บท 12
“เราจะทำให้พวกเขาเป็นชาติเดียวกัน”
จุดสำคัญ คำพยากรณ์เรื่องไม้ 2 ท่อนซึ่งเป็นคำสัญญาว่าพระยะโฮวาจะรวบรวมประชาชนให้เป็นหนึ่งเดียว
1, 2. (ก) กลุ่มเชลยอาจตกใจเพราะอะไร? (ข) แต่ทำไมพวกเขาถึงแปลกใจ? (ค) เราจะพิจารณาคำถามอะไรบ้าง?
เอเสเคียลได้รับการชี้นำจากพระเจ้าให้ประกาศคำพยากรณ์หลายเรื่องต่อเชลยในบาบิโลนโดยแสดงท่าทางให้พวกเขาเห็น คำพยากรณ์แรกที่เอเสเคียลแสดงท่าทางเป็นเรื่องเกี่ยวกับการพิพากษา คำพยากรณ์ที่สอง ที่สาม และคำพยากรณ์ต่อ ๆ มาก็เช่นกัน (อสค. 3:24-26; 4:1-7; 5:1; 12:3-6) ที่จริง คำพยากรณ์ทุกเรื่องที่เขาได้แสดงท่าทางไปก่อนหน้านี้ก็บอกแต่ข่าวการพิพากษาที่น่ากลัวต่อชาวยิว
2 ขอให้นึกภาพว่ากลุ่มเชลยจะตกใจแค่ไหนเมื่อเอเสเคียลมายืนต่อหน้าพวกเขาและเตรียมจะแสดงท่าทางเพื่อพยากรณ์อีกครั้ง พวกเขาคงคิดว่า ‘คราวนี้จะมีข่าวร้ายอะไรอีก?’ แต่ผิดคาด เพราะเอเสเคียลแสดงท่าทางเพื่อพยากรณ์เรื่องที่ต่างออกไป ครั้งนี้ไม่ใช่การพิพากษาที่น่ากลัว แต่เป็นคำสัญญาที่ให้กำลังใจ (อสค. 37:23) เอเสเคียลประกาศข่าวอะไรกับกลุ่มเชลย? ข่าวนั้นหมายความว่าอย่างไร? และมีผลอย่างไรต่อคนที่รับใช้พระเจ้าในทุกวันนี้? ให้เรามาดูกัน
“เราจะทำให้ไม้ทั้งสองกลายเป็นท่อนเดียวกันในมือเรา”
3. (ก) ไม้ “สำหรับยูดาห์” หมายถึงอะไร? (ข) ทำไมจึงบอกว่า “ไม้ของเอฟราอิม” หมายถึง อิสราเอลสิบตระกูล?
3 พระยะโฮวาสั่งเอเสเคียลให้เอาไม้ 2 ท่อนมาเขียน ท่อนหนึ่งเขียนว่า “สำหรับยูดาห์” และอีกท่อนหนึ่งเขียนว่า “สำหรับโยเซฟ ไม้ของเอฟราอิม” (อ่านเอเสเคียล 37:15, 16) ไม้ 2 ท่อนหมายถึงอะไร? ไม้ “สำหรับยูดาห์” หมายถึง อาณาจักรสองตระกูลคือยูดาห์กับเบนยามิน กษัตริย์ในตระกูลยูดาห์ปกครองสองตระกูลนี้ และในอาณาจักรนี้ยังมีพวกปุโรหิตที่รับใช้อยู่ในวิหารที่กรุงเยรูซาเล็มด้วย (2 พศ. 11:13, 14; 34:30) ดังนั้น อาณาจักรยูดาห์มีทั้งราชวงศ์ของดาวิดและปุโรหิตตระกูลเลวี ส่วน “ไม้ของเอฟราอิม” หมายถึงอาณาจักรอิสราเอลสิบตระกูล ทำไมบอกอย่างนั้น? เพราะกษัตริย์องค์แรกของอาณาจักรสิบตระกูลคือเยโรโบอัมซึ่งมาจากตระกูลเอฟราอิม และต่อมาเอฟราอิมก็กลายเป็นตระกูลที่โดดเด่นในอาณาจักรอิสราเอลสิบตระกูล (ฉธบ. 33:17; 1 พก. 11:26) ขอสังเกตว่า อาณาจักรอิสราเอลสิบตระกูลไม่มีทั้งกษัตริย์ในราชวงศ์ดาวิดและปุโรหิตตระกูลเลวี
4. เอเสเคียลแสดงท่าทางต่อไปอย่างไร และนั่นหมายถึงอะไร? (ดูภาพแรก)
4 ต่อมา เอเสเคียลได้รับคำสั่งให้เอาไม้ 2 ท่อนมารวมกัน “และถือไว้ให้เป็นท่อนเดียว” กลุ่มเชลยมองเอเสเคียลด้วยความกังวลและถามเขาว่า “คุณจะบอกพวกเราได้ไหมว่าสิ่งเหล่านี้หมายความว่าอย่างไร?” เขาตอบว่าการแสดงท่าทางครั้งนี้หมายถึงสิ่งที่พระยะโฮวาจะทำด้วยพระองค์เอง พระยะโฮวาพูดถึงไม้ 2 ท่อนว่า “เราจะทำให้ไม้ทั้งสองกลายเป็นท่อนเดียวกันในมือเรา”—อสค. 37:17-19
5. ท่าทางที่เอเสเคียลทำมีความหมายอย่างไร? (ดูกรอบ “การเอาไม้ 2 ท่อนมารวมกัน”)
5 จากนั้นพระยะโฮวาก็อธิบายความหมายของการเอาไม้ 2 ท่อนมารวมกัน (อ่านเอเสเคียล 37:21, 22) พระองค์บอกว่า เชลยจากอาณาจักรยูดาห์สองตระกูลและเชลยจากอาณาจักรอิสราเอลสิบตระกูล (เอฟราอิม) จะถูกพากลับมาแผ่นดินอิสราเอลและรวมเป็น “ชาติเดียวกัน”—ยรม. 30:1-3; 31:2-9; 33:7
6. เอเสเคียลบท 37 มีคำพยากรณ์อะไรบ้างที่ให้กำลังใจ?
6 คำพยากรณ์เกี่ยวกับการฟื้นฟูในเอเสเคียลบท 37 น่าทึ่งจริง ๆ! พระยะโฮวาจะพิสูจน์ว่าพระองค์เป็นพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งไม่เพียงชุบชีวิตประชาชนจากสภาพเหมือนตายเท่านั้น (ข้อ 1-14) แต่ยังทำให้พวกเขาเป็นหนึ่งเดียวกันด้วย (ข้อ 15-28) ข่าวสารที่ให้กำลังใจจากคำพยากรณ์ 2 เรื่องนี้คือ ตายแล้วก็ฟื้นได้ และ แตกแยกแล้วก็เป็นหนึ่งเดียวกันได้
พระยะโฮวา “รวบรวมพวกเขากลับมา” อย่างไร?
7. ข้อคัมภีร์ที่ 1 พงศาวดาร 9:2, 3 ยืนยันอย่างไรว่า “พระเจ้าทำได้ทุกอย่าง”?
7 ในมุมมองของมนุษย์ เป็นไปไม่ได้ที่เชลยจะได้รับอิสรภาพและมารวมกันเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้งa แต่ “พระเจ้าทำได้ทุกอย่าง” (มธ. 19:26) พระยะโฮวาทำให้คำพยากรณ์ของพระองค์เกิดขึ้นจริง การเป็นเชลยในบาบิโลนสิ้นสุดในปี 537 ก่อน ค.ศ. หลังจากนั้นประชาชนจากทั้งสองอาณาจักรก็ได้กลับเยรูซาเล็มเพื่อฟื้นฟูการนมัสการแท้ คัมภีร์ไบเบิลยืนยันเรื่องนี้เพราะมีการพูดถึง “ลูกหลานบางคนในตระกูลยูดาห์ เบนยามิน เอฟราอิม และมนัสเสห์ที่มาอาศัยอยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม” (1 พศ. 9:2, 3; อสร. 6:17) ที่จริง เรื่องนี้เกิดขึ้นตามที่พระยะโฮวาบอกไว้ว่า ประชาชนของอาณาจักรอิสราเอลสิบตระกูลจะถูกพามาเป็นหนึ่งเดียวกับประชาชนของอาณาจักรยูดาห์สองตระกูล
8. (ก) อิสยาห์พยากรณ์เรื่องอะไร? (ข) เอเสเคียล 37:21 มีจุดที่น่าสังเกต 2 อย่างอะไร?
8 ประมาณ 200 ปีก่อนหน้านี้ อิสยาห์พยากรณ์ไว้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับอิสราเอลและยูดาห์หลังจากพวกเขาพ้นจากการเป็นเชลย เขาบอกว่าพระยะโฮวาจะเริ่ม “รวบรวมชาวอิสราเอลที่กระจัดกระจายอยู่” และ “ชาวยูดาห์ที่กระจายอยู่จากทั้งสี่มุมโลก” รวมทั้งพาประชาชน “ออกจากอัสซีเรีย” (อสย. 11:12, 13, 16) ที่จริง สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นตามที่พระยะโฮวาบอกไว้เอง ที่ว่าพระองค์จะพา “ชาวอิสราเอลออกมาจากชาติต่าง ๆ” (อสค. 37:21) มี 2 อย่างที่น่าสังเกตคือ พระยะโฮวาไม่ได้เรียกกลุ่มเชลยว่า “ยูดาห์” และ “เอฟราอิม” อีกต่อไป แต่เรียกรวมเป็นกลุ่มเดียวว่า “ชาวอิสราเอล” พระองค์บอกด้วยว่าชาวอิสราเอลไม่ได้ออกมาจากบาบิโลนแค่ชาติเดียว แต่ออกมาจากหลายชาติ ที่จริง พวกเขามาจาก “ทุกทิศทุกทาง”
9. พระยะโฮวาช่วยเชลยที่กลับมาเยรูซาเล็มให้เป็นหนึ่งเดียวกันอย่างไร?
9 หลังจากที่เชลยกลับมาอิสราเอล พระยะโฮวาช่วยพวกเขาให้เป็นหนึ่งเดียวกันอย่างไร? พระองค์ให้ชาติอิสราเอลมีผู้บำรุงเลี้ยง เช่น เศรุบบาเบล มหาปุโรหิตโยชูวา เอสรา และเนหะมีย์ พระเจ้ายังแต่งตั้งผู้พยากรณ์ฮักกัย เศคาริยาห์ และมาลาคีด้วย ผู้ชายที่ซื่อสัตย์เหล่านี้พยายามอย่างมากเพื่อช่วยให้คนในชาติกลับมาทำตามการชี้นำของพระยะโฮวาอีกครั้ง (นหม. 8:2, 3) นอกจากนั้น พระยะโฮวายังปกป้องชาติอิสราเอลด้วยการขัดขวางพวกศัตรูที่วางแผนจะทำลายประชาชนของพระองค์—อสธ. 9:24, 25; ศคย. 4:6
พระยะโฮวาให้มีผู้บำรุงเลี้ยงคอยช่วยประชาชนของพระองค์ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน (ดูข้อ 9)
10. ซาตานประสบความสำเร็จเรื่องอะไร?
10 ถึงแม้พระยะโฮวาดูแลชาวอิสราเอลด้วยความรัก แต่พวกเขาส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ยึดมั่นกับการนมัสการบริสุทธิ์ คัมภีร์ไบเบิลบอกเกี่ยวกับการกระทำหลายอย่างของพวกเขาหลังจากการเป็นเชลย (อสร. 9:1-3; นหม. 13:1, 2, 15) ที่จริง ช่วงหนึ่งร้อยปีที่พวกเขากลับบ้านเกิด ชาวอิสราเอลก็เขวไปไกลจากการนมัสการบริสุทธิ์ ทำให้พระยะโฮวาต้องกระตุ้นพวกเขาให้ “หันกลับมาหา” พระองค์ (มลค. 3:7) ช่วงที่พระเยซูมาบนโลก ศาสนายิวแบ่งแยกเป็นนิกายต่าง ๆ และมีผู้เลี้ยงแกะจอมปลอมเป็นผู้นำ (มธ. 16:6; มก. 7:5-8) ซาตานทำลายความเป็นหนึ่งเดียวกันได้สำเร็จ ถึงจะเป็นอย่างนั้น คำพยากรณ์ของพระยะโฮวาเรื่องการทำให้ประชาชนเป็นหนึ่งเดียวกันจะต้องเกิดขึ้นจริงแน่นอน แล้วจะเป็นไปได้อย่างไร?
“ดาวิดผู้รับใช้ของเราจะเป็นกษัตริย์ของพวกเขา”
11. (ก) พระยะโฮวาเปิดเผยอะไรเกี่ยวกับคำพยากรณ์ของพระองค์เรื่องการเป็นหนึ่งเดียวกัน? (ข) ซาตานยังพยายามทำอะไรหลังจากมันถูกขับไล่ออกจากสวรรค์?
11 อ่านเอเสเคียล 37:24 พระยะโฮวาเปิดเผยว่า คำพยากรณ์ของพระองค์เรื่องการเป็นหนึ่งเดียวกันจะเกิดขึ้นจริงหลังจากที่ “ดาวิดผู้รับใช้” ของพระองค์ซึ่งก็คือพระเยซูคริสต์เริ่มปกครองเป็นกษัตริย์ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปี 1914b (2 ซม. 7:16; ลก. 1:32) ในตอนนั้น อิสราเอลโดยกำเนิดถูกแทนที่ด้วยอิสราเอลของพระเจ้าซึ่งก็คือผู้ถูกเจิม (ยรม. 31:33; กท. 3:29) ตั้งแต่ซาตานถูกขับไล่ออกจากสวรรค์ มันก็พยายามมากขึ้นอีกที่จะทำลายความเป็นหนึ่งเดียวของคนที่รับใช้พระเจ้า (วว. 12:7-10) ตัวอย่างเช่น หลังจากพี่น้องรัสเซลล์เสียชีวิตในปี 1916 ซาตานเห็นโอกาสที่จะใช้คนทรยศพระเจ้าเพื่อทำให้ผู้ถูกเจิมแตกแยกกัน แต่ไม่นานคนที่ทรยศพระเจ้าก็ออกจากองค์การไป ซาตานยังประสบความสำเร็จที่ทำให้พี่น้องซึ่งนำหน้าประชาชนของพระเจ้าในตอนนั้นติดคุก แต่ถึงมันจะทำอย่างนั้น ก็ไม่ได้ทำให้ประชาชนของพระเจ้าพบจุดจบ ผู้ถูกเจิมที่รักษาความซื่อสัตย์ต่อพระยะโฮวายังเป็นหนึ่งเดียวกันต่อไป
12. ทำไมซาตานถึงทำให้อิสราเอลของพระเจ้าแตกแยกกันไม่สำเร็จ?
12 อิสราเอลของพระเจ้าต่างจากอิสราเอลโดยกำเนิดตรงที่พวกเขายืนหยัดต้านทานแผนของซาตานในการสร้างความแตกแยก ทำไมซาตานทำไม่สำเร็จ? เพราะผู้ถูกเจิมพยายามสุดความสามารถที่จะยึดมั่นกับมาตรฐานของพระยะโฮวา ผลคือพวกเขาได้รับการปกป้องจากพระเยซูคริสต์กษัตริย์ของพวกเขา ซึ่งอีกไม่นานท่านจะชนะซาตานอย่างเด็ดขาด—วว. 6:2
พระยะโฮวาจะทำให้คนที่นมัสการพระองค์เป็นเหมือนไม้ “ท่อนเดียวกัน”
13. คำพยากรณ์เกี่ยวกับไม้ 2 ท่อนรวมกันเป็นท่อนเดียวบอกความจริงที่สำคัญอะไรกับเรา?
13 คำพยากรณ์เรื่องไม้ 2 ท่อนกลายเป็นท่อนเดียวกันมีความสำคัญอย่างไรในสมัยของเรา? ขอจำไว้ว่าจุดสำคัญของคำพยากรณ์นี้คือ การทำให้เห็นภาพว่าคน 2 กลุ่มมาเป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างไร สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คำพยากรณ์นี้เน้นว่าพระยะโฮวาเองเป็นผู้ที่ทำให้คน 2 กลุ่มนี้เป็นหนึ่งเดียวกัน ถ้าอย่างนั้น คำพยากรณ์เรื่องการเอาไม้ 2 ท่อนมารวมกันเน้นความจริงสำคัญอะไรที่เกี่ยวข้องกับการนมัสการบริสุทธิ์? คำพยากรณ์นี้เน้นว่า พระยะโฮวาจะทำให้คนที่นมัสการพระองค์เป็นเหมือนไม้ “ท่อนเดียวกัน” ด้วยพระองค์เอง—อสค. 37:19
14. ตั้งแต่ปี 1919 คำพยากรณ์เรื่องการเอาไม้ 2 ท่อนมารวมกันเกิดขึ้นจริงในขอบเขตที่ใหญ่กว่าอย่างไร?
14 ตั้งแต่ปี 1919 หลังจากประชาชนของพระเจ้าได้รับการชำระให้สะอาดจากการนมัสการเท็จ และได้อยู่ในอุทยานโดยนัยแล้ว คำพยากรณ์เรื่องการเอาไม้ 2 ท่อนมารวมกันก็เกิดขึ้นจริงในขอบเขตที่ใหญ่กว่า ในช่วงนั้น คนส่วนใหญ่ที่ถูกพาเข้ามาเป็นหนึ่งเดียวกันมีความหวังจะได้เป็นกษัตริย์และปุโรหิตในสวรรค์ (วว. 20:6) ผู้ถูกเจิมกลุ่มนี้เป็นเหมือนไม้ “สำหรับยูดาห์” ซึ่งเป็นชาติที่มีกษัตริย์ในราชวงศ์ดาวิดและปุโรหิตตระกูลเลวีรวมอยู่ด้วย แต่เมื่อเวลาผ่านไป คนที่มีความหวังจะได้อยู่บนโลกจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็มารวมกับคริสเตียนที่ถูกเจิม คนกลุ่มหลังนี้เป็นเหมือน “ไม้ของเอฟราอิม” ซึ่งเป็นชาติที่ไม่มีกษัตริย์และปุโรหิต ทั้งสองกลุ่มเป็นประชาชนของพระยะโฮวาที่รับใช้พระองค์ร่วมกันภายใต้การปกครองของกษัตริย์องค์เดียวคือพระเยซูคริสต์—อสค. 37:24
“พวกเขาจะเป็นประชาชนของเรา”
15. คำพยากรณ์ในเอเสเคียล 37:26, 27 เกิดขึ้นจริงอย่างไรในทุกวันนี้?
15 คำพยากรณ์ของเอเสเคียลทำให้รู้ว่าหลายคนจะถูกกระตุ้นให้มานมัสการบริสุทธิ์ร่วมกับผู้ถูกเจิม พระยะโฮวาพูดถึงประชาชนของพระองค์ว่า “เราจะ . . . ทำให้พวกเขาเพิ่มจำนวนขึ้น” และ “เต็นท์ของเราจะอยู่เหนือพวกเขา” (อสค. 37:26, 27; เชิงอรรถ) คำพูดนี้ทำให้นึกถึงสิ่งที่อัครสาวกยอห์นพยากรณ์ไว้หลังสมัยเอเสเคียลประมาณ 700 ปีที่ว่า “พระองค์ผู้นั่งบนบัลลังก์นั้นจะกางเต็นท์ของพระองค์” ปกป้อง “ชนฝูงใหญ่” (วว. 7:9, 15) ในทุกวันนี้ ผู้ถูกเจิมและชนฝูงใหญ่รวมกันเป็นชาติเดียวคือ เป็นประชาชนของพระเจ้าที่ปลอดภัยอยู่ในเต็นท์ของพระองค์
16. เศคาริยาห์พยากรณ์อะไรเกี่ยวกับความเป็นหนึ่งเดียวกันของอิสราเอลของพระเจ้ากับกลุ่มคนที่มีความหวังจะได้อยู่บนโลก?
16 เศคาริยาห์ซึ่งเป็นหนึ่งในเชลยที่ได้กลับบ้านเกิด ก็พยากรณ์เกี่ยวกับการรวมเป็นหนึ่งเดียวของชาวยิวโดยนัยหรือผู้ถูกเจิมกับกลุ่มคนที่มีความหวังจะอยู่บนโลก เขาพยากรณ์ว่า “จะมี 10 คนจากทุกชาติ . . . มาจับชายเสื้อชาวยิวคนหนึ่งไว้แน่น และบอกว่า ‘พวกเราอยากไปกับคุณ เพราะพวกเราได้ยินว่าพระเจ้าอยู่กับพวกคุณ’” (ศคย. 8:23) คำว่า “ชาวยิวคนหนึ่ง” ไม่ได้หมายถึงคนเดียวแต่หมายถึงคนกลุ่มหนึ่ง และคำว่า “พวกคุณ” ในปัจจุบันคือชาวยิวโดยนัยหรือผู้ถูกเจิมที่อยู่บนโลก (รม. 2:28, 29) คำว่า “10 คน” หมายถึงคนที่มีความหวังจะอยู่บนโลก พวกเขา “จับชายเสื้อ” ของผู้ถูกเจิม “ไว้แน่น” และ “ไปกับ” พวกเขา (อสย. 2:2, 3; มธ. 25:40) คำว่า ‘จับไว้แน่น’ และ “ไปกับคุณ” เน้นความเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างแท้จริงของทั้งสองกลุ่ม
17. พระเยซูบอกอะไรเกี่ยวกับความเป็นหนึ่งเดียวกันของพวกเราในทุกวันนี้?
17 พระเยซูอาจนึกถึงคำพยากรณ์ของเอเสเคียลเรื่องการรวมเป็นหนึ่งเดียวตอนที่บอกว่าตัวท่านเองเป็นคนเลี้ยงแกะ พระเยซูบอกว่าจะนำแกะของท่าน (ผู้ถูกเจิม) มารวมกับ “แกะอื่น” (คนที่มีความหวังจะอยู่บนโลก) ให้เป็น “ฝูงเดียว” (ยน. 10:16; อสค. 34:23; 37:24, 25) ไม่ว่าเราจะมีความหวังแบบไหน คำพูดของพระเยซูและคำพยากรณ์ของผู้พยากรณ์ในอดีตอธิบายได้ดีจริง ๆ ถึงความเป็นหนึ่งเดียวที่น่าทึ่งของพวกเราในตอนนี้ ในขณะที่ศาสนาเท็จแตกเป็นกลุ่มหรือนิกายมากมายนับไม่ถ้วน พวกเรากลับเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างน่าอัศจรรย์
ทุกวันนี้ผู้ถูกเจิมและ “แกะอื่น” รวมกันเป็น “ฝูงเดียว” พวกเขาเป็นหนึ่งเดียวกันในการนมัสการพระยะโฮวา (ดูข้อ 17)
“ที่ศักดิ์สิทธิ์ของเราอยู่กับพวกเขาตลอดไป”
18. ตามที่บอกในเอเสเคียล 37:28 ทำไมสำคัญมากที่ประชาชนของพระเจ้าต้อง “ไม่ได้เป็นคนของโลก”?
18 คำพูดตอนท้ายในคำพยากรณ์ของเอเสเคียลเรื่องการเป็นหนึ่งเดียวกันช่วยให้มั่นใจว่าความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของพวกเราจะไม่มีวันถูกทำลาย (อ่านเอเสเคียล 37:28) ประชาชนของพระยะโฮวาเป็นหนึ่งเดียวกันเพราะที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์หรือการนมัสการที่บริสุทธิ์ “อยู่กับพวกเขา” และที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระยะโฮวาจะอยู่กับเขาเสมอถ้าเขารักษาตัวให้บริสุทธิ์โดยแยกต่างหากจากโลกชั่วของซาตาน (1 คร. 6:11; วว. 7:14) พระเยซูเน้นความสำคัญของการไม่เป็นคนของโลก ท่านอธิษฐานจากหัวใจเพื่อสาวกของท่านโดยบอกว่า “พ่อผู้บริสุทธิ์ ขอดูแลพวกเขาเพื่อ . . . ให้พวกเขาเป็นหนึ่งเดียวกัน . . . พวกเขาไม่ได้เป็นคนของโลก . . . ขอให้ความจริงนี้ทำให้พวกเขาบริสุทธิ์” (ยน. 17:11, 16, 17) ขอสังเกตว่าพระเยซูเชื่อมโยงการเป็น “หนึ่งเดียวกัน” กับการ “ไม่ได้เป็นคนของโลก”
19. (ก) เราจะพิสูจน์อย่างไรว่าเรากำลัง “เลียนแบบพระเจ้า”? (ข) ในคืนก่อนที่พระเยซูจะเสียชีวิต ท่านเน้นถึงความจริงที่สำคัญอะไรเกี่ยวกับความเป็นหนึ่งเดียวกัน?
19 นี่เป็นครั้งเดียวในคัมภีร์ไบเบิลที่พระเยซูเรียกพระเจ้าว่า “พ่อผู้บริสุทธิ์” พระยะโฮวาบริสุทธิ์และสูงส่งอย่างแท้จริง พระองค์สั่งชาติอิสราเอลว่า “พวกเจ้าต้องเป็นคนบริสุทธิ์ เพราะเราเป็นพระเจ้าที่บริสุทธิ์” (ลนต. 11:45) เรากำลัง “เลียนแบบพระเจ้า” เราจึงอยากจะเชื่อฟังคำสั่งของพระองค์ในทุก ๆ เรื่อง (อฟ. 5:1; 1 ปต. 1:14, 15) คำว่า “บริสุทธิ์” ถ้าใช้กับมนุษย์จะหมายถึงการ “แยกต่างหาก” พระเยซูเน้นถึงเรื่องนี้ตอนที่ท่านอยู่กับพวกสาวกในคืนก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต ท่านบอกสาวกว่า พวกเขาจะเป็นหนึ่งเดียวกันถ้าพวกเขารักษาตัวแยกต่างหากและไม่ยุ่งเกี่ยวกับความแตกแยกในโลก
“ขอให้ปกป้องพวกเขาจากตัวชั่วร้าย”
20, 21. (ก) อะไรช่วยให้เราเชื่อมั่นการปกป้องของพระยะโฮวามากขึ้น? (ข) คุณตั้งใจจะทำอะไร?
20 ในทุกวันนี้ ความเป็นหนึ่งเดียวกันของพยานพระยะโฮวาทั่วโลกเป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนว่าพระยะโฮวาทำตามคำขอของพระเยซูที่ว่า “ขอให้ปกป้องพวกเขาจากตัวชั่วร้าย” (อ่านยอห์น 17:14, 15) ที่จริง เรายิ่งเชื่อมั่นในการปกป้องจากพระยะโฮวามากขึ้นเมื่อเห็นซาตานล้มเหลวในการทำให้ประชาชนของพระเจ้าแตกแยกกัน ในคำพยากรณ์ของเอเสเคียลพระยะโฮวาบอกว่า ไม้ 2 ท่อนจะกลายเป็นท่อนเดียวในมือของพระองค์ ดังนั้น พระยะโฮวาจะปกป้องประชาชนของพระองค์ให้เป็นหนึ่งเดียวกันอย่างน่าอัศจรรย์ด้วยพระองค์เอง ซาตานไม่มีทางทำลายได้เลย
21 ดังนั้น เราควรตั้งใจทำอะไร? เราควรพยายามต่อ ๆ ไปเพื่อส่งเสริมความเป็นหนึ่งเดียวกันซึ่งมีค่ามาก มีวิธีสำคัญอะไรที่เราจะทำอย่างนั้นได้? ก็โดยการนมัสการบริสุทธิ์เป็นประจำที่วิหารโดยนัยของพระยะโฮวา ในบทต่อ ๆ ไปเราจะดูกันว่าการนมัสการนี้เกี่ยวข้องกับอะไร
a ประมาณสองร้อยปีก่อนที่เอเสเคียลพยากรณ์เรื่องนี้ ประชาชนของอาณาจักรสิบตระกูล (“ไม้ของเอฟราอิม”) ถูกชาวอัสซีเรียจับไปเป็นเชลย—2 พก. 17:23