ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • ผส บท 5 น. 73-84
  • ผลงาน—เกิดจากอะไร?

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • ผลงาน—เกิดจากอะไร?
  • พระผู้สร้างผู้ใฝ่พระทัยในตัวคุณมีไหม?
  • หัวเรื่องย่อย
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • การ​โต้​แย้ง​เรื่อง​พระเจ้า​ที่​เป็น​บุคคล
  • เรียน​รู้​จาก​ฝี​พระ​หัตถ์​ของ​พระองค์
  • ยุติธรรม​และ​ไม่​ลำเอียง
  • มา​รู้​จัก​พระ​ผู้​สร้าง
  • วัฏจักรที่ค้ำจุนชีวิต
    ตื่นเถิด! 2009
  • ดาว​เคราะห์​ที่​มี​ชีวิต
    มีใครสร้างสิ่งมีชีวิตไหม?
  • พระผู้สร้างของคุณ จงเรียนรู้ว่าพระองค์ทรงมีลักษณะเช่นไร
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 1999
  • การเรียนรู้ถึงสิ่งที่คุณไม่สามารถจะมองเห็นได้
    ความสุข—จะพบได้อย่างไร?
ดูเพิ่มเติม
พระผู้สร้างผู้ใฝ่พระทัยในตัวคุณมีไหม?
ผส บท 5 น. 73-84

บท​ห้า

ผล​งาน—เกิด​จาก​อะไร?

ดัง​ที่​กล่าว​ไว้​ใน​บท​ก่อน ๆ การ​ค้น​พบ​ทาง​วิทยาศาสตร์​สมัย​ใหม่​ให้​หลักฐาน​ที่​น่า​เชื่อ​มาก​มาย​ที่​ว่า​ทั้ง​เอกภพ​และ​ชีวิต​บน​โลก​มี​จุด​เริ่ม​ต้น. อะไร​ก่อ​ให้​เกิด​การ​เริ่ม​ต้น​นั้น?

หลัง​จาก​ได้​ศึกษา​หลักฐาน​ที่​มี​อยู่ หลาย​คน​สรุป​ว่า​จะ​ต้อง​มี​ต้น​เหตุ​แรก​แห่ง​สิ่ง​ทั้ง​หลาย. กระนั้น พวก​เขา​เลี่ยง​ที่​จะ​ยอม​รับ​ว่า​ต้น​เหตุ​นี้​เป็น​บุคคล. การ​ไม่​เต็ม​ใจ​ที่​จะ​พูด​ถึง​พระ​ผู้​สร้าง​เช่น​นั้น​สะท้อน​ให้​เห็น​ใน​ทัศนะ​ของ​นัก​วิทยาศาสตร์​บาง​คน.

เพื่อ​เป็น​ตัว​อย่าง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์​เชื่อ​ว่า​เอกภพ​มี​จุด​เริ่ม​ต้น และ​เขา​แสดง​ความ​ปรารถนา​ที่ “จะ​รู้​ว่า​พระเจ้า​ทรง​สร้าง​โลก​อย่าง​ไร.” กระนั้น ไอน์สไตน์​ไม่​ยอม​รับ​ว่า​เชื่อ​ใน​พระเจ้า​ที่​เป็น​บุคคล; เขา​พูด​เกี่ยว​กับ “ความ​รู้สึก​ทาง​ศาสนา [ใน​ระดับ​เอกภพ] ซึ่ง​ไม่​รู้​หลัก​คำ​สอน​ใด ๆ และ​ไม่​มี​แนว​คิด​เกี่ยว​กับ​พระเจ้า​ซึ่ง​มี​ลักษณะ​อย่าง​มนุษย์.” ใน​ทำนอง​คล้าย​กัน เคนอิชิ ฟูกูอิ นัก​เคมี​ผู้​ได้​รับ​รางวัล​โนเบล​แสดง​ความ​เชื่อ​ใน​โครง​สร้าง​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​แห่ง​เอกภพ. เขา​กล่าว​ว่า “ความ​เกี่ยว​พัน​กัน​และ​โครง​สร้าง​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​นี้​อาจ​พรรณนา​ออก​มา​ใน​คำ​พูด​เช่น ‘อำนาจ​เด็ดขาด’ หรือ ‘พระเจ้า’” แต่​เขา​เรียก​ความ​เกี่ยว​พัน​นั้น​ว่า “ลักษณะ​ที่​แปลก​ของ​ธรรมชาติ.”

คุณ​ทราบ​ไหม​ว่า​ความ​เชื่อ​เช่น​นั้น​ใน​เรื่อง​ต้น​กำเนิด​ที่​ไม่​เป็น​บุคคล​คล้าย​กัน​กับ​หลาย​แนว​คิด​ทาง​ศาสนา​ของ​ทาง​ตะวัน​ออก? ชาว​ตะวัน​ออก​หลาย​คน​เชื่อ​ว่า​ธรรมชาติ​เกิด​ขึ้น​เอง. แนว​คิด​นี้​ถึง​กับ​แสดง​ออก​มา​ใน​ตัว​อักษร​ภาษา​จีน​ที่​ใช้​หมาย​ถึง​ธรรมชาติ ซึ่ง​มี​ความหมาย​ตาม​ตัว​อักษร​ว่า “เกิด​ขึ้น​เอง” หรือ “มี​อยู่​เอง.” ไอน์สไตน์​เชื่อ​ว่า​ความ​รู้สึก​ทาง​ศาสนา​ใน​ระดับ​เอกภพ​ของ​เขา​มี​การ​อธิบาย​อย่าง​ดี​ใน​ศาสนา​พุทธ. พระ​พุทธเจ้า​ถือ​ว่า​ไม่​สำคัญ​ที่​ว่า​มี​พระ​ผู้​สร้าง​ซึ่ง​มี​ส่วน​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​กำเนิด​เอกภพ​และ​มนุษย์​หรือ​ไม่. คล้าย​กัน ศาสนา​ชินโต​ไม่​มี​คำ​อธิบาย​ว่า​ธรรมชาติ​เกิด​ขึ้น​อย่าง​ไร และ​ผู้​ที่​นับถือ​ชินโต​เชื่อ​ว่า​เหล่า​เทพเจ้า​เป็น​วิญญาณ​ของ​ผู้​ตาย​ที่​อาจ​กลาย​เป็น​ส่วน​ของ​ธรรมชาติ.

น่า​สนใจ ความ​คิด​แบบ​นี้​แทบ​ไม่​ต่าง​กับ​ทัศนะ​อัน​เป็น​ที่​นิยม​ใน​กรีซ​โบราณ. กล่าว​กัน​ว่า นัก​ปรัชญา​เอพิคิวรุส (ปี 341-270 ก.ส.ศ.) เชื่อ​ว่า ‘พระเจ้า​ทั้ง​หลาย​อยู่​ไกล​เกิน​กว่า​ที่​จะ​ทำ​อะไร ๆ ที่​มี​ผล​กระทบ​ต่อ​มนุษย์​ได้.’ เขา​เชื่อ​ว่า​มนุษย์​เป็น​ผลิตผล​จาก​ธรรมชาติ อาจ​เกิด​จาก​การ​กำเนิด​ขึ้น​เอง​และ​การ​คัดเลือก​ตัว​ที่​แข็งแรง​ที่​สุด​ตาม​ธรรมชาติ. คุณ​อาจ​รู้​จาก​เรื่อง​นี้​ว่า​แนว​ความ​คิด​คล้าย ๆ กัน​นั้น​ใน​ปัจจุบัน​ไม่​ใช่​เรื่อง​ใหม่​เลย.

ใน​ยุค​เดียว​กัน​กับ​พวก​เอพิคิวรุส​ก็​คือ​พวก​สโตอิก​กรีก ซึ่ง​ถือ​ว่า​ธรรมชาติ​คือ​พระเจ้า. พวก​เขา​เชื่อ​ว่า​เมื่อ​มนุษย์​เสีย​ชีวิต พลังงาน​ที่​ไม่​เป็น​บุคคล​จาก​ตัว​คน​ตาย​จะ​ถูก​ดูด​เข้า​ไป​ใน​แหล่ง​พลังงาน​มาก​มาย​มหาศาล​ที่​ประกอบ​กัน​เป็น​พระเจ้า. พวก​เขา​เชื่อ​ว่า​การ​ประสาน​กับ​กฎ​ธรรมชาติ​เป็น​ความ​ดี​ที่​สูง​ส่ง​ที่​สุด. คุณ​ได้​ยิน​ทัศนะ​คล้าย ๆ กัน​นี้​ใน​สมัย​ของ​เรา​ไหม?

การ​โต้​แย้ง​เรื่อง​พระเจ้า​ที่​เป็น​บุคคล

ถึง​อย่าง​ไร​ก็​ดี เรา​ไม่​ควร​ปฏิเสธ​ข้อมูล​ทุก​อย่าง​จาก​กรีซ​โบราณ​ว่า​เป็น​เพียง​ประวัติศาสตร์​ที่​ดู​แปลก. อาจารย์​ท่าน​หนึ่ง​ที่​มี​ชื่อเสียง​ใน​ศตวรรษ​แรก​ได้​ให้​คำ​บรรยาย​ที่​สำคัญ​ที่​สุด​เรื่อง​หนึ่ง​ใน​ประวัติศาสตร์​เกี่ยว​กับ​ความ​เชื่อ​ดัง​กล่าว. ลูกา นาย​แพทย์​และ​นัก​ประวัติศาสตร์​ได้​บันทึก​คำ​บรรยาย​นั้น​ไว้ และ​เรา​พบ​ได้​ที่​บท 17 ใน​พระ​ธรรม​กิจการ​ของ​อัครสาวก. คำ​บรรยาย​นี้​อาจ​ช่วย​เรา​ให้​แก้​แนว​คิด​ของ​เรา​เรื่อง​ต้น​เหตุ​แรก​แห่ง​สิ่ง​ทั้ง​หลาย​และ​ช่วย​ให้​เข้าใจ​ฐานะ​ของ​เรา​ต่อ​ต้น​เหตุ​แรก​นี้. กระนั้น คำ​บรรยาย​ที่​มี​เมื่อ 1,900 ปี​มา​แล้ว​จะ​มี​ผล​กระทบ​ต่อ​ชีวิต​ของ​ผู้​คน​ใน​สมัย​นี้​ได้​อย่าง​ไร​ขณะ​ที่​บุคคล​ที่​จริง​ใจ​เสาะ​หา​ความหมาย​ของ​ชีวิต?

อาจารย์​ที่​มี​ชื่อเสียง​คน​นั้น​คือ​เปาโล ท่าน​ถูก​เรียก​ตัว​ไป​ที่​ศาล​สูง​ใน​กรุง​เอเธนส์. ที่​นั่น​ท่าน​พบ​พวก​เอพิคิวรุส​และ​พวก​สโตอิก ซึ่ง​ไม่​เชื่อ​ใน​เรื่อง​พระเจ้า​ที่​เป็น​บุคคล. ใน​ถ้อย​คำ​เริ่ม​ต้น​เปาโล​กล่าว​ว่า ท่าน​ได้​เห็น​แท่น​บูชา​หนึ่ง​ใน​เมือง​ของ​พวก​เขา​ที่​มี​คำ​จารึก​ว่า “สำหรับ​พระเจ้า​ที่​ไม่​รู้​จัก” (ภาษา​กรีก อากโนʹ สตอย เธออยʹ). น่า​สนใจ บาง​คน​คิด​ว่า​นัก​ชีววิทยา โทมัส เอช. ฮักซ์ลีย์ (ปี 1825-1895) อ้าง​ถึง​คำ​นั้น​เมื่อ​เขา​คิด​คำ “agnostic” (อไญยนิยม) ขึ้น​มา. ฮักซ์ลีย์​ใช้​คำ​นี้​กับ​คน​ที่​เชื่อ​ว่า “ต้น​กำเนิด (พระเจ้า) และ​ลักษณะ​แก่น​แท้​ของ​สิ่ง​ต่าง ๆ ไม่​มี​ใคร​รู้​หรือ​ไม่​มี​ทาง​รู้​จัก​ได้.” แต่​พระ​ผู้​สร้าง​เป็น​ผู้​ที่ “ไม่​มี​ทาง​รู้​จัก​ได้” ดัง​ที่​หลาย​คน​เชื่อ​ไหม?

พูด​ตาม​ตรง​แล้ว นั่น​เป็น​การ​ใช้​คำ​พูด​ของ​เปาโล​อย่าง​ผิด ๆ; นั่น​ไม่​ใช่​ประเด็น​ที่​เปาโล​กำลัง​พูด. แทน​ที่​จะ​บอก​ว่า​พระ​ผู้​สร้าง​เป็น​ผู้​ที่​ไม่​มี​ทาง​รู้​จัก​ได้ เปาโล​เพียง​แต่​พูด​ว่า​พระองค์​ไม่​เป็น​ที่​รู้​จัก​แก่​ชาว​เอเธนส์​เหล่า​นั้น. เปาโล​ไม่​ได้​มี​หลักฐาน​ทาง​วิทยาศาสตร์​เกี่ยว​กับ​ความ​เป็น​อยู่​ของ​พระ​ผู้​สร้าง​มาก​เท่า​ที่​เรา​มี​ใน​สมัย​นี้. กระนั้น เปาโล​ก็​ไม่​มี​ข้อ​สงสัย​ใด ๆ ว่า​มี​บุคคล ผู้​ออก​แบบ​ที่​มี​เชาวน์​ปัญญา​ซึ่ง​มี​คุณลักษณะ​ที่​น่า​จะ​ดึงดูด​เรา​เข้า​หา​พระองค์. โปรด​สังเกต​สิ่ง​ที่​เปาโล​กล่าว​ดัง​นี้:

“สิ่ง​ซึ่ง​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ถวาย​ความ​เลื่อมใส​โดย​ไม่​รู้ นั่น​แหละ​ที่​ข้าพเจ้า​ประกาศ​ให้​ท่าน​ทราบ. พระเจ้า​ซึ่ง​ทรง​สร้าง​โลก​และ​สิ่ง​สารพัด​ใน​โลก พระองค์​ผู้​นี้​แหละ​ทรง​เป็น​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​แห่ง​ฟ้า​สวรรค์​และ​แผ่นดิน​โลก มิ​ได้​ทรง​สถิต​อยู่​ใน​โบสถ์​วิหาร​ที่​ทำ​ด้วย​มือ ทั้ง​พระองค์​ไม่​ได้​รับ​การ​รับใช้​ด้วย​มือ​มนุษย์​เสมือน​ว่า​พระองค์​ขาด​สิ่ง​หนึ่ง​สิ่ง​ใด เพราะ​พระองค์​เอง​ทรง​ประทาน​ชีวิต​และ​ลม​หายใจ​และ​สิ่ง​สารพัด​แก่​คน​ทั้ง​ปวง. และ​พระองค์​ได้​ทรง​สร้าง​มนุษย์​ทุก​ชาติ​จาก​คน ๆ เดียว เพื่อ​อาศัย​อยู่​ตลอด​ทั่ว​พื้น​แผ่นดิน.” (กิจการ 17:23-26, ล.ม.) เป็น​แนว​การ​หา​เหตุ​ผล​ที่​น่า​สนใจ​มิ​ใช่​หรือ?

ถูก​แล้ว แทน​ที่​จะ​บอก​ว่า พระเจ้า​เป็น​ผู้​ที่​ไม่​มี​ทาง​รู้​จัก​ได้ เปาโล​กำลัง​เน้น​ว่า​คน​ที่​ทำ​แท่น​บูชา​ใน​กรุง​เอเธนส์ รวม​ทั้ง​หลาย​คน​ใน​หมู่​ผู้​ฟัง​ของ​ท่าน ยัง​ไม่​รู้​จัก​พระองค์. ตอน​นั้น​เปาโล​กระตุ้น​พวก​เขา—และ​ทุก​คน​ที่​ได้​อ่าน​คำ​บรรยาย​ของ​ท่าน​ตั้ง​แต่​นั้น​มา—ให้​หา​ทาง​รู้​จัก​พระ​ผู้​สร้าง เพราะ “พระองค์​มิ​ได้​ทรง​อยู่​ห่าง​ไกล​จาก​พวก​เรา​แต่​ละ​คน.” (กิจการ 17:27, ล.ม.) คุณ​เห็น​ได้​ว่า​เปาโล​เสนอ​ความ​จริง​อย่าง​ผ่อน​หนัก​ผ่อน​เบา​ที่​ว่า​เรา​สามารถ​เห็น​หลักฐาน​ว่า​มี​พระ​ผู้​สร้าง​สิ่ง​ต่าง ๆ โดย​สังเกต​สิ่ง​ที่​พระองค์​ทรง​สร้าง. โดย​การ​ทำ​อย่าง​นั้น เรา​สามารถ​มอง​เห็น​คุณลักษณะ​บาง​ประการ​ของ​พระองค์​อีก​ด้วย.เรา​ได้​พิจารณา​หลักฐาน​หลาย​ประการ​ที่​ชี้​ว่า​มี​พระ​ผู้​สร้าง. หลักฐาน​หนึ่ง​คือ​เอกภพ​อัน​กว้าง​ใหญ่​ที่​มี​การ​จัด​ระเบียบ​ด้วย​สติ​ปัญญา​อัน​สูง​ส่ง ซึ่ง​เห็น​ได้​ชัด​ว่า​มี​จุด​เริ่ม​ต้น. หลักฐาน​อีก​ประการ​หนึ่ง​คือ​ชีวิต​บน​แผ่นดิน​โลก รวม​ทั้ง​เซลล์​ใน​ร่าง​กาย​ของ​เรา​ซึ่ง​แสดง​ถึง​การ​ออก​แบบ. และ​ประการ​ที่​สาม​คือ​สมอง​ของ​เรา พร้อม​ด้วย​ความ​สำนึก​รู้​จัก​ตัว​เอง​และ​ความ​สนใจ​ใน​อนาคต. แต่​ขอ​ให้​เรา​พิจารณา​อีก​สอง​ตัว​อย่าง​อัน​เกี่ยว​กับ​ฝี​พระ​หัตถ์​ของ​พระ​ผู้​สร้าง​ซึ่ง​ส่ง​ผล​กระทบ​พวก​เรา​ใน​แต่​ละ​วัน. ขณะ​ที่​พิจารณา ให้​ถาม​ตัว​คุณ​เอง​ว่า ‘สิ่ง​นี้​แสดง​ให้​ฉัน​เห็น​อย่าง​ไร​เกี่ยว​กับ​บุคลิกภาพ​ของ​ผู้​ออก​แบบ​และ​จัด​เตรียม​สิ่ง​เหล่า​นี้?’

เรียน​รู้​จาก​ฝี​พระ​หัตถ์​ของ​พระองค์

เพียง​แต่​สังเกต​สิ่ง​ทรง​สร้าง​ก็​บอก​เรา​ได้​มาก​เกี่ยว​กับ​พระ​ผู้​สร้าง. ใน​อีก​โอกาส​หนึ่ง เปาโล​กล่าว​ถึง​ตัว​อย่าง​หนึ่ง​ใน​เรื่อง​นี้​เมื่อ​ท่าน​บอก​ฝูง​ชน​ใน​เอเชีย​น้อย​ว่า “ใน​กาล​ก่อน​พระองค์ [พระ​ผู้​สร้าง] ได้​ทรง​ยอม​ให้​ชาว​ประเทศ​ทั้ง​ปวง​ประพฤติ​ตาม​ชอบ​ใจ​ของ​ตน แต่​พระองค์​ไม่​ได้​ขาด​พยาน, คือ​พระองค์​ได้​ทรง​กระทำ​คุณ​ให้​ฝน​ตก​และ​ให้​มี​ฤดู​เกิด​ผล, ท่าน​ทั้ง​หลาย​จึง​อิ่ม​ใจ​ยินดี​ด้วย​อาหาร​นั้น.” (กิจการ 14:16, 17) โปรด​สังเกต​ตัว​อย่าง​ที่​เปาโล​ยก​ขึ้น​มา​เกี่ยว​กับ​วิธี​ที่​พระ​ผู้​สร้าง​ได้​ให้​คำ​พยาน​ถึง​บุคลิกภาพ​ของ​พระองค์​โดย​การ​จัด​อาหาร​ให้​มนุษยชาติ.

สมัย​นี้​ใน​บาง​ประเทศ ผู้​คน​อาจ​ถือ​ว่า​การ​มี​อาหาร​เป็น​เรื่อง​ธรรมดา. แต่​ใน​ที่​อื่น ๆ หลาย​คน​ต้อง​ดิ้นรน​หา​อาหาร​ให้​พอ​กิน. ไม่​ว่า​จะ​กรณี​ใด​ก็​ตาม การ​มี​อาหาร​ใด ๆ ที่​บำรุง​ร่าง​กาย​ล้วน​ขึ้น​อยู่​กับ​สติ​ปัญญา​และ​ความ​ดี​ของ​พระ​ผู้​สร้าง​ของ​เรา.

อาหาร​สำหรับ​ทั้ง​มนุษย์​และ​สัตว์​เป็น​ผล​มา​จาก​วัฏจักร​ต่าง ๆ อัน​ซับซ้อน—รวม​ถึง​วัฏจักร​ของ​น้ำ, วัฏจักร​ของ​คาร์บอน, วัฏจักร​ของ​ฟอสฟอรัส, และ​วัฏจักร​ของ​ไนโตรเจน. เป็น​ที่​รู้​กัน​ทั่ว​ไป​ว่า ใน​กระบวนการ​สังเคราะห์​แสง​ที่​มี​ความ​สำคัญ​ยิ่ง​ต่อ​ชีวิต พืช​ใช้​คาร์บอนไดออกไซด์​และ​น้ำ​เป็น​วัตถุ​ดิบ​เพื่อ​ผลิต​น้ำตาล โดย​ใช้​แสง​อาทิตย์​เป็น​แหล่ง​พลังงาน. อนึ่ง ระหว่าง​การ​สังเคราะห์​แสง​พืช​ปล่อย​ออกซิเจน​ออก​มา. ก๊าซ​นี้​ถูก​เรียก​ว่า “ของ​เสีย” ได้​ไหม? สำหรับ​พวก​เรา ผล​พลอยได้​นี้​ไม่​ใช่​ของ​เสีย​แน่ ๆ. เป็น​สิ่ง​สำคัญ​ที่​เรา​จะ​หายใจ​เอา​ออกซิเจน​เข้า​ไป​และ​ใช้​ใน​การ​เปลี่ยน​แปลง​หรือ​เผา​ผลาญ​อาหาร​ใน​ร่าง​กาย​ของ​เรา. เรา​ปล่อย​คาร์บอนไดออกไซด์​ที่​เป็น​ผลิตผล​ออก​มา ซึ่ง​พืช​นำ​กลับ​มา​ใช้​ใหม่​เป็น​วัตถุ​ดิบ​สำหรับ​การ​สังเคราะห์​แสง. เรา​อาจ​ได้​เรียน​เกี่ยว​กับ​กระบวนการ​นี้​ใน​ชั้น​เรียน​วิทยาศาสตร์​เบื้อง​ต้น แต่​นี่​ไม่​ได้​ทำ​ให้​กระบวนการ​นี้​ด้อย​ความ​สำคัญ​และ​น่า​พิศวง​น้อย​ลง​เลย. และ​นี่​เป็น​เพียง​การ​เริ่ม​ต้น​เท่า​นั้น.

ใน​เซลล์​ใน​ร่าง​กาย​ของ​เรา​และ​ของ​สัตว์ ฟอสฟอรัส​เป็น​สิ่ง​จำเป็น​เพื่อ​นำ​ส่ง​พลังงาน. เรา​ได้​ฟอสฟอรัส​มา​จาก​ไหน? นี่​ก็​มา​จาก​พืช​เช่น​กัน. พืช​ดูด​ซึม​ฟอสเฟต​แบบ​อนินทรีย์​จาก​ดิน​และ​เปลี่ยน​เป็น​ฟอสเฟต​แบบ​อินทรีย์. เรา​บริโภค​พืช​ที่​มี​ฟอสฟอรัส​เข้า​ไป​ใน​รูป​ของ​อินทรีย์​และ​ใช้​ใน​กิจกรรม​ที่​จำเป็น​ต่อ​ชีวิต. หลัง​จาก​นั้น ฟอสฟอรัส​ก็​กลับ​สู่​ดิน​ใน​รูป “ของ​เสีย” จาก​ร่าง​กาย​ซึ่ง​พืช​สามารถ​ดูด​ซึม​เข้า​ไป​ได้​อีก.

นอก​จาก​นี้ เรา​จำ​ต้อง​มี​ไนโตรเจน ซึ่ง​เป็น​ส่วน​ของ​โมเลกุล​โปรตีน​และ​ดีเอ็นเอ​ทุก​ตัว​ใน​ร่าง​กาย​ของ​เรา. เรา​ได้​รับ​ธาตุ​นี้​ที่​สำคัญ​มาก​ต่อ​ชีวิต​จาก​ที่​ไหน? ถึง​แม้​ว่า​ประมาณ 78 เปอร์เซ็นต์​ของ​อากาศ​รอบ​ตัว​เรา​เป็น​ไนโตรเจน แต่​ทั้ง​พืช​และ​สัตว์​ก็​ไม่​สามารถ​ดูด​ซึม​มัน​โดย​ตรง​ได้. ดัง​นั้น ไนโตรเจน​ใน​อากาศ​จะ​ต้อง​ถูก​เปลี่ยน​รูป​ก่อน​ที่​พืช​จะ​สามารถ​ดูด​ซึม​ได้​แล้ว​มนุษย์​และ​สัตว์​ถึง​จะ​ใช้​ประโยชน์​ได้. การ​เปลี่ยน​ไนโตรเจน​ใน​อากาศ​ให้​เป็น​ไนเตรต​นี้​เกิด​ขึ้น​ได้​อย่าง​ไร? ใน​หลาย ๆ วิธี​ด้วย​กัน. วิธี​หนึ่ง​คือ​โดย​ฟ้า​แลบ​ฟ้า​ผ่า.a การ​เปลี่ยน​ไนโตรเจน​เกิด​ขึ้น​โดย​แบคทีเรีย​ที่​อาศัย​ใน​ปม​ของ​ราก​พืช​ตระกูล​ถั่ว​ด้วย เช่น​ถั่ว​ลันเตา, ถั่ว​เหลือง, และ​แอลแฟลฟา. แบคทีเรีย​เหล่า​นี้​เปลี่ยน​ไนโตรเจน​ใน​อากาศ​เป็น​สาร​ที่​พืช​ใช้​ประโยชน์​ได้. ใน​วิธี​นี้ เมื่อ​คุณ​รับประทาน​ผัก​ใบ​เขียว คุณ​ก็​รับประทาน​ไนโตรเจน​เข้า​ไป ซึ่ง​เป็น​สาร​ที่​ร่าง​กาย​ของ​คุณ​ต้อง​มี​เพื่อ​ผลิต​โปรตีน. น่า​ทึ่ง เรา​พบ​พืช​ตระกูล​ถั่ว​ใน​ป่า​ดิบ​ชื้น, ใน​ทะเล​ทราย, และ​แม้​แต่​ใน​เขต​ทุนดรา. และ​ถ้า​บริเวณ​หนึ่ง​ถูก​ไฟ​ไหม้​ไป ปกติ​แล้ว​พืช​ตระกูล​ถั่ว​จะ​เป็น​พืช​ชนิด​แรก​ที่​งอก​ขึ้น​ใหม่.

กระบวนการ​รีไซเคิล​เหล่า​นี้​น่า​ทึ่ง​จริง ๆ! แต่​ละ​วัฏจักร​ใช้​ประโยชน์​จาก​ของ​เสีย​จาก​วัฏจักร​อื่น ๆ. พลังงาน​ที่​ต้องการ​ก็​มา​จาก​ดวง​อาทิตย์​เสีย​ส่วน​ใหญ่—ซึ่ง​เป็น​แหล่ง​ที่​สะอาด, ไม่​มี​วัน​หมด, และ​สม่ำเสมอ. ช่าง​แตกต่าง​เสีย​จริง​กับ​ความ​พยายาม​ของ​มนุษย์​ที่​จะ​นำ​ทรัพยากร​กลับ​มา​ใช้​ใหม่! แม้​แต่​ผลิตภัณฑ์​ที่​มนุษย์​ประดิษฐ์​ขึ้น​ที่​เรียก​ว่า​ไม่​ทำลาย​สิ่ง​แวด​ล้อม​อาจ​ไม่​ได้​ช่วย​ให้​มี​ดาว​เคราะห์​ที่​สะอาด​ขึ้น​เนื่อง​จาก​ความ​ซับซ้อน​ของ​ระบบ​รีไซเคิล​ของ​มนุษย์. ใน​เรื่อง​นี้​ยู.เอส. นิวส์ แอนด์ เวิลด์ รีพอร์ต ชี้​ว่า ผลิตภัณฑ์​ต่าง ๆ ควร​จะ​ถูก​ออก​แบบ​ให้​ส่วน​ประกอบ​ที่​มี​คุณค่า​สูง​สามารถ​นำ​กลับ​มา​ใช้​ใหม่​ได้​ง่าย ๆ. นั่น​เป็น​สิ่ง​ที่​เรา​เห็น​ใน​วัฏจักร​ของ​ธรรมชาติ​มิ​ใช่​หรือ? ดัง​นั้น นี่​เผย​อะไร​เกี่ยว​กับ​วิสัย​ทัศน์​และ​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​ผู้​สร้าง?

ยุติธรรม​และ​ไม่​ลำเอียง

เพื่อ​ช่วย​เรา​ให้​เข้าใจ​มาก​ขึ้น​เกี่ยว​กับ​คุณลักษณะ​บาง​อย่าง​ของ​พระ​ผู้​สร้าง ขอ​ให้​เรา​พิจารณา​อีก​ระบบ​หนึ่ง—ระบบ​ภูมิ​คุ้ม​กัน​ใน​ร่าง​กาย​ของ​เรา. ระบบ​นี้​เกี่ยว​ข้อง​กับ​แบคทีเรีย​ด้วย.

สารานุกรม​บริแทนนิกา​ฉบับ​ใหม่ (ภาษา​อังกฤษ) กล่าว​ว่า “แม้​ว่า​ความ​สนใจ​ของ​มนุษย์​ใน​แบคทีเรีย​มัก​จะ​เพ่งเล็ง​ใน​เรื่อง​ผล​เสีย​ของ​มัน แต่​แบคทีเรีย​ส่วน​ใหญ่​ไม่​มี​พิษ​ภัย​ใด ๆ ต่อ​มนุษย์ และ​ที่​แท้​หลาย​ชนิด​เป็น​ประโยชน์.” อัน​ที่​จริง มัน​มี​ความ​สำคัญ​ถึง​ความ​เป็น​ความ​ตาย​ที​เดียว. แบคทีเรีย​มี​บทบาท​สำคัญ​ใน​วัฏจักร​ไนโตรเจน​ดัง​ที่​เพิ่ง​กล่าว​ไป เช่น​เดียว​กับ​วัฏจักร​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​คาร์บอนไดออกไซด์​และ​ธาตุ​บาง​อย่าง. และ​เรา​ต้องการ​แบคทีเรีย​ใน​ระบบ​ย่อย​อาหาร​ของ​เรา​ด้วย. เรา​มี​แบคทีเรีย​ประมาณ 400 ชนิด​เฉพาะ​ใน​ระบบ​ลำไส้​ใหญ่ และ​มัน​ช่วย​สังเคราะห์​วิตามิน เค และ​ช่วย​ใน​กระบวนการ​ขับ​ถ่าย​ของ​เสีย. นอก​จาก​นั้น แบคทีเรีย​เป็น​ประโยชน์​ต่อ​เรา​โดย​ช่วย​โค​ย่อย​หญ้า​เพื่อ​ผลิต​นม. แบคทีเรีย​ชนิด​อื่น ๆ สำคัญ​ใน​การ​หมัก—ใน​การ​ทำ​เนย​แข็ง, นม​เปรี้ยว, ผัก​ดอง, เซาเวอร์เคราท์, และ​กิมจิ. กระนั้น ถ้า​หาก​ว่า​แบคทีเรีย​เข้า​ไป​ใน​ที่​ที่​ไม่​ควร​ไป​อยู่​ใน​ร่าง​กาย​ของ​เรา​ล่ะ?

เมื่อ​นั้น​เซลล์​เม็ด​เลือด​ขาว​สอง​ล้าน​ล้าน​เซลล์​ใน​ร่าง​กาย​จะ​ต่อ​สู้​กับ​แบคทีเรีย​ที่​อาจ​เป็น​อันตราย​ต่อ​เรา. แดเนียล อี. คอชแลนด์ จูเนียร์ บรรณาธิการ​วารสาร​ไซเยนซ์ อธิบาย​ว่า “ระบบ​ภูมิ​คุ้ม​กัน​ถูก​ออก​แบบ​เพื่อ​ให้​ตรวจ​จับ​ผู้​บุกรุก​ที่​แปลกปลอม. มัน​ทำ​อย่าง​นี้​โดย​สร้าง​หน่วย​รับ​ทาง​ระบบ​ภูมิ​คุ้ม​กัน​ชนิด​ต่าง ๆ กัน 1011 [100,000,000,000] ชนิด​เพื่อ​ที่​ไม่​ว่า​ผู้​บุกรุก​ที่​แปลกปลอม​จะ​มี​รูป​แบบ​อย่าง​ไร​ก็​จะ​มี​หน่วย​รับ​อยู่​พร้อม​จะ​ช่วย​กัน​ตรวจ​จับ​และ​ทำลาย​เสีย.”

เซลล์​ชนิด​หนึ่ง​ที่​ร่าง​กาย​ของ​เรา​ใช้​เพื่อ​สู้​กับ​ผู้​บุกรุก​ที่​แปลกปลอม​คือ​มาโครเฟจ ชื่อ​ของ​มัน​หมายความ​ว่า “ตัว​กิน​จุ” ซึ่ง​เหมาะ​สม​เพราะ​ว่า​มัน​กลืน​กิน​สาร​แปลกปลอม​ใน​เลือด​ของ​เรา. ยก​ตัว​อย่าง หลัง​จาก​กิน​ไวรัส​ที่​บุกรุก​แล้ว มาโครเฟจ​ทำ​ให้​ไวรัส​แตก​เป็น​ชิ้น​เล็ก​ชิ้น​น้อย. แล้ว​มัน​ก็​จะ​แสดง​โปรตีน​บาง​ตัว​จาก​ไวรัส​นั้น. ชิ้น​ส่วน​โปรตีน​ทำ​หน้า​ที่​เป็น​ธง​สัญญาณ​เตือน​ระบบ​ภูมิ​คุ้ม​กัน ส่ง​เสียง​เตือน​ว่า​มี​สิ่ง​มี​ชีวิต​แปลกปลอม​อยู่​ใน​ร่าง​กาย​เรา. ถ้า​เซลล์​อีก​เซลล์​หนึ่ง​ใน​ระบบ​ภูมิ​คุ้ม​กัน คือ​ที​เซลล์​ผู้​ช่วย รับ​รู้​ว่า​มี​โปรตีน​ของ​ไวรัส มัน​ก็​จะ​แลก​เปลี่ยน​สัญญาณ​เคมี​กับ​มาโครเฟจ. สาร​เคมี​เหล่า​นี้​ใน​ตัว​มัน​เอง​เป็น​โปรตีน​พิเศษ​ที่​มี​หน้า​ที่​ซับซ้อน​หลาย​อย่าง กำหนด​และ​กระตุ้น​ระบบ​ภูมิ​คุ้ม​กัน​ให้​ตอบ​สนอง​ต่อ​การ​บุกรุก. กระบวนการ​นี้​ยัง​ผล​ให้​มี​การ​ต่อ​สู้​กัน​อย่าง​หนัก​กับ​ไวรัส​นั้น​โดย​เฉพาะ. โดย​วิธี​นี้ ตาม​ปกติ​แล้ว​เรา​จึง​เอา​ชนะ​การ​ติด​เชื้อ​ได้.

ที่​จริง มี​อีก​มาก​ที่​เกี่ยว​ข้อง แต่​แม้​แต่​การ​อธิบาย​สั้น ๆ นี้​ก็​เผย​ให้​เห็น​ความ​ซับซ้อน​ของ​ระบบ​ภูมิ​คุ้ม​กัน​ของ​เรา. เรา​ได้​กลไก​อัน​สลับ​ซับซ้อน​นี้​มา​จาก​ไหน? เรา​ได้​มา​ฟรี ๆ ไม่​ว่า​สถานะ​ทาง​เศรษฐกิจ​หรือ​ทาง​สังคม​ของ​ครอบครัว​เรา​จะ​เป็น​อย่าง​ไร. ลอง​เทียบ​เรื่อง​นี้​กับ​ความ​ไม่​ยุติธรรม​ใน​เรื่อง​การ​รักษา​พยาบาล​ที่​ผู้​คน​ส่วน​ใหญ่​ได้​รับ. ดร. ฮิโรชิ นากาจิมา ผู้​อำนวย​การ​องค์การ​อนามัย​โลก​เขียน​ว่า “สำหรับ​องค์การ​อนามัย​โลก การ​เพิ่ม​ขึ้น​ของ​ความ​ไม่​ยุติธรรม​ใน​การ​รักษา​พยาบาล​เป็น​เรื่อง​ความ​เป็น​ความ​ตาย​จริง ๆ เนื่อง​จาก​คน​จน​ไม่​ได้​รับ​การ​รักษา​เพราะ​ความ​เหลื่อม​ล้ำ​ทาง​สังคม.” คุณ​สามารถ​เข้าใจ​ได้​เมื่อ​ชาว​สลัม​ผู้​หนึ่ง​ใน​เมือง​เซาเปาลู​โอด​ครวญ​ว่า “สำหรับ​พวก​เรา การ​รักษา​พยาบาล​ที่​ดี​เป็น​เหมือน​กับ​สิ่ง​ของ​ที่​อยู่​ใน​ตู้​โชว์​ใน​ห้าง​สรรพ​สินค้า​อัน​หรูหรา. เรา​ได้​แต่​ดู แต่​ไม่​มี​ปัญญา​ซื้อ.” ผู้​คน​หลาย​ล้าน​คน​ทั่ว​โลก​รู้สึก​อย่าง​เดียว​กัน.

ความ​ไม่​เท่า​เทียม​กัน​ดัง​กล่าว​กระตุ้น​อัลเบิร์ต ชไวต์เซอร์​ให้​ไป​ยัง​แอฟริกา​เพื่อ​รักษา​โรค​ให้​คน​จน และ​ความ​พยายาม​ของ​เขา​ทำ​ให้​เขา​ได้​รับ​รางวัล​โนเบล. คุณ​คิด​ว่า​ชาย​หญิง​ที่​ทำ​ความ​ดี​คล้าย ๆ กัน​นี้​มี​คุณลักษณะ​อะไร? คุณ​คง​จะ​มอง​ออก​ว่า​พวก​เขา​มี​ความ​รัก​ต่อ​มนุษยชาติ​และ​มี​ความ​สำนึก​ใน​ความ​ยุติธรรม ตระหนัก​ว่า​ผู้​คน​ใน​ประเทศ​กำลัง​พัฒนา​ก็​สม​ควร​ได้​รับ​การ​รักษา​พยาบาล​เช่น​กัน. แล้ว​จะ​ว่า​อย่าง​ไร​กับ​ผู้​จัด​เตรียม​ระบบ​ภูมิ​คุ้ม​กัน​อัน​มหัศจรรย์​ที่​อยู่​ใน​ตัว​เรา​ไม่​ว่า​ฐานะ​ทาง​เศรษฐกิจ​และ​สังคม​จะ​เป็น​อย่าง​ไร? นั่น​ยิ่ง​แสดง​ให้​เห็น​อย่าง​โดด​เด่น​มิ​ใช่​หรือ​ว่า​พระ​ผู้​สร้าง​มี​ความ​สำนึก​ใน​ความ​รัก, ความ​ไม่​ลำเอียง, และ​ความ​ยุติธรรม?

มา​รู้​จัก​พระ​ผู้​สร้าง

ระบบ​ต่าง ๆ ที่​กล่าว​ข้าง​ต้น​เป็น​เพียง​ตัว​อย่าง​พื้น​ฐาน​ของ​ฝี​พระ​หัตถ์​ของ​พระ​ผู้​สร้าง แต่​สิ่ง​เหล่า​นั้น​เผย​ให้​เห็น​มิ​ใช่​หรือ​ว่า​พระองค์​เป็น​บุคคล​จริง ๆ และ​มี​เชาวน์​ปัญญา​ซึ่ง​คุณลักษณะ​และ​วิธี​ที่​พระองค์​ทรง​กระทำ​สิ่ง​ต่าง ๆ นั้น​ดึงดูด​เรา​ให้​เข้า​หา​พระองค์? เรา​อาจ​พิจารณา​ได้​อีก​หลาย​ตัว​อย่าง. อย่าง​ไร​ก็​ตาม เรา​อาจ​พบ​ใน​ชีวิต​ประจำ​วัน​ว่า เพียง​แต่​สังเกต​ผล​งาน​ของ​คน​ใด​คน​หนึ่ง​อาจ​ไม่​พอ​ที่​เรา​จะ​รู้​จัก​เขา​อย่าง​ดี. เรา​อาจ​ถึง​กับ​เข้าใจ​เขา​ผิด​ไป​ได้​ถ้า​เรา​ไม่​รู้​จัก​เขา​ดี​พอ! และ​ถ้า​คน​นั้น​ถูก​ใส่​ความ​หรือ​ใส่​ร้าย​ล่ะ เรา​จะ​เข้า​ไป​พบ​เขา​และ​ฟัง​ความ​ข้าง​เขา​ด้วย​ไม่​ดี​หรือ? เรา​อาจ​สนทนา​กับ​เขา​เพื่อ​จะ​รู้​ว่า​เขา​จะ​มี​ปฏิกิริยา​อย่าง​ไร​ภาย​ใต้​สถานการณ์​ต่าง ๆ กัน​และ​เขา​แสดง​คุณลักษณะ​อะไร.

แน่นอน เรา​ไม่​สามารถ​พบ​พระ​ผู้​สร้าง​เอกภพ​องค์​ยิ่ง​ใหญ่​แบบ​ตัว​ต่อ​ตัว​ได้. กระนั้น พระองค์​ทรง​เปิด​เผย​มาก​มาย​เกี่ยว​กับ​พระองค์​เอง​ว่า​ทรง​เป็น​บุคคล​จริง ๆ ใน​หนังสือ​ที่​มี​อยู่​กว่า 2,000 ภาษา ทั้ง​ใน​บาง​ส่วน​หรือ​ทั้ง​เล่ม รวม​ทั้ง​ใน​ภาษา​ของ​คุณ​ด้วย. หนังสือ​เล่ม​นั้น—คือ​คัมภีร์​ไบเบิล—เชิญ​ชวน​คุณ​ให้​มา​รู้​จัก​และ​สร้าง​สาย​สัมพันธ์​กับ​พระ​ผู้​สร้าง หนังสือ​เล่ม​นั้น​บอก​ว่า “จง​เข้า​ใกล้​พระเจ้า แล้ว​พระองค์​จะ​ทรง​เข้า​ใกล้​ท่าน​ทั้ง​หลาย.” หนังสือ​เล่ม​นี้​ยัง​บอก​ว่า​เป็น​ไป​ได้​ที่​จะ​เป็น​มิตร​ของ​พระองค์. (ยาโกโบ 2:23; 4:8, ล.ม.) คุณ​สนใจ​ไหม?

เพื่อ​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น​ได้ เรา​ขอ​เชิญ​คุณ​พิจารณา​บันทึก​เรื่อง​จริง​ที่​น่า​ตื่นเต้น​ของ​พระ​ผู้​สร้าง​เกี่ยว​กับ​กิจกรรม​แห่ง​การ​ทรง​สร้าง​ของ​พระองค์.

[เชิงอรรถ]

a ฟ้า​แลบ​ฟ้า​ผ่า​เปลี่ยน​ไนโตรเจน​จำนวน​หนึ่ง​ให้​เป็น​แบบ​ที่​ดูด​ซึม​ได้ ซึ่ง​ตก​ลง​สู่​ดิน​พร้อม​กับ​สาย​ฝน. พืช​ใช้​ไนโตรเจน​นี้​เป็น​ปุ๋ย​ธรรมชาติ. หลัง​จาก​มนุษย์​และ​สัตว์​บริโภค​พืช​และ​ใช้​ไนโตรเจน​นี้​แล้ว มัน​จะ​กลับ​ลง​สู่​ดิน​เป็น​สาร​ประกอบ​แอมโมเนีย​และ​มี​จำนวน​หนึ่ง​เปลี่ยน​กลับ​ไป​เป็น​ก๊าซ​ไนโตรเจน​ใน​ที่​สุด.

[กรอบ​หน้า 79]

ข้อ​สรุป​ที่​สม​เหตุ​ผล

มี​การ​เห็น​พ้อง​กัน​อย่าง​กว้างขวาง​ใน​หมู่​นัก​วิทยาศาสตร์​ว่า​เอกภพ​มี​จุด​เริ่ม​ต้น. ส่วน​ใหญ่​เห็น​ด้วย​เช่น​กัน​ว่า​ก่อน​จุด​เริ่ม​ต้น​นั้น บาง​สิ่ง​ต้อง​มี​อยู่​ก่อน​แล้ว. นัก​วิทยาศาสตร์​บาง​คน​พูด​ถึง​พลังงาน​ที่​มี​มา​ตลอด. คน​อื่น​อ้าง​ว่า​มี​ความ​ยุ่งเหยิง​สับสน​อยู่​ใน​สภาวะ​แรก​เริ่ม. ไม่​ว่า​จะ​ใช้​คำ​อะไร ส่วน​ใหญ่​คาด​ว่า​มี​บาง​สิ่ง​ดำรง​อยู่—บาง​สิ่ง​ที่​ไม่​มี​จุด​เริ่ม​ต้น—ซึ่ง​อยู่​มา​นมนาน​อย่าง​ไม่​มี​ที่​สิ้น​สุด.

ดัง​นั้น ประเด็น​อยู่​ที่​ว่า​เรา​คาด​ว่า​มี​สิ่ง ที่​อยู่​ชั่วนิรันดร์​หรือ​ว่า​มี​บุคคล ที่​อยู่​ชั่วนิรันดร์. หลัง​จาก​พิจารณา​สิ่ง​ที่​วิทยาศาสตร์​ได้​เรียน​รู้​เกี่ยว​กับ​จุด​เริ่ม​ต้น​และ​ลักษณะ​ของ​เอกภพ​และ​ชีวิต​ใน​เอกภพ​นี้​แล้ว ตัว​เลือก​ข้อ​ไหน​ที่​คุณ​คิด​ว่า​สม​เหตุ​ผล​ที่​สุด?

[กรอบ​หน้า 80]

“ธาตุ​ต่าง ๆ แต่​ละ​ชนิด​ที่​จำเป็น​ต่อ​ชีวิต—คาร์บอน, ไนโตรเจน, ซัลเฟอร์—ถูก​แบคทีเรีย​เปลี่ยน​รูป​จาก​สาร​ประกอบ​แบบ​ก๊าซ​และ​อนินทรีย์​เป็น​แบบ​ที่​พืช​และ​สัตว์​สามารถ​ใช้​ประโยชน์​ได้.”—สารานุกรม​บริแทนนิกา​ฉบับ​ใหม่.

[แผนพัง/รูปภาพ​หน้า 78]

(ราย​ละเอียด​ดู​จาก​หนังสือ)

อะไร​คือ​ข้อ​สรุป​ของ​คุณ?

เอกภพ​ของ​เรา

↓ ↓

ไม่​มี จุด​เริ่ม​ต้น

มี​จุด​เริ่ม​ต้น มี​จุด​เริ่ม​ต้น

↓ ↓

ปราศจาก​เหตุ​ที่​ทำ​ให้​เกิด มี​เหตุ​ที่​ทำ​ให้​เกิด

↓ ↓

โดย​สิ่ง​ที่​อยู่ โดย​บุคคล​ที่​อยู่

ชั่วนิรันดร์ ชั่วนิรันดร์

[รูปภาพ​หน้า 75]

ชาว​ตะวัน​ออก​หลาย​คน​เชื่อ​ว่า​ธรรมชาติ​เกิด​ขึ้น​เอง

[รูปภาพ​หน้า 76]

เปาโล​ให้​คำ​บรรยาย​ที่​ชวน​ให้​คิด​เกี่ยว​กับ​พระเจ้า​ขณะ​ที่​ยืน​อยู่​บน​เขา​ลูก​นี้ โดย​มี​อะโครโพลิส​เป็น​ฉาก​หลัง

[รูปภาพ​หน้า 83]

พระเจ้า​ทรง​ประทาน​ระบบ​ภูมิ​คุ้ม​กัน​ให้​เรา​แต่​ละ​คน ซึ่ง​เป็น​ระบบ​ที่​เหนือ​กว่า​การ​แพทย์​สมัย​ใหม่​ใด ๆ จะ​สามารถ​ให้​ได้

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์