จากผู้อ่านของเรา
กำลังใจสำหรับผู้ป่วย ขอบคุณสำหรับชุดบทความ “กำลังใจสำหรับผู้ป่วย.” (8 กุมภาพันธ์ 2001) ดิฉันประสบอุบัติเหตุเมื่อสี่ปีที่แล้ว. หลายครั้งดิฉันคิดว่าถ้าดิฉันเสียชีวิตไปก็คงดีกว่า. ดิฉันสูญเสียความทรงจำไปมากและจึงมีปัญหายุ่งยากอยู่หลายวัน. เมื่อดิฉันอ่านชุดบทความนี้ ดิฉันก็ได้รับกำลังใจ.
ที. เอ็ม., ญี่ปุ่น
ตั้งแต่อายุ 15 ปี ดิฉันต้องรับมือกับโรคข้ออักเสบรูมาทอยด์ซึ่งก่อความเจ็บปวดมาก. ข้อมูลนี้ช่วยให้ดิฉันตระหนักถึงความจำเป็นต้องเรียนที่จะหมายพึ่งพระยะโฮวามากยิ่งขึ้น ผู้ซึ่งเป็น “สถานนิรภัยในคราวภัยพิบัติ.”—นาฮูม 1:7.
วาย. เอฟ. อาร์., โคลัมเบีย
ดิฉันเป็นผู้เผยแพร่เต็มเวลา. ไม่นานหลังจากย้ายไปรับใช้ในเขตใหม่ ดิฉันได้ทราบว่าตัวเองเป็นโรคเบาหวาน. คำพรรณนาของคุณเกี่ยวกับความรู้สึกที่โถมทับคนที่เจ็บป่วยเรื้อรังนั้นน่าทึ่งทีเดียว! บทความนี้ช่วยให้ดิฉันประเมินสถานการณ์ของตัวเองใหม่เพื่อจะมีความสมดุลยิ่งขึ้นและเพื่อจะทำการปรับเปลี่ยนบางอย่างในชีวิตของดิฉัน.
แอล. เอ., อิตาลี
เราไม่ใช่ผู้ป่วย แต่หลักการในบทความนี้ช่วยเราอย่างมากให้รับมือกับปัญหาที่เราประสบอยู่. เช่นเดียวกับหลาย ๆ ครั้ง วารสารนี้เป็นคำตอบสำหรับคำอธิษฐานที่เฉพาะเจาะจง.
อาร์. พี. และ แอล. พี., ศรีลังกา
ไม่กี่สัปดาห์ที่แล้ว ผมได้รับแจ้งว่าเป็นมะเร็งที่ตับ. คุณคงนึกภาพออกว่านั่นจะส่งผลกระทบต่อผมเพียงไร เนื่องจากผมมีสุขภาพดีมาตลอดจนถึงตอนนั้น. วันนี้ผมหยิบวารสารฉบับ 8 กุมภาพันธ์ขึ้นมาและอ่านบทความนี้อย่างจดจ่อ. บทความนี้พรรณนาข้อสงสัย, ความคิด, และความรู้สึกทั้งหมดของผม แต่ในเวลาเดียวกันก็ส่งเสริมให้มีทัศนะในแง่บวก.
เจ. อี., สเปน
ประสบการณ์ชีวิตจริง ดิฉันเขียนมาเกี่ยวกับประสบการณ์ที่น่าประทับใจของบิลล์กับโรส ไมเนอร์ส เรื่อง “สู้กับอุปสรรคด้วยการตั้งเป้าหมาย.” (8 กุมภาพันธ์ 2001) นับเป็นการหนุนกำลังใจที่รู้ว่าพวกเขาต้องอดทนมากว่าห้าสิบปี. เรื่องราวชีวิตเหล่านี้กระทบถึงก้นบึ้งของหัวใจ. ดิฉันอยากให้บิลล์กับโรสรู้ว่าดิฉันกำลังอธิษฐานเพื่อพวกเขาโดยเฉพาะ.
วี. จี., อิตาลี
สำหรับพวกเราที่มีสุขภาพดี เรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งที่ต้องต่อสู้กับความเจ็บป่วยมากว่า 50 ปีเป็นการกระตุ้นใจอย่างที่ไม่อาจนึกภาพได้. เรื่องนี้ช่วยให้ดิฉันเข้าใจว่าในฐานะผู้หญิงที่มีสุขภาพดี ดิฉันควรหยั่งรู้ค่าในสิ่งนั้นและใช้ประโยชน์จากชีวิตของดิฉันอย่างเต็มที่.
พี. วี., สาธารณรัฐเชก
ดิฉันมีคุณแม่ที่ป่วยมาเกือบ 20 ปีแล้ว. ในตอนนี้ท่านกำลังท้อใจและสงสัยว่าทำไมท่านไม่ได้รับการบรรเทาแม้แต่น้อย. ดิฉันอ่านบทความนี้ให้ท่านฟัง แต่ดิฉันก็ได้รับประโยชน์ด้วย. ตอนนี้ดิฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมส่วนใหญ่ท่านจึงรู้สึกซึมเศร้า.
จี. โอ. เอ., ไนจีเรีย
บิลล์กับโรสและคนอื่น ๆ ที่ต้องมีชีวิตอยู่กับความเจ็บป่วยที่ร้ายแรงนั้นช่างกล้าหาญเหลือเกิน! ดิฉันคิดว่าพวกเราที่ไม่ต้องรับมือกับความเจ็บป่วยร้ายแรงสามารถเรียนรู้จากตัวอย่างของเขาเหล่านั้นได้. บิลล์กับโรส ขอให้คุณเข้มแข็งต่อ ๆ ไป! คุณเป็นแบบอย่างสำหรับพวกเรา!
ไอ. เอส., เยอรมนี
การนัดพบในวัยรุ่น ดิฉันอายุ 15 ปีและชอบอ่านบทความ “หนุ่มสาวถามว่า . . . จะว่าอย่างไรถ้าคุณพ่อคุณแม่คิดว่าฉันยังเด็กเกินกว่าที่จะนัดพบ?” (8 กุมภาพันธ์ 2001) พวกเพื่อนนักเรียนถามว่าดิฉันเป็นพวกรักร่วมเพศหรือเปล่า เพราะดิฉันไม่นัดพบกับใคร. ดิฉันมักจะบอกพวกเขาว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่อนุญาตให้ดิฉันนัดพบ แต่ดิฉันอยากจะให้คำตอบพวกเขาได้ดีกว่านี้. เมื่อได้อ่านบทความนี้ ตอนนี้ดิฉันจึงรู้วิธีที่จะตอบคำถามเหล่านั้นแล้ว. ขอบคุณมากค่ะที่คิดถึงพวกเราคนหนุ่มสาว.
ซี. จี., สหรัฐ