ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • ทต น. 241-248
  • พระธรรมเล่มที่ 43—โยฮัน

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • พระธรรมเล่มที่ 43—โยฮัน
  • “พระคัมภีร์ทุกตอนมีขึ้นโดยการดลใจจากพระเจ้าและเป็นประโยชน์”
  • หัวเรื่องย่อย
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • เนื้อ​เรื่อง​ใน​โยฮัน
  • เหตุ​ที่​เป็น​ประโยชน์
  • ภาพรวมของหนังสือยอห์น
    คัมภีร์ไบเบิลฉบับแปลโลกใหม่ (ฉบับศึกษา)
  • “ยังไม่ถึงเวลากำหนดของพระองค์”
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 2000
  • ทำสอดคล้องกับคำอธิษฐานที่เปี่ยมด้วยความรักของพระเยซู
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 2013
  • การเตรียมพวกอัครสาวกสำหรับการจากไปของพระองค์
    บุรุษผู้ใหญ่ยิ่งเท่าที่โลกเคยเห็น
ดูเพิ่มเติม
“พระคัมภีร์ทุกตอนมีขึ้นโดยการดลใจจากพระเจ้าและเป็นประโยชน์”
ทต น. 241-248

พระ​ธรรม​เล่ม​ที่ 43—โยฮัน

ผู้​เขียน: อัครสาวก​โยฮัน

สถาน​ที่​เขียน: เอเฟโซ​หรือ​บริเวณ​ใกล้​เคียง

เขียน​เสร็จ: ประมาณ​ปี 98 ส.ศ.

ครอบ​คลุม​ระยะ​เวลา: หลัง​จาก​คำนำ ปี ส.ศ. 29–33

1. ข้อ​คัมภีร์​ต่าง ๆ แสดง​ให้​เห็น​อะไร​เกี่ยว​กับ​ความ​ใกล้​ชิด​ของ​การ​คบหา​ระหว่าง​โยฮัน​กับ​พระ​เยซู?

บันทึก​กิตติคุณ​ของ​มัดธาย, มาระโก, และ​ลูกา​แพร่​หลาย​เป็น​เวลา​กว่า 30 ปี​มา​แล้ว​และ​เป็น​สิ่ง​ที่​คริสเตียน​ใน​ศตวรรษ​แรก​ถือ​ว่า​ล้ำ​ค่า​ใน​ฐานะ​ผล​งาน​ของ​คน​ที่​ได้​รับ​การ​ดล​ใจ​โดย​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์. ครั้น​แล้ว เมื่อ​ศตวรรษ​นั้น​ใกล้​จะ​สิ้น​สุด​และ​จำนวน​ของ​คน​ที่​เคย​อยู่​กับ​พระ​เยซู​ลด​ลง อาจ​เกิด​คำ​ถาม​ขึ้น​ว่า ยัง​มี​อะไร​จะ​บอก​อีก​ไหม? ยัง​มี​ใคร​อีก​ไหม​ที่​อาจ​ให้​ราย​ละเอียด​อัน​ทรง​ค่า​เกี่ยว​กับ​งาน​รับใช้​ของ​พระ​เยซู​จาก​ความ​ทรง​จำ​ของ​ตน​ได้? ใช่ ยัง​มี. โยฮัน​ผู้​ชรา​ได้​รับ​การ​อวย​พร​เป็น​พิเศษ​เมื่อ​ร่วม​งาน​กับ​พระ​เยซู. เห็น​ได้​ชัด​ว่า​ท่าน​อยู่​ใน​ศิษย์​กลุ่ม​แรก​ที่​โยฮัน​ผู้​ให้​บัพติสมา​แนะ​นำ​ให้​รู้​จัก​พระ​เมษโปดก​ของ​พระเจ้า และ​เป็น​หนึ่ง​ใน​สี่​คน​แรก​ที่​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ทรง​เชิญ​ให้​ร่วม​ใน​งาน​เผยแพร่​เต็ม​เวลา​กับ​พระองค์. (โย. 1:35-39; มโก. 1:16-20) ท่าน​ร่วม​งาน​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​เยซู​เรื่อย​มา​ตลอด​งาน​รับใช้​ของ​พระองค์​และ​เป็น​สาวก​ที่ “พระ​เยซู​ทรง​รัก” ซึ่ง​ได้​เอน​กาย​ลง​หน้า​พระ​ทรวง​ของ​พระ​เยซู​ใน​การ​ฉลอง​ปัศคา​มื้อ​สุด​ท้าย. (โย. 13:23; มัด. 17:1; มโก. 5:37; 14:33) ท่าน​อยู่​ด้วย ณ การ​ประหาร​อัน​น่า​โทมนัส​ยิ่ง​นั้น ที่​ซึ่ง​พระ​เยซู​ทรง​มอบหมาย​ท่าน​ให้​ดู​แล​มารดา​ทาง​เนื้อหนัง​ของ​พระองค์ และ​ท่าน​เอง​ที่​ได้​วิ่ง​นำ​หน้า​เปโตร​ขณะ​ที่​ท่าน​ทั้ง​สอง​รีบ​ไป​ที่​อุโมงค์​เพื่อ​ตรวจ​สอบ​ข่าว​ที่​ว่า​พระ​เยซู​ทรง​คืน​พระ​ชนม์​แล้ว.—โย. 19:26, 27; 20:2-4.

2. โดย​วิธี​ใด​ที่​โยฮัน​ถูก​เตรียม​ไว้​พร้อม​และ​ได้​รับ​การ​กระตุ้น​ให้​เขียน​กิตติคุณ​ของ​ท่าน และ​เพื่อ​จุด​ประสงค์​อะไร?

2 โดย​ได้​รับ​การ​ขัด​เกลา​เกือบ 70 ปี​ใน​งาน​รับใช้​อย่าง​ขันแข็ง และ​โดย​ได้​รับ​นิมิต​ต่าง ๆ รวม​ทั้ง​การ​ไตร่ตรอง​ใน​ขณะ​ถูก​จำ​จอง​อย่าง​โดด​เดี่ยว​บน​เกาะ​ปัตโมส​ก่อน​หน้า​นี้​ไม่​นาน โยฮัน​จึง​ถูก​เตรียม​ไว้​พร้อม​เป็น​อย่าง​ดี​เพื่อ​จะ​เขียน​สิ่ง​ต่าง ๆ ที่​ท่าน​ได้​ทะนุถนอม​ไว้​ใน​หัวใจ​เป็น​เวลา​นาน. บัด​นี้ พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​กระตุ้น​จิตใจ​ท่าน​ให้​รำลึก​ถึง​คำ​ตรัส​มาก​มาย​เหล่า​นั้น​ซึ่ง​ล้ำ​ค่า​และ​ให้​ชีวิต และ​เขียน​ไว้​เป็น​หนังสือ​เพื่อ​แต่​ละ​คน​ที่​อ่าน ‘จะ​ได้​เชื่อ​ว่า​พระ​เยซู​คือ​พระ​คริสต์ พระ​บุตร​ของ​พระเจ้า และ​เนื่อง​จาก​มี​ความ​เชื่อ เขา​ก็​จะ​ได้​ชีวิต​โดย​พระ​นาม​ของ​พระ​เยซู.’—20:31, ล.ม.

3, 4. มี​หลักฐาน​อะไร​จาก​ภาย​นอก​และ​ภาย​ใน​ที่​แสดง​ว่า (ก) กิตติคุณ​เล่ม​นี้​เป็น​ส่วน​แห่ง​สารบบ​พระ​คัมภีร์ และ (ข) โยฮัน​เป็น​ผู้​เขียน?

3 คริสเตียน​ใน​ช่วง​ต้น​ศตวรรษ​ที่​สอง​ยอม​รับ​ว่า​โยฮัน​เป็น​ผู้​เขียน​บันทึก​นี้​และ​ยัง​ถือ​ว่า​บันทึก​นี้​เป็น​ส่วน​แห่ง​สารบบ​พระ​คัมภีร์​ที่​มี​ขึ้น​โดย​การ​ดล​ใจ​อย่าง​ไม่​มี​ข้อ​สงสัย. เคลเมนต์​แห่ง​อะเล็กซานเดรีย, อิเรแนอุส, เทอร์ทูลเลียน, และ​ออริเกน​ซึ่ง​ล้วน​แต่​อยู่​ใน​ตอน​ปลาย​ศตวรรษ​ที่​สอง​และ​ตอน​ต้น​ศตวรรษ​ที่​สาม ต่าง​ยืน​ยัน​ว่า​โยฮัน​เป็น​ผู้​เขียน. ยิ่ง​กว่า​นั้น หลักฐาน​ภาย​ใน​มาก​มาย​ที่​ว่า​โยฮัน​เป็น​ผู้​เขียน​ก็​พบ​ได้​ใน​พระ​ธรรม​นี้​เอง. เห็น​ได้​ชัด​ว่า​ผู้​เขียน​เป็น​ชาว​ยิว​และ​คุ้น​เคย​ดี​กับ​ขนบธรรมเนียม​และ​ดินแดน​ของ​ชาว​ยิว. (2:6; 4:5; 5:2; 10:22, 23) เรื่อง​ราว​ที่​ละเอียด​ถี่ถ้วน​บ่ง​ชี้​ว่า​ท่าน​ไม่​ได้​เป็น​เพียง​อัครสาวก​คน​หนึ่ง​เท่า​นั้น แต่​เป็น​หนึ่ง​ใน​สาม​คน​ซึ่ง​เป็น​คน​วง​ใน คือ​เปโตร, ยาโกโบ, และ​โยฮัน ที่​ได้​ร่วม​ทาง​กับ​พระ​เยซู​ใน​โอกาส​พิเศษ​ต่าง ๆ. (มัด. 17:1; มโก. 5:37; 14:33) ใน​สาม​คน​นี้ ตัด​ยาโกโบ (บุตร​เซเบดาย) ออก​ไป​ได้​เพราะ​ท่าน​ถูก​เฮโรด อะฆะริปา​ที่ 1 สังหาร​เนื่อง​ด้วย​ความ​เชื่อ​ของ​ท่าน​เมื่อ​ประมาณ​ปี ส.ศ. 44 นาน​ก่อน​ที่​มี​การ​เขียน​พระ​ธรรม​เล่ม​นี้. (กิจ. 12:2) เปโตร​ก็​ตัด​ออก​ไป​ได้​เพราะ​มี​การ​กล่าว​ถึง​ท่าน​พร้อม​กับ​ผู้​เขียน​ที่​โยฮัน 21:20-24.

4 ใน​ข้อ​ท้าย ๆ นี้ มี​การ​กล่าว​ถึง​ผู้​เขียน​ว่า​เป็น​สาวก​ที่ “พระ​เยซู​ทรง​รัก” มี​การ​ใช้​ถ้อย​คำ​นี้​และ​ถ้อย​คำ​ที่​คล้ายคลึง​กัน​หลาย​ครั้ง​ใน​บันทึก แม้​ว่า​ไม่​เคย​กล่าว​ถึง​ชื่อ​อัครสาวก​โยฮัน​เลย​ก็​ตาม. ใน​ที่​นี้​มี​การ​ยก​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ซึ่ง​กล่าว​ถึง​ท่าน​ว่า “ถ้า​เรา​ประสงค์​ให้​เขา​ยัง​คง​อยู่​ต่อ​ไป​จน​กระทั่ง​เรา​มา​นั้น ก็​จะ​เป็น​ธุระ​อะไร​ของ​เจ้า​เล่า?” (โย. 21:20, 22, ล.ม.) คำ​ตรัส​นี้​บ่ง​นัย​ว่า​สาวก​ที่​ถูก​กล่าว​ถึง​นั้น​จะ​มี​ชีวิต​ยืน​ยาว​กว่า​เปโตร​และ​อัครสาวก​คน​อื่น ๆ. ทั้ง​หมด​นี้​ตรง​กับ​อัครสาวก​โยฮัน. น่า​สนใจ​ที่​ว่า หลัง​จาก​ได้​รับ​นิมิต​ใน​พระ​ธรรม​วิวรณ์​เกี่ยว​กับ​การ​เสด็จ​มา​ของ​พระ​เยซู โยฮัน​ปิด​ท้าย​คำ​พยากรณ์​อัน​น่า​ทึ่ง​นั้น​ด้วย​ถ้อย​คำ​ว่า “อาเมน! เชิญ​เสด็จ​มา​เถิด พระ​เยซู​เจ้า.”—วิ. 22:20, ล.ม.

5. เชื่อ​กัน​ว่า​โยฮัน​เขียน​กิตติคุณ​ของ​ท่าน​เมื่อ​ไร?

5 แม้​พระ​ธรรม​โยฮัน​เอง​ไม่​ให้​ข้อมูล​แน่ชัด​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นี้ แต่​เชื่อ​กัน​โดย​ทั่ว​ไป​ว่า​โยฮัน​เขียน​กิตติคุณ​ของ​ท่าน​หลัง​จาก​ที่​ท่าน​กลับ​จาก​ถูก​เนรเทศ​ไป​ที่​เกาะ​ปัตโมส. (วิ. 1:9) จักรพรรดิ​เนอร์วา​ของ​โรม ซึ่ง​ครอง​ราชย์​ปี ส.ศ. 96-98 ได้​เรียก​หลาย​คน​ซึ่ง​ถูก​เนรเทศ​ใน​ตอน​ปลาย​รัชกาล​ของ​โดมิเทียน​จักรพรรดิ​องค์​ก่อน​ให้​กลับ​มา. หลัง​จาก​เขียน​กิตติคุณ​ของ​ท่าน​เมื่อ​ประมาณ​ปี ส.ศ. 98 เชื่อ​กัน​ว่า​โยฮัน​สิ้น​ชีวิต​อย่าง​สงบ​ที่​เมือง​เอเฟโซ​ใน​ปี​ที่​สาม​ของ​จักรพรรดิ​ทรายาน คือ​ปี ส.ศ. 100.

6. หลักฐาน​อะไร​บ่ง​ชี้​ว่า​กิตติคุณ​ของ​โยฮัน​เขียน​นอก​ปาเลสไตน์ คือ​ที่​เมือง​เอเฟโซ​หรือ​บริเวณ​ใกล้​เคียง?

6 เกี่ยว​กับ​เมือง​เอเฟโซ​หรือ​บริเวณ​ใกล้​เคียง​ซึ่ง​เป็น​สถาน​ที่​เขียน ยูเซบิอุส​นัก​ประวัติศาสตร์ (ประมาณ​ปี ส.ศ. 260-340) ยก​คำ​พูด​ของ​อิเรแนอุส​มา​กล่าว​ซึ่ง​มี​ความ​ว่า “โยฮัน สาวก​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ซึ่ง​ถึง​กับ​เคย​เอน​กาย​บน​พระ​ทรวง​ของ​พระองค์ เป็น​ผู้​เขียน​กิตติคุณ​นี้​เอง ขณะ​ที่​ท่าน​อาศัย​อยู่​ที่​เอเฟโซ​ใน​เอเชีย.”a ที่​ว่า​พระ​ธรรม​นี้​ถูก​เขียน​ภาย​นอก​ปาเลสไตน์​นั้น​ได้​รับ​การ​สนับสนุน​โดย​การ​อ้างอิง​หลาย​ครั้ง​ถึง​ปรปักษ์​ของ​พระ​เยซู​ด้วย​คำ​ทั่ว ๆ ไป เช่น “พวก​ยิว” แทน​ที่​จะ​เป็น “พวก​ฟาริซาย,” “ปุโรหิต​ใหญ่,” และ​อื่น ๆ. (โย. 1:19; 12:9, ล.ม.) นอก​จาก​นี้ ยัง​มี​การ​อธิบาย​เกี่ยว​กับ​ทะเล​แกลิลี (ฆาลิลาย) โดย​ใช้​ชื่อ​โรมัน​อีก​ด้วย คือ​ทะเล​ติเบเรีย. (6:1; 21:1) เพื่อ​ประโยชน์​ของ​ผู้​ที่​ไม่​ใช่​ชาว​ยิว โยฮัน​ให้​คำ​อธิบาย​ที่​เป็น​ประโยชน์​เกี่ยว​กับ​เทศกาล​ต่าง ๆ ของ​ชาว​ยิว. (6:4; 7:2; 11:55) ปัตโมส ที่​ที่​ท่าน​ถูก​เนรเทศ​ไป​นั้น​อยู่​ใกล้​เมือง​เอเฟโซ และ​ความ​คุ้น​เคย​ของ​ท่าน​กับ​เมือง​เอเฟโซ​รวม​ทั้ง​กับ​ประชาคม​อื่น ๆ ใน​เอเชีย​ไมเนอร์​มี​บอก​ไว้​ใน​พระ​ธรรม​วิวรณ์​บท 2 และ 3.

7. พาไพรัส ไรแลนด์ส 457 มี​ความ​สำคัญ​อย่าง​ไร?

7 ที่​สนับสนุน​ความ​เชื่อถือ​ได้​ของ​กิตติคุณ​ของ​โยฮัน​คือ​สำเนา​ต้น​ฉบับ​ที่​สำคัญ​ซึ่ง​พบ​ใน​ศตวรรษ​ที่ 20. หนึ่ง​ใน​สำเนา​ต้น​ฉบับ​เหล่า​นั้น​คือ​ชิ้น​ส่วน​กิตติคุณ​ของ​โยฮัน​ที่​พบ​ใน​อียิปต์ ซึ่ง​เป็น​ที่​รู้​จัก​กัน​ใน​เวลา​นี้​ว่า พาไพรัส ไรแลนด์ส 457 (P​52) ซึ่ง​มี​โยฮัน 18:31-33, 37, 38 และ​ได้​รับ​การ​เก็บ​รักษา​ที่​ห้อง​สมุด​จอห์น ไรแลนด์ส ใน​เมือง​แมนเชสเตอร์ ประเทศ​อังกฤษ.b เกี่ยว​กับ​เรื่อง​ที่​พาไพรัส​ชิ้น​นี้​สนับสนุน​คำ​เล่า​สืบ​ปาก​ที่​ว่า​โยฮัน​เป็น​ผู้​เขียน​ใน​ตอน​ปลาย​ศตวรรษ​แรก​นั้น เซอร์​เฟรเดอริก เคนยอน ผู้​ล่วง​ลับ​กล่าว​ไว้​ใน​หนังสือ​ของ​เขา​ซึ่ง​มี​ชื่อ​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​ความ​รู้​สมัย​ใหม่ (ภาษา​อังกฤษ) 1949 หน้า 21 ดัง​นี้: “แม้​จะ​เป็น​ชิ้น​ส่วน​เล็ก ๆ แต่​ก็​พอ​เพียง​จะ​พิสูจน์​ว่า​สำเนา​ต้น​ฉบับ​ของ​กิตติคุณ​นี้​มี​แพร่​หลาย​ประมาณ​ช่วง​คริสต์ศักราช 130-150. อาจ​เป็น​ใน​ประเทศ​อียิปต์​ซึ่ง​เป็น​ที่​ที่​ค้น​พบ​ชิ้น​ส่วน​นี้ ซึ่ง​เวลา​นั้น​อยู่​ภาย​ใต้​การ​ควบคุม​ของ​โรม. การ​ให้​เวลา​แม้​เพียง​เล็ก​น้อย​สำหรับ​การ​แพร่​ผล​งาน​ชิ้น​นี้​จาก​แหล่ง​ที่​เขียน​นั้น​คง​ทำ​ให้​เวลา​เรียบเรียง​ใกล้​เคียง​กับ​เวลา​ที่​เล่า​สืบ​ปาก​กัน​มา​คือ​ใน​ทศวรรษ​สุด​ท้าย​ของ​ศตวรรษ​แรก​ถึง​ขนาด​ที่​ไม่​มี​เหตุ​ผล​ใด ๆ จะ​สงสัย​ความ​น่า​เชื่อถือ​ของ​คำ​เล่า​สืบ​ปาก​นั้น.”

8. (ก) อะไร​ที่​นับ​ว่า​เด่น​ใน​เรื่อง​คำนำ​ของ​กิตติคุณ​ของ​โยฮัน? (ข) กิตติคุณ​นี้​ให้​ข้อ​พิสูจน์​อะไร​ที่​ว่า​งาน​สั่ง​สอน​ของ​พระ​เยซู​กิน​เวลา​นาน​สาม​ปี​ครึ่ง?

8 กิตติคุณ​ของ​โยฮัน​โดด​เด่น​ใน​เรื่อง​คำนำ​ซึ่ง​เผย​ให้​ทราบ​ว่า พระ​วาทะ​ผู้​ซึ่ง “เมื่อ​เดิม . . . ได้​อยู่​กับ​พระเจ้า” นั้น​เป็น​ผู้​ซึ่ง​สรรพสิ่ง​ได้​เกิด​ขึ้น​โดย​พระองค์. (1:2, ล.ม.) หลัง​จาก​แจ้ง​ให้​ทราบ​ถึง​สัมพันธภาพ​อัน​ล้ำ​ค่า​ระหว่าง​พระ​บิดา​และ​พระ​บุตร​แล้ว โยฮัน​เริ่ม​พรรณนา​อย่าง​ชำนิ​ชำนาญ​ถึง​การ​งาน​และ​คำ​บรรยาย​ของ​พระ​เยซู โดย​เฉพาะ​จาก​แง่​ของ​ความ​รัก​ลึกซึ้ง​ที่​ผูก​พัน​ทุก​สิ่ง​ให้​เป็น​หนึ่ง​เดียว​ใน​การ​จัด​เตรียม​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​ของ​พระเจ้า. บันทึก​นี้​อัน​เกี่ยว​กับ​ชีวิต​ของ​พระ​เยซู​บน​แผ่นดิน​โลก​ครอบ​คลุม​ช่วง​ปี ส.ศ. 29-33 และ​เป็น​ความ​ละเอียด​ถี่ถ้วน​ที่​กล่าว​ถึง​ปัศคา​สี่​ครั้ง​ที่​พระ​เยซู​ทรง​เข้า​ร่วม​ระหว่าง​งาน​สั่ง​สอน​ของ​พระองค์ จึง​ให้​ข้อ​พิสูจน์​ข้อ​หนึ่ง​ใน​หลาย ๆ ข้อ​ว่า​งาน​สั่ง​สอน​ของ​พระองค์​กิน​เวลา​นาน​สาม​ปี​ครึ่ง. มี​กล่าว​ถึง​ปัศคา​สาม​ใน​สี่​ครั้ง​นั้น​ว่า​เป็น​ปัศคา. (2:13; 6:4; 12:1; 13:1) มี​การ​กล่าว​ถึง​ปัศคา​ครั้ง​หนึ่ง​ว่า​เป็น “เทศกาล​หนึ่ง​ของ​พวก​ยิว” แต่​บริบท​จัด​ให้​การ​เลี้ยง​นั้น​อยู่​ไม่​นาน​หลัง​จาก​ที่​พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “อีก​สี่​เดือน​ก็​จะ​ถึง​ฤดู​เกี่ยว​ข้าว” จึง​บ่ง​ชี้​ว่า​เทศกาล​นั้น​คือ​ปัศคา ซึ่ง​มี​ขึ้น​ประมาณ​ต้น​ฤดู​เกี่ยว.—4:35, ล.ม.; 5:1, ล.ม.c

9. อะไร​แสดง​ว่า​กิตติคุณ​ของ​โยฮัน​ให้​ราย​ละเอียด​เพิ่ม​เติม และ​ถึง​กระนั้น กิตติคุณ​นี้​เพิ่ม​ราย​ละเอียด​ทั้ง​หมด​เกี่ยว​กับ​งาน​เผยแพร่​ของ​พระ​เยซู​ไหม?

9 ส่วน​ใหญ่​แล้ว ข่าว​ดี​ที่ “เรียบเรียง​โดย​ท่าน​โยฮัน” ให้​ราย​ละเอียด​เพิ่ม​เติม; มี 92 เปอร์เซ็นต์​เป็น​เนื้อหา​ใหม่​ซึ่ง​ไม่​มี​ใน​กิตติคุณ​อีก​สาม​เล่ม. แต่​กระนั้น โยฮัน​ยัง​ปิด​ท้าย​ด้วย​ถ้อย​คำ​ว่า “อัน​ที่​จริง มี​อยู่​อีก​หลาย​สิ่ง​ที่​พระ​เยซู​ได้​ทรง​ทำ ซึ่ง​ถ้า​จะ​เขียน​ให้​ละเอียด​ครบ​ถ้วน​แล้ว ข้าพเจ้า​คิด​ว่า​โลก​นี้​คง​ไม่​พอ​บรรจุ​ม้วน​หนังสือ​เหล่า​นั้น​ได้.”—21:25, ล.ม.

เนื้อ​เรื่อง​ใน​โยฮัน

10. โยฮัน​กล่าว​เช่น​ไร​เกี่ยว​กับ “พระ​วาทะ”?

10 คำนำ: การ​แนะ​นำ “พระ​วาทะ” (1:1-18). โยฮัน​กล่าว​อย่าง​เรียบ​ง่าย​ไพเราะ​ว่า ใน​ตอน​เริ่ม​แรก “พระ​วาทะ​นั้น​ได้​อยู่​กับ​พระเจ้า” ชีวิต​เกิด​ขึ้น​โดย​ทาง​พระองค์, พระองค์​ได้​มา​เป็น “ความ​สว่าง​ของ​มนุษย์,” และ​โยฮัน (ผู้​ให้​บัพติสมา) เป็น​พยาน​ถึง​พระองค์. (1:1, 4, ล.ม.) ความ​สว่าง​นั้น​อยู่​ใน​โลก แต่​โลก​ไม่​รู้​จัก​พระองค์. ผู้​ที่​รับ​พระองค์​ได้​มา​เป็น​บุตร​ของ​พระเจ้า คือ​กำเนิด​จาก​พระเจ้า. มี​การ​ประทาน​พระ​บัญญัติ​ผ่าน​ทาง​โมเซ​ฉัน​ใด “พระ​กรุณา​อัน​ไม่​พึง​ได้​รับ​และ​ความ​จริง​นั้น​มา​ทาง​พระ​เยซู​คริสต์” ฉัน​นั้น.—1:17, ล.ม.

11. โยฮัน​ผู้​ให้​บัพติสมา​ระบุ​ตัว​พระ​เยซู​ว่า​เป็น​ผู้​ใด และ​ศิษย์​ของ​โยฮัน​ยอม​รับ​พระ​เยซู​ว่า​เป็น​ผู้​ใด?

11 การ​เสนอ “พระ​เมษโปดก​ของ​พระเจ้า” แก่​มนุษย์ (1:19-51). โยฮัน​ผู้​ให้​บัพติสมา​ยอม​รับ​ว่า​ท่าน มิ​ได้​เป็น​พระ​คริสต์ แต่​บอก​ว่า​มี​ผู้​หนึ่ง​ซึ่ง​มา​ภาย​หลัง​ท่าน และ​ท่าน​ไม่​คู่​ควร​จะ​แก้​สาย​รัด​ฉลอง​พระ​บาท​ของ​พระองค์​ผู้​นั้น. วัน​ต่อ​มา ขณะ​ที่​พระ​เยซู​เสด็จ​มา​หา​ท่าน โยฮัน​ระบุ​ตัว​พระองค์​ว่า​เป็น “พระ​เมษโปดก​ของ​พระเจ้า​ซึ่ง​รับ​บาป​ของ​โลก​ไป.” (1:27, 29, ล.ม.) ถัด​จาก​นั้น ท่าน​แนะ​นำ​ศิษย์​สอง​คน​ของ​ท่าน​ให้​รู้​จัก​พระ​เยซู และ​หนึ่ง​ใน​สอง​คน​นั้น คือ​อันดะเรอา จึง​พา​เปโตร​พี่​ชาย​ของ​ตน​ไป​หา​พระ​เยซู. ฟีลิป​และ​นะธันเอล​ก็​ยอม​รับ​พระ​เยซู​เช่น​กัน​ว่า​เป็น ‘พระ​บุตร​ของ​พระเจ้า กษัตริย์​ของ​ชาติ​ยิศราเอล.’—1:49, ล.ม.

12. (ก) การ​อัศจรรย์​ครั้ง​แรก​ของ​พระ​เยซู​คือ​อะไร? (ข) พระองค์​ทรง​ทำ​อะไร​เมื่อ​เสด็จ​ขึ้น​ไป​ยัง​กรุง​ยะรูซาเลม​เพื่อ​ฉลอง​ปัศคา​ครั้ง​แรก​ระหว่าง​งาน​รับใช้​ของ​พระองค์?

12 การ​อัศจรรย์​ของ​พระ​เยซู​พิสูจน์​ว่า​พระองค์​เป็น “ผู้​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า” (2:1–6:71). พระ​เยซู​ทรง​ทำ​การ​อัศจรรย์​ครั้ง​แรก​ที่​บ้าน​คานา​ใน​แคว้น​แกลิลี​ด้วย​การ​เปลี่ยน​น้ำ​เป็น​เหล้า​องุ่น​อย่าง​ดี ณ งาน​เลี้ยง​สมรส. นี่​เป็น “การ​เริ่ม​ต้น​หมาย​สำคัญ​ของ​พระองค์ . . . และ​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​จึง​เชื่อ​ใน​พระองค์.” (2:11, ล.ม.) พระ​เยซู​เสด็จ​ขึ้น​ไป​ยัง​กรุง​ยะรูซาเลม​เพื่อ​ฉลอง​ปัศคา. เมื่อ​พบ​พ่อค้า​เร่​และ​คน​รับ​แลก​เงิน​ใน​พระ​วิหาร พระองค์​ทรง​เอา​แส้​และ​ขับ​ไล่​คน​เหล่า​นั้น​ออก​ไป​ด้วย​ความ​ร้อน​ใจ​จน​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​มอง​ออก​ถึง​ความ​สำเร็จ​ของ​คำ​พยากรณ์​ที่​ว่า “น้ำ​ใจ​แรง​กล้า​เพื่อ​ราช​นิเวศ​ของ​พระองค์​จะ​เผา​ผลาญ​ข้าพเจ้า.” (โย. 2:17, ล.ม.; เพลง. 69:9) พระองค์​ทรง​พยากรณ์​ว่า​พระ​วิหาร​แห่ง​พระ​กาย​ของ​พระองค์​เอง​จะ​ถูก​ทำ​ให้​พัง​ทลาย​และ​จะ​ถูก​สร้าง​ขึ้น​อีก​ใน​สาม​วัน.

13. (ก) พระ​เยซู​ทรง​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​อะไร​คือ​สิ่ง​จำเป็น​เพื่อ​ได้​รับ​ชีวิต? (ข) โยฮัน​ผู้​ให้​บัพติสมา​พูด​ถึง​ตัว​เอง​ว่า​เกี่ยว​ข้อง​กับ​พระ​เยซู​อย่าง​ไร?

13 นิโกเดโม​ที่​หวาด​กลัว​มา​หา​พระ​เยซู​ตอน​กลางคืน. เขา​ยอม​รับ​ว่า​พระ​เยซู​ถูก​พระเจ้า​ส่ง​มา และ​พระ​เยซู​ทรง​บอก​เขา​ว่า คน​เรา​ต้อง​บังเกิด​จาก​น้ำ​และ​พระ​วิญญาณ​เพื่อ​จะ​เข้า​ใน​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า. การ​เชื่อ​ใน​บุตร​มนุษย์​ผู้​มา​จาก​สวรรค์​เป็น​สิ่ง​จำเป็น​เพื่อ​จะ​ได้​ชีวิต. “เพราะ​ว่า​พระเจ้า​ทรง​รัก​โลก​มาก​ถึง​กับ​ทรง​ประทาน​พระ​บุตร​ผู้​ได้​รับ​กำเนิด​องค์​เดียว​ของ​พระองค์ เพื่อ​ทุก​คน​ที่​สำแดง​ความ​เชื่อ​ใน​พระองค์​นั้น​จะ​ไม่​ถูก​ทำลาย​แต่​มี​ชีวิต​นิรันดร์.” (โย. 3:16, ล.ม.) ความ​สว่าง​ที่​เข้า​มา​ใน​โลก​ขัด​แย้ง​กับ​ความ​มืด พระ​เยซู​ทรง​สรุป​ว่า “แต่​ผู้​ที่​ทำ​สิ่ง​ซึ่ง​เป็น​ความ​จริง​ย่อม​มา​ถึง​ความ​สว่าง.” จาก​นั้น โยฮัน​ผู้​ให้​บัพติสมา​จึง​ทราบ​ถึง​การ​งาน​ของ​พระ​เยซู​ใน​มณฑล​ยูดาย​และ​ประกาศ​ว่า ขณะ​ที่​ท่าน​เอง​ไม่​ใช่​พระ​คริสต์ แต่​ก็​เป็น “สหาย​ของ​เจ้าบ่าว . . . มี​ความ​ชื่นชม​ยินดี​เป็น​อัน​มาก​เพราะ​เสียง​ของ​เจ้าบ่าว​นั้น.” (3:21, 29, ล.ม.) บัด​นี้ พระ​เยซู​จะ​ต้อง​ทวี​ขึ้น และ​โยฮัน​จะ​ต้อง​ลด​ลง.

14. พระ​เยซู​ทรง​อธิบาย​อะไร​แก่​หญิง​ชาว​ซะมาเรีย​ที่​เมือง​ซูคาร และ​อะไร​เป็น​ผล​จาก​การ​ประกาศ​ของ​พระองค์​ที่​นั่น?

14 พระ​เยซู​ทรง​ออก​เดิน​ทาง​ไป​แคว้น​แกลิลี​อีก. ระหว่าง​เดิน​ทาง พระ​กาย​เต็ม​ไป​ด้วย​ฝุ่น​และ “ทรง​เหน็ด​เหนื่อย​จาก​การ​เดิน​ทาง” พระองค์​ทรง​นั่ง​พัก​ที่​บ่อ​น้ำ​ของ​ยาโคบ​ใน​เมือง​ซูคาร​ขณะ​ที่​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​เข้า​ไป​ซื้อ​อาหาร​ใน​เมือง. (4:6, ล.ม.) ตอน​นั้น​เป็น​เวลา​เที่ยง​วัน คือ​ชั่วโมง​ที่​หก. หญิง​ชาว​ซะมาเรีย​คน​หนึ่ง​เข้า​มา​ตัก​น้ำ และ​พระ​เยซู​ทรง​ขอ​น้ำ​ดื่ม. จาก​นั้น แม้​ว่า​เหน็ด​เหนื่อย แต่​พระองค์​ก็​เริ่ม​ตรัส​กับ​เธอ​เกี่ยว​ด้วย “น้ำ” แท้​ที่​ให้​ความ​สดชื่น​อย่าง​แท้​จริง ให้​ชีวิต​นิรันดร์​แก่​ผู้​ที่​นมัสการ​พระเจ้า “ด้วย​วิญญาณ​และ​ความ​จริง.” เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​กลับ​มา​และ​เร่งเร้า​ให้​พระองค์​เสวย​พระ​กระยาหาร พระองค์​ทรง​แถลง​ว่า “อาหาร​ของ​เรา​คือ​การ​ทำ​ตาม​พระ​ประสงค์​ของ​พระองค์​ผู้​ทรง​ใช้​เรา​มา​และ​ทำ​ให้​งาน​ของ​พระองค์​สำเร็จ.” พระองค์​อยู่​ใน​บริเวณ​นั้น​อีก​สอง​วัน ดัง​นั้น ชาว​ซะมาเรีย​หลาย​คน​จึง​มา​เชื่อ​ว่า “ชาย​ผู้​นี้​แน่​เป็น​ผู้​ช่วย​โลก​ให้​รอด.” (4:24, 34, 42, ล.ม.) เมื่อ​เสด็จ​ถึง​บ้าน​คานา​แห่ง​แคว้น​แกลิลี พระ​เยซู​ทรง​รักษา​บุตร​ชาย​ขุนนาง​โดย​ไม่​ได้​เสด็จ​ไป​ข้าง​เตียง​เขา​ด้วย​ซ้ำ.

15. มี​การ​กล่าวหา​พระ​เยซู​อย่าง​ไร​บ้าง​ใน​กรุง​ยะรูซาเลม แต่​พระองค์​ทรง​ตอบ​ผู้​ที่​วิพากษ์วิจารณ์​พระองค์​อย่าง​ไร?

15 พระ​เยซู​เสด็จ​ขึ้น​ไป​ยัง​กรุง​ยะรูซาเลม​อีก​ครั้ง​หนึ่ง​เพื่อ​ฉลอง​เทศกาล​ของ​พวก​ยิว. พระองค์​ทรง​รักษา​คน​ป่วย​คน​หนึ่ง​ใน​วัน​ซะบาโต และ​การ​นี้​ทำ​ให้​เกิด​การ​วิพากษ์วิจารณ์​มาก​มาย. พระ​เยซู​ทรง​โต้​ตอบ​ว่า “พระ​บิดา​ของ​เรา​ทรง​ทำ​งาน​เรื่อย​มา​ถึง​บัด​นี้ และ​เรา​ก็​ทำ​งาน​เรื่อย​ไป.” (5:17, ล.ม.) ครั้น​แล้ว พวก​ผู้​นำ​ชาว​ยิว​อ้าง​ว่า นอก​จาก​ทำ​ผิด​ฐาน​ละเมิด​วัน​ซะบาโต​แล้ว พระ​เยซู​ยัง​ได้​หมิ่น​ประมาท​พระเจ้า​ด้วย​การ​ทำ​ตัว​เท่า​เทียม​กับ​พระเจ้า. พระ​เยซู​ตรัส​ตอบ​ว่า พระ​บุตร​ไม่​อาจ​ทำ​สิ่ง​ใด​โดย​ความ​ริเริ่ม​ของ​ตน​เอง​ได้​แม้​สัก​สิ่ง​เดียว แต่​ทำ​ทุก​สิ่ง​โดย​ขึ้น​อยู่​กับ​พระ​บิดา. พระองค์​ทรง​กล่าว​ถ้อย​คำ​อัน​น่า​อัศจรรย์​ใจ​ว่า “บรรดา​ผู้​ซึ่ง​อยู่​ใน​อุโมงค์​รำลึก​จะ​ได้​ยิน​สุรเสียง​ของ​พระองค์ และ​จะ​ออก​มา” สู่​การ​กลับ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย. แต่​กับ​ผู้​ฟัง​ที่​ขาด​ความ​เชื่อ​นั้น​พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “เจ้า​ทั้ง​หลาย​จะ​เชื่อ​อย่าง​ไร​ได้​ใน​เมื่อ​เจ้า​รับ​เกียรติยศ​จาก​กัน​และ​กัน และ​เจ้า​ทั้ง​หลาย​มิ​ได้​แสวง​หา​เกียรติยศ​ซึ่ง​มา​จาก​พระเจ้า​องค์​เดียว?”—5:28, 29, 44, ล.ม.

16. (ก) พระ​เยซู​ทรง​สอน​อะไร​เกี่ยว​กับ​อาหาร​และ​ชีวิต? (ข) เปโตร​พูด​แสดง​ความ​เชื่อ​มั่น​ของ​พวก​อัคร​สาวก​อย่าง​ไร?

16 เมื่อ​พระ​เยซู​ทรง​เลี้ยง​อาหาร​ชาย 5,000 คน​อย่าง​อัศจรรย์​ด้วย​ขนมปัง​ห้า​ก้อน​และ​ปลา​เล็ก ๆ สอง​ตัว ฝูง​ชน​คิด​จะ​จับ​พระองค์​และ​ตั้ง​เป็น​กษัตริย์ แต่​พระองค์​เสด็จ​หนี​ไป​ยัง​ภูเขา. ต่อ​มา พระองค์​ทรง​ว่า​กล่าว​พวก​เขา​ที่​เสาะ​หา “อาหาร​ที่​จะ​เสื่อม​สูญ​ไป.” แทน​ที่​จะ​ทำ​เช่น​นั้น พวก​เขา​ควร​หา “อาหาร​ที่​คง​อยู่​เพื่อ​ชีวิต​นิรันดร์.” พระองค์​ทรง​ชี้​ให้​เห็น​ว่า การ​สำแดง​ความ​เชื่อ​ใน​พระองค์​ผู้​เป็น​พระ​บุตร​คือ​การ​รับประทาน​ขนมปัง​แห่ง​ชีวิต และ​พระองค์​ตรัส​เพิ่ม​เติม​ว่า “ถ้า​เจ้า​มิ​ได้​กิน​เนื้อ​แห่ง​บุตร​มนุษย์​และ​ดื่ม​โลหิต​ของ​พระองค์ เจ้า​ก็​ไม่​มี​ชีวิต​ใน​ตัว​เจ้า.” สาวก​ของ​พระองค์​หลาย​คน​รู้สึก​ขุ่นเคือง​ต่อ​คำ​ตรัส​นี้​และ​จาก​พระองค์​ไป. พระ​เยซู​ทรง​ถาม​อัครสาวก 12 คน​ว่า “เจ้า​ทั้ง​หลาย​ไม่​ต้องการ​จะ​ไป​ด้วย​ใช่​ไหม?” และ​เปโตร​ตอบ​ว่า “พระองค์​เจ้าข้า พวก​ข้าพเจ้า​จะ​จาก​ไป​หา​ผู้​ใด​เล่า? พระองค์​ทรง​มี​ถ้อย​คำ​แห่ง​ชีวิต​นิรันดร์; และ​ข้าพเจ้า​ทั้ง​หลาย​ก็​ได้​เชื่อ​และ​ได้​มา​ทราบ​แล้ว​ว่า​พระองค์​เป็น​องค์​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า.” (6:27, 53, 67-69, ล.ม.) อย่าง​ไร​ก็​ตาม ด้วย​ทราบ​ว่า​ยูดา​จะ​ทรยศ​พระองค์ พระ​เยซู​จึง​ตรัส​ว่า​คน​หนึ่ง​ใน​พวก​เขา​เป็น​คน​หมิ่น​ประมาท.

17. คำ​สั่ง​สอน​ของ​พระ​เยซู​ใน​พระ​วิหาร​ใน​คราว​เทศกาล​ตั้ง​ทับ​อาศัย​ก่อ​ผล​อย่าง​ไร?

17 “ความ​สว่าง” ขัด​แย้ง​กับ​ความ​มืด (7:1–12:50). พระ​เยซู​เสด็จ​ขึ้น​ไป​ยัง​กรุง​ยะรูซาเลม​อย่าง​ลับ ๆ และ​ทรง​ปรากฏ​ตัว​เมื่อ​เทศกาล​ตั้ง​ทับ​อาศัย​ดำเนิน​ไป​ได้​ครึ่ง​หนึ่ง​แล้ว ทรง​สอน​อย่าง​เปิด​เผย​ใน​พระ​วิหาร. ประชาชน​โต้​เถียง​กัน​ว่า​พระองค์​เป็น​พระ​คริสต์​จริง ๆ หรือ​ไม่. พระ​เยซู​ทรง​บอก​พวก​เขา​ว่า “เรา​มิ​ได้​มา​ตาม​ความ​ริเริ่ม​ของ​เรา​เอง แต่​พระองค์​ผู้​ทรง​ใช้​เรา​มา​นั้น​มี​อยู่​จริง . . . และ​พระองค์​นั้น​ได้​ทรง​ใช้​เรา​มา.” ใน​อีก​โอกาส​หนึ่ง พระองค์​ทรง​ร้อง​บอก​แก่​ฝูง​ชน​ว่า “ถ้า​ผู้​ใด​กระหาย ให้​ผู้​นั้น​มา​หา​เรา​และ​ดื่ม.” พวก​เจ้าหน้าที่​ซึ่ง​ถูก​ส่ง​ไป​จับ​พระ​เยซู​กลับ​มา​มือ​เปล่า และ​รายงาน​ต่อ​พวก​ปุโรหิต​ว่า “ไม่​เคย​มี​ผู้​อื่น​ใด​พูด​เช่น​นี้​เลย.” ด้วย​ความ​เดือดดาล พวก​ฟาริซาย​ตอบ​ว่า​ไม่​มี​เจ้าหน้าที่​ปกครอง​สัก​คน​ที่​เชื่อ และ​ไม่​มี​ผู้​พยากรณ์​คน​ใด​จะ​มา​จาก​แกลิลี.—7:28, 29, 37, 46, ล.ม.

18. พวก​ยิว​ต่อ​ต้าน​พระ​เยซู​อย่าง​ไร และ​พระองค์​ทรง​ตอบ​อย่าง​ไร?

18 ใน​การ​พูด​อีก​คราว​หนึ่ง พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “เรา​เป็น​ความ​สว่าง​ของ​โลก.” สำหรับ​ข้อ​กล่าวหา​ด้วย​เจตนา​ร้าย​ว่า​พระองค์​เป็น​พยาน​เท็จ, เป็น​ลูก​นอก​กฎหมาย, เป็น​ชาว​ซะมาเรีย​และ​มี​ผี​เข้า​สิง​นั้น พระ​เยซู​ทรง​ตอบ​อย่าง​หนักแน่น​ว่า “ถ้า​เรา​ให้​เกียรติศักดิ์​แก่​ตัว​เรา​เอง เกียรติศักดิ์​ของ​เรา​ก็​ไม่​มี​ความหมาย. ผู้​ทรง​ให้​เกียรติศักดิ์​แก่​เรา​นั้น​คือ​พระ​บิดา​ของ​เรา.” เมื่อ​พระองค์​ทรง​ประกาศ​ว่า “ก่อน​อับราฮาม​เกิด​มา เรา​ก็​เป็น​อยู่​แล้ว” พวก​ยิว​พยายาม​อย่าง​ไร้​ผล​เพื่อ​เอา​ชีวิต​พระองค์​อีก. (8:12, 54, 58, ล.ม.) ด้วย​ความ​ข้องขัดใจ ต่อ​มา​พวก​เขา​จึง​ซัก​ถาม​ชาย​คน​ที่​พระ​เยซู​ทรง​รักษา​ตา​ของ​เขา​ให้​เห็น​อีก​ด้วย​การ​อัศจรรย์ แล้ว​พวก​เขา​ได้​ขับ​ไล่​ชาย​คน​นั้น​ออก​ไป.

19. (ก) พระ​เยซู​ตรัส​อย่าง​ไร​ใน​เรื่อง​สัมพันธภาพ​ของ​พระองค์​กับ​พระ​บิดา​และ​ความ​ใฝ่​พระทัย​ที่​พระองค์​มี​ต่อ​ฝูง​แกะ​ของ​พระองค์? (ข) พระองค์​ทรง​ตอบ​พวก​ยิว​อย่าง​ไร​เมื่อ​พวก​เขา​หมาย​จะ​ทำ​ร้าย​พระองค์?

19 พระ​เยซู​ตรัส​แก่​พวก​ยิว​อีก คราว​นี้​เกี่ยว​กับ​ผู้​เลี้ยง​แกะ​ที่​ดี​ซึ่ง​เรียก​ชื่อ​แกะ​ของ​ตน​และ​ยอม​สละ​จิตวิญญาณ​ของ​ตน​เพื่อ​แกะ “เพื่อ​เขา​ทั้ง​หลาย​จะ​ได้​ชีวิต . . . อย่าง​บริบูรณ์.” พระองค์​ตรัส​ว่า “เรา​มี​แกะ​อื่น​ซึ่ง​มิ​ได้​เป็น​ของ​คอก​นี้; แกะ​เหล่า​นั้น​เรา​จะ​ต้อง​พา​มา​ด้วย และ​แกะ​เหล่า​นั้น​จะ​ฟัง​เสียง​ของ​เรา และ​จะ​รวม​เป็น​ฝูง​เดียว​มี​ผู้​เลี้ยง​ผู้​เดียว.” (10:10, 16, ล.ม.) พระองค์​ทรง​บอก​พวก​ยิว​ว่า ไม่​มี​ใคร​สามารถ​ชิง​แกะ​ไป​จาก​พระ​หัตถ์​พระ​บิดา​ของ​พระองค์ และ​พระองค์​ตรัส​ว่า​พระองค์​กับ​พระ​บิดา​เป็น​อัน​หนึ่ง​อัน​เดียว​กัน. อีก​ครั้ง​หนึ่ง พวก​เขา​พยายาม​เอา​หิน​ขว้าง​พระองค์​ให้​ตาย. เมื่อ​ทรง​ตอบ​ข้อ​กล่าวหา​เรื่อง​การ​หมิ่น​ประมาท พระองค์​ทรง​เตือน​พวก​เขา​ให้​ระลึก​ว่า ใน​พระ​ธรรม​บทเพลง​สรรเสริญ​มี​การ​อ้าง​ถึง​ผู้​มี​อำนาจ​บาง​คน​บน​แผ่นดิน​โลก​ว่า​เป็น “พระเจ้า” ใน​ขณะ​ที่​ทรง​อ้าง​ถึง​พระองค์​เอง​ว่า​เป็น​พระ​บุตร​ของ​พระเจ้า. (เพลง. 82:6, ล.ม.) พระองค์​ทรง​กระตุ้น​เตือน​พวก​เขา​ว่า​อย่าง​น้อย​ก็​ให้​เชื่อ​ใน​การ​งาน​ของ​พระองค์.—โย. 10:34.

20. (ก) ต่อ​จาก​นั้น​พระ​เยซู​ทรง​ทำ​การ​อัศจรรย์​อัน​โดด​เด่น​อะไร? (ข) การ​นี้​นำ​ไป​สู่​อะไร?

20 มี​ข่าว​มา​จาก​บ้าน​เบธาเนีย​ใกล้​กรุง​ยะรูซาเลม​ว่า​ลาซะโร​น้อง​ชาย​ของ​มาเรีย​กับ​มาธา​ป่วย. พอ​ถึง​เวลา​ที่​พระ​เยซู​เสด็จ​ถึง​ที่​นั่น ลาซะโร​ตาย​และ​อยู่​ใน​อุโมงค์​ฝัง​ศพ​สี่​วัน​แล้ว. พระ​เยซู​ทรง​ทำ​การ​อัศจรรย์​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​ด้วย​การ​ทำ​ให้​ลาซะโร​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย​อัน​เป็น​เหตุ​ให้​หลาย​คน​เชื่อถือ​พระ​เยซู. เรื่อง​นี้​ทำ​ให้​มี​การ​ประชุม​พิเศษ​ของ​ศาล​ซันเฮดริน ที่​ซึ่ง​มหา​ปุโรหิต​กายะฟา​ถูก​บีบ​ให้​พยากรณ์​ว่า​พระ​เยซู​ถูก​กำหนด​ให้​ตาย​เพื่อ​ชาติ. ขณะ​ที่​พวก​ปุโรหิต​ใหญ่​และ​พวก​ฟาริซาย​ปรึกษา​กัน​เพื่อ​จะ​ฆ่า​พระองค์ พระ​เยซู​งด​ปรากฏ​ตัว​ใน​ที่​สาธารณะ​ชั่ว​คราว.

21. (ก) ประชาชน​และ​พวก​ฟาริซาย​มี​ปฏิกิริยา​อย่าง​ไร​ต่อ​การ​ที่​พระ​เยซู​เสด็จ​เข้า​ไป​ใน​กรุง​ยะรูซาเลม? (ข) พระ​เยซู​ทรง​เล่า​อุทาหรณ์​เรื่อง​อะไร​เกี่ยว​กับ​การ​สิ้น​พระ​ชนม์​ของ​พระองค์​และ​วัตถุ​ประสงค์​ของ​การ​นั้น และ​พระองค์​ทรง​กระตุ้น​ผู้​ที่​ฟัง​พระองค์​ให้​ทำ​อะไร?

21 หก​วัน​ก่อน​ปัศคา พระ​เยซู​เสด็จ​ไป​บ้าน​เบธาเนีย​อีก​ครั้ง​หนึ่ง​ระหว่าง​เดิน​ทาง​ไป​กรุง​ยะรูซาเลม และ​ครอบครัว​ลาซะโร​ต้อนรับ​พระองค์. ครั้น​แล้ว หลัง​จาก​วัน​ซะบาโต ใน​วัน​ที่ 9 เดือน​ไนซาน พระองค์​ทรง​ลูก​ลา​เข้า​ไป​ใน​กรุง​ยะรูซาเลม​ท่ามกลาง​เสียง​โห่​ร้อง​ของ​ฝูง​ชน และ​พวก​ฟาริซาย​พูด​กัน​ว่า “เจ้า​ไป​ไม่​ถึง​ไหน​เลย. ดู​เถิด! ทั้ง​โลก​ตาม​เขา​ไป​แล้ว.” โดย​อุทาหรณ์​เรื่อง​เมล็ด​ข้าว​สาลี พระ​เยซู​ทรง​แจ้ง​ว่า​พระองค์​ต้อง​ถูก​ปลูก​ใน​ความ​ตาย​เพื่อ​บังเกิด​ผล​เป็น​ชีวิต​ถาวร. พระองค์​ทรง​ขอ​ให้​พระ​บิดา​ทำ​ให้​พระ​นาม​ของ​พระ​บิดา​ได้​รับ​เกียรติ และ​มี​พระ​สุรเสียง​จาก​ฟ้า​สวรรค์​ว่า “เรา​ได้​ทำ​ให้​พระ​นาม​นั้น​ได้​รับ​เกียรติ​แล้ว และ​ยัง​จะ​ทำ​ให้​พระ​นาม​นั้น​ได้​รับ​เกียรติ​อีก.” พระ​เยซู​ทรง​กระตุ้น​ผู้​ที่​ฟัง​พระองค์​ให้​หลีก​เลี่ยง​ความ​มืด​และ​เดิน​ใน​ความ​สว่าง ใช่​แล้ว ให้​มา​เป็น “ลูก​แห่ง​ความ​สว่าง.” เมื่อ​อำนาจ​แห่ง​ความ​มืด​แผ่​คลุม​พระองค์ พระองค์​ทรง​ย้ำ​ให้​ประชาชน​ไว้​วางใจ​พระองค์​ใน​ฐานะ​เป็น ‘ความ​สว่าง​ที่​ได้​เข้า​มา​ใน​โลก.’—12:19, 28, 36, 46, ล.ม.

22. พระ​เยซู​ทรง​วาง​แบบ​อย่าง​อะไร​ใน​ตอน​เลี้ยง​ฉลอง​ปัศคา และ​พระองค์​ทรง​ให้​พระ​บัญญัติ​ใหม่​อะไร?

22 คำ​แนะ​นำ​ใน​คราว​อำลา​ที่​พระ​เยซู​ทรง​ให้​แก่​อัครสาวก​ที่​ซื่อ​สัตย์ (13:1–16:33). ขณะ​ที่​อาหาร​มื้อ​เย็น​แห่ง​การ​ฉลอง​ปัศคา​กับ​อัครสาวก 12 คน​กำลัง​ดำเนิน​อยู่ พระ​เยซู​ทรง​ลุก​ขึ้น​และ​ถอด​ฉลองพระองค์​ชั้น​นอก​ออก ทรง​หยิบ​ผ้า​เช็ด​ตัว​และ​อ่าง​ล้าง​เท้า แล้ว​ทรง​เริ่ม​ล้าง​เท้า​เหล่า​สาวก. เปโตร​คัดค้าน แต่​พระ​เยซู​ทรง​บอก​ท่าน​ว่า​ท่าน​ก็​ต้อง​รับ​การ​ล้าง​เท้า​เช่น​กัน. พระ​เยซู​ทรง​เตือน​เหล่า​สาวก​ให้​ติด​ตาม​แบบ​อย่าง​แห่ง​ความ​ถ่อม​ใจ​ของ​พระองค์ เพราะ “ทาส​ไม่​ใหญ่​กว่า​นาย.” พระองค์​ตรัส​ถึง​ผู้​ทรยศ​แล้ว​ทรง​ให้​ยูดา​ออก​ไป. หลัง​จาก​ยูดา​ออก​ไป​แล้ว พระ​เยซู​เริ่ม​ตรัส​กับ​อัครสาวก​คน​อื่น ๆ เป็น​การ​ส่วน​ตัว. “เรา​ให้​บัญญัติ​ใหม่​ไว้​แก่​เจ้า​ทั้ง​หลาย คือ​ว่า​ให้​เจ้า​ทั้ง​หลาย​รัก​ซึ่ง​กัน​และ​กัน; เรา​รัก​เจ้า​ทั้ง​หลาย​มา​แล้ว​อย่าง​ไร เจ้า​จง​รัก​กัน​และ​กัน​อย่าง​นั้น​ด้วย. โดย​เหตุ​นี้​คน​ทั้ง​ปวง​จะ​รู้​ว่า​เจ้า​ทั้ง​หลาย​เป็น​สาวก​ของ​เรา ถ้า​เจ้า​มี​ความ​รัก​ระหว่าง​พวก​เจ้า​เอง.”—13:16, 34, 35, ล.ม.

23. เพื่อ​เป็น​การ​ปลอบ​ประโลม พระ​เยซู​ทรง​กล่าว​ถึง​ความ​หวัง​อะไร​และ​ผู้​ช่วย​อะไร​ที่​ทรง​สัญญา​ไว้?

23 พระ​เยซู​ตรัส​ถ้อย​คำ​ปลอบโยน​อัน​ดี​เยี่ยม​แก่​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​ใน​เวลา​วิกฤติ​นี้. พวก​เขา​ต้อง​สำแดง​ความ​เชื่อ​ใน​พระเจ้า​และ​ใน​พระองค์​ด้วย. ใน​พระ​นิเวศ​ของ​พระ​บิดา​มี​ที่​อยู่​หลาย​แห่ง และ​พระองค์​จะ​เสด็จ​มา​อีก​และ​รับ​พวก​เขา​ไป​อยู่​กับ​พระองค์​ที่​พระ​นิเวศ. พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “เรา​เป็น​ทาง​นั้น เป็น​ความ​จริง​และ​เป็น​ชีวิต. ไม่​มี​ผู้​ใด​ไป​ถึง​พระ​บิดา​เว้น​แต่​จะ​ไป​ทาง​เรา.” พระองค์​ทรง​บอก​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​อย่าง​ปลอบ​ประโลม​ว่า โดย​การ​สำแดง​ความ​เชื่อ พวก​เขา​จะ​ทำ​งาน​ที่​ใหญ่​กว่า​พระองค์ และ​พระองค์​จะ​ทรง​ประทาน​ไม่​ว่า​สิ่ง​ใด​ที่​พวก​เขา​ทูล​ขอ​ใน​พระ​นาม​ของ​พระองค์ เพื่อ​ว่า​พระ​บิดา​ของ​พระองค์​จะ​ได้​รับ​เกียรติ. พระองค์​ทรง​สัญญา​จะ​ประทาน​ผู้​ช่วย​อีก​ผู้​หนึ่ง​แก่​พวก​เขา นั่น​คือ “พระ​วิญญาณ​แห่ง​ความ​จริง” ซึ่ง​จะ​สอน​พวก​เขา​ทุก​สิ่ง​และ​ทำ​ให้​พวก​เขา​ระลึก​ถึง​ทุก​สิ่ง​ที่​พระองค์​ทรง​บอก​พวก​เขา​ไว้. พวก​เขา​ควร​ปีติ​ยินดี​ที่​พระ​เยซู​จะ​เสด็จ​ไป​หา​พระ​บิดา​ของ​พระองค์ เพราะ​พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “พระ​บิดา​เป็น​ใหญ่​กว่า​เรา.”—14:6, 17, 28, ล.ม.

24. พระ​เยซู​ทรง​พรรณนา​สัมพันธภาพ​ของ​เหล่า​อัครสาวก​กับ​พระองค์​เอง​และ​พระ​บิดา​ว่า​อย่าง​ไร พร้อม​ด้วย​พระ​พร​อะไร​บ้าง​สำหรับ​พวก​เขา?

24 พระ​เยซู​ตรัส​ถึง​พระองค์​เอง​ว่า​เป็น​เถา​องุ่น​แท้​และ​พระ​บิดา​ของ​พระองค์​เป็น​ผู้​ดู​แล​รักษา. พระองค์​ทรง​กระตุ้น​พวก​เขา​ให้​ร่วม​สามัคคี​กับ​พระองค์​เสมอ​ไป โดย​ตรัส​ว่า “พระ​บิดา​ของ​เรา​ได้​รับ​เกียรติ​ด้วย​สิ่ง​นี้ คือ​ที่​เจ้า​ทั้ง​หลาย​เกิด​ผล​มาก​อยู่​เสมอ และ​พิสูจน์​ตัว​ว่า​เป็น​สาวก​ของ​เรา.” (15:8, ล.ม.) และ​ความ​ยินดี​ของ​พวก​เขา​จะ​บริบูรณ์​ได้​อย่าง​ไร? โดย​การ​รัก​ซึ่ง​กัน​และ​กัน​เหมือน​อย่าง​ที่​พระองค์​ทรง​รัก​พวก​เขา. พระองค์​ทรง​เรียก​พวก​เขา​ว่า​มิตร. ช่าง​เป็น​สัมพันธภาพ​อัน​ล้ำ​ค่า​จริง ๆ! โลก​จะ​ชัง​พวก​เขา​เหมือน​ที่​ได้​ชัง​พระองค์ และ​โลก​จะ​กดขี่​ข่มเหง​พวก​เขา แต่​พระ​เยซู​จะ​ทรง​ส่ง​ผู้​ช่วย​มา​เป็น​พยาน​ถึง​พระองค์​และ​ชี้​นำ​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​เข้า​สู่​ความ​จริง​ทุก​อย่าง. ความ​เศร้า​โศก​ของ​พวก​เขา​ใน​เวลา​นี้​จะ​กลาย​เป็น​ความ​ชื่นชม​ยินดี​เมื่อ​พระองค์​พบ​พวก​เขา​อีก และ​จะ​ไม่​มี​ผู้​ใด​พราก​ความ​ชื่นชม​ยินดี​ไป​จาก​พวก​เขา. คำ​ตรัส​ของ​พระองค์​ให้​การ​ปลอบโยน​ดัง​นี้: “พระ​บิดา​เอง​มี​ความ​รักใคร่​ต่อ​เจ้า​ทั้ง​หลาย เพราะ​เจ้า​ได้​แสดง​ความ​รักใคร่​ต่อ​เรา​และ​ได้​เชื่อ​ว่า​เรา​มา​ฐานะ​ผู้​แทน​พระ​บิดา.” ใช่​แล้ว พวก​เขา​จะ​ถูก​ทำ​ให้​กระจัด​กระจาย​ไป แต่​พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “เรา​ได้​บอก​สิ่ง​เหล่า​นี้​แก่​เจ้า​ทั้ง​หลาย​เพื่อ​เจ้า​จะ​มี​สันติ​สุข​โดย​เรา. ใน​โลก​นี้​เจ้า​มี​ความ​ทุกข์​ลำบาก แต่​จง​กล้า​หาญ​เถิด! เรา​ชนะ​โลก​แล้ว.”—16:27, 33, ล.ม.

25. (ก) พระ​เยซู​ทรง​ทูล​อะไร​ใน​คำ​อธิษฐาน​ถึง​พระ​บิดา​ของ​พระองค์? (ข) พระองค์​ทรง​ขอ​อะไร​เกี่ยว​กับ​พระองค์​เอง, เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์, และ​คน​ที่​จะ​สำแดง​ความ​เชื่อ​โดย​ถ้อย​คำ​ของ​เหล่า​สาวก?

25 คำ​อธิษฐาน​ของ​พระ​เยซู​เผื่อ​เหล่า​สาวก (17:1-26). ใน​คำ​อธิษฐาน พระ​เยซู​ทรง​ทูล​พระ​บิดา​ว่า “นี่​แหละ​หมาย​ถึง​ชีวิต​นิรันดร์ คือ​การ​ที่​เขา​รับ​เอา​ความ​รู้​ต่อ ๆ ไป​เกี่ยว​กับ​พระองค์ ผู้​เป็น​พระเจ้า​เที่ยง​แท้​องค์​เดียว และ​เกี่ยว​กับ​ผู้​ที่​พระองค์​ทรง​ใช้​มา คือ​พระ​เยซู​คริสต์.” เมื่อ​เสร็จ​งาน​มอบหมาย​ของ​พระองค์​บน​แผ่นดิน​โลก​แล้ว บัด​นี้​พระ​เยซู​ทูล​ขอ​ให้​ได้​รับ​เกียรติ​เคียง​ข้าง​พระ​บิดา​ของ​พระองค์​พร้อม​ด้วย​สง่า​ราศี​ซึ่ง​พระองค์​เคย​มี​ก่อน​ที่​มี​โลก. พระองค์​ได้​ทรง​ทำ​ให้​พระ​นาม​ของ​พระ​บิดา​เป็น​ที่​ประจักษ์​แจ้ง​แก่​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์ และ​ทรง​ขอ​ให้​พระ​บิดา​พิทักษ์​พวก​เขา “เพื่อ​เห็น​แก่​พระ​นาม​ของ​พระองค์​เอง.” พระ​เยซู​ทูล​ขอ​พระ​บิดา มิ​ใช่​ให้​เอา​พวก​เขา​ไป​จาก​โลก แต่​ให้​รักษา​พวก​เขา​ให้​พ้น​จาก​คน​ชั่ว​และ​ทำ​ให้​พวก​เขา​บริสุทธิ์​ด้วย​พระ​คำ​แห่ง​ความ​จริง​ของ​พระองค์. พระ​เยซู​ทรง​แผ่​คำ​อธิษฐาน​ของ​พระองค์​รวม​ถึง​ทุก​คน​ซึ่ง​จะ​สำแดง​ความ​เชื่อ​โดย​การ​ฟัง​ถ้อย​คำ​ของ​สาวก​เหล่า​นี้ “เพื่อ​เขา​ทุก​คน​จะ​ได้​เป็น​อัน​หนึ่ง​อัน​เดียว​กัน ดัง​ที่​พระองค์​คือ​พระ​บิดา​ร่วม​สามัคคี​กับ​ข้าพเจ้า และ​ข้าพเจ้า​ร่วม​สามัคคี​กับ​พระองค์ เพื่อ​เขา​จะ​ได้​ร่วม​สามัคคี​กับ​พระองค์​และ​ข้าพเจ้า​ด้วย เพื่อ​โลก​จะ​เชื่อ​ว่า​พระองค์​ได้​ทรง​ใช้​ข้าพเจ้า​มา.” พระองค์​ทรง​ขอ​ให้​คน​เหล่า​นี้​มี​ส่วน​ร่วม​กับ​พระองค์​ใน​สง่า​ราศี​ทาง​ภาค​สวรรค์​ของ​พระองค์ เพราะ​พระองค์​ทรง​ทำ​ให้​พระ​นาม​ของ​พระ​บิดา​เป็น​ที่​รู้​จัก​แก่​เขา​ทั้ง​หลาย เพื่อ​ความ​รัก​ของ​พระองค์​อยู่​ใน​เขา​ทั้ง​หลาย.—17:3, 11, 21, ล.ม.

26. บันทึก​นี้​บอก​อะไร​เกี่ยว​กับ​การ​จับ​กุม​และ​การ​สอบสวน​พระ​เยซู?

26 พระ​คริสต์​ถูก​พิจารณา​คดี​และ​ถูก​ตรึง (18:1–19:42). ครั้น​แล้ว​พระ​เยซู​และ​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​ไป​ยัง​สวน​แห่ง​หนึ่ง​ซึ่ง​อยู่​อีก​ฟาก​ของ​หุบเขา​ฆิดโรน. ที่​นี่​เอง​ที่​ยูดา​ปรากฏ​ตัว​พร้อม​กับ​กอง​ทหาร​และ​ทรยศ​ต่อ​พระ​เยซู​ซึ่ง​ทรง​ยอม​จำนน​แต่​โดย​ดี. แต่​เปโตร​ใช้​ดาบ​ปก​ป้อง​พระองค์​และ​ถูก​ตำหนิ​ว่า “ถ้วย​ซึ่ง​พระ​บิดา​ทรง​ประทาน​แก่​เรา ไม่​ว่า​จะ​เป็น​อย่าง​ไร​ก็​ตาม เรา​จะ​ไม่​ดื่ม​หรือ?” (18:11, ล.ม.) จาก​นั้น​พระ​เยซู​ถูก​มัด​นำ​ไป​หา​อันนาศ พ่อตา​ของ​มหา​ปุโรหิต​กายะฟา. โยฮัน​กับ​เปโตร​ติด​ตาม​ไป​อย่าง​ใกล้​ชิด และ​โยฮัน​หา​ทาง​ให้​ตน​เอง​กับ​เปโตร​เข้า​ไป​ใน​ลาน​บ้าน​ของ​มหา​ปุโรหิต ที่​ซึ่ง​เปโตร​ปฏิเสธ​ว่า​ไม่​รู้​จัก​พระ​คริสต์​สาม​ครั้ง. พระ​เยซู​ถูก​อันนาศ​สอบ​ปากคำ​ก่อน แล้ว​ถูก​นำ​ตัว​ไป​อยู่​ต่อ​หน้า​กายะฟา. หลัง​จาก​นั้น พระ​เยซู​ถูก​นำ​ตัว​ไป​อยู่​ต่อ​หน้า​ปีลาต ผู้​สำเร็จ​ราชการ​ชาว​โรมัน โดย​มี​พวก​ยิว​ตะโกน​เรียก​ร้อง​ให้​ลง​โทษ​ประหาร.

27. (ก) ปีลาต​ยก​คำ​ถาม​อะไร​บ้าง​ขึ้น​มา​เกี่ยว​กับ​ฐานะ​กษัตริย์​และ​อำนาจ และ​พระ​เยซู​ทรง​ตอบ​อย่าง​ไร? (ข) พวก​ยิว​อยู่​ฝ่าย​ใด​ใน​เรื่อง​ตำแหน่ง​กษัตริย์?

27 สำหรับ​คำ​ถาม​ของ​ปีลาต​ที่​ว่า “ท่าน​เป็น​กษัตริย์​หรือ?” พระ​เยซู​ตรัส​ตอบ​ว่า “ท่าน​เอง​ว่า​เรา​เป็น​กษัตริย์. เพราะ​เหตุ​นี้​เรา​จึง​เกิด​มา และ​เพราะ​เหตุ​นี้​เรา​ได้​เข้า​มา​ใน​โลก เพื่อ​เรา​จะ​ให้​คำ​พยาน​ถึง​ความ​จริง.” (18:37, ล.ม.) ปีลาต​ซึ่ง​หา​หลักฐาน​ที่​แท้​จริง​เพื่อ​พิสูจน์​ความ​ผิด​ของ​พระ​เยซู​ไม่​ได้​จึง​เสนอ​ให้​ปล่อย​พระองค์ เนื่อง​จาก​เป็น​ธรรมเนียม​ที่​จะ​ปล่อย​นัก​โทษ​คน​ใด​คน​หนึ่ง​ใน​วัน​ปัศคา แต่​พวก​ยิว​เรียก​ร้อง​ให้​ปล่อย​โจร​ที่​ชื่อ​บาระบา​แทน. ปีลาต​ให้​นำ​พระ​เยซู​ไป​โบย และ​เขา​พยายาม​จะ​ปล่อย​พระองค์​อีก แต่​พวก​ยิว​ร้อง​ว่า “เอา​ไป​ตอก​บน​หลัก​เสีย! เอา​ไป​ตอก​บน​หลัก​เสีย! . . . เพราะ​เขา​ได้​ตั้ง​ตัว​เป็น​พระ​บุตร​ของ​พระเจ้า.” เมื่อ​ปีลาต​บอก​พระ​เยซู​ว่า​เขา​มี​อำนาจ​จะ​ตรึง​พระองค์ พระ​เยซู​ตรัส​ตอบ​ว่า “ท่าน​จะ​ไม่​มี​อำนาจ​เหนือ​เรา​เลย​นอก​จาก​จะ​ทรง​มอบ​ให้​แก่​ท่าน​จาก​เบื้อง​บน.” พวก​ยิว​ตะโกน​ขึ้น​อีก​ว่า “เอา​ออก​ไป! เอา​ออก​ไป! จง​เอา​เขา​ไป​ตอก​บน​หลัก​เสีย! . . . พวก​เรา​ไม่​มี​กษัตริย์​เว้น​แต่​ซีซาร์.” ถึง​ตอน​นี้​ปีลาต​จึง​มอบ​พระองค์​ให้​พา​ไป​ตรึง​เสีย.—19:6, 7, 11, 15, ล.ม.

28. เกิด​อะไร​ขึ้น​ที่​โกลโกธา และ​มี​คำ​พยากรณ์​อะไร​บ้าง​สำเร็จ​เป็น​จริง​ที่​นั่น?

28 พระ​เยซู​ถูก​นำ​ตัว “ไป​ยัง​ที่​ซึ่ง​เรียก​กัน​ว่า ‘กะโหลก​ศีรษะ’ ซึ่ง​ใน​ภาษา​ฮีบรู​เรียก​ว่า​โกลโกทา” และ​ถูก​ตรึง​อยู่​ระหว่าง​คน​อีก​สอง​คน. ปีลาต​ให้​ติด​ข้อ​ความ​เหนือ​พระ​เศียร​พระองค์​ว่า “เยซู​ชาว​นาซาเร็ธ​กษัตริย์​ของ​พวก​ยิว” โดย​เขียน​เป็น​ภาษา​ฮีบรู, ภาษา​ลาติน, และ​ภาษา​กรีก เพื่อ​ให้​ทุก​คน​เห็น​และ​เข้าใจ. (19:17, 19, ล.ม.) พระ​เยซู​ทรง​ฝาก​โยฮัน​ให้​ดู​แล​มารดา​ของ​พระองค์ และ​หลัง​จาก​ทรง​รับ​เหล้า​องุ่น​เปรี้ยว​บ้าง​เล็ก​น้อย​จึง​ทรง​ร้อง​ว่า “สำเร็จ​แล้ว!” แล้ว​พระองค์​ทรง​ก้ม​พระ​เศียร​และ​สิ้น​พระ​ชนม์. (19:30) ใน​ความ​สำเร็จ​เป็น​จริง​ตาม​คำ​พยากรณ์​ต่าง ๆ พวก​ทหาร​ที่​ประหาร​พระองค์​จับ​ฉลาก​เอา​เสื้อ​ผ้า​ของ​พระองค์, ไม่​ได้​ทำ​ให้​ขา​พระองค์​หัก, และ​ใช้​หอก​แทง​สีข้าง​พระองค์. (โย. 19:24, 32-37, ล.ม.; เพลง. 22:18; 34:20; 22:17; ซคา. 12:10) หลัง​จาก​นั้น โยเซฟ​แห่ง​บ้าน​อริมาธาย​กับ​นิโกเดโม​เตรียม​พระ​ศพ​เพื่อ​จะ​ฝัง​และ​วาง​พระ​ศพ​ไว้​ใน​อุโมงค์​ฝัง​ศพ​ใหม่​ซึ่ง​ตั้ง​อยู่​ใน​บริเวณ​ใกล้​เคียง.

29. (ก) พระ​เยซู​ซึ่ง​คืน​พระ​ชนม์​ทรง​ปรากฏ​ตัว​แก่​เหล่า​สาวก​ใน​คราว​ใด​บ้าง? (ข) พระ​เยซู​เน้น​จุด​ใด​บ้าง​ใน​คำ​ตรัส​ช่วง​ท้าย ๆ กับ​เปโตร?

29 การ​ปรากฏ​ตัว​ของ​พระ​คริสต์​ซึ่ง​คืน​พระ​ชนม์ (20:1–21:25). หลักฐาน​มาก​มาย​ของ​โยฮัน​เกี่ยว​กับ​พระ​คริสต์​จบ​ลง​ด้วย​เรื่อง​การ​คืน​พระ​ชนม์​ซึ่ง​ทำ​ให้​มี​ความ​สุข. มาเรีย มัฆดาลา​พบ​ว่า​อุโมงค์​นั้น​ว่าง​เปล่า ส่วน​เปโตร​กับ​สาวก​อีก​คน​หนึ่ง (โยฮัน) วิ่ง​ไป​ที่​นั่น​แต่​เห็น​มี​แค่​ผ้า​พัน​กับ​ผ้า​คลุม​พระ​เศียร​เหลือ​อยู่. มาเรีย​ซึ่ง​ยัง​คง​อยู่​ใกล้​อุโมงค์​นั้น​พูด​กับ​ทูต​สวรรค์​สอง​องค์ และ​ท้าย​ที่​สุด​กับ​ผู้​ซึ่ง​เธอ​คิด​ว่า​เป็น​คน​เฝ้า​สวน. เมื่อ​ชาย​คน​นั้น​ตอบ​ว่า “มาเรีย!” เธอ​จำ​พระองค์​ได้​ทันที​ว่า​เป็น​พระ​เยซู. ถัด​จาก​นั้น พระ​เยซู​ทรง​สำแดง​พระองค์​แก่​เหล่า​สาวก​ใน​ห้อง​ที่​ปิด​ประตู​ใส่​กุญแจ​ไว้ และ​พระองค์​ทรง​บอก​พวก​เขา​เรื่อง​อำนาจ​ที่​พวก​เขา​จะ​ได้​รับ​โดย​ทาง​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์. หลัง​จาก​นั้น โธมา​ซึ่ง​ไม่​ได้​อยู่​ด้วย​ไม่​ยอม​เชื่อ แต่​แปด​วัน​ต่อ​มา พระ​เยซู​ทรง​ปรากฏ​ตัว​อีก​ครั้ง​หนึ่ง​และ​ให้​ข้อ​พิสูจน์​แก่​เขา ซึ่ง​โธมา​ร้อง​ว่า “องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ของ​ข้าพเจ้า​และ​พระเจ้า​ของ​ข้าพเจ้า!” (20:16, 28, ล.ม.) หลาย​วัน​ต่อ​มา พระ​เยซู​ทรง​พบ​กับ​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​อีก​ที่​ทะเล​ติเบเรีย; พระองค์​ทรง​ทำ​ให้​พวก​เขา​จับ​ปลา​ได้​โดย​การ​อัศจรรย์​และ​เสวย​พระ​กระยาหาร​เช้า​กับ​พวก​เขา. พระองค์​ตรัส​ถาม​เปโตร​ถึง​สาม​ครั้ง​ว่า​รัก​พระองค์​หรือ​ไม่. เมื่อ​เปโตร​ยืน​ยัน​ว่า​ท่าน​รัก​พระองค์ พระ​เยซู​ตรัส​อย่าง​ตรง​ไป​ตรง​มา​ว่า “จง​เลี้ยง​ลูก​แกะ​ของ​เรา​เถิด,” “จง​เลี้ยง​แกะ​เล็ก ๆ ของ​เรา​เถิด,” “จง​เลี้ยง​ดู​แกะ​เล็ก ๆ ของ​เรา​เถิด.” แล้ว​พระองค์​ทรง​บอก​ล่วง​หน้า​ว่า เปโตร​จะ​ถวาย​เกียรติ​แด่​พระเจ้า​ด้วย​การ​ตาย​แบบ​ใด. เปโตร​ทูล​ถาม​เกี่ยว​กับ​โยฮัน และ​พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “ถ้า​เรา​ประสงค์​ให้​เขา​ยัง​คง​อยู่​ต่อ​ไป​จน​กระทั่ง​เรา​มา​นั้น ก็​จะ​เป็น​ธุระ​อะไร​ของ​เจ้า​เล่า?”—21:15-17, 22, ล.ม.

เหตุ​ที่​เป็น​ประโยชน์

30. โยฮัน​เน้น​คุณลักษณะ​ของ​ความ​รัก​เป็น​พิเศษ​อย่าง​ไร?

30 ข่าว​ดี “ที่​เรียบเรียง​โดย​ท่าน​โยฮัน” ซึ่ง​ทรง​พลัง​ด้วย​ถ้อย​คำ​ที่​ตรง​ไป​ตรง​มา สร้าง​ความ​เชื่อ​มั่น​ด้วย​คำ​พรรณนา​อย่าง​อบอุ่น​และ​ใกล้​ชิด​เกี่ยว​กับ​พระ​วาทะ​ผู้​ซึ่ง​ได้​มา​เป็น​พระ​คริสต์ ทำ​ให้​เรา​ได้​เห็น​พระ​บุตร​ผู้​ได้​รับ​การ​เจิม​องค์​นี้​ของ​พระเจ้า​อย่าง​ใกล้​ชิด​ทั้ง​ด้วย​คำ​พูด​และ​การ​กระทำ. แม้​ลีลา​การ​เขียน​และ​คำ​ศัพท์​ของ​โยฮัน​จะ​เป็น​แบบ​เรียบ​ง่าย ดัง​ที่​มี​การ​พูด​ถึง​ท่าน​ว่า “เป็น​ผู้​มี​ความ​รู้​น้อย และ​มิ​ได้​เล่า​เรียน​มาก” แต่​การ​ใช้​ถ้อย​คำ​ของ​ท่าน​ก็​มี​พลัง​มาก. (กิจ. 4:13) กิตติคุณ​ของ​ท่าน​เด่น​อย่าง​ยิ่ง​ใน​การ​เผย​ให้​ทราบ​ถึง​ความ​รัก​อัน​แน่นแฟ้น​ระหว่าง​พระ​บิดา​และ​พระ​บุตร รวม​ทั้ง​สาย​สัมพันธ์​ที่​เต็ม​ไป​ด้วย​ความ​สุข​และ​ความ​รัก​ซึ่ง​จะ​พบ​ได้​เมื่อ​ร่วม​สามัคคี​กับ​พระองค์​ทั้ง​สอง. ท่าน​โยฮัน​ใช้​คำ​ว่า “รัก” และ “ความ​รัก” บ่อย​กว่า​กิตติคุณ​อีก​สาม​เล่ม​รวม​กัน.

31. มี​การ​เน้น​สัมพันธภาพ​อะไร​ตลอด​กิตติคุณ​ที่​เรียบเรียง​โดย​โยฮัน และ​สัมพันธภาพ​นี้​บรรลุ​การ​แสดง​ออก​ถึง​จุด​สุด​ยอด​อย่าง​ไร?

31 ใน​ตอน​ต้น สัมพันธภาพ​ระหว่าง​พระ​วาทะ​และ​พระเจ้า​พระ​บิดา​ช่าง​วิเศษ​จริง ๆ! โดย​การ​จัด​การ​ของ​พระเจ้า “พระ​วาทะ​จึง​ได้​กลาย​เป็น​เนื้อหนัง และ​ทรง​อยู่​ท่ามกลาง​พวก​เรา และ​เรา​ได้​เห็น​สง่า​ราศี​ของ​พระองค์ คือ​สง่า​ราศี​ซึ่ง​เป็น​ของ​พระ​บุตร​ผู้​ได้​รับ​กำเนิด​องค์​เดียว​จาก​พระ​บิดา; และ​พระองค์​บริบูรณ์​ไป​ด้วย​พระ​กรุณา​อัน​ไม่​พึง​ได้​รับ​และ​ความ​จริง.” (โย. 1:14, ล.ม.) จาก​นั้น ตลอด​บันทึก​ของ​โยฮัน พระ​เยซู​ทรง​เน้น​สัมพันธภาพ​ของ​พระองค์​ใน​ฐานะ​ผู้​อยู่​ใต้​อำนาจ​ที่​เชื่อ​ฟัง​โดย​ปราศจาก​ข้อ​สงสัย​ต่อ​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระ​บิดา. (4:34; 5:19, 30; 7:16; 10:29, 30; 11:41, 42; 12:27, 49, 50; 14:10) การ​แสดง​ออก​ของ​พระองค์​เกี่ยว​กับ​สัมพันธภาพ​อัน​ใกล้​ชิด​นี้​บรรลุ​จุด​สุด​ยอด​อัน​รุ่ง​โรจน์​ใน​คำ​อธิษฐาน​ที่​กระตุ้น​ใจ​ซึ่ง​บันทึก​ใน​โยฮัน​บท 17 คราว​ที่​พระ​เยซู​ทรง​รายงาน​ต่อ​พระ​บิดา​ว่า พระองค์​ได้​ทำ​งาน​ที่​พระ​บิดา​ทรง​มอบหมาย​ให้​ทำ​ที่​แผ่นดิน​โลก​สำเร็จ​แล้ว​และ​ตรัส​อีก​ว่า “บัด​นี้ พระ​บิดา​เจ้าข้า ขอ​ทรง​โปรด​ให้​ข้าพเจ้า​ได้​รับ​เกียรติ​เคียง​ข้าง​พระองค์ ซึ่ง​ข้าพเจ้า​เคย​มี​เคียง​ข้าง​พระองค์​ก่อน​ที่​มี​โลก.”—17:5, ล.ม.

32. โดย​คำ​ตรัส​อะไร​ที่​พระ​เยซู​ทรง​เผย​ให้​เห็น​สัมพันธภาพ​ของ​พระองค์​กับ​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์ และ​ที่​ว่า​พระองค์​เป็น​ช่อง​ทาง​เดียว​ซึ่ง​พระ​พร​แห่ง​ชีวิต​มี​มา​ถึง​มนุษยชาติ?

32 จะ​ว่า​อย่าง​ไร​ใน​เรื่อง​สัมพันธภาพ​ของ​พระ​เยซู​กับ​พวก​สาวก? บทบาท​ของ​พระ​เยซู​ใน​ฐานะ​เป็น​ช่อง​ทาง​เดียว​ที่​พระ​พร​ของ​พระเจ้า​มี​การ​แผ่​มา​ยัง​คน​เหล่า​นี้​และ​มนุษยชาติ​ทั้ง​มวล​ได้​รับ​การ​เน้น​โดย​ตลอด. (14:13, 14; 15:16; 16:23, 24) มี​การ​พาด​พิง​ถึง​พระองค์​ใน​ฐานะ “พระ​เมษโปดก​ของ​พระเจ้า,” “อาหาร​แห่ง​ชีวิต,” “ความ​สว่าง​ของ​โลก,” “ผู้​เลี้ยง​แกะ​ที่​ดี,” “การ​กลับ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย​และ​เป็น​ชีวิต,” “เป็น​ทาง​นั้น เป็น​ความ​จริง​และ​เป็น​ชีวิต,” และ “เถา​องุ่น​แท้.” (1:29, ล.ม.; 6:35, ล.ม.; 8:12, ล.ม.; 10:11, ล.ม.; 11:25, ล.ม.; 14:6, ล.ม.; 15:1, ล.ม.) ด้วย​อุทาหรณ์​เรื่อง “เถา​องุ่น​แท้” นี้​เอง​ที่​พระ​เยซู​เผย​ให้​เห็น​เอกภาพ​อัน​วิเศษ​ที่​มี​อยู่​ไม่​เพียง​ระหว่าง​พระองค์​กับ​เหล่า​สาวก​แท้​เท่า​นั้น แต่​กับ​พระ​บิดา​ด้วย. โดย​การ​บังเกิด​ผล​มาก พวก​เขา​จะ​ถวาย​เกียรติ​แด่​พระ​บิดา. พระ​เยซู​แนะ​นำ​ว่า “พระ​บิดา​ได้​ทรง​รัก​เรา​และ​เรา​รัก​เจ้า​ทั้ง​หลาย​ฉัน​ใด จง​ตั้ง​มั่น​อยู่​ใน​ความ​รัก​ของ​เรา​ต่อ​ไป​ฉัน​นั้น.”—15:9, ล.ม.

33. วัตถุ​ประสงค์​อะไร​แห่ง​งาน​รับใช้​ของ​พระองค์​ที่​พระ​เยซู​ทรง​กล่าว​ใน​คำ​อธิษฐาน?

33 จาก​นั้น พระองค์​อธิษฐาน​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​เร่าร้อน​จริง ๆ เพื่อ​ว่า​ผู้​เป็น​ที่​รัก​เหล่า​นี้​รวม​ทั้ง ‘คน​ที่​เชื่อ​ใน​พระองค์​โดย​ถ้อย​คำ​ของ​เขา’ จะ​เป็น​อัน​หนึ่ง​อัน​เดียว​กับ​พระ​บิดา​และ​พระองค์​เอง ได้​รับ​การ​ทำ​ให้​บริสุทธิ์​ด้วย​ถ้อย​คำ​แห่ง​ความ​จริง! ที่​จริง วัตถุ​ประสงค์​ทั้ง​สิ้น​แห่ง​งาน​รับใช้​ของ​พระ​เยซู​มี​การ​แสดง​ออก​อย่าง​ยอด​เยี่ยม​ใน​ตอน​ท้าย​คำ​อธิษฐาน​ของ​พระองค์​ถึง​พระ​บิดา ที่​ว่า “ข้าพเจ้า​ได้​ทำ​ให้​พวก​เขา​รู้​จัก​พระ​นาม​ของ​พระองค์ และ​จะ​ทำ​ให้​เขา​รู้​อีก เพื่อ​ความ​รัก​ที่​พระองค์​ได้​ทรง​รัก​ข้าพเจ้า​นั้น​จะ​มี​อยู่​ใน​เขา​และ​ข้าพเจ้า​จะ​ร่วม​สามัคคี​กับ​เขา.”—17:20, 26, ล.ม.

34. พระ​เยซู​ทรง​ให้​คำ​แนะ​นำ​อะไร​ที่​เป็น​ประโยชน์​ซึ่ง​เกี่ยว​กับ​การ​เอา​ชนะ​โลก?

34 แม้​ว่า​พระ​เยซู​กำลัง​จะ​จาก​พวก​สาวก​ของ​พระองค์​ใน​โลก​ไป แต่​พระองค์​ก็​ไม่​ได้​ทรง​ทิ้ง​เขา​ไว้​โดย​ปราศจาก​ผู้​ช่วย คือ “พระ​วิญญาณ​แห่ง​ความ​จริง.” ยิ่ง​กว่า​นั้น พระองค์​ทรง​ให้​คำ​แนะ​นำ​ที่​เหมาะ​กับ​เวลา​เกี่ยว​กับ​ความ​สัมพันธ์​ของ​พวก​เขา​กับ​โลก โดย​เผย​ให้​พวก​เขา​เห็น​วิธี​เอา​ชนะ​ใน​ฐานะ “ลูก​แห่ง​ความ​สว่าง.” (14:16, 17; 3:19-21; 12:36) พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “ถ้า​เจ้า​ทั้ง​หลาย​ตั้ง​มั่นคง​อยู่​ใน​คำ​ของ​เรา เจ้า​ก็​เป็น​สาวก​แท้​ของ​เรา และ​เจ้า​ทั้ง​หลาย​จะ​รู้​จัก​ความ​จริง และ​ความ​จริง​จะ​ทำ​ให้​เจ้า​เป็น​อิสระ.” ใน​ทาง​ตรง​ข้าม พระองค์​ตรัส​แก่​ลูก​แห่ง​ความ​มืด​ว่า “เจ้า​ทั้ง​หลาย​มา​จาก​พญา​มาร​ซึ่ง​เป็น​พ่อ​ของ​เจ้า​และ​เจ้า​ประสงค์​จะ​ทำ​ตาม​ความ​ปรารถนา​แห่ง​พ่อ​ของ​เจ้า. . . . มัน​มิ​ได้​ตั้ง​มั่น​อยู่​ใน​ความ​จริง เพราะ​ว่า​ความ​จริง​มิ​ได้​มี​อยู่​ใน​ตัว​มัน.” ดัง​นั้น ให้​เรา​ตั้งใจ​แน่วแน่​จะ​ยืนหยัด​มั่นคง​ใน​ความ​จริง​เสมอ ถูก​แล้ว เพื่อ “นมัสการ​พระ​บิดา​ด้วย​วิญญาณ​และ​ความ​จริง” และ​ได้​รับ​กำลัง​จาก​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ที่​ว่า “จง​กล้า​หาญ​เถิด! เรา​ชนะ​โลก​แล้ว.”—8:31, 32, 44, ล.ม.; 4:23, ล.ม.; 16:33, ล.ม.

35. (ก) พระ​เยซู​ทรง​ให้​คำ​พยาน​อะไร​เกี่ยว​กับ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า? (ข) เหตุ​ใด​กิตติคุณ​ของ​โยฮัน​เป็น​เหตุ​ให้​มี​ความ​สุข​และ​ความ​รู้สึก​ขอบคุณ?

35 นอก​จาก​นั้น เรื่อง​ทั้ง​หมด​นี้​มี​ความ​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​ด้วย. พระ​เยซู​ทรง​ยืน​ยัน​เมื่อ​ถูก​สอบสวน​ดัง​นี้: “ราชอาณาจักร​ของ​เรา​มิ​ได้​เป็น​ส่วน​ของ​โลก​นี้. ถ้า​ราชอาณาจักร​ของ​เรา​เป็น​ส่วน​ของ​โลก​นี้ บริวาร​ของ​เรา​คง​ได้​ต่อ​สู้​เพื่อ​มิ​ให้​เรา​ถูก​มอบ​ไว้​กับ​พวก​ยิว. แต่​ว่า ราชอาณาจักร​ของ​เรา​มิ​ได้​มา​จาก​แหล่ง​นี้.” จาก​นั้น เมื่อ​ตอบ​คำ​ถาม​ของ​ปีลาต พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “ท่าน​เอง​ว่า​เรา​เป็น​กษัตริย์. เพราะ​เหตุ​นี้​เรา​จึง​เกิด​มา และ​เพราะ​เหตุ​นี้​เรา​ได้​เข้า​มา​ใน​โลก เพื่อ​เรา​จะ​ให้​คำ​พยาน​ถึง​ความ​จริง. ทุก​คน​ที่​อยู่​ฝ่าย​ความ​จริง​ฟัง​เสียง​ของ​เรา.” (18:36, 37, ล.ม.) แท้​จริง ความ​สุข​ย่อม​มี​แก่​ผู้​ที่​รับ​ฟัง​และ​ผู้​ที่ “บังเกิด​ใหม่” เพื่อ​เข้า​สู่ “ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า” ร่วม​สามัคคี​กับ​พระ​มหา​กษัตริย์. ความ​สุข​มี​แก่ “แกะ​อื่น” ซึ่ง​ฟัง​เสียง​ของ​กษัตริย์​ผู้​เลี้ยง​แกะ​องค์​นี้​และ​ได้​รับ​ชีวิต. แท้​จริง​แล้ว มี​สาเหตุ​ให้​เรา​รู้สึก​ขอบคุณ​ต่อ​การ​จัด​เตรียม​ให้​มี​กิตติคุณ​ของ​โยฮัน เพราะ​มี​เขียน​ไว้​ว่า “เพื่อ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​ได้​เชื่อ​ว่า​พระ​เยซู​คือ​พระ​คริสต์ พระ​บุตร​ของ​พระเจ้า และ​เนื่อง​จาก​มี​ความ​เชื่อ ท่าน​ก็​จะ​ได้​ชีวิต​โดย​พระ​นาม​ของ​พระองค์.”—3:3, 5, ล.ม.; 10:16, ล.ม.; 20:31, ล.ม.

[เชิงอรรถ]

a ประวัติ​คริสตจักร (ภาษา​อังกฤษ) ยูเซบิอุส เล่ม 5 บท​ที่ 8 วรรค 4.

b การ​หยั่ง​เห็น​เข้าใจ​พระ​คัมภีร์ (ภาษา​อังกฤษ) เล่ม 1 หน้า 323.

c การ​หยั่ง​เห็น​เข้าใจ​พระ​คัมภีร์ (ภาษา​อังกฤษ) เล่ม 2 หน้า 57-58.

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์