ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • รฟ บท 29 น. 119-122
  • จงเป็นเพื่อนกับคนที่รักพระเจ้า

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • จงเป็นเพื่อนกับคนที่รักพระเจ้า
  • การรับฟังครูผู้ยิ่งใหญ่
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • เพื่อน ๆ ของเราควรรักพระเจ้า
    จงเรียนจากครูผู้ยิ่งใหญ่
  • รักษาผู้ชายตาบอดและช่วยศักเคียส
    พระเยซู—ทางนั้น ความจริง ชีวิต
  • ทรงสั่งสอน ณ เมืองยะริโฮ
    บุรุษผู้ใหญ่ยิ่งเท่าที่โลกเคยเห็น
  • เลือก​คบ​เพื่อน​อย่าง​ฉลาด
    ชีวิตที่มีความสุขตลอดไป—ได้ประโยชน์จากการเรียนคัมภีร์ไบเบิล
ดูเพิ่มเติม
การรับฟังครูผู้ยิ่งใหญ่
รฟ บท 29 น. 119-122

บท 29

จง​เป็น​เพื่อน​กับ​คนที่รักพระเจ้า

บอก​พ่อ (แม่) ซิ​ว่า​ใคร​บ้าง​ที่​เป็น​เพื่อน​ของ​ลูก. เขา​ชื่อ​อะไร?—

การ​มี​เพื่อน​ย่อม​เป็น​การ​ดี. เพื่อน​ก็​คือ​ผู้​ที่​ลูก​อยาก​จะ​ใช้​เวลา​อยู่​ด้วย. ลูก​ชอบ​พูด​กับ​เขา​และ​ทำ​อะไร​ต่อ​อะไร​ด้วย​กัน.

การ​มี​เพื่อน​ชนิด​ที่​ถูก​ต้อง​นับ​ว่า​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​เช่น​กัน. เรา​จะ​รู้​ได้​อย่าง​ไร​ว่า​เขา​เป็น​เพื่อน​ชนิด​ที่​ถูก​ต้อง​หรือ​ไม่?—

ลูก​ว่า​ใคร​เป็น​บุคคล​สำคัญ​ที่​สุด​ใน​ชีวิต​ของ​เรา?— พระเจ้า​ยะโฮวา​นั่น​เอง ใช่​ไหม?— ชีวิต​ของ​เรา ลม​หายใจ​ของ​เรา​และ​สิ่ง​ดี​ทุก​อย่าง​ล้วน​มา​จาก​พระองค์. เรา​ไม่​ปรารถนา​จะ​ทำ​สิ่ง​ซึ่ง​จะ​ทำลาย​มิตรภาพ​ของ​เรา​กับ​พระเจ้าใช่​ไหม?— แต่​ลูก​รู้​ไหม​ว่า​การ​เลือก​คบ​เพื่อน​อาจ​ทำลาย​มิตรภาพ​นั้น​ได้?— นั่น​ถูก​ต้อง​ที​เดียว. ดัง​นั้น เรา​จึงต้อง​ระมัดระวัง​ใน​การ​เลือก​คบ​เพื่อน.

ครู​ผู้​ยิ่ง​ใหญ่​ทรงชี้แจง​ให้​เรา​ทราบ​ว่า​จะ​เลือกอย่างไร. พระองค์​ทรง​มี​เพื่อน ๆ ชนิด​ที่​ถูก​ต้อง. พระองค์​ตรัส​ว่า “ถ้า​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​ประพฤติ​ตาม​ที่​เรา​สั่ง​ท่าน ๆ จะ​เป็น​มิตร​สหาย​ของ​เรา.” ทำไม​จึง​เป็น​เช่น​นั้น?— เพราะ​ว่า​ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง​ที่​พระ​เยซู​ทรงบอก​แก่​ประชาชน​นั้น​มา​จาก​พระเจ้า. ดัง​นั้น พระ​เยซู​จึง​บอก​ว่า​เพื่อน ๆ ของ​พระองค์​ก็​คือ​ผู้​คนซึ่ง​ทำ​ตาม​สิ่ง​ที่​พระเจ้า​ทรงบอก​ว่าเขาควรจะทำ.—โยฮัน 15:14.

ข้อ​นี้​ไม่​ได้​หมายความ​ว่า​พระ​เยซู​ไม่​ทรง​กรุณา​ต่อ​คน​ที่​ไม่​เอา​การ​เอางานใน​การ​รับใช้​พระเจ้า. พระองค์​ทรง​กรุณา. พระองค์​ถึง​กับ​เสด็จ​ไป​ยัง​บ้าน​เขา​และ​รับประทาน​อาหาร​กับ​เขา​เสีย​ด้วย​ซ้ำ. บาง​คน​ที่​ได้​ยิน​เรื่อง​นี้​พูด​ว่า​พระ​เยซู​เป็น ‘เพื่อน​ของ​คน​บาป.’ แต่​ว่า​ข้อ​นี้​เป็น​ความ​จริง​ไหม?— —มัดธาย 11:19.

เปล่า ไม่​เป็น​ความ​จริง. พระ​เยซู​ไม่​ได้​ไป​ยัง​บ้าน​ของ​เขา​เพราะ​พระองค์​พอพระทัย​ใน​แนว​ทาง​ที่​เขา​ดำเนิน​ชีวิต. พระองค์​ไป​เยี่ยม​เขา​ก็​เพื่อ​จะ​พูด​กับ​เขา​ถึง​เรื่อง​พระเจ้า. พระองค์​ทรงพยายาม​จะ​ช่วย​เขา​ให้​เปลี่ยน​จาก​แนว​ทาง​ที่​ไม่​ดี​ของ​เขา​แล้ว​มา​รับใช้​พระเจ้า.

วัน​หนึ่ง​ได้​เกิด​เหตุ​การณ์​นี้​ขึ้น​ที่​เมือง​ยะริโฮ. พระ​เยซู​เพียง​เดิน​ทาง​ผ่าน​เพื่อ​จะ​ไป​ยัง​กรุง​ยะรูซาเลม. ณ ที่​นั่น​มี​ฝูง​ชน​อยู่​กลุ่ม​หนึ่ง และ​ใน​ฝูง​ชน​นั้น​มี​ชาย​คน​หนึ่ง​ชื่อ​ซักคาย. เขา​อยาก​จะ​เห็น​พระ​เยซู. แต่​ซักคาย​เป็น​คน​ตัว​เล็กจึง​ไม่​เห็น​พระ​เยซู​เนื่อง​จาก​มี​ฝูง​ชน​มาก​มาย. ฉะนั้น เขา​จึง​วิ่ง​ไป​ข้าง​หน้า​ไป​ตาม​ถนน แล้ว​ปีน​ขึ้น​บน​ต้นไม้​เพื่อ​จะ​มอง​เห็น​ได้​ถนัด​ขณะ​ที่​พระ​เยซู​ผ่าน​ไป.

ครั้น​พระ​เยซู​มา​ถึง​ต้นไม้​นั้น พระองค์​จึง​ทรงมอง​ขึ้น​ไป​และ​บอก​ว่า ‘จง​รีบ​ลง​มา​เถิด. วัน​นี้​เรา​จะ​ไป​ยัง​บ้าน​ของ​ท่าน.’ แต่​ซักคาย​นั้น​เป็น​คน​มั่งมี​ซึ่ง​ได้​ทำ​สิ่ง​ไม่​ดี​หลาย​อย่าง. ทำไม​พระ​เยซู​จึงทรงต้องการ​ไป​บ้าน​ของ​คน​เช่น​นั้น?—

ไม่​ใช่​เพราะ​พระ​เยซู​ชอบ​วิธี​ที่​ชาย​คน​นั้น​ดำเนิน​ชีวิต​หรอก. พระ​เยซู​ไป​ที่​นั่น​ก็​เพื่อ​ที่​จะ​พูด​กับ​ซักคาย​ถึง​เรื่อง​พระเจ้า. พระองค์​ทรง​เห็น​ว่า​ชาย​คน​นั้น​พยายาม​มากแค่ไหนเพื่อ​จะ​ได้​เห็น​พระองค์. ฉะนั้น พระองค์​จึง​ทรง​ทราบ​ว่า​ซักคาย​คง​จะ​ยอม​รับ​ฟัง. นี่​คง​เป็น​โอกาส​ดี​ที่​จะ​พูด​กับ​เขา​ถึง​วิธี​ที่​พระเจ้า​ตรัสว่า​เรา​ควรดำเนิน​ชีวิตตามนั้น.

ผล​เป็น​อย่าง​ไร? ซักคาย​ได้​เปลี่ยน​จาก​แนว​ทาง​ที่​ไม่​ดี​ของ​เขา. เขา​ได้​คืน​เงิน​ซึ่ง​เขา​ไม่​มี​สิทธิ​จะ​เอา​นั้น​แล้ว​มา​เป็น​ผู้​ติด​ตาม​คน​หนึ่ง​ของ​พระ​เยซู. ใน​ครั้ง​นั้น​เอง​ที่​พระ​เยซู​กับ​ซักคาย​ได้​มา​เป็น​เพื่อน​กัน.—ลูกา 19:1-10.

ดัง​นั้น ถ้า​เรา​เรียน​จาก​ครู​ผู้​ยิ่ง​ใหญ่​แล้ว เรา​จะ​ไป​เยี่ยม​ผู้คน​ที่​ไม่ใช่​เพื่อน​ของ​เรา​ไหม?— ไปแน่. แต่​เรา​ไม่​ได้​ไป​บ้าน​ของ​เขา​เพราะ​เรา​ชอบ​วิธี​ที่​เขา​ดำเนิน​ชีวิต​นั้น​หรอก. และ​เรา​ก็​จะ​ไม่​ทำ​สิ่ง​ที่​ผิด ๆ ด้วย​กัน​กับ​เขา. เรา​ไป​เยี่ยม​เขา​เพื่อ​จะ​พูด​กับ​เขา​ถึง​เรื่อง​พระเจ้าได้.

แต่​ว่า​เพื่อน​สนิท​ของ​เรา​นั้น​คือ​ผู้​ซึ่ง​เรา​ชอบ​ใช้​เวลา​อยู่​กับ​เขา​เป็นพิเศษ. เรา​เห็น​แล้ว​ว่า​ที่​เขาจะ​เป็น​เพื่อน​ชนิด​ที่​ถูก​ต้อง​เหมาะสม​นั้น เขา​ต้อง​เป็น​คน​ชนิด​ที่​พระเจ้า​ชอบ​พระทัย. แต่​ว่า​เรา​จะ​บอก​ได้​อย่าง​ไร​ว่า​เขา​เป็น​คน​ชนิด​นั้น​หรือ​ไม่?—

เอา​ละ วิธี​ที่​ดี​อย่างหนึ่ง​คือ​ถาม​เขา​ว่า เธอ​รัก​พระ​ยะโฮวา​ไหม? บาง​คน​อาจ​ไม่​เคย​รู้จัก​ด้วย​ซ้ำ​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ใคร. แต่​ถ้า​เขา​ต้องการ​จะ​เรียน​รู้​ถึง​เรื่อง​พระองค์ เรา​ก็​สามารถ​ช่วย​เขา​ได้. และ​ครั้น​ถึง​คราว​ที่​เขา​รัก​พระ​ยะโฮวา​เช่น​เดียว​กับ​เรา​แล้ว เรา​จึง​จะ​เป็น​เพื่อน​สนิท​กัน​ได้.

มี​อีก​วิธี​หนึ่ง​ที่​จะ​พิสูจน์​ดู​ว่า​บุคคล​นั้น​จะ​เป็น​เพื่อน​ที่​ดี​หรือ​ไม่. จง​คอย​ดู​สิ่ง​ต่าง ๆ ที่​เขา​ทำ. เขา​ทำ​สิ่ง​ที่​ไม่​กรุณา​ต่อ​คน​อื่น ๆ แล้ว​ก็​หัวเราะ​ไหม? นั่น​ไม่​ถูก​ต้อง​ใช่​ไหม?— เขา​ตก​เข้า​สู่​ความ​ยุ่งยาก​อยู่​เสมอ​ไหม? เรา​คง​ไม่​อยาก​ประสบ​ความ​ยุ่งยาก​พร้อม​กับ​เขา​ใช่​ไหม?— หรือ​มิ​ฉะนั้น​เขา​อาจ​เจตนา​ทำ​สิ่ง​ไม่​ดี​ต่าง ๆ แล้ว​ก็​คิด​ว่า​ตน​เป็น​คน​ฉลาดเพราะ​ไม่​มี​ใคร​จับ​ได้​เช่น​นั้น​ไหม? ถึง​แม้​จะ​ไม่​มี​ใคร​จับ​เขา​ได้ พระเจ้า​ทรง​มอง​เห็น​สิ่ง​ที่​เขา​ทำ​นั้นมิ​ใช่​หรือ?— ลูก​คิด​ว่า​บุคคล​ผู้​ซึ่ง​ทำ​สิ่ง​ต่าง ๆ เช่น​นั้น​จะ​เป็น​เพื่อน​ที่​ดี​ไหม​ล่ะ?—

เอา​พระ​คัมภีร์​ของ​ลูก​ออก​มาดีไหม และ​มา​ดู​กัน​ว่า​พระ​คัมภีร์​บอก​ว่า​เพื่อน​ของ​เรา​มี​ผล​กระทบ​ต่อ​ชีวิต​ของ​เราอย่างไรบ้าง? ข้อ​คัมภีร์​นั้น​อยู่ที่​หนึ่ง​โกรินโธ​บท 15 ข้อ 33. ลูก​หา​พบ​แล้ว​หรือ​ยัง?

ใน​คัมภีร์ฉบับแปลโลกใหม่​ข้อ​นี้​อ่าน​ว่า “อย่า​ให้​ผู้​ใด​ลวง​ท่าน. การ​คบ​หา​สมาคม​ที่​ไม่​ดี​ย่อม​ทำ​ให้​นิสัย​ดี​เสีย​ไป.” นั่น​หมายความ​ว่า ถ้าเรา​คบ​กับ​คน​ที่​ไม่​ดี เรา​ก็​ย่อม​จะ​กลาย​เป็น​คน​ไม่​ดี​ไป​ด้วย. และ​ก็​เป็น​ความ​จริง​ด้วย​เช่น​กัน​ว่า เพื่อน​ที่​ดี​ย่อม​ช่วย​เรา​ให้​ปลูกฝัง​นิสัย​ที่ดีได้.

อย่า​ลืม​ว่า​บุคคล​สำคัญ​ที่​สุด​ใน​ชีวิต​ของ​เรา​ก็​คือ​พระ​ยะโฮวา. เรา​ไม่​ปรารถนา​ที่​จะ​ทำ​ให้​มิตรภาพ​ของ​เรา​กับ​พระองค์​นั้น​ต้อง​เสีย​ไป​ใช่​ไหม?— ดัง​นั้น เรา​จึง​ต้อง​ระมัดระวัง​ที่​จะ​เป็น​เพื่อน​เฉพาะ​กับ​คน​เหล่า​นั้น​ที่​รัก​พระเจ้า.

(ความ​สำคัญ​ใน​เรื่อง​เพื่อน​ฝูง​ชนิด​ที่​ถูก​ต้อง​นั้น​ยัง​มี​บอก​ไว้​อย่าง​ชัดเจน​ด้วย​ใน 1 โยฮัน 2:15; 2 โครนิกา 19:2; บทเพลง​สรรเสริญ 119:115 และ 2 ติโมเธียว 2:22. โปรด​อ่าน​ข้อ​คัมภีร์​เหล่า​นี้​ด้วย​กัน.)

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์