พระธรรมเล่มที่ 35—ฮะบาฆูค
ผู้เขียน: ฮะบาฆูค
สถานที่เขียน: ยูดา
เขียนเสร็จ: ประมาณปี 628 ก.ส.ศ. (?)
1. มีการเน้นความจริงอันวิเศษอะไรบ้างในคำพยากรณ์ของฮะบาฆูค?
ฮะบาฆูคเป็นอีกคนหนึ่งในพวกที่เรียกกันว่าผู้พยากรณ์น้อยแห่งพระคัมภีร์ภาคภาษาฮีบรู. แต่นิมิตและแถลงการณ์ของท่านซึ่งมีขึ้นโดยการดลใจจากพระเจ้านั้นไม่ได้ด้อยความสำคัญสำหรับไพร่พลของพระเจ้า. คำพยากรณ์ของท่านซึ่งให้การชูใจและเสริมกำลังนั้นช่วยค้ำจุนผู้รับใช้ของพระเจ้าในยามทุกข์ร้อน. พระธรรมนี้เน้นความจริงอันวิเศษสองประการคือ พระยะโฮวาพระเจ้าเป็นองค์บรมมหิศรแห่งเอกภพ และผู้ชอบธรรมดำรงชีวิตอยู่ด้วยความเชื่อ. อนึ่ง พระธรรมนี้ยังช่วยเป็นคำเตือนสำหรับผู้ที่ต่อต้านผู้รับใช้ของพระเจ้าและผู้ที่ประกาศตัวอย่างหน้าซื่อใจคดว่าเป็นไพร่พลของพระองค์. พระธรรมนี้กำหนดแบบแผนแห่งความเชื่ออันเข้มแข็งในพระยะโฮวา ผู้ทรงคู่ควรแก่เพลงสรรเสริญทั้งปวง.
2. มีการให้ข้อมูลอะไรบ้างเกี่ยวกับฮะบาฆูคซึ่งเป็นผู้เขียน?
2 พระธรรมฮะบาฆูคเริ่มต้นดังนี้: “แถลงการณ์ซึ่งผู้พยากรณ์ฮะบาฆูคได้เห็นในนิมิต.” (ฮบา. 1:1, ล.ม.) ใครคือผู้พยากรณ์ฮะบาฆูคผู้นี้ (ฮีบรู, ชาวาคคุคʹ) ซึ่งชื่อของท่านมีความหมายว่า “สวมกอดอย่างอบอุ่น”? ไม่มีการให้ข้อมูลไว้เกี่ยวกับเชื้อสาย, วงศ์ตระกูล, สภาพการณ์ต่าง ๆ ในชีวิต, หรือความตายของฮะบาฆูค. ท่านเป็นนักดนตรีตระกูลเลวีที่พระวิหารหรือไม่นั้นไม่อาจบอกได้แน่นอน แม้ว่ามีการอนุมานว่าเป็นเช่นนั้นเนื่องจากคำลงท้ายของพระธรรมนี้ที่ว่า “ถึงหัวหน้า โดยใช้เครื่องสายของข้าพเจ้า.”
3. สภาพการณ์อะไรบ้างที่ส่งผลกระทบยูดาซึ่งช่วยบ่งชี้เวลาที่เขียนพระธรรมฮะบาฆูค?
3 ฮะบาฆูคประกาศคำพยากรณ์ของท่านเมื่อไร? คำลงท้ายที่กล่าวถึงข้างต้นและข้อความว่า “พระยะโฮวาสถิตในพระวิหารอันบริสุทธิ์ของพระองค์” บ่งว่าพระวิหารในยะรูซาเลมยังอยู่. (2:20, ล.ม.) เรื่องนี้เมื่อรวมกับข่าวสารในคำพยากรณ์จึงบ่งชี้ว่ามีการกล่าวคำพยากรณ์นี้ไม่นานก่อนความพินาศของกรุงยะรูซาเลมในปี 607 ก.ส.ศ. แต่ก่อนหน้านั้นกี่ปี? คงต้องเป็นหลังจากรัชกาลของโยซียากษัตริย์ผู้เกรงกลัวพระเจ้า คือช่วงปี 659-629 ก.ส.ศ. คำพยากรณ์เองให้เบาะแสในการบอกล่วงหน้าถึงการกระทำที่พลเมืองในยูดาจะไม่เชื่อแม้เล่าให้ฟังก็ตาม. เหตุการณ์นี้คืออะไร? คือการที่พระเจ้าจะทรงนำชาวแคลเดีย (บาบูโลน) มาลงโทษยูดาที่ขาดความเชื่อ. (1:5, 6) เรื่องนี้คงตรงกับช่วงต้นรัชกาลของกษัตริย์ยะโฮยาคิมผู้ไหว้รูปเคารพ ช่วงเวลาที่การขาดความเชื่อและความอยุติธรรมมีดาษดื่นในยูดา. ฟาโรห์นะโคแต่งตั้งยะโฮยาคิมให้ครองบัลลังก์ และชาตินี้อยู่ใต้อิทธิพลของอียิปต์. ภายใต้สภาพการณ์ดังกล่าว ประชาชนจึงคิดว่าพวกเขามีสาเหตุที่จะไม่เชื่อว่าการโจมตีจากบาบูโลนจะเป็นไปได้. แต่นะบูคัดเนซัรได้เอาชนะฟาโรห์นะโคในการรบที่คาร์เคมิชในปี 625 ก.ส.ศ. ซึ่งทำให้อียิปต์หมดอำนาจ. ฉะนั้น จึงต้องมีการให้คำพยากรณ์ก่อนเหตุการณ์นั้น. ข้อบ่งชี้ต่าง ๆ จึงมุ่งตรงที่ตอนต้นรัชกาลของยะโฮยาคิม (ซึ่งเริ่มในปี 628 ก.ส.ศ.) ทำให้ฮะบาฆูคเป็นผู้พยากรณ์ร่วมสมัยกับยิระมะยา.
4. อะไรพิสูจน์ว่าพระธรรมฮะบาฆูคมีขึ้นโดยการดลใจจากพระเจ้า?
4 เราจะทราบได้อย่างไรว่าพระธรรมฮะบาฆูคมีขึ้นโดยการดลใจจากพระเจ้า? รายชื่อต่าง ๆ ในสมัยโบราณของพระธรรมในพระคัมภีร์ภาคภาษาฮีบรูยืนยันว่าฮะบาฆูคเป็นส่วนแห่งสารบบพระคัมภีร์. แม้รายชื่อเหล่านั้นไม่กล่าวถึงชื่อพระธรรมนี้ แต่ก็ปรากฏชัดว่าได้รวมเอาพระธรรมนี้ไว้ในคำกล่าวถึง ‘ผู้พยากรณ์น้อยสิบสองคน’ เพราะถ้าไม่มีฮะบาฆูค ก็คงไม่เป็น 12 คน. อัครสาวกเปาโลยอมรับว่าคำพยากรณ์นี้เป็นส่วนของพระคัมภีร์ที่มีขึ้นโดยการดลใจและยกข้อความจากฮะบาฆูค 1:5 ไปกล่าวโดยตรง โดยกล่าวถึงข้อความนี้ว่าเป็น “คำซึ่งเหล่าศาสดาพยากรณ์ได้กล่าวไว้.” (กิจ. 13:40, 41) เปาโลอ้างอิงพระธรรมนี้หลายครั้งในจดหมายของท่าน. แน่นอน ความสำเร็จเป็นจริงแห่งถ้อยคำที่ฮะบาฆูคมีต่อยูดาและบาบูโลนแสดงว่าท่านเป็นผู้พยากรณ์แท้ของพระยะโฮวา ซึ่งท่านพูดในพระนามพระองค์และเพื่อสง่าราศีของพระองค์.
5. จงกล่าวถึงเนื้อเรื่องในพระธรรมฮะบาฆูคโดยสังเขป.
5 พระธรรมฮะบาฆูคประกอบด้วยสามบท. สองบทแรกเป็นการสนทนาระหว่างผู้เขียนกับพระยะโฮวา. สองบทนี้กล่าวถึงความเข้มแข็งของชาวแคลเดีย (เคเซธ) อีกทั้งความโศกเศร้าที่คอยท่าชาติบาบูโลนซึ่งสะสมสิ่งของมากมายที่ไม่ใช่ของตน, แสวงทรัพย์สิ่งของสำหรับเรือนของตนโดยมิชอบ, สร้างเมืองด้วยการนองเลือด, และนมัสการรูปแกะสลัก. บทที่สามกล่าวถึงความสง่างามของพระยะโฮวาในวันแห่งการศึก และไม่มีอะไรเทียบพระธรรมนี้ได้ในด้านพลังและความมีชีวิตชีวาของลีลาการเขียนที่น่าทึ่ง. บทนี้เป็นคำอธิษฐานในแบบเพลงคร่ำครวญและได้ชื่อว่า “หนึ่งในบทกวีที่เลอเลิศและไพเราะที่สุดในบทกวีฮีบรูทั้งหมด.”a
เนื้อเรื่องในฮะบาฆูค
6. สถานการณ์ในยูดาเป็นอย่างไร และดังนั้น พระยะโฮวาจะทรงทำพระราชกิจอันน่าประหลาดใจอะไร?
6 ผู้พยากรณ์ร้องทูลพระยะโฮวา (1:1–2:1). การขาดความเชื่อในยูดากระตุ้นให้ฮะบาฆูคเกิดคำถามในจิตใจ. ท่านทูลถามว่า “โอ้พระยะโฮวา, ข้าพเจ้าจะร้องไห้นานเท่าใด, แลพระองค์จะไม่ทรงสดับฟังหรือ . . . เพราะความฉิบหายแลความอันตรายอยู่ตรงหน้าข้าพเจ้า.” (1:2, 3) กฎหมายหมดความหมาย คนชั่วอยู่รายล้อมผู้ชอบธรรม และความยุติธรรมก็บิดเบี้ยว. เพราะเหตุนี้ พระยะโฮวาจะทรงทำราชกิจซึ่งจะก่อความประหลาดใจ สิ่งที่ “แม้นมีผู้กล่าวแจ้งให้ฟังท่านก็ไม่เชื่อ.” แท้จริง พระองค์จะ “ยกชาวเมืองเคเซ็ธ” มา! นิมิตที่พระยะโฮวาทรงประทานเกี่ยวกับชาติที่ดุร้ายนี้น่ากลัวจริง ๆ เนื่องจากพวกเขาจะมาอย่างฉับพลัน. ชาตินี้หมกมุ่นแต่ความรุนแรง และพวกเขารวบรวมเชลย “ราวกับกวาดเอาเม็ดทราย.” (1:5, 6, 9) ไม่มีอะไรจะขวางชาตินี้ แม้แต่พวกกษัตริย์หรือเจ้านาย เพราะชาตินี้จะหัวเราะเยาะเขาทั้งปวง. บาบูโลนจะยึดทุกแห่งที่มีป้อมเข้มแข็ง. ทั้งหมดนี้เป็นการพิพากษาและการว่ากล่าวแก้ไขจากพระยะโฮวา “ผู้บริสุทธิ์.” (1:12) ฮะบาฆูคตั้งใจคอยให้พระเจ้าตรัส.
7. พระยะโฮวาทรงปลอบโยนฮะบาฆูคอย่างไร?
7 นิมิตแห่งวิบัติห้าประการ (2:2-20). พระยะโฮวาทรงตอบว่า “จงเขียนเนื้อความนิมิตลงไว้ที่แผ่นจารึกให้กระจ่างตา.” แม้นิมิตนั้นดูเหมือนจะช้า แต่นิมิตนั้นจะสำเร็จเป็นแน่. พระยะโฮวาทรงปลอบโยนฮะบาฆูคด้วยถ้อยคำนี้: “ส่วนคนชอบธรรมนั้น เขาจะดำรงชีวิตอยู่ต่อไปโดยความซื่อสัตย์ของตน.” (2:2, 4, ล.ม.) ศัตรูที่ยกตนเองจะไม่บรรลุเป้าหมายของตน แม้เขาจะรวบรวมชาติและชนชาติต่าง ๆ ไว้เป็นของตัวเอง. คนเหล่านี้แหละจะยกคำสุภาษิตเกี่ยวกับวิบัติห้าประการขึ้นต่อสู้เขา:
8, 9. วิบัติห้าประการในนิมิตมีแก่บุคคลประเภทใดบ้าง?
8 “วิบัติแก่ผู้ที่สะสมสิ่งที่มิใช่ของตน.” ตัวเขาเองจะเป็นเหมือนของปล้น. เขาจะถูกปล้นชิง ‘เพราะการทำให้โลหิตมนุษย์ตกและเพราะการทารุณต่อโลก.’ (2:6, 8, ฉบับแปลใหม่) “วิบัติแก่ผู้ที่ได้กำไรมาสู่เรือนของตนด้วยความชั่ว.” การที่เขาฆ่าคนหลายชนชาติจะทำให้แม้แต่หินและสิ่งของที่ทำด้วยไม้ในบ้านของเขาร้องออกมา. (2:9, ฉบับแปลใหม่) “วิบัติแก่ผู้สร้างเมืองด้วยโลหิต.” พระยะโฮวาทรงแถลงว่า พลเมืองของเขาจะตรากตรำทำงานเพียงเพื่อให้ไฟเผาและสาบสูญ. “เพราะว่าพิภพจะเต็มไปด้วยความรู้ในเรื่องพระสิริของพระเจ้าดังน้ำที่เต็มทะเล.”—2:12, 14, ฉบับแปลใหม่.
9 “วิบัติแก่ผู้ซึ่งให้เพื่อนดื่มอะไรบางอย่าง โดยปนความโกรธขึ้งและโทสะของตนด้วย เพื่อให้พวกเขาเมา ด้วยประสงค์จะมองดูส่วนที่น่าละอายของพวกเขา.” พระยะโฮวาจะทรงทำให้เขาดื่มจากถ้วยในพระหัตถ์เบื้องขวาของพระองค์ ทำให้เขาได้รับความอดสูแทนเกียรติยศ “เนื่องด้วยการทำให้เลือดมนุษย์ตกและความโหดร้ายที่ได้ทำแก่แผ่นดินโลก เมืองและคนทั้งปวงที่อยู่ในเมือง.” รูปแกะสลักจะมีประโยชน์อะไรต่อผู้ที่ทำมันขึ้นมา—พระเหล่านั้นไร้ค่าและเป็นใบ้ไม่ใช่หรือ? (2:15, 17, ล.ม.) “วิบัติแก่ผู้ที่บอกแก่ท่อนไม้ว่า ‘ตื่นเถิด!’ แก่หินใบ้ว่า ‘ตื่นขึ้นเถิด! ตัวมันเองจะให้คำสั่งสอน’! ไม่เหมือนพวกพระที่ไร้ชีวิต “แต่พระยะโฮวาสถิตในพระวิหารบริสุทธิ์ของพระองค์. จงเงียบเฉพาะพระพักตร์พระองค์เถิด แผ่นดินโลกทั้งสิ้น!”—2:19, 20, ล.ม.
10. พระราชกิจอันน่าสะพรึงกลัวอะไรที่มีขึ้นพร้อมกับการปรากฏของพระยะโฮวาในวันทำสงคราม?
10 พระยะโฮวาในวันทำสงคราม (3:1-19). ในคำอธิษฐานอ้อนวอน ฮะบาฆูคบรรยายให้เห็นภาพพระราชกิจอันน่าสะพรึงกลัวของพระยะโฮวา. ในการปรากฏของพระยะโฮวา “สง่าราศีของพระองค์คลุมทั่วฟ้าสวรรค์และโลกก็เต็มด้วยคำสรรเสริญพระองค์.” (3:3, ฉบับแปลใหม่) พระรัศมีของพระองค์ประดุจแสงสว่าง, โรคร้ายไปข้างหน้าพระองค์เสมอ. พระองค์ทรงประทับยืนอยู่ ทรงเขย่าแผ่นดินโลก ทำให้นานาชาติกระโดดและภูเขาที่ยั่งยืนทั้งหลายพังทลาย. พระยะโฮวาทรงควบม้าเหมือนนักรบผู้กล้าแกร่งพร้อมด้วยคันธนูและรถรบแห่งความรอด. ภูเขาและห้วงน้ำลึกก็หวั่นไหว. ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์หยุดนิ่ง, และมีแสงของลูกศรอีกทั้งแสงวับวาบของหอกของพระองค์ขณะที่เสด็จไปทั่วพิภพ ทรงเหยียบย่ำนานาชาติด้วยพระพิโรธ. พระองค์เสด็จออกไปเพื่อความรอดของไพร่พลและของผู้ถูกเจิมของพระองค์ อีกทั้งเพื่อเปิดโปงรากฐานของคนชั่ว “เห็นกระจ่างตลอดถึงคอ.”—3:13.
11. นิมิตส่งผลกระทบฮะบาฆูคอย่างไร แต่ท่านตั้งใจแน่วแน่เช่นไร?
11 ท่านผู้พยากรณ์รู้สึกตื่นตะลึงด้วยนิมิตเกี่ยวกับฤทธานุภาพของพระยะโฮวาในราชกิจครั้งอดีตและราชกิจเขย่าโลกที่พระองค์จะทรงทำ. “ข้าพเจ้าได้ยิน และท้องข้าพเจ้าเริ่มปั่นป่วน; ริมผีปากข้าพเจ้าสั่นระริกด้วยเสียงนั้น; กระดูกข้าพเจ้าเริ่มผุพัง; และในตัวข้าพเจ้าก็ปั่นป่วน ที่ข้าพเจ้าต้องคอยวันแห่งความลำบากอย่างสงบ คอยพระองค์เสด็จมายังชนชาตินั้น เพื่อพระองค์จะทรงจู่โจมพวกเขา.” (3:16, ล.ม.) อย่างไรก็ตาม ฮะบาฆูคตั้งใจแน่วแน่ว่า ไม่ว่าจะต้องเผชิญช่วงเวลาเลวร้ายอย่างไรก็ตาม—มะเดื่อเทศไม่มีดอกบาน, เถาองุ่นไม่เกิดผล, ไม่มีฝูงสัตว์ในคอก—ท่านก็ยังจะลิงโลดยินดีในพระยะโฮวาและชื่นชมยินดีในพระเจ้าแห่งความรอดของท่าน. ท่านลงท้ายบทเพลงแห่งความปลาบปลื้มเป็นล้นพ้นของท่านด้วยถ้อยคำดังนี้: “พระยะโฮวาเจ้าองค์บรมมหิศรทรงเป็นพลังชีวิตของข้าพเจ้า; และพระองค์จะทรงทำให้เท้าข้าพเจ้าเป็นเหมือนตีนกวางตัวเมีย และพระองค์จะทรงทำให้ข้าพเจ้าเดินไปบนที่สูงทั้งหลายของข้าพเจ้า.”—3:19, ล.ม.
เหตุที่เป็นประโยชน์
12. เปาโลใช้ฮะบาฆูค 2:4 ให้เป็นประโยชน์อย่างไร?
12 ด้วยตระหนักว่าคำพยากรณ์ของฮะบาฆูคเป็นประโยชน์สำหรับสั่งสอน อัครสาวกเปาโลจึงยกข้อความจากบท 2 ข้อ 4 ไปกล่าวในสามโอกาสต่าง ๆ กัน. เมื่อเน้นว่า ข่าวดีเป็นฤทธิ์เดชของพระเจ้าเพื่อความรอดสำหรับทุกคนที่มีความเชื่อ เปาโลเขียนถึงคริสเตียนในกรุงโรมว่า “ด้วยว่าในกิตติคุณนั้นความชอบธรรมของพระเจ้าก็ได้ปรากฏแจ้งโดยความเชื่อเพื่อให้ความเชื่อทวีขึ้น เหมือนมีคำเขียนไว้แล้วว่า, ‘คนชอบธรรมจะมีชีวิตดำรงอยู่โดยความเชื่อ.’” เมื่อเขียนถึงคริสเตียนชาวฆะลาเตีย เปาโลเน้นจุดสำคัญที่ว่าพระพรมาโดยความเชื่อ “แต่ก็เห็นแจ้งอยู่แล้วว่า, ไม่มีมนุษย์เป็นคนชอบธรรมจำเพาะพระพักตร์พระเจ้าด้วยการประพฤติตามพระบัญญัติได้, เพราะว่า ‘คนชอบธรรมจะมีชีวิตดำรงอยู่โดยความเชื่อ.’” นอกจากนี้ เปาโลยังเขียนในจดหมายถึงคริสเตียนชาวฮีบรูว่า คริสเตียนต้องแสดงความเชื่อที่มีชีวิตซึ่งรักษาจิตวิญญาณให้รอด และอีกครั้งหนึ่งที่ท่านกล่าวถึงพระคำที่พระยะโฮวาทรงประทานแก่ฮะบาฆูค. อย่างไรก็ตาม ท่านยกถ้อยคำของฮะบาฆูคไปกล่าวไม่เพียงข้อความที่ว่า “คนชอบธรรมของเราจะดำรงชีวิตอยู่ด้วยความเชื่อ” แต่ยกข้อความต่อจากนั้นไปกล่าวด้วยที่ว่า “ถ้าเขาถอยกลับ จิตวิญญาณของเราไม่พอใจในคนนั้นเลย.” แล้วท่านจึงสรุปว่าเราเป็นคน “ชนิดที่มีความเชื่อที่จะรักษาจิตวิญญาณให้มีชีวิตอยู่.”—โรม 1:17; ฆลา. 3:11; เฮ็บ. 10:38, 39, ล.ม.
13. ความสำเร็จเป็นจริงที่แม่นยำแห่งคำพยากรณ์ของฮะบาฆูคต่อยูดาและบาบูโลนเน้นอะไรเกี่ยวกับการพิพากษาของพระเจ้า?
13 คำพยากรณ์ของฮะบาฆูคเป็นประโยชน์มากที่สุดสำหรับคริสเตียนในทุกวันนี้ซึ่งจำเป็นต้องมีพลังค้ำจุนชีวิต. คำพยากรณ์นี้สอนการหมายพึ่งพระเจ้า อีกทั้งเป็นประโยชน์สำหรับเตือนคนอื่นเรื่องการพิพากษาของพระเจ้า. บทเรียนที่เป็นคำเตือนนับว่าทรงพลังมาก คือ อย่าคิดว่าการพิพากษาของพระเจ้าเนิ่นช้าเกินไป; คำพิพากษาเหล่านั้นจะ “สำเร็จเป็นแน่.” (ฮบา. 2:3, ล.ม.) คำพยากรณ์เรื่องความพินาศของยูดาโดยบาบูโลนเกิดขึ้นจริง และบาบูโลนถูกยึดจริง ชาวมีเดียและเปอร์เซียยึดกรุงนี้ในปี 539 ก.ส.ศ. นับเป็นคำเตือนจริง ๆ ที่ให้เชื่อพระคำของพระเจ้า! ด้วยเหตุนั้น อัครสาวกเปาโลจึงเห็นว่าเป็นประโยชน์ที่จะยกข้อความจากฮะบาฆูคไปกล่าวเมื่อท่านเตือนชาวยิวในสมัยของท่านไม่ให้ขาดความเชื่อ ซึ่งกล่าวว่า “จงระวังให้ดี, เกลือกว่าคำซึ่งเหล่าศาสดาพยากรณ์ได้กล่าวไว้นั้นจะได้แก่ท่านทั้งหลาย, คือว่า ‘ดูก่อนเจ้าทั้งหลายผู้ประมาทหมิ่น เจ้าจะประหลาดใจและถึงพินาศ ด้วยว่าเรากระทำการในกาลสมัยของเจ้า, แต่แม้มีผู้มาอธิบายให้เจ้าฟัง, เจ้าก็ไม่เชื่อ.’” (กิจ. 13:40, 41; ฮบา. 1:5) ชาวยิวที่ขาดความเชื่อย่อมไม่ฟังเปาโล เหมือนกันกับที่พวกเขาไม่เชื่อคำเตือนของพระเยซูในเรื่องความพินาศของยะรูซาเลม; พวกเขาจึงต้องรับผลเนื่องจากการขาดความเชื่อเมื่อกองทัพโรมทำลายล้างกรุงยะรูซาเลมในปี ส.ศ. 70.—ลูกา 19:41-44.
14. (ก) คำพยากรณ์ของฮะบาฆูคหนุนกำลังใจคริสเตียนสมัยนี้อย่างไรให้มีความเชื่อที่เข้มแข็ง? (ข) ดังที่กล่าวไว้ในคำพยากรณ์นี้ ผู้รักความชอบธรรมอาจมีความมั่นใจที่น่ายินดีอะไรขณะนี้?
14 ในสมัยนี้ก็เหมือนกัน คำพยากรณ์ของฮะบาฆูคหนุนกำลังใจคริสเตียนให้มีความเชื่อที่เข้มแข็งขณะอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยความรุนแรง. ความเชื่อนี้ช่วยพวกเขาให้สอนคนอื่นและตอบปัญหาที่ผู้คนทั่วโลกถามที่ว่า พระเจ้าจะดำเนินการแก้แค้นคนชั่วไหม? ขอสังเกตถ้อยคำพยากรณ์อีกครั้ง ที่ว่า “จงคอยท่า; ด้วยว่าจะสำเร็จเป็นแน่. จะไม่ล่าช้าเลย.” (ฮบา. 2:3, ล.ม.) ไม่ว่าจะเกิดความโกลาหลใด ๆ บนแผ่นดินโลก ชนที่เหลือผู้ถูกเจิมแห่งรัชทายาทของราชอาณาจักรจะระลึกถึงถ้อยคำของฮะบาฆูคเกี่ยวกับการแก้แค้นของพระยะโฮวาในครั้งอดีตที่ว่า “พระองค์เสด็จออกไปเพื่อช่วยประชากรของพระองค์ให้รอดเพื่อช่วยผู้ที่พระองค์ทรงเจิมไว้ให้รอด.” (3:13, ฉบับแปลใหม่) เป็นความจริง พระยะโฮวาเป็น “ผู้บริสุทธิ์” ของพวกเขานานมาแล้ว และเป็น “ศิลา” ผู้ซึ่งจะว่ากล่าวแก้ไขคนไม่ชอบธรรมและทรงประทานชีวิตแก่ผู้ที่พระองค์ทรงรัก. ผู้รักความชอบธรรมทุกคนอาจชื่นชมในราชอาณาจักรและพระบรมเดชานุภาพของพระองค์โดยกล่าวดังนี้ “ส่วนข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะปลาบปลื้มในพระยะโฮวาพระองค์เอง; ข้าพเจ้าจะชื่นชมยินดีในพระเจ้าแห่งความรอดของข้าพเจ้า. พระยะโฮวาเจ้าองค์บรมมหิศรทรงเป็นพลังชีวิตของข้าพเจ้า.”—1:12; 3:18, 19, ล.ม.
[เชิงอรรถ]
a พระธรรมของผู้พยากรณ์น้อยสิบสองคน 1868 อี. เฮนเดอร์สัน หน้า 285.