ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • ต99 8/3 น. 4-5
  • “เหินฟ้าได้แน่ ๆ”!

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • “เหินฟ้าได้แน่ ๆ”!
  • ตื่นเถิด! 1999
  • หัวเรื่องย่อย
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • บัลลูน​ไฟ​และ “อากาศ​ติด​ไฟ​ง่าย”
  • “เครื่องจักรทำลายล้าง” ที่เล็งเห็นล่วงหน้า
    ตื่นเถิด! 2007
  • เครื่องบินมีความเป็นมาอย่างไร?
    ตื่นเถิด! 1999
  • คำถามจากผู้อ่าน
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 1991
  • เราจะเป็นนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลที่ขยันได้อย่างไร?
    ชีวิตและงานรับใช้ของคริสเตียน—คู่มือประชุม 2017
ตื่นเถิด! 1999
ต99 8/3 น. 4-5

“เหิน​ฟ้า​ได้​แน่ ๆ”!

“ความ​ปรารถนา​ที่​จะ​บิน​มี​มา​นมนาน​พอ ๆ กับ​มนุษยชาติ” นัก​ประวัติศาสตร์​ชื่อ​เบอร์โทลด์ เลาเฟอร์ ให้​ข้อ​สังเกต​ไว้​ใน​หนังสือ​ประวัติศาสตร์​เบื้อง​ต้น​ของ​การ​บิน (ภาษา​อังกฤษ). ประวัติ​บันทึก​ประมวล​เรื่อง​ปรัมปรา​ของ​ชาว​กรีก, อียิปต์, อัสซีเรีย, และ​ของ​ชาว​ตะวัน​ออก​มี​ตำนาน​มาก​มาย​เกี่ยว​กับ​กษัตริย์, เทพเจ้า, และ​วีรบุรุษ ซึ่ง​พยายาม​จะ​ใช้​การ​บิน​ให้​เป็น​ประโยชน์. ใน​เกือบ​ทุก​ราย เป็น​เรื่อง​เกี่ยว​ข้อง​กับ​คน​ซึ่ง​เลียน​แบบ​การ​บิน​ของ​นก​ที่​อาศัย​ปีก​พา​ไป.

ยก​ตัว​อย่าง ชาว​จีน​มี​เรื่อง​เล่า​ขาน​เกี่ยว​กับ​จักรพรรดิ​ชุน​ผู้​ชาญ​ฉลาด​และ​ใจ​กล้า ซึ่ง​กล่าว​กัน​ว่า​มี​ชีวิต​อยู่​ก่อน​หน้า​พระ​เยซู​คริสต์​จะ​มา​ประสูติ 2,000 กว่า​ปี. ตาม​ตำนาน​บอก​ว่า จักรพรรดิ​ชุน​ติด​อยู่​บน​ยอด​ฉาง​ข้าว​ที่​ไฟ​กำลัง​ไหม้ จึง​เอา​ขน​นก​มา​ใส่​และ​บิน​หนี​ออก​มา. อีก​เรื่อง​หนึ่ง​บอก​ว่า เขา​เอา​หมวก​ขนาด​ใหญ่​สอง​ใบ​ทำ​จาก​หญ้า​แฝก​มา​ใช้​เป็น​ร่ม​ชูชีพ​กระโดด​จาก​หอคอย​สู่​พื้น​อย่าง​ปลอด​ภัย.

ใน​หมู่​ชาว​กรีก มี​เรื่อง​เล่า​เก่า​แก่ 3,000 ปี​เกี่ยว​กับ​เดดาลุส ศิลปิน​และ​นัก​ประดิษฐ์​ผู้​ยิ่ง​ใหญ่​ซึ่ง​ได้​สร้าง​ปีก​บิน​ด้วย​ขน​นก, เชือก, และ​ขี้ผึ้ง เพื่อ​เขา​และ​อิคารุส​บุตร​ชาย​จะ​สามารถ​หนี​จาก​เกาะ​ครีต ที่​ซึ่ง​เขา​ทั้ง​สอง​ถูก​เนรเทศ​ไป​คุม​ตัว​ไว้​ที่​นั่น. เดดาลุส​ประกาศ​ว่า “เหิน​ฟ้า​ได้​แน่ ๆ และ​นั่น​เป็น​หน​ทาง​ที่​เรา​จะ​หนี​ไป.” แรก ๆ ปีก​บิน​นั้น​ทำ​งาน​ได้​อย่าง​สมบูรณ์. แต่​อิคารุส​ติด​ใจ​ที่​ตน​สามารถ​เหิน​ฟ้า​ได้ จึง​บิน​สูง​ขึ้น​เรื่อย ๆ จน​กระทั่ง​ความ​ร้อน​จาก​ดวง​อาทิตย์​ทำ​ให้​ขี้ผึ้ง​ที่​ยึด​ปีก​บิน​เข้า​ด้วย​กัน​เกิด​ละลาย. เด็ก​หนุ่ม​คน​นี้​ตก​สู่​ทะเล​เบื้อง​ล่าง​ถึง​แก่​ความ​ตาย.

เรื่อง​ราว​เหล่า​นี้​ปลุก​เร้า​จินตนาการ​ของ​บรรดา​นัก​ประดิษฐ์​และ​นัก​ปรัชญา​ซึ่ง​ปรารถนา​จะ​บิน​ได้​จริง ๆ. เพียง​แค่​ศตวรรษ​ที่​สาม​สากล​ศักราช ชาว​จีน​ได้​ทำ​ว่าว​และ​ทดลอง​นำ​ขึ้น​ฟ้า ซึ่ง​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​มี​ความ​เข้าใจ​หลัก​บาง​อย่าง​เรื่อง​วิชาการ​บิน​นาน​ก่อน​ที่​การ​ทดลอง​แบบ​เดียว​กัน​นี้​จะ​เริ่ม​ใน​ยุโรป​ด้วย​ซ้ำ. ใน​ศตวรรษ​ที่ 15 โจวานนี ดา โฟนตานา แพทย์​ชาว​เมือง​เวนิซ ได้​ทดลอง​ยิง​จรวดทำ​ด้วย​ไม้​และ​กระดาษ​แบบ​ง่าย ๆ โดย​ใช้​ดิน​ปืน​เป็น​ตัว​จุด​ระเบิด. ดา โฟนตานา​เขียน​ไว้​ราว ๆ ปี 1420 ดัง​นี้: “ที่​จริง ข้าพเจ้า​ไม่​สงสัย​เลย​ว่า​เป็น​ไป​ได้​ที่​จะ​ติด​ปีก​ให้​กับ​คน ซึ่ง​อาจ​ทำ​ให้​ปีก​นั้น​ขยับ​ด้วย​กลไก​ที่​สร้าง​ขึ้น​เอง ใน​แบบ​ที่​เขา​สามารถ​ลอย​ขึ้น​ไป​ใน​อากาศ และ​เหาะ​จาก​ที่​หนึ่ง​ไป​ยัง​ที่​หนึ่ง ตลอด​จน​ทะยาน​สู่​หอคอย​และ​ข้าม​น้ำ​ได้.”

ใน​ตอน​ต้น​ของ​ศตวรรษ​ที่ 16 ลีโอนาร์โด ดา วินชี ซึ่ง​เป็น​จิตรกร, ประ​ติ​มา​กร, และ​วิศวกร​เครื่อง​กล​ที่​เชี่ยวชาญ ได้​วาด​แบบ​คร่าว ๆ ของ​เฮลิคอปเตอร์​และ​ร่ม​ชูชีพ​รวม​ทั้ง​เครื่อง​ร่อน​ที่​ปลาย​ปีก​กระพือ​ได้. หลักฐาน​บ่ง​ชี้​ว่า เขา​ได้​สร้าง​แบบ​จำลอง​เครื่องบิน​อย่าง​น้อย​ก็​บาง​แบบ​ที่​เขา​คิด​ขึ้น. แต่​ไม่​มี​สัก​แบบ​ของ​ดา วินชี​ที่​ใช้​ได้​จริง ๆ.

ช่วง​เวลา​สอง​ร้อย​ปี​หลัง​จาก​นั้น มี​บันทึก​ต่าง ๆ นานา​เกี่ยว​กับ​ความ​พยายาม​ของ​มนุษย์​ที่​กล้า​บ้า​บิ่น​ซึ่ง​เอา​ปีก​ที่​ทำ​ขึ้น​เอง​มา​รัด​ติด​กับ​ตัว และ​พยายาม​กระพือ​มัน​ขณะ​ที่​พวก​เขา​โจน​ลง​มา​จาก​ไหล่​เขา​และ​หอคอย. ‘นัก​บิน​ลอง​เครื่อง’ ใน​ยุค​แรก ๆ เหล่า​นี้​เป็น​พวก​ที่​ใจ​กล้า​และ​ชอบ​ท้า​มฤตยู—แต่​ความ​พยายาม​ของ​พวก​เขา​ไร้​ผล​อย่าง​สิ้นเชิง.

บัลลูน​ไฟ​และ “อากาศ​ติด​ไฟ​ง่าย”

ใน​ปี 1783 ข่าว​เรื่อง​ความ​สำเร็จ​ทาง​การ​บิน​ที่​ก่อ​ความ​ตื่น​ตะลึง​ได้​แพร่​สะพัด​ไป​ทั่ว​ปารีส​และ​แคว้น​ต่าง ๆ ของ​ฝรั่งเศส. สอง​พี่​น้อง โจเซฟ-มิเชล​และ​ชาก-เอเตียน มงต์โกฟิเย ค้น​พบ​ว่า​เขา​สามารถ​ทำ​ให้​บัลลูน​กระดาษ​ลูก​เล็ก ๆ ลอย​ขึ้น​ไป​บน​ฟ้า​อย่าง​รวด​เร็ว​และ​นิ่มนวล​โดย​อัด​อากาศ​ร้อน​เข้า​ไป. บัลลูน​ขนาด​ใหญ่​ลูก​แรก​ของ​เขา​ซึ่ง​เรียก​กัน​ว่า บัลลูน​ไฟ ทำ​ด้วย​กระดาษ​และ​ผ้า​ลินิน​แล้ว​อัด​ด้วย​ควัน​จาก​ไฟ​กอง​ใหญ่​มี​กลิ่น​แสบ​จมูก. ใน​การ​ปล่อย​สู่​อากาศ​ครั้ง​ปฐม​ฤกษ์ บัลลูน​ที่​ไม่​มี​คน​ไป​ด้วย​นี้​ลอย​สูง​มาก​กว่า 1,800 เมตร​เหนือ​ระดับ​น้ำ​ทะเล. วัน​ที่ 21 พฤศจิกายน 1783 บัลลูน​นี้​มี​ผู้​โดยสาร​สอง​คน—ซึ่ง​ฝูง​ชน​ให้​ฉายา​ว่า​นัก​บิน​บัลลูน—ลอย​อยู่​เหนือ​ปารีส 25 นาที. ระหว่าง​ปี​เดียว​กัน​นี้ นัก​ประดิษฐ์​อีก​คน​หนึ่ง​ชื่อ​ชาก ชาลส์ ได้​เปิด​ตัว​บัลลูน​บรรจุ​ก๊าซ​ลูก​แรก​ต่อ​สาธารณชน เป็น​บัลลูน​ที่​อัด​ด้วย​ไฮโดรเจน หรือ “อากาศ​ติด​ไฟ​ง่าย” ตาม​ที่​รู้​จัก​กัน​ใน​ตอน​นั้น.

เมื่อ​เทคโนโลยี​ของ​บัลลูน​ก้าว​หน้า​ขึ้น จาก​นั้น​ไม่​นาน​บรรดา​นัก​บิน​ที่​ชอบ​ท้า​มฤตยู​ก็​เริ่ม “เหิน” ฟ้า​ได้. พอ​ถึง​ปี 1784 บัลลูน​ลอย​ได้​สูง​กว่า 3,400 เมตร​เหนือ​ระดับ​น้ำ​ทะเล. หลัง​จาก​นั้น​แค่​ปี​เดียว ฌอง-ปิ​แอร์-ฟรองซัวส์ บลองชาร์ด ก็​ข้าม​ช่องแคบ​อังกฤษ​ได้​สำเร็จ​ด้วย​บัลลูน​ไฮโดรเจน​ซึ่ง​นำ​จดหมาย​ทาง​อากาศ​ฉบับ​แรก​ของ​โลก​ไป​ด้วย. พอ​ถึง​ปี 1862 พวก​นัก​บิน​ก็​เดิน​ทาง​ข้าม​ยุโรป​และ​ไป​ทั่ว​สหรัฐ และ​สามารถ​ลอย​สูง​กว่า 8 กิโลเมตร!

แต่​เหล่า​นัก​บิน​ยุค​ต้น ๆ ยัง​คง​อาศัย​แรง​ลม​สุด​แล้ว​แต่​มัน​จะ​พา​ไป​ไหน ไม่​มี​วิธี​ที่​จะ​บังคับ​ทิศ​ทาง​หรือ​ความ​เร็ว​ของ​การ​บิน​โดย​อาศัย​บัลลูน. พัฒนาการ​ของ​เรือ​เหาะ​ที่​ขับ​เคลื่อน​ด้วย​น้ำมัน​เบนซิน​และ​ไฟฟ้า​ใน​ครึ่ง​หลัง​ของ​ศตวรรษ​ที่ 19 ทำ​ให้​เป็น​ไป​ได้​ที่​การ​เดิน​อากาศ​จะ​มี​ประสิทธิภาพ​มาก​ขึ้น แต่​เรือ​เหาะ​น้ำหนัก​เบา​กว่า​อากาศ​รูป​ทรง​คล้าย​ไส้กรอก​นั้น​เดิน​ทาง​ช้า—โดย​ปกติ​อยู่​ระหว่าง 10 ถึง 30 กิโลเมตร​ต่อ​ชั่วโมง. จำเป็น​ต้อง​หา​วิธี​ใหม่​หาก​มนุษย์​ต้องการ​จะ “ลอย​ขึ้น​ไป​ใน​อากาศ และ​เหาะ​จาก​ที่​หนึ่ง​ไป​ยัง​ที่​หนึ่ง” ตาม​ที่​โฟนตานา​ทำนาย​ไว้.

[รูป​ภาพ​หน้า 4]

เดดาลุส​และ​อิคารุส​ใน​เรื่อง​เล่า​ปรัมปรา

[รูป​ภาพ​หน้า 4]

ลีโอนาร์โด ดา วินชี

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

From the book Leonardo da Vinci, 1898

[รูป​ภาพ​หน้า 4]

สอง​พี่​น้อง​ตระกูล​มงต์โกฟิเย ออก​แบบ​บัลลูน​ที่​อัด​ด้วย​อากาศ​ร้อน​ลูก​แรก​ซึ่ง​มี​ผู้​โดยสาร​ไป​ด้วย

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์