ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • รฟ บท 17 น. 71-74
  • สองคนที่มิได้บอกความจริง

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • สองคนที่มิได้บอกความจริง
  • การรับฟังครูผู้ยิ่งใหญ่
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • ทำไมเราไม่ควรโกหก?
    จงเรียนจากครูผู้ยิ่งใหญ่
  • การโกหกของเปโตรกับอะนานีอัส—เราได้บทเรียนอะไร?
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 2013
  • พูดความจริง
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา (ศึกษา) 2018
  • การพูดมุสา—จะมีทางชอบด้วยเหตุผลไหม?
    ตื่นเถิด! 2000
ดูเพิ่มเติม
การรับฟังครูผู้ยิ่งใหญ่
รฟ บท 17 น. 71-74

บท 17

สอง​คน​ที่​มิ​ได้​บอก​ความ​จริง

สมมุติ​ว่า​เด็ก​ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง​สัญญา​กับ​คุณ​แม่​ของ​เธอ​ว่า “ค่ะ โรงเรียน​เลิก​แล้ว​หนู​จะ​กลับ​บ้าน​ทันที.” แต่​แล้ว​เด็ก​อื่น ๆ ชวน​เธอ​ให้​อยู่​ต่อ​เพื่อ​จะ​เล่น​ด้วย​กัน. เป็น​การ​ถูก​ต้อง​ไหม​ที่​จะ​อยู่​ต่อ—แม้​เพียงสักครู่​เดียว?—

หรือ​เด็ก​ผู้​ชาย​อาจ​สัญญา​กับ​คุณ​พ่อ​ของ​เขา​ว่า “ไม่​ครับ ผม​จะ​ไม่​โยน​ลูก​บอล​เล่น​ใน​บ้าน​อีก​ต่อ​ไป.” จะ​เป็น​การ​ถูก​ต้อง​ไหม​ถ้า​เขา​ทำ​เช่น​นั้น​อีก​เพียง​สอง​สาม​หน​เมื่อ​คุณ​พ่อ​ของ​เขา​ไม่​เห็น?—

ครู​ผู้​ยิ่ง​ใหญ่​ทรง​ชี้​แนะ​สิ่ง​ถูก​ต้อง​ที่​พึง​กระทำ. พระองค์​บอก​ว่า ‘ให้​ถ้อย​คำ​ของ​ท่าน​เป็น​คำ​ตรง​เถิด ใช่​ก็​ให้​ว่า​ใช่ ไม่​ก็​ให้​ว่า​ไม่ เพราะ​ซึ่ง​พูด​เกิน​นี้​ไป​ก็​มา​จาก​เจ้า​ตัว​ชั่วร้าย​นั้น.’—มัดธาย 5:37.

ข้อ​นั้น​พระ​เยซู​ทรงหมายความ​ว่า​อย่าง​ไร?— พระองค์​ทรง​หมายความ​ว่า​เรา​ควร​รักษา​คำ​สัญญา​ของ​เรา​เสมอ เรา​ควร​พูด​ความ​จริง​เสมอ.

มี​เรื่อง​หนึ่ง​ซึ่ง​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​การ​พูด​ความ​จริง​สำคัญ​เพียง​ไร. เป็น​เรื่อง​เกี่ยว​กับ​บุคคล​สอง​คน​ซึ่ง​บอก​ว่า​ตน​เป็น​สาวก​ของ​พระ​เยซู.

หลังจาก​พระ​เยซู​สิ้น​พระ​ชนม์​แล้ว​ไม่​นาน​นัก มี​หลาย​คน​ได้​เข้า​มา​เป็น​สาวก​ของ​พระองค์. คน​เหล่า​นี้​บาง​คน​มา​จาก​ตำบล​ซึ่ง​อยู่​ห่าง​ไกล​จาก​กรุง​ยะรูซาเลม. เป็น​ครั้ง​แรก​ที่​เขา​ได้​มา​เรียน​รู้​ถึง​เรื่อง​พระ​เยซู. เขา​อยาก​จะ​เรียน​รู้​มาก​ขึ้น​อีก. ด้วย​เหตุ​นั้น​เขา​จึง​ค้าง​อยู่​ใน​กรุง​ยะรูซาเลม​นาน​กว่า​ที่​เขา​คาดหมาย​ไว้. บาง​คน​เงิน​ขาด​มือ​และ​ต้อง​การ​ความ​ช่วยเหลือ​เพื่อ​จะ​ซื้อ​อาหาร​ได้.

บรรดา​สาวก​ใน​กรุง​ยะรูซาเลม​ปรารถนา​จะ​ช่วยเหลือ​คน​เหล่า​นั้น. ดัง​นั้น สาวก​เหล่า​นี้​หลาย​คน​ได้​ขาย​ทรัพย์​สิ่ง​ของ​ที่​เขา​มี​อยู่​แล้ว​นำ​เงิน​มา​มอบ​ไว้​กับ​พวก​อัครสาวก​ของ​พระ​เยซู. แล้ว​พวก​อัครสาวก​ก็​แจก​จ่าย​เงิน​ให้​กับ​ผู้​ที่​ขาดแคลน.

สาวก​คน​หนึ่ง​ชื่อ​อะนาเนีย​กับ​สัปไฟเร​ภรรยา​ของ​เขา​ได้​ขาย​ที่​นา​ของ​ตน. ไม่​มี​ใคร​บอก​ให้​เขา​ขาย. เขา​ตัดสินใจ​ขาย​เอง. แต่​ที่​เขา​ทำ​เช่น​นั้น​มิ​ใช่​เพราะ​เขา​รัก​พวก​สาวก​ใหม่ ๆ หรอก. แท้​จริง​แล้ว​เขา​อยาก​ให้​ใคร ๆ คิด​ว่า​เขา​เป็น​คน​ดี​กว่า​ที่​เขา​เป็น​อยู่​จริง ๆ. ดัง​นั้น เขา​จึง​ตก​ลง​ใจ​ทำที​ราว​กับ​ว่า​เขา​สละ​เงิน​นี้​ทั้ง​หมด​เพื่อ​ช่วยเหลือ​ผู้​อื่น. แต่​ที่​แท้​แล้ว​เขา​ให้​เพียง​แต่​ส่วน​หนึ่ง​เท่า​นั้น​และ​เก็บ​ส่วน​ที่​เหลือ​เอา​ไว้. ลูก​คิด​อย่าง​ไร​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นั้น?—

อะนาเนีย​มา​หา​อัครสาวก​ของ​พระ​เยซู​ก่อน. เขา​ได้​มอบ​เงิน​นั้น​ไว้​กับ​อัครสาวก. แต่​อะนาเนีย​มิ​ได้​ให้​เงิน​นั้น​ทั้ง​หมด. พระเจ้า​ทรง​ทราบ​เรื่อง​นี้. ดัง​นั้น พระองค์​จึง​ทรง​โปรด​ให้​อัครสาวก​เปโตร​ทราบ​ความ​ไม่​ซื่อ​สัตย์​ของ​อะนาเนีย. ทันใด​นั้น​เปโตร​จึง​บอก​ว่า

‘อะนาเนีย เหตุ​ไฉน​เจ้า​จึง​ยอม​ให้​ซาตาน​เป็น​เหตุ​ให้​เจ้า​ทำ​เช่น​นี้? ที่​นา​นั้น​เป็น​ของ​เจ้า. เจ้า​ไม่​จำเป็น​ต้อง​ขาย. และ​แม้​แต่​เมื่อ​เจ้า​ขาย​ที่​นา​นั้น​แล้ว ก็​สุด​แล้ว​แต่​เจ้า​จะ​ตัดสินใจ​ว่า​จะ​ทำ​อย่าง​ไร​กับ​เงิน​นั้น. แต่​ทำไม​เจ้า​จึง​ทำที​ว่า​มอบ​เงิน​นั้น​ทั้ง​หมด​ใน​เมื่อ​เจ้า​มอบ​เพียง​แต่​ส่วน​หนึ่ง​เท่า​นั้น? โดย​การ​กระทำ​เช่น​นี้ เจ้า​ได้​โกหก ไม่​เพียง​แต่​เรา​เท่า​นั้น แต่​โกหก​พระเจ้า​ด้วย.’

เป็น​เรื่อง​ร้ายแรง​ถึง​ขนาด​นั้น. อะนาเนีย​กำลัง​โกหก! เขา​ไม่​ได้​ทำ​ตาม​ที่​เขา​พูด. เขา​และ​ภรรยา​เพียง​แต่​เสแสร้ง​ว่า​จะ​ทำ.

พระ​คัมภีร์​บอก​เรา​ถึง​เหตุ​การณ์​ที่​เกิด​ขึ้น​ต่อ​มา​ว่า ‘เมื่อ​ได้​ยิน​คำ​พูด​ของ​เปโตร​เข้า อะนาเนีย​ก็​ล้ม​ลง​ตาย.’ พระเจ้า​ทรง​ทำ​ให้​อะนาเนีย​ตาย! ศพ​ของ​เขา​ถูก​หาม​ออก​ไป​ฝัง​เสีย.

หลังจาก​นั้น​ประมาณ​สาม​ชั่วโมง สัปไฟเร​ภรรยา​ของ​เขา​ก็​เข้า​มา. เธอ​ไม่​รู้​ว่า​ได้​เกิด​อะไร​ขึ้น​กับ​สามี​ของ​ตน. ดัง​นั้น เปโตร​จึง​ถาม​เธอ​ว่า ‘เจ้า​ทั้ง​สอง​ขาย​ที่​นา​ได้​เงิน​ตาม​จำนวน​ที่​นำ​มา​มอบ​ไว้​กับ​เรา​นั้น​หรือ?’

สัปไฟเร​ตอบ​ว่า ‘ใช่​เจ้า​ค่ะ เรา​ขาย​ที่​นา​ได้​เงิน​เท่า​นั้น​แหละ.’

แต่​นั่น​เป็น​คำ​โกหก! เขา​เก็บ​เงิน​ส่วน​หนึ่ง​ไว้​สำหรับ​ตัว​เอง. ดัง​นั้น พระเจ้า​จึง​ทรง​ทำ​ให้​สัปไฟเร​ตาย​ด้วย​เช่น​กัน.—กิจการ 5:1-11.

ลูก​คิด​ว่า​มี​บาง​อย่าง​ที่​เรา​ควร​เรียน​จาก​สิ่ง​ซึ่ง​เกิด​ขึ้น​กับ​อะนาเนีย​และ​สัปไฟเร​ไหม?— ใช่​แล้ว. เรื่อง​นั้น​สอน​เรา​ว่า พระเจ้า​ไม่​ชอบ​พระทัย​คน​โกหก. พระองค์​ทรง​ประสงค์​ให้​เรา​พูด​ความ​จริง​เสมอ.

หลายคน​บอก​ว่า​การ​โกหก​นั้น​ไม่​ใช่​สิ่ง​ไม่​ดี. เขา​เหล่า​นั้นพูด​โกหก​เกือบ​จะ​ทุก​วัน. แต่​ลูก​คิด​ว่า​นั่น​เป็น​การ​ถูก​ต้อง​ไหม?—

ลูก​รู้​ไหม​ว่า​ความ​เจ็บ​ไข้​ได้​ป่วย, ความ​เจ็บปวด​และ​ความ​ตาย​ที่​มีอยู่​ใน​โลก​ได้​เกิด​ขึ้น​ก็​เนื่อง​จาก​คำ​โกหก?— พญา​มาร​โกหก​กับ​ฮาวา​ผู้​หญิง​คน​แรก​เกี่ยว​กับ​พระเจ้า. ผล​ก็​คือ เธอ​ฝ่าฝืน​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า. แล้ว​เธอ​ทำ​ให้​อาดาม​ฝ่าฝืน​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า​เหมือน​กัน. ดัง​นั้น​เขา​จึง​เป็น​คน​บาป และ​ลูก​หลาน​ทั้ง​หมด​ของ​เขา​จึง​เกิด​มาเป็น​คน​บาป. และ​เนื่อง​จาก​บาป​นั้น เขา​จึง​ต้อง​ทน​รับ​ความ​ทุกข์​แล้ว​ก็​ตาย​ไป. ทั้ง​หมด​นี้​เริ่ม​ต้น​ขึ้น​อย่าง​ไร?— ก็​ด้วย​คำ​โกหก​นั่น​เอง.

ไม่​แปลก​ที่​พระ​เยซู​ตรัส​ว่า​พญา​มาร “เป็น​ช่าง​มุสา​และ​เป็น​พ่อ​ของ​การ​มุสา​นั้น.” พญา​มาร​เป็น​ผู้​แรก​ที่​กล่าว​คำ​โกหก. เมื่อ​ผู้​ใด​พูด​โกหก เขา​ก็​ทำ​ตาม​สิ่ง​ที่​พญา​มาร​ได้​ทำ. เรา​ควร​นึก​ถึง​เรื่อง​นี้​ถ้า​เรา​รู้สึก​ถูก​ล่อ​ลวง​ให้​โกหก.—โยฮัน 8:44.

บ่อย​ครั้ง​เมื่อ​คน​เรา​ทำ​สิ่ง​ผิด​ที่​เขา​อาจ​รู้สึก​อยาก​จะ​โกหก​เกี่ยว​ด้วย​เรื่อง​นั้น. ตัว​อย่าง​เช่น ลูก​อาจ​ทำ​ของ​บาง​อย่าง​แตก. ลูก​อาจ​ไม่​ได้​ตั้ง​ใจ​ทำ​อย่าง​นั้น แต่​ถึง​อย่าง​ไร​ของ​นั้น​ก็​แตก​ไป​แล้ว. ลูก​ควร​จะ​ทำ​อย่าง​ไร?— ลูก​ควร​จะ​พยายาม​ปิด​บัง​และ​หวัง​ว่า​จะ​ไม่​มี​ใคร​รู้​เรื่องอย่างนั้น​ไหม?—

เรา​ควร​จดจำ​เรื่อง​อะนาเนีย​และ​สัปไฟเร​ไว้. เขา​พยายาม​ปิด​บัง​ความ​จริง. และ​พระเจ้า​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​การ​ทำ​เช่น​นั้น​เป็น​การ​ไม่​ดี​สัก​เพียงไร​โดย​ทรง​ทำ​ให้​เขา​ตาย.

ฉะนั้น ไม่​ว่า​เรา​จะ​ทำ​อะไร ๆ ก็​ตาม เรา​ไม่​ควร​โกหก​ด้วย​เรื่อง​นั้น​เป็น​อัน​ขาด. พระ​คัมภีร์​บอก​ว่า “จง​พูด​ความ​จริง.” ทั้ง​บอก​อีก​ด้วย​ว่า “อย่า​พูด​มุสา​ต่อ​กัน​และ​กัน.” พระ​ยะโฮวา​ทรง​พูด​ความ​จริง​เสมอ และ​พระองค์​คาดหมาย​ให้​เรา​ทำ​อย่าง​เดียว​กัน.”—เอเฟโซ 4:25; โกโลซาย 3:9.

(เรา​ควร​พูด​ความ​จริง​เสมอ. นั่น​เป็น​จุด​สำคัญ​ที่​มี​บอก​ไว้​ใน​เอ็กโซโด 20:16; สุภาษิต 6:16-19; 14:5; 12:19; 16:6.)

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์