บท 44
พระธรรมวิวรณ์และคุณ
1. (ก) ทูตสวรรค์นั้นให้คำรับรองอะไรแก่โยฮันอันเกี่ยวกับคำสัญญาอันยอดเยี่ยมทั้งหลายในพระธรรมวิวรณ์? (ข) ใครคือผู้ที่กล่าวว่า “เราจะรีบมา” และการ “มา” นี้คือเมื่อไร?
เมื่ออ่านคำพรรณนาที่ทำให้เบิกบานใจเกี่ยวกับเยรูซาเลมใหม่ คุณคงรู้สึกอยากถามว่า ‘สิ่งอัศจรรย์เช่นนั้นจะเกิดขึ้นได้จริง ๆ หรือ?’ โยฮันตอบคำถามนั้นโดยแจ้งถึงคำกล่าวถัดไปของทูตสวรรค์ว่า “แล้วท่านพูดกับข้าพเจ้าว่า ‘ถ้อยคำเหล่านี้เชื่อถือได้และเป็นความจริง พระยะโฮวาพระเจ้าผู้ทรงดลใจพวกผู้พยากรณ์ให้กล่าวถ้อยคำได้ทรงใช้ทูตสวรรค์ของพระองค์ไปแสดงให้ทาสทั้งหลายของพระองค์เห็นสิ่งซึ่งจะเกิดขึ้นในไม่ช้า. เราจะรีบมา. คนที่ทำตามคำพยากรณ์ในหนังสือม้วนนี้ก็มีความสุข.’” (วิวรณ์ 22:6, 7, ล.ม.) คำสัญญาอันยอดเยี่ยมทั้งปวงในพระธรรมวิวรณ์จะสำเร็จเป็นจริงอย่างแน่แท้! โดยกล่าวในนามของพระเยซู ทูตสวรรค์องค์นั้นประกาศว่า พระเยซูจะเสด็จมาในไม่ช้า หรือ “รีบมา.” นี่คงต้องเป็นการเสด็จมาของพระเยซูที่มา “เหมือนขโมย” เพื่อทำลายศัตรูของพระยะโฮวาและนำเข้าสู่จุดสุดยอดอันยิ่งใหญ่และน่ายินดีของพระธรรมวิวรณ์. (วิวรณ์ 16:15, 16) ด้วยเหตุนั้น เราควรทำให้ชีวิตของเราประสานกับถ้อยคำใน “หนังสือม้วนนี้” คือพระธรรมวิวรณ์ เพื่อจะได้รับการประกาศว่ามีความสุขในเวลานั้น.
2. (ก) โยฮันมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อการเปิดเผยอันงดงามเหล่านั้น และทูตสวรรค์บอกท่านอย่างไร? (ข) เราเรียนรู้อะไรจากถ้อยคำของทูตสวรรค์ที่ว่า “อย่าเลย!” และ “จงนมัสการพระเจ้าเถิด”?
2 หลังจากนิมิตอันงดงามเหล่านั้น เป็นที่เข้าใจได้ว่าโยฮันคงรู้สึกตื้นตันใจ: “ข้าพเจ้าโยฮันเป็นผู้ที่ได้ยินและได้เห็นสิ่งเหล่านี้. เมื่อข้าพเจ้าได้ยินและเห็นแล้ว ข้าพเจ้าก็หมอบลงจะนมัสการแทบเท้าทูตสวรรค์ที่ให้ข้าพเจ้าเห็นสิ่งเหล่านี้. แต่ท่านบอกข้าพเจ้าว่า ‘อย่าเลย! อย่าทำอย่างนั้น! ข้าพเจ้าเป็นเพียงเพื่อนทาสของท่านและของพี่น้องของท่านซึ่งเป็นผู้พยากรณ์และของคนเหล่านั้นที่ทำตามถ้อยคำในหนังสือม้วนนี้. จงนมัสการพระเจ้าเถิด.’” (วิวรณ์ 22:8, 9, ล.ม.; เทียบกับวิวรณ์ 19:10.) คำเตือนที่กล่าวย้ำสองครั้งที่ไม่ให้นมัสการทูตสวรรค์นี้นับว่าทันกาลในสมัยของโยฮัน ซึ่งในเวลานั้นดูเหมือนมีบางคนติดตามการนมัสการเช่นนั้น หรือไม่ก็อ้างว่าได้รับการเปิดเผยเป็นพิเศษจากเหล่าทูตสวรรค์. (1 โกรินโธ 13:1; ฆะลาเตีย 1:8; โกโลซาย 2:18) ทุกวันนี้ คำเตือนนี้เน้นข้อเท็จจริงที่ว่า เราจะต้องนมัสการพระเจ้าแต่องค์เดียว. (มัดธาย 4:10) เราไม่ควรทำให้การนมัสการอันบริสุทธิ์ต้องเสื่อมเสียด้วยการนมัสการคนหนึ่งคนใดหรือสิ่งหนึ่งสิ่งใด.—ยะซายา 42:5, 8.
3, 4. ทูตสวรรค์บอกโยฮันต่อไปอย่างไร และชนที่เหลือผู้ถูกเจิมได้เชื่อฟังถ้อยคำของท่านอย่างไร?
3 โยฮันเล่าต่อไปว่า “ท่านบอกข้าพเจ้าด้วยว่า ‘อย่าผนึกตราปิดคำพยากรณ์ในหนังสือม้วนนี้ เพราะว่าเวลากำหนดใกล้เข้ามาแล้ว. ให้คนที่ทำการอธรรมทำการอธรรมต่อไปและให้คนโสโครกทำตัวโสโครกต่อไป แต่ให้คนชอบธรรมทำการชอบธรรมต่อไปและให้ผู้บริสุทธิ์ทำตัวบริสุทธิ์ต่อไป.’”—วิวรณ์ 22:10, 11, ล.ม.
4 ชนที่เหลือผู้ถูกเจิมในทุกวันนี้ได้เชื่อฟังถ้อยคำของทูตสวรรค์. พวกเขาไม่ได้ประทับตราปิดถ้อยคำแห่งคำพยากรณ์. วารสารหอสังเกตการณ์ (ภาษาอังกฤษ) ในฉบับแรกเลยทีเดียว (กรกฎาคม 1879) ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหลายข้อในพระธรรมวิวรณ์. ดังที่เราสังเกตในบทแรกของเรา พยานพระยะโฮวาได้พิมพ์หนังสือที่ให้ความรู้เกี่ยวกับพระธรรมวิวรณ์เล่มอื่น ๆ เป็นเวลาหลายปี. บัดนี้ เราเชิญชวนผู้รักความจริงทั้งหลายอีกครั้งให้เอาใจใส่คำพยากรณ์อันมีพลังในพระธรรมวิวรณ์และความสำเร็จเป็นจริงของคำพยากรณ์เหล่านั้น.
5. (ก) จะเป็นอย่างไรถ้าผู้คนไม่ต้องการใส่ใจคำเตือนและคำแนะนำในพระธรรมวิวรณ์? (ข) การตอบรับของคนที่อ่อนน้อมและชอบธรรมควรเป็นเช่นไร?
5 หากผู้คนไม่ต้องการใส่ใจคำเตือนและคำแนะนำในพระธรรมวิวรณ์ ก็ปล่อยให้เขาทำเช่นนั้น! “ให้คนที่ทำการอธรรมทำการอธรรมต่อไป.” หากนั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาเลือก คนเหล่านั้นที่เกลือกกลั้วอยู่ในสิ่งโสโครกของยุคที่ทำตามอำเภอใจนี้อาจตายในสิ่งโสโครกนั้นได้. ในไม่ช้า จะมีการลงโทษตามคำพิพากษาของพระยะโฮวาจนถึงขั้นเด็ดขาด เริ่มต้นด้วยการทำลายบาบิโลนใหญ่. ขอให้ผู้ที่มีใจถ่อมจงเอาใจใส่ถ้อยคำของผู้พยากรณ์ที่ว่า “จงแสวงหาพระยะโฮวา . . . จงแสวงหาความชอบธรรม แสวงหาความอ่อนน้อม. ชะรอยเจ้าอาจถูกกำบังไว้ในวันแห่งความพิโรธของพระยะโฮวา.” (ซะฟันยา 2:3, ล.ม.) สำหรับคนเหล่านั้นที่ได้อุทิศตัวแด่พระยะโฮวาแล้ว “ให้คนชอบธรรมทำการชอบธรรมต่อไปและให้ผู้บริสุทธิ์ทำตัวบริสุทธิ์ต่อไป.” ผู้ที่มีปัญญารู้ว่า ผลประโยชน์ชั่วคราวที่มาจากการทำบาปนั้นไม่อาจเทียบได้กับพระพรถาวรที่ผู้ติดตามความชอบธรรมและความบริสุทธิ์จะได้รับ. คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “ท่านทั้งหลายจงพิจารณาดูตัวของท่านเองว่า ท่านตั้งอยู่ในความเชื่อหรือไม่ จงชันสูตรดูตัวของท่านเองเถิด.” (2 โกรินโธ 13:5) โดยอาศัยแนวทางที่คุณเลือกและยืนหยัดในแนวทางนั้น คุณจะได้รับรางวัล.—บทเพลงสรรเสริญ 19:9-11; 58:10, 11.
6. พระยะโฮวาตรัสอย่างไรขณะที่ตรัสกับผู้อ่านพระธรรมวิวรณ์เป็นครั้งสุดท้ายในคำพยากรณ์?
6 มาตอนนี้ พระยะโฮวา พระมหากษัตริย์ชั่วนิรันดร์ ตรัสกับผู้อ่านพระธรรมวิวรณ์เป็นครั้งสุดท้ายในคำพยากรณ์นี้ว่า “เราจะรีบมา และเรามีสิ่งตอบแทนมาด้วย เพื่อจะให้แต่ละคนตามการกระทำของเขา. เราเป็นอัลฟาและโอเมกา เป็นผู้แรกและผู้สุดท้าย เป็นเบื้องต้นและเบื้องปลาย. คนที่ซักเสื้อคลุมของตนก็มีความสุข เพราะนั่นจะทำให้พวกเขามีสิทธิ์ไปยังต้นไม้แห่งชีวิตและจะได้เข้าไปในเมืองนั้นทางประตูเมือง. ภายนอกเมืองมีสุนัข คนถือผี คนผิดประเวณี พวกฆาตกร คนไหว้รูปเคารพ ทุกคนที่ชอบโกหกและคนที่โกหกเป็นอาจิณ.”—วิวรณ์ 22:12-15, ล.ม.
7. (ก) พระยะโฮวาจะ “รีบมา” เพื่อทำอะไร? (ข) เพราะเหตุใดนักเทศน์นักบวชแห่งคริสต์ศาสนจักรจะไม่มีส่วนในเยรูซาเลมใหม่?
7 อีกครั้งหนึ่ง พระยะโฮวาพระเจ้าทรงเน้นพระบรมเดชานุภาพชั่วนิรันดร์ของพระองค์ และข้อเท็จจริงที่ว่า สิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์แต่แรกนั้นพระองค์จะทรงดำเนินการให้สำเร็จในที่สุด. พระองค์จะ “รีบมา” เพื่อลงโทษตามคำพิพากษา และจะทรงประทานบำเหน็จแก่คนเหล่านั้นที่แสวงหาพระองค์อย่างจริงจัง. (เฮ็บราย 11:6) มาตรฐานของพระองค์จะกำหนดว่า ใครจะได้รับบำเหน็จ และใครจะถูกปฏิเสธ. นักเทศน์นักบวชของคริสต์ศาสนจักรได้ปฏิบัติคล้ายกับ “สุนัขใบ้” ที่แสร้งไม่เห็นความชั่วร้ายซึ่งพระยะโฮวาทรงพรรณนา ณ ที่นี้. (ยะซายา 56:10-12; ดูพระบัญญัติ 23:18, ล.ม., เชิงอรรถ.) แน่นอน พวกเขา “ชอบ” มุสาเกี่ยวกับหลักคำสอนและหลักข้อเชื่อ “เป็นอาจิณ” ทั้งยังเพิกเฉยโดยสิ้นเชิงต่อคำแนะนำที่พระเยซูมีแก่ประชาคมทั้งเจ็ด. ฉะนั้น พวกเขาจึงไม่มีส่วนในเยรูซาเลมใหม่.
8. (ก) เฉพาะแต่ใครเท่านั้นที่ “ไปยังต้นไม้แห่งชีวิต” และเรื่องนี้หมายความอย่างไร? (ข) ชนฝูงใหญ่ได้ “ซักเสื้อคลุมของตน” อย่างไร และพวกเขารักษาฐานะสะอาดของตนไว้อย่างไร?
8 เฉพาะชนคริสเตียนผู้ถูกเจิมที่ “ซักเสื้อคลุมของตน” อย่างแท้จริงเพื่อให้สะอาดในสายพระเนตรของพระยะโฮวาเท่านั้นจึงได้รับสิทธิพิเศษให้ “ไปยังต้นไม้แห่งชีวิต.” นั่นก็คือ พวกเขาได้รับสิทธิสำหรับอมตชีพในตำแหน่งของเขาทางภาคสวรรค์. (เทียบกับเยเนซิศ 3:22-24; วิวรณ์ 2:7; 3:4, 5.) หลังจากเขาตายในฐานะมนุษย์แล้ว พวกเขาได้เข้าไปในเยรูซาเลมใหม่โดยการกลับเป็นขึ้นจากตาย. ทูตสวรรค์ 12 องค์อนุญาตให้พวกเขาเข้าไปได้ ในขณะที่กันไม่ให้ผู้ที่ทำการมุสาหรือทำการโสโครกเข้าไปแม้จะอ้างว่ามีความหวังทางภาคสวรรค์ก็ตาม. ชนฝูงใหญ่บนแผ่นดินโลกก็ได้ “ซักเสื้อคลุมของตนและทำให้ขาวด้วยพระโลหิตของพระเมษโปดก” เช่นกันและจำต้องรักษาฐานะสะอาดของตนไว้. พวกเขาทำเช่นนั้นได้โดยหลีกเลี่ยงสิ่งชั่วต่าง ๆ ที่พระยะโฮวาทรงเตือน และใส่ใจคำตักเตือนของพระเยซูในข่าวสารทั้งเจ็ดที่พระองค์ทรงมีไปยังประชาคมต่าง ๆ.—วิวรณ์ 7:14; บท 2 และ 3, ล.ม.
9. พระเยซูทรงตรัสถ้อยคำอะไร และข่าวสารของพระองค์และพระธรรมวิวรณ์ทั้งหมดมีแก่ผู้ใดเป็นอันดับแรก?
9 หลังจากพระยะโฮวาตรัส พระเยซูก็ตรัส. พระองค์ตรัสถ้อยคำหนุนใจแก่ผู้ที่มีหัวใจที่ถูกต้องซึ่งอ่านพระธรรมวิวรณ์ ดังนี้: “เราเยซูได้ใช้ทูตสวรรค์ของเราให้ไปยืนยันเรื่องเหล่านี้แก่พวกเจ้าเพื่อประโยชน์ของประชาคมทั้งหลาย. เราเป็นรากและเชื้อสายของดาวิดและเป็นดาวรุ่งอันสุกใส.” (วิวรณ์ 22:16, ล.ม.) ใช่แล้ว ถ้อยคำเหล่านี้ในอันดับแรก “เพื่อประโยชน์ของประชาคมทั้งหลาย.” ก่อนอื่น นี่เป็นข่าวสารสำหรับประชาคมแห่งชนคริสเตียนผู้ถูกเจิมบนแผ่นดินโลก. ทุกสิ่งทุกอย่างในพระธรรมวิวรณ์นั้น เบื้องต้นกล่าวกับชนคริสเตียนผู้ถูกเจิมซึ่งจะได้อยู่ในเยรูซาเลมใหม่. โดยทางประชาคมนั้น ชนฝูงใหญ่ก็มีสิทธิพิเศษที่จะได้รับความเข้าใจเกี่ยวกับความจริงเชิงพยากรณ์อันมีค่าเหล่านี้.—โยฮัน 17:18-21.
10. ทำไมพระเยซูจึงทรงเรียกพระองค์เองว่า (ก) “รากและเชื้อสายของดาวิด”? (ข) “ดาวรุ่งอันสุกใส”?
10 พระเยซูคริสต์ได้รับมอบหมายให้แสดงวิวรณ์แก่โยฮันและแก่ประชาคมผ่านทางโยฮัน. พระเยซูทรงเป็นทั้ง “รากและเชื้อสายของดาวิด.” พระองค์สืบเชื้อสายมาจากดาวิดโดยสายเลือดและด้วยเหตุนี้จึงมีสิทธิจะเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรของพระยะโฮวา. นอกจากนี้ พระองค์ยังจะได้เป็น “พระบิดาองค์ถาวร” ของดาวิด และจึงเป็น “ราก” ของดาวิดด้วย. (ยะซายา 9:6; 11:1, 10) พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์องค์ถาวรและอมตะในราชวงศ์ของดาวิด ซึ่งทำให้คำสัญญาไมตรีที่พระยะโฮวาทรงกระทำกับดาวิดนั้นสำเร็จเป็นจริง ทั้งยังจะทรงเป็น “ดาวรุ่งอันสุกใส” ที่มีบอกไว้ล่วงหน้าในสมัยของโมเซ. (อาฤธโม 24:17; บทเพลงสรรเสริญ 89:34-37) พระองค์จะทรงเป็น “ดาวรุ่ง” ที่ปรากฏขึ้นทำให้ฟ้าเริ่มสว่าง. (2 เปโตร 1:19) แผนการร้ายทั้งปวงของบาบิโลนใหญ่ศัตรูตัวเอ้ไม่สามารถกีดกันดาวดวงนี้ไม่ให้โผล่ขึ้นส่องรัศมีอันรุ่งโรจน์ได้.
กล่าวว่า “มาเถิด!”
11. ในตอนนี้โยฮันเสนอคำเชิญอะไรที่เปิดให้แก่ทุกคน และใครอาจตอบรับคำเชิญนี้?
11 ตอนนี้ ถึงคราวที่โยฮันเองจะพูด. ท่านพูดจากหัวใจที่เปี่ยมล้นด้วยความหยั่งรู้ค่าต่อสิ่งทั้งปวงที่ท่านได้เห็นและได้ยิน ท่านร้องว่า “พระวิญญาณกับเจ้าสาวกล่าวไม่หยุดว่า ‘มาเถิด!’ และให้คนที่ได้ยินกล่าวด้วยว่า ‘มาเถิด!’ ให้คนที่กระหายมาเถิด ให้คนที่อยากดื่มน้ำแห่งชีวิตมาดื่มโดยไม่เสียค่า.” (วิวรณ์ 22:17, ล.ม.) ผลประโยชน์แห่งเครื่องบูชาไถ่ของพระเยซูจะไม่ถูกจำกัดอยู่แค่ชน 144,000 คน เพราะนี่เป็นคำเชิญที่เปิดออกแก่ทุกคน. พระวิญญาณที่มีพลังกระตุ้นของพระยะโฮวาดำเนินงานผ่านทางชนจำพวกเจ้าสาว เพื่อให้ข่าวสารนั้นถูกป่าวร้องออกไปเรื่อย ๆ อย่างชัดเจนเต็มที่ว่า “ให้คนที่อยากดื่มน้ำแห่งชีวิตมาดื่มโดยไม่เสียค่า.” (ดูยะซายา 55:1; 59:21 ด้วย.) ไม่ว่าใครก็ตามที่กระหายความชอบธรรมต่างได้รับเชิญให้ “มาเถิด” และรับเอาพระกรุณาจากพระยะโฮวา. (มัดธาย 5:3, 6) บรรดาชนจำพวกที่มีความหวังทางแผ่นดินโลกที่ตอบรับคำเชิญของชนจำพวกโยฮันผู้ถูกเจิมช่างมีสิทธิพิเศษจริง ๆ!
12. ชนฝูงใหญ่ตอบรับคำเชิญในวิวรณ์ 22:17 อย่างไร?
12 ตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1930 ชนฝูงใหญ่ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ “ได้ยิน” นั่นคือ เอาใจใส่ต่อคำเชิญนั้น. เช่นเดียวกับเพื่อนทาสผู้ถูกเจิม พวกเขาบรรลุฐานะสะอาดเฉพาะพระพักตร์พระยะโฮวา. พวกเขาเฝ้าคอยเวลาที่เยรูซาเลมใหม่จะลงมาจากสวรรค์เพื่อนำพระพรมาสู่มนุษยชาติ. เมื่อได้ยินข่าวสารอันเร้าใจของพระธรรมวิวรณ์ ชนฝูงใหญ่ไม่เพียงแต่กล่าวว่า “มาเถิด!” แต่รวบรวมคนอื่น ๆ เข้ามายังองค์การของพระยะโฮวาอย่างขยันขันแข็ง ฝึกอบรมคนเหล่านี้ให้ประกาศเช่นกันว่า “ให้คนที่กระหายมาเถิด.” ด้วยเหตุนี้ จำนวนชนฝูงใหญ่จึงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่พวกเขากว่า 6,000,000 คนใน 235 ดินแดนทั่วโลกร่วมกับชนจำพวกเจ้าสาวผู้ถูกเจิมซึ่งมีจำนวนไม่ถึง 9,000 คน ในการแผ่คำเชิญให้ “มาดื่มโดยไม่เสียค่า.”
13. พระเยซูทรงแจ้งคำเตือนอะไร?
13 ถัดจากนั้น พระเยซูเป็นผู้ตรัสอีกครั้งหนึ่งว่า “เราเป็นพยานยืนยันแก่ทุกคนที่ได้ยินคำพยากรณ์ในหนังสือม้วนนี้ว่า ถ้ามีใครเพิ่มอะไรลงในถ้อยคำเหล่านี้ พระเจ้าจะทรงเพิ่มภัยพิบัติต่าง ๆ ที่มีเขียนไว้ในหนังสือม้วนนี้แก่เขา และถ้ามีใครตัดอะไรออกจากถ้อยคำในม้วนหนังสือพยากรณ์นี้ พระเจ้าจะทรงเอาส่วนที่เขาจะได้รับตามที่เขียนไว้ในหนังสือม้วนนี้ไปเสีย นั่นคือ ส่วนที่เขาจะได้รับจากต้นไม้แห่งชีวิตและจากเมืองบริสุทธิ์.”—วิวรณ์ 22:18, 19, ล.ม.
14. ชนจำพวกโยฮันมองดู “คำพยากรณ์” ในพระธรรมวิวรณ์อย่างไร?
14 คนเหล่านั้นแห่งชนจำพวกโยฮันต้องดึงความสนใจไปยัง “คำพยากรณ์” ในพระธรรมวิวรณ์. พวกเขาต้องไม่ปิดซ่อนหรือเพิ่มเติมคำพยากรณ์นั้น. ข่าวสารแห่งคำพยากรณ์นั้นต้องได้รับการประกาศออกไปอย่างเปิดเผยจาก “บนดาดฟ้าหลังคาตึก.” (มัดธาย 10:27) พระธรรมวิวรณ์มีขึ้นโดยการดลใจจากพระเจ้า. ผู้ใดจะบังอาจเปลี่ยนถ้อยคำซึ่งพระเจ้าเองตรัสแล้วส่งผ่านมายังพระเยซูคริสต์กษัตริย์ผู้ทรงครองราชย์อยู่ในขณะนี้เล่า? แน่นอน คนเช่นนั้นสมควรจะสูญเสียโอกาสในการแสวงหาชีวิตและได้รับภัยพิบัติต่าง ๆ ซึ่งจะต้องมีแก่บาบิโลนใหญ่และโลกทั้งสิ้น.
15. อะไรคือความหมายของถ้อยคำของพระเยซูที่ว่า พระองค์ทรง “เป็นพยานยืนยันเรื่องเหล่านี้” และ “เราจะรีบมา”?
15 มาตอนนี้ พระเยซูทรงเพิ่มคำหนุนใจสุดท้ายดังนี้: “ผู้ที่เป็นพยานยืนยันเรื่องเหล่านี้พูดว่า ‘เราจะรีบมา.’” (วิวรณ์ 22:20ก, ล.ม.) พระเยซูทรงเป็น “พยานที่ซื่อสัตย์และสัตย์จริง.” (วิวรณ์ 3:14, ล.ม.) หากพระองค์ทรงให้คำพยานถึงนิมิตต่าง ๆ ในพระธรรมวิวรณ์ นิมิตเหล่านั้นต้องเป็นความจริง. ทั้งพระองค์และพระยะโฮวาพระเจ้าเองทรงย้ำครั้งแล้วครั้งเล่าถึงข้อเท็จจริงที่ว่า พระองค์ทั้งสองจะ “รีบมา” หรือเสด็จมาในไม่ช้า ซึ่งในที่นี้พระเยซูตรัสเช่นนั้นเป็นครั้งที่ห้า. (วิวรณ์ 2:16; 3:11; 22:7, 12, 20) การ “มา” นั้นก็เพื่อลงโทษตามคำพิพากษาแก่หญิงแพศยาคนสำคัญ, “กษัตริย์ทั้งหลาย” ทางการเมือง, และคนอื่น ๆ ทั้งหมดที่ต่อต้าน “ราชอาณาจักรขององค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา [พระยะโฮวา] และของพระคริสต์ของพระองค์.”—วิวรณ์ 11:15; 16:14, 16; 17:1, 12-14, ล.ม.
16. เมื่อรู้ว่าพระยะโฮวาพระเจ้าและพระเยซูจะรีบมา คุณควรลงมือทำอะไรอย่างแน่วแน่?
16 การที่คุณทราบว่า พระยะโฮวาพระเจ้าและพระเยซูจะรีบเสด็จมานั้นน่าจะหนุนใจคุณให้ “คำนึงถึงวันของพระยะโฮวาเสมอ.” (2 เปโตร 3:12, ล.ม.) สิ่งใด ๆ ที่ดูเหมือนจะมีเสถียรภาพในโลกแห่งระบบของซาตานนั้นเป็นเพียงภาพลวงตา. สิ่งใด ๆ ที่ดูเหมือนจะเป็นผลสำเร็จที่ฟ้าสวรรค์แห่งผู้ปกครองของโลกภายใต้ซาตานอาจบรรลุนั้นเป็นเพียงชั่วคราว. สิ่งเหล่านี้กำลังจะผ่านพ้นไป. (วิวรณ์ 21:1) ความยืนยงถาวรจะพบในพระยะโฮวา, ราชอาณาจักรของพระองค์ภายใต้พระเยซูคริสต์, และในโลกใหม่ตามคำสัญญาของพระองค์เท่านั้น. อย่าคลาดสายตาไปจากสิ่งนั้นเป็นอันขาด!—1 โยฮัน 2:15-17.
17. ความหยั่งรู้ค่าที่คุณมีต่อความบริสุทธิ์ของพระยะโฮวาควรมีผลกระทบอย่างไรต่อคุณ?
17 ฉะนั้น ขอให้คุณยอมให้สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการศึกษาพระธรรมวิวรณ์มีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อชีวิตของคุณ. การที่คุณได้เห็นการประทับของพระยะโฮวาในสวรรค์ชั่วขณะหนึ่งนั้นทำให้คุณประทับใจในสง่าราศีอันล้ำเลิศและความบริสุทธิ์ของพระผู้สร้างของเรามิใช่หรือ? (วิวรณ์ 4:1–5:14) ช่างเป็นสิทธิพิเศษจริง ๆ ที่ได้รับใช้พระเจ้าแบบนั้น! ขอให้ความหยั่งรู้ค่าที่คุณมีต่อความบริสุทธิ์ของพระองค์กระตุ้นคุณให้เอาจริงเอาจังกับคำแนะนำของพระเยซูที่มีต่อประชาคมทั้งเจ็ด และหลีกเลี่ยงสิ่งต่าง ๆ เช่น การนิยมวัตถุ, การไหว้รูปเคารพ, การผิดศีลธรรม, การเป็นเพียงแต่อุ่น ๆ, การถือลัทธิออกหาก, หรือสิ่งอื่นใดที่จะทำให้การรับใช้ของคุณไม่เป็นที่ยอมรับต่อพระยะโฮวา. (วิวรณ์ 2:1–3:22) ถ้อยคำที่อัครสาวกเปโตรมีไปถึงชนจำพวกโยฮันมีหลักการที่นำไปใช้ได้กับชนฝูงใหญ่เช่นกัน ที่ว่า “พระองค์ผู้ได้ทรงเรียกท่านทั้งหลายนั้นบริสุทธิ์ฉันใด ท่านทั้งหลายจงเป็นคนบริสุทธิ์ในบรรดาการประพฤติทุกอย่างด้วยฉันนั้น.”—1 เปโตร 1:15, 16.
18. คุณควรมีส่วนเต็มที่เท่าที่จะทำได้ในสิ่งใด และเพราะเหตุใดงานนี้จึงเร่งด่วนในทุกวันนี้?
18 นอกจากนี้แล้ว ขอให้คุณได้รับการกระตุ้นให้มีความกระตือรือร้นอันแรงกล้าขึ้นมาอีกในขณะที่คุณประกาศ “วันเดือนปีที่พระเจ้าทรงโปรดปราน, และวันแห่งความแก้แค้นของพระยะโฮวา.” (ยะซายา 35:4; 61:2) ไม่ว่าคุณจะอยู่ในจำพวกแกะฝูงน้อยหรือชนฝูงใหญ่ ขอให้คุณมีส่วนร่วมเต็มที่เท่าที่จะทำได้ในการประกาศถึงการเทขันทั้งเจ็ดใบแห่งพระพิโรธของพระยะโฮวา ซึ่งบอกถึงการพิพากษาที่พระเจ้ามีต่อโลกของซาตาน. ในขณะเดียวกัน จงร่วมเปล่งเสียงในการประกาศข่าวดีชั่วนิรันดร์อันน่ายินดีเกี่ยวกับราชอาณาจักรที่ได้รับการสถาปนาแล้วของพระยะโฮวาและของพระคริสต์ของพระองค์. (วิวรณ์ 11:15; 14:6, 7) จงรีบเร่งทำงานนี้. และขอให้การตระหนักว่า เราอยู่ในวันขององค์พระผู้เป็นเจ้านั้นกระตุ้นหลาย ๆ คนซึ่งยังไม่ได้รับใช้พระยะโฮวาให้เข้ามาร่วมในงานประกาศข่าวดีนี้. ขอให้คนเหล่านี้ก้าวหน้าถึงขั้นอุทิศชีวิตของตนแต่พระเจ้าโดยมีความประสงค์จะรับบัพติสมา. พึงจำไว้ว่า “เวลากำหนดใกล้เข้ามาแล้ว”!—วิวรณ์ 1:3, ล.ม.
19. ถ้อยคำปิดท้ายของอัครสาวกโยฮันผู้ชราคืออะไร และคุณตอบรับต่อถ้อยคำเหล่านั้นอย่างไร?
19 ด้วยเหตุนี้ เราจึงอธิษฐานด้วยใจแรงกล้าร่วมกับโยฮันว่า “อาเมน! พระเยซูเจ้า เชิญเสด็จมาเถิด.” และโยฮัน อัครสาวกผู้ชรากล่าวเพิ่มเติมว่า “ขอให้พระกรุณาอันใหญ่หลวงของพระเยซูคริสต์เจ้าจงมีแก่ผู้บริสุทธิ์ทั้งหลายเถิด.” (วิวรณ์ 22:20ข, 21, ล.ม.) ขอให้พระกรุณานั้นอยู่กับคุณทุกคนที่อ่านหนังสือนี้ด้วย. ขอให้คุณมีความเชื่อว่า จุดสุดยอดอันยิ่งใหญ่แห่งพระธรรมวิวรณ์นั้นใกล้จะถึงแล้ว เพื่อว่าคุณจะร่วมกับเราด้วยในการกล่าว “อาเมน!” ได้อย่างสนิทใจ.
[ภาพหน้า 314]
“ภายนอกเมืองมีสุนัข . . . ”
[ภาพหน้า 315]
‘คนที่ได้เข้าไปในเมืองนั้นทางประตูเมืองก็มีความสุข’