วิธีที่ยาเสพย์ติดผิดกฎหมายกระทบชีวิตคุณ
เช่นเดียวกับความผุพังที่กัดกร่อนไม้คานบ้าน ยาเสพย์ติดก็สามารถกัดกร่อนโครงสร้างทั้งสิ้นของสังคมได้. เพื่อสังคมมนุษย์จะดำเนินไปอย่างถูกต้อง ต้องมีครอบครัวที่มั่นคง, คนงานที่มีสุขภาพแข็งแรง, รัฐบาลที่ไว้ใจได้, ตำรวจที่ซื่อสัตย์, และพลเมืองที่นับถือกฎหมาย. ยาเสพย์ติดทำให้ปัจจัยเหล่านี้ทุกอย่างเสื่อมเสียไป.
เหตุผลหนึ่งที่รัฐบาลสั่งห้ามการใช้ยาที่ไม่ได้ใช้เพื่อจุดประสงค์ทางการแพทย์ก็คือ ยานั้นก่อความเสียหายต่อสุขภาพของพลเมือง. ทุกปี ผู้ติดยาหลายพันคนเสียชีวิตเนื่องจากเสพยาเกินขนาด. อีกหลายคนเสียชีวิตเพราะโรคเอดส์. ที่จริง ผู้ติดเชื้อเอชไอวีในโลกประมาณ 22 เปอร์เซ็นต์เป็นผู้ใช้ยาเสพย์ติดซึ่งใช้เข็มฉีดยาที่ติดเชื้อ. ด้วยเหตุผลที่ดี ในการประชุมขององค์การสหประชาชาติเมื่อเร็ว ๆ นี้ นาซเซอร์ บิน ฮาหมัด อัล-คาลีฟา จากกาตาร์ เตือนว่า “หมู่บ้านโลกกำลังจะกลายเป็นหลุมฝังศพรวมสำหรับมนุษย์นับล้าน ๆ เนื่องมาจากการค้ายาผิดกฎหมาย.”
แต่ไม่ได้มีเพียงสุขภาพของผู้เสพเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ. ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของเด็กทารกทั้งหมดที่เกิดในสหรัฐได้รับยาผิดกฎหมาย—ส่วนใหญ่เป็นโคเคน—ขณะอยู่ในครรภ์. อาการถอนยาที่เจ็บปวดไม่ใช่ปัญหาเดียวที่เด็กพวกนี้ต้องเผชิญ เพราะการได้รับยาเสพย์ติดในครรภ์อาจทำให้ทารกแรกเกิดได้รับความเสียหายอื่น ๆ—ทั้งทางจิตใจและร่างกาย.
เงินที่ได้มาง่าย ๆ จากยา—สิ่งล่อที่ยากจะห้ามใจ
คุณรู้สึกปลอดภัยในละแวกบ้านของคุณยามค่ำคืนไหม? ถ้าไม่ ก็คงเป็นเพราะนักค้ายา. การปล้นจี้และความรุนแรงบนถนนเกี่ยวพันกับยาเสพย์ติด. ผู้เสพยามักก่ออาชญากรรมหรือขายตัวเพื่อจะหาเงินมาซื้อยา ขณะที่แก๊งคู่อริสู้กันและฆ่ากันเพื่อกุมอำนาจการค้ายา. เป็นที่เข้าใจได้ว่าตำรวจในหลายเมืองถือว่ายาเสพย์ติดเป็นสาเหตุของฆาตกรรมส่วนใหญ่ที่พวกเขาสืบสวน.
ในบางประเทศ พวกกบฏก็มองเห็นช่องทางเช่นกันที่จะบีบบังคับเพื่อได้ผลประโยชน์จากธุรกิจการค้ายาเสพย์ติดที่ให้กำไรงาม. กองโจรกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งในอเมริกาใต้ตอนนี้มีรายได้ครึ่งหนึ่งจากการคุ้มกันพวกค้ายาเสพย์ติด. โครงการควบคุมยาเสพย์ติดนานาชาติแห่งสหประชาชาติรายงานว่า “รายได้จากยาผิดกฎหมายเป็นทุนสนับสนุนการต่อสู้ทางชาติพันธุ์และทางศาสนาที่รุนแรงที่สุดบางแห่งของโลก.”
โศกนาฏกรรมขณะเมายา
ผู้เสพยาทำให้ท้องถนนไม่ปลอดภัยในประการอื่น ๆ อีก. ไมเคิล โครเนนเวตเตอร์เขียนในหนังสือชื่อยาเสพย์ติดในอเมริกา (ภาษาอังกฤษ) ว่า “การขับรถขณะเมากัญชา หรือแอลเอสดีไม่ได้เป็นอันตรายน้อยไปกว่าการขับรถภายใต้ฤทธิ์แอลกอฮอล์เลย.” ไม่น่าแปลกใจ ผู้เสพยาเสี่ยงมากกว่าสามหรือสี่เท่าที่จะประสบอุบัติเหตุขณะทำงานอีกด้วย.
อย่างไรก็ตาม บ้านอาจเป็นที่ซึ่งยาเสพย์ติดก่อความเสียหายมากที่สุด. รายงานยาเสพย์ติดโลก (ภาษาอังกฤษ) แจ้งว่า “ชีวิตครอบครัวที่มีปัญหาและการเสพยามักเกี่ยวพันกันอย่างใกล้ชิด.” บิดามารดาที่ว้าวุ่นใจเนื่องจากอยากเสพยา มักไม่ค่อยได้จัดชีวิตที่มั่นคงปลอดภัยในบ้านให้แก่บุตร. ความผูกพันระหว่างทารกกับบิดามารดา ซึ่งสำคัญยิ่งในระหว่างสัปดาห์แรก ๆ ของชีวิตเด็ก อาจถึงกับถูกเหนี่ยวรั้งไว้. นอกจากนั้น บิดามารดาที่ติดยามักก่อหนี้สินและอาจขโมยของจากเพื่อนและครอบครัว หรือในที่สุดอาจตกงาน. เด็กหลายคนที่เติบโตในสภาพแวดล้อมเช่นนี้หนีออกจากบ้านไปอยู่ตามถนนหรือถึงกับติดยาเสียเอง.
การใช้ยาเสพย์ติดอาจนำไปสู่การทำร้ายร่างกายด้วย—ต่อคู่สมรสหรือบุตร. โคเคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับแอลกอฮอล์ อาจกระตุ้นให้แสดงพฤติกรรมที่ก้าวร้าวรุนแรงในบุคคลซึ่งอาจเป็นคนค่อนข้างสุภาพในตอนที่ไม่ได้เสพยา. ตามการสำรวจผู้เสพโคเคนในแคนาดา คนที่ถูกสอบถาม 17 เปอร์เซ็นต์ยอมรับว่า เขากลายเป็นคนก้าวร้าวหลังจากเสพยาแล้ว. เช่นเดียวกัน รายงานหนึ่งเกี่ยวกับการทำร้ายเด็กในนครนิวยอร์ก กะประมาณว่า 73 เปอร์เซ็นต์ของเด็กที่ถูกตีจนตายมีบิดามารดาที่เสพยา.
การคอร์รัปชันและการทุจริต
ถ้าบ้านอาจถูกยาเสพย์ติดบ่อนทำลายได้ ก็อาจกล่าวได้อย่างเดียวกันกับรัฐบาล. ในกรณีนี้สิ่งที่ทำให้รัฐบาลเสื่อมเสียเป็นเงินจากการค้ายา ไม่ใช่ตัวยาเสพย์ติด. เอกอัครราชทูตจากประเทศแถบอเมริกาใต้ประเทศหนึ่งคร่ำครวญว่า “ยาเสพย์ติดทำให้เจ้าหน้าที่รัฐบาล, ตำรวจและกองทัพทุจริต.” เขาเสริมว่าเงินจำนวนมากที่ลอยไปลอยมา “เป็นสิ่งล่อใจเกินไป” สำหรับคนที่หาเงินได้เพียงแค่พออยู่พอกิน.
ประเทศแล้วประเทศเล่า ผู้พิพากษา, นายกเทศมนตรี, เจ้าหน้าที่ตำรวจ, และแม้แต่เจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพย์ติดต่างก็ติดกับดักของการคอร์รัปชัน. นักการเมืองที่อาจได้รับเงินช่วยเหลือในการเลือกตั้งจากเจ้าพ่อยาเสพย์ติดทำเป็นหูทวนลมเมื่อมีเสียงเรียกร้องให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับการค้ายา. ตำรวจผู้ซื่อสัตย์ที่ต่อสู้เรื่องยาเสพย์ติดอย่างกล้าหาญถูกสังหารไปจำนวนไม่น้อย.
แม้แต่ดิน, ป่าไม้, และพืชพันธุ์ต่าง ๆ ที่อยู่ในป่าก็กำลังได้รับความเสียหายจากมหันตภัยยาเสพย์ติดระดับโลก. การผลิตฝิ่นและโคเคนส่วนใหญ่มีศูนย์กลางอยู่ในพื้นที่ที่ไวเป็นพิเศษต่อการทำลายสภาพแวดล้อม นั่นคือ ป่าดิบในแอมะซอนตะวันตกและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้. ความเสียหายในพื้นที่เหล่านี้มีมากทีเดียว. แม้แต่ความพยายามที่น่าชมเชยในการขจัดพืชที่ใช้ทำยาเสพย์ติดผิดกฎหมายนั้นก็ยังก่อความเสียหายร้ายแรงเนื่องจากมีการใช้สารเคมีที่เป็นพิษ.
ใครจ่าย?
ใครจ่ายค่าเสียหายทุกอย่างจากยาเสพย์ติด? เราทุกคนนั่นเอง. ใช่แล้ว เราทุกคนจ่ายสำหรับค่าเสียหายจากการเสียผลผลิต, ค่ารักษาทางการแพทย์, ค่าทรัพย์สินที่ถูกขโมยหรือถูกทำลาย, และค่าใช้จ่ายในการบังคับใช้กฎหมาย. กระทรวงแรงงานแห่งสหรัฐคำนวณว่า “การใช้ยาในที่ทำงานอาจก่อความเสียหายกับธุรกิจและอุตสาหกรรมในอเมริกาเป็นมูลค่าประมาณเจ็ดหมื่นห้าพันล้านถึงหนึ่งแสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี . . . สำหรับเวลาที่สูญเสียไป, อุบัติเหตุและค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้น, และค่าตอบแทนให้คนงาน.”
ค่าความเสียหายทั้งหมดนี้ ในที่สุดแล้วก็มาจากกระเป๋าเงินของผู้เสียภาษีและผู้บริโภค. งานวิจัยที่ทำในเยอรมนีปี 1995 คำนวณค่าความเสียหายต่อปีจากการใช้ยาเสพย์ติดในประเทศนั้นว่ามีมูลค่าประมาณ 120 ดอลลาร์สหรัฐต่อประชากรหนึ่งคน. ในสหรัฐ ตัวเลขหนึ่งที่กะประมาณไว้นั้นสูงกว่าตัวเลขดังกล่าวเสียด้วยซ้ำ คือ 300 ดอลลาร์ต่อคน.
อย่างไรก็ตาม ความสูญเสียที่หนักกว่าคือ ความเสียหายทางสังคมที่ยาเสพย์ติดก่อขึ้นในชุมชน. ใครจะคำนวณมูลค่าความเสียหายจากการที่ครอบครัวมากมายเหลือเกินแตกสลาย, เด็กหลายต่อหลายคนถูกทำร้าย, การคอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่จำนวนมาก, และการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรของผู้คนอีกมากมาย? ทั้งหมดนี้มีความหมายอย่างไรสำหรับผู้คน? บทความต่อไปของเราจะพิจารณาว่า ยาเสพย์ติดส่งผลกระทบต่อชีวิตของคนที่เสพมันอย่างไร.
[กรอบ/ภาพหน้า 7]
ยาเสพย์ติดและอาชญากรรม
ยาเสพย์ติดพัวพันกับอาชญากรรมอย่างน้อยในสี่ทาง:
1. การมียาเสพย์ติดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและการค้ายาเป็นความผิดทางอาญาในเกือบทุกประเทศทั่วโลก. ในสหรัฐประเทศเดียว ตำรวจจับกุมประมาณหนึ่งล้านคนทุกปีในข้อหาเกี่ยวกับยาเสพย์ติด. ในบางประเทศ ศาลอาญามีคดียาเสพย์ติดล้นศาลซึ่งตำรวจและศาลจัดการไม่ทัน.
2. เนื่องจากยาเสพย์ติดมีราคาแพงมาก ผู้ติดยามักก่ออาชญากรรมเพื่อจะหาเงินซื้อยาเสพย์ติด. ผู้ติดโคเคนอาจต้องการเงินมากถึง 1,000 ดอลลาร์ (สหรัฐ) ต่อสัปดาห์เพื่อสนองการเสพย์ติดของเขา! ไม่น่าแปลกใจที่การลักทรัพย์, การปล้นจี้, และโสเภณีผุดขึ้นราวกับดอกเห็ดเมื่อยาเสพย์ติดหยั่งรากลึกในชุมชน.
3. มีการก่ออาชญากรรมอื่น ๆ เพื่อทำให้การค้ายาสะดวกขึ้น ซึ่งเป็นธุรกิจที่ทำกำไรสูงที่สุดอย่างหนึ่งของโลก. รายงานยาเสพย์ติดโลก อธิบายว่า “การค้ายาเถื่อนและอาชญากรรมแบบองค์การพึ่งพาซึ่งกันและกันไม่มากก็น้อย.” เพื่อยาเสพย์ติดจะถูกลำเลียงจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งได้อย่างราบรื่น ผู้ค้ายาจะพยายามติดสินบนหรือไม่ก็ข่มขู่พวกเจ้าหน้าที่. บางคนถึงกับมีกองกำลังส่วนตัว. กำไรมหาศาลที่เจ้าพ่อยาเสพย์ติดทำได้นั้นก่อปัญหาด้วย. เงินจำนวนมากที่หลั่งไหลเข้ามาจะทำให้เขามีโอกาสถูกกล่าวโทษทางอาญาได้ง่าย ๆ ถ้าเงินนั้นยังไม่ถูกฟอก ดังนั้น มีการจ้างนายธนาคารและนักกฎหมายเพื่อปิดซ่อนการโอนย้ายเงินจากการค้ายา.
4. ผลกระทบจากยาเสพย์ติดก็อาจนำไปสู่การก่ออาชญากรรม. สมาชิกครอบครัวอาจถูกทำร้ายโดยผู้ติดยา. ในประเทศแถบแอฟริกาบางประเทศที่ได้รับความเสียหายจากสงครามกลางเมือง อาชญากรรมที่น่าสยดสยองเกิดขึ้นโดยทหารวัยรุ่นที่กำลังคลั่งเพราะฤทธิ์ยา.
[รูปภาพหน้า 6]
เด็กทารกอาจได้รับผลกระทบเมื่อมารดาใช้ยาเสพย์ติด
[ที่มาของภาพ]
SuperStock