ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • มส บท 3 น. 25-37
  • พระธรรมเยเนซิศบอกอย่างไร?

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • พระธรรมเยเนซิศบอกอย่างไร?
  • ชีวิต—เกิดขึ้นมาอย่างไร? โดยวิวัฒนาการหรือมีผู้สร้าง?
  • หัวเรื่องย่อย
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • “วัน” ใน​พระ​ธรรม​เยเนซิศ​บท​แรก​นาน​เท่า​ใด?
  • “วัน” ที่​หนึ่ง
  • “วัน” ที่​สอง
  • “วัน” ที่​สาม
  • พืช​บน​บก​ใน “วัน” ที่​สาม
  • “วัน” ที่​สี่
  • “วัน” ที่​ห้า
  • “วัน” ที่​หก
  • ผู้​เขียน​พระ​ธรรม​เยเนซิศ​รู้​เรื่อง​ราว​นี้​ได้​อย่าง​ไร?
  • พระเจ้าเริ่มสร้างเอกภพเมื่อไร?
    ถาม-ตอบเรื่องคัมภีร์ไบเบิล
  • การทรงสร้างที่เริ่มต้นแต่ละวันได้สำเร็จในวันนั้นไหม?
    ตื่นเถิด! 1991
  • วิทยาศาสตร์​และ​เรื่อง​ราว​ใน​เยเนซิศ
    มีใครสร้างสิ่งมีชีวิตไหม?
  • วิทยาศาสตร์ขัดแย้งกับเรื่องราวในพระธรรมเยเนซิศไหม?
    ตื่นเถิด! 2006
ดูเพิ่มเติม
ชีวิต—เกิดขึ้นมาอย่างไร? โดยวิวัฒนาการหรือมีผู้สร้าง?
มส บท 3 น. 25-37

บท 3

พระ​ธรรม​เยเนซิศ​บอก​อย่าง​ไร?

1. (ก) อะไร​คือ​จุด​มุ่ง​หมาย​ของ​การ​พิจารณา​พระ​ธรรม​เยเนซิศ​ใน​บท​นี้​และ​ควร​จด​จำ​อะไร? (ข) มี​การ​พรรณนา​เหตุ​การณ์​อย่าง​ไร​ใน​เยเนซิศ​บท​ที่​หนึ่ง?

สิ่ง​อื่น ๆ ที่​เคย​มี​การ​บิดเบือน​หรือ​มี​การ​เข้าใจ​ผิด​ฉัน​ใด บท​แรก​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ก็​สม​ควร​ได้​รับ​การ​พิจารณา​ด้วย​ความ​เที่ยงธรรม​ฉัน​นั้น. สิ่ง​สำคัญ​คือ​การ​ตรวจ​สอบ​และ​พิเคราะห์​ให้​ดี​ว่า​พระ​คัมภีร์​สอดคล้อง​กับ​ข้อ​เท็จ​จริง​ที่​มี​อยู่​หรือ​ไม่ ไม่​ใช่​จะ​แปลง​เรื่อง​ให้​เข้า​กับ​เค้าโครง​ของ​ทฤษฎี​บาง​อย่าง. สิ่ง​น่า​จำ​อีก​ข้อ​หนึ่ง​คือ​เรื่อง​ราว​ใน​พระ​ธรรม​เยเนซิศ​ไม่​ได้​เขียน​ขึ้น​เพื่อ​ชี้​แจง “วิธี” สร้าง. แต่​พระ​ธรรม​เยเนซิศ​พูด​ถึง​ลำดับ​เหตุ​การณ์​เด่น ๆ ที่​เกิด​ขึ้น เป็น​การ​พรรณนา​ว่า​มี​อะไร​บ้าง​ถูก​สร้าง​ขึ้น สร้าง​อะไร​ก่อน และ​ระยะ​เวลา​หรือ “วัน” ซึ่ง​แต่​ละ​อย่าง​ปรากฏ​ขึ้น​มา​เป็น​ครั้ง​แรก.

2. (ก) การ​พรรณนา​เหตุ​การณ์​ต่าง ๆ ใน​เยเนซิศ ถือ​เอา​ทัศนะ​ของ​ผู้​ใด​เป็น​หลัก? (ข) การ​พรรณนา​ถึง​ดวง​สว่าง​ต่าง ๆ นั้น​บ่ง​ชี้​ถึง​เรื่อง​นี้​อย่าง​ไร?

2 เมื่อ​พิจารณา​เรื่อง​ราว​ใน​พระ​ธรรม​เยเนซิศ เป็น​การ​ดี​ที่​จะ​คำนึง​ไว้​เสมอ​ว่า​เป็น​การ​พิจารณา​เรื่อง​โดย​ถือ​เอา​ทัศนวิสัย​ของ​มนุษย์​บน​แผ่นดิน​โลก​เป็น​หลัก. ฉะนั้น จึง​เป็น​การ​พรรณนา​เหตุ​การณ์​ประหนึ่ง​ว่า​มนุษย์​เฝ้า​สังเกต​ดู​ใน​ตอน​นั้น​ถ้า​หาก​มี​มนุษย์​อยู่​แล้ว. ทั้ง​นี้​พอ​จะ​สังเกต​ได้​จาก​การ​ดำเนิน​เรื่อง​ใน “วัน” ที่​สี่​ของ​การ​สร้าง. ใน​ตอน​นั้น​มี​การ​พรรณนา​ดวง​อาทิตย์​และ​ดวง​จันทร์​ว่า​เป็น​ดวง​สว่าง​ใหญ่​เมื่อ​เปรียบ​เทียบ​กับ​ดวง​ดาว​อื่น ๆ. กระนั้น มี​ดวง​ดาว​หลาย​ดวง​ซึ่ง​ใหญ่​มหึมา​ยิ่ง​กว่า​ดวง​อาทิตย์ และ​ยิ่ง​ดวง​จันทร์​แล้ว​เทียบ​ไม่​ได้​เลย​กับ​ดาว​เหล่า​นั้น. แต่​สำหรับ​มนุษย์​ที่​มอง​ไป​จาก​แผ่นดิน​โลก​จะ​ไม่​เป็น​อย่าง​นั้น. ดัง​นั้น เมื่อ​มอง​จาก​แผ่นดิน​โลก ดวง​อาทิตย์​จึง​ปรากฏ​เป็น ‘ดวง​ใหญ่​ที่​ครอง​รักษา​วัน’ และ​ดวง​จันทร์​เป็น ‘ดวง​เล็ก​ที่​ครอง​รักษา​คืน.’—เยเนซิศ 1:14-18.

3. มี​การ​พรรณนา​ถึง​ลักษณะ​ของ​แผ่นดิน​โลก​เช่น​ไร​ก่อน “วัน” ที่​หนึ่ง?

3 ตอน​ต้น ๆ ของ​พระ​ธรรม​เยเนซิศ​แสดง​ว่า​แผ่นดิน​โลก​คง​มี​อยู่​นาน​แล้ว​นับ​หลาย​พัน​ล้าน​ปี​ก่อน “วัน” แรก​ที่​กล่าว​ใน​เยเนซิศ แม้​จะ​ไม่​ได้​บอก​ว่า​นาน​แค่​ไหน. อย่าง​ไร​ก็​ดี ส่วน​นั้น​พรรณนา​สภาพ​แผ่นดิน​โลก​ก่อน “วัน” แรก​เริ่ม​ขึ้น ดัง​นี้ “แผ่นดิน​โลก​ยัง​ไม่​ปรากฏ​รูป​และ​ว่าง​เปล่า และ​มี​ความ​มืด​อยู่​เหนือ​ผิว​น้ำ​ลึก และ​พลัง​ปฏิบัติ​งาน​ของ​พระเจ้า​เคลื่อน​ไหว​ไป​มา​อยู่​เหนือ​ผิว​น้ำ.”—เยเนซิศ 1:2, ล.ม.

“วัน” ใน​พระ​ธรรม​เยเนซิศ​บท​แรก​นาน​เท่า​ใด?

4. ใน​บันทึก​เกี่ยว​กับ​การ​สร้าง​นี้ มี​อะไร​ที่​บ่ง​ชี้​ว่า​คำ “วัน” มิ​ได้​หมาย​เพียง​ถึง​ช่วง​เวลา 24 ชั่วโมง?

4 หลาย​คน​คิด​ว่า​คำ “วัน” ที่​ใช้​ใน​เยเนซิศ​บท 1 หมาย​ถึง 24 ชั่วโมง. อย่าง​ไร​ก็​ดี​ใน​เยเนซิศ 1:5 พระเจ้า​ทรง​แบ่ง​วัน​เป็น​ช่วง​สั้น​กว่า​นั้น ทรง​เรียก​เฉพาะ​ช่วง​สว่าง​ว่า “วัน.” ใน​เยเนซิศ 2:4 ทุก ​ช่วง​แห่ง​การ​สร้าง​ถูก​เรียก​ว่า หนึ่ง “วัน”: “เรื่อง​ฟ้า​และ​แผ่นดิน​ที่​พระองค์​ได้​ทรง​สร้าง​ก็​เป็น​ดัง​นี้ ใน​วัน [ตลอด​ระยะ​การ​สร้าง​หก​ช่วง] ที่​พระ​ยะโฮวา​เจ้า​ได้​ทรง​สร้าง​ฟ้า​และ​แผ่นดิน.”

5. ความ​หมาย​อย่าง​หนึ่ง​ของ​คำ “วัน” ใน​ภาษา​ฮีบรู​คือ​อะไร ซึ่ง​แสดง​ว่า​อาจ​หมาย​ถึง​ระยะ​เวลา​นาน​กว่า?

5 คำ​ภาษา​ฮีบรู​ยอห์ม แปล​ว่า “วัน” อาจ​หมาย​ถึง​ช่วง​เวลา​ที่​ยาว​นาน​ต่าง​กัน. ความ​หมาย​หนึ่ง​ซึ่ง​เป็น​ไป​ได้​ตาม​ที่​หนังสือ​การ​ศึกษา​ถ้อย​คำ​ใน​พระ​คัมภีร์​เดิม ​ของ​วิลเลียม วิลสัน​ได้​รวม​ข้อ​นี้​ไว้​ด้วย​ดัง​นี้ “วัน มัก​จะ​หมาย​ถึง​เวลา​โดย​ทั่ว​ไป หรือ​เวลา​ใน​ระยะ​ยาว ตลอด​ช่วง​เวลา​ที่​อยู่​ใน​ข่าย​การ​พิจารณา . . . อนึ่ง วัน​หมาย​ถึง​ฤดู​กาล​เฉพาะ​หรือ​เวลา​ที่​เกิด​เหตุ​การณ์​พิเศษ.” ประโยค​สุด​ท้าย​นี้​ดู​เหมือน​จะ​เหมาะ​กับ “วัน” ที่​เกี่ยว​กับ​การ​สร้าง เพราะ​แน่นอน มัน​เป็น​ช่วง​เวลา​ซึ่ง​พรรณนา​ถึง​เหตุ​การณ์​พิเศษ. นอก​จาก​นั้น การ​นิยาม​ดัง​กล่าว​แสดง​ว่า คำ “วัน” อาจ​หมาย​ถึง​ช่วง​ซึ่ง​นาน​กว่า 24 ชั่วโมง​ก็​ได้.

6. เหตุ​ใด​การ​พูด​ถึง “เวลา​เย็น” และ “เวลา​เช้า” จึง​ไม่​จำกัด “วัน” ว่า​จะ​มี​เพียง 24 ชั่วโมง​เท่า​นั้น?

6 เยเนซิศ​บท 1 ใช้​คำ “เวลา​เย็น” และ “เวลา​เช้า” เกี่ยว​เนื่อง​กับ​ระยะ​เวลา​แห่ง​การ​สร้าง. ข้อ​นี้​บ่ง​ชี้​ว่า ระยะ​เวลา​นั้น​นาน 24 ชั่วโมง​มิ​ใช่​หรือ? ไม่​จำเป็น. ใน​บาง​แห่ง​ผู้​คน​มัก​จะ​พูด​ถึง​ชั่ว​ชีวิต​ของ​คน​หนึ่ง ๆ ว่า “วัน” ของ​เขา. เขา​พูด​ถึง “ใน​วัน​ของ​คุณ​พ่อ​ของ​ฉัน” หรือ “ใน​วัน​ของ​เชคสเปียร์.” เขา​อาจ​แบ่ง “วัน” อัน​หมาย​ถึง​ชั่ว​ชีวิต​นั้น​โดย​กล่าว​ว่า “ยาม​รุ่ง​อรุณ​แห่ง​ชีวิต​ของ​เขา” หรือ “ยาม​สนธยา​แห่ง​ชีวิต​ของ​เขา.” ดัง​นั้น “เวลา​เย็น​และ​เวลา​เช้า” ใน​เยเนซิศ​บท 1 ไม่​จำกัดความ​หมาย​ไว้​เพียง 24 ชั่วโมง​ตาม​ตัว​อักษร.

7. มี​การ​ใช้​คำ​ว่า “วัน” แบบ​ใด​อีก​ซึ่ง​แสดง​ว่า​อาจ​เป็น​ระยะ​เวลา​นาน​กว่า 24 ชั่วโมง?

7 “วัน” ดัง​ที่​ใช้​ใน​พระ​คัมภีร์​อาจ​รวม​ถึง​ฤดู​ร้อน​และ​ฤดู​หนาว การ​ล่วง​เลย​แห่ง​ฤดู​กาล. (ซะคาระยา 14:8) “ฤดู​เกี่ยว​ข้าว” ย่อม​กิน​เวลา​หลาย​วัน. (เปรียบ​เทียบ​สุภาษิต 25:13 และ​เยเนซิศ 30:14, ล.ม.) มี​การ​เปรียบ​เวลา​หนึ่ง​พัน​ปี​เป็น​เหมือน​วัน​เดียว. (บทเพลง​สรรเสริญ 90:4; 2 เปโตร 3:8, 10) “วัน​พิพากษา” คลุม​เวลา​หลาย​ปี. (มัดธาย 10:15; 11:22-24) ดัง​นั้น จึง​ดู​มี​เหตุ​ผล​ที่ “วัน” ใน​พระ​ธรรม​เยเนซิศ​อาจ​จะ​คลุม​เวลา​ระยะ​ยาว—นาน​พัน ๆ ปี. อย่าง​นั้น​แล้ว​มี​อะไร​เกิด​ขึ้น​ใน​ยุค​ต่าง ๆ แห่ง​การ​สร้าง? เรื่อง​ใน​พระ​คัมภีร์​เกี่ยว​กับ​ยุค​ต่าง ๆ นั้น​ถูก​ต้อง​ตาม​หลัก​วิทยาศาสตร์​ไหม? ต่อ​ไป​นี้​เป็น​การ​ทบทวน “วัน” เหล่า​นี้​ดัง​ที่​บอก​ไว้​ใน​พระ​ธรรม​เยเนซิศ.

“วัน” ที่​หนึ่ง

8, 9. มี​อะไร​เกิด​ขึ้น​ใน “วัน” ที่​หนึ่ง และ​พระ​ธรรม​เยเนซิศ​บอก​ว่า ดวง​อาทิตย์​และ​ดวง​จันทร์​ถูก​สร้าง​ขึ้น​ใน​วัน​นั้น​ไหม?

8 “‘ให้​เกิด​มี​ความ​สว่าง.’ ความ​สว่าง​ก็​เกิด​ขึ้น. และ​พระเจ้า​ทรง​เรียก​ความ​สว่าง​นั้น​ว่า​วัน และ​ทรง​เรียก​ความ​มืด​นั้น​ว่า​คืน. มี​เวลา​เย็น​และ​เวลา​เช้า​เป็น​วัน​ที่​หนึ่ง.”—เยเนซิศ 1:3, 5.

9 แน่นอน มี​ดวง​อาทิตย์​และ​ดวง​จันทร์​อยู่​แล้ว​ใน​อวกาศ​ชั้น​นอก​นาน​ก่อน “วัน” ที่​หนึ่ง​เริ่ม​ต้น แต่​แสง​สว่าง​ไม่​ได้​ส่อง​มา​ถึง​ผิว​โลก​พอ​ที่​ผู้​สังเกต​บน​โลก​จะ​มอง​เห็น​ได้. บัด​นี้​แสง​สว่าง​ปรากฏ​ให้​เห็น​ได้​บน​โลก​ใน “วัน” ที่​หนึ่ง​นี้ และ​โลก​ซึ่ง​หมุน​รอบ​ตัว​เอง​ก็​เริ่ม​มี​วัน​และ​คืน.

10. ความ​สว่าง​นั้น​อาจ​เกิด​ขึ้น​ได้​อย่าง​ไร และ​คง​จะ​เป็น​แสง​ชนิด​ใด?

10 ดู​เหมือน​ว่า ความ​สว่าง​ส่อง​แสง​กล้า​ขึ้น​ที​ละ​น้อย​และ​เป็น​ช่วงเวลา​ที่​ยาว​นาน ไม่​ใช่​เกิด​ขึ้น​ทันที​เหมือน​เมื่อ​เรา​กด​สวิช​เปิด​ไฟ. พระ​ธรรม​เยเนซิศ​ใน​คัมภีร์​ฉบับ​แปล​โดย เจ. ดับบลิว. วัตส์ ให้​ความ​หมาย​นี้​เมื่อ​บอก​ว่า “และ​แสง​สว่าง​ก็​ค่อย ๆ ปรากฏ​ขึ้น.” (ฉบับ​แปล​พระ​ธรรม​เยเนซิศ​ที่​แจ่ม​ชัด) แสง​สว่าง​นี้​มา​จาก​ดวง​อาทิตย์ แต่​กระนั้น​ก็​ไม่​อาจ​เห็น​ดวง​อาทิตย์ เนื่อง​จาก​ท้องฟ้า​ครึ้ม. ดัง​นั้น แสง​ที่​ส่อง​มา​ยัง​โลก​จึง​เป็น “แสง​สลัว” ดัง​บท​วิจารณ์​เกี่ยว​กับ​ข้อ 3 ใน​หนังสือ เอ็มฟาไซส์ด ไบเบิล โดย​รอเธอร์แฮม​อธิบาย​ไว้.—ดู​หมายเหตุ บี สำหรับ​ข้อ 14.

“วัน” ที่​สอง

11, 12. (ก) มี​การ​พรรณนา​ถึง​อะไร​ใน “วัน” ที่​สอง? (ข) คำ​ภาษา​ฮีบรู​เกี่ยว​กับ​ความ​คืบ​หน้า​เช่น​นี้​บาง​ครั้ง​ก็​แปล​ผิด​ไป​อย่าง​ไร และ​ความ​หมาย​ที่​แท้​จริง​คือ​อะไร?

11 “‘ให้​มี​พื้น​อากาศ​ใน​ระหว่าง​น้ำ ให้​เป็น​ที่​แยก​น้ำ​ออก​จาก​น้ำ.’ พระเจ้า​ได้​ทรง​สร้าง​พื้น​อากาศ แล้ว​ได้​แยก​น้ำ​ที่​อยู่​ใต้​พื้น​อากาศ​ออก​จาก​น้ำ​ที่​อยู่​เหนือ​พื้น​อากาศ​นั้น. ก็​เป็น​ดัง​นั้น. พระเจ้า​จึง​ตรัส​เรียก​พื้น​อากาศ​นั้น​ว่า​ฟ้า.”—เยเนซิศ 1:6-8.

12 คัมภีร์​ฉบับ​แปล​บาง​ฉบับ​ใช้​คำ “firmament” (หลังคา​โค้ง) แทน​คำ “พื้น​อากาศ.” ด้วย​เหตุ​นี้​จึง​มี​การ​โต้​แย้ง​กัน​ว่า​เรื่อง​ราว​ที่​มี​อยู่​ใน​พระ​ธรรม​เยเนซิศ​นั้น​เอา​มา​จาก​ตำนาน​การ​สร้าง ซึ่ง​แสดง​ว่า “พื้น​อากาศ” นี้​เป็น​เหมือน​หลังคา​โลหะ​มี​ลักษณะ​โค้ง. แม้​แต่​คัมภีร์​ฉบับ​คิงเจมส์​ซึ่ง​ใช้​คำ​ว่า “firmament” ก็​ได้​ให้​คำ​อธิบาย​ใน​ช่อง​หมายเหตุ​ว่า​เป็น “พื้น​อากาศ.” ทั้ง​นี้​เพราะ​คำ​ภาษา​ฮีบรู ราคีอะ แปล​ว่า “พื้น​อากาศ” หมาย​ถึง​ยื่น​ออก​ไป หรือ​กาง​ออก หรือ​แผ่​กว้าง.

13. อาจ​จะ​มอง​ดู​พื้น​อากาศ​ประหนึ่ง​ว่า​มี​อะไร​เกิด​ขึ้น?

13 พระ​ธรรม​เยเนซิศ​กล่าว​ว่า​พระเจ้า​ทรง​เนรมิต​ขึ้น​มา แต่​มิ​ได้​บอก​ว่า​โดย​วิธี​ใด. ไม่​ว่า​การ​แยก​ตาม​ที่​พรรณนา​นั้น​จะ​เป็น​โดย​วิธี​ใด​ก็​ตาม มัน​คง​เป็น​เหมือน​กับ​ว่า ‘น้ำ​ที่​อยู่​เหนือ​พื้น​อากาศ’ ถูก​ดัน​ให้​ลอย​ขึ้น​ไป​จาก​แผ่นดิน​โลก. และ​ต่อ​มา​จึง​กล่าว​ได้​ว่า​นก​ต่าง ๆ บิน​ไป​มา​ใน “ท้องฟ้า​อากาศ” ดัง​คำ​แถลง​ใน​เยเนซิศ 1:20.

“วัน” ที่​สาม

14. มี​การ​พรรณนา “วัน” ที่​สาม​อย่าง​ไร?

14 “‘ให้​น้ำ​ที่​อยู่​ใต้​ฟ้า​นั้น​รวบ​รวม​เข้า​แห่ง​เดียว​กัน ให้​ที่​แห้ง​ปรากฏ​ขึ้น.’ ก็​เป็น​ดัง​นั้น. พระเจ้า​จึง​ทรง​เรียก​ที่​แห้ง​นั้น​ว่า​แผ่นดิน และ​ที่​รวบ​รวม​น้ำ​นั้น​ว่า​ทะเล.” (เยเนซิศ 1:9, 10) เช่น​เคย บท​บันทึก​มิ​ได้​พรรณนา​ว่า​การณ์​นี้​เป็น​มา​อย่าง​ไร. ไม่​ต้อง​สงสัย​การ​เคลื่อน​ไหว​ครั้ง​ใหญ่​ของ​พื้น​ดิน​คง​ต้อง​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​ก่อ​ตัว​เป็น​แผ่นดิน. นัก​ธรณี​วิทยา​พูด​ถึง​การ​เปลี่ยน​แปลง​แบบ​ภัย​พิบัติ. แต่​พระ​ธรรม​เยเนซิศ​ชี้​ให้​เห็น​ว่า​มี​การ​ดำเนิน​งาน​และ​ควบคุม​โดย​พระ​ผู้​สร้าง.

15, 16. (ก) มี​การ​ถาม​โยบ​ใน​จุด​ใด​เกี่ยว​กับ​แผ่นดิน​โลก? (ข) รากฐาน​ของ​ทวีป​และ​เทือก​เขา​อยู่​ลึก​เท่า​ใด และ​อะไร​เปรียบ​เหมือน​กับ “หิน​หัว​มุม” ของ​แผ่นดิน​โลก?

15 จาก​เรื่อง​ที่​บันทึก​อยู่​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ซึ่ง​มี​การ​พรรณนา​ว่า​พระเจ้า​ซัก​ถาม​โยบ​เรื่อง​แผ่นดิน​โลก มี​การ​พรรณนา​ถึง​ความ​เป็น​มา​ของ​สิ่ง​ต่าง ๆ เกี่ยว​กับ​ประวัติ​ของ​แผ่นดิน​โลก เช่น ความ​กว้าง​ยาว กลุ่ม​เมฆ​ที่​ปก​คลุม​โลก ทะเล​ใหญ่​น้อย​และ​คลื่น​ใน​ทะเล​ถูก​จำกัด​เขต​ด้วย​แผ่นดิน—หลาย​อย่าง​ที่​เกี่ยว​กับ​การ​สร้าง​ซึ่ง​คลุม​ระยะ​เวลา​ยาว​นาน. จาก​สรรพสิ่ง​เหล่า​นั้น โดย​มี​การ​เปรียบ​แผ่นดิน​เสมือน​ตึก พระ​คัมภีร์​แจ้ง​ถึง​การ​ที่​พระเจ้า​ตรัส​ถาม​โยบ​ดัง​นี้ “ราก​พิภพ​นั้น​ตั้ง​ติด​ต่อ​ไว้​บน​อะไร หรือ​ใคร​เป็น​ผู้​ฝัง​หิน​หัว​มุม?”—โยบ 38:6.

16 น่า​สนใจ​ที่​เปลือก​โลก เหมือน “ราก​พิภพ” หนา​กว่า​ใต้​บริเวณ​ทวีป และ​ใต้​แถบ​เทือก​เขา​ยิ่ง​หนา​มาก​ขึ้น ปัก​ลึก​ลง​ไป​ใน​เปลือก​โลก​ชั้น​ใน​เหมือน​ต้น​ไม้​แทง​ราก​ลง​ดิน. หนังสือ​ธรณี​วิทยา​ของ​พัตนัม​2 กล่าว​ว่า “ความ​คิด​ที่​ว่า​ภูเขา​และ​ทวีป​ต่าง ๆ มี​ราก​นั้น​ได้​มี​การ​พิสูจน์​ซ้ำ​แล้ว​ซ้ำ​เล่า.” เปลือก​โลก​บริเวณ​ท้อง​มหาสมุทร​จะ​หนา​ประมาณ 8 กิโลเมตร ส่วน​ราก​ของ​ทวีป​หรือ​แผ่นดิน​จะ​ลึก​ลง​ไป​ราว ๆ 32 กิโลเมตร​และ​ราก​ภูเขา​ยิ่ง​หยั่ง​ลึก​กว่า​ถึง​สอง​เท่า. และ​ชั้น​หิน​ระดับ​ต่าง ๆ ของ​โลก​ยัง​บีบ​ตัว​เข้า​หา​แกน​โลก​จาก​ทุก​ทิศ​ทาง ทำ​ให้​แกน​โลก​เป็น​เหมือน “หิน​หัว​มุม” มหึมา​ที่​รอง​รับ​ลูก​โลก​ไว้.

17. อะไร​เป็น​จุด​สำคัญ​ใน​เรื่อง​การ​ปรากฏ​ของ​แผ่นดิน​แห้ง?

17 ไม่​ว่า​จะ​โดย​วิธี​ใด​ก็​ตาม ที่​ทำ​ให้​แผ่นดิน​แห้ง​นูน​ขึ้น​จาก​ระดับ​เดิม จุด​สำคัญ​คือ ทั้ง​พระ​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​วิทยาศาสตร์​ต่าง​ก็​ยอม​รับ​ว่า​นั้น​คือ​ขั้น​ตอน​หนึ่ง​ใน​ขบวนการ​ก่อ​ตัว​ของ​แผ่นดิน​โลก.

พืช​บน​บก​ใน “วัน” ที่​สาม

18, 19. (ก) นอก​จาก​มี​แผ่นดิน​แห้ง​ปรากฏ​ขึ้น​แล้ว ยัง​มี​อะไร​อีก​ปรากฏ​ขึ้น​ใน “วัน” ที่​สาม? (ข) พระ​ธรรม​เยเนซิศ​ไม่​ได้​พูด​ถึง​เรื่อง​อะไร?

18 พระ​คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​ราย​ละเอียด​เพิ่ม​เติม​ว่า “‘ให้​ต้น​หญ้า ต้น​ผัก​ที่​มี​เมล็ด และ​ต้น​ไม้​ที่​มี​ผล​ที่​มี​เมล็ด​ใน​ผล​ตาม​ชนิด​ของ​มัน​งอก​ขึ้น​ใน​แผ่นดิน.’ ก็​เป็น​ดัง​นั้น.”—เยเนซิศ 1:11.

19 ฉะนั้น เมื่อ​สิ้น​ระยะ​เวลา​การ​สร้าง​ช่วง​ที่​สาม​นี้ ก็​ได้​มี​การ​สร้าง​พืช​ที่​งอก​ขึ้น​จาก​ดิน​สาม​กลุ่ม​ใหญ่ ๆ. ตอน​นั้น​แสง​สลัว​คง​จะ​ต้อง​แรง​กล้า​ขึ้น มาก​พอ​สำหรับ​ขบวนการ​สังเคราะห์​แสง​ซึ่ง​จำเป็น​ต่อ​พืช​สี​เขียว. อนึ่ง ไม่​มี​การ​กล่าว​ถึง​พืช​ทุก “ชนิด” ที่​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​โลก. จุลชีพ พืช​ใน​น้ำ​และ​อื่น ๆ ไม่​ได้​ถูก​กล่าว​ชื่อ​โดย​เฉพาะ แต่​ก็​คง​จะ​ถูก​สร้าง​ขึ้น​ใน “วัน” นี้.

“วัน” ที่​สี่

20. จาก​การ​ปรากฏ​ของ​ดวง​สว่าง​ต่าง ๆ ใน​พื้น​อากาศ ทำ​ให้​มี​การ​แบ่ง​เวลา​ออก​อย่าง​ไร?

20 “‘ให้​มี​ดวง​สว่าง​บน​พื้น​ฟ้า​อากาศ เป็น​ที่​แบ่ง​วัน​ออก​จาก​คืน ให้​ดวง​สว่าง​นั้น​เป็น​ที่​กำหนด​ฤดู วัน ปี ให้​อยู่​บน​พื้น​ฟ้า​อากาศ​จะ​ได้​ส่อง​สว่าง​บน​แผ่นดิน.’ ก็​เป็น​ดัง​นั้น. และ​พระเจ้า​ทรง​สร้าง​ดวง​สว่าง​ใหญ่​ไว้​สอง​ดวง ให้​ดวง​ใหญ่​นั้น​ครอง​รักษา​วัน ดวง​เล็ก​นั้น​ครอง​รักษา​คืน​และ​ดวง​ดาว​ต่าง ๆ ด้วย.”—เยเนซิศ 1:14-16; บทเพลง​สรรเสริญ 136:7-9.

21. ความ​สว่าง​ใน “วัน” ที่​สี่​ต่าง​ไป​จาก​วัน​แรก​อย่าง​ไร?

21 ก่อน​หน้า​นี้​ใน “วัน” ที่​หนึ่ง มี​การ​ใช้​ถ้อย​คำ​ที่​ว่า “ให้​เกิด​มี​ความ​สว่าง.” คำ​ภาษา​ฮีบรู​ที่​ใช้​ใน​ข้อ​นี้​สำหรับ “ความ​สว่าง” คือ​ออร์ หมาย​ถึง​แสง​สว่าง​ใน​ความ​หมาย​ทั่ว ๆ ไป. แต่​ใน “วัน” ที่​สี่ คำ​ภาษา​ฮีบรู​ได้​เปลี่ยน​มา​เป็น​มาออร์ ซึ่ง​หมาย​ถึง​แหล่ง​กำเนิด​ของ​แสง. รอเธอร์แฮม​ให้​หมายเหตุ​ไว้​ใน เอ็มฟาไซสด์ ไบเบิล เกี่ยว​กับ “ดวง​สว่าง” ว่า “ใน​ข้อ 3 ออร์ เป็น​แสง​สลัว.” ต่อ​จาก​นั้น เขา​ชี้​แจง​ว่า คำ​ภาษา​ฮีบรู​มาออร์ ​ใน​ข้อ 14 หมาย​ถึง​สิ่ง​ที่ “ให้​แสง​สว่าง.” ใน “วัน” ที่​หนึ่ง​นั้น แสง​สลัว​คง​ต้อง​ได้​ส่อง​ทะลุ​วง​แหวน​ที่​หุ้ม​โลก​อยู่ แต่​ผู้​ที่​มอง​จาก​โลก​ยัง​ไม่​สามารถ​มอง​เห็น​แหล่ง​กำเนิด​ของ​แสง​เพราะ​กลุ่ม​หมอก​เป็น​ชั้น ๆ ยัง​ห่อ​หุ้ม​โลก​ไว้. แต่​มา​บัด​นี้​ใน “วัน” ที่​สี่​สิ่ง​ต่าง ๆ กำลัง​เปลี่ยน​ไป.

22. การ​เปลี่ยน​แปลง​อะไร​ใน “วัน” ที่​สี่ ซึ่ง​เอื้อ​ต่อ​ชีวิต​สรรพสัตว์​ที่​จะ​มี​ขึ้น​ต่อ​จาก​นั้น?

22 บรรยากาศ​ซึ่ง​ตอน​แรก​หนา​แน่น​ไป​ด้วย​คาร์บอนไดออกไซด์​อาจ​ทำ​ให้​เกิด​อากาศ​ร้อน​ทั่ว​ทั้ง​โลก. แต่​การ​เจริญ​เติบโต​ของ​พืช​ผัก​เขียว​ชอุ่ม​ใน​ระหว่าง​ช่วง​ที่​สาม​และ​สี่​ของ​การ​สร้าง​นั้น​คง​ได้​ดูด​ซับ​บาง​ส่วน​ของ​คาร์บอนไดออกไซด์​ตัว​เก็บ​กัก​ความ​ร้อน​นี้. ใน​ทาง​กลับ​กัน พืช​ผัก​จะ​คาย​ออกซิเจน​ออก​มา​ซึ่ง​เป็น​สิ่ง​จำเป็น​ต่อ​ชีวิต​สัตว์.—บทเพลง​สรรเสริญ 136:7-9.

23. มี​การ​พรรณนา​ถึง​การ​เปลี่ยน​แปลง​ใหญ่​อะไร​บ้าง​ใน​ช่วง​นี้?

23 ถึง​ตอน​นี้ ถ้า​มี​ผู้​สังเกตการณ์​บน​โลก เขา​คง​สามารถ​เห็น​ดวง​อาทิตย์ ดวง​จันทร์ ดาว​ต่าง ๆ ซึ่ง “เป็น​ที่​กำหนด​ฤดู วัน ปี.” (เยเนซิศ 1:14) ดวง​จันทร์​จะ​เป็น​ตัว​กำหนด​เดือน​ตาม​จันทรคติ และ​ดวง​อาทิตย์​จะ​เป็น​ตัว​กำหนด​ปี​ตาม​สุริยคติ. ฤดู​ต่าง ๆ ซึ่ง​ขณะ​นี้​เกิด​ขึ้น​ใน “วัน” ที่​สี่​คง​จะ​แตกต่าง​กัน​ไม่​มาก ดัง​ที่​เป็น​ใน​เวลา​ต่อ​มา.—เยเนซิศ 1:15; 8:20-22.

“วัน” ที่​ห้า

24. มี​การ​พูด​ถึง​สัตว์​ชนิด​ใด​ที่​ปรากฏ​ขึ้น​ใน “วัน” ที่​ห้า และ​สัตว์​เหล่า​นั้น​จะ​สืบ​พันธุ์​ต่อ​ไป​ได้​ภาย​ใน​ขอบ​เขต​จำกัด​เช่น​ไร?

24 “‘ให้​ฝูง​สัตว์ [จิตวิญญาณ, ล.ม.] ที่​มี​ชีวิต​ทวี​ขึ้น​บริบูรณ์​ใน​น้ำ และ​ให้​มี​นก​บิน​ไป​มา​ใน​อากาศ​เหนือ​แผ่นดิน.’ พระเจ้า​ได้​สร้าง​ปลา​ใหญ่​และ​สารพัตร​สัตว์ [จิตวิญญาณ, ล.ม.] ที่​มี​ชีวิต​ไหว​กาย​ได้​ให้​บังเกิด​ใน​น้ำ​เป็น​อัน​มาก​ตาม​ชนิด​ของ​มัน​ทุก​อย่าง และ​บรรดา​สัตว์​ที่​มี​ปีก​บิน​ได้​ตาม​ชนิด​ของ​มัน​ทุก​อย่าง.”—เยเนซิศ 1:20, 21.

25. สัตว์​ต่าง ๆ ที่​ปรากฏ​ใน “วัน” ที่​ห้า​นี้​ถูก​เรียก​ว่า​อะไร?

25 เป็น​สิ่ง​น่า​สนใจ​ที่​เรา​สังเกต​ว่า​สัตว์​ต่าง ๆ ที่​ไม่​ใช่​มนุษย์ ซึ่ง​แพร่​พันธุ์​มาก​มาย​ใน​น้ำ ใน​ภาษา​ฮีบรู​อัน​เป็น​ภาษา​เดิม​ของ​พระ​คัมภีร์​ถูก​เรียก​ว่า “จิตวิญญาณ​ที่​มี​ชีวิต.” คำ​นี้​ใช้​ได้​เหมือน​กัน​กับ​บรรดา “นก​ซึ่ง​บิน​ไป​มา​ใน​อากาศ​เหนือ​แผ่นดิน.” และ​คำ​นี้​รวม​ชีวิต​สัตว์​ใน​ทะเล​และ​ใน​อากาศ​ด้วย เช่น สัตว์​ประหลาด​รูป​ร่าง​ใหญ่​โต​ใน​ทะเล​ซึ่ง​ฟอสซิล​ของ​มัน​นัก​วิทยาศาสตร์​ได้​ค้น​พบ​ใน​สมัย​ปัจจุบัน.

“วัน” ที่​หก

26-28. เกิด​อะไร​ขึ้น​ใน “วัน” ที่​หก และ​มี​อะไร​ที่​นับ​ว่า​เด่น​เกี่ยว​ข้อง​กับ​สิ่ง​สุด​ท้าย​ที่​ถูก​สร้าง​ขึ้น​มา?

26 “‘ให้​ฝูง​สัตว์ [จิตวิญญาณ, ล.ม.] มี​ชีวิต​บังเกิด​ขึ้น​ที่​แผ่นดิน​ตาม​ชนิด​ของ​มัน คือ​สัตว์​ใช้ สัตว์​เลื้อยคลาน และ​สัตว์​ป่า​ทั้ง​ปวง​ตาม​ชนิด​ของ​มัน.’ และ​ก็​เป็น​ดัง​นั้น.”—เยเนซิศ 1:24.

27 ดัง​นั้น​ใน “วัน” ที่​หก สัตว์​บก​ซึ่ง​แยก​ประเภท​เป็น​สัตว์​ป่า​และ​สัตว์​เลี้ยง​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​มา. แต่ “วัน” สุด​ท้าย​ยัง​ไม่​จบ​แค่​นี้.

28 “และ​พระเจ้า​ทรง​ดำริ​ว่า ‘จง​ให้​เรา​สร้าง​มนุษย์​ตาม​แบบ​ฉายา​ของ​เรา ให้​ครอบครอง​ฝูง​ปลา​ใน​ทะเล ฝูง​นก​ใน​อากาศ​และ​ฝูง​สัตว์​ใช้ ให้​ปกครอง​แผ่นดิน​ทั่ว​ไป และ​สรรพสัตว์​ที่​ไหว​กาย​ได้​บน​แผ่นดิน​ทั้ง​สิ้น.’ พระเจ้า​จึง​ทรง​สร้าง​มนุษย์​ขึ้น​ตาม​แบบ​ฉายา​ของ​พระองค์​และ​ตาม​แบบ​ฉายา​ของ​พระองค์​นั้น พระเจ้า​ได้​ทรง​สร้าง​มนุษย์​ขึ้น​และ​ได้​ทรง​สร้าง​ให้​เป็น​ชาย​และ​หญิง.”—เยเนซิศ 1:26, 27.

29, 30. เรา​จะ​เข้าใจ​ได้​อย่าง​ไร​ใน​ข้อ​แตกต่าง​ระหว่าง​เยเนซิศ​บท​ที่​สอง​และ​บท​ที่​หนึ่ง?

29 ใน​บท 2 ของ​พระ​ธรรม​เยเนซิศ​ปรากฏ​ว่า​มี​ราย​ละเอียด​บาง​อย่าง​เพิ่ม​เข้า​มา. กระนั้น​ก็​ดี ไม่​ได้​เป็น​อย่าง​ที่​บาง​คน​สรุป​ว่า​บันทึก​จาก​แหล่ง​อื่น​เกี่ยว​ด้วย​การ​สร้าง​ขัด​กัน​กับ​บท 1. เพียง​แต่​ว่า​บท​นี้​เริ่ม​เรื่อง​จาก​จุด​หนึ่ง​ใน “วัน” ที่​สาม ภาย​หลัง​แผ่นดิน​แห้ง​ได้​ปรากฏ​ขึ้น​แล้ว แต่​ก่อน​จะ​มี​การ​สร้าง​พืช​บน​ดิน มี​การ​เพิ่ม​ราย​ละเอียด​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ความ​เป็น​มา​ของ​มนุษย์—อาดาม ผู้​เป็น​จิตวิญญาณ​มี​ชีวิต สวน​เอเดน​ซึ่ง​เป็น​บ้าน​ของ​เขา และ​ฮาวา ผู้​หญิง​ซึ่ง​เป็น​ภรรยา​ของ​เขา.—เยเนซิศ 2:5-9, 15-18, 21, 22.

30 การ​เสนอ​เรื่อง​ข้าง​ต้น​นี้​ก็​เพื่อ​ช่วย​ให้​เรา​เข้าใจ​สิ่ง​ที่​พระ​ธรรม​เยเนซิศ​พรรณนา​ไว้. และ​เรื่อง​นี้​ที่​ตรง​กับ​สภาพ​เป็น​จริง​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​ขบวนการ​สร้าง​นั้น​ดำเนิน​ต่อ​เนื่อง​กัน​ระยะ​หนึ่ง ซึ่ง​ระยะ​เวลา​นั้น​ไม่​สั้น​แค่ 144 ชั่วโมง (6×24) แต่​เป็น​เวลา​ต่อ​เนื่อง​หลาย ๆ พัน​ปี.

ผู้​เขียน​พระ​ธรรม​เยเนซิศ​รู้​เรื่อง​ราว​นี้​ได้​อย่าง​ไร?

31. (ก) บาง​คน​ได้​บิดเบือน​เรื่อง​ราว​ของ​พระ​ธรรม​เยเนซิศ​อย่าง​ไร? (ข) อะไร​แสดง​ว่า​ข้อ​โต้​แย้ง​ของ​คน​เหล่า​นั้น​ไม่​ถูก​ต้อง?

31 หลาย​คน​รู้สึก​ว่า​ยาก​ที่​จะ​ยอม​รับ​เรื่อง​การ​สร้าง​นี้. เขา​โต้​แย้งว่า​เรื่อง​การ​สร้าง​ใน​เยเนซิศ​มา​จาก​เทพนิยาย​เรื่อง​สร้าง​โลก​ของ​คน​โบราณ โดย​เฉพาะ​จาก​บาบูโลน. อย่าง​ไร​ก็​ดี พจนานุกรม​คัมภีร์​ไบเบิล ซี่​งอ​อก​เมื่อ​เร็ว ๆ นี้​ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า “ยัง​ไม่​เคย​พบ​เทพนิยาย​เรื่อง​ใด ๆ ที่​กล่าว​เจาะจง​ว่า​ด้วย​การ​สร้าง​เอกภพ” และ​เทพนิยาย​เหล่า​นั้น “พูด​ถึง​เหล่า​เทพเจ้า​หลาย ๆ องค์​และ​การ​ต่อ​สู้​แย่ง​กัน​เป็น​ใหญ่​ใน​หมู่​เทพเจ้า​ซึ่ง​ต่าง​กัน​ลิบ​กับ​เรื่อง​พระเจ้า​องค์​เดียว​ของ​ชาติ​ฮีบรู​ใน​เยเนซิศ​บท 1 และ 2.”3 “ความ​คิด​พื้น​ฐาน​ของ​เรื่อง​ที่​มา​จาก​ชาว​บาบูโลน​และ​ชาว​ฮีบรู​แตกต่าง​กัน​โดย​สิ้นเชิง.”4

32. อะไร​แสดง​ว่า เรื่อง​การ​สร้าง​ใน​พระ​ธรรม​เยเนซิศ​ถูก​ต้อง​ตาม​หลัก​วิทยาศาสตร์?

32 จาก​ข้อมูล​ที่​เรา​พิจารณา​ไป​แล้ว ปรากฏ​ชัด​ว่า​บันทึก​เรื่อง​การ​สร้าง​ใน​พระ​ธรรม​เยเนซิศ​เป็น​เอกสาร​ที่​ถูก​ต้อง​ตาม​หลัก​วิทยาศาสตร์. พระ​ธรรม​นี้​บอก​เรื่อง​พืช​และ​สัตว์​เป็น​ประเภท​ใหญ่ ๆ และ​หลาย​หลาก​ชนิด​ต่าง​กัน ซึ่ง​สืบ​พันธุ์​ได้​เฉพาะ “ตาม​ชนิด​ของ​มัน” เท่านั้น. หลักฐาน​จาก​ฟอสซิล​ยืน​ยัน​เรื่อง​นี้. ที่​จริง มัน​บ่ง​ชี้​ว่า​แต่​ละ “ชนิด” เหล่า​นั้น​ปรากฏ​ขึ้น​อย่าง​กะทันหัน ไม่​มี​ตัว​เชื่อม “ชนิด” หนึ่ง​เข้า​กับ​อีก “ชนิด” หนึ่ง​ซึ่ง​มี​อยู่​ก่อน ดัง​ทฤษฎี​วิวัฒนาการ​คาด​คะเน.

33. ข่าวสาร​เกี่ยว​กับ​การ​สร้าง​ใน​พระ​ธรรม​เยเนซิศ จะ​ได้​มา​จาก​แหล่ง​ใด​เท่า​นั้น?

33 สารพัน​ความ​รู้​ทั้ง​มวล​ที่​นัก​ปราชญ์​อียิปต์​มี​คง​ไม่​มาก​พอ​ที่​จะ​ให้​โมเซ​ผู้​เขียน​พระ​ธรรม​เยเนซิศ​รู้​ขั้น​ตอน​ของ​การ​สร้าง. เทพนิยาย​เรื่อง​การ​สร้าง​ของ​คน​โบราณ​ก็​ไม่​มี​อะไร​คล้ายคลึง​กับ​สิ่ง​ที่​โมเซ​เขียน​ไว้​ใน​พระ​ธรรม​เยเนซิศ. ดัง​นั้น​แล้ว โมเซ​เรียน​เรื่อง​สิ่ง​ต่าง ๆ นั้น​จาก​ที่​ไหน? เห็น​ได้​ว่า​จาก​ผู้​ซึ่ง​อยู่​ใน​เหตุ​การณ์​นั้น.

34. มี​หลักฐาน​ใน​แง่​อื่น​ใด​อีก​ที่​แสดง​ว่า​ลำดับ​เรื่อง​ใน​เยเนซิศ​นั้น​ถูก​ต้อง?

34 หลักการ​ของ​ความ​เป็น​ไป​ได้​ทาง​คณิตศาสตร์​ให้​ข้อ​พิสูจน์​ที่​น่า​ทึ่ง​ว่า​เรื่อง​ราว​การ​สร้าง​ใน​เยเนซิศ​จะ​ต้อง​มา​จาก​แหล่ง​ซึ่ง​มี​ความ​รู้​เกี่ยว​กับ​เหตุ​การณ์​นี้. บันทึก​ลง​รายการ​ใหญ่ ๆ 10 ขั้น​ตอน​ตาม​ลำดับดัง​นี้ (1) ตอน​เริ่ม​ต้น (2) โลก​ดึกดำบรรพ์​ที่​ความ​มืด​ทึบ​ปก​คลุม​ด้วย​ก๊าซ​หนา​ทึบ​และ​น้ำ (3) ความ​สว่าง (4) ท้องฟ้า​อากาศ​หรือ​บรรยากาศ (5) แผ่นดิน​แห้ง​มี​พื้น​ที่​กว้าง​ใหญ่ (6) พืช​ที่​งอก​บน​แผ่นดิน (7) ดวง​อาทิตย์ ดวง​จันทร์ และ​ดาว​ต่าง ๆ ปรากฏ​ให้​เห็น​ใน​ท้องฟ้า และ​เป็น​การ​เริ่ม​ของ​ฤดู​กาล (8) สัตว์​ใหญ่​ใน​ทะเล​และ​สัตว์​มี​ปีก​บิน​ได้ (9) สัตว์​ป่า สัตว์​ที่​เชื่อง สัตว์​เลี้ยง​ลูก​ด้วย​นม (10) มนุษย์. วิทยาศาสตร์​เห็น​พ้อง​ด้วย​ว่า​ขั้น​ตอน​ต่าง ๆ เหล่า​นี้​เกิด​ขึ้น​ตาม​ลำดับ​ดัง​กล่าว. โอกาส​ที่​ผู้​เขียน​เยเนซิศ​จะ​เดา​ขั้น​ตอน​เหล่า​นี้​ตาม​ลำดับ​ถูก​ต้อง​จะ​มี​สัก​แค่​ไหน​กัน? ก็​เหมือน​กับ​การ​หยิบ​ตัว​เลข 1 ถึง 10 จาก​กล่อง​โดย​ไม่​ต้อง​มอง แล้ว​หยิบ​เลข​ได้​ตาม​ลำดับ. โอกาส​ที่​ท่าน​จะ​ทำ​ได้​อย่าง​นั้น​เมื่อ​พยายาม​ครั้ง​แรก ​คือ 1 ใน 3,628,800 ครั้ง! ดัง​นั้น​ที่​จะ​บอก​ว่า​ผู้​เขียน​เยเนซิศ​บังเอิญ​เรียง​ลำดับ​เรื่อง​ราว​ได้​ถูก​ต้อง​โดย​ไม่​รู้​ข้อ​เท็จ​จริง​จาก​แหล่ง​ไหน​เลย​นั้น​ย่อม​ไม่​มี​เหตุ​ผล.

35. มี​การ​ตั้ง​คำ​ถาม​อะไร​บ้าง และ​จะ​หา​คำ​ตอบ​เหล่า​นั้น​ได้​จาก​ไหน?

35 อย่าง​ไร​ก็​ดี ทฤษฎี​วิวัฒนาการ​ไม่​ยอม​รับ​เรื่อง​พระ​ผู้​สร้าง​ซึ่ง​อยู่​ที่​นั่น ผู้​ทรง​ทราบ​ข้อ​เท็จ​จริง และ​สามารถ​เปิด​เผย​ข้อ​เท็จ​จริง​เหล่า​นั้น​แก่​มนุษย์. ทฤษฎี​วิวัฒนาการ​กลับ​ถือ​ว่า​การ​ปรากฏ​ของ​ชีวิต​บน​โลก​ก็​เนื่อง​มา​จาก​การ​เกิด​โดย​บังเอิญ​ของ​สิ่ง​มี​ชีวิต จาก​สาร​เคมี​ต่าง ๆ ที่​ไม่​มี​ชีวิต. แต่​ปฏิกิริยา​ต่าง ๆ ทาง​เคมี​ที่​ไม่​มี​การ​ควบคุม​และ​เกิด​ขึ้น​เอง​โดย​บังเอิญ จะ​ก่อ​ให้​เกิด​ชีวิต​ได้​ไหม? นัก​วิทยาศาสตร์​เอง​มั่น​ใจ​ไหม​ว่า​มัน​เกิด​ขึ้น​ได้? โปรด​ดู​ใน​บท​ต่อ​ไป.

[คำ​โปรย​หน้า 25]

เรื่อง​ราว​ใน​พระ​ธรรม​เยเนซิศ​เขียน​ขึ้น​ตาม​แง่​คิด​ของ​ผู้​สังเกตการณ์​บน​แผ่นดิน​โลก

[คำ​โปรย​หน้า 36]

หลักฐาน​จาก​ฟอสซิล​ยืน​ยัน​ว่า การ​สืบ​พันธุ์​เป็น​ไป “ตาม​ชนิด​ของ​มัน” เท่า​นั้น

[กรอบ​หน้า 35]

เทพนิยาย​ของ​ชาว​บาบูโลน​เรื่อง​การ​สร้าง​ซึ่ง​บาง​คน​อ้าง​ว่า​เป็น​พื้น​ฐาน​ของ​เรื่อง​การ​สร้าง​ใน​เยเนซิศ

เทพเจ้า​อัปซู​และ​เทพ​ธิดา​เทียมัต​ได้​สร้าง​เทพเจ้า​องค์​อื่น ๆ.

ต่อ​มา​อัปซู​ขัด​ใจ​กับ​พวก​เทพ​เหล่า​นั้น​และ​พยายาม​ฆ่า แต่​กลับ​ถูก​ฆ่า​โดย​เทพ​เออา.

เทียมัต​คิด​แก้แค้น​และ​พยายาม​ฆ่า​เออา แต่​มาร์ดุค​ลูก​ชาย​ของ​เออา​ได้​สังหาร​นาง.

มาร์ดุค​ผ่า​ร่าง​นาง​เป็น​สอง​ส่วน และ​ส่วน​หนึ่ง​นำ​ไป​สร้าง​ฟ้า และ​อีก​ส่วน​หนึ่ง​นำ​มา​สร้าง​แผ่นดิน​โลก.

ต่อ​มา โดย​การ​ช่วยเหลือ​ของ​เออา มาร์ดุค​ได้​สร้าง​มนุษย์​ขึ้น​จาก​โลหิต​ของ​เทพเจ้า​อีก​องค์​หนึ่ง​ชื่อ คินกู.a

คุณ​คิด​ว่า เรื่อง​เหล่า​นี้​มี​อะไร​คล้ายคลึง​กัน​ไหม​กับ​เรื่อง​ราว​ที่​พูด​ถึง​การ​สร้าง​ใน​เยเนซิศ?

[กรอบ​หน้า 36]

นัก​ธรณี​วิทยา​มี​ชื่อ​คน​หนึ่ง​กล่าว​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​การ​สร้าง​ใน​เยเนซิศ​ว่า

“ตัว​ผม​เอง​ใน​ฐานะ​ที่​เป็น​นัก​ธรณี​วิทยา ถ้า​เขา​เรียก​ให้​ผม​อธิบาย​สั้น ๆ เกี่ยว​ด้วย​ความ​คิด​สมัย​ใหม่​ที่​มี​ต่อ​การ​กำเนิด​ของ​โลก​และ​การ​เติบโต​ของ​ชีวิต​ใน​โลก​ให้​คน​เลี้ยง​สัตว์​ซึ่ง​มี​ชีวิต​ง่าย ๆ เช่น เผ่า​ต่าง ๆ ซึ่ง​พระ​ธรรม​เยเนซิศ​พูด​ถึง ผม​คง​ไม่​สามารถ​จะ​พูด​อะไร​ได้​ดี​ไป​กว่า​พูด​ตาม​ที่​มี​บันทึก​อยู่​ใน​บท​แรก​ของ​เยเนซิศ.”b วอลเลซ แพรตต์​นัก​ธรณี​วิทยา​คน​นี้ ยัง​ตั้ง​ข้อ​สังเกต​ว่า ลำดับ​เหตุ​การณ์—จาก​การ​เกิด​ของ​มหาสมุทร​ถึง​การ​ปรากฏ​ของ​แผ่นดิน​แห้ง​กระทั่ง​การ​ปรากฏ​ตัว​ของ​สัตว์​น้ำ​และ​ต่อ​มา​มี​นก และ​สัตว์​เลี้ยง​ลูก​ด้วย​นม​เหมือน​กับ​ลำดับ​การ​แบ่ง​ยุค​ตาม​หลัก​ธรณี​วิทยา.

[ภาพ​หน้า 27]

วัน​ที่ 1: “ให้​เกิด​มี​ความ​สว่าง”

[ภาพ​หน้า 28]

วัน​ที่ 2: “ให้​มี​พื้น​อากาศ”

[ภาพ​หน้า 29]

วัน​ที่ 3: “ให้​ที่​แห้ง​ปรากฏ​ขึ้น”

[ภาพ​หน้า 30]

วัน​ที่ 3: “ให้​ต้น​หญ้า . . . งอก​ขึ้น​ใน​แผ่นดิน”

[ภาพ​หน้า 31]

วัน​ที่ 4: ‘ให้​มี​ดวง​สว่าง​ใน​พื้น​อากาศ ให้​ดวง​ใหญ่​นั้น​ครอง​รักษา​วัน และ​ดวง​เล็ก​ครอง​รักษา​คืน’

[ภาพ​หน้า 32]

วัน​ที่ 5: ‘ให้​จิตวิญญาณ​ที่​มี​ชีวิต​เกิด​ขึ้น​บริบูรณ์​ใน​น้ำ และ​ให้​มี​นก​บิน​ไป​มา​ใน​อากาศ​เหนือ​แผ่นดิน’

[ภาพ​หน้า 33]

วัน​ที่ 6: ‘สัตว์​ใช้​และ​สัตว์​ป่า​ตาม​ชนิด​ของ​มัน’

[ภาพ​หน้า 34]

วัน​ที่ 6: “ได้​ทรง​สร้าง​ให้​เป็น​ชาย​และ​หญิง”

[ภาพ​หน้า 37]

โอกาส​ที่​จะ​ทำ​ได้​อย่าง​นี้ เมื่อ​พยายาม​ครั้ง​แรก คือ 1 ใน 3,628,800 ครั้ง

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์