3 ซาราห์
เธอไม่หันกลับไปมอง
ซาราห์แต่งงานกับอับราฮัมผู้ชายที่เธอรัก พวกเขาอยู่ที่เมืองเออร์ในแผ่นดินชินาร์ เมืองเออร์เป็นเมืองที่มีกำแพงใหญ่ล้อมรอบและมีแม่น้ำใหญ่ที่ชื่อยูเฟรติสอยู่ใกล้ ๆ ผู้คนในเมืองนั้นไหว้รูปเคารพ แต่อับราฮัมไม่ทำอย่างนั้น เขานมัสการพระยะโฮวาพระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียว และซาราห์ก็ทำอย่างนั้นเหมือนกัน เธอเป็นผู้หญิงที่มีความเชื่อมาก แต่อยู่มาวันหนึ่ง ซาราห์เจอการทดสอบบางอย่างที่จะทำให้รู้ว่าเธอมีความเชื่อและความกล้าหาญมากแค่ไหน
อับราฮัมมาบอกกับซาราห์ว่าพระยะโฮวามาพูดกับเขา พอได้ยินอย่างนั้น เธอคงต้องรู้สึกตื่นเต้นดีใจมากแน่ ๆ แต่พอซาราห์รู้ว่าพระเจ้าบอกให้พวกเขาทำอะไร เธอก็คงจะรู้สึกกังวล พวกเขาต้องจากบ้าน จากญาติพี่น้องที่อยู่ในเมืองเออร์ แล้วไปอยู่ในที่ห่างไกล พวกเขาต้องขี่อูฐเป็นระยะทางไกลมากพร้อมกับพวกคนใช้ และระหว่างทางก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ในเต็นท์ พวกเขาจะไม่ได้อยู่ในเมืองที่มีกำแพงใหญ่ล้อมรอบซึ่งทำให้รู้สึกปลอดภัย และจะไม่ได้อยู่ในบ้านหลังใหญ่ที่มีลานกว้าง ๆ มีน้ำประปา หรือมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ และที่สำคัญ ไม่มีตลาดที่ซาราห์จะไปซื้อของกินของใช้ได้ ถึงจะรู้ว่าชีวิตหลังจากนี้จะไม่ง่ายแต่ซาราห์ก็พร้อมจะไปกับอับราฮัม เธอแสดงความเชื่อในพระยะโฮวา เก็บข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น บอกลาเพื่อน ๆ และครอบครัว แล้วก็ออกเดินทางไปในที่ที่ไม่รู้จัก
ซาราห์ไม่ได้ขอหรือเซ้าซี้อับราฮัมให้พาเธอกลับไปเมืองเออร์เพื่อจะมีชีวิตที่ปลอดภัยกว่า แต่เธอสนับสนุนสามีที่จะไปทุกที่ที่พระยะโฮวาบอกให้ไป
ระหว่างการเดินทาง ซาราห์ก็แสดงความกล้าในอีกมุมหนึ่งด้วย เปาโลพูดถึงเธอกับสามีว่า “ถ้าพวกเขาเฝ้าคิดถึงที่ที่ตัวเองจากมา พวกเขาจะกลับไปก็ได้” (ฮบ. 11:15) ถ้าซาราห์จะเอาแต่คิดถึงบ้านที่ปลอดภัยในเมืองเออร์ เธอก็ทำได้ แต่เธอไม่ได้ทำอย่างนั้น เธอแสดงความกล้าหาญและไม่คิดจะกลับไปบ้านที่จากมา เธอไม่หันกลับไปมองอีกเลย
พอซาราห์กับอับราฮัมมาถึงแผ่นดินคานาอัน ซาราห์ก็เห็นว่าที่นั่นไม่มีแม่น้ำใหญ่เหมือนกับแม่น้ำยูเฟรติสที่พ่อค้าจะนั่งเรือมาเพื่อเอาของกินของใช้มาขาย หลังจากนั้น พอเกิดการขาดแคลนอาหารในแผ่นดินคานาอัน อับราฮัมกับซาราห์ก็เลยต้องย้ายไปที่อื่น แต่ซาราห์ไม่ได้ใช้จังหวะนี้เพื่อขอหรือเซ้าซี้อับราฮัมให้พาครอบครัวกลับไปเมืองเออร์ แต่เธอเต็มใจที่จะเดินทางลงใต้ไปอียิปต์พร้อมกับสามี
ซาราห์เป็นคนที่สวยมาก อับราฮัมเลยกลัวว่าจะมีคนมาฆ่าเขาทิ้ง แล้วชิงตัวเธอไป อับราฮัมเลยขอให้ซาราห์บอกคนอื่นว่าเธอเป็นน้องสาวของเขา แต่ก็ยังมีปัญหาเกิดขึ้นอยู่ดี พอฟาโรห์ได้ยินว่าซาราห์เป็นคนสวยมากขนาดไหน เขาก็สั่งให้คนของเขาพาเธอไปที่วัง แน่นอนว่าชีวิตในวังคงจะสะดวกสบายและปลอดภัยมากกว่าชีวิตที่อยู่ในเต็นท์ แต่ซาราห์จะตัดสินใจทิ้งอับราฮัม แล้วไปมีชีวิตที่สะดวกสบายกับฟาโรห์ไหม? เธอไม่ทำอย่างนั้น เธอแสดงความกล้าหาญและภักดีต่อสามี ในที่สุด พระยะโฮวาก็ช่วยเธอให้รอด แล้วเธอก็ได้กลับมาอยู่กับสามีที่รักของเธอa
พระยะโฮวาสัญญากับอับราฮัมว่าจะให้ลูกหลานของเขากลายเป็นชนชาติใหญ่ แต่ตอนนั้นซาราห์ยังไม่มีลูก เธอเลยรู้สึกแย่และเศร้ามาก หลังจากที่พวกเขาอยู่ในแผ่นดินคานาอันได้หลายปี พระยะโฮวาก็ให้รางวัลกับซาราห์ ถึงตอนนั้นเธอจะอายุ 90 แล้ว พระองค์ก็ให้เธอมีลูกชายอย่างที่เธอหวังไว้ พระยะโฮวาบอกให้พวกเขาตั้งชื่อลูกว่าอิสอัคซึ่งหมายถึง “การหัวเราะ” ชื่อนี้เหมาะจริง ๆ เพราะตอนที่อับราฮัมกับซาราห์รู้ตัวว่าจะมีลูก พวกเขาก็หัวเราะออกมาด้วยความดีใจ และซาราห์ก็มั่นใจว่าทุกคนที่ได้ยินเรื่องการอัศจรรย์ที่พระยะโฮวาทำให้เธอ ก็จะหัวเราะดีใจไปกับเธอด้วยเหมือนกัน
ซาราห์มีชีวิตนานพอที่จะได้เลี้ยงลูกและได้เห็นเขาโตมาเป็นคนดีที่รักพระเจ้า ที่เป็นอย่างนั้นได้ก็เพราะซาราห์เป็นแม่ที่กล้าหาญและทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อปกป้องลูก นอกจากนั้น ตั้งแต่ออกจากเมืองเออร์จนถึงวันที่เธอตาย เธอไม่หันกลับไปมองชีวิตสะดวกสบายที่เธอเคยมี แต่เธอมองไปยังอนาคตที่สดใสที่รออยู่ข้างหน้า ซึ่งเรามั่นใจว่าซาราห์กับครอบครัวจะได้เห็นเรื่องนั้นเกิดขึ้นจริงแน่นอน
อ่านข้อคัมภีร์เหล่านี้
ให้คุยกันว่า
ซาราห์แสดงความกล้าหาญยังไงบ้าง?
ค้นคว้ามากขึ้น
1. ผิดไหมที่ซาราห์จะแต่งงานกับอับราฮัมทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วพวกเขาเป็นพี่น้องกัน? (หส17.3 น. 12 ว. 5, เชิงอรรถ)
2. ตอนที่ซาราห์ออกมาจากเมืองเออร์ เธออาจต้องทิ้งอะไรไว้บ้าง? (หส17.3 น. 13 ว. 3–น. 14 ว. 2) (ภาพ ก)
Photograph taken by courtesy of the British Museum
ภาพ ก: อัญมณีที่ขุดเจอในเมืองเออร์โบราณ
3. เรารู้ได้ยังไงว่าการที่อับราฮัมไม่บอกคนอื่นว่าซาราห์เป็นภรรยาของเขาถึงเป็นเรื่องที่ฉลาดมาก? (หส17.3 น. 14 ว. 6–น. 15 ว. 2)
4. ถึงซาราห์จะนับถืออับราฮัมและยอมรับว่าเขาเป็นหัวหน้าครอบครัว แต่นั่นหมายความว่าถึงเธอจะไม่เห็นด้วยกับอับราฮัม เธอก็จะไม่พูดอะไรเลยไหม? ขออธิบาย (ต 1/08 น. 29 ว. 4-5) (ภาพ ข)
ภาพ ข
คิดถึงสิ่งที่คุณจะเอาไปใช้
ลองเปรียบเทียบซาราห์กับภรรยาของโลท
พวกเธอเหมือนกันยังไงบ้าง? (ปฐก. 12:1; 13:5-7; 19:12, 15)
พวกเธอต่างกันยังไงบ้าง? (ปฐก. 19:17, 26; ลก. 17:28-32)
เราเรียนอะไรได้จากการตัดสินใจของพวกเธอ และผลที่พวกเธอได้รับ?
ซาราห์เป็นคนสวยมากและมีสามีรวย เราเรียนอะไรได้จากตัวอย่างของเธอถ้าเราเป็นเหมือนเธอ? (สภษ. 31:30; 1 ทธ. 6:17-19)
ในชีวิตประจำวันของคุณ คุณจะกล้าหาญเหมือนซาราห์ได้ยังไงบ้าง? (ภาพ ค)
ภาพ ค
มองให้กว้างขึ้น
เรื่องนี้สอนอะไรฉันเกี่ยวกับพระยะโฮวา?
เรื่องนี้เกี่ยวข้องยังไงกับความตั้งใจของพระยะโฮวาที่มีต่อโลกและมนุษย์?
ฉันอยากถามอะไรซาราห์บ้างตอนที่เธอถูกปลุกให้ฟื้นขึ้นจากตาย?
เรียนรู้เพิ่มเติม
ตัวอย่างของซาราห์เป็นประโยชน์แค่กับภรรยาเท่านั้นไหม หรือสามีก็เรียนอะไรบางอย่างจากตัวอย่างของเธอได้เหมือนกัน?
ลองดูว่าซาราห์กับอับราฮัมทำอะไรเพื่อจะให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าได้ความนับถือ
“ให้ ‘เปลวไฟของยาห์’ ลุกโชนเสมอ” (ห23.05 น. 24-25 ว. 15-17)
a ในเวลาต่อมา ซาราห์ก็เจอเหตุการณ์คล้าย ๆ กันอีก ตอนที่กษัตริย์อาบีเมเลคจับตัวซาราห์ไป เธอก็แสดงความกล้าหาญและทำตามคำแนะนำของอับราฮัม แล้วพระยะโฮวาก็ช่วยเธอให้รอดอีกครั้ง