บท 7
สิ่งที่พระเจ้าได้ทรงกระทำเพื่อช่วยมนุษยชาติให้รอด
1, 2. (ก) นายร้อยชาวโรมันได้มาเข้าใจอย่างไรว่า ใครคือพระบุตรของพระเจ้า? (ข) ทำไมพระยะโฮวาทรงยอมให้พระเยซูสิ้นพระชนม์?
บ่ายวันหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิเกือบ 2,000 ปีมาแล้ว นายร้อยชาวโรมันได้เฝ้าดูชายสามคนตายช้า ๆ อย่างทรมานแสนสาหัส. ทหารผู้นั้นได้สังเกตดูคนหนึ่งในสามคนนั้นเป็นพิเศษ คือพระเยซูคริสต์. พระเยซูถูกตอกบนหลักไม้. ท้องฟ้ายามเที่ยงวันกลับมืดลงขณะที่ช่วงแห่งการสิ้นพระชนม์ของพระองค์คืบใกล้เข้ามา. เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์ แผ่นดินไหวอย่างรุนแรง และทหารคนนั้นได้อุทานว่า “แท้จริงท่านผู้นี้เป็นพระราชบุตรของพระเจ้า.”—มาระโก 15:39.
2 พระราชบุตรของพระเจ้า! ทหารคนนั้นพูดถูก. เขาเพิ่งเห็นเหตุการณ์สำคัญที่สุดที่เกิดขึ้นบนแผ่นดินโลก. ในโอกาสต่าง ๆ ก่อนหน้านั้น พระเจ้าเองได้ทรงเรียกพระเยซูว่าพระบุตรที่รักของพระองค์. (มัดธาย 3:17; 17:5) ทำไมพระยะโฮวาทรงยอมให้พระบุตรของพระองค์สิ้นพระชนม์? เพราะนี่เป็นวิธีการของพระเจ้าในการช่วยมนุษยชาติให้รอดจากบาปและความตาย.
ได้รับการเลือกสรรเพื่อจุดประสงค์พิเศษ
3. ทำไมนับว่าเหมาะที่พระบุตรผู้ได้รับกำเนิดองค์เดียวของพระเจ้าถูกเลือกสรรเพื่อจุดประสงค์พิเศษเกี่ยวกับมนุษยชาติ?
3 ดังที่เราได้เรียนรู้มาก่อนแล้วในหนังสือเล่มนี้ พระเยซูทรงพระชนม์อยู่ก่อนมาเป็นมนุษย์. พระองค์ถูกเรียกว่า “พระบุตรผู้ได้รับกำเนิดองค์เดียว” เพราะพระยะโฮวาทรงสร้างพระองค์โดยตรง. หลังจากนั้นพระเจ้าทรงใช้พระเยซูสร้างสิ่งอื่น ๆ ทั้งปวง. (โยฮัน 3:18, ล.ม.; โกโลซาย 1:16) พระเยซูทรงรักใคร่มนุษยชาติเป็นพิเศษ. (สุภาษิต 8:30, 31) จึงไม่แปลกที่พระยะโฮวาทรงเลือกพระบุตรผู้ได้รับกำเนิดองค์เดียวของพระองค์เพื่อส่งเสริมจุดประสงค์พิเศษเมื่อมนุษยชาติถูกปรับโทษด้วยความตาย!
4, 5. ก่อนพระเยซูเสด็จมายังแผ่นดินโลก คัมภีร์ไบเบิลเปิดเผยอะไรเกี่ยวกับพงศ์พันธุ์ที่เป็นพระมาซีฮา?
4 เมื่อแถลงคำตัดสินลงโทษอาดาม, ฮาวา, และซาตานในสวนเอเดน พระเจ้าตรัสถึงผู้ช่วยชีวิตในอนาคตฐานะ “พงศ์พันธุ์.” พงศ์พันธุ์หรือบุตรผู้นี้จะมาเพื่อกำจัดความเดือดร้อนแสนสาหัสที่ซาตานพญามาร “งูตัวแรกเดิม” ได้ก่อขึ้น. ที่จริง พงศ์พันธุ์ที่ทรงสัญญานั้นจะบดขยี้ซาตานและบรรดาคนเหล่านั้นที่ติดตามมัน.—เยเนซิศ 3:15, ฉบับแปลใหม่; 1 โยฮัน 3:8; วิวรณ์ 12:9, ล.ม.
5 ระหว่างหลายศตวรรษ พระเจ้าค่อย ๆ เปิดเผยเพิ่มขึ้นอีกเกี่ยวกับพงศ์พันธุ์ หรือที่เรียกด้วยว่าพระมาซีฮา. ดังที่ได้แสดงไว้ในตารางหน้า 37 คำพยากรณ์มากมายให้รายละเอียดเกี่ยวกับสภาพการณ์หลายอย่างในชีวิตของพระองค์บนแผ่นดินโลก อาทิเช่น พระองค์ต้องอดทนการปฏิบัติอย่างโหดร้ายทารุณเพื่อที่จะปฏิบัติตามบทบาทของพระองค์ในพระประสงค์ของพระเจ้า.—ยะซายา 53:3-5.
เหตุผลที่พระมาซีฮาจะต้องสิ้นพระชนม์
6. ตามดานิเอล 9:24-26 พระมาซีฮาจะทำให้อะไรบรรลุผลสำเร็จ และโดยวิธีใด?
6 คำพยากรณ์ที่บันทึกในดานิเอล 9:24-26 (ล.ม.) ได้บอกล่วงหน้าไว้ว่า พระมาซีฮา ผู้ถูกเจิมของพระเจ้า จะทำให้พระประสงค์อันใหญ่ยิ่งสำเร็จ. พระองค์จะเสด็จมายังแผ่นดินโลก “เพื่อทำให้การล่วงละเมิดสิ้นสุดลง และยุติบาป และเพื่อไถ่ความผิด และเพื่อนำความชอบธรรมเข้ามา” ตลอดกาล. พระมาซีฮาจะขจัดการปรับโทษถึงตายออกไปจากมนุษยชาติที่ซื่อสัตย์. แต่พระองค์จะกระทำเช่นนี้โดยวิธีใด? คำพยากรณ์อธิบายว่า พระองค์จะถูก “ตัดขาด” หรือถูกประหารชีวิต.
7. ทำไมชาวยิวถวายเครื่องบูชาที่เป็นสัตว์ และสิ่งเหล่านี้แสดงภาพล่วงหน้าถึงอะไร?
7 ชนยิศราเอลโบราณคุ้นเคยกับแนวคิดเรื่องการไถ่ความผิด. ในการนมัสการของพวกเขาภายใต้พระบัญญัติที่พระเจ้าประทานให้ผ่านทางโมเซนั้น พวกเขาถวายสัตว์เป็นเครื่องบูชาเป็นประจำ. สิ่งเหล่านี้เตือนชนชาติยิศราเอลให้ระลึกว่า มนุษย์จำเป็นต้องมีสิ่งที่จะไถ่หรือปกคลุมบาปของเขา. อัครสาวกเปาโลสรุปหลักการนั้นในทำนองนี้ “ถ้าไม่มีโลหิตไหลออกแล้ว, ก็จะไม่มีการยกบาป.” (เฮ็บราย 9:22) คริสเตียนไม่ได้อยู่ใต้พระบัญญัติของโมเซพร้อมกับข้อเรียกร้องของพระบัญญัตินั้น เช่น การถวายเครื่องบูชาต่าง ๆ. (โรม 10:4; โกโลซาย 2:16, 17) พวกเขาทราบด้วยว่า เครื่องบูชาที่เป็นสัตว์ไม่สามารถจัดให้มีการอภัยบาปแบบถาวรและครบถ้วนได้. แทนที่จะเป็นเช่นนั้น การถวายเครื่องบูชาเหล่านี้แสดงภาพล่วงหน้าถึงเครื่องบูชาที่มีคุณค่ามากกว่านัก นั่นคือเครื่องบูชาของพระมาซีฮา หรือพระคริสต์. (เฮ็บราย 10:4, 10; เทียบกับฆะลาเตีย 3:24.) ถึงกระนั้น คุณอาจถามว่า ‘จำเป็นจริง ๆ หรือที่พระมาซีฮาจะต้องสิ้นพระชนม์?’
8, 9. อาดามและฮาวาได้ทำให้สิ่งล้ำค่าอะไรสูญเสียไป และการกระทำของเขามีผลกระทบต่อลูกหลานของเขาอย่างไร?
8 ถูกแล้ว พระมาซีฮาต้องสิ้นพระชนม์เพื่อมนุษยชาติจะได้รับการช่วยให้รอด. เพื่อเข้าใจเหตุผล เราต้องนึกย้อนไปถึงสวนเอเดนและพยายามเข้าใจว่าสิ่งที่อาดามและฮาวาได้ทำให้สูญเสียไปเมื่อเขากบฏต่อพระเจ้านั้นใหญ่หลวงสักเพียงไร. ชีวิตถาวรมีไว้พร้อมสำหรับเขาทั้งสอง! ในฐานะบุตรของพระเจ้า เขามีสัมพันธภาพโดยตรงกับพระองค์ด้วย. แต่เมื่อเขาปฏิเสธการปกครองของพระยะโฮวา เขาสูญเสียสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด แล้วนำบาปและความตายมาสู่เผ่าพันธุ์มนุษย์.—โรม 5:12.
9 เป็นประหนึ่งว่าบิดามารดาคู่แรกของเราได้ผลาญทรัพย์สินมหาศาล แล้วเป็นหนี้ท่วมตัว. อาดามและฮาวาได้ถ่ายทอดหนี้สินนั้นสู่ลูกหลาน. เพราะเราไม่ได้เกิดมาสมบูรณ์และไร้บาป เราทุกคนจึงมีบาปและอยู่ในสภาพที่จะต้องตาย. เมื่อเราป่วยหรือพูดอะไรที่ก่อความเสียหายซึ่งเราอยากถอนคำพูด เราก็กำลังประสบผลกระทบจากหนี้ที่เราได้รับสืบทอดมา คือความไม่สมบูรณ์ของมนุษย์. (โรม 7:21-25) ความหวังอย่างเดียวของเราอยู่ที่การได้สิ่งซึ่งอาดามทำให้เสียไปนั้นกลับคืนมา. อย่างไรก็ดี เราไม่สามารถได้รับชีวิตสมบูรณ์เสมือนค่าจ้าง. เนื่องจากมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์ทุกคนทำบาป เราทุกคนจึงได้รับความตายเสมือนค่าจ้าง ไม่ใช่ชีวิต.—โรม 6:23.
10. อะไรเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อซื้อคืนสิ่งที่อาดามทำให้สูญเสียไป?
10 ถึงกระนั้น จะเสนอสิ่งแลกเปลี่ยนเพื่อจะได้ชีวิตซึ่งอาดามทำให้เสียไปนั้นได้ไหม? มาตรฐานของพระเจ้าเกี่ยวกับความยุติธรรมเรียกร้องความเท่าเทียมกัน คือ “ชีวิตแทนชีวิต.” (เอ็กโซโด 21:23) ดังนั้น ต้องจ่ายด้วยชีวิตเพื่อชดใช้ชีวิตที่สูญเสียไป. ไม่ใช่เพียงแค่ชีวิตของใครก็ได้. บทเพลงสรรเสริญ 49:7, 8 กล่าวถึงมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์ว่า “ไม่มีใครสักคนเดียว ไม่ว่าจะทำด้วยวิธีใด ๆ ก็ไถ่ชีวิตน้องชายของเขาไม่ได้, หรือจะเอาทรัพย์ถวายพระเจ้าเพื่อไถ่ชีวิตน้องก็ไม่ได้. เพราะการไถ่ชีวิตของเขานั้นมีค่ามาก, ไม่มีวันสำเร็จเลย.” เพราะฉะนั้น นี่จึงเป็นสภาพที่สิ้นหวังไหม? เปล่าเลย.
11. (ก) คำ “ค่าไถ่” มีความหมายอะไรในภาษาฮีบรู? (ข) ใครเท่านั้นที่สามารถไถ่มนุษยชาติ และทำไม?
11 ในภาษาฮีบรู คำ “ค่าไถ่” หมายถึงจำนวนเงินที่ชำระเพื่อไถ่ตัวเชลย และยังหมายถึงความทัดเทียมกัน ด้วย. เฉพาะแต่ผู้ที่มีชีวิตมนุษย์สมบูรณ์เท่านั้นสามารถเสนอสิ่งที่ทัดเทียมกับสิ่งที่อาดามทำให้เสียไป. หลังจากอาดาม มนุษย์สมบูรณ์คนเดียวที่เกิดมาบนแผ่นดินโลกก็คือพระเยซูคริสต์. เนื่องจากเหตุนี้ คัมภีร์ไบเบิลเรียกพระเยซูว่า “อาดามคนสุดท้าย” และทำให้เรามั่นใจว่าพระคริสต์ “ประทานพระองค์เองเป็นค่าไถ่อันมีค่าเท่าเทียมกันสำหรับคนทั้งปวง.” (1 โกรินโธ 15:45, ล.ม.; 1 ติโมเธียว 2:5, 6, ล.ม.) ขณะที่อาดามถ่ายทอดความตายมาสู่ลูกหลาน พระเยซูทรงถ่ายทอดชีวิตถาวร. หนึ่งโกรินโธ 15:22 (ล.ม.) อธิบายว่า “คนทั้งปวงตายเพราะอาดามฉันใด คนทั้งปวงจะถูกทำให้มีชีวิตอีกเพราะพระคริสต์ฉันนั้น.” ดังนั้นแล้ว นับว่าเหมาะสมที่เรียกพระเยซูว่า “พระบิดาองค์ถาวร.”—ยะซายา 9:6, 7.
วิธีชำระค่าไถ่
12. พระเยซูกลายเป็นพระมาซีฮาเมื่อไร และพระองค์ติดตามแนวทางชีวิตเช่นไรหลังจากนั้น?
12 ในฤดูใบไม้ร่วงปี ส.ศ. 29 พระเยซูเสด็จไปหาโยฮันญาติของพระองค์เพื่อรับบัพติสมา และโดยวิธีนี้จึงเสนอตัวพระองค์เองเพื่อปฏิบัติตามพระทัยประสงค์ของพระเจ้า. ในโอกาสนั้นพระยะโฮวาทรงเจิมพระเยซูด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์. ด้วยเหตุนี้ พระเยซูจึงกลายเป็นพระมาซีฮา หรือพระคริสต์ ผู้ที่ได้รับการเจิมจากพระเจ้า. (มัดธาย 3:16, 17) ต่อจากนั้น พระเยซูเริ่มงานรับใช้สามปีครึ่งของพระองค์. พระองค์ทรงเดินทางไปตลอดทั่วประเทศบ้านเกิด ประกาศเรื่องราชอาณาจักรของพระเจ้าและรวบรวมสาวกผู้ซื่อสัตย์. อย่างไรก็ดี ตามที่บอกไว้ล่วงหน้า การต่อต้านพระองค์ทวีขึ้นในไม่ช้า.—บทเพลงสรรเสริญ 118:22; กิจการ 4:8-11.
13. เหตุการณ์อะไรบ้างที่นำไปสู่การสิ้นพระชนม์ของพระเยซูฐานะผู้รักษาความซื่อสัตย์มั่นคง?
13 พระเยซูทรงเปิดโปงความหน้าซื่อใจคดของผู้นำทางศาสนาอย่างกล้าหาญ และพวกเขาพยายามจะสังหารพระองค์. ในที่สุด พวกเขาวางแผนอุบาทว์ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทรยศ, การจับกุมอย่างผิด ๆ, การพิจารณาคดีอย่างผิดกฎหมาย, และข้อกล่าวหาเท็จเรื่องการปลุกระดม. พระเยซูถูกตี, ถูกถ่มน้ำลายรด, ถูกเยาะเย้ย, และถูกเฆี่ยนด้วยแส้ซึ่งออกแบบเพื่อให้ฉีกเนื้อของพระองค์. ต่อจากนั้นปนเตียวปีลาต ผู้สำเร็จราชการชาติโรมันได้ตัดสินประหารชีวิตพระองค์บนหลักทรมาน. พระองค์ถูกตอกกับเสาไม้และแขวนตั้งตรงอยู่ที่นั่น. ทุกลมหายใจก่อความเจ็บปวดรวดร้าวและนับเป็นชั่วโมง ๆ ก่อนพระองค์สิ้นพระชนม์. ตลอดการทดลองอย่างสาหัส พระเยซูทรงรักษาไว้ซึ่งความซื่อสัตย์มั่นคงอย่างสมบูรณ์พร้อมต่อพระเจ้า.
14. ทำไมพระเจ้าทรงยอมให้พระบุตรของพระองค์ทนทุกข์และสิ้นพระชนม์?
14 ดังนั้น ในวันที่ 14 เดือนไนซานปี ส.ศ. 33 นั่นเองที่พระเยซูสละชีวิตเป็น “ค่าไถ่คนเป็นอันมาก.” (มาระโก 10:45; 1 ติโมเธียว 2:5, 6) จากสวรรค์ พระยะโฮวาทรงสามารถเห็นพระบุตรที่รักของพระองค์ทนทุกข์และสิ้นพระชนม์. ทำไมพระเจ้าทรงยอมให้สิ่งเลวร้ายเช่นนั้นเกิดขึ้น? พระองค์ทรงยอมก็เพราะพระองค์รักมนุษยชาติ. พระเยซูตรัสว่า “พระเจ้าทรงรักโลกมากจนถึงกับได้ประทานพระบุตรผู้ได้รับกำเนิดองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่แสดงความเชื่อในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์.” (โยฮัน 3:16, ล.ม.) การวายพระชนม์ของพระเยซูสอนเราด้วยว่า พระยะโฮวาเป็นพระเจ้าแห่งความยุติธรรมอย่างพร้อมมูล. (พระบัญญัติ 32:4) บางคนอาจสงสัยว่า ทำไมพระเจ้าไม่ยกเลิกหลักการของพระองค์ว่าด้วยความยุติธรรมที่เรียกร้องชีวิตแทนชีวิตและมองข้ามการชดเชยที่ต้องมีเนื่องด้วยแนวทางผิดบาปของอาดาม. เหตุผลคือว่า พระยะโฮวาทรงปฏิบัติตามกฎหมายของพระองค์และสนับสนุนกฎเหล่านั้นเสมอ ถึงแม้พระองค์เองต้องสูญเสียอย่างมากมายก็ตาม.
15. เนื่องจากจะเป็นการไม่ยุติธรรมที่จะปล่อยให้ชีวิตของพระเยซูสิ้นสุดอย่างถาวร พระยะโฮวาทรงทำประการใด?
15 ความยุติธรรมของพระยะโฮวายังเรียกร้องเช่นกันว่า การสิ้นพระชนม์ของพระเยซูจะต้องมีผลที่น่ายินดีตามมา. จะเป็นความยุติธรรมไหมในการยอมให้พระเยซูผู้ซื่อสัตย์บรรทมตลอดกาลในความตาย? ไม่อย่างแน่นอน! พระคัมภีร์ภาคภาษาฮีบรูได้พยากรณ์ว่า ผู้ภักดีของพระเจ้าจะไม่อยู่ในหลุมฝังศพตลอดไป. (บทเพลงสรรเสริญ 16:10; กิจการ 13:35) พระองค์บรรทมในความตายในช่วงคาบเกี่ยวของสามวัน และต่อจากนั้นพระเจ้ายะโฮวาทรงปลุกพระองค์คืนพระชนม์ฐานะองค์วิญญาณที่ทรงฤทธิ์.—1 เปโตร 3:18.
16. พระเยซูทรงทำอะไรเมื่อเสด็จกลับไปยังสวรรค์?
16 เมื่อสิ้นพระชนม์ พระเยซูทรงสละชีวิตมนุษย์ของพระองค์ตลอดกาล. เมื่อได้รับการปลุกฟื้นสู่ชีวิตในสวรรค์ พระองค์กลายเป็นวิญญาณผู้ประสาทชีวิตให้. ยิ่งกว่านั้น เมื่อพระเยซูเสด็จขึ้นสู่สถานบริสุทธิ์ที่สุดในเอกภพ พระองค์ทรงอยู่ร่วมกับพระบิดาที่รักของพระองค์อีก และเสนอคุณค่าแห่งชีวิตมนุษย์สมบูรณ์ของพระองค์แด่พระเจ้าอย่างเป็นทางการ. (เฮ็บราย 9:23-28) ครั้นแล้วจึงสามารถนำคุณค่าแห่งชีวิตอันล้ำค่านั้นมาใช้เพื่อผลประโยชน์ของมนุษยชาติที่เชื่อฟัง. นั่นหมายความอย่างไรสำหรับคุณ?
ค่าไถ่ของพระคริสต์และตัวคุณ
17. เราสามารถทำให้ตัวเองได้รับประโยชน์จากการให้อภัยโดยอาศัยเครื่องบูชาไถ่ของพระคริสต์โดยวิธีใด?
17 ขอพิจารณาแนวทางสามประการที่เครื่องบูชาไถ่ของพระคริสต์เป็นประโยชน์ต่อคุณแม้แต่ขณะนี้. ประการแรก ค่าไถ่นั้นนำมาซึ่งการให้อภัยบาป. โดยความเชื่อในพระโลหิตที่หลั่งออกของพระเยซู เราได้รับ “การไถ่” ถูกแล้ว ได้รับ “อภัยโทษในความผิดของเรา.” (เอเฟโซ 1:7) ดังนั้น ถึงแม้เราได้ทำบาปร้ายแรง เราสามารถทูลขอพระเจ้าเพื่อการให้อภัยในพระนามของพระเยซู. หากเรากลับใจอย่างแท้จริง พระยะโฮวาทรงนำคุณค่าแห่งเครื่องบูชาไถ่ของพระบุตรมาใช้กับเรา. พระเจ้าทรงให้อภัยเรา ประทานพระพรให้เรามีสติรู้สึกผิดชอบที่ดี แทนที่จะลงโทษเราด้วยความตายซึ่งเป็นโทษที่เราก่อขึ้นโดยการทำบาป.—กิจการ 3:19; 1 เปโตร 3:21.
18. เครื่องบูชาของพระเยซูจัดให้เรามีความหวังโดยวิธีใด?
18 ประการที่สอง เครื่องบูชาไถ่ของพระคริสต์จัดให้มีพื้นฐานสำหรับความหวังของเราในอนาคต. อัครสาวกโยฮันแลเห็นในนิมิตว่า “ชนฝูงใหญ่ซึ่งไม่มีใครนับจำนวนได้” จะรอดผ่านจุดอวสานของระบบนี้ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างขนานใหญ่ที่กำลังจะมาถึง. ทำไมพวกเขาจะรอดชีวิตในเมื่อพระเจ้าทำลายคนอื่นมากมายเช่นนั้น? ทูตสวรรค์ได้บอกโยฮันว่า ชนฝูงใหญ่ได้ “ชำระเสื้อยาวของเขาและทำให้ขาวในพระโลหิตของพระเมษโปดก” พระเยซูคริสต์. (วิวรณ์ 7:9, 14, ล.ม.) ตราบเท่าที่เราแสดงความเชื่อในพระโลหิตที่หลั่งออกของพระเยซูคริสต์และดำเนินชีวิตประสานกับข้อเรียกร้องของพระเจ้า เราก็จะเป็นคนสะอาดในสายพระเนตรของพระเจ้าและจะมีความหวังเรื่องชีวิตนิรันดร์.
19. เครื่องบูชาของพระคริสต์พิสูจน์อย่างไรว่า พระองค์และพระบิดาทรงรักคุณ?
19 ประการที่สาม เครื่องบูชาไถ่เป็นข้อพิสูจน์เกี่ยวกับความรักของพระยะโฮวา ในขั้นสุดยอด. การวายพระชนม์ของพระคริสต์ทำให้ปฏิบัติการแห่งความรักอันใหญ่ยิ่งที่สุดสองประการปรากฏชัดในประวัติศาสตร์แห่งเอกภพคือ (1) ความรักของพระเจ้าในการส่งพระบุตรของพระองค์มาสิ้นพระชนม์เพื่อผลประโยชน์ของเรา (2) ความรักของพระเยซูในการถวายตัวพระองค์เองเป็นค่าไถ่ด้วยความเต็มพระทัย. (โยฮัน 15:13; โรม 5:8) หากเราแสดงความเชื่ออย่างแท้จริง ความรักนี้นำมาใช้กับเราแต่ละคนและทุก ๆ คน. อัครสาวกเปาโลกล่าวว่า “พระบุตรของพระเจ้า . . . ทรงรักข้าพเจ้า, และได้ประทานพระองค์เองเพื่อข้าพเจ้า.”—ฆะลาเตีย 2:20; เฮ็บราย 2:9; 1 โยฮัน 4:9, 10.
20. ทำไมเราควรแสดงความเชื่อในเครื่องบูชาไถ่ของพระเยซู?
20 เพราะฉะนั้น ขอให้เราแสดงความกตัญญูต่อความรักที่พระเจ้าและพระคริสต์ทรงสำแดงนั้นโดยการแสดงความเชื่อในเครื่องบูชาไถ่ของพระเยซู. การทำเช่นนั้นนำไปสู่ชีวิตนิรันดร์. (โยฮัน 3:36) กระนั้น ความรอดของเราไม่ใช่เหตุผลสำคัญที่สุดที่พระเยซูทรงมาบังเกิดและสิ้นพระชนม์บนแผ่นดินโลก. เปล่าเลย ความห่วงใยประการแรกของพระองค์เป็นประเด็นที่สำคัญยิ่งกว่านั้นอีก เป็นประเด็นสากล. ดังที่เราจะทราบในบทถัดไป ประเด็นนั้นเกี่ยวข้องกับเราทุกคน เพราะประเด็นนั้นแสดงให้เห็นเหตุผลที่พระเจ้าทรงยอมให้ความชั่วและความทุกข์ยืดเยื้ออยู่ในโลกนี้นานเหลือเกิน.
ทดสอบความรู้ของคุณ
ทำไมพระเยซูต้องวายพระชนม์เพื่อช่วยมนุษยชาติให้รอด?
มีการชำระค่าไถ่โดยวิธีใด?
คุณได้รับประโยชน์จากค่าไถ่ในทางใดบ้าง?
[รูปภาพเต็มหน้า 67]