หนุ่มสาวถามว่า . . .
ฉันจะเลิกดื่มสุราได้อย่างไร?
“วันต่อมาผมจะรู้สึกเสมอ ๆ ว่าแย่มากทั้งทางด้านอารมณ์และฝ่ายวิญญาณ!”—บ๊อบ.
“ผมประสบกับความยุ่งยากอยู่เสมอ ๆ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน, โรงเรียน, กับเพื่อน ๆ และกับตำรวจ!”—เจโรม.
ทั้งบ๊อบและเจโรมต้องจ่ายด้วยราคาแพงเนื่องจากเขาทั้งสองดื่มมากและบ่อยเกินไป. ทั้งสองกลายเป็นคนติดสุรา. และในขณะที่บ๊อบสามารถเลิกดื่มได้อย่างเด็ดขาด เจโรมยังคงพยายามเอาชนะโรคพิษสุราเรื้อรัง.
ในหลายส่วนของโลก ปัญหาการติดสุราท่ามกลางเยาวชนกำลังแพร่ขยาย. มีการกะกันว่าเฉพาะในสหรัฐแห่งเดียวมีเยาวชนประมาณห้าล้านคนที่มีปัญหาอย่างร้ายแรงในการดื่ม. อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นเยาวชนคริสเตียนคนหนึ่ง โดยไม่สงสัยคุณคงหลีกเลี่ยงการทดลองดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ากฎหมายท้องถิ่นห้ามเยาวชนไม่ให้ดื่ม. ถึงกระนั้นก็ดี เรื่องราวต่อไปนี้สามารถเสริมกำลังให้กับความตั้งใจแน่วแน่ของคุณที่จะไม่เริ่มต้นแตะต้องสุรา—หรืออย่างน้อยจนกว่าคุณจะโตพอและมีความพร้อมที่จะควบคุมตัวเอง. แต่หากคุณ เป็น คนหนึ่งที่ติดสุราอยู่ เราหวังว่าเรื่องนี้จะช่วยคุณต่อสู้กับปัญหานั้น. ด้วยความบากบั่นในส่วนของคุณและด้วยความช่วยเหลือจากพระยะโฮวาพระเจ้า เป็นไปได้ที่คุณจะหายขาด.
เอาชนะการปฏิเสธไม่ยอมรับ
ก้าวแรกและยากที่สุดซึ่งคุณจำต้องเอาชนะก็คือการปฏิเสธไม่ยอมรับ. แบบฉบับของคนเหล่านั้นที่ติดสุรามักจะไม่ยอมเชื่อว่าพวกเขามีปัญหาใด ๆ เกี่ยวกับการดื่ม. ‘ฉันจัดการได้’ เป็นคำอวดอ้างอันน่าเวทนาของคนติดสุรา. เพื่อเป็นตัวอย่าง ขอให้พิจารณาดูคำพูดของเด็กหนุ่มอายุ 15 ปีที่กล่าวว่า “ผมไม่ใช่นักดื่มที่มีปัญหา. ผมแค่ดื่มเบียร์หกกระป๋องต่อเย็นวันหนึ่ง.” ทำให้เราระลึกถึงชายคนนั้นที่มีพรรณนาไว้ในคัมภีร์ไบเบิลผู้ซึ่ง “อวดยกย่องในแววตาของตนเองว่า การชั่วของเขาจะไม่ปรากฏขึ้น และไม่เป็นที่เกลียดชัง.”—เพลงสรรเสริญ 36:2.
ถูกแล้ว การไม่ยอมรับร้ายแรงปางตาย. ดังนั้น หากคุณมีปัญหาการดื่ม คุณต้องยอมรับกับตัวเองถึงความจริงอันเจ็บปวดข้อนี้.a อย่าเมินเฉยเมื่อเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ หรือพ่อแม่บอกคุณว่าคุณกำลังดื่มมากเกินไป. พวกเขาไม่ได้เป็นศัตรูของคุณเพราะพวกเขาพูดความจริงกับคุณ. (เทียบฆะลาเตีย 4:16.) บ๊อบ (ที่กล่าวถึงตอนต้น) เคยดื่มจัดทุกสุดสัปดาห์. เมื่อเพื่อนคนหนึ่งนำเรื่องนี้ขึ้นมาคุยกับเขา บ๊อบปฏิเสธไม่ยอมรับรู้ใด ๆ ทั้งสิ้นว่าเขามีปัญหาการดื่ม และเขาได้ยุติการสนทนาครั้งนั้น. แต่สุรามีผลเป็นเช่นไรต่อชีวิตของบ๊อบ? “ผมประสาทเสียและกระสับกระส่ายเมื่อไม่ดื่มและควบคุมตัวไม่ได้เมื่อดื่ม” เป็นคำสารภาพของบ๊อบ. “ชีวิตครอบครัวของผมแตกร้าว—สัมพันธภาพของผมกับพระเจ้าก็เช่นกัน.”
ในอีกโอกาสหนึ่ง บ๊อบเปิดเผยความรู้สึกออกมาอย่างสิ้นท่าในที่สุด และยอมรับกับเพื่อนว่าแท้ที่จริงเขาต้องการสุราอย่างยิ่ง. เมื่อทลายกำแพงแห่งการปฏิเสธลงได้บ๊อบจึงสามารถเริ่มต้นขั้นตอนสู่การหายเป็นปกติ.
จงพัฒนาความตั้งใจแน่วแน่ที่จะเลิก
ศาสตราจารย์ จอร์ช วาย็อนต์ เขียนว่า “โรคพิษสุราเรื้อรัง . . . รักษาให้หายได้ในอัตราค่อนข้างสูง แต่ . . .เรียกร้องความรับผิดชอบอย่างมากจากผู้ป่วย.” นั่นหมายรวมถึงการที่คุณ ตั้งใจแน่วแน่ ว่าจะเลิกดื่มแอลกอฮอล์. หากขาดความเด็ดเดี่ยวอาจหมายถึงการดำรงชีวิต—และตาย—เยี่ยงคนติดสุรา. อะไรอาจช่วยได้? การเพ่งเล็งอยู่ที่ความหายนะของโรคพิษสุราเรื้อรังจะช่วยคุณให้ “เกลียดการชั่ว” และสามารถชูกำลังความตั้งใจอันเด็ดเดี่ยวของคุณที่จะเลิกดื่มในครั้งเดียวและตลอดไป.—บทเพลงสรรเสริญ 97:10.
ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจใคร่ครวญอย่างถี่ถ้วนถึงผลอันร้ายแรงที่การติดสุรามีต่อร่างกาย, อารมณ์, และศีลธรรม. จริงอยู่ การดื่มอาจบรรเทาความเจ็บปวดที่อยู่ภายในหรือความรู้สึกที่ว่าตัวไร้ค่าอยู่ชั่วขณะหนึ่ง. แต่ในที่สุด การพึ่งแอลกอฮอล์มีแต่จะก่อปัญหามากขึ้น; มิตรภาพแตกสลาย และความสัมพันธ์ในครอบครัวตึงเครียด. นอกจากนั้น เนื่องจากแอลกอฮอล์ลดการหักห้ามใจลง มันจึงสามารถ “ปลิดเอาสติไป” อย่างง่ายดายและพาคุณเข้าสู่การประพฤติผิดอันร้ายแรง.—โฮเซอา 4:11.
อนึ่ง ขอให้พิจารณาถึงผลกระทบต่อร่างกายของคุณจากการดื่มแอลกอฮอล์ครั้งละมาก ๆ, อวัยวะสำคัญ ๆ ได้รับพิษร้ายทีละเล็กทีละน้อย. สมดังที่คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่าการดื่มมากเกินไปมีแต่จะนำไปสู่ความ ‘ระทมทุกข์, เสียใจ, ทะเลาะวิวาท, กระวนกระวายใจ และแผลฟกช้ำ.’ (สุภาษิต 23:29–30, เดอะ นิว อิงลิช ไบเบิล) ความเพลิดเพลินชั่วแล่นใด ๆ ที่คุณได้รับคุ้มกับการที่จะต้องจ่ายด้วยราคาขนาดนี้หรือ?
อาจช่วยได้เช่นกันหากคุณเตือนตัวเองว่าคุณไม่จำเป็นต้องอาศัยสุราเพื่อจะมีความสุข. หรือคุณไม่จำเป็นต้องพึ่งความเคลิบเคลิ้มแบบเทียม ๆ เพื่อจะมีความนับถือตัวเอง, สุขภาพที่ดี, เพื่อนฝูงที่ภักดี, และครอบครัวที่แสดงความรัก. การประสบผลสำเร็จในด้านต่าง ๆ เหล่านี้ของชีวิตเป็นไปได้โดยการปฏิบัติตามพระคำของพระเจ้า. (บทเพลงสรรเสริญ 1:1–3) พระคำนี้ยังให้ความหวังสำหรับอนาคตที่สดใสกว่า—ชีวิตนิรันดร์ปราศจากความเจ็บปวดไม่ว่าทางอารมณ์หรือร่างกาย! (วิวรณ์ 21:3, 4) การมีความหวังดังกล่าวนี้เป็นเหตุผลอีกประการหนึ่งสำหรับคุณที่จะละเว้นจากสุรา.—เทียบ 1 โกรินโธ 6:9, 10.
จงขอความช่วยเหลือ
อย่างไรก็ตาม แค่ความปรารถนาอยากหายจากโรคติดสุรานั้นปกติแล้วยังไม่พอ. คุณต้องได้รับการหนุนหลังและความช่วยเหลือจากคนอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน. “สองคนก็ดีกว่าคนเดียว” เป็นคำตรัสของกษัตริย์ซะโลโม. “ด้วยว่าถ้าคนหนึ่งล้มลง อีกคนหนึ่งจะได้พยุงยกเพื่อนของตนให้ลุกขึ้น.” (ท่านผู้ประกาศ 4:9, 10) การมอบความไว้วางใจให้ใครสักคนช่วยแก้ปัญหาของคุณคงไม่ง่าย. แต่ แคที ผู้ติดสุราซึ่งกำลังจะหายแนะนำว่า: “จงหัดเชื่อใจคนอื่น ๆ โดยเฉพาะครอบครัวของคุณเอง.” ถูกแล้ว ในกรณีส่วนใหญ่ ครอบครัวของคุณอยู่ในฐานะดีที่สุดที่จะให้ความรักและการหนุนหลังที่คุณต้องการ.
จริงอยู่ สภาพการณ์ในครอบครัวคุณเองอาจเคยผลักดันให้คุณเริ่มดื่มตั้งแต่แรก. แต่หากพ่อแม่ของคุณได้รับทราบสภาพของคุณ เป็นไปได้ที่ท่านจะแลเห็นความจำเป็นที่จะปรับปรุงสถานการณ์ในบ้านให้ดีขึ้นมิใช่หรือ? ดังนั้น ทำไมคุณไม่เข้าหาพ่อแม่ของคุณ และแจ้งให้ท่านทราบว่าคุณกำลังประสบปัญหาร้ายแรง? แทนที่คุณจะโยนความผิดทั้งหมดให้ท่าน จงขอความช่วยเหลือและการเกื้อหนุนจากท่าน. การเป็นคนเปิดเผยและซื่อตรงกับพ่อแม่จะช่วยให้ครอบครัวของคุณ “ติดต่อสนิทและผูกพันกัน” ดังที่เป็นในครอบครัวของพระเจ้า. (เอเฟโซ 4:16) โดยวิธีนี้คุณทุกคนสามารถช่วยกันเพื่อการหายโรคอย่างประสบผล.
หากไม่มีการเกื้อหนุนจากครอบครัว คนอื่น ๆ ก็อาจช่วยคุณได้.b (สุภาษิต 17:17) ผู้ปกครองคริสเตียนคนหนึ่งได้คุยเป็นเพื่อนกับบ๊อบ แล้วพบกับเขาทุกสัปดาห์เป็นระยะเวลาติดต่อกันหลายเดือนเพื่อคอยดูความก้าวหน้าของเขา. บ๊อบกล่าวว่า “ความสนใจและการเอาใจใส่ของเขาทำให้ผมนับถือตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมจำต้องมีเพื่อจะเลิกนิสัยทำร้ายตัวเอง.”—ยาโกโบ 5:13, 14.
ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด จงตระหนักว่าคุณต้องได้รับความช่วยเหลือจากพระเจ้ายะโฮวา. จงหมายพึ่งพระองค์เพื่อการชูกำลัง. ถูกแล้ว ด้วยความช่วยเหลือจากพระเจ้า คนเหล่านั้นที่มี “ใจที่แตกช้ำ” สามารถประสบ ‘การรักษาและสมานแผลที่เจ็บปวด’ จากพระยะโฮวา.—บทเพลงสรรเสริญ 147:3; ดูบทเพลงสรรเสริญ 145:14 ด้วย.
หาเพื่อนใหม่
การสำรวจในนิวซีแลนด์ครั้งหนึ่งรายงานว่าเพื่อน ๆ มีอิทธิพลอย่างใหญ่หลวงต่อเยาวชนซึ่งใช้สุราในทางที่ผิด. ฉะนั้น คุณจึงรู้สึกว่าเป็นการยากที่จะเลิกดื่มเมื่อคุณสมาคมคบหากับพวกนักดื่ม. ด้วยเหตุนี้คัมภีร์ไบเบิลจึงแนะว่า “อย่ามั่วสุมกับนักเสพเหล้าองุ่น.” (สุภาษิต 23:20) พัฒนามิตรภาพใหม่กับเพื่อนที่ดีงาม. เป็นความจริงฉันใดที่ว่า “การคบหาสมาคมที่ไม่ดีย่อมทำให้นิสัยดีเสียไป” เพื่อน ๆ ที่ดีก็มีผลกระทบในทางบวกต่อเราฉันนั้น.—1 โกรินโธ 15:33, ล.ม.
คิมพบว่านี่เป็นเรื่องจริง. เธอยอมรับว่า “รู้สึกอึดอัดใจ แต่ดิฉันต้องเปลี่ยนเพื่อน . . . ดิฉัน ไม่ต้องการ ถูกห้อมล้อมไปด้วยแอลกอฮอล์หรือยาเสพย์ติด.” ต้องยอมรับว่า เพื่อน ๆ ที่ไม่ดื่มอาจดูเหมือนหาได้ยาก. อย่างไรก็ดี คุณจะพบว่าเยาวชนที่เป็นแบบอย่างอันดีท่ามกลางพยานพระยะโฮวาไม่เข้าส่วนในการดื่มแบบผิด ๆ. อีกทั้งพวกเขาก็ไม่ได้อาศัยแอลกอฮอล์เป็นแหล่งแห่งความเพลิดเพลินหรือวิธีหลีกหนีปัญหา. ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงสามารถเสริม—ไม่ใช่ถ่วง—ความพยายามต่าง ๆ ของคุณในอันที่จะ “ถอดทิ้งบุคลิกลักษณะเก่ากับกิจปฏิบัติต่าง ๆ ของมัน.”—โกโลซาย 3:9.
คุณหายเป็นปกติได้!
การดำรงชีวิตโดยปราศจากแอลกอฮอล์จะเป็นการสู้อย่างต่อเนื่องสำหรับคุณ. ในบางครั้งการงดสุราอาจเป็นเรื่องที่ยากมาก. “ดิฉันยังมีความต้องการที่จะดื่มอย่างมาก” แอนนาสารภาพ “โดยเฉพาะเมื่อดิฉันจิตใจว้าวุ่น คับข้องใจ, ซึมเศร้าหรือเจ็บใจ.” จึงไม่เป็นเรื่องแปลกที่ผู้ติดสุราซึ่งกำลังหายปกติจะหวนกลับไปดื่มอีก ยังผลให้เขารู้สึกท้อแท้อย่างล้นเหลือเนื่องจากรู้สึกผิด. หากสิ่งนี้เกิดขึ้นจงจำไว้ว่า “เราทุกคนต่างก็พลาดพลั้งกันหลายครั้ง.” (ยาโกโบ 3:2, ล.ม.) จงระลึกว่าพระยะโฮวาเป็นพระเจ้าแห่งความเมตตาผู้ทรงเข้าใจข้ออ่อนแอต่าง ๆ ของคุณ.—บทเพลงสรรเสริญ 103:14.
อย่างไรก็ตาม จงระวังอย่าใช้พระกรุณาคุณของพระเจ้าอย่างผิดวัตถุประสงค์. จงเรียนจากข้อผิดพลาดของคุณ และตั้งใจแน่วแน่กว่าแต่ก่อนว่าจะไม่หวนกลับ. การแสดงออกซึ่งความตั้งใจแน่วแน่นี้เองที่ได้ช่วยให้บ๊อบเลิกดื่ม. ตั้งแต่นั้นมา เขาจึงมีโอกาสชื่นชมกับสัมพันธภาพอันสงบสุขกับครอบครัวและกับพระเจ้า. บัดนี้ชีวิตที่เป็นสุขของเขารวมถึงการเป็นผู้เผยแพร่ศาสนาเต็มเวลา. ความสุขและความสงบในจิตใจจะเป็นของคุณได้ด้วยเช่นกันหากคุณเอาชนะการต่อสู้กับแอลกอฮอล์.
[เชิงอรรถ]
a บทความ “หนุ่มสาวถามว่า . . . การดื่มสุราจะทำให้ฉันติดจริง ๆ หรือ?” (ในตื่นเถิด ฉบับ 8 มกราคม 1993) สามารถช่วยคุณวินิจฉัยได้ว่าคุณมีปัญหาในด้านนี้หรือไม่.
b หลายคนได้รับประโยชน์จากความช่วยเหลือของพวกแพทย์และบุคลากรที่ได้ผ่านการอบรมเป็นพิเศษเพื่อจะให้คำแนะนำในเรื่องการติดแอลกอฮอล์. ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่า การดำเนินงานแง่อื่น ๆ ในการรักษาให้หายปกติไม่อาจประสบผลจนกว่ามีการหยุดพฤติกรรมติดสุราเสียก่อน. เนื่องด้วยเหตุผลข้อนี้และข้ออื่น ๆ บางคนจึงแนะว่าผู้ติดแอลกอฮอล์ควรเข้าสู่โปรแกรมถอนพิษสุราในโรงพยาบาลหรือคลินิก.
[รูปภาพหน้า 27]
ผู้เยาว์ที่ติดสุรามักไม่ยอมรับว่าพวกเขามีปัญหา