บท 12
จงต่อต้านอำนาจวิญญาณชั่ว
1. พระเยซูทรงมีปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อพระองค์เผชิญกับวิญญาณชั่ว?
ทันทีหลังจากรับบัพติสมา พระเยซูคริสต์เสด็จเข้าไปในถิ่นทุรกันดารยูดายเพื่ออธิษฐานและคิดรำพึง. ที่นั่นซาตานพญามารพยายามทำให้พระองค์ละเมิดกฎหมายของพระเจ้า. อย่างไรก็ดี พระเยซูปฏิเสธการล่อใจของพญามารและไม่ได้ติดกับของมัน. พระเยซูเผชิญกับวิญญาณชั่วอื่น ๆ ระหว่างงานสั่งสอนของพระองค์บนแผ่นดินโลก. กระนั้น พระองค์ทรงว่ากล่าวและต่อต้านพวกมันหลายต่อหลายครั้ง.—ลูกา 4:1-13; 8:26-34; 9:37-43.
2. เราจะพิจารณาคำถามอะไร?
2 เรื่องราวในคัมภีร์ไบเบิลที่พรรณนาถึงการเผชิญหน้ากันเช่นนั้นควรทำให้เรามั่นใจว่า อำนาจวิญญาณชั่วมีอยู่จริง. พวกมันพยายามนำผู้คนไปผิดทาง. อย่างไรก็ดี เราสามารถต่อต้านวิญญาณชั่วเหล่านี้ได้. แต่วิญญาณชั่วมาจากไหน? ทำไมพวกมันพยายามหลอกลวงมนุษย์? พวกมันใช้วิธีการอะไรเพื่อบรรลุเป้าประสงค์ของมัน? การทราบคำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้จะช่วยคุณให้ต่อต้านอำนาจวิญญาณชั่วได้.
วิญญาณชั่ว—แหล่งที่มาและเป้าหมายของมัน
3. ซาตานพญามารเกิดขึ้นมาอย่างไร?
3 พระเจ้ายะโฮวาทรงสร้างบุคคลวิญญาณจำนวนมากเป็นเวลานานก่อนที่พระองค์สร้างมนุษย์. (โยบ 38:4, 7) ดังที่อธิบายไว้ในบท 6 หนึ่งในทูตสวรรค์เหล่านี้ได้พัฒนาความปรารถนาที่จะให้มนุษย์นมัสการตนแทนที่จะนมัสการพระยะโฮวา. โดยติดตามเป้าประสงค์นั้น ทูตสวรรค์ชั่วตนนี้ได้ต่อต้านและหมิ่นประมาทพระผู้สร้าง ถึงกับชวนให้ผู้หญิงคนแรกคิดว่าพระเจ้าเป็นผู้มุสาด้วยซ้ำ. ดังนั้นจึงเหมาะที่บุคคลวิญญาณที่กบฏนี้กลายเป็นที่รู้จักว่าซาตาน (ผู้ต่อต้าน) พญามาร (ผู้หมิ่นประมาท).—เยเนซิศ 3:1-5; โยบ 1:6.
4. ทูตสวรรค์บางตนทำบาปอย่างไรในสมัยของโนฮา?
4 ภายหลัง ทูตสวรรค์ตนอื่น ๆ ได้เข้าข้างซาตานพญามาร. ในสมัยของโนฮาบุรุษผู้ชอบธรรม ทูตสวรรค์เหล่านี้บางตนได้ละทิ้งงานรับใช้ในสวรรค์ แล้วแปลงร่างเป็นกายเนื้อหนังเพื่อสนองราคะตัณหาที่จะมีเพศสัมพันธ์กับพวกผู้หญิงบนแผ่นดินโลก. ไม่ต้องสงสัย ซาตานได้ชักจูงทูตสวรรค์เหล่านั้นให้ดำเนินแนวทางที่ไม่เชื่อฟังเช่นนั้น. นั่นนำไปสู่การให้กำเนิดลูกพันธุ์ผสมที่เรียกว่าเนฟิลิม ซึ่งกลายเป็นอันธพาลที่ก่อความรุนแรง. พระยะโฮวาทรงบันดาลให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ มาทำลายมนุษยชาติที่เสื่อมทรามและลูกหลานที่ผิดธรรมดานี้ของพวกทูตสวรรค์ที่ไม่เชื่อฟัง. ทูตสวรรค์ที่กบฏหนีรอดจากความพินาศโดยการแปลงร่างกลับไปยังแดนวิญญาณ. แต่พระเจ้าทรงจำกัดสิทธิ์ผีปิศาจเหล่านี้ไว้โดยปฏิบัติกับพวกมันเสมือนผู้ถูกตัดสัมพันธ์ที่อยู่ในความมืดฝ่ายวิญญาณ. (เยเนซิศ 6:1-7, 17; ยูดา 6) อย่างไรก็ตาม ซาตาน “นายผี” และทูตสวรรค์ชั่วก็มุ่งหน้าต่อไปในการกบฏของพวกมัน. (ลูกา 11:15) เป้าประสงค์ของพวกมันคืออะไร?
5. ซาตานและผีปิศาจมีเป้าประสงค์อะไร และพวกมันใช้อะไรเพื่อทำให้คนติดกับ?
5 เป้าประสงค์ที่ชั่วร้ายของซาตานและพวกผีปิศาจคือ ทำให้ผู้คนเหินห่างจากพระเจ้ายะโฮวา. ด้วยเหตุนี้ ตัวชั่วร้ายเหล่านี้จึงได้นำผู้คนไปผิดทาง, ทำให้กลัว, และทำร้ายผู้คนตลอดประวัติศาสตร์ของมนุษย์. (วิวรณ์ 12:9) ตัวอย่างสมัยปัจจุบันยืนยันว่า การรุกรานของผีปิศาจนับว่าชั่วร้ายยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา. เพื่อทำให้คนตกหลุมพราง ผีปิศาจมักจะใช้ลัทธิผีปิศาจในทุกรูปแบบ. พวกผีปิศาจใช้เหยื่อล่อนี้โดยวิธีใด และคุณจะป้องกันตัวได้อย่างไร?
วิธีที่วิญญาณชั่วพยายามนำคุณไปผิดทาง
6. ลัทธิผีปิศาจคืออะไร และมีรูปแบบอะไรบ้าง?
6 ลัทธิผีปิศาจคืออะไร? คือการเข้าไปพัวพันกับผีปิศาจ หรือวิญญาณชั่ว ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยทางคนทรง. ลัทธิผีปิศาจเป็นประโยชน์ต่อพวกผีปิศาจเหมือนเหยื่อล่อเป็นประโยชน์ต่อนายพราน: มันล่อเหยื่อ. และเช่นเดียวกับนายพรานใช้เหยื่อล่อหลายอย่างเพื่อล่อสัตว์ให้มาติดกับ ดังนั้น พวกวิญญาณชั่วจึงส่งเสริมลัทธิผีปิศาจในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อชักนำมนุษย์มาอยู่ภายใต้การควบคุมของมัน. (เทียบกับบทเพลงสรรเสริญ 119:110.) รูปแบบเหล่านี้บางอย่างได้แก่ การเสี่ยงทาย, เวทมนตร์, การดูฤกษ์ยาม, คาถาอาคม, การทำเสน่ห์, การปรึกษาคนทรง, และการติดต่อกับคนตาย.
7. ลัทธิผีปิศาจแพร่หลายเพียงไร และทำไมลัทธินั้นเฟื่องฟูในประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นคริสเตียนด้วยซ้ำ?
7 เครื่องล่อนั้นใช้ได้ผล เพราะลัทธิผีปิศาจดึงดูดใจคนทั่วโลก. ผู้คนที่อยู่ในหมู่บ้านตามป่าไปปรึกษาหมอผี และคนทำงานในสำนักงานที่อยู่ในเมืองปรึกษาโหร. ลัทธิผีปิศาจเฟื่องฟูในประเทศที่เรียกว่าเป็นคริสเตียนด้วยซ้ำ. การวิจัยแสดงว่า ในสหรัฐประเทศเดียว วารสารราว ๆ 30 ฉบับที่มีจำนวนพิมพ์รวมกันมากกว่า 10,000,000 เล่มมุ่งไปในทางลัทธิผีปิศาจรูปแบบต่าง ๆ. ชาวบราซิลใช้เงินมากกว่า 12,500 ล้านบาทสำหรับวัสดุเกี่ยวกับลัทธิผีปิศาจทุกปี. กระนั้น 80 เปอร์เซ็นต์ของคนเหล่านั้นที่เข้าร่วมเป็นประจำในศูนย์นมัสการที่เกี่ยวข้องกับลัทธิผีปิศาจในประเทศนั้นเป็นชาวคาทอลิกที่รับบัพติสมาแล้วซึ่งเข้าร่วมในพิธีมิสซาด้วย. เนื่องด้วยนักเทศน์บางคนปฏิบัติลัทธิผีปิศาจ ศาสนิกชนหลายคนจึงคิดว่า การปฏิบัติลัทธินั้นเป็นที่ยอมรับสำหรับพระเจ้า. แต่เป็นเช่นนั้นไหม?
เหตุผลที่คัมภีร์ไบเบิลแถลงว่า
ลัทธิผีปิศาจเป็นสิ่งผิด
8. พระคัมภีร์มีทัศนะเช่นไรต่อลัทธิผีปิศาจ?
8 หากคุณได้รับการสอนว่า ลัทธิผีปิศาจบางรูปแบบนั้นเป็นวิธีติดต่อกับวิญญาณที่ดี คุณอาจแปลกใจเมื่อเรียนรู้สิ่งที่คัมภีร์ไบเบิลกล่าวเรื่องลัทธิผีปิศาจ. ไพร่พลของพระยะโฮวาได้รับการเตือนว่า “อย่าแสวงหาคนทรงผี, และแม่มด, จะกระทำให้ตัวเป็นมลทิน เพราะเขา.” (เลวีติโก 19:31; 20:6, 27) พระธรรมวิวรณ์ให้คำเตือนว่า “คนเหล่านั้นที่กระทำกิจเกี่ยวข้องกับผีปิศาจ” จะมีจุดจบใน “บึงที่ไหม้ด้วยไฟและกำมะถัน. นี่หมายถึงความตายที่สอง [ตลอดไป].” (วิวรณ์ 21:8; 22:15, ล.ม.) พระยะโฮวาพระเจ้าไม่พอพระทัยกับลัทธิผีปิศาจทุกรูปแบบ. (พระบัญญัติ 18:10-12) ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?
9. ทำไมเราสรุปได้ว่า ข่าวสารสมัยปัจจุบันที่มาจากโลกวิญญาณนั้นไม่ได้มาจากพระยะโฮวา?
9 พระยะโฮวาทรงส่งวิญญาณดีหรือทูตสวรรค์ชอบธรรมมาเพื่อติดต่อกับมนุษย์บางคนก่อนคัมภีร์ไบเบิลจะจารึกครบถ้วน. ตั้งแต่พระคัมภีร์จารึกครบถ้วน พระคำของพระเจ้าเป็นเครื่องนำทางที่มนุษย์จำเป็นต้องมีเพื่อจะรับใช้พระยะโฮวาอย่างเป็นที่รับรองเอาได้. (2 ติโมเธียว 3:16, 17; เฮ็บราย 1:1, 2) พระองค์มิได้มองข้ามพระคำอันบริสุทธิ์ของพระองค์โดยให้ข่าวสารแก่คนทรง. ข่าวสารสมัยปัจจุบันเช่นนั้นทั้งหมดจากโลกวิญญาณมาจากพวกวิญญาณชั่ว. กิจปฏิบัติเกี่ยวกับลัทธิผีปิศาจอาจนำไปสู่การถูกผีปิศาจรังควานหรือถึงกับถูกวิญญาณชั่วเข้าสิง. เพราะฉะนั้น พระเจ้าทรงเตือนเราด้วยความรักมิให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวในกิจปฏิบัติใด ๆ เกี่ยวกับลัทธิผีปิศาจ. (พระบัญญัติ 18:14; ฆะลาเตีย 5:19-21) นอกจากนี้ หากเรายังคงปฏิบัติลัทธิผีปิศาจอยู่ต่อไปหลังจากทราบทัศนะของพระยะโฮวาในเรื่องนั้นแล้ว เราก็เข้าข้างฝ่ายวิญญาณชั่วที่กบฏ และจะเป็นศัตรูของพระเจ้า.—1 ซามูเอล 15:23; 1 โครนิกา 10:13, 14; บทเพลงสรรเสริญ 5:4.
10. การเสี่ยงทายคืออะไร และทำไมเราควรหลีกเลี่ยงสิ่งนั้น?
10 ลัทธิผีปิศาจรูปแบบหนึ่งซึ่งเป็นที่นิยมคือการเสี่ยงทาย ซึ่งเป็นความพยายามที่จะทราบอนาคตหรือสิ่งที่ไม่รู้โดยความช่วยเหลือจากพวกวิญญาณ. การเสี่ยงทายบางรูปแบบได้แก่ โหราศาสตร์, การเพ่งมองลูกแก้ว, การทำนายฝัน, การดูลายมือ, และการดูดวงชะตาโดยใช้ไพ่ป๊อก. หลายคนถือว่า การเสี่ยงทายเป็นความสนุกที่ปราศจากพิษภัย แต่คัมภีร์ไบเบิลแสดงให้เห็นว่า หมอดูและวิญญาณชั่วเกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิด. ตัวอย่างเช่น กิจการ 16:16-19 (ฉบับแปลใหม่) กล่าวถึง “ผีหมอดู” ซึ่งทำให้หญิงสาวคนหนึ่งสามารถทำ “การทาย” ได้. อย่างไรก็ดี ความสามารถของเธอในการทำนายอนาคตหมดไปเมื่อผีนั้นถูกขับออก. ปรากฏชัดว่า การเสี่ยงทายเป็นเหยื่อที่พวกผีปิศาจใช้เพื่อล่อคนให้ติดกับของมัน.
11. ความพยายามที่จะติดต่อกับคนตายนำไปสู่หลุมพรางอย่างไร?
11 หากคุณกำลังเศร้าโศกต่อการตายของสมาชิกผู้เป็นที่รักในครอบครัวหรือเพื่อนสนิท คุณอาจถูกหลอกล่อได้ง่ายด้วยเหยื่ออีกอย่างหนึ่ง. คนทรงผีอาจให้ข่าวสารพิเศษแก่คุณหรืออาจพูดด้วยเสียงที่ดูเหมือนเป็นเสียงของคนตาย. จงระวัง! ความพยายามที่จะติดต่อกับคนตายนำไปสู่หลุมพราง. ทำไม? เพราะคนตายพูดไม่ได้. ดังที่คุณคงจะจำได้ พระคำของพระเจ้ากล่าวไว้ชัดเจนว่า เมื่อคนเราตาย เขา “ก็กลับคืนเป็นดินอีก; และในวันนั้นทีเดียวความคิดของเขาก็ศูนย์หายไป.” คนตายแล้ว “ก็ไม่รู้อะไรเลย.” (บทเพลงสรรเสริญ 146:4; ท่านผู้ประกาศ 9:5, 10) นอกจากนั้น จริง ๆ แล้วเป็นพวกผีปิศาจนั่นเองซึ่งเลียนเสียงของผู้ตายและให้ข่าวสารเกี่ยวกับคนที่ตายแก่คนทรง. (1 ซามูเอล 28:3-19) ดังนั้น ผู้ใด “พูดจากับผีผู้ตาย” ก็ติดกับของพวกวิญญาณชั่วและปฏิบัติตรงกันข้ามกับพระทัยประสงค์ของพระเจ้ายะโฮวา.—พระบัญญัติ 18:11, 12; ยะซายา 8:19.
จากการล่อใจมาสู่การโจมตี
12, 13. มีหลักฐานอะไรแสดงว่า ผีปิศาจล่อลวงและรังควานผู้คนไม่ละลด?
12 เมื่อคุณทำตามคำแนะนำจากพระคำของพระเจ้าเกี่ยวกับลัทธิผีปิศาจ คุณก็ปฏิเสธเหยื่อล่อของผีปิศาจ. (เทียบกับบทเพลงสรรเสริญ 141:9, 10; โรม 12:9.) นี่หมายความว่าวิญญาณชั่วจะเลิกพยายามครอบงำคุณไหม? เปล่าเลย! หลังจากพยายามล่อใจพระเยซูสามครั้ง ซาตาน “ละพระองค์ไปจนถึงโอกาสเหมาะ.” (ลูกา 4:13) ในทำนองคล้ายกัน พวกวิญญาณที่ดื้อรั้นไม่เพียงแต่ล่อใจผู้คนเท่านั้น แต่เล่นงานพวกเขาด้วย.
13 ขอนึกย้อนถึงการพิจารณาบทก่อน ๆ เกี่ยวกับการที่ซาตานจู่โจมโยบผู้รับใช้ของพระเจ้า. พญามารทำให้ท่านสูญเสียปศุสัตว์และคนใช้ส่วนใหญ่. ซาตานถึงกับสังหารลูก ๆ ของโยบ. ต่อจากนั้น มันจู่โจมตัวโยบด้วยโรคที่ทำให้เจ็บปวด. แต่โยบรักษาความซื่อสัตย์มั่นคงต่อพระเจ้าและได้รับพระพรอย่างมากมาย. (โยบ 1:7-19; 2:7, 8; 42:12) ตั้งแต่นั้นมา พวกผีปิศาจได้ทำให้บางคนเป็นใบ้หรือตาบอด และยังคงพอใจในความทุกข์ของมนุษย์. (มัดธาย 9:32, 33; 12:22; มาระโก 5:2-5) ปัจจุบัน รายงานแสดงว่า ผีปิศาจรังควานบางคนทางเพศและทำให้บางคนวิกลจริต. นอกจากนั้น พวกมันยังได้ปลุกเร้าคนอื่นให้ฆ่าคนและฆ่าตัวตาย ซึ่งเป็นบาปต่อพระเจ้า. (พระบัญญัติ 5:17; 1 โยฮัน 3:15) กระนั้น หลายพันคนซึ่งครั้งหนึ่งเคยติดกับของวิญญาณชั่วเหล่านี้สามารถหลุดพ้นเป็นอิสระได้. เรื่องนี้เป็นไปได้โดยวิธีใดสำหรับพวกเขา? พวกเขาหลุดพ้นโดยทำตามขั้นตอนต่าง ๆ ซึ่งสำคัญยิ่ง.
วิธีต่อต้านวิญญาณชั่ว
14. ประสานกับตัวอย่างของคริสเตียนชาวเอเฟโซในศตวรรษแรก คุณจะต่อต้านวิญญาณชั่วได้อย่างไร?
14 วิธีหนึ่งที่คุณสามารถต่อต้านวิญญาณชั่วและป้องกันตัวคุณและครอบครัวไว้จากหลุมพรางของมันคืออะไร? คริสเตียนศตวรรษแรกในเมืองเอเฟโซซึ่งได้ปฏิบัติลัทธิผีปิศาจก่อนเข้ามาเป็นผู้เชื่อถือได้ทำตามขั้นตอนที่เด็ดเดี่ยว. เราอ่านว่า “มีอีกหลายคนที่ทำเล่ห์กลได้เอาตำราของตนมาเผาเสียต่อหน้าคนทั้งปวง.” (กิจการ 19:19) แม้คุณไม่ได้ปฏิบัติลัทธิผีปิศาจ จงกำจัดสิ่งใด ๆ ที่ใช้ในลัทธินั้นหรือสิ่งที่แสดงนัยถึงลัทธินั้น. นี่หมายรวมถึงหนังสือ, วารสาร, วีดิทัศน์, รูปภาพ, เทปเพลง, และวัตถุที่ใช้ด้วยจุดประสงค์เกี่ยวกับลัทธิผีปิศาจ. นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงรูปเคารพ, เครื่องรางของขลังและสิ่งอื่นที่สวมใส่เพื่อป้องกันภัย และของขวัญที่ได้รับจากคนที่ปฏิบัติลัทธิผีปิศาจ. (พระบัญญัติ 7:25, 26; 1 โกรินโธ 10:21) เพื่อเป็นตัวอย่าง สามีภรรยาคู่หนึ่งในประเทศไทยถูกผีปิศาจรังควานมาเป็นเวลานาน. ครั้นแล้วเขาทั้งสองได้ขจัดวัตถุที่เกี่ยวข้องกับลัทธิผีปิศาจ. ผลเป็นประการใด? เขาได้รับการปลดปล่อยจากการถูกผีปิศาจรังควานและจากนั้นได้ก้าวหน้าฝ่ายวิญญาณอย่างแท้จริง.
15. ในการต่อต้านอำนาจวิญญาณชั่ว ขั้นตอนที่จำเป็นอีกอย่างหนึ่งคืออะไร?
15 เพื่อที่จะต่อต้านวิญญาณชั่ว ขั้นตอนที่จำเป็นอีกอย่างหนึ่งคือ นำคำแนะนำของอัครสาวกเปาโลมาใช้ที่ให้สวมยุทธภัณฑ์ฝ่ายวิญญาณครบชุดซึ่งพระเจ้าประทานให้. (เอเฟโซ 6:11-17) คริสเตียนต้องเสริมเครื่องป้องกันต่อวิญญาณชั่วให้แข็งแรง. ขั้นตอนนี้หมายรวมถึงอะไร? เปาโลกล่าวว่า “นอกนั้น จงเอาความเชื่อเป็นโล่, ด้วยโล่นั้นจะได้ดับลูกศรเพลิงของพญามารเสีย.” ที่จริง ยิ่งความเชื่อของคุณเข้มแข็งมากเท่าไร ความสามารถของคุณในการต่อต้านอำนาจวิญญาณชั่วก็จะมากขึ้นเท่านั้น.—มัดธาย 17:14-20.
16. คุณจะเสริมสร้างความเชื่อของคุณให้เข้มแข็งได้อย่างไร?
16 คุณจะเสริมความเชื่อของคุณให้เข้มแข็งได้อย่างไร? โดยการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลต่อ ๆ ไปและเอาคำแนะนำของพระคัมภีร์ไปใช้ในชีวิตของคุณ. ความเข้มแข็งแห่งความเชื่อของคนเราส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับความมั่นคงแห่งรากฐานของความเชื่อ นั่นคือความรู้ของพระเจ้า. คุณไม่เห็นด้วยหรือว่า ความรู้ถ่องแท้ที่คุณได้รับและพิจารณาอย่างจริงจังขณะที่คุณศึกษาคัมภีร์ไบเบิลได้เสริมสร้างความเชื่อของคุณ? (โรม 10:10, 17) เพราะฉะนั้น ไม่ต้องสงสัย ขณะที่คุณดำเนินการศึกษาเช่นนี้ต่อไปและเข้าร่วมการประชุมต่าง ๆ ของพยานพระยะโฮวาเป็นประจำ ความเชื่อของคุณจะได้รับการเสริมให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น. (โรม 1:11, 12; โกโลซาย 2:6, 7) ความเชื่อของคุณจะเป็นเสมือนปราการแข็งแรงที่ต้านทานการจู่โจมของผีปิศาจ.—1 โยฮัน 5:5.
17. มีขั้นตอนอะไรอีกซึ่งอาจจำเป็นในการต่อต้านอำนาจวิญญาณชั่ว?
17 บุคคลซึ่งตั้งใจแน่วแน่จะต่อต้านอำนาจวิญญาณชั่วอาจทำตามขั้นตอนอะไรอีก? คริสเตียนชาวเอเฟโซจำต้องได้รับการคุ้มครองเนื่องจากพวกเขามีชีวิตอยู่ในเมืองที่ชุกชุมด้วยลัทธิผีปิศาจ. เนื่องจากเหตุนี้ เปาโลสั่งพวกเขาว่า “โดยคำอธิษฐานวิงวอนทุกอย่าง จงขอโดยพระวิญญาณทุกเวลา.” (เอเฟโซ 6:18) เนื่องจากเรามีชีวิตอยู่ในโลกที่ชุกชุมด้วยผีปิศาจ การอธิษฐานอย่างแรงกล้าเพื่อได้การคุ้มครองจากพระเจ้าเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการต่อต้านวิญญาณชั่ว. (มัดธาย 6:13) ที่ช่วยได้มากในเรื่องนี้คือความช่วยเหลือฝ่ายวิญญาณและการอธิษฐานโดยผู้ปกครองที่ได้รับการแต่งตั้งในประชาคมคริสเตียน.—ยาโกโบ 5:13-15.
ยืนหยัดสู้พวกวิญญาณชั่วต่อไป
18, 19. อาจทำอะไรได้หากผีปิศาจก่อกวนคนเราอีก?
18 อย่างไรก็ดี แม้แต่หลังจากใช้มาตรการขั้นพื้นฐานเหล่านี้แล้วก็ตาม บางคนยังถูกรังควานโดยวิญญาณชั่วอยู่. ตัวอย่างเช่น ชายคนหนึ่งในโกตดิวัวร์ศึกษาคัมภีร์ไบเบิลกับพยานพระยะโฮวาและทำลายเครื่องรางทั้งหมดของเขา. หลังจากนั้น เขาได้ก้าวหน้าเป็นอย่างดี, อุทิศชีวิตแด่พระยะโฮวา, และรับบัพติสมา. แต่หนึ่งสัปดาห์หลังจากรับบัพติสมา ผีปิศาจเริ่มก่อกวนเขาอีก และมีเสียงบอกให้เขาทิ้งความเชื่อที่พบใหม่นั้นเสีย. หากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคุณ นั่นจะหมายความว่า คุณไม่ได้รับการคุ้มครองจากพระยะโฮวาไหม? ไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนั้น.
19 ถึงแม้พระเยซูคริสต์มนุษย์สมบูรณ์ได้รับการคุ้มครองจากพระเจ้า พระองค์ได้ยินเสียงของซาตานพญามาร วิญญาณชั่ว. พระเยซูทรงแสดงให้เห็นสิ่งที่พึงทำในกรณีเช่นนั้น. พระองค์สั่งพญามารว่า “อ้ายซาตาน, จงไปเสียให้พ้น!” (มัดธาย 4:3-10) ทำนองเดียวกัน คุณควรปฏิเสธที่จะฟังเสียงจากโลกวิญญาณ. จงต่อต้านวิญญาณชั่วโดยร้องเรียกพระยะโฮวาเพื่อขอความช่วยเหลือ. ถูกแล้ว จงอธิษฐานเสียงดังโดยใช้พระนามของพระเจ้า. สุภาษิต 18:10 บอกว่า “พระนามพระยะโฮวาเป็นป้อมเข้มแข็ง, คนชอบธรรมทั้งปวงวิ่งเข้าไปก็พ้นภัย.” ชายคริสเตียนในโกตดิวัวร์ได้ทำเช่นนี้ และวิญญาณชั่วก็เลิกรังควานเขา.—บทเพลงสรรเสริญ 124:8; 145:18.
20. โดยสรุปแล้ว คุณจะทำอะไรได้เพื่อต่อต้านวิญญาณชั่ว?
20 พระยะโฮวาทรงยอมให้พวกวิญญาณชั่วดำรงอยู่ต่อไป แต่พระองค์ทรงแสดงอำนาจเพื่อผลประโยชน์แห่งไพร่พลของพระองค์โดยเฉพาะ และพระนามของพระองค์ได้รับการประกาศไปตลอดทั่วแผ่นดินโลก. (เอ็กโซโด 9:16) หากคุณอยู่ใกล้ชิดพระเจ้าต่อไป คุณไม่ต้องกลัววิญญาณชั่ว. (อาฤธโม 23:21, 23; ยาโกโบ 4:7, 8; 2 เปโตร 2:9) อำนาจของพวกมันมีจำกัด. พวกมันถูกลงโทษในสมัยของโนฮา, ถูกเหวี่ยงออกจากสวรรค์ในสมัยหลัง ๆ นี้, และปัจจุบันกำลังรอการพิพากษาขั้นสุดท้ายอยู่. (ยูดา 6; วิวรณ์ 12:9; 20:1-3, 7-10, 14) ที่จริง พวกมันกลัวความพินาศที่กำลังจะมาถึงตน. (ยาโกโบ 2:19) ดังนั้น ไม่ว่าวิญญาณชั่วพยายามจะล่อใจคุณด้วยเหยื่อล่อบางชนิดหรือจู่โจมคุณในวิธีใดก็ตาม คุณจะต่อต้านพวกมันได้. (2 โกรินโธ 2:11) จงหลีกเลี่ยงลัทธิผีปิศาจทุกรูปแบบ, นำคำแนะนำจากพระคำของพระเจ้ามาใช้, และแสวงหาความพอพระทัยจากพระยะโฮวา. จงทำเช่นนี้โดยไม่ชักช้า เพราะชีวิตของคุณขึ้นอยู่กับการที่คุณต่อต้านอำนาจวิญญาณชั่ว!
ทดสอบความรู้ของคุณ
วิญญาณชั่วพยายามอย่างไรที่จะนำคนไปผิดทาง?
เพราะเหตุใดคัมภีร์ไบเบิลจึงแถลงว่าลัทธิผีปิศาจเป็นสิ่งผิด?
คนเราจะหลุดพ้นจากอำนาจวิญญาณชั่วได้อย่างไร?
ทำไมคุณควรต่อต้านวิญญาณชั่วอยู่เรื่อยไป?
[รูปภาพหน้า 110]
คุณมีทัศนะอย่างไรต่อลัทธิผีปิศาจในรูปแบบต่าง ๆ?