อาหารของคุณมีคุณค่าทางโภชนาการเพียงใด?
โดยผู้สื่อข่าว ตื่นเถิด! ในบราซิล
คุณเลือกอาหารของคุณอย่างไร? เมื่อคุณซื้ออาหาร ปัจจัยอะไรบ้างชักจูงคุณ? เป็นการบรรจุ อย่างประณีตสวยงามอย่างนั้นไหม? หรือว่าราคา? ความสะดวกในการปรุง? คำโฆษณาที่อวดอ้างจูงใจ? หรือว่าเพียงลักษณะและรสชาติของอาหารเท่านั้น? การเลือกอย่างถูกต้องอาจบ่งชี้ว่า คุณรับประทานอาหารมีคุณค่าหรือด้อยคุณค่า สุขภาพของคุณจะดีขึ้นหรือแย่ลง.
ความยากจนคือสาเหตุใหญ่ของทุโภชนาการ. ขณะที่หลายคนถือว่าอาหารเป็นเรื่องธรรมดา คนอื่นอีกหลายล้านแทบไม่มีอาหารที่มีคุณค่า. ช่างก่ออิฐชาวบราซิลคนหนึ่งซึ่งเป็นบิดาของเด็กหกคนบอกว่า “ที่บ้าน เรากินอะไรก็ตามที่เราหาได้.” ตามปกติแล้ว นั่นก็คือขนมปังเก่า ๆ กับกาแฟจืด ๆ หรือไม่ก็ข้าวกับถั่วแขก. ที่จริง ตามรายงานข่าวหนึ่งโดยองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ร้อยละ 20 ของประชากรโลกทนทุกข์เนื่องจากความหิวโหย. ขณะที่การขาดแคลนอาหารแพร่ระบาดในบางประเทศของแอฟริกา จำนวนผู้คนที่หิวโหยในเอเชียมีมากกว่า. แม้แต่ในสหรัฐ มีรายงานว่าร้อยละ 12 ของประชากร หรือ 30 ล้านคน ไม่มีอาหารพอกิน.
อาหารด้อยคุณค่าไม่เพียงก่อผลเสียเท่านั้นแต่ทำให้ถึงตายได้. นักสำรวจชื่อวิลเลียม ชานดเลอร์ ให้ข้อสังเกตว่า “ทุโภชนาการที่เกิดจากนิสัยการให้อาหารด้อยคุณค่าแก่เด็กทำลายชีวิตคนมากกว่าการขาดแคลนอาหารจริง ๆ ถึง 10 เท่า. ควบคู่ไปกับภาวะร่างกายสูญเสียน้ำเนื่องจากท้องร่วง ทุโภชนาการเป็นเพชฌฆาตชั้นแนวหน้าในโลก.” ยูนิเซฟ (กองทุนสงเคราะห์เด็กแห่งสหประชาชาติ) รายงานว่า “ไม่เคยมีโรคระบาด, อุทกภัย, แผ่นดินไหวหรือสงครามใด ๆ ที่ทำลายชีวิตเด็ก ๆ ถึง 250,000 คนในเพียงสัปดาห์เดียว.” แต่ดังที่หน่วยงานยูนิเซฟรายงาน นั่นคือจำนวนเด็ก ๆ ทั่วโลกที่ตายเนื่องจากทุโภชนาการและความเจ็บป่วยอันเป็นผลสืบเนื่อง. อันที่จริง ความเสียหายที่เกิดขึ้นเนื่องจากทุโภชนาการไม่อาจคำนวณได้: ความสามารถในการเรียนรู้ลดลง, กำลังแรงงานเสื่อมถอย, ผลผลิตและคุณภาพของงานต่ำลง.
กระนั้น การรับเอาอาหารที่เหมาะสมอย่างเพียงพอก็สามารถเอาชนะการขาดอาหารบำรุงและผลข้างเคียงอย่างเช่น โรคโลหิตจางและโรคอื่น ๆ. ความช่วยเหลือจากรัฐบาลเช่น อาหารกลางวันที่โรงเรียนและสถานบริการอาหารแก่คนยากจนอาจลดทุโภชนาการในบางพื้นที่ แต่ตามที่เจ้าหน้าที่ยูนิเซฟกล่าว จำเป็นต้องใช้เงินถึง 625,000 ล้านบาทในแต่ละปีเพื่อลดการตายของเด็ก ๆ ซึ่งเกิดจากโรคท้องร่วง, ปอดบวม, และโรคหัด. บางคนอาจพูดว่า ‘เงินมากเหลือเกิน.’ แต่ตามรายงาน นั่นคือเงินที่คนอเมริกันใช้จ่ายไปกับรองเท้ากีฬา และที่ชาวยุโรปจ่ายกับเหล้าองุ่น ในปีเดียว. ข้อท้าทายอีกอย่างหนึ่งคือ การลดความสูญเสียโดยเปล่าประโยชน์. ถึงแม้ชาวบราซิลประมาณ 32 ล้านคนหิวโหย แต่กระทรวงเกษตรของบราซิลรายงานว่า “ผลเก็บเกี่ยวที่เสียไปเปล่า ๆ [มูลค่า 37,500 ล้านบาท] ในการขนส่งหรือการเก็บรักษาทำให้เกิดความสูญเสียถึงร้อยละ 18 ถึง 20 ของผลผลิตทางเกษตรของประเทศ.” ถึงแม้จะมีปัญหาใหญ่ในด้านการเกษตร, การชลประทาน, การเก็บรักษาอาหาร, และการขนส่งในหลายประเทศก็ตาม แต่แผ่นดินโลกยังคงสามารถให้การเลี้ยงดูอย่างอุดมสำหรับทุกคน. ดังนั้น คุณจะรับมือกับข้อท้าทายในการเลี้ยงดูครอบครัวคุณได้อย่างไร?
แค่เงินยังไม่พอ
ในประเทศกำลังพัฒนา ผู้คนมักจะหาเลี้ยงครอบครัวโดยทำงานสองหรือสามอย่าง. ในบราซิล แต่ละปีมีผู้คน 1.5 ล้านคนละจากครอบครัวหรือเพื่อนเพื่อย้ายถิ่นฐานสู่เมืองใหญ่ ๆ หางานและอาหาร. ถึงแม้ในระดับหนึ่ง สุขภาพขึ้นอยู่กับสิ่งที่ผู้คนรับประทาน แต่รายจ่ายส่วนใหญ่ของเขากลับถูกใช้ไปกับเสื้อผ้า, ที่อยู่, และการเดินทาง.
แต่น่ายินดีที่อาหารธรรมดา ๆ เช่นข้าว, ถั่ว, ข้าวโพด, มันฝรั่ง, มันสำปะหลัง, และกล้วย เสริมด้วยเนื้อและปลาบ้าง คือแหล่งสำคัญของสารอาหารบำรุงสำหรับครอบครัวทั่วทั้งโลก. นักโภชนาการชาวบราซิลชื่อ ซูเซ เอดวาดู ดี โอลีเวราร์ ดูตรา กล่าวว่า “ถั่วและข้าวเป็นการรวมกันที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก. ด้วยอาหารง่าย ๆ และราคาถูกเช่นนี้ เป็นไปได้ที่จะยุติการขาดแคลนอาหารใน [ประเทศ].” ใช่ อาหารที่ไม่แพงและมีคุณค่าทางโภชนาการอาจหาได้ในที่ซึ่งคุณอาศัยอยู่. หรือคุณอาจเพาะปลูกพืชบางอย่างเป็นอาหารด้วยซ้ำ.
แม้คุณจะมีเงินมากพอ คุณใช้เงินนั้นซื้ออาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสำหรับครอบครัวของคุณไหม? หรือว่าคุณถูกชักจูงโดยการโฆษณาที่คมคายและรบเร้าให้ชอบของหวานหรืออาหารไม่มีคุณค่า และดังนั้นจึงมองข้ามความจำเป็นในเรื่องโปรตีน, เกลือแร่, และวิตามิน? รสชาติเป็นสิ่งดึงดูดใจมากกว่าคุณประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างนั้นไหม? สารานุกรม เดอะ เวิลด์ บุ๊ก ให้ข้อสังเกตดังนี้: “เพื่อจะบรรลุและรักษาไว้ซึ่งสุขภาพดี ผู้คนต้องมีความรู้พื้นฐานในเรื่องร่างกายมนุษย์และวิธีที่ร่างกายปฏิบัติงาน. เฉพาะแต่วิธีนี้เท่านั้นที่พวกเขาจะสามารถรู้แน่ว่าอะไรจะส่งเสริมหรือไม่ส่งเสริมสุขภาพและอะไรจะทำความเสียหายหรือไม่ทำความเสียหายแก่สุขภาพ. การเรียนรู้เรื่องสุขภาพควรเป็นส่วนหนึ่งแห่งการศึกษาของทุกคน.”
จริงอยู่ เราไม่ได้อยู่เพียงเพื่อกิน แต่อาหารก็เป็นส่วนสำคัญยิ่งแห่งชีวิตของเรา. คัมภีร์ไบเบิลกล่าวถึงการกินดีว่าเป็นบำเหน็จสำหรับการขยันทำงาน โดยกล่าวว่า “มนุษย์ควรจะได้กินและดื่ม, กับชื่นชมความดีความงามในบรรดาการงานของเขา, นี้แหละเป็นของประทานของพระเจ้า.” (ท่านผู้ประกาศ 3:13) คุณถือว่าอาหารที่มีคุณประโยชน์เป็นสิ่งมีคุณค่าและจำเป็นไหม? ถ้าเช่นนั้น โปรดตรวจดูบทความถัดไปซึ่งเกี่ยวกับวิธีที่โภชนาการที่ดีสามารถให้ประโยชน์แก่คุณและครอบครัว.