ม​ที่​ถึง​เนื้อ​หา​ของ​เพลง​ที่​ผม​ฟัง เธอ​ก็​สงสัย​ว่า​เทป​เพลง​ต้อง​มี​อิทธิพล​ชั่ว​ร้าย​ต่อ​ผม แล้ว​เธอ​ก็​พูด​ออก​มา​ตาม​ที่​เธอ​สงสัย​นั้น. แต่​ผม​ยืนกราน​อย่าง​ดื้อรั้น​ว่า “ผม​จะ​เก็บ​เทป​นี้​ไว้​ตลอด​ไป​ด้วย​เหตุ​ผล​ทาง​อารมณ์.”

เรา​เถียง​กัน​ด้วย​เรื่อง​อื่น ๆ มาก​มาย และ​มัก​จะ​จบ​ลง​โดย​ที่​ผม​ตะเบ็ง​เสียง​ใส่​เธอ. เนื่อง​จาก​เรา​ทะเลาะ​กัน​มาก​เด็บบี้​จึง​ทำ​สิ่ง​ที่​ฉลาด​โดย​เข้า​พบ​ผู้​ปกครอง​ประจำ​ประชาคม​เพื่อ​ขอ​ความ​ช่วย​เหลือ. ผู้​ปกครอง​จะ​มา​เยี่ยม​และ​พยายาม​ช่วย​เรา​เป็น​ครั้ง​คราว แต่​เมื่อ​ผู้​ปกครอง​กลับ​ไป​ผม​ก็​เกิด​โมโห​กับ​เด็บบี้​อีก. จองหอง​เกิน​ไป​ที่​จะ​ยอม​รับ​ว่า​เรา​ต้องการ​ความ​ช่วย​เหลือ ผม​จึง​บอก​ว่า “คุณ​มี​สิทธิ์​อะไร​ไป​พบ​ผู้​ปกครอง​และ​พูด​กับ​เขา. นั่น​เป็น​ความ​รับผิดชอบ​ของ​ผม. ผม​เป็น​ประมุข​ของ​บ้าน.” ใช่​แล้ว ผม​มี​ทัศนะ​ที่​ไม่​สมดุล​ใน​เรื่อง​ตำแหน่ง​ประมุข. แล้ว​ผม​ก็​โกรธ​และ​ไม่​พูด​จา​กับ​เธอ​เป็น​เวลา​หลาย​วัน. เดี๋ยว​นี้​ผม​ตระหนัก​แล้ว​ว่า​ทุก​สิ่ง​ที่​เธอ​พยายาม​ทำ​ก็​เพื่อ​ช่วย​สามี​และ​สาย​สมรส​ของ​เธอ​ให้​พ้น​จาก​อันตราย.

แล้ว​ใน​คืน​วัน​หนึ่ง​เด็บบี้​ได้​พูด​กับ​ผู้​ปกครอง​คน​หนึ่ง​เกี่ยว​กับ​การ​เล่น​กีตาร์​และ​ชนิด​ของ​ดนตรี​ที่​ผม​ฟัง. ดัง​นั้น ผู้​ปกครอง​มา​ที่​บ้าน​และ​สนทนา​กับ​ผม​เป็น​เวลา​นาน. ผม​จำ​ได้ เขา​ถาม​ขึ้น​มา​ว่า “มี​อะไร​บาง​อย่าง​ใน​บ้าน​ของ​คุณ​ไหม​ที่​อาจ​เป็น​สาเหตุ​แห่ง​ปัญหา​เหล่า​นี้?” ใน​ที่​สุด​ผม​ยอม​เปิด​อก​และ​เล่า​ให้​เขา​ฟัง​เรื่อง​เทป​นั้น ยอม​รับ​ว่า​เทป​เพลง​นี้​รบกวน​สติ​รู้สึก​ผิดชอบ​ของ​ผม.—1 ติโมเธียว 1:​5, 19.

คืน​นั้น​เลย หลัง​จาก​ผู้​ปกครอง​กลับ ผม​ตัดสินใจ​กำจัด​เทป​นั้น. เด็บบี้​กับ​ผม​นำ​มัน​ไป​ยัง​สนาม​หลัง​บ้าน​และ​พยายาม​เผา​มัน แต่​เทป​ไม่​ติด​ไฟ. เรา​จึง​ขุด​หลุม​และ​ฝัง. ผม​ขาย​กีตาร์​ด้วย. ผม​รำพึง​กับ​ตน​เอง ‘ถ้า​ผม​ต้องการ​เป็น​อิสระ​จาก​ดนตรี​เสื่อมทราม​นี้ ผม​ต้อง​ทำ​อย่าง​ครบ​ถ้วน’ และ​น่า​ประหลาดใจ ผม​หยุด​ฝัน​ร้าย. ตั้ง​แต่​นั้น​มา​สิ่ง​ต่าง ๆ ใน​ชีวิต​สมรส​ของ​เรา​เริ่ม​ดี​ขึ้น​เรื่อย ๆ.

การ​ท้าทาย​เรื่อง​การ​พูด​ต่อ​หน้า​สาธารณะ

ถึง​แม้​ว่า โรงเรียน​การ​รับใช้​ตาม​ระบอบ​การ​ของ​พระเจ้า​จะทำ​ให้​ผม​มั่นใจ​มาก​ขึ้น แต่​ผม​ยัง​คง​ติด​อ่าง​ขนาด​หนัก. ผม​อยาก​จะ​ให้​คำ​บรรยาย​ใน​ประชาคม​ได้​โดย​ไม่​ติด​อ่าง. เด็บบี้​แนะนำ​ผม​อย่าง​กรุณา​ให้​ไป​พบ​ผู้​เชี่ยวชาญ​ใน​การ​บำบัด​ด้าน​การ​พูด. ผม​เห็น​ด้วย และ​ได้​รับ​ความ​ช่วย​เหลือ​จาก​ผู้​เชี่ยวชาญ​อาชีพ​สัปดาห์​ละ​ครั้ง​ตลอด​สี่​เดือน. ด้วย​การ​ประยุกต์​การ​บำบัด​เข้า​กับ​คำ​แนะนำ​ที่​ดี​จาก​องค์การ​ของ​พระ​ยะโฮวา ผม​จึง​สามารถ​ทำ​ความ​ก้าวหน้า​ใน​การ​พูด​ต่อ​หน้า​สาธารณะ.

ใน​ปี 1976 ผม​ได้​รับ​สิทธิพิเศษ​ถูก​แต่ง​ตั้ง​เป็น​ผู้​ปกครอง​ใน​ประชาคม​ของ​เรา. สอง​เดือน​ถัด​มา​ผม​ได้​บรรยาย​สาธารณะ 45 นาที​เป็น​ครั้ง​แรก. สอง​สาม​ปี​ต่อ​มา ผม​ได้​รับ​สิทธิพิเศษ​ให้​บรรยาย​ครั้ง​แรก​ใน​ระเบียบ​วาระ​การ​ประชุม​หมวด. ครั้น​ถึง​เวลา​อัน​ควร ผม​ก็​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​คำ​บรรยาย​ใน​การ​ประชุม​หมวด​แทบ​ทุก​ครั้ง. ถัด​จาก​นั้น ใน​เดือน​ธันวาคม 1990 ผม​มา​ถึง​จุด​สูง​สุด​ใน​ประสบการณ์​ของ​ผม​ฐานะ​เป็น​ผู้​บรรยาย​สาธารณะ. ผม​ได้​รับ​สิทธิพิเศษ​ให้​บรรยาย 20 นาที เรื่อง​ชีวิต​ครอบครัว​คริสเตียน ต่อ​หน้า​ผู้​ฟัง​มาก​กว่า​สี่​พัน​คน ณ ภาค​ภาษา​อังกฤษ​ของ​การ​ประชุม​ภาค “ภาษา​บริสุทธิ์” แห่ง​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​โยฮันเนสเบิร์ก.

ผม​ต้อง​ออก​ความ​พยายาม​อย่าง​ต่อ​เนื่อง​ใน​เรื่อง​ปัญหา​การ​ติด​อ่าง. ถ้า​ผม​ไม่​ทำ มัน​จะ​หวน​กลับ​มา​อีก และ​ถ้า​ผม​เกิด​ติด​อ่าง​อีก เป็น​การ​ยาก​ยิ่ง​ที่​จะ​หลุด​ออก​มา​ได้. แม้​กระทั่ง​เดี๋ยว​นี้​ผม​ยัง​คง​มี​ปัญหา​เป็น​ครั้ง​เป็น​คราว แต่​ความ​ไว้​วาง​ใจ​ใน​พระ​ยะโฮวา​ช่วย​ผม​ได้​จริง ๆ. เมื่อ​ใด​ก็​ตาม​ที่​ผม​เดิน​ไป​ยัง​เวที​เพื่อ​ให้​คำ​บรรยาย ผม​จะ​อธิษฐาน​ถึง​พระ​ยะโฮวา​เพื่อ​ช่วย​ผม​ให้​มี​ความ​สงบ​และ​เสนอ​เรื่อง​ได้​อย่าง​ดี. แต่​ผม​อยาก​จะ​บอก​ว่า ผม​ไม่​เคย​ลืม​ขอบพระคุณ​พระ​ยะโฮวา​หลัง​บรรยาย​จบ เพราะ​ที่​สามารถ​ทำ​เช่น​นั้น​ได้​ก็​ด้วย​ความ​ช่วย​เหลือ​ของ​พระองค์.

เด็บบี้​และ​ผม​ได้​พระ​พร​อีก​อย่าง​หนึ่ง​คือ​ลูก​สอง​คน เพนเดรย์ อายุ 15 ปี และ​ไคล​อายุ 11 ปี. ฐานะ​เป็น​ครอบครัว เรา​ประสบ​ความ​ชื่นชม​ยินดี​อย่าง​ใหญ่หลวง​ใน​การ​ออก​ไป​รับใช้​ตาม​บ้าน​เรือน. ความ​กระตือรือร้น​ที่​เพนเดรย์​และ​ไคล​แสดง​ออก​มา​ใน​งาน​นี้​เป็น​การ​หนุน​ใจ​อย่าง​แท้​จริง​ทั้ง​ต่อ​เด็บบี้​และ​ผม.

เมื่อ​ผม​มอง​ย้อน​กลับ​ไป​ดู​ชีวิต ผม​รู้สึก​ทั้ง​สุข​ใจ​และ​เศร้าใจ. เศร้าใจ​ที่​ดนตรี​ของ​ผม​มี​อิทธิพล​ชั่ว​ร้าย​ต่อ​ผู้​อื่น​แต่​สุขใจที่​ผม​พบ​ความ​จริง เลิก​เล่น​ดนตรี​ต่ำทราม​และ​ประสบ​ผล​สำเร็จ​ใน​การ​เอา​ชนะ​อุปสรรค​เรื่อง​การ​ติด​อ่าง. ผม​คิด​ถึง​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ต่อ​เหล่า​สาวก​อยู่​บ่อย​ครั้ง​ที่​ว่า “เจ้า​ทั้ง​หลาย​จะ​รู้จัก​ความ​จริง และ​ความ​จริง​นั้น​จะ​ทำ​ให้​เจ้า​เป็น​อิสระ.” (โยฮัน 8:​32, ล.ม.) โดย​ทาง​พระ​กรุณา​คุณ​อัน​ไม่​พึง​ได้​รับ​ของ​พระ​ยะโฮวา สิ่ง​นี้​เป็น​ประสบการณ์​แสน​สุข​ใจ​ของ​ผม​ด้วย.—เล่า​โดย วิลเลี่ยม จอร์ดาน.

[รูปภาพ​หน้า 24]

เด็บ​บี้​และ​วิลเลี่ยม จอ​ร์ดาน​ใน​ปัจจุบัน

ผม​ต้อง​ออก​ความ​พยายาม​ขนาด​หนัก​อย่าง​ต่อ​เนื่อง​ใน​เรื่อง​ปัญหา​การ​ติด​อ่าง​ของ​ผม

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์