ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • ทต น. 218-225
  • พระธรรมเล่มที่ 40—มัดธาย

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • พระธรรมเล่มที่ 40—มัดธาย
  • “พระคัมภีร์ทุกตอนมีขึ้นโดยการดลใจจากพระเจ้าและเป็นประโยชน์”
  • หัวเรื่องย่อย
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • เนื้อ​เรื่อง​ใน​มัดธาย
  • เหตุ​ที่​เป็น​ประโยชน์
  • พระธรรมเล่มที่ 42—ลูกา
    “พระคัมภีร์ทุกตอนมีขึ้นโดยการดลใจจากพระเจ้าและเป็นประโยชน์”
  • พระธรรมเล่มที่ 41—มาระโก
    “พระคัมภีร์ทุกตอนมีขึ้นโดยการดลใจจากพระเจ้าและเป็นประโยชน์”
  • พระธรรมเล่มที่ 43—โยฮัน
    “พระคัมภีร์ทุกตอนมีขึ้นโดยการดลใจจากพระเจ้าและเป็นประโยชน์”
  • บทนำของหนังสือมัทธิว
    คัมภีร์ไบเบิลฉบับแปลโลกใหม่ (ฉบับศึกษา)
ดูเพิ่มเติม
“พระคัมภีร์ทุกตอนมีขึ้นโดยการดลใจจากพระเจ้าและเป็นประโยชน์”
ทต น. 218-225

พระ​ธรรม​เล่ม​ที่ 40—มัดธาย

ผู้​เขียน: มัดธาย

สถาน​ที่​เขียน: ปาเลสไตน์

เขียน​เสร็จ: ประมาณ​ปี ส.ศ. 41

ครอบ​คลุม​ระยะ​เวลา: ปี 2 ก.ส.ศ.-ส.ศ. 33

1. (ก) พระ​ยะโฮวา​ทรง​ให้​สัญญา​อะไร​แก่​มนุษยชาติ​นับ​ตั้ง​แต่​สมัย​สวน​เอเดน​เป็น​ต้น​มา? (ข) ความ​หวัง​ใน​พระ​มาซีฮา​ได้​ตั้ง​มั่นคง​ท่ามกลาง​ชาว​ยิว​อย่าง​ไร?

ตั้ง​แต่​ตอน​ที่​เกิด​การ​กบฏ​ใน​สวน​เอเดน พระ​ยะโฮวา​ทรง​ให้​สัญญา​ที่​ชู​ใจ​แก่​มนุษยชาติ​ว่า พระองค์​จะ​จัด​ให้​มี​การ​ช่วย​ให้​รอด​พ้น​แก่​ผู้​รัก​ความ​ชอบธรรม​ทั้ง​ปวง​โดย​ทาง​พงศ์พันธุ์​แห่ง “ผู้​หญิง” ของ​พระองค์. พระองค์​ทรง​ประสงค์​จะ​ให้​พงศ์พันธุ์​หรือ​พระ​มาซีฮา​นี้​บังเกิด​จาก​ชาติ​ยิศราเอล. เมื่อ​หลาย​ศตวรรษ​ล่วง​เลย​ไป พระองค์​ได้​ทรง​ทำ​ให้​มี​การ​บันทึก​คำ​พยากรณ์​หลาย​ประการ​โดย​ทาง​ผู้​เขียน​ชาว​ฮีบรู​ที่​ได้​รับ​การ​ดล​ใจ ซึ่ง​แสดง​ว่า​พงศ์พันธุ์​นั้น​จะ​เป็น​ผู้​ปกครอง​ใน​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​และ​ท่าน​จะ​ทำ​ให้​พระ​นาม​ของ​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ที่​นับถือ​อัน​บริสุทธิ์ โดย​ทำ​ให้​พระ​นาม​นี้​พ้น​จาก​คำ​ตำหนิ​ที่​เคย​ทับ​ถม​พระ​นาม​นี้​ตลอด​ไป. มี​การ​ให้​ราย​ละเอียด​หลาย​ประการ​โดย​ทาง​ผู้​พยากรณ์​เหล่า​นั้น​เกี่ยว​กับ​ท่าน​ผู้​นี้​ซึ่ง​จะ​เป็น​ผู้​พิสูจน์​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ฝ่าย​ถูก​และ​เป็น​ผู้​ซึ่ง​จะ​ช่วย​ให้​รอด​พ้น​จาก​ความ​กลัว, การ​กดขี่, บาป, และ​ความ​ตาย. เมื่อ​พระ​คัมภีร์​ภาค​ภาษา​ฮีบรู​เขียน​เสร็จ ความ​หวัง​ใน​พระ​มาซีฮา​จึง​ถูก​ตั้ง​ไว้​อย่าง​มั่นคง​ท่ามกลาง​ชาว​ยิว.

2. ใน​คราว​การ​ปรากฏ​ของ​พระ​มาซีฮา สภาพการณ์​เอื้ออำนวย​แก่​การ​เผยแพร่​ข่าว​ดี​อย่าง​ไร?

2 ระหว่าง​นั้น​ฉาก​ของ​โลก​ได้​เปลี่ยน​ไป. พระเจ้า​ทรง​จัด​การ​ให้​นานา​ชาติ​เตรียม​พร้อม​สำหรับ​การ​ปรากฏ​ของ​พระ​มาซีฮา และ​สภาพการณ์​ก็​เอื้ออำนวย​แก่​การ​แพร่​ข่าว​เหตุ​การณ์​นั้น​ไป​อย่าง​กว้าง​ไกล. กรีซ​ซึ่ง​เป็น​มหาอำนาจ​ที่​ห้า​ของ​โลก​ได้​จัด​ให้​มี​ภาษา​กลาง​อัน​เป็น​เครื่อง​มือ​สากล​ใน​การ​ติด​ต่อ​สื่อสาร​ท่ามกลาง​ชาติ​ทั้ง​หลาย. โรม มหาอำนาจ​ที่​หก​ของ​โลก ได้​รวม​ประเทศ​ที่​ตก​เป็น​เมือง​ขึ้น​ของ​ตน​เข้า​อยู่​ใน​จักรวรรดิ​เดียว​และ​สร้าง​ถนน​เพื่อ​ไป​ถึง​ทุก​ส่วน​ของ​จักรวรรดิ​ได้. ชาว​ยิว​จำนวน​มาก​ได้​กระจัด​กระจาย​ไป​ทั่ว​จักรวรรดิ​นี้ จน​คน​อื่น ๆ ได้​ทราบ​ถึง​การ​คาด​หมาย​ที่​ชาว​ยิว​มี​ใน​เรื่อง​พระ​มาซีฮา​ที่​จะ​มา. และ​บัด​นี้ กว่า 4,000 ปี​หลัง​จาก​สัญญา​ใน​สวน​เอเดน พระ​มาซีฮา​ได้​มา​ปรากฏ! พงศ์พันธุ์​ตาม​สัญญา​ซึ่ง​รอ​คอย​กัน​มา​นาน​มา​ถึง​แล้ว! เหตุ​การณ์​สำคัญ​ที่​สุด​เท่า​ที่​มี​มา​ใน​ประวัติศาสตร์​ของ​มนุษย์​ถูก​คลี่คลาย​ใน​ขณะ​ที่​พระ​มาซีฮา​ทรง​ปฏิบัติ​ตาม​พระทัย​ประสงค์​แห่ง​พระ​บิดา​ของ​พระองค์​บน​แผ่นดิน​โลก​นี้​อย่าง​ซื่อ​สัตย์.

3. (ก) พระ​ยะโฮวา​ทรง​จัด​เตรียม​อะไร​ไว้​เพื่อ​การ​บันทึก​ราย​ละเอียด​เกี่ยว​กับ​ชีวิต​พระ​เยซู? (ข) กิตติคุณ​แต่​ละ​เล่ม​แตกต่าง​กัน​อย่าง​ไร และ​เหตุ​ใด​จึง​จำเป็น​ต้อง​มี​กิตติคุณ​ทั้ง​สี่?

3 ถึง​เวลา​จะ​ต้อง​มี​การ​เขียน​โดย​การ​ดล​ใจ​อีก​ครั้ง​เพื่อ​บันทึก​เหตุ​การณ์​น่า​ตื่นเต้น​เหล่า​นี้. พระ​วิญญาณ​ของ​พระ​ยะโฮวา​ได้​ดล​ใจ​ชาย​ที่​ซื่อ​สัตย์​สี่​คน​ให้​เขียน​บันทึก​ตาม​แบบ​ของ​ตน​เอง​โดย​เฉพาะ ดัง​นั้น จึง​ให้​คำ​พยาน​สี่​ต่อ​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​พระ​มาซีฮา เป็น​พงศ์พันธุ์​และ​พระ​มหา​กษัตริย์​ที่​สัญญา​ไว้ และ​ให้​ราย​ละเอียด​เกี่ยว​กับ​ชีวิต, งาน​รับใช้, การ​สิ้น​พระ​ชนม์, และ​การ​คืน​พระ​ชนม์​ของ​พระองค์. บันทึก​เหล่า​นี้​ถูก​เรียก​ว่า​กิตติคุณ คำ “กิตติคุณ” หมาย​ความ​ว่า “ข่าว​ดี.” แม้​กิตติคุณ​ทั้ง​สี่​เล่ม​คล้ายคลึง​กัน​และ​บ่อย​ครั้ง​กล่าว​ถึง​เหตุ​การณ์​เดียว​กัน แต่​กิตติคุณ​เหล่า​นี้​ไม่​ใช่​ฉบับ​คัด​ลอก​กัน. กิตติคุณ​สาม​เล่ม​แรก​มัก​เรียก​กัน​ว่า ไซนอปติก ซึ่ง​หมาย​ความ​ว่า “ความ​เห็น​ที่​พ้อง​กัน” เนื่อง​จาก​เล่า​ถึง​ชีวิต​ของ​พระ​เยซู​น​แผ่นดิน​โลก​ใน​ลักษณะ​คล้าย​กัน. แต่​ผู้​เขียน​ทั้ง​สี่​คือ มัดธาย, มาระโก, ลูกา, และ​โยฮัน ต่าง​เล่า​เรื่อง​ที่​ตัว​เอง​ทราบ​เกี่ยว​กับ​พระ​คริสต์. แต่​ละ​คน​มี​อรรถบท​และ​จุด​ประสงค์​ของ​ตน​โดย​เฉพาะ, สะท้อน​ให้​เห็น​บุคลิกภาพ​ของ​ตน​เอง, และ​คิด​ถึง​ผู้​อ่าน​ของ​ตน. ยิ่ง​เรา​ศึกษา​ค้นคว้า​งาน​เขียน​ของ​พวก​ท่าน เรา​ก็​ยิ่ง​เข้าใจ​ลักษณะ​เฉพาะ​ของ​แต่​ละ​เล่ม และ​เข้าใจ​ว่า​พระ​ธรรม​ซึ่ง​มี​ขึ้น​โดย​การ​ดล​ใจ​ทั้ง​สี่​เล่ม​นี้​ประกอบ​กัน​เป็น​บันทึก​เรื่อง​ราว​ชีวิต​ของ​พระ​เยซู​คริสต์​ที่​เป็น​แบบ​เฉพาะ​ตัว, เสริม​กัน, และ​สอดคล้อง​ต้อง​กัน.

4. เรา​ทราบ​อะไร​เกี่ยว​กับ​ผู้​เขียน​กิตติคุณ​เล่ม​แรก?

4 คน​แรก​ที่​เขียน​ข่าว​ดี​เกี่ยว​กับ​พระ​คริสต์​ไว้​คือ​มัดธาย. ชื่อ​ของ​ท่าน​คง​เป็น​คำ​ย่อ​ของ​คำ​ภาษา​ฮีบรู​ที่​ว่า “มัด​ที​ที​ยาห์” ซึ่ง​หมาย​ความ​ว่า “ของ​ประทาน​จาก​ยะโฮวา.” ท่าน​เป็น​คน​หนึ่ง​ใน​อัครสาวก 12 คน​ที่​พระ​เยซู​ทรง​เลือก. ใน​ช่วง​เวลา​ที่​พระ​เยซู​ผู้​เป็น​นาย​ทรง​เดิน​ทาง​ทั่ว​แผ่นดิน​ปาเลสไตน์​เพื่อ​ประกาศ​และ​สอน​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า มัดธาย​มี​ความ​สัมพันธ์​ใกล้​ชิด​สนิทสนม​กับ​พระองค์. ก่อน​มา​เป็น​สาวก​ของ​พระ​เยซู มัดธาย​เป็น​คน​เก็บ​ภาษี อาชีพ​ที่​ชาว​ยิว​ทุก​คน​รังเกียจ​อย่าง​ยิ่ง​เพราะ​เป็น​การ​ย้ำ​เตือน​อยู่​เสมอ​ว่า​พวก​เขา​ไม่​เป็น​ไท แต่​อยู่​ใต้​อำนาจ​ปกครอง​ของ​จักรวรรดิ​โรม. มัดธาย​เป็น​ที่​รู้​จัก​ใน​อีก​ชื่อ​หนึ่ง​ว่า​เลวี​และ​เป็น​บุตร​ชาย​ของ​อาละฟาย. ท่าน​ตอบรับ​ทันที​ต่อ​คำ​เชิญ​ของ​พระ​เยซู​ที่​ให้​ติด​ตาม​พระองค์.—มัด. 9:9; มโก. 2:14; ลูกา 5:27-32.

5. มัดธาย​ได้​รับ​การ​ยืน​ยัน​อย่าง​ไร​ว่า​เป็น​ผู้​เขียน​กิตติคุณ​เล่ม​แรก?

5 แม้​กิตติคุณ​ที่​ถือ​กัน​ว่า​เป็น​ของ​มัดธาย​ไม่​เอ่ย​ชื่อ​ท่าน​ว่า​เป็น​ผู้​เขียน แต่​หลักฐาน​มาก​มาย​จาก​นัก​ประวัติศาสตร์​ด้าน​คริสตจักร​สมัย​แรก ๆ ก็​ยืน​ยัน​ว่า​ท่าน​เป็น​ผู้​เขียน. อาจ​เป็น​ได้​ว่า ไม่​มี​หนังสือ​โบราณ​เล่ม​ใด​ที่​มี​การ​ยืน​ยัน​ชัดเจน​และ​อย่าง​เป็น​เอกฉันท์​ใน​เรื่อง​ตัว​ผู้​เขียน​ยิ่ง​กว่า​พระ​ธรรม​มัดธาย. นับ​ย้อน​หลัง​ไป​ตั้ง​แต่​พาพีอัส​แห่ง​ฮีราโพลิส (ต้น​ศตวรรษ​ที่​สอง ส.ศ.) เป็น​ต้น​มา เรา​มี​พยาน​ใน​ศตวรรษ​ต้น ๆ หลาย​คน​ยืน​ยัน​ข้อ​เท็จ​จริง​ที่​ว่า มัดธาย​เขียน​กิตติคุณ​เล่ม​นี้​และ​เป็น​ส่วน​ที่​เชื่อถือ​ได้​แห่ง​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า. สารานุกรม ของ​แมกคลินทอก​และ​สตรอง (ภาษา​อังกฤษ) กล่าว​ว่า “มี​การ​ยก​ข้อ​ความ​จาก​พระ​ธรรม​มัดธาย​ไป​กล่าว​โดย​จัสติน มาร์เทอร์, โดย​ผู้​เขียน​จดหมาย​ถึง​ไดออกเนทุส (ดู​หนังสือ​จัสติน มาร์เทอร์ ของ​ออทโท เล่ม 2) โดย​เฮเกซิพพุส, อิเรแนอุส, ทาเทียน, อะเทนาโกรัส, เธโอฟีลุส, เคลเมนต์, เทอร์ทูลเลียน, และ​ออริเกน. ไม่​เพียง​จาก​เนื้อ​ความ แต่​จาก​ลักษณะ​การ​ยก​ข้อ​ความ​ไป​กล่าว, จาก​การ​หัน​เข้า​หา​แหล่ง​อ้างอิง​ที่​เชื่อถือ​ได้​ด้วย​ความ​สบาย​ใจ, จาก​การ​ที่​ไม่​มี​ข้อ​สงสัย​ปลีกย่อย​ใด ๆ เลย ที่​เรา​ถือ​เป็น​ข้อ​พิสูจน์​ว่า​พระ​ธรรม​ที่​เรา​มี​อยู่​ไม่​ได้​ถูก​เปลี่ยน​แปลง​อะไร​อย่าง​กะทันหัน.”a ข้อ​เท็จ​จริง​ที่​ว่า​มัดธาย​เป็น​อัครสาวก​และ​ด้วย​เหตุ​นี้​จึง​มี​พระ​วิญญาณ​ของ​พระเจ้า​อยู่​กับ​ท่าน​นั้น​รับรอง​ว่า​สิ่ง​ที่​ท่าน​เขียน​เป็น​บันทึก​ที่​ตรง​ตาม​ข้อ​เท็จ​จริง.

6, 7. (ก) ใน​ตอน​แรก​กิตติคุณ​ของ​มัดธาย​เขียน​เมื่อ​ไร​และ​เขียน​เป็น​ภาษา​อะไร? (ข) มี​อะไร​บ่ง​ว่า​พระ​ธรรม​นี้​เขียน​เพื่อ​ชาว​ยิว​เป็น​อันดับ​แรก? (ค) ฉบับ​แปล​โลก​ใหม่ ใช้​พระ​นาม “ยะโฮวา” กี่​ครั้ง​ใน​กิตติคุณ​เล่ม​นี้ และ​เพราะ​เหตุ​ใด?

6 มัดธาย​เขียน​บันทึก​ของ​ท่าน​ใน​ปาเลสไตน์. เรา​ไม่​ทราบ​ปี​ที่​แน่นอน แต่​การ​ลง​นาม​ใน​ตอน​ท้าย​ของ​สำเนา​บาง​ฉบับ (ซึ่ง​ทุก​ฉบับ​เขียน​หลัง​จาก​ศตวรรษ​ที่​สิบ ส.ศ.) บอก​ว่า​เป็น​ปี ส.ศ. 41 มี​หลักฐาน​บ่ง​ว่า​ใน​ตอน​แรก​มัดธาย​เขียน​กิตติคุณ​ของ​ท่าน​ใน​ภาษา​ฮีบรู​ที่​นิยม​ใช้​กัน​เวลา​นั้น​และ​ต่อ​มา​ได้​แปล​เป็น​ภาษา​กรีก. ใน​หนังสือ​ของ​เขา​ชื่อ เด วีริส อินลุสตริบุส (ว่า​ด้วย​บุรุษ​ผู้​เรือง​นาม) บท​ที่ 3 เจโรม​กล่าว​ว่า “มัดธาย ผู้​ซึ่ง​มี​อีก​ชื่อ​หนึ่ง​ว่า​เลวี และ​ผู้​ซึ่ง​แต่​เดิม​เป็น​คน​เก็บ​ภาษี​แล้ว​ได้​มา​เป็น​อัครสาวก ประการ​แรก ได้​เรียบเรียง​กิตติคุณ​ของ​พระ​คริสต์​ใน​ยูเดีย​ด้วย​ภาษา​และ​อักษร​ฮีบรู​เพื่อ​ประโยชน์​แก่​ผู้​ที่​รับ​สุหนัต​ซึ่ง​ได้​มา​เชื่อถือ.”b เจโรม​บอก​อีก​ว่า​ข้อ​ความ​ภาษา​ฮีบรู​ของ​กิตติคุณ​นี้​ได้​รับ​การ​รักษา​ไว้​ใน​สมัย​ของ​ตน (ศตวรรษ​ที่​สี่​และ​ห้า ส.ศ.) ใน​ห้อง​สมุด​ที่​พัมฟิลุส​ได้​รวบ​รวม​ไว้​ใน​ซีซาเรีย (กายซาไรอา).

7 ใน​ช่วง​ต้น​ศตวรรษ​ที่​สาม ใน​การ​อธิบาย​กิตติคุณ​ทั้ง​สี่ ยูเซบิอุส​ยก​ข้อ​ความ​ของ​ออริเกน​มา​กล่าว​ที่​ว่า “เล่ม​แรก​เขียน . . . ตาม​คำ​กล่าว​ของ​มัดธาย . . . ซึ่ง​เขียน​กิตติคุณ​เล่ม​นี้​เพื่อ​คน​จาก​ลัทธิ​ยูดาย​ที่​เข้า​มา​เชื่อถือ ได้​เรียบเรียง​เป็น​ภาษา​ฮีบรู​ดัง​ที่​เป็น​อยู่.”c ที่​ว่า​กิตติคุณ​นี้​เขียน​ขึ้น​โดย​คำนึง​ถึง​ชาว​ยิว​เป็น​อันดับ​แรก​มี​บ่ง​ไว้​โดย​ลำดับ​วงศ์วาน​ใน​กิตติคุณ​นี้ ซึ่ง​แสดง​ว่า​การ​สืบ​เชื้อ​สาย​ของ​พระ​เยซู​ตาม​กฎหมาย​นั้น​เริ่ม​จาก​อับราฮาม และ​โดย​ที่​กิตติคุณ​นี้​อ้าง​ถึง​พระ​คัมภีร์​ภาค​ภาษา​ฮีบรู​หลาย​ข้อ แสดง​ว่า​ข้อ​พระ​คัมภีร์​เหล่า​นั้น​ชี้​ถึง​พระ​มาซีฮา​ที่​จะ​มา. เป็น​เรื่อง​สม​เหตุ​สม​ผล​ที่​จะ​เชื่อ​ว่า​มัดธาย​ใช้​พระ​นาม​ยะโฮวา​ของ​พระเจ้า​ใน​รูป​เททรากรัมมาทอน​เมื่อ​ท่าน​ยก​ข้อ​ความ​จาก​ส่วน​ต่าง ๆ ของ​พระ​คัมภีร์​ภาค​ภาษา​ฮีบรู​ซึ่ง​มี​พระ​นาม​นี้​อยู่. นั่น​คือ​เหตุ​ที่​พระ​ธรรม​มัดธาย​ใน​ฉบับ​แปล​โลก​ใหม่ มี​พระ​นาม​ยะโฮวา 18 ครั้ง เช่น​เดียว​กับ​พระ​ธรรม​มัดธาย​ฉบับ​ภาษา​ฮีบรู​ที่​ทำ​ขึ้น​โดย เอฟ. เดลิตซ์​ใน​ศตวรรษ​ที่​สิบ​เก้า. มัดธาย​คง​มี​เจตคติ​เหมือน​ที่​พระ​เยซู​ทรง​มี​ต่อ​พระ​นาม​ของ​พระเจ้า​และ​ไม่​ถูก​ยับยั้ง​โดย​การ​เชื่อถือ​โชค​ลาง​ของ​ชาว​ยิว​ที่​แพร่​หลาย​ใน​เรื่อง​การ​ไม่​ใช้​พระ​นาม​นั้น.—มัด. 6:9; โย. 17:6, 26.

8. ข้อ​เท็จ​จริง​ที่​ว่า​มัดธาย​เคย​เป็น​คน​เก็บ​ภาษี​มี​แสดง​ให้​เห็น​อย่าง​ไร​ใน​เนื้อหา​ของ​กิตติคุณ​ของ​ท่าน?

8 เนื่อง​จาก​มัดธาย​เคย​เป็น​คน​เก็บ​ภาษี จึง​เป็น​เรื่อง​ธรรมดา​ที่​ท่าน​กล่าว​อย่าง​ชัด​แจ้ง​ใน​เรื่อง​เงิน, ตัว​เลข, และ​มูลค่า. (มัด. 17:27; 26:15; 27:3) ท่าน​รู้สึก​หยั่ง​รู้​ค่า​อย่าง​ยิ่ง​ต่อ​ความ​เมตตา​ของ​พระเจ้า​ที่​ทรง​โปรด​ให้​ท่าน​ซึ่ง​เป็น​คน​เก็บ​ภาษี​ที่​ถูก​รังเกียจ​ได้​มา​เป็น​ผู้​รับใช้​แห่ง​ข่าว​ดี​และ​เป็น​ผู้​ร่วม​งาน​ใกล้​ชิด​คน​หนึ่ง​ของ​พระ​เยซู. ฉะนั้น เรา​จึง​พบ​ว่า​มัดธาย​เป็น​คน​เดียว​ใน​หมู่​ผู้​เขียน​กิตติคุณ​ซึ่ง​บอก​เรา​ถึง​การ​ที่​พระ​เยซู​ทรง​ย้ำ​แล้ว​ย้ำ​อีก​ว่า นอก​จาก​เครื่อง​บูชา​แล้ว​ยัง​ต้อง​มี​ความ​เมตตา​ด้วย. (9:9-13; 12:7; 18:21-35) มัดธาย​ได้​รับ​กำลังใจ​อย่าง​มาก​เนื่อง​จาก​พระ​กรุณา​อัน​ไม่​พึง​ได้​รับ​ของ​พระ​ยะโฮวา​และ​จึง​บันทึก​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​บาง​ตอน​ที่​ให้​การ​ปลอบ​ประโลม​ใจ​อย่าง​ยิ่ง​ลง​ไว้​อย่าง​เหมาะ​สม​ดัง​นี้: “บรรดา​ผู้​ที่​ทำ​งาน​หนัก​และ​มี​ภาระ​มาก จง​มา​หา​เรา และ​เรา​จะ​ทำ​ให้​เจ้า​ทั้ง​หลาย​สดชื่น. จง​รับ​แอก​ของ​เรา​ไว้​บน​เจ้า​ทั้ง​หลาย​และ​เรียน​จาก​เรา เพราะ​เรา​มี​จิตใจ​อ่อนโยน​และ​หัวใจ​ถ่อม และ​เจ้า​จะ​ได้​ความ​สดชื่น​สำหรับ​จิตวิญญาณ​ของ​เจ้า. เพราะ​แอก​ของ​เรา​ก็​พอ​เหมาะ​และ​ภาระ​ของ​เรา​ก็​เบา.” (11:28-30, ล.ม.) ถ้อย​คำ​ที่​อ่อนโยน​นี้​ยัง​ความ​สดชื่น​จริง ๆ แก่​อดีต​คน​เก็บ​ภาษี​ผู้​นี้ ผู้​ซึ่ง​ไม่​ต้อง​สงสัย​ว่า​คน​ร่วม​ชาติ​ของ​ท่าน​ไม่​ได้​ให้​อะไร​นอก​จาก​การ​ดูถูก​เหยียด​หยาม!

9. อรรถบท​และ​ลีลา​การ​เสนอ​เรื่อง​เช่น​ไร​ที่​เป็น​แบบ​เฉพาะ​ของ​มัดธาย?

9 มัดธาย​เน้น​โดย​เฉพาะ​ว่า​อรรถบท​แห่ง​คำ​สอน​ของ​พระ​เยซู​คือ “ราชอาณาจักร​ฝ่าย​สวรรค์.” (4:17, ล.ม.) สำหรับ​ท่าน​แล้ว พระ​เยซู​ทรง​เป็น​กษัตริย์​ผู้​ประกาศ. ท่าน​ใช้​คำ “ราชอาณาจักร” บ่อย ๆ (มาก​กว่า 50 ครั้ง) จน​กิตติคุณ​ของ​ท่าน​อาจ​เรียก​ได้​ว่า​เป็น​กิตติคุณ​ราชอาณาจักร. มัดธาย​ใส่​ใจ​กับ​การ​เสนอ​คำ​บรรยาย​สาธารณะ​และ​คำ​เทศนา​ของ​พระ​เยซู​ตาม​เหตุ​ผล​มาก​กว่า​ตาม​การ​ลำดับ​เวลา​อย่าง​เคร่งครัด. ใน 18 บท​แรก การ​ที่​มัดธาย​เน้น​อรรถบท​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ทำ​ให้​ท่าน​ไม่​จัด​เรื่อง​ตาม​ลำดับ​เวลา. อย่าง​ไร​ก็​ตาม โดย​ทั่ว​ไป​แล้ว 10 บท​สุด​ท้าย (19 ถึง 28) เขียน​ตาม​ลำดับ​เวลา​และ​ยัง​คง​เน้น​เรื่อง​ราชอาณาจักร.

10. มี​เนื้อ​เรื่อง​มาก​แค่​ไหน​ที่​พบ​ได้​เฉพาะ​ใน​พระ​ธรรม​มัดธาย​เท่า​นั้น และ​กิตติคุณ​นี้​ครอบ​คลุม​ระยะ​เวลา​ใด?

10 บันทึก​กิตติคุณ​ของ​มัดธาย​มี​สี่​สิบ​สอง​เปอร์เซ็นต์​ที่​ไม่​พบ​ใน​ส่วน​ใด​ของ​กิตติคุณ​อีก​สาม​เล่ม.d ทั้ง​นี้​รวม​ถึง​อุปมา​หรือ​อุทาหรณ์​อย่าง​น้อย​สิบ​เรื่อง ได้​แก่​เรื่อง: ข้าว​ละมาน​ใน​ทุ่ง​นา (13:24-30), ขุม​ทรัพย์​ที่​ซ่อน​อยู่ (13:44), มุกดา​ที่​มี​ราคา​มาก (13:45, 46), อวน​ลาก (13:47-50), บ่าว​ที่​ขาด​ความ​เมตตา (18:23-25), คน​งาน​กับ​เงิน​เดนาริอน (20:1-16), บิดา​และ​บุตร​สอง​คน (21:28-32), การ​อภิเษก​สมรส​ของ​ราชโอรส (22:1-14), หญิง​พรหมจารี​สิบ​คน (25:1-13), และ​เงิน​ตะลันต์ (25:14-30). ตลอด​ทั้ง​เล่ม พระ​ธรรม​มัดธาย​เสนอ​เรื่อง​ราว​ตั้ง​แต่​การ​ประสูติ​ของ​พระ​เยซู​ใน​ปี 2 ก.ส.ศ. จน​ถึง​การ​พบ​กับ​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์ ไม่​นาน​ก่อน​การ​เสด็จ​สู่​สวรรค์​ใน​ปี ส.ศ. 33.

เนื้อ​เรื่อง​ใน​มัดธาย

11. (ก) กิตติคุณ​นี้​เริ่ม​เรื่อง​อย่าง​สม​เหตุ​สม​ผล​อย่าง​ไร และ​มี​การ​เล่า​เหตุ​การณ์​อะไร​บ้าง​ใน​ช่วง​ต้น ๆ? (ข) มัดธาย​ชี้​ให้​เรา​สนใจ​ความ​สำเร็จ​เป็น​จริง​เชิง​พยากรณ์​บาง​ประการ​อะไร​บ้าง?

11 การ​แนะ​นำ​พระ​เยซู​และ​ข่าว​เรื่อง “ราชอาณาจักร​ฝ่าย​สวรรค์” (1:1–4:25). นับ​ว่า​สม​เหตุ​สม​ผล​ที่​มัดธาย​เริ่ม​ต้น​ด้วย​ลำดับ​วงศ์วาน​ของ​พระ​เยซู ซึ่ง​พิสูจน์​สิทธิ​ตาม​กฎ​หมาย​ของ​พระ​เยซู​ใน​ฐานะ​ทายาท​ของ​อับราฮาม​และ​ดาวิด. ด้วย​เหตุ​นี้ จึง​จับ​ความ​สนใจ​ของ​ผู้​อ่าน​ชาว​ยิว. ต่อ​จาก​นั้น เรา​อ่าน​เรื่อง​ราว​เกี่ยว​กับ​การ​ปฏิสนธิ​อย่าง​มหัศจรรย์​ของ​พระ​เยซู, การ​ประสูติ​ของ​พระองค์​ใน​เบธเลเฮม, การ​มา​เยือน​ของ​พวก​โหร, การ​ที่​เฮโรด​ให้​สังหาร​เด็ก​ผู้​ชาย​ใน​เบธเลเฮม​ที่​อายุ​ต่ำ​กว่า​สอง​ขวบ​ทั้ง​หมด​ด้วย​ความ​กริ้ว, การ​ที่​โยเซฟ​และ​มาเรีย​หนี​เข้า​ไป​ใน​อียิปต์​พร้อม​กับ​ลูก​น้อย, และ​การ​ที่​พวก​เขา​กลับ​มา​อยู่​ใน​นาซาเร็ธ​ใน​เวลา​ต่อ​มา. มัดธาย​รอบคอบ​ใน​การ​ชี้​ให้​สนใจ​ความ​สำเร็จ​เป็น​จริง​ของ​คำ​พยากรณ์​เพื่อ​ยืน​ยัน​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​พระ​มาซีฮา​ที่​มี​บอก​ไว้​ล่วง​หน้า.—มัด. 1:23—ยซา. 7:14; มัด. 2:1-6—มีคา 5:2; มัด. 2:13-18—โฮ. 11:1 และ​ยิระ. 31:15; มัด. 2:23—ยซา. 11:1, ล.ม. เชิงอรรถ.

12. เกิด​อะไร​ขึ้น​ใน​คราว​ที่​พระ​เยซู​ทรง​รับ​บัพติสมา​และ​ทันที​หลัง​จาก​นั้น?

12 ถึง​ตอน​นี้​เรื่อง​ราว​ใน​มัดธาย​ข้าม​ไป​เกือบ 30 ปี. โยฮัน​ผู้​ให้​บัพติสมา​กำลัง​ประกาศ​ใน​ถิ่น​ทุรกันดาร​แห่ง​ยูดาย​ว่า “จง​กลับ​ใจ​เสีย​ใหม่ เพราะ​ว่า​ราชอาณาจักร​ฝ่าย​สวรรค์​มา​ใกล้​แล้ว.” (มัด. 3:2, ล.ม.) ท่าน​กำลัง​ให้​บัพติสมา​แก่​ชาว​ยิว​ที่​กลับ​ใจ​ใน​แม่น้ำ​จอร์แดน (ยาระเดน) และ​เตือน​พวก​ฟาริซาย​และ​พวก​ซาดูกาย​ถึง​พระ​พิโรธ​ที่​จะ​มี​มา. พระ​เยซู​เสด็จ​มา​จาก​แกลิลี (ฆาลิลาย)​และ​รับ​บัพติสมา. ทันที​นั้น​เอง​ก็​มี​พระ​วิญญาณ​ของ​พระเจ้า​ลง​มา​บน​พระองค์ และ​มี​พระ​สุรเสียง​จาก​สวรรค์​ตรัส​ว่า “นี่​คือ​บุตร​ของ​เรา ผู้​เป็น​ที่​รัก ผู้​ซึ่ง​เรา​โปรดปราน.” (3:17, ล.ม.) ต่อ​มา พระ​เยซู​ถูก​พา​เข้า​ไป​ใน​ถิ่น​ทุรกันดาร ที่​ซึ่ง​หลัง​จาก​พระองค์​ทรง​อด​พระ​กระยาหาร 40 วัน​แล้ว​พระองค์​จึง​ถูก​ซาตาน​พญา​มาร​ล่อ​ใจ. สาม​ครั้ง​ที่​พระองค์​ทรง​ย้อน​ซาตาน​โดย​ยก​ข้อ​ความ​จาก​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า ใน​ครั้ง​หลัง​สุด​พระองค์​ตรัส​ว่า “อ้าย​ซาตาน! จง​ไป​เสีย​ให้​พ้น! เพราะ​มี​คำ​เขียน​ไว้​ว่า ‘พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ของ​เจ้า​นั่น​แหละ​ที่​เจ้า​ต้อง​นมัสการ และ​แด่​พระองค์​ผู้​เดียว​ที่​เจ้า​ต้อง​ถวาย​การ​รับใช้​อัน​ศักดิ์สิทธิ์.’”—4:10, ล.ม.

13. ครั้น​แล้ว การ​รณรงค์​อัน​น่า​ตื่นเต้น​อะไร​ที่​เริ่ม​ดำเนิน​การ​ใน​แคว้น​แกลิลี?

13 “ท่าน​ทั้ง​หลาย จง​กลับ​ใจ​เสีย​ใหม่ เพราะ​ราชอาณาจักร​ฝ่าย​สวรรค์​มา​ใกล้​แล้ว.” ตอน​นี้​พระ​เยซู​ผู้​ถูก​เจิม​ทรง​ประกาศ​ถ้อย​คำ​ที่​น่า​ตื่นเต้น​เหล่า​นี้​ใน​แกลิลี. พระองค์​ทรง​เรียก​ชาว​ประมง​สี่​คน​ให้​ละ​อวน​ของ​เขา​เพื่อ​ติด​ตาม​พระองค์​และ​มา​เป็น “ผู้​หา​คน” แล้ว​พระองค์​จึง​เดิน​ทาง​พร้อม​กับ​พวก​เขา “ไป​ทั่ว​ฆาลิลาย ทรง​สอน​ใน​ธรรมศาลา​ของ​พวก​เขา​และ​ทรง​ประกาศ​ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร​และ​ทรง​รักษา​โรค​ทุก​ชนิด​และ​ความ​ทุพพลภาพ​ทุก​ชนิด​ท่ามกลาง​ผู้​คน.”—4:17, 19, 23, ล.ม.

14. ใน​คำ​เทศน์​บน​ภูเขา​ของ​พระ​เยซู พระองค์​ตรัส​ถึง​ความ​สุข​อะไร​บ้าง และ​พระองค์​ตรัส​อะไร​เกี่ยว​กับ​ความ​ชอบธรรม?

14 คำ​เทศน์​บน​ภูเขา (5:1–7:29). เมื่อ​ฝูง​ชน​เริ่ม​ติด​ตาม​พระ​เยซู พระองค์​จึง​เสด็จ​ขึ้น​ไป​บน​ภูเขา, ประทับ​นั่ง, แล้ว​เริ่ม​สั่ง​สอน​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์. พระองค์​ทรง​เริ่ม​คำ​บรรยาย​อัน​เร้า​ใจ​ของ​พระองค์​ด้วย ‘ความ​สุข’ เก้า​ประการ​คือ: ความ​สุข​มี​แก่​ผู้​ที่​รู้​สำนึก​ถึง​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​ตน, ผู้​ที่​โศก​เศร้า, ผู้​ที่​อ่อนโยน, ผู้​หิว​กระหาย​ความ​ชอบธรรม, ผู้​มี​ใจ​เมตตา, ผู้​มี​หัวใจ​บริสุทธิ์, ผู้​สร้าง​สันติ, ผู้​ที่​ถูก​ข่มเหง​เพราะ​เห็น​แก่​ความ​ชอบธรรม, และ​ผู้​ที่​ถูก​ติเตียน​และ​ถูก​ใส่​ร้าย. “จง​ชื่นชม​ยินดี​และ​โลด​เต้น​ด้วย​ความ​ปลาบปลื้ม เพราะ​บำเหน็จ​ของ​พวก​เจ้า​ล้ำ​เลิศ​ใน​สวรรค์.” พระองค์​ทรง​เรียก​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​ว่า “เกลือ​แห่ง​แผ่นดิน​โลก” และ “ความ​สว่าง​ของ​โลก” และ​ทรง​อธิบาย​เรื่อง​ความ​ชอบธรรม​ซึ่ง​เป็น​ข้อ​เรียก​ร้อง​สำหรับ​การ​เข้า​สู่​ราชอาณาจักร​ฝ่าย​สวรรค์ ซึ่ง​แตกต่าง​จาก​แบบ​พิธี​นิยม​ของ​พวก​อาลักษณ์​และ​ฟาริซาย​มาก. “ท่าน​ทั้ง​หลาย​จึง​จำ​ต้อง​เป็น​คน​สมบูรณ์​พร้อม เหมือน​อย่าง​พระ​บิดา​ของ​ท่าน​ผู้​สถิต​ใน​สวรรค์​เป็น​องค์​สมบูรณ์​พร้อม.”—5:12-14, 48, ล.ม.

15. พระ​เยซู​ตรัส​อะไร​เกี่ยว​กับ​คำ​อธิษฐาน​และ​ราชอาณาจักร?

15 พระ​เยซู​ทรง​เตือน​ไม่​ให้​ทำ​ทาน​และ​อธิษฐาน​แบบ​หน้า​ซื่อ​ใจ​คด. พระองค์​ทรง​สอน​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​ให้​อธิษฐาน​ขอ​ให้​พระ​นาม​ของ​พระ​บิดา​เป็น​ที่​นับถือ​อัน​บริสุทธิ์, ขอ​ให้​ราชอาณาจักร​ของ​พระองค์​มา, และ​ขอ​สิ่ง​เลี้ยง​ชีวิต​ใน​แต่​ละ​วัน. พระ​เยซู​ทรง​ให้​ราชอาณาจักร​เป็น​เรื่อง​เด่น​ตลอด​คำ​เทศน์. พระองค์​ทรง​เตือน​เหล่า​ผู้​ติด​ตาม​พระองค์​ไม่​ให้​กังวล​ใน​เรื่อง​ความ​มั่งคั่ง​ด้าน​วัตถุ​หรือ​ทำ​งาน​เพียง​เพื่อ​สิ่ง​นี้ เพราะ​พระ​บิดา​ทรง​ทราบ​ถึง​ความ​จำเป็น​ที่​แท้​จริง​ของ​พวก​เขา. พระองค์​ตรัส​ว่า “ดัง​นั้น จง​แสวง​หา​ราชอาณาจักร​และ​ความ​ชอบธรรม​ของ​พระองค์​ก่อน​เสมอ​ไป แล้ว​สิ่ง​อื่น​เหล่า​นี้​ทั้ง​หมด​จะ​เพิ่ม​เติม​ให้​แก่​ท่าน.”—6:33, ล.ม.

16. (ก) คำ​แนะ​นำ​ของ​พระ​เยซู​เกี่ยว​กับ​ความ​สัมพันธ์​กับ​ผู้​อื่น​มี​ว่า​อย่าง​ไร และ​พระองค์​ตรัส​อะไร​เกี่ยว​กับ​คน​ที่​เชื่อ​ฟัง​ทำ​ตาม​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระเจ้า​และ​คน​ที่​ไม่​ทำ? (ข) คำ​เทศน์​ของ​พระองค์​ก่อ​ผล​เช่น​ไร?

16 พระองค์​ผู้​เป็น​นาย​ทรง​แนะ​นำ​ใน​เรื่อง​ความ​สัมพันธ์​กับ​ผู้​อื่น​โดย​ตรัส​ว่า “เหตุ​ฉะนั้น​สิ่ง​สารพัตร​ซึ่ง​ท่าน​ปรารถนา​ให้​มนุษย์​ทำ​แก่​ท่าน, จง​กระทำ​อย่าง​นั้น​แก่​เขา​เหมือน​กัน.” คน​จำนวน​น้อย​ซึ่ง​พบ​หน​ทาง​สู่​ชีวิต​จะ​เป็น​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ทำ​ตาม​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระ​บิดา​ของ​พระองค์. จะ​รู้​จัก​พวก​คน​ละเลย​กฎหมาย​ได้​ด้วย​ผล​ของ​เขา​และ​พวก​เขา​จะ​ถูก​ปฏิเสธ. พระ​เยซู​ทรง​เปรียบ​ผู้​ที่​เชื่อ​ฟัง​คำ​ตรัส​ของ​พระองค์​เหมือน “คน​มี​ปัญญา​คน​หนึ่ง​ที่​สร้าง​เรือน​ของ​ตน​ไว้​บน​ศิลา.” คำ​บรรยาย​นี้​ส่ง​ผล​กระทบ​เช่น​ไร​ต่อ​ฝูง​ชน​ที่​ฟัง​อยู่? พวก​เขา “อัศจรรย์​ใจ​ด้วย​คำ​สั่ง​สอน​ของ​พระองค์” ด้วย​ว่า​พระองค์​ทรง​สอน “ดุจ​ผู้​มี​อาชญา, หา​เหมือน​พวก​อาลักษณ์​ของ​เขา​ไม่.”—7:12, 24-29.

17. พระ​เยซู​ทรง​สำแดง​อำนาจ​ของ​พระองค์​ใน​ฐานะ​พระ​มาซีฮา​อย่าง​ไร และ​พระองค์​ทรง​สำแดง​ความ​ห่วงใย​ด้วย​ความ​รัก​อย่าง​ไร?

17 การ​ประกาศ​เรื่อง​ราชอาณาจักร​แผ่​ขยาย (8:1–11:30). พระ​เยซู​ทรง​ทำ​การ​อัศจรรย์​หลาย​อย่าง เช่น รักษา​คน​โรค​เรื้อน, คน​ง่อย, และ​คน​ถูก​ผี​สิง. พระองค์​ถึง​กับ​สำแดง​อำนาจ​เหนือ​ลม​และ​คลื่น​ด้วย​การ​ทำ​ให้​พายุ​สงบ และ​พระองค์​ทรง​ปลุก​เด็ก​หญิง​คน​หนึ่ง​ให้​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย. พระ​เยซู​ทรง​สงสาร​ฝูง​ชน​จริง ๆ เมื่อ​เห็น​ว่า​พวก​เขา​ถูก​หลอก​ลวง​และ​ถูก​ปล่อยปละ​ละเลย​แค่​ไหน พวก​เขา​เป็น “ดุจ​ฝูง​แกะ​ไม่​มี​ผู้​เลี้ยง”! ดัง​ที่​พระองค์​ตรัส​แก่​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​ว่า “การ​เกี่ยว​นั้น​เป็น​การ​ใหญ่​นัก​หนา, แต่​คน​ทำ​การ​ยัง​น้อย​อยู่. เหตุ​ฉะนั้น​จง​อธิษฐาน​ขอ​ต่อ​เจ้า​ของ​ของ​การ​เกี่ยว​นั้น, ให้​ใช้​คน​ทำ​การ​หลาย​คน​ไป​ใน​การ​เกี่ยว​ของ​พระองค์.”—9:36-38.

18. (ก) พระ​เยซู​ทรง​ประทาน​คำ​สั่ง​สอน​และ​คำ​เตือน​สติ​อะไร​แก่​เหล่า​อัครสาวก​ของ​พระองค์? (ข) เหตุ​ใด​จึง​เป็น​ความ​วิบัติ​แก่ “คน​ชั่ว​อายุ​นี้”?

18 พระ​เยซู​ทรง​เลือก​และ​แต่ง​ตั้ง​อัครสาวก 12 คน. พระองค์​ทรง​สั่ง​สอน​พวก​เขา​อย่าง​ชัดเจน​เกี่ยว​กับ​วิธี​ทำ​งาน​ของ​พวก​เขา และ​ทรง​เน้น​หลัก​คำ​สอน​อัน​เป็น​แก่น​แห่ง​การ​สอน​ของ​พวก​เขา​ว่า “ขณะ​ที่​พวก​เจ้า​ไป จง​ประกาศ โดย​บอก​ว่า ‘ราชอาณาจักร​ฝ่าย​สวรรค์​มา​ใกล้​แล้ว.’” พระองค์​ทรง​ประทาน​คำ​เตือน​สติ​ที่​สุขุม​และ​ด้วย​ความ​รัก​ว่า “เจ้า​ได้​รับ​เปล่า ๆ จง​ให้​เปล่า ๆ.” “จง​แสดง​ตน​ว่า​เป็น​คน​ระแวด​ระวัง​เหมือน​งู​และ​กระนั้น ไม่​เป็น​พิษ​เป็น​ภัย​เหมือน​นก​พิราบ.” พวก​เขา​จะ​ถูก​เกลียด​ชัง​และ​ถูก​ข่มเหง​แม้​แต่​โดย​ญาติ​ใกล้​ชิด แต่​พระ​เยซู​ทรง​เตือน​พวก​เขา​ว่า “ผู้​ที่​พยายาม​ให้​จิตวิญญาณ​ของ​ตน​รอด​จะ​สูญ​เสีย​จิตวิญญาณ และ​ผู้​ที่​สูญ​เสีย​จิตวิญญาณ​ของ​ตน​เพื่อ​เห็น​แก่​เรา​จะ​ได้​จิตวิญญาณ​รอด.” (10:7, 8, 16, 39, ล.ม.) พวก​เขา​จึง​ออก​เดิน​ทาง​ไป​สอน​และ​ประกาศ​ใน​เมือง​ต่าง ๆ ที่​ได้​รับ​มอบหมาย! พระ​เยซู​ทรง​ระบุ​ตัว​โยฮัน​ผู้​ให้​บัพติสมา​ว่า​เป็น​ทูต​ที่​ถูก​ส่ง​ออก​ไป​ก่อน​หน้า​พระองค์ เป็น “เอลี​ยาห์” ที่​ทรง​สัญญา​ไว้ แต่ “คน​ชั่ว​อายุ​นี้” ไม่​ยอม​รับ​ทั้ง​โยฮัน​และ​พระองค์​ผู้​เป็น​บุตร​มนุษย์. (11:14, 16, ล.ม.) ดัง​นั้น วิบัติ​แก่​คน​ชั่ว​อายุ​นี้​และ​เมือง​ต่าง ๆ ที่​ไม่​กลับ​ใจ​เมื่อ​เห็น​พระ​ราชกิจ​อัน​ทรง​ฤทธิ์​ของ​พระองค์! แต่​คน​เหล่า​นั้น​ซึ่ง​มา​เป็น​สาวก​ของ​พระองค์​จะ​พบ​ความ​สดชื่น​สำหรับ​จิตวิญญาณ​ของ​ตน.

19. เมื่อ​พวก​ฟาริซาย​ตั้ง​ข้อ​สงสัย​การ​กระทำ​ของ​พระองค์​ใน​วัน​ซะบาโต พระ​เยซู​ทรง​ตำหนิ​พวก​เขา​อย่าง​แรง​เช่น​ไร?

19 พวก​ฟาริซาย​ถูก​หักล้าง​และ​ถูก​ประจาน (12:1-50). พวก​ฟาริซาย​พยายาม​จะ​จับ​ผิด​พระ​เยซู​ใน​เรื่อง​วัน​ซะบาโต แต่​พระองค์​ทรง​หักล้าง​ข้อ​กล่าวหา​ของ​พวก​เขา​และ​เริ่ม​ตำหนิ​ความ​หน้า​ซื่อ​ใจ​คด​ของ​พวก​เขา​อย่าง​รุนแรง. พระองค์​ทรง​บอก​กับ​พวก​เขา​ว่า “โอ ชาติ​งู​ร้าย, เจ้า​ที่​เป็น​คน​ชั่ว​แล้ว​จะ​พูด​ความ​ดี​อย่าง​ไร​ได้? ด้วย​ว่า​ใจ​เต็ม​บริบูรณ์​ด้วย​อะไร​ปาก​ก็​พูด​อย่าง​นั้น.” (12:34) จะ​ไม่​มี​การ​ให้​นิมิต​อะไร​แก่​พวก​เขา​เว้น​แต่​นิมิต​ของ​โยนา​ผู้​พยากรณ์​ที่​ว่า บุตร​มนุษย์​จะ​อยู่​ใน​ท้อง​แผ่นดิน​สาม​วัน​สาม​คืน.

20. (ก) เหตุ​ใด​พระ​เยซู​จึง​ตรัส​เป็น​อุทาหรณ์? (ข) ถึง​ตอน​นี้​พระองค์​ทรง​ยก​อุทาหรณ์​เรื่อง​อะไร​บ้าง​อัน​เกี่ยว​กับ​ราชอาณาจักร?

20 อุทาหรณ์​เรื่อง​ราชอาณาจักร​เจ็ด​เรื่อง (13:1-58). เหตุ​ใด​พระ​เยซู​จึง​ตรัส​เป็น​อุทาหรณ์? พระองค์​ทรง​อธิบาย​แก่​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​ว่า “ความ​ลับ​อัน​ศักดิ์สิทธิ์​แห่ง​ราชอาณาจักร​ฝ่าย​สวรรค์​ทรง​โปรด​ให้​พวก​เจ้า​เข้าใจ แต่​คน​เหล่า​นั้น​ไม่​ทรง​โปรด​ให้​เข้า​ใจ.” พระองค์​ทรง​ประกาศ​ว่า​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​เป็น​สุข​เพราะ​พวก​เขา​ได้​เห็น​และ​ได้​ยิน. เป็น​คำ​สั่ง​สอน​ที่​ยัง​ความ​สดชื่น​จริง ๆ ที่​พระองค์​ทรง​ให้​แก่​พวก​เขา​ใน​ตอน​นี้! หลัง​จาก​พระ​เยซู​อธิบาย​อุทาหรณ์​เรื่อง​ผู้​หว่าน​พืช พระองค์​ทรง​ยก​อุทาหรณ์​เรื่อง​วัชพืช​ใน​ทุ่ง​นา, เมล็ด​พันธุ์​ผักกาด (มัสตาร์ด), เชื้อ​หมัก, ขุม​ทรัพย์​ที่​ซ่อน​อยู่, มุกดา​ที่​มี​ราคา​มาก, และ​อวน​ลาก ซึ่ง​ทั้ง​หมด​นี้​แสดง​ภาพ​สิ่ง​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ “ราชอาณาจักร​ฝ่าย​สวรรค์.” อย่าง​ไร​ก็​ตาม ประชาชน​สะดุด​เนื่อง​ด้วย​พระองค์ และ​พระ​เยซู​ทรง​บอก​พวก​เขา​ว่า “ผู้​พยากรณ์​ไม่​ขาด​ความ​นับถือ​เว้น​แต่​ใน​เขต​บ้าน​เกิด​ของ​ตน​และ​ใน​บ้าน​ของ​ตน​เอง.”—13:11, 57, ล.ม.

21. (ก) พระ​เยซู​ทรง​ทำ​การ​อัศจรรย์​อะไร​บ้าง และ​การ​อัศจรรย์​เหล่า​นั้น​ระบุ​ว่า​พระองค์​เป็น​ผู้​ใด? (ข) มี​การ​ให้​นิมิต​อะไร​เกี่ยว​กับ​การ​เสด็จ​มา​ของ​บุตร​มนุษย์​ใน​ราชอาณาจักร​ของ​พระองค์?

21 งาน​รับใช้​และ​การ​อัศจรรย์​อื่น ๆ ของ “พระ​คริสต์” (14:1–17:27). พระ​เยซู​สะเทือน​ใจ​มาก​เนื่อง​ด้วย​รายงาน​เรื่อง​โยฮัน​ผู้​ให้​บัพติสมา​ถูก​ตัด​ศีรษะ​ตาม​บัญชา​ของ​เฮโรด​อันติปา​ผู้​อ่อนแอ. พระองค์​ทรง​เลี้ยง​ฝูง​ชน​มาก​กว่า 5,000 คน​อย่าง​อัศจรรย์; ทรง​เดิน​บน​ทะเล; ทรง​ตอบ​โต้​คำ​วิพากษ์วิจารณ์​จาก​พวก​ฟาริซาย​ซึ่ง​พระองค์​ตรัส​ว่า ‘ละเมิด​พระ​บัญญัติ​ของ​พระเจ้า​ด้วย​ประเพณี​ของ​พวก​เขา’; ทรง​รักษา​คน​ถูก​ผี​เข้า, “คน​ง่อย, คน​ตา​บอด, คน​ใบ้, คน​เขยก, และ​คน​เจ็บ​อื่น ๆ”; และ​อีก​ครั้ง​หนึ่ง ทรง​เลี้ยง​อาหาร​คน​มาก​กว่า 4,000 คน​ด้วย​ขนมปัง​เจ็ด​ก้อน​และ​ปลา​เล็ก ๆ ไม่​กี่​ตัว. (15:3, 30, ล.ม.) เมื่อ​ตอบ​คำ​ถาม​ของ​พระ​เยซู เปโตร​ระบุ​ตัว​พระองค์​โดย​กล่าว​ว่า “พระองค์​เป็น​พระ​คริสต์​บุตร​ของ​พระเจ้า​ผู้​ทรง​พระ​ชนม์​อยู่.” พระ​เยซู​ทรง​ชมเชย​เปโตร​และ​ทรง​แถลง​ว่า “บน​หิน​ก้อน​ใหญ่​นี้ เรา​จะ​สร้าง​ประชาคม​ของ​เรา.” (16:16, 18, ล.ม.) จาก​นั้น​พระ​เยซู​เริ่ม​ตรัส​ถึง​การ​สิ้น​พระ​ชนม์​ของ​พระองค์​ซึ่ง​กำลัง​ใกล้​เข้า​มา​และ​การ​คืน​พระ​ชนม์​ของ​พระองค์​ใน​วัน​ที่​สาม. แต่​พระองค์​ก็​ทรง​สัญญา​ด้วย​ว่า​สาวก​บาง​คน​ของ​พระองค์ “จะ​ไม่​ลิ้ม​รส​ความ​ตาย​เลย​จน​กว่า​พวก​เขา​จะ​เห็น​บุตร​มนุษย์​เสด็จ​มา​ใน​ราชอาณาจักร​ของ​พระองค์​ก่อน.” (16:28, ล.ม.) หก​วัน​ต่อ​มา พระ​เยซู​ทรง​พา​เปโตร, ยาโกโบ, และ​โยฮัน​ขึ้น​ไป​บน​ภูเขา​สูง​เพื่อ​จะ​เห็น​พระองค์​จำแลง​พระ​กาย​ใน​สง่า​ราศี. ใน​นิมิต พวก​เขา​เห็น​โมเซ​และ​เอลี​ยาห์​กำลัง​สนทนา​กับ​พระองค์ และ​พวก​เขา​ได้​ยิน​พระ​สุรเสียง​จาก​สวรรค์​ตรัส​ว่า “นี่​คือ​บุตร​ของ​เรา ผู้​เป็น​ที่​รัก ผู้​ซึ่ง​เรา​โปรดปราน; จง​ฟัง​ท่าน​เถิด.” หลัง​จาก​ลง​มา​จาก​ภูเขา พระ​เยซู​ทรง​บอก​พวก​เขา​ว่า “เอลี​ยาห์” ที่​ทรง​สัญญา​ไว้​นั้น​ได้​มา​แล้ว และ​พวก​เขา​จึง​เข้าใจ​ว่า​พระองค์​กำลัง​ตรัส​ถึง​โยฮัน​ผู้​ให้​บัพติสมา.—17:5, 12, ล.ม.

22. พระ​เยซู​ทรง​ให้​คำ​แนะ​นำ​อะไร​เกี่ยว​กับ​การ​ให้​อภัย?

22 พระ​เยซู​ทรง​แนะ​นำ​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์ (18:1-35). ขณะ​อยู่​ใน​เมือง​กัปเรนาอูม พระ​เยซู​ทรง​สนทนา​กับ​เหล่า​สาวก​เรื่อง​ความ​ถ่อม​ใจ, ความ​ยินดี​ยิ่ง​จาก​การ​หา​แกะ​ตัว​หนึ่ง​ซึ่ง​หลง​หาย​ไป​คืน​มา​ได้, และ​การ​จัด​การ​กับ​เรื่อง​บาดหมาง​ระหว่าง​พี่​น้อง. เปโตร​ถาม​ว่า ‘ข้าพเจ้า​จะ​ต้อง​อภัย​พี่​น้อง​ของ​ข้าพเจ้า​กี่​ครั้ง?’ และ​พระ​เยซู​ตรัส​ตอบ​เขา​ว่า “เรา​บอก​เจ้า​ว่า ไม่​ใช่​ถึง​เจ็ด​ครั้ง แต่​ถึง​เจ็ด​สิบ​เจ็ด​ครั้ง.” เพื่อ​เพิ่ม​น้ำหนัก​ใน​เรื่อง​นี้ พระ​เยซู​ทรง​ยก​อุทาหรณ์​เรื่อง​ทาส​ที่​นาย​ของ​เขา​ยก​หนี้​ให้ 60 ล้าน​เดนาริอน. ต่อ​มา​ทาส​คน​นี้​จับ​เพื่อน​ทาส​คน​หนึ่ง​เข้า​คุก​เพราะ​หนี้​เพียง 100 เดนาริอน และ​ผล​ก็​คือ ทาส​ที่​ไร้​ความ​เมตตา​ถูก​ส่ง​ตัว​ให้​นาย​คุก​เช่น​กัน.e พระ​เยซู​ทรง​สรุป​ว่า “พระ​บิดา​ของ​เรา​ใน​สวรรค์​ก็​จะ​ทรง​ปฏิบัติ​กับ​เจ้า​อย่าง​นั้น​แหละ​หาก​เจ้า​ไม่​อภัย​พี่​น้อง​แต่​ละ​คน​จาก​หัวใจ​ของ​เจ้า.”—18:21, 22, 35, ล.ม.

23. พระ​เยซู​ทรง​อธิบาย​เช่น​ไร​เกี่ยว​กับ​การ​หย่าร้าง​และ​เกี่ยว​กับ​หน​ทาง​สู่​ชีวิต?

23 ช่วง​ท้าย​แห่ง​งาน​รับใช้​ของ​พระ​เยซู (19:1–22:46). จังหวะ​เหตุ​การณ์​เร่ง​ขึ้น​และ​ความ​ตึงเครียด​ทวี​ขึ้น​เมื่อ​พวก​อาลักษณ์​และ​ฟาริซาย​โกรธ​แค้น​มาก​ขึ้น​ต่อ​งาน​เผยแพร่​ของ​พระ​เยซู. พวก​เขา​มา​จับ​ผิด​พระองค์​ใน​เรื่อง​การ​หย่าร้าง​แต่​ล้มเหลว; พระ​เยซู​ทรง​เผย​ให้​เห็น​ว่า​สาเหตุ​ประการ​เดียว​ตาม​หลัก​พระ​คัมภีร์​สำหรับ​การ​หย่าร้าง​คือ​การ​ผิด​ประเวณี. เศรษฐี​หนุ่ม​มา​หา​พระ​เยซู ถาม​เรื่อง​หน​ทาง​สู่​ชีวิต​นิรันดร์ แต่​จาก​ไป​ด้วย​ความ​เศร้า​ใจ​เมื่อ​พบ​ว่า​ตน​จะ​ต้อง​ขาย​สิ่ง​สารพัด​ที่​ตน​มี​แล้ว​เป็น​ผู้​ติด​ตาม​พระ​เยซู. หลัง​จาก​ทรง​ยก​อุทาหรณ์​เกี่ยว​กับ​คน​งาน​และ​เงิน​เดนาริอน​แล้ว พระ​เยซู​จึง​ตรัส​อีก​ครั้ง​ถึง​การ​สิ้น​พระ​ชนม์​และ​การ​คืน​พระ​ชนม์​ของ​พระองค์ และ​ตรัส​ว่า “บุตร​มนุษย์​เสด็จ​มา มิ​ใช่​เพื่อ​ให้​เขา​รับใช้ แต่​เพื่อ​จะ​รับใช้ และ​เพื่อ​ประทาน​จิตวิญญาณ​ของ​ท่าน​เป็น​ค่า​ไถ่​เพื่อ​แลก​กับ​คน​เป็น​อัน​มาก.”—20:28, ล.ม.

24. ขณะ​ที่​พระ​เยซู​ทรง​เข้า​สู่​สัปดาห์​สุด​ท้าย​แห่ง​การ​มี​ชีวิต​เป็น​มนุษย์ พระองค์​ทรง​เผชิญ​กับ​ผู้​ต่อ​ต้าน​ที่​เคร่ง​ศาสนา​อย่าง​ไร และ​พระองค์​ทรง​จัด​การ​กับ​คำ​ถาม​ของ​พวก​เขา​อย่าง​ไร?

24 บัด​นี้​พระ​เยซู​ก็​เข้า​สู่​สัปดาห์​สุด​ท้าย​แห่ง​ชีวิต​มนุษย์​ของ​พระองค์. พระองค์​เสด็จ​เข้า​ไป​ใน​กรุง​ยะรูซาเลม​อย่าง​ผู้​มี​ชัย ใน​ฐานะ ‘กษัตริย์​ทรง​ลูก​ลา.’ (21:4, 5) พระองค์​ทรง​ชำระ​พระ​วิหาร​ให้​ปราศจาก​คน​แลก​เงิน​และ​นัก​ค้า​กำไร​เกิน​ควร​ประเภท​อื่น ๆ และ​ความ​เกลียด​ชัง​ของ​พวก​ศัตรู​พระองค์​ยิ่ง​ทวี​ขึ้น​เมื่อ​พระองค์​ทรง​บอก​พวก​เขา​ว่า “คน​เก็บ​ภาษี​และ​หญิง​แพศยา​เข้า​ใน​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​ก่อน​เจ้า.” (21:31, ล.ม.) อุทาหรณ์​ที่​ตรง​จุด​ของ​พระองค์​ใน​เรื่อง​สวน​องุ่น​และ​งาน​เลี้ยง​อภิเษก​สมรส​นั้น​แทง​ใจ​ดำ. พระองค์​ทรง​ตอบ​คำ​ถาม​ของ​พวก​ฟาริซาย​ใน​เรื่อง​ภาษี​อย่าง​ช่ำชอง​โดย​บอก​พวก​เขา​ให้​จ่าย “ของ​ของ​ซีซาร์​คืน​แก่​ซีซาร์ แต่​ของ​ของ​พระเจ้า​แด่​พระเจ้า.” (22:21, ล.ม.) ทำนอง​เดียว​กัน พระองค์​ทรง​ตอบ​โต้​คำ​ถาม​ที่​มุ่ง​จับ​ผิด​จาก​พวก​ซาดูกาย​และ​ยืน​ยัน​ถึง​ความ​หวัง​เรื่อง​การ​กลับ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย. พวก​ฟาริซาย​มา​หา​พระองค์​อีก​ครั้ง​พร้อม​กับ​คำ​ถาม​เกี่ยว​กับ​พระ​บัญญัติ และ​พระ​เยซู​ทรง​บอก​พวก​เขา​ว่า​พระ​บัญญัติ​ข้อ​สำคัญ​ที่​สุด​คือ​ให้​รัก​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​เต็ม​เปี่ยม และ​พระ​บัญญัติ​ที่​รอง​ลง​มา​คือ​ให้​รัก​เพื่อน​บ้าน​เหมือน​รัก​ตน​เอง. แล้ว​พระ​เยซู​จึง​ตรัส​ถาม​พวก​เขา​ว่า ‘พระ​คริสต์​ทรง​เป็น​ทั้ง​บุตร​ของ​ดาวิด​และ​เป็น​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้าของ​ดาวิด​ได้​อย่าง​ไร?’ ไม่​มี​ใคร​ตอบ​ได้​และ​หลัง​จาก​นั้น​ก็​ไม่​มี​ใคร​กล้า​ซัก​ถาม​พระองค์​อีก.—22:45, 46.

25. พระ​เยซู​ทรง​ตำหนิ​พวก​อาลักษณ์​และ​ฟาริซาย​อย่าง​แรง​เช่น​ไร?

25 ‘วิบัติ​แก่​เจ้า คน​หน้า​ซื่อ​ใจ​คด’ (23:1–24:2). เมื่อ​ตรัส​แก่​ฝูง​ชน ณ พระ​วิหาร พระ​เยซู​ทรง​ตำหนิ​พวก​อาลักษณ์​และ​ฟาริซาย​อย่าง​แรง​อีก​ครั้ง​หนึ่ง. พวก​เขา​ไม่​เพียง​ขาด​คุณสมบัติ​จะ​เข้า​สู่​ราชอาณาจักร​เท่า​นั้น แต่​พวก​เขา​ยัง​พยายาม​ใช้​แผน​ร้าย​ทุก​อย่าง​ขัด​ขวาง​ผู้​อื่น​ไม่​ให้​เข้า​ไป. เหมือน​อุโมงค์​ฝัง​ศพ​ที่​ฉาบ​ด้วย​ปูน​ขาว พวก​เขา​ดู​งดงาม​ภาย​นอก แต่​ภาย​ใน​นั้น​พวก​เขา​เต็ม​ไป​ด้วย​ความ​เสื่อม​ทราม และ​ความ​เน่า​เฟะ. พระ​เยซู​ทรง​ปิด​ท้าย​ด้วย​คำ​พิพากษา​ต่อ​กรุง​ยะรูซาเลม​ดัง​นี้: “นี่​แหละ​เรือน​ของ​เจ้า​ก็​ถูก​ปล่อย​ไว้​ให้​ร้าง​ตาม​ลำพัง​เจ้า.” (23:38) เมื่อ​พระ​เยซู​เสด็จ​ออก​จาก​พระ​วิหาร พระองค์​ทรง​พยากรณ์​ถึง​ความ​พินาศ​ของ​กรุง​นี้.

26. พระ​เยซู​ทรง​ให้​หมาย​สำคัญ​เชิง​พยากรณ์​อะไร​ซึ่ง​เกี่ยว​กับ​การ​ประทับ​ของ​พระองค์​ด้วย​สง่า​ราศี​ของ​กษัตริย์?

26 พระ​เยซู​ทรง​ให้ “หมาย​สำคัญ​แห่ง​การ​ประทับ​ของ​พระองค์” (24:3–25:46). บน​ภูเขา​มะกอก​เทศ เหล่า​สาวก​ของ​พระ​เยซู​ทูล​ถาม​พระองค์​เกี่ยว​กับ “หมาย​สำคัญ​แห่ง​การ​ประทับ​ของ​พระองค์​และ​ช่วง​อวสาน​ของ​ระบบ​นี้.” ใน​คำ​ตอบ พระ​เยซู​ทรง​ชี้​ไป​ยัง​เวลา​ที่​มี​สงคราม​ต่าง ๆ ‘ชาติ​ต่อ​สู้​ชาติ​และ​อาณาจักร​ต่อ​สู้​อาณาจักร,’ การ​ขาด​แคลน​อาหาร, แผ่นดิน​ไหว, การ​ละเลย​กฎหมาย​ทวี​ขึ้น, การ​ประกาศ “ข่าว​ดี​แห่ง​ราชอาณาจักร​นี้” ไป​ทั่ว​โลก, การ​แต่ง​ตั้ง “ทาส​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม . . . ให้​ดู​แล​ทรัพย์​สมบัติ​ทั้ง​หมด​ของ​นาย,” และ​ลักษณะ​อื่น ๆ อีก​หลาย​ประการ​แห่ง​ชุด​หมาย​สำคัญ. (24:3, ล.ม., 7, 14, ล.ม., 45-47, ล.ม.) พระ​เยซู​ทรง​ปิด​ท้าย​คำ​พยากรณ์​ที่​สำคัญ​นี้​ด้วย​อุทาหรณ์​เรื่อง​หญิง​พรหมจารี​สิบ​คน​และ​เรื่อง​เงิน​ตะลันต์ ซึ่ง​เสนอ​รางวัล​ที่​ยัง​ความ​ยินดี​แก่​ผู้​ที่​ตื่น​ตัว​และ​ซื่อ​สัตย์ และ​อุทาหรณ์​เรื่อง​แกะ​และ​แพะ ซึ่ง​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​คน​เยี่ยง​แพะ​จะ​ถูก “ตัด​ขาด​เป็น​นิตย์ แต่​ผู้​ชอบธรรม​จะ​เข้า​สู่​ชีวิต​นิรันดร์.”—25:46, ล.ม.

27. เหตุ​การณ์​อะไร​บ้าง​ที่​เกิด​ขึ้น​ใน​วัน​สุด​ท้าย​ของ​พระ​เยซู​บน​แผ่นดิน​โลก?

27 เหตุ​การณ์​ต่าง ๆ ใน​วัน​สุด​ท้าย​ของ​พระ​เยซู (26:1–​27:66). หลัง​จาก​ฉลอง​ปัศคา พระ​เยซู​ทรง​ตั้ง​สิ่ง​ใหม่​ขึ้น​กับ​เหล่า​อัครสาวก​ที่​ซื่อ​สัตย์​ของ​พระองค์ โดย​เชิญ​พวก​เขา​ให้​รับประทาน​ขนมปัง​ไม่​มี​เชื้อ​และ​เหล้า​องุ่น​ซึ่ง​เป็น​สัญลักษณ์​แสดง​ถึง​พระ​กาย​และ​พระ​โลหิต​ของ​พระองค์. จาก​นั้น​พระ​เยซู​กับ​พวก​เขา​ก็​ไป​ยัง​สวน​เฆ็ธเซมาเน ที่​ซึ่ง​พระ​เยซู​ทรง​อธิษฐาน. ยูดา​มา​ที่​นั่น​พร้อม​กับ​ฝูง​ชน​ที่​ถือ​อาวุธ และ​เขา​ทรยศ​พระ​เยซู​ด้วย​การ​จูบ​ที่​หน้า​ซื่อ​ใจ​คด. พระ​เยซู​ถูก​พา​ตัว​ไป​หา​มหา​ปุโรหิต และ​พวก​ปุโรหิต​ใหญ่​และ​ศาล​ซันเฮดริน​ทั้ง​หมด​พา​กัน​หา​พยาน​เท็จ​ปรักปรำ​พระ​เยซู. เป็น​จริง​ดัง​คำ​พยากรณ์​ของ​พระ​เยซู เปโตร​ปฏิเสธ​พระองค์​เมื่อ​ถูก​ทดลอง. ยูดา​ซึ่ง​รู้สึก​ทุกข์​ใจ​เนื่อง​ด้วย​ความ​รู้สึก​ผิด​ได้​โยน​เงิน​ที่​ได้​จาก​การ​ทรยศ​เข้า​ไป​ใน​พระ​วิหาร​และ​ออก​ไป​ผูก​คอ​ตาย. ใน​ตอน​เช้า​พระ​เยซู​ถูก​นำ​ไป​อยู่​ต่อ​หน้า​ปีลาต​ผู้​สำเร็จ​ราชการ​ชาว​โรมัน ซึ่ง​มอบ​พระองค์​ให้​ถูก​ตรึง​เมื่อ​ถูก​กดดัน​จาก​ฝูง​ชน​ที่​ปุโรหิต​ปลุกปั่น​ซึ่ง​ร้อง​ว่า “ให้​เลือด​ของ​เขา​ตก​อยู่​บน​เรา, ทั้ง​บุตร​ของ​เรา​ด้วย.” ทหาร​ของ​ผู้​สำเร็จ​ราชการ​ล้อเลียน​ฐานะ​กษัตริย์​ของ​พระองค์​แล้ว​จึง​นำ​พระองค์​ออก​ไป​ยัง​โกลโกทา (โฆละโฆธา) ที่​ซึ่ง​พระองค์​ถูก​ตรึง​ระหว่าง​โจร​สอง​คน พร้อม​กับ​มี​ป้าย​อยู่​เหนือ​พระ​เศียร​ของ​พระองค์​ว่า “ผู้​นี้​คือ​เยซู​กษัตริย์​ของ​ชาติ​ยูดาย.” (27:25, 37) หลัง​จาก​ทน​ทรมาน​อยู่​หลาย​ชั่วโมง ใน​ที่​สุด​พระ​เยซู​สิ้น​พระ​ชนม์​เมื่อ​ประมาณ​สาม​นาฬิกา​ใน​ตอน​บ่าย แล้ว​ถูก​นำ​ไป​วาง​ไว้​ใน​อุโมงค์​รำลึก​แห่ง​ใหม่​ซึ่ง​เป็น​ของ​โยเซฟ​แห่ง​บ้าน​อะริมาธาย. นั่น​เป็น​วัน​สำคัญ​ที่​สุด​ใน​ประวัติศาสตร์​ทั้ง​มวล!

28. มัดธาย​ทำ​ให้​บันทึก​ของ​ท่าน​บรรลุ​จุด​สุด​ยอด​ด้วย​ข่าว​อัน​วิเศษ​สุด​อะไร และ​ท่าน​ปิด​ท้าย​ด้วย​เรื่อง​งาน​มอบหมาย​อะไร?

28 การ​คืน​พระ​ชนม์​และ​คำ​สั่ง​สุด​ท้าย​ของ​พระ​เยซู (28:1-20). ถึง​ตอน​นี้​มัดธาย​ทำ​ให้​บันทึก​ของ​ท่าน​ถึง​จุด​สุด​ยอด​ด้วย​ข่าว​วิเศษ​สุด. พระ​เยซู​ซึ่ง​สิ้น​พระ​ชนม์​ถูก​ปลุก​ให้​คืน​พระ​ชนม์—พระองค์​ทรง​มี​ชีวิต​อีก! ใน​ตอน​เช้า​วัน​แรก​ของ​สัปดาห์ มาเรีย​มัฆดาลา​กับ “มาเรีย​อีก​คน​หนึ่ง” มา​ที่​อุโมงค์​และ​ได้​ยิน​การ​ประกาศ​ของ​ทูต​สวรรค์​เกี่ยว​กับ​ข้อ​เท็จ​จริง​ที่​น่า​ยินดี​นี้. (28:1) เพื่อ​ยืน​ยัน​เรื่อง​นี้ พระ​เยซู​เอง​ทรง​ปรากฏ​แก่​พวก​เขา. พวก​ศัตรู​ถึง​กับ​พยายาม​ปก​ปิด​ข้อ​เท็จ​จริง​เรื่อง​การ​คืน​พระ​ชนม์​ของ​พระองค์ โดย​ติด​สินบน​พวก​ทหาร​ที่​เฝ้า​อุโมงค์​ฝัง​ศพ​ให้​บอก​ว่า “พวก​สาวก​ของ​เขา​มา​ลัก​เอา​ศพ​ไป​ใน​เวลา​กลางคืน​เมื่อ​เรา​นอน​หลับ​อยู่.” ต่อ​มา​ใน​แกลิลี พระ​เยซู​ทรง​พบ​ปะ​กับ​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​อีก​ครั้ง​หนึ่ง. พระองค์​ทรง​สั่ง​พวก​เขา​ก่อน​จาก​ไป​ว่า​อย่าง​ไร? คือ​อย่าง​นี้: “จง​ไป . . . ทำ​ให้​ชน​จาก​ทุก​ชาติ​เป็น​สาวก ให้​เขา​รับ​บัพติสมา​ใน​นาม​แห่ง​พระ​บิดา​และ​พระ​บุตร​และ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์.” พวก​เขา​จะ​ได้​รับ​การ​ชี้​นำ​ใน​งาน​ประกาศ​นี้​หรือ​ไม่? คำ​ตรัส​สุด​ท้าย​ของ​พระ​เยซู​ที่​มัดธาย​บันทึก​ไว้​ให้​การ​รับรอง​นี้: “นี่​แน่ะ! เรา​อยู่​กับ​เจ้า​ทั้ง​หลาย​ตลอด​ไป​จน​กระทั่ง​ช่วง​อวสาน​แห่ง​ระบบ​นี้.”—28:13, 19, 20, ล.ม.

เหตุ​ที่​เป็น​ประโยชน์

29. (ก) พระ​ธรรม​มัดธาย​เชื่อม​โยง​จาก​พระ​คัมภีร์​ภาค​ภาษา​ฮีบรู​เข้า​สู่​พระ​คัมภีร์​ภาค​ภาษา​กรีก​อย่าง​ไร? (ข) สิทธิ​พิเศษ​อะไร​ที่​พระ​เยซู​ทรง​มี​ซึ่ง​ยัง​คง​เปิด​ไว้​สำหรับ​คริสเตียน​สมัย​นี้?

29 พระ​ธรรม​มัดธาย เล่ม​แรก​ของ​กิตติคุณ​ทั้ง​สี่ เชื่อม​โยง​จาก​พระ​คัมภีร์​ภาค​ภาษา​ฮีบรู​เข้า​สู่​พระ​คัมภีร์​คริสเตียน​ภาค​ภาษา​กรีก​อย่าง​ดี​เยี่ยม​จริง ๆ. พระ​ธรรม​นี้​ระบุ​ตัว​พระ​มาซีฮา​และ​กษัตริย์​แห่ง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​ที่​สัญญา​ไว้​นั้น​อย่าง​ไม่​ผิด​พลาด, แจ้ง​ข้อ​เรียก​ร้อง​สำหรับ​การ​มา​เป็น​สาวก​ของ​พระองค์, และ​วาง​โครง​งาน​ที่​อยู่​เบื้อง​หน้า​สำหรับ​สาวก​เหล่า​นี้​บน​แผ่นดิน​โลก. โยฮัน​ผู้​ให้​บัพติสมา​เป็น​คน​แรก, ต่อ​มา​ก็​พระ​เยซู, และ​สุด​ท้าย​ก็​คือ​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์ ต่าง​ออก​ไป​ประกาศ “ราชอาณาจักร​ฝ่าย​สวรรค์​มา​ใกล้​แล้ว.” ยิ่ง​กว่า​นั้น พระ​บัญชา​ของ​พระ​เยซู​มี​ผล​เรื่อย​มา​จน​ถึง​ช่วง​อวสาน​ของ​ระบบ​นี้ ที่​ว่า “ข่าว​ดี​แห่ง​ราชอาณาจักร​นี้​จะ​ได้​รับ​การ​ประกาศ​ทั่ว​ทั้ง​แผ่นดิน​โลก​ที่​มี​คน​อาศัย​อยู่ เพื่อ​ให้​คำ​พยาน​แก่​ทุก​ชาติ; และ​ครั้น​แล้ว​อวสาน​จะ​มา​ถึง.” นั่น​เป็น​สิทธิ​พิเศษ​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​และ​ยอด​เยี่ยม​จริง ๆ และ​ยัง​คง​เป็น​สิทธิ​พิเศษ​เช่น​นั้น​อยู่​ที่​จะ​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​งาน​ราชอาณาจักร​นี้ ซึ่ง​รวม​ถึง ‘การ​ทำ​ให้​ชน​จาก​ทุก​ชาติ​เป็น​สาวก’ โดย​ทำ​งาน​ตาม​แบบ​อย่าง​ของ​นาย.—3:2, ล.ม.; 4:17; 10:7; 24:14, ล.ม.; 28:19, ล.ม.

30. ส่วน​ใด​โดย​เฉพาะ​ของ​กิตติคุณ​ซึ่ง​เรียบเรียง​โดย​มัดธาย​ที่​ได้​รับ​การ​ยกย่อง​เนื่อง​ด้วย​คุณค่า​ที่​ใช้​ได้​จริง?

30 กิตติคุณ​ของ​มัดธาย​เป็น “ข่าว​ดี” จริง ๆ. ข่าวสาร​ที่​มี​มา​โดย​การ​ดล​ใจ​เป็น “ข่าว​ดี” แก่​ผู้​ที่​ใส่​ใจ​ฟัง​ใน​ศตวรรษ​แรก​แห่ง​สากล​ศักราช และ​พระ​ยะโฮวา​เจ้า​ทรง​ดู​แล​ให้​กิตติคุณ​นี้​ได้​รับ​การ​รักษา​ไว้​เป็น “ข่าว​ดี” จน​ถึง​ทุก​วัน​นี้. แม้​แต่​คน​ที่​ไม่​ใช่​คริสเตียน​ก็​จำ​ต้อง​ยอม​รับ​พลัง​ของ​กิตติคุณ​นี้ ตัว​อย่าง​เช่น มี​รายงาน​ว่า มหาตมา (โมฮันดัส) คานธี ผู้​นำ​ชาว​ฮินดู​ได้​พูด​กับ​ลอร์ดเออร์วิน อดีต​อุปราช​อังกฤษ​ประจำ​อินเดีย​ว่า “เมื่อ​ใด​ที่​ประเทศ​ของ​ท่าน​และ​ของ​ข้าพเจ้า​ร่วม​มือ​กัน​ตาม​คำ​สอน​ที่​พระ​คริสต์​ทรง​วาง​ไว้​ใน​คำ​เทศน์​บน​ภูเขา พวก​เรา​คง​แก้​ปัญหา​ต่าง ๆ ได้​ไม่​เพียง​แต่​ปัญหา​ใน​ประเทศ​ของ​เรา​เท่า​นั้น แต่​ปัญหา​ของ​ทั้ง​โลก​ด้วย.”f อีก​โอกาส​หนึ่ง คานธี​กล่าว​ว่า “จง​ดื่ม​ให้​ได้​มาก ๆ จาก​น้ำพุ​ที่​มี​ให้​แก่​ท่าน​ใน​คำ​เทศน์​บน​ภูเขา . . . เพราะ​คำ​สอน​ใน​คำ​เทศน์​นี้​มี​ไว้​เพื่อ​เรา​แต่​ละ​คน​และ​ทุก ๆ คน.”g

31. ใคร​ที่​ได้​แสดง​ความ​หยั่ง​รู้​ค่า​อย่าง​แท้​จริง​ต่อ​คำ​แนะ​นำ​ใน​มัดธาย และ​เหตุ​ใด​จึง​เป็น​ประโยชน์​ที่​จะ​ศึกษา​กิตติคุณ​นี้​ซ้ำ​แล้ว​ซ้ำ​อีก?

31 อย่าง​ไร​ก็​ตาม โลก​ทั้ง​สิ้น​รวม​ทั้ง​ส่วน​ที่​อ้าง​ว่า​เป็น​คริสเตียน​ยัง​คง​ดำเนิน​ต่อ​ไป​พร้อม​กับ​ปัญหา​ต่าง ๆ. มี​แต่​คริสเตียน​แท้​จำนวน​ไม่​มาก​ที่​ทะนุถนอม, ศึกษา, และ​ทำ​ตาม​คำ​เทศน์​บน​ภูเขา​รวม​ทั้ง​คำ​แนะ​นำ​ที่​ดี​อื่น ๆ ทั้ง​หมด​ใน​ข่าว​ดี​ตาม​ที่​มัดธาย​บันทึก​ไว้ และ​ด้วย​เหตุ​นั้น​จึง​ได้​รับ​ประโยชน์​อัน​ประมาณ​ค่า​มิ​ได้. เป็น​ประโยชน์​ที่​จะ​ศึกษา​ซ้ำ​แล้ว​ซ้ำ​อีก​ใน​คำ​เตือน​สติ​ที่​ดี​ของ​พระ​เยซู​เกี่ยว​กับ​การ​แสวง​หา​ความ​สุข​ที่​แท้​จริง, รวม​ทั้ง​เรื่อง​ศีลธรรม​และ​การ​สมรส, พลัง​ของ​ความ​รัก, คำ​อธิษฐาน​ที่​ยอม​รับ​ได้, ค่า​นิยม​ฝ่าย​วิญญาณ​เปรียบ​กับ​ค่า​นิยม​ฝ่าย​วัตถุ, การ​แสวง​หา​ราชอาณาจักร​เป็น​อันดับ​แรก, ความ​นับถือ​ต่อ​สิ่ง​ที่​บริสุทธิ์, และ​เรื่อง​การ​เป็น​คน​ตื่น​ตัว​และ​เชื่อ​ฟัง. มัดธาย​บท 10 มี​คำ​สั่ง​สอน​เรื่อง​งาน​รับใช้​ที่​พระ​เยซู​ทรง​ให้​แก่​ผู้​ที่​ทำ​งาน​ประกาศ​ข่าว​ดี​เรื่อง “ราชอาณาจักร​ฝ่าย​สวรรค์.” อุปมา​หลาย​เรื่อง​ของ​พระ​เยซู​ให้​บทเรียน​สำคัญ​ยิ่ง​สำหรับ​ทุก​คน​ผู้ ‘มี​หู​รับ​ฟัง.’ ยิ่ง​กว่า​นั้น คำ​พยากรณ์​ต่าง ๆ ของ​พระ​เยซู เช่น ที่​พระองค์​บอก​ล่วง​หน้า​ถึง​ราย​ละเอียด​ของ ‘หมาย​สำคัญ​แห่ง​การ​ประทับ​ของ​พระองค์’ ต่าง​ก็​ก่อ​ความ​หวัง​ที่​แรง​กล้า​และ​ความ​มั่น​ใจ​ใน​อนาคต.—5:1–7:29; 10:5-42; 13:1-58; 18:1–20:16; 21:28–22:40; 24:3–25:46.

32. (ก) จง​ให้​ตัว​อย่าง​วิธี​ที่​คำ​พยากรณ์​ซึ่ง​สำเร็จ​เป็น​จริง​พิสูจน์​ฐานะ​พระ​มาซีฮา​ของ​พระ​เยซู. (ข) ความ​สำเร็จ​เป็น​จริง​เหล่า​นี้​ให้​คำ​รับรอง​ที่​หนักแน่น​อะไร​แก่​เรา​ใน​ทุก​วัน​นี้?

32 กิตติคุณ​ของ​มัดธาย​เต็ม​ไป​ด้วย​คำ​พยากรณ์​ที่​สำเร็จ​เป็น​จริง​ไป​แล้ว. การ​ที่​ท่าน​ยก​ข้อ​ความ​จาก​พระ​คัมภีร์​ภาค​ภาษา​ฮีบรู​มา​กล่าว​หลาย​ตอน​ก็​เพื่อ​แสดง​ให้​เห็น​ความ​สำเร็จ​เป็น​จริง​เหล่า​นั้น. ความ​สำเร็จ​เป็น​จริง​เหล่า​นั้น​เป็น​หลักฐาน​ที่​ไม่​อาจ​โต้​แย้ง​ได้​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​พระ​มาซีฮา เพราะ​คง​เป็น​ไป​ไม่​ได้​เด็ดขาด​ที่​จะ​เตรียม​ราย​ละเอียด​ทั้ง​หมด​นั้น​ไว้​ล่วง​หน้า. เพื่อ​เป็น​ตัว​อย่าง ให้​เทียบ​มัดธาย 13:14, 15 กับ​ยะซายา 6:9, 10; มัดธาย 21:42 กับ​บทเพลง​สรรเสริญ 118:22, 23; และ​มัดธาย 26:31, 56 กับ​ซะคาระยา 13:7. ความ​สำเร็จ​เป็น​จริง​เหล่า​นั้น​ให้​คำ​รับรอง​ที่​หนักแน่น​แก่​เรา​เช่น​เดียว​กัน​ว่า คำ​พยากรณ์​ทั้ง​สิ้น​ที่​พระ​เยซู​เอง​ตรัส ซึ่ง​มัดธาย​บันทึก​ไว้​นั้น จะ​เกิด​ขึ้น​สม​จริง​ตาม​เวลา​ที่​กำหนด​ใน​ขณะ​ที่​พระ​ประสงค์​อัน​รุ่ง​โรจน์​ของ​พระ​ยะโฮวา​อัน​เกี่ยว​กับ “ราชอาณาจักร​ฝ่าย​สวรรค์” นั้น​บรรลุ​ผล​สำเร็จ.

33. ขณะ​นี้​ผู้​รัก​ความ​ชอบธรรม​ปลาบปลื้ม​ยินดี​ได้​ใน​ความ​รู้​และ​ความ​หวัง​อะไร?

33 พระเจ้า​ทรง​บอก​ล่วง​หน้า​ไว้​อย่าง​แม่นยำ​จริง ๆ ถึง​ชีวิต​ของ​กษัตริย์​แห่ง​ราชอาณาจักร แม้​ใน​ราย​ละเอียด​ปลีกย่อย! มัดธาย​ผู้​ได้​รับ​การ​ดล​ใจ​ก็​แม่นยำ​จริง ๆ ใน​การ​บันทึก​ด้วย​ความ​ซื่อ​สัตย์​ถึง​ความ​สำเร็จ​เป็น​จริง​ของ​คำ​พยากรณ์​เหล่า​นี้! ขณะ​ที่​เหล่า​ผู้​รัก​ความ​ชอบธรรม​ใคร่ครวญ​ความ​สำเร็จ​เป็น​จริง​ทั้ง​สิ้น​ของ​คำ​พยากรณ์​และ​คำ​สัญญา​ต่าง ๆ ที่​บันทึก​ไว้​ใน​พระ​ธรรม​มัดธาย พวก​เขา​ย่อม​ยินดี​ได้​ใน​ความ​รู้​และ​ความ​หวัง​แห่ง “ราชอาณาจักร​ฝ่าย​สวรรค์” อัน​เป็น​เครื่อง​มือ​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ใช้​เพื่อ​ทำ​ให้​พระ​นาม​ของ​พระองค์​เป็น​ที่​นับถือ​อัน​บริสุทธิ์. ราชอาณาจักร​โดย​ทาง​พระ​เยซู​คริสต์​นี้​แหละ​ที่​ก่อ​พระ​พร​อัน​สุด​จะ​พรรณนา​ใน​ชีวิต​และ​ความ​สุข​แก่​ผู้​มี​ใจ​อ่อนโยน​และ​หิว​กระหาย​ฝ่าย​วิญญาณ “ใน​การ​สร้าง​ใหม่ เมื่อ​บุตร​มนุษย์​ประทับ​ลง​ที่​ราชบัลลังก์​อัน​รุ่ง​โรจน์​ของ​พระองค์.” (มัด. 19:28, ล.ม.) ทั้ง​หมด​นี้​มี​อยู่​ใน​ข่าว​ดี​ที่​กระตุ้น​ใจ​ซึ่ง “เรียบเรียง​โดย​ท่าน​มัดธาย.”

[เชิงอรรถ]

a ฉบับ​จัด​พิมพ์​ใหม่​ปี 1981 เล่ม 5 หน้า 895.

b แปล​จาก​ข้อ​ความ​ภาษา​ลาติน​ซึ่ง​เรียบเรียง​โดย อี. ซี. ริชาร์ด​สัน​และ​จัด​พิมพ์​เป็น​ชุด​มี​ชื่อ​ว่า “บทความ​และ​การ​วิเคราะห์​ประวัติ​วรรณคดี​คริสเตียน​สมัย​แรก” (ภาษา​เยอรมัน) ไลพ์ซิก 1896 เล่ม 14 หน้า 8, 9.

c ประวัติ​คริสตจักร (ภาษา​อังกฤษ) เล่ม 6 หน้า 25 วรรค 3-6.

d การ​ศึกษา​กิตติคุณ​เบื้อง​ต้น (ภาษา​อังกฤษ) 1896 บี. เอฟ. เวสต์คอตต์ หน้า 201.

e ใน​สมัย​ของ​พระ​เยซู หนึ่ง​เดนาริอน​เท่า​กับ​ค่า​จ้าง​หนึ่ง​วัน; ดัง​นั้น 100 เดนาริอน​จึง​เท่า​กับ​ค่า​จ้าง​สี่​เดือน. หก​สิบ​ล้าน​เดนาริอน​เท่า​กับ​ค่า​จ้าง​ซึ่ง​จะ​ต้อง​ใช้​เวลา​ชั่ว​ชีวิต​ถึง​หลาย​พัน​รอบ​เพื่อ​รวบ​รวม.—การ​หยั่ง​เห็น​เข้าใจ​พระ​คัมภีร์ (ภาษา​อังกฤษ) เล่ม 1 หน้า 614.

f ขุม​ทรัพย์​แห่ง​ความ​เชื่อ​ของ​คริสเตียน (ภาษา​อังกฤษ) 1949 เรียบเรียง​โดย เอส. ไอ. สตู​เบอร์ และ ที. ซี. คลาร์ก หน้า 43.

g แนว​คิด​ของ​มหาตมา คานธี (ภาษา​อังกฤษ) 1930 โดย ซี. เอฟ. แอนดรูวส์ หน้า 96.

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์