เบื้องหลังข่าว
ประตูสู่ชาติก่อนหรือ?
เมื่อหลายเดือนก่อน มีเด็กนักเรียนหญิงชั้นมัธยมต้นและมัธยมปลายสามคนถูกพบนอนสิ้นสติอยู่บนถนนในเมืองโทกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากการพยายามฆ่าตัวตาย. อะไรที่ได้กระตุ้นให้พวกเธอทำเช่นนั้น? หนังสือพิมพ์อาซาฮี ชิมบุนรายงานว่า: “พวกเธอเชื่อว่าตนเองเป็นเจ้าหญิงในสมัยโบราณกลับชาติมาเกิดและโน้มน้าวตนเองให้เชื่อว่าสามารถจะมองเห็นภาพอดีตชาติของตนได้หากบรรลุถึงภาวะที่ใกล้ตาย.” หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ลงว่าสิ่งที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้คือ “แนวโน้มในท่ามกลางพวกเด็ก ๆ ที่จะถอยหลังเข้าสู่โลกอันเร้นลับ [ซึ่ง]ได้มีการแพร่ออกไปทั่วอย่างน่าสังเกตในช่วงสองสามปีมานี้.” เด็กหญิงเหล่านั้นเป็นพวกที่หลงอ่านหนังสือการ์ตูนที่เน้นเรื่องการกลับชาติจนเพลิน.
แต่การยอมรับเอาแนวความคิดเกี่ยวกับการกลับชาติมาเกิดนั้นเป็นเสมือนเพียงการมุ่งไปสู่ภาพลวงตาในทะเลทรายเท่านั้นเอง. คัมภีร์ไบเบิลเปิดเผยว่าเมื่อสิ้นชีวิต ‘คนเราก็กลับเป็นดิน และในวันนั้นทีเดียวความคิดของเขาก็สูญหายไป.’ (เพลงสรรเสริญ 146:4) สัจธรรมเกี่ยวกับความตายข้อนี้ได้ถูกปิดซ่อนไว้โดยคำสอนเท็จที่ว่าจิตวิญญาณรอดอยู่เมื่อคนเราสิ้นชีวิต. แทนที่จะสอนว่ามนุษย์มีจิตวิญญาณอมตะ คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่าจิตวิญญาณตาย. (ยะเอศเคล 18:4) แต่สำหรับคนเหล่านั้นที่อยู่ในความทรงจำของพระเจ้า พวกเขามีความหวังอันเยี่ยมยอดในการกลับมีชีวิตอีก. (โยฮัน 5:28, 29) พระคัมภีร์ยังเปิดโปงหัวโจกที่เสี้ยมสอนเรื่องจิตวิญญาณอมตะและการกลับชาติเกิดด้วยว่ามันคือซาตานพญามาร “พ่อแห่งการมุสา.”—โยฮัน 8:44; เทียบกับเยเนซิศ 3:4.
ชาวคาทอลิกกับการทำแท้ง
เกือบสิบปีได้ผ่านไปนับแต่การลงประชามติเกี่ยวกับการทำแท้งในประเทศอิตาลีซึ่งได้เห็นคริสต์จักรคาทอลิกประสบความพ่ายแพ้. แต่ในหนังสือที่ออกอย่างเป็นทางการโดยบิชอพชาวอิตาลีเมื่อไม่นานมานี้ คณะปกครองสงฆ์ของคาทอลิกกำลังชี้ให้เห็นว่า “การปฏิเสธต่อการทำแท้งหรือแม้แต่มีส่วนร่วมด้วยในการนั้นก่อพันธะอันหนักอึ้งทางศีลธรรมขึ้นมา ซึ่งฝังรากลึกอยู่ในกฎหมายที่เขียนบนหัวใจของแต่ละคนและคริสต์จักรได้ยืนยันอีกครั้งถึงกฎข้อบังคับนั้นซึ่งลงโทษคริสเตียนผู้ซึ่งทำแท้งหรือมีส่วนร่วมในการทำแท้งด้วยการขับไล่เขาออกไปจากคริสต์จักร.”
ชาวอิตาลีคิดอย่างไรในเรื่องการทำแท้ง? การสำรวจเมื่อไม่นานมานี้เกี่ยวกับผู้คน 2,040 คนเผยให้เห็นว่า ตรงข้ามกับคำสั่งของคริสต์จักร ชาวอิตาลีเห็นชอบด้วยกับการทำแท้งในสถานการณ์สี่อย่าง. (1) หากการตั้งครรภ์เป็นอันตรายต่อชีวิตของมารดา มีร้อยละ 83 ที่สนับสนุนให้ทำแท้ง. (2) เมื่อมีอันตรายเกี่ยวกับการมีรูปร่างพิกลพิการของทารกในครรภ์ มีร้อยละ 76.3 สนับสนุนให้ยุติการตั้งครรภ์. (3) เมื่อสุขภาพของสตรีที่ตั้งครรภ์อยู่ในอันตราย มีร้อยละ 71.1 สนับสนุนการทำแท้ง. (4) หากการตั้งครรภ์เป็นผลเนื่องจากถูกข่มขืน มีร้อยละ 55.2 เห็นพ้องกันว่าควรยอมให้ทำแท้ง. ชาวอิตาลีมากกว่าหนึ่งในสี่สนับสนุนการทำแท้ง “ในทุกสถานการณ์ที่ผู้หญิงปรารถนาจะทำ” นี่เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์ลา รีพับบลิกา. มีการประมาณกันว่าแต่ละปีมีการทำแท้งทั้งแบบที่ถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมายในอิตาลีถึง 300,000 ราย.
ปรากฏชัดว่าในเรื่องส่วนตัวเช่นนั้น คณะปกครองสงฆ์ของคาทอลิกไม่สามารถจะให้คำแนะนำที่เป็นไปตามหลักพระคัมภีร์อย่างเพียงพอเพื่อจะได้การเชื่อฟังจากเขา. แต่ชนคริสเตียนแท้ได้รับการสอนถึงสิ่งที่พระคัมภีร์กล่าวเกี่ยวกับเรื่องสำคัญนี้. ด้วยความเอาใจใส่ต่อข้อเรียกร้องทางศีลธรรมอันสูงส่งในคัมภีร์ไบเบิล พวกเขาจะไม่ทำแท้งไม่ว่าในสถานการณ์ใดในทั้งสี่อย่างที่มีการพรรณนาไว้ข้างต้น.—เอ็กโซโด 21:22–25; ดูบทเพลงสรรเสริญ 139:14–17 และ ยิระมะยา 1:5 ด้วย.