ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • ถถ บท 23 น. 181-188
  • “ขอ​ฟัง​ผม​อธิบาย”

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • “ขอ​ฟัง​ผม​อธิบาย”
  • ‘ประกาศ​เรื่อง​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า’ อย่าง​ละเอียด​ถี่ถ้วน
  • หัวเรื่องย่อย
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • “พวก​เขา​ก็​ยกย่อง​สรรเสริญ​พระเจ้า” (กิจการ 21:18-20ก)
  • หลาย​คน​ยัง​คง “กระตือรือร้น​ใน​การ​ทำ​ตาม​กฎหมาย​ของ​โมเสส” (กิจการ 21:20ข, 21)
  • “ข่าว​ลือ . . . นั้น​ไม่​จริง” (กิจการ 21:22-26)
  • “เขา​สม​ควร​ตาย” (กิจการ 21:27–22:30)
  • “ผม​เป็น​ฟาริสี” (กิจการ 23:1-10)
  • ปก​ป้อง​ข่าว​ดี​ต่อ​หน้า​เจ้าหน้าที่​ระดับ​สูง
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา (ศึกษา) 2016
  • คำถามจากผู้อ่าน
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 2005
  • ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวาด้วยความกล้า!
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 1990
  • คริสเตียนยุคแรกกับพระบัญญัติของโมเซ
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 2003
ดูเพิ่มเติม
‘ประกาศ​เรื่อง​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า’ อย่าง​ละเอียด​ถี่ถ้วน
ถถ บท 23 น. 181-188

บท 23

“ขอ​ฟัง​ผม​อธิบาย”

เปาโล​พูด​ปก​ป้อง​ความ​เชื่อ​ของ​เขา​ต่อ​หน้า​ฝูง​ชน ที่​โกรธ​แค้น​และ​สภา​แซนเฮดริน

จาก​กิจการ 21:18–23:10

1, 2. ทำไม​เปาโล​ถึง​ไป​ที่​กรุง​เยรูซาเล็ม และ​เขา​จะ​ต้อง​เจอ​ความ​ยุ่งยาก​อะไร​บ้าง​ที่​เมือง​นั้น?

เปาโล​เดิน​ไป​ตาม​ถนน​แคบ ๆ ที่​มี​ผู้​คน​พลุกพล่าน​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม เป็น​เวลา​หลาย​ร้อย​ปี​ที่​เมือง​นี้​เป็น​ศูนย์กลาง​ของ​การ​นมัสการ​พระ​ยะโฮวา​บน​โลก นี่​ทำ​ให้​ผู้​คน​ส่วน​ใหญ่​รู้สึก​ภูมิ​ใจ​กับ​ประวัติศาสตร์​ของ​เมือง​นี้ และ​ภูมิ​ใจ​ใน​ชาติ​ของ​ตัว​เอง เปาโล​รู้​ว่า​คริสเตียน​หลาย​คน​ใน​เมือง​นี้​ยัง​คง​ยึด​ติด​อยู่​กับ​วิธี​นมัสการ​พระ​ยะโฮวา​แบบ​ที่​ทำ​กัน​มา​ใน​อดีต พวก​เขา​ยัง​ช้า​อยู่​ที่​จะ​ปรับ​เปลี่ยน​และ​นมัสการ​พระ​ยะโฮวา​โดย​ใช้​วิธี​ใหม่​ที่​พระองค์​สอน ดังนั้น ตอน​ที่​เปาโล​อยู่​ที่​เมือง​เอเฟซัส เขา​วาง​แผนที่​จะ​มา​เยรูซาเล็ม​เพื่อ​ช่วย​พี่​น้อง​คริสเตียน​ที่​นั่น นอกจาก​เปาโล​จะ​อยาก​เอา​เงิน​บริจาค​มา​ส่ง​มอบ​ให้​พี่​น้อง​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม​แล้ว เขา​ยัง​อยาก​จะ​ช่วย​พี่​น้อง​ให้​มี​ความ​คิด​ที่​ถูก​ต้อง​ด้วย (กจ. 19:21) เปาโล​ตั้งใจ​มา​ที่​กรุง​เยรูซาเล็ม​ทั้ง ๆ ที่​รู้​ว่า การ​มา​ที่​นี่​อาจ​ทำ​ให้​เขา​ได้​รับ​อันตราย

2 เปาโล​จะ​ต้อง​เจอ​กับ​อะไร​บ้าง​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม? อย่าง​แรก​ที่​เปาโล​ต้อง​เจอ​ก็​คือ พี่​น้อง​ที่​นี่​บาง​คน​เชื่อ​ข่าว​ลือ​ผิด ๆ เกี่ยว​กับ​เขา แต่​ยิ่ง​ไป​กว่า​นั้น เปาโล​จะ​ต้อง​เจอ​ความ​ยุ่งยาก​หลาย​อย่าง​จาก​คน​ที่​ต่อต้าน​เขา พวก​เขา​ใส่​ร้าย ทุบ​ตี และ​ขู่​ว่า​จะ​ฆ่า​เปาโล แต่​สิ่ง​ที่​เปาโล​เจอ​ทั้ง​หมด​นี้​ก็​ทำ​ให้​เขา​มี​โอกาส​พูด​ปก​ป้อง​ความ​เชื่อ​ของ​ตัว​เอง ตอน​ที่​ต้อง​รับมือ​กับ​เรื่อง​ทั้ง​หมด​นี้ เปาโล​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​เขา​เป็น​คน​ถ่อม กล้า​หาญ และ​มี​ความ​เชื่อ เปาโล​เป็น​ตัวอย่าง​ที่​ดี​มาก​สำหรับ​คริสเตียน​ใน​ทุก​วัน​นี้ ให้​เรา​มา​ดู​เรื่อง​นี้​ด้วย​กัน

“พวก​เขา​ก็​ยกย่อง​สรรเสริญ​พระเจ้า” (กิจการ 21:18-20ก)

3-5. (ก) เปาโล​ไป​เจอ​กับ​ใคร​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม และ​พวก​เขา​คุย​กัน​เรื่อง​อะไร​บ้าง? (ข) เรา​อาจ​ได้​บทเรียน​อะไร​บ้าง​จาก​การ​ประชุม​ของ​เปาโล​กับ​พวก​ผู้​ดู​แล​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม?

3 หนึ่ง​วัน​หลัง​จาก​ที่​พวก​เขา​มา​ถึง​กรุง​เยรูซาเล็ม เปาโล​กับ​เพื่อน ๆ ไป​หา​พี่​น้อง​ที่​ทำ​หน้า​ที่​เป็น​ผู้​ดู​แล​ประชาคม คัมภีร์​ไบเบิล​ไม่​ได้​พูด​ถึง​อัครสาวก​คน​อื่น ๆ ที่​ยัง​เหลือ​อยู่ พวก​เขา​อาจ​ไป​ทำ​งาน​ประกาศ​ใน​ส่วน​อื่น ๆ ของ​โลก แต่​ถึงอย่างนั้น ยากอบ​น้อง​ชาย​ของ​พระ​เยซู​ยัง​คง​อยู่​ที่​นั่น (กท. 2:9) เป็น​ไป​ได้​ว่า ยากอบ​ทำ​หน้า​ที่​เป็น​ประธาน​ใน​การ​ประชุม​ตอน​ที่ “พวก​ผู้​ดู​แล​ทั้ง​หมด​ก็​อยู่​ที่​นั่น” พร้อม​กับ​เปาโล—กจ. 21:18

4 เปาโล​ทักทาย​ผู้​ดู​แล “แล้ว​เล่า​อย่าง​ละเอียด​ว่า​พระเจ้า​ได้​ทำ​อะไร​บ้าง​เพื่อ​คน​ต่าง​ชาติ​ตอน​ที่​เขา​ไป​ประกาศ” (กจ. 21:19) พวก​พี่​น้อง​คง​ได้​กำลังใจ​มาก​จริง ๆ เมื่อ​ได้​ยิน​ประสบการณ์​ของ​เปาโล ทุก​วัน​นี้ เรา​ก็​รู้สึก​ตื่นเต้น​เหมือน​กัน​ตอน​ที่​ได้​ยิน​ความ​ก้าว​หน้า​ของ​งาน​ประกาศ​ใน​ประเทศ​อื่น ๆ—สภษ. 25:25

5 เมื่อ​เล่า​ไป​ได้​สัก​พัก เปาโล​คง​จะ​พูด​ถึง​เงิน​บริจาค​ที่​เขา​นำ​มา​จาก​ยุโรป พี่​น้อง​ที่​นี่​คง​มี​ความ​สุข​มาก​และ​รู้สึก​ซาบซึ้ง​ใจ​ที่​รู้​ว่า พี่​น้อง​คริสเตียน​ซึ่ง​อยู่​ใน​ที่​ห่าง​ไกล​เป็น​ห่วง​พวก​เขา​มาก เรา​รู้​ได้​ยังไง? คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ท่าที​ของ​พวก​เขา​หลัง​จาก​ได้​ยิน​เรื่อง​ที่​เปาโล​เล่า​ว่า “พวก​เขา [ผู้​ดู​แล] ก็​ยกย่อง​สรรเสริญ​พระเจ้า” (กจ. 21:20ก) คล้าย​กัน พี่​น้อง​หลาย​คน​ใน​ทุก​วัน​นี้​ที่​ต้อง​เจอ​กับ​ภัย​พิบัติ​หรือ​ความ​เจ็บ​ป่วย​ร้ายแรง รู้สึก​ซาบซึ้ง​ใจ​มาก​เมื่อ​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​ให้​ความ​ช่วยเหลือ​และ​พูด​ให้​กำลังใจ​ใน​เวลา​ที่​พวก​เขา​ต้องการ

หลาย​คน​ยัง​คง “กระตือรือร้น​ใน​การ​ทำ​ตาม​กฎหมาย​ของ​โมเสส” (กิจการ 21:20ข, 21)

6. พวก​ผู้​ดู​แล​เล่า​ปัญหา​อะไร​ให้​เปาโล​ฟัง?

6 ต่อ​มา​พวก​ผู้​ดู​แล​ได้​บอก​ให้​เปาโล​รู้​ว่า​พี่​น้อง​ใน​ยูเดีย​รู้สึก​ไม่​สบาย​ใจ​กับ​สิ่ง​ที่​พวก​เขา​ได้​ยิน​มา​เกี่ยว​กับ​เปาโล พวก​ผู้​ดู​แล​บอก​เปาโล​ว่า “พี่​น้อง​เปาโล คุณ​ก็​รู้​ว่า​มี​ชาว​ยิว​หลาย​พัน​คน​เข้า​มา​เชื่อ และ​พวก​เขา​ทุก​คน​กระตือรือร้น​ใน​การ​ทำ​ตาม​กฎหมาย​ของ​โมเสส แต่​พวก​เขา​ได้​ยิน​ข่าว​ลือ​ว่า​คุณ​สอน​คน​ยิว​ที่​อยู่​ใน​ดินแดน​ของ​คน​ต่าง​ชาติ​ให้​ทิ้ง​กฎหมาย​ของ​โมเสส และ​บอก​พวก​เขา​ว่า​ไม่​ต้อง​ให้​ลูก ๆ เข้า​สุหนัต​และ​ไม่​ต้อง​ทำ​ตาม​ธรรมเนียม​ที่​ยึด​ถือ​กัน​มา”a—กจ. 21:20ข, 21

7, 8. (ก) คริสเตียน​หลาย​คน​ใน​แคว้น​ยูเดีย​มี​ความ​คิด​อะไร​ที่​ผิด? (ข) การ​ที่​พวก​เขา​มี​ความ​คิด​ที่​ผิด​แบบ​นั้น แสดง​ว่า​พวก​เขา​เป็น​คริสเตียน​ที่​ไม่​ซื่อสัตย์​ไหม? ทำไม?

7 ทำไม​ถึง​มี​คริสเตียน​หลาย​คน​ที่​ยัง​ยืนกราน​ว่า​ต้อง​ทำ​ตาม​กฎหมาย​ของ​โมเสส ถึง​แม้​กฎหมาย​นั้น​จะ​ถูก​ยก​เลิก​ไป 20 กว่า​ปี​แล้ว? (คส. 2:14) ใน​ปี ค.ศ. 49 ตอน​นั้น​พวก​อัครสาวก​กับ​พวก​ผู้​ดู​แล​ที่​ประชุม​กัน​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม​ได้​ส่ง​จดหมาย​ไป​ถึง​ประชาคม​ต่าง ๆ เพื่อ​ชี้​แจง​ว่า คริสเตียน​ที่​ไม่​ใช่​ชาว​ยิว​ไม่​จำเป็น​ต้อง​เข้า​สุหนัต​และ​ไม่​จำเป็น​ต้อง​ทำ​ตาม​กฎหมาย​ของ​โมเสส (กจ. 15:23-29) แต่​จดหมาย​นั้น​ไม่​ได้​พูด​ถึง​คริสเตียน​ที่​เป็น​ชาว​ยิว พวก​เขา​หลาย​คน​เลย​ไม่​เข้าใจ​ว่า​พวก​เขา​ไม่​จำเป็น​ต้อง​ทำ​ตาม​กฎหมาย​ของ​โมเสส​อีก​ต่อ​ไป

8 ถึง​แม้​ว่า​คริสเตียน​ชาว​ยิว​เหล่า​นี้​จะ​มี​ความ​คิด​ที่​ไม่​ถูก​ต้อง แต่​พวก​เขา​ก็​เป็น​คริสเตียน​ที่​ซื่อสัตย์ นี่​ไม่​เหมือน​กับ​การ​ที่​คน​หนึ่ง​เคย​อยู่​ใน​ศาสนา​เท็จ และ​เมื่อ​เข้า​มา​เป็น​คริสเตียน​แล้ว​ก็​ยัง​คง​ทำ​ตาม​ธรรมเนียม​ต่าง ๆ ของ​ศาสนา​เท็จ​ต่อ​ไป ที่​จริง คริสเตียน​ชาว​ยิว​เหล่า​นั้น​มอง​ว่า​กฎหมาย​ของ​โมเสส​สำคัญ เพราะ​กฎหมาย​นั้น​เป็น​สิ่ง​ที่​พระ​ยะโฮวา​ให้​กับ​พวก​เขา​ใน​ตอน​แรก ดังนั้น ไม่​มี​อะไร​ใน​กฎหมาย​นั้น​ที่​ผิด​หรือ​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ผี​ปีศาจ แต่​กฎหมาย​นั้น​เกี่ยว​ข้อง​กับ​สัญญา​เดิม ซึ่ง​คริสเตียน​ใน​ตอน​นี้​อยู่​ใต้​สัญญา​ใหม่​แล้ว พระ​ยะโฮวา​จึง​ไม่​ได้​เรียก​ร้อง​พวก​เขา​ให้​ทำ​ตาม​กฎหมาย​ของ​โมเสส​อีก​ต่อ​ไป แต่​ให้​ทำ​ตาม​การ​นมัสการ​บริสุทธิ์ ถ้า​มี​คริสเตียน​ชาว​ยิว​คน​ไหน​ที่​ยัง​ยืนกราน​ว่า​ต้อง​ทำ​ตาม​กฎหมาย​ของ​โมเสส ก็​แสดง​ว่า​พวก​เขา​ไม่​ไว้​ใจ​การ​จัด​เตรียม​ใหม่​ของ​พระ​ยะโฮวา​เกี่ยว​กับ​วิธี​นมัสการ​พระองค์ พวก​เขา​จำเป็น​ต้อง​ปรับ​ความ​คิด​ให้​ถูก​ต้อง​ตาม​ที่​พระ​ยะโฮวา​เปิด​เผย​เป็น​ขั้น ๆb—ยรม. 31:31-34; ลก. 22:20

“ข่าว​ลือ . . . นั้น​ไม่​จริง” (กิจการ 21:22-26)

9. เปาโล​สอน​อะไร​เกี่ยว​กับ​กฎหมาย​ของ​โมเสส?

9 ผู้​คน​ได้​ยิน​ข่าว​ลือ​ที่​ว่า​เปาโล​สอน​คน​ยิว​ที่​อยู่​ใน​ดินแดน​ของ​คน​ต่าง​ชาติ​ว่า พวก​เขา “ไม่​ต้อง​ให้​ลูก ๆ เข้า​สุหนัต​และ​ไม่​ต้อง​ทำ​ตาม​ธรรมเนียม​ที่​ยึด​ถือ​กัน​มา” เปาโล​เป็น​อัครสาวก​ที่​ถูก​ส่ง​ไป​หา​คน​ต่าง​ชาติ และ​จริง​ที่​เขา​สนับสนุน​คำ​ตัดสิน​ที่​ว่า​คน​ต่าง​ชาติ​ไม่​ต้อง​ทำ​ตาม​กฎหมาย​ของ​โมเสส เปาโล​บอก​ด้วย​ว่า เป็น​เรื่อง​ผิด​ที่​จะ​พยายาม​โน้ม​น้าว​คริสเตียน​ที่​เป็น​คน​ต่าง​ชาติ​ให้​เข้า​สุหนัต​และ​ทำ​ตาม​กฎหมาย​ของ​โมเสส (กท. 5:1-7) เปาโล​ยัง​ได้​ประกาศ​ข่าว​ดี​กับ​ชาว​ยิว​ใน​เมือง​ต่าง ๆ ที่​เขา​ไป​เยี่ยม​ด้วย และ​เขา​คง​ต้อง​อธิบาย​กับ​คน​ยิว​ที่​ตอบรับ​ความ​จริง​ว่า การ​ตาย​ของ​พระ​เยซู​ได้​ทำ​ให้​กฎหมาย​ของ​โมเสส​ถูก​ยก​เลิก​ไป​แล้ว และ​พระเจ้า​ไม่​ได้​เรียก​ร้อง​ให้​พวก​เขา​ทำ​ตาม​กฎหมาย​ของ​โมเสส​อีก​ต่อ​ไป​เพื่อ​จะ​ทำ​ให้​พระองค์​พอ​ใจ—รม. 2:28, 29; 3:21-26

10. เปาโล​แสดง​ให้​เห็น​ยังไง​ว่า​เขา​มี​มุม​มอง​ที่​สมดุล​ใน​เรื่อง​การ​ทำ​ตาม​กฎหมาย​ของ​โมเสส​และ​การ​เข้า​สุหนัต?

10 ถึงอย่างนั้น เปาโล​ก็​ไม่​ได้​ตำหนิ​คน​เหล่า​นั้น​ที่​อยาก​ทำ​ตาม​ธรรมเนียม​บาง​อย่าง​ของ​ชาว​ยิว​ต่อ​ไป เช่น การ​ไม่​ทำ​งาน​ใน​วัน​สะบาโต หรือ​การ​ไม่​กิน​อาหาร​บาง​อย่าง (รม. 14:1-6) และ​เปาโล​ก็​ไม่​ได้​ตั้ง​กฎ​ใน​เรื่อง​การ​เข้า​สุหนัต ที่​จริง เปาโล​ได้​ให้​ทิโมธี​เข้า​สุหนัต​ด้วย เปาโล​ไม่​อยาก​ให้​ชาว​ยิว​ไม่​ยอม​รับ​ทิโมธี​เพราะ​พวก​เขา​รู้​ว่า​พ่อ​ของ​ทิโมธี​เป็น​คน​กรีก (กจ. 16:3) ดังนั้น แต่​ละ​คน​ต้อง​ตัดสิน​ใจ​ด้วย​ตัว​เอง​ว่า​จะ​เข้า​สุหนัต​หรือ​ไม่ เปาโล​ได้​บอก​ชาว​กาลาเทีย​ว่า “การ​เข้า​สุหนัต​หรือ​ไม่​เข้า​สุหนัต​นั้น​ไม่​สำคัญ . . . แต่​การ​แสดง​ความ​เชื่อ​ที่​เกิด​จาก​ความ​รัก​ต่าง​หาก​ที่​สำคัญ” (กท. 5:6) แต่​ถึงอย่างนั้น ถ้า​มี​ใคร​จะ​เข้า​สุหนัต​เพราะ​คิด​ว่า​ยัง​จำเป็น​ที่​จะ​ต้อง​ทำ​ตาม​กฎหมาย​ของ​โมเสส หรือ​คิด​ว่า​ต้อง​เข้า​สุหนัต​เพื่อ​จะ​ทำ​ให้​พระ​ยะโฮวา​พอ​ใจ เขา​ก็​เป็น​คน​ที่​ขาด​ความ​เชื่อ

11. พวก​ผู้​ดู​แล​บอก​ให้​เปาโล​ทำ​อะไร? แต่​เปาโล​คง​จะ​ไม่​ทำ​อะไร? (ดู​เชิงอรรถ​ด้วย)

11 ถึง​แม้​ข่าว​ลือ​ที่​พี่​น้อง​ได้​ยิน​นั้น​จะ​ไม่​เป็น​ความ​จริง แต่​คริสเตียน​ชาว​ยิว​ก็​ยัง​รู้สึก​ไม่​สบาย​ใจ​กับ​ข่าว​ลือ​นั้น​อยู่ เพราะ​อย่าง​นี้ ผู้​ดู​แล​เลย​แนะ​นำ​เปาโล​ว่า “พวก​เรา​มี​ผู้​ชาย 4 คน​ที่​ปฏิญาณ​ตัว​ไว้ ให้​คุณ​พา 4 คน​นี้​ไป​ด้วย และ​ชำระ​ตัว​ตาม​พิธีกรรม​พร้อม​กับ​พวก​เขา ออก​ค่า​ใช้​จ่าย​ให้​พวก​เขา แล้ว​ให้​พวก​เขา​โกน​หัว​ด้วย ทุก​คน​จะ​ได้​รู้​ว่า​ข่าว​ลือ​เกี่ยว​กับ​คุณ​นั้น​ไม่​จริง แต่​คุณ​ทำ​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง​ตาม​กฎหมาย​ของ​โมเสส​เสมอ”c—กจ. 21:23, 24

12 เปาโล​แสดง​ยังไง​ว่า​เขา​เต็ม​ใจ​ทำ​ตาม​สิ่ง​ที่​ผู้​ดู​แล​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม​ขอ?

12 จริง ๆ แล้ว​เปาโล​จะ​พูด​ก็​ได้​ว่า มัน​เป็น​แค่​ข่าว​ลือ เขา​ไม่​ได้​เป็น​ต้น​เหตุ​ของ​ปัญหา คริสเตียน​ชาว​ยิว​ที่​ยัง​ยืนกราน​ที่​จะ​ทำ​ตาม​กฎหมาย​ของ​โมเสส​นั่น​แหละ​ที่​ทำ​ให้​เกิด​ปัญหา แต่​เปาโล​ไม่​ได้​ทำ​แบบ​นั้น เขา​เต็ม​ใจ​ที่​จะ​ทำ​ตาม​สิ่ง​ที่​ผู้​ดู​แล​ขอ ถ้า​เรื่อง​นั้น​ไม่​ขัด​กับ​หลักการ​ของ​พระเจ้า ก่อน​หน้า​นี้​เปาโล​ได้​เขียน​ว่า “ทั้ง ๆ ที่​ผม​เอง​ไม่​อยู่​ใต้​กฎหมาย​นั้น ผม​ทำ​อย่าง​นั้น​เพื่อ​จะ​ได้​คน​ที่​อยู่​ใต้​กฎหมาย​ของ​โมเสส​เข้า​มา” (1 คร. 9:20) ใน​ครั้ง​นี้ เปาโล​ทำ​ตาม​สิ่ง​ที่​ผู้​ดู​แล​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม​ขอ และ​ทำ​ตัว​เป็น “คน​ที่​อยู่​ใต้​กฎหมาย​ของ​โมเสส” โดย​การ​ทำ​แบบ​นี้ เปาโล​ได้​วาง​ตัวอย่าง​ที่​ดี​ไว้​สำหรับ​พวก​เรา​ใน​ทุก​วัน​นี้​ที่​จะ​ร่วม​มือ​กับ​ผู้​ดู​แล​และ​ไม่​ยืนกราน​ที่​จะ​ทำ​สิ่ง​ต่าง ๆ ตาม​วิธี​ของ​เรา​เอง—ฮบ. 13:17

รูปภาพ: 1. เปาโล​ฟัง​คำ​แนะ​นำ​ของ​พวก​ผู้​ดู​แล​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม 2. ใน​การ​ประชุม​ผู้​ดู​แล​ใน​ทุก​วัน​นี้ พี่​น้อง​ชาย​คน​หนึ่ง​นั่ง​คิด​ตอน​ที่​เพื่อน​ผู้​ดู​แล​คน​อื่น​ยก​มือ

เปาโล​ยินยอม​เมื่อ​ไม่​ขัด​กับ​หลักการ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล แล้ว​คุณ​ล่ะ คุณ​พร้อม​จะ​ยินยอม​ไหม?

กฎหมาย​โรมัน​กับ​พลเมือง​โรมัน

ตาม​ปกติ​แล้ว รัฐบาล​โรมัน​จะ​อนุญาต​ให้​ผู้​ปกครอง​ท้องถิ่น​ตัดสิน​ใจ​เรื่อง​ต่าง ๆ ด้วย​ตัว​เอง ดังนั้น ส่วน​ใหญ่​แล้ว​ชาว​ยิว​จะ​ใช้​กฎหมาย​ของ​ตัว​เอง​ใน​การ​ปกครอง​ชุมชน แต่​ตอน​ที่​ฝูง​ชน​เห็น​เปาโล​ใน​วิหาร พวก​เขา​โกรธ​มาก พวก​เขา​ก่อ​ความ​วุ่นวาย​และ​สร้าง​ความ​ไม่​สงบ​ใน​บ้าน​เมือง นี่​เลย​ทำ​ให้​ผู้​บังคับ​กองพัน​ชาว​โรมัน​ต้อง​เข้า​มา​จัด​การ​กับ​สถานการณ์​ใน​ตอน​นั้น

เจ้าหน้าที่​ชาว​โรมัน​มี​อำนาจ​มาก​เหนือ​คน​ที่​ไม่​ใช่​ชาว​โรมัน​ซึ่ง​อยู่​ใน​แคว้น​ของ​จักรวรรดิ แต่​ถึงอย่างนั้น พวก​เขา​ต้อง​ปฏิบัติ​ต่อ​พลเมือง​โรมัน​ใน​แบบ​ที่​ต่าง​ออก​ไปf การ​เป็น​พลเมือง​โรมัน​ทำ​ให้​คน​นั้น​มี​สิทธิ​พิเศษ​บาง​อย่าง​ที่​ทุก​คน​ยอม​รับ​ตลอด​ทั่ว​จักรวรรดิ ตัวอย่าง​เช่น เป็น​เรื่อง​ผิด​กฎหมาย​ที่​จะ​มัด​หรือ​ตี​ชาว​โรมัน​ซึ่ง​ยัง​ไม่​ได้​ถูก​ตัดสิน​ว่า​มี​ความ​ผิด เฉพาะ​คน​ที่​เป็น​ทาส​เท่า​นั้น​ถึง​จะ​ถูก​ทำ​แบบ​นี้​ได้ นอกจากนั้น พลเมือง​โรมัน​ยัง​มี​สิทธิ์​ที่​จะ​อุทธรณ์​คำ​ตัดสิน​ของ​ผู้​ว่า​ราชการ​แคว้น​ต่อ​จักรพรรดิ​ที่​กรุง​โรม​ด้วย

มี​หลาย​วิธี​ที่​คน​เรา​อาจ​ได้​สิทธิ์​เป็น​พลเมือง​โรมัน วิธี​แรก​คือ ถ้า​พ่อ​แม่​เป็น​พลเมือง​โรมัน ลูก​ก็​จะ​เป็น​พลเมือง​โรมัน​ด้วย บาง​ครั้ง จักรพรรดิ​จะ​ให้​สิทธิ์​ใน​การ​เป็น​พลเมือง​กับ​คน​อื่น หรือ​ให้​กับ​คน​ทั้ง​เมือง​เพื่อ​เป็น​รางวัล​ที่​พวก​เขา​ทำ​งาน​บาง​อย่าง​ให้​กับ​รัฐบาล​โรมัน ยก​เว้น​คน​ที่​เป็น​ทาส นอกจากนั้น ทาส​ที่​ได้​ซื้อ​อิสรภาพ​จาก​พลเมือง​โรมัน ทาส​ที่​ชาว​โรมัน​ได้​ปล่อย​ตัว​เป็น​อิสระ หรือ​ทหาร​ที่​ไม่​ใช่​ชาว​โรมัน​ซึ่ง​ปลด​ประจำการ​แล้ว​จะ​กลาย​เป็น​ชาว​โรมัน ดู​เหมือน​ว่า ภาย​ใต้​สภาพการณ์​บาง​อย่าง มี​ทาง​เป็น​ไป​ได้​ด้วย​ที่​จะ​ซื้อ​สิทธิ์​เป็น​พลเมือง ด้วย​เหตุ​นี้ คลาวดิอัสลีเซียส ผู้​บังคับ​กองพัน​ได้​บอก​เปาโล​ว่า “ผม​ต้อง​จ่าย​เงิน​ตั้ง​เยอะ​เพื่อ​ซื้อ​สิทธิ์​พลเมือง​โรมัน” เปาโล​พูด​ว่า “แต่​ผม​ได้​สิทธิ์​นี้​มา​ตั้งแต่​เกิด” (กจ. 22:28) ดังนั้น บรรพบุรุษ​คน​หนึ่ง​ของ​เปาโล​คง​ต้อง​ได้​สิทธิ์​เป็น​พลเมือง​โรมัน​ด้วย​วิธี​ใด​วิธี​หนึ่ง ถึง​แม้​ไม่​มี​ใคร​รู้​ก็​ตาม

f ใน​ศตวรรษ​แรก พลเมือง​โรมัน​ที่​อาศัย​อยู่​ใน​แคว้น​ยูเดีย​มี​จำนวน​ไม่​มาก แต่​ใน​ศตวรรษ​ที่ 3 ทุก​คน​ที่​อาศัย​อยู่​ใน​จักรวรรดิ​โรมัน​ได้​รับ​สิทธิ์​เป็น​พลเมือง​โรมัน

“เขา​สม​ควร​ตาย” (กิจการ 21:27–22:30)

13. (ก) ทำไม​พวก​ยิว​ถึง​ก่อ​ความ​วุ่นวาย​ใน​วิหาร? (ข) เปาโล​ได้​รับ​การ​ช่วย​ชีวิต​ยังไง?

13 เมื่อ​ใกล้​จะ​ครบ​เวลา​กำหนด​ที่​ผู้​ชาย 4 คน​นั้น​ได้​ปฏิญาณ พวก​ยิว​ที่​มา​จาก​แคว้น​เอเชีย​ก็​เห็น​เปาโล พวก​เขา​กล่าวหา​เปาโล​อย่าง​ผิด ๆ ว่า​เปาโล​พา​คน​ต่าง​ชาติ​เข้า​มา​ใน​วิหาร และ​นี่​ทำ​ให้​เกิด​การ​จลาจล​ไป​ทั่ว​เมือง ถ้า​ตอน​นั้น​ผู้​บังคับ​กองพัน​ชาติ​โรมัน​ไม่​ได้​ไป​ที่​นั่น เปาโล​คง​ถูก​ตี​จน​ตาย ผู้​บังคับ​กองพัน​สั่ง​ให้​ทหาร​จับ​ตัว​เปาโล นับ​จาก​วัน​นั้น เปาโล​ถูก​ขัง​เป็น​เวลา​นาน​กว่า 4 ปี​กว่า​จะ​ถูก​ปล่อย​ตัว​อีก​ครั้ง แต่​ถึงอย่างนั้น​เปาโล​ก็​ยัง​ไม่​ปลอด​ภัย เมื่อ​ผู้​บังคับ​กองพัน​ถาม​ชาว​ยิว​ว่า​พวก​เขา​ทำ​ร้าย​เปาโล​ทำไม พวก​เขา​ก็​ตะโกน​บอก​ข้อ​กล่าวหา​ต่าง ๆ พวก​เขา​ส่ง​เสียง​ดัง​จน​ผู้​บังคับ​กองพัน​ฟัง​ไม่​รู้​เรื่อง ใน​ที่​สุด เขา​ก็​สั่ง​ให้​ลาก​ตัว​เปาโล​ออก​ไป​จาก​ที่​นั่น ตอน​ที่​เปาโล​กับ​ทหาร​โรมัน​กำลัง​จะ​เข้า​ไป​ใน​ค่าย​ทหาร เปาโล​ได้​พูด​กับ​ผู้​บังคับ​กองพัน​ว่า “ขอ​ให้​ผม​พูด​กับ​ประชาชน​หน่อย​ได้​ไหม” (กจ. 21:39) ผู้​บังคับ​กองพัน​ก็​อนุญาต แล้ว​เปาโล​ก็​พูด​ปก​ป้อง​ความ​เชื่อ​ต่อ​ไป​อย่าง​กล้า​หาญ

14, 15. (ก) เปาโล​อธิบาย​อะไร​กับ​พวก​ยิว? (ข) ผู้​บังคับ​กองพัน​ชาติ​โรมัน​ได้​ทำ​อะไร​บ้าง​เพื่อ​จะ​รู้​ว่า​ทำไม​พวก​ยิว​ถึง​โกรธ​แค้น​เปาโล?

14 เปาโล​เริ่ม​ต้น​ว่า “ขอ​ฟัง​ผม​อธิบาย​หน่อย” (กจ. 22:1) เปาโล​พูด​กับ​ฝูง​ชน​เป็น​ภาษา​ฮีบรู ซึ่ง​ทำ​ให้​พวก​เขา​ใจ​เย็น​ลง เปาโล​ได้​อธิบาย​ให้​พวก​เขา​ฟัง​ว่า​ทำไม​ตอน​นี้​เขา​ถึง​ได้​มา​เป็น​สาวก​ของ​พระ​คริสต์ ตอน​ที่​อธิบาย เปาโล​อ้าง​ถึง​จุด​ต่าง ๆ ที่​ชาว​ยิว​สามารถ​ตรวจ​สอบ​ด้วย​ตัว​เอง​ว่า​สิ่ง​ที่​เขา​พูด​เป็น​เรื่อง​จริง เปาโล​ได้​รับ​การ​สอน​โดย​ตรง​จาก​กามาลิเอล​ซึ่ง​เป็น​ครู​ที่​มี​ชื่อเสียง และ​เขา​เอง​ก็​เคย​ข่มเหง​สาวก​ของ​พระ​คริสต์ ซึ่ง​หลาย​คน​ที่​อยู่​ที่​นั่น​คง​จะ​รู้​เรื่อง​นี้ แต่​ตอน​ที่​เปาโล​กำลัง​เดิน​ทาง​ไป​เมือง​ดามัสกัส เขา​ได้​รับ​นิมิต​เกี่ยว​กับ​พระ​คริสต์​ผู้​ที่​ถูก​ปลุก​ให้​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย​แล้ว พระ​เยซู​พูด​กับ​เปาโล ที่​จริง เพื่อน​ร่วม​เดิน​ทาง​ของ​เปาโล​ก็​เห็น​แสง​สว่าง​จ้า​และ​ได้​ยิน​เสียง​พูด แต่​พวก​เขา​ไม่​เข้าใจ​ว่า​พูด​อะไร (ดู​ข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ กจ. 9:7; 22:9) หลัง​จาก​นั้น เพื่อน ๆ ต้อง​พา​เปาโล​ซึ่ง​ตา​บอด​เพราะ​เห็น​นิมิต​นั้น​เข้า​ไป​ใน​เมือง​ดามัสกัส ที่​นั่น​อานาเนีย​ซึ่ง​เป็น​คน​ที่​ชาว​ยิว​ใน​เขต​นั้น​รู้​จัก​ดี​ได้​ทำ​ให้​เปาโล​มอง​เห็น​ได้​อีก​โดย​การ​อัศจรรย์

15 เปาโล​เล่า​ต่อ​ไป​ว่า​หลัง​จาก​ที่​เขา​กลับ​ไป​กรุง​เยรูซาเล็ม​แล้ว พระ​เยซู​ได้​มา​หา​เขา​ที่​วิหาร เมื่อ​พวก​ยิว​ได้​ยิน​เรื่อง​นี้​ก็​โกรธ​มาก​และ​ตะโกน​ว่า “กำจัด​คน​แบบ​นี้​ไป​จาก​โลก​นี้​เถอะ เขา​สม​ควร​ตาย” (กจ. 22:22) เพื่อ​ช่วย​เปาโล​ให้​ปลอด​ภัย ผู้​บังคับ​กองพัน​จึง​สั่ง​ให้​เอา​ตัว​เปาโล​เข้า​ไป​ใน​ค่าย​ทหาร ผู้​บังคับ​กองพัน​อยาก​รู้​ว่า​ทำไม​ชาว​ยิว​ถึง​โกรธ​แค้น​เปาโล​แบบ​นี้ เขา​เลย​สั่ง​ให้​สอบสวน​เปาโล​ด้วย​การ​เฆี่ยน แต่​เปาโล​ได้​ใช้​ประโยชน์​จาก​การ​คุ้มครอง​ทาง​กฎหมาย​ที่​เขา​มี เขา​เปิด​เผย​ว่า​ตัว​เอง​เป็น​พลเมือง​โรมัน ใน​ทุก​วัน​นี้​ก็​เหมือน​กัน พยาน​พระ​ยะโฮวา​ก็​ใช้​การ​คุ้มครอง​ทาง​กฎหมาย​ที่​มี​อยู่​เพื่อ​ปก​ป้อง​ความ​เชื่อ (ดู​กรอบ “กฎหมาย​โรมัน​กับ​พลเมือง​โรมัน” และ “การ​ต่อ​สู้​ทาง​กฎหมาย​สมัย​ปัจจุบัน”) เมื่อ​ได้​ยิน​ว่า​เปาโล​เป็น​พลเมือง​โรมัน ผู้​บังคับ​กองพัน​เลย​ต้อง​ใช้​วิธี​อื่น​เพื่อ​จะ​ได้​ข้อมูล​เพิ่ม​ขึ้น วัน​ต่อ​มา เขา​เรียก​สมาชิก​ศาล​แซนเฮดริน​มา​ประชุม​กัน​เพื่อ​จะ​รู้​ว่า​ทำไม​พวก​ยิว​ถึง​กล่าวหา​เปาโล

การ​ต่อ​สู้​ทาง​กฎหมาย​สมัย​ปัจจุบัน

เหมือน​กับ​อัครสาวก​เปาโล พยาน​พระ​ยะโฮวา​สมัย​ปัจจุบัน​ได้​ใช้​ประโยชน์​อย่าง​เต็ม​ที่​จาก​กฎหมาย​ใน​หลาย​ประเทศ​เพื่อ​จะ​ได้​รับ​เสรีภาพ​ใน​การ​ประกาศ พวก​เขา​พยายาม​อย่าง​มาก​ใน​การ “ปก​ป้อง​ข่าว​ดี​และ​พยายาม​ทำ​ให้​การ​ประกาศ​ข่าว​ดี​เป็น​ที่​ยอม​รับ​ตาม​กฎหมาย”—ฟป. 1:7

ใน​ช่วง​ทศวรรษ 1920 กับ​ทศวรรษ 1930 หลาย​ร้อย​คน​ถูก​จับ​เนื่อง​จาก​แจก​จ่าย​หนังสือ​ต่าง ๆ ที่​เกี่ยว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล ตัวอย่าง​เช่น พอ​ถึง​ปี 1926 มี​คดี​ที่​ยัง​ไม่​ได้​ตัดสิน​อยู่​ใน​ศาล​ของ​เยอรมนี 897 คดี มี​คดี​ฟ้องร้อง​มาก​จน​จำเป็น​ต้อง​ตั้ง​แผนก​กฎหมาย​ขึ้น​ที่​สาขา​เยอรมนี ระหว่าง​ทศวรรษ 1930 การ​จับ​กุม​เนื่อง​จาก​การ​ประกาศ​ตาม​บ้าน​ใน​สหรัฐ​ประเทศ​เดียว​มี​จำนวน​หลาย​ร้อย​ราย​ทุก​ปี ใน​ปี 1936 จำนวน​ที่​มี​การ​จับ​กุม​เพิ่ม​ขึ้น​ถึง 1,149 ราย เพื่อ​ให้​คำ​แนะ​นำ​ที่​จำเป็น​กับ​พี่​น้อง จึง​มี​การ​ตั้ง​แผนก​กฎหมาย​ใน​สหรัฐ​ด้วย ตั้งแต่​ปี 1933 ถึง 1939 พยาน​ฯ​ใน​โรมาเนีย​ถูก​ฟ้องร้อง​ถึง 530 คดี อย่างไร​ก็​ตาม พอ​มี​การ​อุทธรณ์​ถึง​ศาล​สูง​ของ​โรมาเนีย พวก​เขา​ก็​ได้​รับ​การ​ตัดสิน​ให้​ชนะ​หลาย​คดี เหตุ​การณ์​คล้าย​กัน​นี้​ได้​เกิด​ขึ้น​ใน​อีก​หลาย​ประเทศ

เมื่อ​คริสเตียน​ตัดสิน​ใจ​ตาม​ความ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ที่​จะ​ไม่​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​กิจกรรม​ต่าง ๆ ที่​ทำ​ให้​พวก​เขา​ไม่​เป็น​กลาง ก็​เกิด​การ​ฟ้องร้อง​ขึ้น (อสย. 2:2-4; ยน. 17:14) ผู้​ต่อต้าน​ได้​กล่าวหา​พวก​เขา​อย่าง​ผิด ๆ ว่า​ก่อ​การ​กบฏ ซึ่ง​บาง​ครั้ง​ทำ​ให้​มี​การ​สั่ง​ห้าม​งาน​ของ​พวก​เขา​ทั้ง​หมด อย่างไร​ก็​ตาม ตลอด​หลาย​ปี รัฐบาล​ใน​หลาย​ประเทศ​ได้​ยอม​รับ​ว่า​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ได้​เป็น​ภัย​คุกคาม​ต่อ​พวก​เขาg

g คุณ​สามารถ​อ่าน​เกี่ยว​กับ​ชัย​ชนะ​ทาง​กฎหมาย​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​ประเทศ​ต่าง ๆ ได้​ใน​บท 15 ของ​หนังสือ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​ปกครอง​แล้ว! และ​บท 30 ของ​หนังสือ​พยาน​พระ​ยะโฮวา—ผู้​ประกาศ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า (ภาษา​อังกฤษ)

“ผม​เป็น​ฟาริสี” (กิจการ 23:1-10)

16, 17. (ก) ขอ​เล่า​เหตุ​การณ์​ที่​เกิด​ขึ้น​เมื่อ​เปาโล​พูด​กับ​สภา​แซนเฮดริน (ข) เมื่อ​ถูก​ตบ เปาโล​ได้​วาง​ตัวอย่าง​ยังไง​ใน​เรื่อง​ความ​ถ่อม?

16 เปาโล​เริ่ม​แก้​ข้อ​กล่าวหา​ต่อ​หน้า​สภา​แซนเฮดริน​ว่า “พี่​น้อง​ทั้ง​หลาย ผม​พูด​ต่อ​หน้า​พระเจ้า​ได้​เลย​ว่า​ความ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ชั่ว​ดี​บอก​ผม​ว่า ที่​ผ่าน​มา​ผม​ไม่​ได้​ทำ​อะไร​ผิด” (กจ. 23:1) แล้ว​เปาโล​ก็​ต้อง​หยุด​พูด เพราะ​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า “เมื่อ​มหา​ปุโรหิต​อานาเนีย​ได้​ยิน​อย่าง​นั้น​ก็​สั่ง​คน​ที่​ยืน​อยู่​ใกล้ ๆ เปาโล​ให้​ตบ​ปาก​เปาโล” (กจ. 23:2) นั่น​เป็น​การ​ดูถูก​เปาโล​จริง ๆ การ​ทำ​แบบ​นั้น​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​มหา​ปุโรหิต​มี​อคติ​กับ​เปาโล เขา​กล่าวหา​ว่า​เปาโล​โกหก​ทั้ง ๆ ที่​เปาโล​ยัง​ไม่​ทัน​ได้​อธิบาย​อะไร นี่​เลย​ทำ​ให้​เปาโล​พูด​กับ​พวก​เขา​ว่า “คุณ​มัน​หน้า​ไหว้​หลัง​หลอก ขอ​ให้​พระเจ้า​ตบ​คุณ คุณ​นั่ง​พิพากษา​ผม​ตาม​กฎหมาย​แต่​กลับ​ทำ​ผิด​กฎหมาย​ซะ​เอง​โดย​สั่ง​คน​ให้​ตบ​ผม​อย่าง​นี้​หรือ?”—กจ. 23:3

17 บาง​คน​ที่​ยืน​อยู่​ใกล้ ๆ ก็​ตกใจ​มาก พวก​เขา​ไม่​ได้​ตกใจ​ที่​เปาโล​ถูก​ตบ แต่​ตกใจ​กับ​สิ่ง​ที่​เปาโล​พูด พวก​เขา​บอก​ว่า “พูด​หยาบคาย​กับ​มหา​ปุโรหิต​ของ​พระเจ้า​แบบ​นี้​ได้​ยังไง?” ใน​ตอน​นั้น​เอง เปาโล​ได้​แสดง​ว่า​เขา​เป็น​คน​ถ่อม​และ​นับถือ​กฎหมาย​ของ​โมเสส เขา​ตอบ​ว่า “ขอ​โทษ​ครับ​พี่​น้อง ผม​ไม่​รู้​ว่า​เขา​เป็น​มหา​ปุโรหิต เพราะ​มี​เขียน​ไว้​ใน​พระ​คัมภีร์​ว่า ‘อย่า​พูด​จา​ดูหมิ่น​คน​ที่​ทำ​หน้า​ที่​ปกครอง​พวก​เจ้า’”d (กจ. 23:4, 5; อพย. 22:28) ตอน​นี้​เปาโล​เปลี่ยน​ไป​ใช้​วิธี​อื่น​ใน​การ​หา​เหตุ​ผล เมื่อ​สังเกต​ว่า​สมาชิก​ของ​สภา​แซนเฮดริน​มี​ทั้ง​พวก​ฟาริสี​และ​สะดูสี เขา​เลย​พูด​ว่า “พี่​น้อง​ทั้ง​หลาย ผม​เป็น​ฟาริสี และ​เป็น​ลูก​ของ​ฟาริสี ที่​ผม​ถูก​ตัดสิน​คดี​ก็​เพราะ​ผม​เชื่อ​เรื่อง​การ​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย”—กจ. 23:6

บาทหลวง​คน​หนึ่ง​มอง​ไป​ที่​พระ​คัมภีร์​ของ​เขา​ตอน​ที่​พี่​น้อง​ชาย​กำลัง​อธิบาย

เหมือน​กับ​เปาโล เรา​หา​จุด​ที่​เห็น​พ้อง​กัน​เมื่อ​พูด​กับ​คน​ที่​นับถือ​ศาสนา​ต่าง​จาก​เรา

18. ทำไม​เปาโล​ถึง​เรียก​ตัว​เอง​ว่า​ฟาริสี และ​ใน​บาง​โอกาส​เรา​อาจ​หา​เหตุ​ผล​คล้าย ๆ กัน​ได้​ยังไง?

18 ทำไม​เปาโล​ถึง​เรียก​ตัว​เอง​ว่า​ฟาริสี? เปาโล​เป็น “ลูก​ของ​ฟาริสี” เพราะ​เขา​มา​จาก​ครอบครัว​ที่​อยู่​ใน​นิกาย​นั้น ดังนั้น หลาย​คน​จึง​ยัง​คง​มอง​ว่า​เขา​เป็น​ฟาริสีe แต่​เปาโล​เรียก​ตัว​เอง​ว่า​ฟาริสี​ได้​ยังไง​ใน​เมื่อ​พวก​ฟาริสี​มี​ความ​เชื่อ​ที่​ไม่​ถูก​ต้อง​เรื่อง​การ​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย? พวก​ฟาริสี​เชื่อ​ว่า​มี​วิญญาณ​ที่​ยัง​คง​อยู่​หลัง​จาก​ตาย และ​เชื่อ​ว่า​วิญญาณ​ของ​คน​ดี​จะ​กลับ​มา​มี​ชีวิต​อีก​ใน​ร่าง​มนุษย์ แน่นอน​ว่า​เปาโล​ไม่​เชื่อ​คำ​สอน​แบบ​นั้น เปาโล​เชื่อ​เรื่อง​การ​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย​ตาม​ที่​พระ​เยซู​สอน (ยน. 5:25-29) แต่​ถึงอย่างนั้น เปาโล​ก็​เห็น​ด้วย​กับ​พวก​ฟาริสี​ที่​ว่า มี​ความ​หวัง​เกี่ยว​กับ​ชีวิต​ใน​อนาคต​หลัง​จาก​ตาย ซึ่ง​ตรง​กัน​ข้าม​กับ​พวก​สะดูสี คน​กลุ่ม​นี้​ไม่​เชื่อ​ว่า​คน​ที่​ตาย​แล้ว​มี​ความ​หวัง​อะไร เรา​ก็​ทำ​คล้าย ๆ กัน​ได้​โดย​พยายาม​หา​จุด​ที่​เห็น​พ้อง​กัน​กับ​คน​ที่​เรา​คุย​ด้วย​แม้​ว่า​เขา​จะ​มี​ความ​เชื่อ​ไม่​เหมือน​กับ​เรา ตัวอย่าง​เช่น พวก​เขา​บาง​คน​อาจ​เชื่อ​เรื่อง​สิ่ง​ศักดิ์สิทธิ์ ส่วน​เรา​ก็​เชื่อ​ใน​พระเจ้า​ที่​พูด​ถึง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล แต่​ถึงอย่างนั้น ทั้ง​เรา​และ​เขา​ก็​เชื่อ​เหมือน​กัน​ว่า​มี​องค์​ศักดิ์สิทธิ์​ที่​มี​อำนาจ​สูง​กว่า​มนุษย์​ทุก​คน

19. ทำไม​การ​ประชุม​ของ​สภา​แซนเฮดริน​จึง​เกิด​การ​แตก​แยก​กัน​จน​วุ่นวาย?

19 คำ​พูด​ของ​เปาโล​ทำ​ให้​สภา​แซนเฮดริน​แบ่ง​เป็น​สอง​ฝ่าย คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า “ที่​ประชุม​ก็​ส่ง​เสียง​อื้ออึง มี​ครู​สอน​ศาสนา​บาง​คน​ที่​เป็น​พวก​ฟาริสี​ลุก​ขึ้น​เถียง​อย่าง​ดุเดือด และ​บอก​ว่า ‘พวก​เรา​ไม่​เห็น​ว่า​คน​นี้​ผิด​ตรง​ไหน ทูตสวรรค์​อาจ​จะ​มา​พูด​กับ​เขา​จริง ๆ ก็​ได้’” (กจ. 23:9) พวก​สะดูสี​รับ​ไม่​ได้​เลย​เมื่อ​ได้​ยิน​คำ​พูด​แบบ​นั้น เพราะ​พวก​เขา​ไม่​เชื่อ​ว่า​มี​ทูตสวรรค์! (ดู​กรอบ “พวก​สะดูสี​กับ​พวก​ฟาริสี”) เกิด​ความ​วุ่นวาย​อย่าง​รุนแรง​จน​ผู้​บังคับ​กองพัน​ชาติ​โรมัน​ได้​ช่วย​ชีวิต​เปาโล​ไว้​อีก​ครั้ง​หนึ่ง (กจ. 23:10) แต่​เปาโล​ก็​ยัง​คง​ตก​อยู่​ใน​อันตราย จะ​มี​อะไร​เกิด​ขึ้น​กับ​เขา? เรา​จะ​เรียน​รู้​มาก​ขึ้น​ใน​บท​ต่อ​ไป

พวก​สะดูสี​กับ​พวก​ฟาริสี

สภา​แซนเฮดริน เป็น​สภา​บริหาร​แห่ง​ชาติ​และ​เป็น​ศาล​สูง​ของ​ชาว​ยิว​ซึ่ง​ประกอบ​ด้วย​สอง​นิกาย​ที่​เป็น​คู่​แข่ง​กัน คือ​พวก​สะดูสี​กับ​พวก​ฟาริสี ตาม​ที่​ฟลาวิอุส โยเซฟุส นัก​ประวัติศาสตร์​ใน​ศตวรรษ​แรก​ได้​บอก​ไว้ ความ​แตกต่าง​หลัก ๆ ของ​สอง​กลุ่ม​นี้​คือ พวก​ฟาริสี​พยายาม​บังคับ​ประชาชน​ให้​ทำ​ตาม​พิธีกรรม​มาก​มาย​ที่​สืบ​ทอด​กัน​มา ส่วน​พวก​สะดูสี​มอง​ว่า​ต้อง​ทำ​เฉพาะ​สิ่ง​ที่​บอก​ไว้​ใน​กฎหมาย​ของ​โมเสส​เท่า​นั้น ทั้ง​สอง​นิกาย​นี้​ร่วม​มือ​กัน​ต่อต้าน​พระ​เยซู

ดู​เหมือน​ว่า​พวก​สะดูสี​ซึ่ง​เป็น​พวก​ที่​ยึด​ติด​กับ​กฎหมาย​ของ​โมเสส​จะ​มี​อิทธิพล​อย่าง​มาก​กับ​พวก​ปุโรหิต ทั้ง​อันนาส​กับ​เคยาฟาส​ซึ่ง​ได้​รับใช้​เป็น​มหา​ปุโรหิต​ก็​อยู่​ใน​นิกาย​นี้ (กจ. 5:17) อย่างไร​ก็​ตาม โยเซฟุส​บอก​ว่า​คำ​สอน​ของ​นิกาย​นี้​สามารถ “โน้ม​น้าว​ใจ​เฉพาะ​แต่​คน​รวย​เท่า​นั้น”

อีก​ด้าน​หนึ่ง พวก​ฟาริสี​มี​อิทธิพล​อย่าง​มาก​ต่อ​สามัญ​ชน​คน​ธรรมดา แต่​แนว​คิด​ของ​พวก​เขา​ที่​เน้น​เรื่อง​ความ​สะอาด​ทาง​พิธีกรรม​อย่าง​สุด​โต่ง​ทำ​ให้​การ​ทำ​ตาม​กฎหมาย​ของ​โมเสส​เป็น​ภาระ​หนัก​ของ​ผู้​คน ไม่​เหมือน​กับ​พวก​สะดูสี พวก​ฟาริสี​เชื่อ​ว่า​ทุก​สิ่ง​ถูก​กำหนด​ไว้​ล่วง​หน้า​แล้ว และ​เชื่อ​ว่า​มี​บาง​อย่าง​ใน​ตัว​มนุษย์​ที่​ยัง​อยู่​หลัง​จาก​พวก​เขา​ตาย​ไป​แล้ว ซึ่ง​ใน​ตอน​นั้น​จะ​เป็น​ตอน​ที่​พวก​เขา​ได้​รับ​รางวัล​หรือ​ถูก​ลง​โทษ​จาก​สิ่ง​ที่​พวก​เขา​ทำ

a เนื่อง​จาก​มี​คริสเตียน​ชาว​ยิว​จำนวน​มาก ใน​ตอน​นั้น​คง​จะ​ต้อง​มี​หลาย​ประชาคม​ซึ่ง​ประชุม​กัน​ใน​บ้าน​ของ​พี่​น้อง

b ไม่​กี่​ปี​ต่อ​มา อัครสาวก​เปาโล​ได้​เขียน​จดหมาย​ถึง​ชาว​ฮีบรู เขา​อธิบาย​ว่า​สัญญา​ใหม่​นั้น​ดี​กว่า​สัญญา​เดิม​มาก ใน​จดหมาย​นั้น เปาโล​แสดง​ให้​เห็น​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​สัญญา​ใหม่​ได้​ทำ​ให้​สัญญา​เดิม​ล้า​สมัย​ไป สิ่ง​ที่​เปาโล​เขียน​ช่วย​คริสเตียน​ใน​ตอน​นั้น​ให้​สามารถ​หา​เหตุ​ผล​กับ​คน​ยิว​ที่​ต่อต้าน​พวก​เขา​ได้ นอกจากนั้น คำ​อธิบาย​ของ​เปาโล​นี้​คง​ช่วย​ให้​คริสเตียน​บาง​คน​ที่​ยัง​ให้​ความ​สำคัญ​มาก​เกิน​ไป​กับ​กฎหมาย​ของ​โมเสส​มี​ความ​เชื่อ​มาก​ขึ้น​ด้วย—ฮบ. 8:7-13

c ผู้​เชี่ยวชาญ​ให้​ความ​เห็น​ว่า​ผู้​ชาย​เหล่า​นั้น​ได้​ปฏิญาณ​เป็น​นาศีร์ (กดว. 6:1-21) ที่​จริง การ​ปฏิญาณ​แบบ​นั้น​มี​อยู่​ใน​กฎหมาย​ของ​โมเสส ซึ่ง​ตอน​นี้​ถูก​ยก​เลิก​ไป​แล้ว ถึง​แม้​จะ​เป็น​อย่าง​นั้น เปาโล​อาจ​หา​เหตุ​ผล​ว่า​คง​จะ​ไม่​ผิด​ที่​ผู้​ชาย 4 คน​จะ​ทำ​ตาม​สิ่ง​ที่​ปฏิญาณ​ไว้​กับ​พระ​ยะโฮวา ดังนั้น คง​จะ​ไม่​ผิด​ที่​เปาโล​จะ​ไป​กับ​พวก​เขา​แล้ว​ออก​ค่า​ใช้​จ่าย​ให้ จริง ๆ แล้ว​เรา​ไม่​รู้​ว่า​นี่​เป็น​คำ​ปฏิญาณ​แบบ​ไหน แต่​หลาย​ครั้ง นาศีร์​จะ​ถวาย​สัตว์​เป็น​เครื่อง​บูชา​เพื่อ​ไถ่​บาป​ของ​เขา ถ้า​เป็น​อย่าง​นั้น เรา​มั่น​ใจ​ได้​ว่า​เปาโล​จะ​ไม่​เห็น​ด้วย​กับ​การ​ทำ​อย่าง​นั้น เพราะ​หลัง​จาก​ที่​พระ​เยซู​สละ​ชีวิต​มนุษย์​สมบูรณ์​ของ​ท่าน​เป็น​ค่า​ไถ่ การ​ถวาย​สัตว์​เป็น​เครื่อง​บูชา​ก็​ไม่​สามารถ​ไถ่​บาป​ได้​อีก​ต่อ​ไป เรา​ไม่​รู้​ราย​ละเอียด​ว่า​ตอน​นั้น​เปาโล​ทำ​อะไร​บ้าง แต่​เรา​มั่น​ใจ​ว่า​เปาโล​จะ​ไม่​ทำ​อะไร​ก็​ตาม​ที่​ขัด​กับ​ความ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ชั่ว​ดี​ของ​เขา

d บาง​คน​ให้​ความ​เห็น​ว่า​เปาโล​สายตา​ไม่​ดี​เลย​จำ​มหา​ปุโรหิต​ไม่​ได้ หรือ​อาจ​เป็น​เพราะ​เขา​ไม่​ได้​อยู่​ที่​กรุง​เยรูซาเล็ม​นาน​มาก​จน​ไม่​รู้​ว่า​ตอน​นี้​ใคร​เป็น​มหา​ปุโรหิต หรือ​อาจ​เป็น​ได้​ที่​เปาโล​มอง​ไม่​เห็น​ว่า​ใคร​เป็น​คน​สั่ง​ให้​ตบ​เขา​เพราะ​ว่า​ตอน​นั้น​มี​คน​เยอะ

e ใน​ปี ค.ศ. 49 เมื่อ​พวก​อัครสาวก​และ​ผู้​ดู​แล​พิจารณา​ว่า​คน​ต่าง​ชาติ​ต้อง​ทำ​ตาม​กฎหมาย​ของ​โมเสส​หรือ​ไม่ มี​การ​พูด​ถึง​คริสเตียน​ที่​อยู่​ที่​นั่น​ใน​ตอน​นั้น​ว่า มี “สาวก​บาง​คน​ที่​เคย​นับถือ​นิกาย​ฟาริสี” (กจ. 15:5) ดู​เหมือน​ว่า​มี​การ​พูด​แบบ​นั้น​เพราะ​พวก​เขา​บาง​คน​เคย​เป็น​ฟาริสี​ก่อน​เข้า​มา​เป็น​คริสเตียน

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์