ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • ผย บท 43
  • การสอนด้วยอุทาหรณ์

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • การสอนด้วยอุทาหรณ์
  • บุรุษผู้ใหญ่ยิ่งเท่าที่โลกเคยเห็น
  • หัวเรื่องย่อย
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • ได้​รับ​ประโยชน์​จาก​อุทาหรณ์​ของ​พระ​เยซู
  • ได้​พระ​พร​คือ​รับ​คำ​สั่ง​สอน​มาก​ขึ้น
  • ตัวอย่างเปรียบเทียบเรื่องรัฐบาลของพระเจ้า
    พระเยซู—ทางนั้น ความจริง ชีวิต
  • ‘พระเจ้าทรงเป็นผู้ทำให้เติบโต’!
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 2008
  • “นอกจากอุทาหรณ์แล้ว พระองค์ไม่ได้ตรัสสิ่งใดแก่เขา”
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 2002
  • “นอกจากอุทาหรณ์แล้ว พระองค์ไม่ได้ตรัสสิ่งใดแก่เขา”
    “เชิญตามเรามา”
ดูเพิ่มเติม
บุรุษผู้ใหญ่ยิ่งเท่าที่โลกเคยเห็น
ผย บท 43

บท 43

การ​สอน​ด้วย​อุทาหรณ์

ดู​เหมือน​ว่า​พระ​เยซู​อยู่​ใน​เมือง​กัปเรนาอูม​เมื่อ​พระองค์​ทรง​ตำหนิ​พวก​ฟาริซาย. หลัง​จาก​นั้น​ใน​วัน​เดียว​กัน พระองค์​เสด็จ​ออก​จาก​บ้าน​และ​ไป​ยัง​ทะเล​ฆาลิลาย​ที่​อยู่​ใกล้ ๆ และ​ประชาชน​มา​รวม​กัน​อยู่​ที่​นั่น. พระองค์​ทรง​ลง​เรือ​และ​ออก​ห่าง​ฝั่ง แล้ว​ทรง​เริ่ม​สั่ง​สอน​ประชาชน​บน​ฝั่ง​ถึง​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ฝ่าย​สวรรค์. พระองค์​ทรง​กระทำ​เช่น​นั้น​โดย​ใช้​คำ​อุปมา​หรือ​อุทาหรณ์​เป็น​เรื่อง ๆ ไป ทุก​เรื่อง​เป็น​สภาพ​แวด​ล้อม​ที่​ผู้​คน​คุ้น​เคย​ดี.

ก่อน​อื่น พระ​เยซู​ทรง​กล่าว​ถึง​ผู้​หว่าน​เมล็ด​พืช. บาง​เมล็ด​ตก​ริม​ทาง​และ​นก​ได้​จิก​กิน​เสีย. บาง​เมล็ด​ตก​ลง​บน​ดิน​ตื้น ๆ บน​หิน​ผา. เนื่อง​จาก​ราก​หยั่ง​ไป​ไม่​ลึก พืช​ที่​เพิ่ง​งอก​ก็​เหี่ยว​แห้ง​ไป​เมื่อ​ถูก​แดด​ร้อน. ส่วน​เมล็ด​อื่น ๆ ตก​กลาง​หนาม​ซึ่ง​ต้น​พืช​ไม่​อาจ​งอก​แซม​ขึ้น​มา​ได้. ใน​ที่​สุด บาง​เมล็ด​ได้​ตก​ลง​ใน​ที่​ดิน​ดี แล้ว​เกิด​ผล​ร้อย​เท่า​บ้าง หก​สิบ​เท่า​บ้าง​และ​สาม​สิบ​เท่า​บ้าง.

ใน​อุทาหรณ์​อีก​เรื่อง​หนึ่ง พระ​เยซู​เปรียบ​เทียบ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​กับ​ชาย​คน​หนึ่ง​ที่​หว่าน​เมล็ด​พืช. ครั้น​เวลา​ผ่าน​ไป ไม่​ว่า​ชาย​ผู้​นั้น​นอน​หลับ​หรือ​ตื่น เมล็ด​พืช​ก็​งอก​ขึ้น. ชาย​คน​นั้น​ไม่​รู้​ว่า​พืช​งอก​ขึ้น​โดย​วิธี​ใด. มัน​เติบโต​เอง​จน​เกิด​เมล็ด. เมื่อ​เมล็ด​ข้าว​สุก​เหลือง​ได้​ที่ แล้ว​เขา​ก็​ทำ​การ​เก็บ​เกี่ยว.

พระ​เยซู​ทรง​ยก​อุทาหรณ์​เรื่อง​ที่​สาม​ว่า​ด้วย​คน​หนึ่ง​ผู้​ซึ่ง​หว่าน​เมล็ด​พืช​ดี แต่ “เมื่อ​คน​ทั้ง​หลาย​นอน​หลับ​อยู่” ศัตรู​มา​หว่าน​ข้าว​ละมาน​ท่ามกลาง​ข้าว​ดี. คน​ใช้​ได้​ถาม​ชาย​นั้น​ว่า จะ​ให้​เขา​ถอน​ข้าว​ละมาน​หรือ​ไม่. แต่​ชาย​นั้น​ตอบ​ว่า ‘อย่า​เลย ถ้า​ทำ​อย่าง​นั้น เจ้า​จะ​ถอน​ข้าว​ดี​ออก​มา​บ้าง. ให้​มัน​ทั้ง​สอง​งอก​ขึ้น​มา​ด้วย​กัน​จน​ถึง​ฤดู​เกี่ยว​เก็บ. แล้ว​เรา​จะ​สั่ง​ผู้​เกี่ยว​ให้​คัด​ข้าว​ละมาน​ออก​และ​เผา​ไฟ​เสีย แล้ว​เก็บ​ข้าว​ดี​ไว้​ใน​ยุ้ง​ฉาง.’

ขณะ​บรรยาย​ต่อ​ฝูง​ชน​ที่​อยู่​บน​ฝั่ง พระ​เยซู​ได้​ยก​อุทาหรณ์​อีก​สอง​เรื่อง. พระองค์​ทรง​ชี้​แจง​ว่า “ราชอาณาจักร​ฝ่าย​สวรรค์” เปรียบ​เหมือน​พันธุ์​ผักกาด​เมล็ด​หนึ่ง​ที่​คน​เพาะ​ไว้. แม้​เมล็ด​ผักกาด​นั้น​เล็ก​ที่​สุด​ใน​บรรดา​เมล็ด​พืช​ทั้ง​มวล แต่​เมื่อ​งอก​ขึ้น​ก็​ใหญ่​กว่า​ผัก​อื่น​ทุก​ชนิด. มัน​กลาย​เป็น​ต้น​ไม้​ที่​นก​พา​กัน​มา​พักพิง​อยู่​ตาม​กิ่ง​ก้าน​ของ​มัน.

บาง​คน​สมัย​นี้​ค้าน​ว่า​ยัง​มี​เมล็ด​พืช​ที่​เล็ก​กว่า​เมล็ด​ผักกาด. แต่​พระ​เยซู​มิ​ได้​สอน​บทเรียน​ทาง​พฤกษศาสตร์. เท่า​ที่​ชาว​ฆาลิลาย​รู้​จัก​เมล็ด​พืช​สมัย​ของ​พระองค์​นั้น เมล็ด​ผักกาด​นับ​ว่า​เล็ก​ที่​สุด​จริง ๆ. ดัง​นั้น​พวก​เขา​จึง​หยั่ง​รู้​การ​เติบโต​ที่​น่า​พิศวง​ตาม​ที่​พระ​เยซู​ทรง​อธิบาย.

ใน​ที่​สุด พระ​เยซู​ทรง​เปรียบ “ราชอาณาจักร​ฝ่าย​สวรรค์” เหมือน​เชื้อ​ซึ่ง​หญิง​คน​หนึ่ง​เอา​เจือ​ลง​ใน​แป้ง​สาม​ทะนาน. พระองค์​ตรัส​ว่า ครั้น​ได้​เวลา เชื้อ​นั้น​ก็​ทำ​ให้​แป้ง​ทั้ง​ก้อน​ฟู​ขึ้น.

ภาย​หลัง​การ​ยก​อุทาหรณ์​ทั้ง​ห้า​เรื่อง​แล้ว พระ​เยซู​เสด็จ​ไป​จาก​ฝูง​ชน​และ​กลับ​ไป​ยัง​บ้าน​ที่​พระองค์​ทรง​พำนัก​อยู่. ไม่​นาน​อัครสาวก 12 คน และ​คน​อื่น ๆ ก็​ได้​มา​เฝ้า​พระองค์​ที่​นั่น.

ได้​รับ​ประโยชน์​จาก​อุทาหรณ์​ของ​พระ​เยซู

เมื่อ​พวก​สาวก​ได้​มา​พบ​พระ​เยซู​ที่​ชาย​หาด​ภาย​หลัง​ที่​พระองค์​บรรยาย​ให้​ฝูง​ชน​ฟัง​แล้ว พวก​เขา​สนใจ​ใคร่​รู้​วิธี​สั่ง​สอน​แบบ​ใหม่​ของ​พระองค์. พวก​เขา​เคย​ได้​ยิน​พระองค์​ใช้​อุทาหรณ์​มา​ก่อน แต่​ไม่​มาก​ถึง​ขนาด​อย่าง​ครั้ง​นี้. ฉะนั้น เขา​จึง​ถาม​ว่า “เหตุ​ไฉน​พระองค์​ตรัส​แก่​เขา​เป็น​คำ​อุปมา?”

เหตุ​ผล​ประการ​หนึ่ง​ที่​พระองค์​ได้​ทำ​เช่น​นั้น​ก็​เพื่อ​ให้​สม​จริง​ตาม​คำ​พยากรณ์​ที่​ว่า “เรา​จะ​ออก​ปาก​พูด​เป็น​คำ​อุปมา เรา​จะ​กล่าว​ข้อ​ความ​ซึ่ง​ปิด​ซ่อน​ไว้​ตั้ง​แต่​เดิม​สร้าง​โลก.” แต่​มี​เหตุ​ผล​มาก​กว่า​นี้. การ​ที่​พระองค์​ทรง​ใช้​อุทาหรณ์​ก็​เพื่อ​เผย​เจตคติ​ของ​ประชาชน.

ที่​จริง คน​ส่วน​ใหญ่​สนใจ​ใน​พระ​เยซู​เพียง​เพราะ​เหตุ​ที่​พระองค์​เล่า​เรื่อง​เก่ง​และ​ทำ​การ​อัศจรรย์ ไม่​ใช่​เพราะ​เหตุ​ที่​ว่า​พระองค์​ควร​ได้​รับ​การ​ปรนนิบัติ​ฐานะ​เป็น​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ทั้ง​พึง​ติด​ตาม​อย่าง​ไม่​เห็น​แก่​ตัว. เขา​ไม่​ต้องการ​ให้​ใคร ๆ รบกวน​ทัศนะ​ของ​เขา​ใน​เรื่อง​ต่าง ๆ หรือ​วิถี​ชีวิต​ของ​เขา. เขา​ไม่​ต้องการ​ให้​ข่าวสาร​กระทบ​เขา​ถึง​ขนาด​นั้น.

ดัง​นั้น พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “เหตุ​ฉะนั้น เรา​จึง​กล่าว​แก่​เขา​เป็น​คำ​อุปมา เพราะ​ว่า​ถึง​เขา​มอง​ก็​ไม่​เห็น ถึง​ฟัง​ก็​ไม่​ได้​ยิน​และ​ไม่​เข้าใจ คำ​พยากรณ์​ของ​ยะซายา​ก็​สำเร็จ​สม​กับ​คน​เหล่า​นั้น​ซึ่ง​กล่าว​ไว้​ว่า ‘ . . . เพราะ​ว่า​ใจ​ของ​คน​เหล่า​นั้น​ก็​แข็ง​กระด้าง.’”

พระ​เยซู​ตรัส​ต่อ​ไป​ว่า “แต่​ตา​ของ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ก็​เป็น​สุข​เพราะ​ได้​เห็น และ​หู​ของ​ท่าน​ก็​เป็น​สุข​เพราะ​ได้​ยิน. เรา​บอก​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ตาม​จริง​ว่า ศาสดา​พยากรณ์​และ​ผู้​ชอบธรรม​เป็น​อัน​มาก​ได้​ปรารถนา​จะ​เห็น​ซึ่ง​ท่าน​ทั้ง​หลาย​เห็น​อยู่​นี้ แต่​เขา​มิ​ได้​เห็น และ​อยาก​ได้​ยิน​ซึ่ง​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ได้​ยิน แต่​เขา​มิ​ได้​ยิน.”

ใช่​แล้ว อัครสาวก 12 คน และ​ผู้​ที่​อยู่​ด้วย​กัน​กับ​เขา​มี​หัวใจ​ตอบรับ. เพราะ​ฉะนั้น พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “ข้อ​ลับ​ลึก​แห่ง​แผ่นดิน​สวรรค์​ทรง​โปรด​ให้​ท่าน​ทั้ง​หลาย​รู้​ได้ แต่​คน​เหล่า​นั้น​ไม่​โปรด​ให้​รู้.” เนื่อง​จาก​สาวก​เหล่า​นั้น​อยาก​จะ​เข้าใจ พระ​เยซู​จึง​ได้​อธิบาย​อุทาหรณ์​เรื่อง​ผู้​หว่าน​พืช​แก่​สาวก​ของ​พระองค์.

พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “พืช​นั้น​ได้​แก่​พระ​วจนะ​ของ​พระเจ้า” และ​ดิน​นั้น​ได้​แก่​หัวใจ. เกี่ยว​กับ​เมล็ด​พืช​ที่​หว่าน​ตก​ใน​ดิน​แน่น​ริม​ทาง พระองค์​ได้​ชี้​แจง​ดัง​นี้ “มาร​มา​ชิง​เอา​พระ​วจนะ​จาก​ใจ​ของ​เขา เพื่อ​ไม่​ให้​เขา​เชื่อ​และ​รอด​ได้.”

ส่วน​พืช​ที่​หว่าน​บน​ดิน​ซึ่ง​ใต้​ผิว​ดิน​เป็น​หินดาน​นั้น​บ่ง​ถึง​หัวใจ​ของ​ผู้​ที่​รับ​เอา​พระ​วจนะ​นั้น​ด้วย​ความ​ยินดี. แต่​เนื่อง​จาก​พระ​วจนะ​ไม่​อาจ​จะ​หยั่ง​ราก​ลง​ใน​หัวใจ​ประเภท​นั้น ครั้น​มี​การ​ทดลอง​หรือ​การ​ข่มเหง คน​เหล่า​นี้​จึง​ไม่​ยืนหยัด​อยู่.

ส่วน​พืช​ที่​ตก​กลาง​หนาม พระ​เยซู​ตรัส​ต่อ​ไป​ว่า ข้อ​นี้​พาด​พิง​ถึง​คน​ที่​ได้​ยิน​พระ​วจนะ​แล้ว. แต่​เขา​ยอม​ให้​ความ​กังวล ทรัพย์​สมบัติ​และ​ความ​สนุกสนาน​ใน​ชีวิต​นี้​ฉุด​เขา​ไว้ ดัง​นั้น เขา​จึง​งัน​ไป ไม่​งอกงาม​เติบโต​ถึง​ขีด​ที่​ควร​จะ​เป็น.

สุด​ท้าย สำหรับ​พืช​ที่​หว่าน​บน​ดิน​ดี​นั้น​พระ​เยซู​ตรัส​ว่า คน​เหล่า​นี้​คือ​ผู้​ที่​ฟัง​พระ​วจนะ​ด้วย​ใจ​เลื่อมใส​ศรัทธา​และ​รักษา​ไว้ จึง​เกิด​ผล​ด้วย​ความ​เพียร.

สาวก​เหล่า​นี้​ซึ่ง​ได้​ขอ​ให้​พระ​เยซู​อธิบาย​สิ่ง​ที่​พระองค์​สั่ง​สอน​ได้​รับ​พระ​พร​อะไร​อย่าง​นั้น! พระ​เยซู​ทรง​มี​เจตจำนง​จะ​ให้​อุทาหรณ์​ของ​พระองค์​เป็น​ที่​เข้าใจ​ได้ เพื่อ​ที่​จะ​ถ่ายทอด​สัจธรรม​ไป​ถึง​ผู้​คน​ทั้ง​หลาย. พระองค์​ตรัส​ถาม​ดัง​นี้ “เขา​เอา​ตะเกียง​มา​สำหรับ​ตั้ง​ไว้​ใต้​ถัง​และ​ใต้​เตียง​นอน​หรือ?” หา​มิ​ได้ แต่ “ตั้ง​ไว้​ที่​เชิง​ตะเกียง.” ด้วย​เหตุ​นี้ พระ​เยซู​ทรง​เสริม​ว่า “เหตุ​ฉะนั้น ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​ฟัง​อย่าง​ไร​ก็​จง​ระวัง​ให้​ดี.”

ได้​พระ​พร​คือ​รับ​คำ​สั่ง​สอน​มาก​ขึ้น

หลัง​จาก​ที่​พวก​สาวก​ได้​รับ​คำ​อธิบาย​เกี่ยว​กับ​อุทาหรณ์​เรื่อง​ผู้​หว่าน​พืช พวก​เขา​ต้องการ​เรียน​รู้​มาก​ขึ้น. เขา​ทูล​ดัง​นี้ “โปรด​อธิบาย​ให้​พวก​ข้าพเจ้า​เข้าใจ​คำ​อุปมา​ว่า​ด้วย​ข้าว​ละมาน​ใน​นา.”

สาวก​เหล่า​นี้​มี​ทัศนะ​ต่าง​ไป​จาก​ฝูง​ชน​ที่​อยู่ ณ ชาย​หาด​แห่ง​นั้น​เสีย​จริง ๆ! คน​เหล่า​นั้น​ไม่​มี​ความ​ปรารถนา​จะ​เรียน​รู้​ความหมาย​ที่​แฝง​อยู่​ใน​อุทาหรณ์​ต่าง ๆ เลย เขา​พอ​ใจ​จะ​รู้​เรื่อง​พอ​เป็น​สังเขป. เมื่อ​เทียบ​กัน​ระหว่าง​ฝูง​ชน​ที่​ชาย​ทะเล​กับ​สาวก​ที่​ซัก​ถาม​ซึ่ง​ได้​มา​หา​พระองค์​ที่​บ้าน​แล้ว พระ​เยซู​ตรัส​ว่า:

“ท่าน​จะ​ตวง​ให้​เขา​ด้วย​ทะนาน​อัน​ใด เขา​จะ​ตวง​ให้​ท่าน​ด้วย​ทะนาน​อัน​นั้น ทั้ง​จะ​เพิ่ม​เติม​ให้​อีก.” พวก​สาวก​ตักตวง​ให้​ความ​สนใจ​และ​ความ​เอา​ใจ​ใส่​อย่าง​จริงจัง​กับ​พระ​เยซู ฉะนั้น เขา​จึง​ได้​พระ​พร​คือ​เขา​รับ​คำ​แนะ​นำ​มาก​ขึ้น. ดัง​นั้น เพื่อ​ตอบ​คำ​ถาม​ของ​เหล่า​สาวก พระ​เยซู​จึง​อธิบาย​ว่า:

“ผู้​หว่าน​พืช​ดี​นั้น​ได้​แก่​บุตร​มนุษย์ และ​นา​นั้น​ได้​แก่​โลก​นี้ พืช​ดี​นั้น​ได้​แก่​พลเมือง​แห่ง​แผ่นดิน​ของ​พระเจ้า แต่​ข้าว​ละมาน​ได้​แก่​พลเมือง​ของ​ผู้​ชั่ว ศัตรู​ผู้​หว่าน​พืช​ชั่ว​ได้​แก่​มาร. ฤดู​เกี่ยว​ได้​แก่​สิ้น​โลก​นี้ และ​ผู้​เกี่ยว​นั้น​ได้​แก่​ทูต​สวรรค์.”

หลัง​จาก​พระองค์​ได้​ระบุ​ลักษณะ​เฉพาะ​แต่​ละ​อย่าง​ใน​อุทาหรณ์​แล้ว พระ​เยซู​ทรง​พรรณนา​ถึง​ผล​สืบ​เนื่อง. พระองค์​ตรัส​ว่า ใน​ช่วง​อวสาน​ของ​ระบบ​แห่ง​สิ่ง​ต่าง ๆ ผู้​เกี่ยว หรือ​ทูต​สวรรค์ จะ​แยก​คริสเตียน​ปลอม​ซึ่ง​เปรียบ​เหมือน​ข้าว​ละมาน​ออก​จาก “พลเมือง​แห่ง​แผ่นดิน​ของ​พระเจ้า.” ใน​คราว​นั้น “พลเมือง​ของ​ผู้​ชั่ว” จะ​ถูก​หมาย​ไว้​ให้​พินาศ แต่​บุตร​แห่ง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า “ผู้​ชอบธรรม” จะ​โชติช่วง​รุ่งเรือง​ใน​ราชอาณาจักร​แห่ง​พระ​บิดา.

ต่อ​จาก​นั้น พระ​เยซู​ทรง​อวย​พร​สาวก​ที่​ซักไซ้​พระองค์​ด้วย​การ​กล่าว​อุทาหรณ์​อีก​สาม​เรื่อง. อุทาหรณ์​แรก พระองค์​ตรัส​ว่า “แผ่นดิน​สวรรค์​เปรียบ​เหมือน​ขุม​ทรัพย์​ซ่อน​ไว้​ที่​ทุ่ง​นา เมื่อ​มี​ผู้​ใด​ได้​พบ​แล้ว​ก็​กลับ​ซ่อน​เสีย​อีก และ​เพราะ​ความ​ยินดี​จึง​ไป​ขาย​สรรพสิ่ง​ซึ่ง​เขา​มี​อยู่​แล้ว​ไป​ซื้อ​นา​นั้น.”

พระองค์​ตรัส​ต่อ​ไป​ว่า “อีก​ประการ​หนึ่ง แผ่นดิน​สวรรค์​เปรียบ​เหมือน​พ่อค้า​ที่​ไป​หา​มุกดา​อย่าง​ดี. และ​เมื่อ​ได้​พบ​มุกดา​เม็ด​หนึ่ง​มี​ราคา​มาก ก็​ไป​ขาย​สิ่ง​สารพัด​ซึ่ง​เขา​มี​อยู่ แล้ว​ไป​ซื้อ​มุกดา​นั้น.”

พระ​เยซู​เอง​เปรียบ​เหมือน​ผู้​ที่​พบ​ขุม​ทรัพย์​ซึ่ง​ซ่อน​อยู่ และ​เหมือน​พ่อค้า​ที่​พบ​มุกดา​ราคา​แพง. พระองค์​เสมือน​ได้​ขาย​ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง ได้​สละ​ตำแหน่ง​อัน​ทรง​เกียรติ​ใน​สวรรค์​และ​บังเกิด​เป็น​มนุษย์​ต่ำต้อย. ครั้น​แล้ว​ใน​ฐานะ​เป็น​มนุษย์​อยู่​บน​แผ่นดิน​โลก พระองค์​ทรง​ทน​รับ​คำ​ติเตียน​และ​การ​ข่มเหง​ด้วย​ความ​เกลียด​ชัง จึง​เป็น​การ​พิสูจน์​ตน​คู่​ควร​กับ​การ​เป็น​ผู้​ครอบครอง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า.

อนึ่ง สาวก​ของ​พระ​เยซู​ต้อง​เผชิญ​การ​ท้าทาย​ที่​ให้​ขาย​ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง​เพื่อ​แลก​บำเหน็จ​อัน​ดี​เลิศ​ที่​จะ​เป็น​ผู้​ร่วม​ปกครอง​กับ​พระ​คริสต์ หรือ​เป็น​พลเมือง​อยู่​บน​แผ่นดิน​ภาย​ใต้​ราชอาณาจักร. เรา​จะ​ถือ​ว่า​การ​มี​ส่วน​ใน​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​มี​ค่า​ยิ่ง​กว่า​อะไร​อื่น​ทั้ง​สิ้น​ใน​ชีวิต เสมือน​เป็น​ขุม​ทรัพย์​มี​ค่า​มหาศาล หรือ​เหมือน​มุกดา​ที่​มี​ค่า​สูง​ไหม?

ใน​ที่​สุด พระ​เยซู​ทรง​เปรียบ​ราชอาณาจักร​ฝ่าย​สวรรค์​เหมือน​อวน​ที่​ลาก​ได้​ปลา​ทุก​ชนิด. เมื่อ​แยก​ปลา ปลา​ที่​ใช้​ไม่​ได้​ก็​จะ​โยน​ทิ้ง​ไป เก็บ​แต่​ปลา​ดี​ไว้. พระ​เยซู​ตรัส​ว่า ใน​ช่วง​อวสาน​ของ​ระบบ​นี้​ก็​จะ​เป็น​อย่าง​นั้น ทูต​สวรรค์​จะ​แยก​คน​ชั่ว​ออก​จาก​คน​ชอบธรรม กัน​คน​ชั่ว​ไว้​ต่าง​หาก​เพื่อ​ทำลาย​ให้​สิ้นเชิง.

พระ​เยซู​เอง​ทรง​เริ่ม​โครงการ​การ​หา​ปลา​นี้​โดย​ได้​ทรง​เรียก​สาวก​รุ่น​แรก​ให้​เป็น “ผู้​จับ​คน.” ด้วย​การ​ดู​แล​จาก​ทูต​สวรรค์ งาน​จับ​คน​นี้​ดำเนิน​อยู่​เรื่อย​มา​หลาย​ศตวรรษ. ใน​ที่​สุด​ก็​ถึง​เวลา​ลาก “อวน” เข้า​มา ซึ่ง​เล็ง​ถึง​องค์การ​ต่าง ๆ ใน​โลก​นี้​ที่​อ้าง​ตัว​เป็น​คริสเตียน.

ถึง​แม้​ปลา​ที่​ไม่​พึง​ประสงค์​ถูก​คัด​ทิ้ง​สู่​ความ​พินาศ เรา​ก็​ขอบพระคุณ​ที่​เรา​ถูก​นับ​รวม​กับ ‘ปลา​ดี’ ซึ่ง​ไม่​ถูก​คัด​ทิ้ง. โดย​การ​แสดง​ความ​ปรารถนา​อย่าง​จริงจัง​ที่​จะ​ได้​ความ​รู้​ความ​เข้าใจ​มาก​ขึ้น​อย่าง​สาวก​ของ​พระ​เยซู เรา​ย่อม​ได้​พระ​พร​ไม่​เฉพาะ​แต่​การ​รับ​ความ​รู้​มาก​ขึ้น​เท่า​นั้น แต่​จะ​ได้​พระ​พร​แห่ง​ชีวิต​ถาวร​จาก​พระเจ้า​ด้วย. มัดธาย 13:1-52; มาระโก 4:1-34; ลูกา 8:4-18; บทเพลง​สรรเสริญ 78:2; ยะซายา 6:9, 10.

▪ เมื่อ​ไร​และ​ที่​ไหน​ที่​พระ​เยซู​ตรัส​แก่​ฝูง​ชน​ด้วย​อุทาหรณ์?

▪ พระ​เยซู​ทรง​ยก​อุทาหรณ์​ห้า​เรื่อง​อะไร​บ้าง​ขึ้น​มา​กล่าว?

▪ เหตุ​ใด​พระ​เยซู​ตรัส​ว่า เมล็ด​ผักกาด​เล็ก​ที่​สุด​ใน​บรรดา​เมล็ด​พืช​ทั้ง​มวล?

▪ ทำไม​พระ​เยซู​ตรัส​เป็น​อุทาหรณ์?

▪ สาวก​ของ​พระ​เยซู​แสดง​ตัว​ต่าง​ไป​จาก​ฝูง​ชน​อย่าง​ไร?

▪ พระ​เยซู​ทรง​ชี้​แจง​อย่าง​ไร​เกี่ยว​กับ​อุทาหรณ์​เรื่อง​ผู้​หว่าน​พืช?

▪ สาวก​ของ​พระ​เยซู​ต่าง​กัน​อย่าง​ไร​กับ​ฝูง​ชน​ที่​ชาย​หาด?

▪ ผู้​หว่าน​พืช, นา, พืช​ดี, ศัตรู, ฤดู​เกี่ยว, และ​ผู้​เกี่ยว, โดย​นัย​แล้ว​เล็ง​ถึง​ใคร หรือ​สิ่ง​ใด?

▪ อุทาหรณ์​อะไร​อีก​สาม​เรื่อง​ซึ่ง​พระ​เยซู​ยก​ขึ้น​มา และ​เรา​ได้​บทเรียน​อะไร​จาก​อุทาหรณ์​เหล่า​นั้น?

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์