ทำไมเราจึงแก่ลงและตาย?
ดร. เลียวนาร์ด เฮย์ฟลิก ยอมรับว่า “นอกจากการค้นพบเรื่อง การเปลี่ยนแปลงไปตามอายุที่เกิดขึ้นภายในเซลล์แต่ละเซลล์แล้ว ในปัจจุบันเราไม่รู้สาเหตุมูลฐานของการแก่ลงมากไปกว่าที่เรารู้เมื่อหนึ่งร้อยปีที่แล้ว.” ที่จริง เขากล่าวว่า “เราไม่รู้เหตุผลที่ฟังขึ้นว่าทำไมการแก่ลงจึงเกิดขึ้น.”
การทดลองในห้องปฏิบัติการที่กระทำมาประมาณ 30 ปีแล้ว เผยให้เห็นว่า เมื่อเซลล์ปกติของมนุษย์ซึ่งนำมาจากทารกในครรภ์ ได้รับการเพาะเลี้ยงภายใต้สภาพการณ์ที่ดีที่สุด เซลล์จะตายหลังจากแบ่งตัวแบบทวีคูณไปแล้วราว ๆ 50 ครั้ง. ในอีกด้านหนึ่ง เซลล์ที่นำมาจากคนแก่หง่อมแบ่งตัวแบบทวีคูณเพียงสองถึงสิบครั้ง ก่อนที่เซลล์นั้นจะตาย. ด้วยเหตุนี้ หนังสือเครื่องจักรอันเหลือเชื่อ (ภาษาอังกฤษ) ของแนชันแนล จีโอกราฟิก โซไซตี จึงตั้งข้อสังเกตว่า “หลักฐานจากการทดลองสนับสนุนความคิดที่ว่า ความตายถูกตั้งโปรแกรมไว้ในเราแต่ละคนตั้งแต่เกิด.”
แต่ การหยุดแบ่งตัวของเซลล์เป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้กระนั้นหรือ? หามิได้. ผู้เชี่ยวชาญสองคนด้านความแก่ชราคือ ศาสตราจารย์โรเบิร์ต เอ็ม. ซาโปลสกี และ คาเลบ อี. ฟินช์ ให้ความเห็นว่า “ดูเหมือนกระบวนการไม่แก่ชราเป็นสภาวะแรกเริ่มของสิ่งมีชีวิตบนโลก.” น่าขันที่ในปัจจุบันแม้แต่เซลล์ผิดปกติของมนุษย์บางเซลล์กลับไม่แก่.
หนังสือเครื่องจักรร่างกาย (ภาษาอังกฤษ) เรียบเรียงโดย นายแพทย์คริสติอัน บาร์นาร์ด ผู้ทำการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจมนุษย์ให้มนุษย์รายแรก ได้อธิบายว่า “การค้นพบ ‘เซลล์อมตะ’ เล่นเอานักชีววิทยาผู้สนใจในกระบวนการแก่ชราปวดเศียรเวียนเกล้าไปตาม ๆ กัน จนกระทั่งเป็นที่ชัดแจ้งว่าเซลล์ดังกล่าวผิดปกติ.” ใช่แล้ว เซลล์มะเร็งบางชนิดสามารถเพาะเลี้ยงอย่างต่อเนื่องให้แบ่งตัวไปเรื่อย ๆ จนดูเหมือนทวีคูณไม่สิ้นสุด! สารานุกรม เดอะ เวิลด์ บุ๊ก ให้ข้อสังเกตว่า “หากบรรดานักวิทยาศาสตร์สามารถระบุได้ว่าเซลล์ผิดปกตินั้นอยู่รอดอย่างไร พวกเขาก็อาจบรรลุความหยั่งเห็นเข้าใจถึงกระบวนการแก่ลงของเซลล์.” ฉะนั้น ในขณะนี้จะเห็นได้ว่าเซลล์มะเร็งบางชนิดเพิ่มขยายไม่สิ้นสุดในห้องปฏิบัติการ แต่เซลล์ปกติที่นำไปเพาะเลี้ยงกลับแก่ลงและตาย.
กลไกเสื่อม
การแก่ลงและการตายของมนุษย์เป็นผลของ “การสูญเสียวิสัยสามารถในการเพิ่มขยายของประชากรเซลล์ [ปกติ]” ดังที่หนังสือเครื่องจักรร่างกาย ว่าไว้ไหม? ถ้าเป็นเช่นนั้น หนังสือนี้กล่าวว่า “เป็นสิ่งสำคัญที่จะหาสมุฏฐานและเข้าใจกลไกซึ่งควบคุมวิสัยสามารถแห่งการทำซ้ำซึ่งมีที่สิ้นสุดนี้ เพื่อหาทางเปลี่ยนแปลงมัน ในการพยายามเพิ่มอายุขัยของมนุษย์.”
ดังที่คุณอาจจะจำได้จากบทความก่อนหน้านี้ซึ่ง ดร. เฮย์ฟลิก ได้พูดถึง “ความอัศจรรย์ที่นำพาพวกเราตั้งแต่ปฏิสนธิจนคลอดออกมา แล้วก็เติบโตถึงวัยแรกรุ่นและเป็นผู้ใหญ่.” แล้วเขาก็อ้างถึง “กลไกพื้นฐานที่ดูง่ายกว่า เพื่อจะธำรงระบบอัศจรรย์ดังกล่าวให้คงอยู่ตลอดไป.”
ทั้ง ๆ ที่ออกความพยายามร่วมกันเป็นเวลาหลายปี แต่นักวิทยาศาสตร์ต่างก็คว้าน้ำเหลว ไม่พบกลไกซึ่งจะธำรงชีวิตให้อยู่ตลอดไปได้. “สาเหตุของการแก่ลงยังคงเป็นเรื่องลึกลับ” หนังสือเครื่องจักรอันเหลือเชื่อ ยอมรับ.
แต่ สาเหตุของการแก่ลงและตายที่จริงแล้วไม่ใช่ความลับ. มีคำตอบ.
คำตอบคืออะไร?
ผู้มีคำตอบได้แก่ผู้เป็นแหล่งแห่ง “ความอัศจรรย์ซึ่งนำพาพวกเราตั้งแต่ปฏิสนธิจนคลอดออกมา” นั่นคือ พระยะโฮวา พระผู้สร้างองค์สัพพัญญู. คัมภีร์ไบเบิลกล่าวถึงพระองค์ว่า “ด้วยว่าบ่อเกิดแห่งชีวิตอยู่กับพระองค์.” “จงรู้ว่าพระยะโฮวาเป็นพระเจ้า: พระองค์ได้ทรงสร้างเรา, เราจึงเป็นพรรคพวกของพระองค์ [“และไม่ใช่เราสร้างตัวเอง,” ล.ม.].”—บทเพลงสรรเสริญ 36:9, ล.ม.; 100:3.
คิดดูสิว่า พระเจ้ายะโฮวาทรงเขียนโปรแกรมกำหนดการเจริญเติบโตของคุณในครรภ์อย่างน่าพิศวงเพียงไร กล่าวโดยนัยคือ ทรงเขียนสมุดคำสั่งสำหรับการสร้างตัวคุณให้เป็นปัจเจกบุคคลที่ไม่เหมือนใคร! ผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญในคัมภีร์ไบเบิลเขียนว่า “พระองค์เองได้สร้างไตของข้าพเจ้า; พระองค์ทรงดูแลให้ข้าพเจ้าปิดคลุมไว้ในครรภ์มารดาของข้าพเจ้า.” “กระดูกของข้าพเจ้ามิได้ถูกซ่อนไว้จากพระองค์ เมื่อข้าพเจ้าถูกสร้างในที่ลับ . . . พระเนตรของพระองค์เห็นกระทั่งตัวอ่อนของข้าพเจ้าด้วยซ้ำ และทุกส่วนของตัวอ่อนนั้นถูกเขียนลงในสมุดของพระองค์.” (บทเพลงสรรเสริญ 139:13, 15, 16, ล.ม.) ประจักษ์ชัดว่า การที่อินทรียภาพของมนุษย์เราถูกออกแบบอย่างมหัศจรรย์นี้ไม่ใช่เป็นเพียงผลิตผลของความบังเอิญ!
กระนั้น หากพระเจ้ายะโฮวาทรงสร้างเราอย่างสมบูรณ์พร้อม เพื่อให้อยู่ตลอดไปได้ ไฉนเราจึงแก่ลงและตาย? คำตอบพบได้ในข้อห้ามที่ให้กับมนุษย์คนแรกคือ อาดาม ผู้ซึ่งพระเจ้าทรงจัดให้อยู่ในบ้านอันสวยงามบนแผ่นดินโลก. พระเจ้าบัญชาเขาว่า “จากต้นไม้ทุกต้นในสวนเจ้ากินได้จนเป็นที่พอใจ. ส่วนต้นไม้เกี่ยวกับความรู้เรื่องความดีและความชั่วนั้นเจ้าอย่ากินจากต้นนั้น เพราะว่าในวันซึ่งเจ้ากินจากต้นนั้นเจ้าจะตายเป็นแน่.”—เยเนซิศ 2:16, 17, ล.ม.
แล้วเกิดอะไรขึ้น? แทนที่จะเชื่อฟังพระบิดาฝ่ายสวรรค์ของตน อาดามไม่ฟัง แต่หันไปร่วมมือกับฮาวาภรรยา กินผลไม้จากต้นนั้น. ด้วยความเห็นแก่ตัว เขาทั้งสองด่วนเชื่อคำสัญญาจอมปลอมของทูตสวรรค์กบฏตนหนึ่ง. (เยเนซิศ 3:1-6, ล.ม.; วิวรณ์ 12:9) ดังนั้น พวกเขาจึงตายตามที่พระเจ้าทรงเตือนไว้. ถึงแม้ว่าอาดามและฮาวาถูกออกแบบให้มีศักยภาพสำหรับการอยู่ตลอดไป แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการเชื่อฟังพระเจ้า. โดยการดื้อรั้นไม่เชื่อฟัง เขาได้กระทำบาป. ครั้นแล้ว ในฐานะผู้ผิดบาป พวกเขาได้ส่งผ่านรอยตำหนิอันเกี่ยวข้องกับความตายที่อยู่ในร่างกายของตนไปยังลูกหลานทุกคน. “ความตายจึงได้ลามไปถึงคนทั้งปวง.”—โรม 5:12; โยบ 14:4.
แต่ทั้งนี้มิได้หมายความว่าสิ้นแล้วซึ่งความหวังสำหรับการพิชิตความแก่และความตาย. ไม่น่าจะเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่า พระผู้สร้างองค์สัพพัญญูของเราสามารถรักษาความผิดปกติใด ๆ ทางพันธุกรรม และจัดป้อนพลังงานเพื่อยืดต่อชีวิตของเราออกไปไม่สิ้นสุด. แต่พระองค์จะทำเช่นนั้นโดยวิธีใด? และเราจำต้องทำอะไรบ้างเพื่อจะได้ชื่นชมกับคำสัญญาของพระองค์เรื่องชีวิตนิรันดร์?