พระธรรมเล่มที่ 30—อาโมศ
ผู้เขียน: อาโมศ
สถานที่เขียน: ยูดา
เขียนเสร็จ: ประมาณปี 804 ก.ส.ศ.
1. อาโมศเป็นใคร?
อาโมศไม่ใช่ทั้งผู้พยากรณ์หรือบุตรของผู้พยากรณ์ แต่เป็นคนเลี้ยงแกะและเป็นคนเก็บลูกมะเดื่อเทศจากต้น ในคราวที่พระยะโฮวาทรงเรียกและใช้ท่านไปพยากรณ์ไม่เพียงแก่ยูดาชาติของท่านเอง แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งแก่อาณาจักรยิศราเอลซึ่งอยู่ทางเหนือ. ท่านเป็นหนึ่งในผู้พยากรณ์ที่มีกล่าวถึงใน 2 กษัตริย์ 17:13, 22, 23. ท่านมาจากธะโคอาในยูดาซึ่งอยู่ห่างจากยะรูซาเลมไปทางใต้ประมาณ 16 กิโลเมตร และห่างจากชายแดนทางใต้ของอาณาจักรยิศราเอลสิบตระกูลทางเหนือในระยะที่ใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งวัน.—อาโมศ 1:1; 7:14, 15.
2. อาจกำหนดเวลาที่อาโมศพยากรณ์ได้อย่างไร?
2 ข้อแรกแห่งคำพยากรณ์ของท่านกล่าวว่า เป็นในสมัยที่อุซียาเป็นกษัตริย์ยูดาและยาระบะอามที่ 2 บุตรโยอาศเป็นกษัตริย์ยิศราเอลนั่นเองที่ท่านเริ่มงานเป็นผู้พยากรณ์ สองปีก่อนเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่. ข้อนี้จึงระบุว่าการพยากรณ์นี้อยู่ในช่วงเวลา 26 ปี ตั้งแต่ปี 829 ก.ส.ศ. ถึงประมาณปี 804 ก.ส.ศ. ซึ่งเป็นช่วงที่รัชกาลของกษัตริย์สององค์นี้เหลื่อมกัน. ผู้พยากรณ์ซะคาระยากล่าวถึงแผ่นดินไหวที่ยังความเสียหายมากในสมัยของอุซียา ซึ่งในเวลานั้นประชาชนพากันหนีด้วยความกลัว. (ซคา. 14:5) โยเซฟุสนักประวัติศาสตร์ชาวยิวกล่าวว่า แผ่นดินไหวเกิดขึ้นในตอนที่อุซียาพยายามถวายเครื่องหอมในพระวิหารโดยพลการ. แต่ดูเหมือนว่าแผ่นดินไหวที่อาโมศกล่าวถึงเกิดขึ้นก่อนนั้นในรัชกาลของอุซียา.
3. (ก) เหตุใดข่าวสารแห่งความวิบัติที่อาโมศแจ้งจึงเหมาะกับเวลา? (ข) ท่านยกย่องพระบรมเดชานุภาพของพระยะโฮวาอย่างไร?
3 ชื่ออาโมศหมายความว่า “เป็นภาระ” หรือ “แบกภาระ.” แม้ว่าท่านแบกภาระการแจ้งข่าวสารความวิบัติแก่ชาติยิศราเอลและยูดา (และแก่หลายชาตินอกรีตด้วย) แต่ท่านก็แจ้งข่าวสารที่ชูใจเกี่ยวกับการฟื้นฟูสำหรับไพร่พลของพระยะโฮวาด้วย. มีเหตุผลทุกประการที่จะประกาศความวิบัติอันน่ากลัวในชาติยิศราเอล. ความมั่งคั่ง, การดำเนินชีวิตที่หรูหราฟุ่มเฟือย, และความไร้ศีลธรรมเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงนั้น. ผู้คนได้ลืมพระบัญญัติของพระยะโฮวา. ความมั่งคั่งที่ปรากฏแก่ตาทำให้พวกเขาไม่เห็นข้อเท็จจริงที่ว่า พวกเขากำลังจะเน่าเหมือนผลไม้ที่สุกเกินงอมซึ่งจะถูกทำลายทิ้ง. อาโมศพยากรณ์ว่า ภายในแค่ไม่กี่ปี อาณาจักรสิบตระกูลจะถูกเนรเทศไปไกลกว่าดาเมเซ็ค. ในเรื่องนี้ท่านยกย่องความชอบธรรมและพระบรมเดชานุภาพของพระยะโฮวา ซึ่งท่านกล่าวถึงพระองค์ 21 ครั้งว่าเป็น “พระผู้เป็นเจ้าองค์บรมมหิศร.”—อาโมศ 1:8, ล.ม.
4. ความสำเร็จเป็นจริงแห่งคำพยากรณ์อะไรบ้างที่ยืนยันความเชื่อถือได้ของพระธรรมอาโมศ?
4 ความสำเร็จเป็นจริงของคำพยากรณ์นี้และคำพยากรณ์อื่น ๆ ยืนยันความเชื่อถือได้ของพระธรรมอาโมศ. ผู้พยากรณ์ยังบอกล่วงหน้าด้วยว่า ชาติศัตรูทั้งหลายที่อยู่รอบ ๆ ชาติยิศราเอลคือ ซีเรีย, ฟะลิศเตีย, ตุโร, อะโดม, อัมโมน, และโมอาบ ล้วนแต่ต้องถูกทำลายล้างด้วยไฟ. ประวัติศาสตร์แสดงว่า ในที่สุดฐานที่มั่นของศัตรูแต่ละแห่งก็แตก. แนวทางของยูดาและยิศราเอลยิ่งน่าตำหนิ เพราะพวกเขาละทิ้งพระยะโฮวาไปปฏิบัติการนมัสการเท็จ. เมืองซะมาเรียที่มีป้อมแข็งแรงซึ่งเป็นที่มั่นสุดท้ายของชาติยิศราเอลนั้น หลังจากถูกล้อมโจมตีโดยกองทัพอัสซีเรียภายใต้ซัลมัลเอเซ็รที่ 5 ก็แตกในปี 740 ก.ส.ศ. (2 กษัต. 17:1-6) ยูดาไม่ได้เรียนจากสิ่งที่เกิดแก่ชาติพี่น้องของตน และดังนั้น พวกเขาจึงถูกทำลายในปี 607 ก.ส.ศ.
5. โบราณคดียืนยันบันทึกในพระธรรมอาโมศอย่างไร?
5 อาโมศตำหนิชาติยิศราเอลเนื่องด้วยการดำเนินชีวิตที่หรูหราฟุ่มเฟือย, เพราะคนรวยฉ้อโกงคนจนเพื่อสร้าง “เรือนงา” ที่ที่พวกเขาดื่มกินกันอย่างฟุ่มเฟือย. (อาโมศ 3:15; 5:11, 12; 6:4-7) นักโบราณคดีค้นพบหลักฐานความมั่งคั่งเช่นนั้น. มีการพบวัตถุที่ทำด้วยงาช้างมากมายในการขุดค้นเมืองซะมาเรีย. สารานุกรมการขุดค้นทางโบราณคดีในแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ (ภาษาอังกฤษ) บอกว่า “ของที่พบแยกได้เป็นสองกลุ่มหลัก ๆ คือ 1. เครื่องประดับที่เป็นงาแกะสลักลายนูน, . . . 2. เครื่องประดับที่เป็นงาแกะสลักลายและตกแต่งด้วยการฝังอัญมณี, แก้วสี, แผ่นทอง, และอื่น ๆ. . . . แผ่นงาช้างนั้นถือกันว่าเป็นผลิตภัณฑ์ทางศิลปะของชาวฟีนิเซีย และอาจมีการใช้เป็นวัสดุฝังประดับเครื่องตกแต่งราชวังของกษัตริย์ยิศราเอล. คัมภีร์ไบเบิลกล่าวถึง ‘หอพระที่นั่งทำด้วยงาช้าง’ ที่อาฮาบได้สร้าง (1 กษัต. 22:39) และ ‘เตียงอันทำด้วยงา’ ซึ่งแสดงถึงชีวิตที่หรูหราในซะมาเรียตามคำตำหนิของอาโมศ (6:4).”a
6. อะไรพิสูจน์ยืนยันความเชื่อถือได้ของพระธรรมอาโมศ?
6 ที่ว่าพระธรรมอาโมศเป็นส่วนของสารบบของพระคัมภีร์นั้นไม่อาจมีข้อสงสัยใด ๆ ได้. ที่พิสูจน์ยืนยันความเชื่อถือได้ของพระธรรมนี้ก็ได้แก่การที่ซะเตฟาโนยกสามข้อจากพระธรรมนี้มากล่าวที่กิจการ 7:42, 43 และการที่ยาโกโบยกข้อความจากพระธรรมนี้มากล่าวที่กิจการ 15:15-18.—อาโมศ 5:25-27; 9:11, 12.
เนื้อเรื่องในอาโมศ
7. อาโมศเตือนเรื่องการพิพากษาของพระยะโฮวาต่อชาติใดบ้าง?
7 คำพิพากษาต่อนานาชาติ (1:1–2:3). “พระยะโฮวาแผดสำเนียงมาแต่ซีโอน.” (1:2) อาโมศเตือนต่อไปถึงการพิพากษาอันร้อนแรงของพระองค์ต่อนานาชาติ. ดาเมเซ็ค (ซีเรีย) ได้กระหน่ำตีฆีละอาดด้วยเครื่องนวดที่เป็นเหล็ก. ฆาซา (ฟะลิศเตีย) และตุโรได้มอบเชลยชาวยิศราเอลแก่อะโดม. ในอะโดมเองความเมตตาและความรักฉันพี่น้องได้ขาดหายไป. อัมโมนได้บุกตีฆีละอาด. โมอาบได้เผากระดูกของกษัตริย์ของอะโดมเป็นปูน. พระหัตถ์ของพระยะโฮวาต่อสู้ชาติทั้งปวงนี้และพระองค์ตรัสว่า “เราจะไม่กลับซึ่งอาชญาโทษแห่งเมืองนั้น.”—1:3, 6, 8, 9, 11, 13; 2:1.
8. เหตุใดจึงมีการประกาศคำพิพากษาของพระยะโฮวาแก่ยูดาและยิศราเอลด้วย?
8 คำพิพากษาต่อยูดาและยิศราเอล (2:4-16). พระยะโฮวาจะไม่ทรงถอนพระพิโรธของพระองค์จากยูดาเช่นกัน. พวกเขาได้ล่วงละเมิดโดย “ดูหมิ่นกฎหมายแห่งพระยะโฮวา.” (2:4) และชาติยิศราเอลล่ะ? พระองค์ทรงทำลายล้างชาวอะโมรีที่น่ากลัวแทนพวกเขาและประทานแผ่นดินที่ดีให้พวกเขา. พระองค์ทรงยกพวกนาษารีษและผู้พยากรณ์ขึ้นท่ามกลางพวกเขา แต่พวกเขาทำให้พวกนาษารีษละเมิดคำปฏิญาณและสั่งพวกผู้พยากรณ์ว่า “อย่าพยากรณ์.” (2:12) ฉะนั้น พระยะโฮวาทรงกำลังทำให้รากฐานของพวกเขาโคลงเคลงเหมือนเกวียนที่บรรทุกข้าวที่เกี่ยวใหม่เต็มปรี่. ส่วนเหล่าชายฉกรรจ์ของพวกเขาจะหนีไปด้วยร่างเปลือยเปล่า.
9. อะไรพิสูจน์ว่าพระยะโฮวาได้ตรัส และอาโมศพยากรณ์ต่อสู้ใครโดยเฉพาะ?
9 การคิดบัญชีกับชาติยิศราเอล (3:1–6:14). โดยใช้อุทาหรณ์ที่ดึงดูดใจ อาโมศเน้นว่า ข้อเท็จจริงแห่งการพยากรณ์ของท่านให้ข้อพิสูจน์ในตัวเองว่าพระยะโฮวาได้ตรัส. “ด้วยว่าพระยะโฮวาองค์บรมมหิศรจะไม่ทรงทำสิ่งใด เว้นแต่พระองค์ได้ทรงเปิดเผยเรื่องซึ่งพระองค์ถือเป็นความลับแก่ผู้รับใช้ของพระองค์คือพวกผู้พยากรณ์. . . . พระยะโฮวาเจ้าองค์บรมมหิศรพระองค์เองได้ตรัสแล้ว! ใครจะไม่พยากรณ์เล่า?” (3:7, 8, ล.ม.) อาโมศจึงกล่าว พยากรณ์ต่อสู้พวกปล้นโดยเฉพาะซึ่งรักความหรูหราฟุ่มเฟือยที่อาศัยในซะมาเรีย. พระยะโฮวาจะทรงกระชากพวกเขาจากที่นอนอันวิจิตรของเขา เรือนงาช้างของพวกเขาจะพังทลาย.
10. พระยะโฮวาเตือนชาติยิศราเอลเรื่องอะไร และวันแห่งวิบัติอะไรกำลังจะมา?
10 พระยะโฮวาทบทวนการลงโทษและการแก้ไขชาติยิศราเอล. พระองค์ทรงเตือนพวกเขาถึงห้าครั้งว่า “ท่านทั้งหลายมิได้กลับมาหาเรา.” ดังนั้น โอ้ ยิศราเอล “จงจัดแจงเพื่อจะพบพระเจ้าของตน.” (4:6-12) อาโมศหยิบยกเพลงคร่ำครวญเชิงพยากรณ์ขึ้นมากล่าว ที่ว่า “พรหมจารีอิสราเอล ล้มลงแล้ว และจะไม่ลุกขึ้นอีก ถูกทิ้งไว้บนแผ่นดินของเธอ ไม่มีผู้ใดพยุงเธอขึ้นอีก.” (5:2, ฉบับแปลใหม่) อย่างไรก็ตาม พระยะโฮวาพระผู้สร้างสิ่งวิเศษในฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกทรงเรียกหาชนยิศราเอลอยู่ต่อไปให้แสวงหาพระองค์และมีชีวิตอยู่. ถูกแล้ว “จงแสวงหาความดีแลอย่าแสวงหาความชั่ว, เพื่อเจ้าทั้งหลายจะได้มีชีวิต.” (5:4, 6, 14) แต่วันของพระยะโฮวาจะหมายความเช่นไรต่อพวกเขา? วันนั้นจะเป็นวันแห่งวิบัติ. เหมือนกระแสน้ำเชี่ยวกราก วันนั้นจะกวาดพวกเขาไปเป็นเชลยไกลกว่าดามัสกัส (ดาเมเซ็ค) และเรือนที่ตกแต่งด้วยงาช้างสำหรับงานเลี้ยงเอิกเกริกจะถูกทำให้กลายเป็นซากปรักหักพัง.
11. โดยสิทธิอะไรที่อาโมศยืนหยัดพยากรณ์ต่อสู้ชาติยิศราเอล?
11 อาโมศพยากรณ์ทั้ง ๆ ที่มีการต่อต้าน (7:1-17). พระยะโฮวาทรงสำแดงให้ผู้พยากรณ์ของพระองค์เห็นลูกดิ่งที่อยู่ท่ามกลางพวกยิศราเอล. จะไม่มีการแก้ตัวใด ๆ อีกต่อไป. พระองค์จะทรงทำให้สถานศักดิ์สิทธิ์ของชาติยิศราเอลร้างเปล่าและลุกขึ้นต่อสู้เรือนของยาระบะอามที่ 2 ด้วยกระบี่. อามาซียาปุโรหิตเมืองเบธเอลส่งคนไปหายาระบะอาม ให้บอกว่า “อาโมศได้คิดกบฏต่อท่าน.” (7:10) อามาซียาบอกอาโมศให้ไปยังยูดาเพื่อทำงานพยากรณ์ของท่าน. อาโมศทำให้สิทธิของท่านชัดแจ้งโดยกล่าวว่า “พระยะโฮวานำข้าพเจ้ามาเสียจากการเลี้ยงฝูงสัตว์, แลพระยะโฮวาตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า, จงไปพยากรณ์แก่พลไพร่ของเราคือยิศราเอล.” (7:15) จากนั้นอาโมศจึงพยากรณ์ถึงความหายนะแก่อามาซียาและครอบครัว.
12. มีการพยากรณ์ถึงความอดอยากเช่นไรแก่ชาติยิศราเอล แต่คำพยากรณ์จบลงด้วยคำสัญญาอันรุ่งโรจน์ในเรื่องอะไร?
12 การกดขี่, การลงโทษ, และการฟื้นฟู (8:1–9:15). พระยะโฮวาทรงสำแดงให้อาโมศเห็นกระจาดผลไม้ฤดูร้อน. พระองค์ทรงตำหนิที่ชาติยิศราเอลข่มเหงคนจนและทรงสาบานโดยอ้าง “ผู้ประเสริฐของยาโคบ” ว่า พวกเขาจะต้องคร่ำครวญเนื่องจากการชั่วของตน. “พระยะโฮวาเจ้าตรัสว่า, นี่แน่ะวันทั้งหลายจะมา, เมื่อเราจะยังความกันดารให้มีในแผ่นดินมิใช่กันดารอาหารแลกระหายน้ำ, คือกันดารเพราะจะมิได้ฟังคำแห่งพระยะโฮวา.” (8:7, 11) พวกเขาจะล้มและไม่อาจลุกขึ้นได้อีก. ไม่ว่าพวกเขาจะขุดลงไปในเชโอลหรือปีนขึ้นยังฟ้าสวรรค์ พระหัตถ์ของพระยะโฮวาจะนำพวกเขามา. พวกที่ทำบาปในหมู่ไพร่พลของพระองค์จะตายด้วยกระบี่. จากนั้นก็เป็นคำสัญญาอันรุ่งโรจน์! “ในวันนั้นเราจะยกกะท่อมของดาวิดที่ล้มนั้นให้ตั้งขึ้น, แล้วจะปิดช่องทั้งหลาย ณ กะท่อมนั้น. . . . แลจะสร้างขึ้นให้เหมือนในกาลโบราณ.” (9:11) เหล่าเชลยที่กลับมารวมตัวกันอีกจะมั่งคั่งถึงขนาดที่คนไถจะไล่ทันคนเกี่ยวก่อนที่เขาจะสามารถรวบรวมพืชผลมากมายล้นเหลือ. พระพรเหล่านี้ของพระยะโฮวาจะยั่งยืนถาวร!
เหตุที่เป็นประโยชน์
13. พวกเราในทุกวันนี้อาจได้รับประโยชน์อย่างไรจากคำเตือนของอาโมศ?
13 ผู้อ่านคัมภีร์ไบเบิลในสมัยนี้จะรับประโยชน์ได้โดยสังเกตสาเหตุที่มีคำเตือนซึ่งอาโมศประกาศแก่ชาติยิศราเอล, ยูดา, และเพื่อนบ้านใกล้เคียง. คนที่ปฏิเสธพระบัญญัติของพระยะโฮวา, โกงและกดขี่คนจน, เป็นคนโลภและผิดศีลธรรม, อีกทั้งไหว้รูปเคารพจะไม่อาจได้รับความพอพระทัยจากพระยะโฮวา. แต่พระยะโฮวาทรงให้อภัยคนที่หันหนีจากสิ่งเหล่านั้นและกลับใจ และพระองค์ทรงสำแดงความเมตตาแก่พวกเขา. เราเป็นคนสุขุมถ้าเราแยกตัวจากการคบหาที่เสื่อมเสียในโลกชั่วนี้และเอาใจใส่ฟังคำเตือนสติของพระยะโฮวาที่ว่า “จงแสวงหาเราจึงจะมีชีวิต.”—5:4, 6, 14.
14. ชาวยิวในสมัยของซะเตฟาโนได้รับประโยชน์จากข้อเตือนใจของอาโมศไหม?
14 ขณะที่ซะเตฟาโนพลีชีพเพื่อความเชื่อ ท่านอ้างถึงอาโมศ. ท่านเตือนพวกยิวว่า การที่ชาติยิศราเอลบูชารูปเคารพของพระต่างชาติ เช่น โมเลคและเรฟาน นั่นแหละที่ทำให้พวกเขาตกเป็นเชลย. ชาวยิวเหล่านั้นได้รับประโยชน์ไหมจากการได้ยินถ้อยคำของอาโมศที่มีการกล่าวซ้ำ? ไม่เลย! ด้วยความเดือดดาล พวกเขาเอาหินขว้างซะเตฟาโนจนตาย และด้วยเหตุนั้นจึงทำให้ตนเองอยู่ในเส้นทางสู่ความหายนะในคราวกรุงยะรูซาเลมถูกทำลายในปี ส.ศ. 70.—อาโมศ 5:2,5-27; กิจ. 7:42, 43.
15. คำพยากรณ์อะไรบ้างในเรื่องการฟื้นฟูซึ่งเป็นประโยชน์ที่จะพิจารณา?
15 เป็นประโยชน์ที่จะพิจารณาความสำเร็จเป็นจริงแห่งคำพยากรณ์หลายตอนของอาโมศ ไม่เพียงคำพยากรณ์ที่สำเร็จแล้วด้วยการลงโทษชาติยิศราเอล, ยูดา, และชาติอื่น ๆ เท่านั้น แต่คำพยากรณ์เรื่องการฟื้นฟูด้วย. เป็นจริงตามคำที่พระยะโฮวาตรัสผ่านอาโมศ พวกเชลยยิศราเอลคืนถิ่นในปี 537 ก.ส.ศ. เพื่อสร้างและอาศัยในเมืองที่ร้างเปล่าของตน อีกทั้งปลูกสวนองุ่นและสวนผักผลไม้ต่าง ๆ.—อาโมศ 9:14; เอษรา 3:1.
16. ยาโกโบระบุอย่างไรว่าความสำเร็จเป็นจริงของอาโมศ 9:11, 12 นั้นเกี่ยวพันกับประชาคมคริสเตียน?
16 อย่างไรก็ตาม คำพยากรณ์ของอาโมศมีความสำเร็จเป็นจริงอันรุ่งโรจน์และให้การเสริมสร้างในสมัยของพวกอัครสาวก. เมื่อพิจารณาเรื่องการรวบรวมคนที่ไม่ใช่ชาติยิศราเอลเข้าสู่ประชาคมคริสเตียน ยาโกโบซึ่งได้รับการดลใจอธิบายชัดแจ้งว่าเรื่องนี้มีบอกล่วงหน้าแล้วในคำพยากรณ์ที่อาโมศ 9:11, 12. ท่านระบุว่าการ “สร้างกระท่อมของดาวิดที่พังทลายแล้วขึ้นใหม่” นั้นมีความสำเร็จเป็นจริงที่เกี่ยวพันกับประชาคมคริสเตียน “เพื่อว่าบรรดามนุษย์ที่เหลืออยู่จะแสวงหาพระยะโฮวาอย่างจริงจัง พร้อมด้วยประชาชนจากทุกชาติ คือไพร่พลซึ่งมีชื่อตามนามของเรา พระยะโฮวาตรัสไว้.” จริงทีเดียว นี่คือการสนับสนุนในพระคัมภีร์สำหรับขั้นตอนใหม่ ดังที่ซีโมนเปโตรบอก กล่าวคือ พระเจ้ากำลังนำ “ประชาชนสำหรับพระนามของพระองค์” ออกมาจากชาติต่าง ๆ.—กิจ. 15:13-19, ล.ม.
17. ความมั่งคั่งและความยั่งยืนถาวรอะไรที่อาโมศพยากรณ์ว่าเกี่ยวข้องกับราชอาณาจักรของพระเจ้า?
17 พระเยซูคริสต์ ประมุขของประชาคมคริสเตียน ถูกระบุตัวในที่อื่นอีกว่าเป็น “บุตรดาวิด” ซึ่งจะได้รับ “พระที่นั่งของดาวิดบิดาของท่าน” และปกครองตลอดไป. (ลูกา 1:32, 33; 3:31) ดังนั้น คำพยากรณ์ของอาโมศชี้ไปยังความสำเร็จเป็นจริงแห่งสัญญาไมตรีที่ทำกับดาวิดในเรื่องราชอาณาจักร. ถ้อยคำของอาโมศตอนท้ายไม่เพียงให้ภาพที่ยอดเยี่ยมในเรื่องความมั่งคั่งเหลือล้นในสมัยแห่งการฟื้นฟู “กระท่อมของดาวิด” เท่านั้น แต่ยังเน้นความยั่งยืนถาวรแห่งราชอาณาจักรของพระเจ้าอีกด้วย ที่ว่า “ด้วยพระยะโฮวาเจ้าของเจ้าตรัสว่า, เราจะปลูกฝังเขาทั้งหลายในแผ่นดินของเรา, แลเขาจะมิต้องถอนไปจากแผ่นดินของเขา, ที่เราประทานแก่เขานั้น.” แผ่นดินโลกจะบริบูรณ์ด้วยพระพรตลอดกาลขณะที่พระยะโฮวาทรงฟื้นฟู “กระท่อมของดาวิด” อย่างเต็มที่!—อาโมศ 9:13-15.
[เชิงอรรถ]
a 1978 เยรูซาเลม หน้า 1046.