จงก้าวไปพร้อมกับราชรถฝ่ายสวรรค์ของพระยะโฮวา
“เจ้าต้องกล่าวถ้อยคำของเราแก่พวกเขา ไม่ว่าเขาจะฟังหรือไม่ฟัง.”—ยะเอศเคล 2:7, ล.ม.
1, 2. ราชรถอะไรที่ยะเอศเคลได้เห็น และท่านได้รับพระบัญชาอะไร?
บัดนี้ราชรถฝ่ายสวรรค์ของพระยะโฮวาตั้งอยู่ตรงหน้าบรรดาพลไพร่ของพระองค์แล้ว. ด้วยนัยน์ตาแห่งความเชื่อ พวกเขามองเห็นพาหนะขององค์บรมหิศรแล้ว. เป็นพาหนะอันสง่างาม น่าสะพึงกลัว และโอ่อ่าน่าเกรงขาม.
2 ราชรถเดียวกันนั้นได้หยุดอยู่เบื้องหน้ายะเอศเคลผู้พยากรณ์ของพระเจ้าในนิมิตเมื่อประมาณ 2,600 ปีมาแล้ว. จากพระที่นั่งบนราชรถนี้เอง—ซึ่งก็คือองค์การแห่งกายวิญญาณฝ่ายสวรรค์ของพระเจ้า—พระยะโฮวาทรงประทานพระบัญชาอันสำคัญยิ่งนี้ให้แก่ยะเอศเคล: “และบุตรชายทั้งหลายที่มีหน้าตาจองหองใจแข็ง—เราใช้เจ้าไปหาเขา และเจ้าต้องบอกเขาว่า ‘นี่แหละเป็นสิ่งที่พระยะโฮวาองค์บรมมหิศรได้ตรัส.’ ส่วนพวกเขา ไม่ว่าเขาจะฟังหรือไม่ฟัง—เพราะเขาเป็นเรือนกบฏ—เขาจะรู้อย่างแน่นอนด้วยว่ามีผู้พยากรณ์ได้มาอยู่ในท่ามกลางเขา.”—ยะเอศเคล 2:4, 5, ล.ม.
3. อะไรคือคู่เทียบของยะเอศเคลในสมัยนี้?
3 ยะเอศเคลปฏิบัติตามหน้าที่มอบหมายนั้นอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ โดยรับใช้ในฐานะเป็นเครื่องมือชิ้นเดียวในพระหัตถ์แห่งพระเจ้า. ในทำนองเดียวกัน บัดนี้พระเจ้าก็ทรงมีองค์การเดียวซึ่งเป็นเครื่องมือที่อยู่ในการควบคุมของพระองค์. ชนจำพวกยะเอศเคล ซึ่งก็คือชนที่เหลือผู้ถูกเจิม เป็นแนวหน้าแห่งการงานให้คำพยานรอบสุดท้าย พร้อมด้วย “ชนฝูงใหญ่” แห่ง “แกะอื่น” ที่รวบรวมกันอยู่ทุกหัวระแหงเพื่อให้การสนับสนุน. (วิวรณ์ 7:9, 10, ล.ม.; โยฮัน 10:16) พวกเขารวมกันเป็น “ฝูงเดียว” พร้อมด้วยมีผู้เลี้ยงที่ดีเยี่ยม พระเยซูคริสต์ ซึ่งทรงนำพวกเขาภายใต้พระบรมเดชานุภาพแห่งพระผู้สูงสุดผู้ประทับบนราชรถนั้น พระเจ้ายะโฮวา.
4, 5. องค์การที่เห็นได้ของพระเจ้ามีขึ้นมาอย่างไร และองค์การนี้ได้ประสบกับอะไรซึ่งสอดคล้องกับยะซายา 60:22?
4 ภายใต้การทรงนำของพระยะโฮวา องค์การซึ่งมีขอบข่ายคลุมไปทั่วโลกนี้ได้เติบโตขึ้นจากการเริ่มต้นในขนาดเล็ก ๆ จนกลายเป็นองค์การอันทรงอานุภาพสำหรับการประกาศพระราชกฤษฎีกาให้ “เกรงกลัวพระเจ้าและถวายเกียรติยศแด่พระองค์ เพราะว่าเวลาที่พระองค์จะทรงพิพากษานั้นมาถึงแล้ว.” (วิวรณ์ 14:7) เช่นเดียวกับที่ยะเอศเคลไม่ได้ยกตัวเองหรือแต่งตั้งตนเองขึ้นเป็นผู้พยากรณ์ องค์การที่เห็นได้ของพระเจ้าก็ไม่ได้สรรค์สร้างหรือแต่งตั้งตนเอง. องค์การนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาจากความต้องการหรือความพยายามของมนุษย์. พระเจ้าผู้ทรงประทับบนราชรถต่างหากที่ทรงทำให้องค์การนี้มีขึ้น. ด้วยการได้รับพลังโดยทางพระวิญญาณของพระเจ้าและการหนุนหลังจากเหล่าทูตสวรรค์บริสุทธิ์ พลไพร่ของพระยะโฮวาจึงได้มีการขยายตัวขึ้นอย่างน่าสังเกต ‘คนตัวเล็กจึงเพิ่มเป็นชนชาติใหญ่.—ยะซายา 60:22, ล.ม.
5 มีพยานของพระยะโฮวามากกว่า 4,000,000 คนกำลังประกาศข่าวสารเรื่องราชอาณาจักรอยู่ใน 212 ดินแดน. พวกเขาได้รับการจัดเป็นกลุ่ม ๆ มากกว่า 63,000 ประชาคมซึ่งจัดเป็นหมวดและภาค. สำนักงานสาขาและโรงพิมพ์จำนวนมากมายหลายแห่งกำลังปฏิบัติงานภายใต้การชี้นำของคณะกรรมการปกครองซึ่งอยู่ในฐานะเป็นศูนย์กลางขององค์การสำนักงานใหญ่. เสมือนเป็นบุคคลเดียว ทุกคนก็กำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ประกาศข่าวดี, ให้การศึกษาแก่คนเหล่านั้นซึ่งตอบรับ, สร้างสถานที่ประชุม. ถูกแล้ว องค์การที่เห็นได้ของพระยะโฮวากำลังก้าวไปพร้อมกับราชรถฝ่ายสวรรค์และพระองค์ผู้ประทับบนราชรถนั้น.
6. มีอะไรที่เกี่ยวข้องอยู่ด้วยในการก้าวไปพร้อมกับองค์การที่เห็นได้ของพระยะโฮวา?
6 หากคุณเป็นพยานของพระยะโฮวาคนหนึ่ง คุณกำลังก้าวไปพร้อมกับองค์การที่เห็นได้ของพระเจ้าหรือเปล่า? การทำเช่นนั้นไม่ใช่เป็นเรื่องง่าย ๆ เพียงแต่การเข้าร่วมการประชุมต่าง ๆ ของคริสเตียนและใช้เวลาในการประกาศเท่านั้น. ประการแรก การก้าวนั้นเกี่ยวข้องกับการทำความก้าวหน้าและการเติบโตทางฝ่ายวิญญาณ. สิ่งนั้นเกี่ยวพันกับการมีทัศนะในแง่ดี จัดลำดับสิ่งที่อยู่ในอันดับแรกให้ถูกต้อง และการเป็นคนที่ทันกาล. หากเรากำลังก้าวไปพร้อมกับราชรถฝ่ายสวรรค์ของพระยะโฮวา ชีวิตของเราจะสอดคล้องกับข่าวสารที่เราประกาศ.
7. ทำไมจึงเอาใจใส่ในการกระทำของยะเอศเคลในฐานะเป็นผู้พยากรณ์ของพระเจ้า?
7 ในเรื่องของการก้าวไปพร้อมกันนี้ บรรดาผู้รับใช้ของพระยะโฮวาในสมัยปัจจุบันสามารถเรียนรู้ได้มากทีเดียวจากแบบอย่างของยะเอศเคล. ถึงแม้จะได้รับการแต่งตั้งเป็นพิเศษจากพระยะโฮวาให้เป็นผู้พยากรณ์ ยะเอศเคลก็ยังมีความรู้สึก, ความเป็นห่วง และความต้องการ. อาทิ เมื่อเปรียบเทียบดูในฐานะที่เป็นคนหนุ่มที่สมรสแล้ว ท่านเป็นทุกข์โศกเศร้าเนื่องจากการสูญเสียภรรยาไปในความตาย. แต่ท่านไม่เคยละสายตาไปจากงานมอบหมายในฐานะเป็นผู้พยากรณ์ของพระยะโฮวาเลย. โดยการพิจารณาถึงวิธีที่ยะเอศเคลประพฤติในแง่มุมอื่น ๆ ด้วย เราก็อาจชูกำลังตนเองได้เพื่อจะก้าวไปพร้อมกับองค์การที่เห็นได้ของพระเจ้า. สิ่งนี้จะทำให้เราสามารถก้าวไปพร้อมกับองค์การของพระองค์ที่ไม่ประจักษ์แก่ตา.
ตอบรับหน้าที่มอบหมายและทำให้สำเร็จ
8. เกี่ยวกับหน้าที่มอบหมายของท่านนั้น ยะเอศเคลได้วางแบบอย่างอะไรไว้?
8 ยะเอศเคลได้วางแบบอย่างอันดีไว้โดยการตอบรับเอาหน้าที่มอบหมายของท่านและทำจนสำเร็จ. แต่การเชื่อฟังและความกล้าเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อจะทำหน้าที่นั้นให้ลุล่วง เพราะเราอ่านดังนี้: “บุตรมนุษย์เอ๋ย อย่ากลัวพวกเขา; และถ้อยคำของเขาก็จงอย่ากลัว เพราะมีพวกดื้อรั้นและสิ่งต่าง ๆ ที่ทิ่มแทงเจ้าอยู่และเจ้าอาศัยอยู่ท่ามกลางแมลงป่อง. จงอย่ากลัวถ้อยคำของพวกเขา และอย่าตกตะลึงเนื่องด้วยใบหน้าของพวกเขา เพราะพวกเขาเป็นเรือนกบฏ. และเจ้าต้องกล่าวถ้อยคำของเราแก่พวกเขา ไม่ว่าพวกเขาจะฟังหรือไม่ฟัง ด้วยพวกเขาเป็นกบฏ. และเจ้า บุตรมนุษย์ จงฟังสิ่งที่เราจะกล่าวแก่เจ้า. อย่าได้เป็นกบฏเหมือนเรือนกบฏนั้น.”—ยะเอศเคล 2:6-8, ล.ม.
9. ยะเอศเคลจะพ้นจากความผิดฐานทำให้โลหิตตกได้โดยการทำสิ่งใดเท่านั้น?
9 ยะเอศเคลไม่ควรเป็นคนเฉยเมยหรือหวาดกลัว ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการกระตุ้นอยู่เสมอเพื่อทำหน้าที่มอบหมายของท่านให้สำเร็จ. ท่านจะพ้นจากความผิดฐานทำให้โลหิตตกได้เพียงแต่หากท่านกล่าวคำของพระยะโฮวาด้วยความเต็มใจและด้วยความกล้าหาญเท่านั้น. ยะเอศเคลได้รับการแจ้งว่า: “หากเจ้าได้เตือนคนชั่วและเขาไม่หันกลับจริง ๆ จากการชั่วของเขาและจากทางชั่วของเขา เขาเองจะตายเพราะความผิดของเขา; แต่ส่วนเจ้า เจ้าจะได้จิตวิญญาณของเจ้าเองรอด.”—ยะเอศเคล 3:19, ล.ม.
10. ชนจำพวกยะเอศเคลได้พิสูจน์ตัวว่าเป็นเช่นเดียวกับผู้พยากรณ์นั้นโดยวิธีใด?
10 เหมือนในกรณีของยะเอศเคล ชนจำพวกยะเอศเคลซึ่งถูกเจิมได้รับเอาหน้าที่มอบหมายของพวกเขาจากพระเจ้าและกำลังทำหน้าที่มอบหมายนั้นให้สำเร็จ. หากเราเป็นพยานของพระยะโฮวา เราพึงจดจำไว้ว่าชีวิตของเราและชีวิตของคนอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับการเชื่อฟังของเรา. (1 ติโมเธียว 4:15, 16) พยานทุกคนจำต้องก้าวไปพร้อมกับองค์การของพระยะโฮวา. พระเจ้าจะไม่ทรงผูกเราติดกับราชรถของพระองค์และลากเราไปด้วย. ความเฉยเมยและหัวใจที่แบ่งแยกทำให้พระองค์ผู้ประทับราชรถเสื่อมเกียรติ. ฉะนั้น องค์การที่เห็นได้ของพระยะโฮวาจึงกระตุ้นเตือนเราให้ชีวิตของเรารวมจุดอยู่ที่ผลประโยชน์แห่งราชอาณาจักร. การตอบรับอย่างเสมอต้นเสมอปลายต่อการกระตุ้นเตือนเช่นนั้นทำให้เราก้าวไปพร้อมกับองค์การของพระเจ้าและทำให้งานรับใช้อันศักดิ์สิทธิ์ของเราให้เป็นยิ่งกว่ากิจวัตรประจำวัน ซึ่งทำไปโดยไม่มีชีวิตชีวาเหมือนเครื่องจักร. แน่นอน พลไพร่ของพระยะโฮวาโดยส่วนรวมแสดงความเลื่อมใสอย่างน่าสังเกต. ส่วนของเราแต่ละคนก็คือการรักษาจังหวะก้าวนั้นไว้.
รับเอาพระคำของพระเจ้าเข้าไว้ในหัวใจ
11. ยะเอศเคลได้วางแบบอย่างอะไรไว้เกี่ยวกับพระคำของพระเจ้า?
11 ยะเอศเคลยังได้วางแบบอย่างอันดียิ่งไว้ด้วยโดยการรับเอาพระคำของพระเจ้าเข้าไว้ในหัวใจของท่าน. เมื่อได้รับพระบัญชา ท่านได้กินม้วนหนังสือที่พระเจ้าทรงประทานให้. ยะเอศเคลกล่าวว่า “หนังสือนั้นหวานดังน้ำผึ้งอยู่ในปากของข้าพเจ้า.” แม้ว่าหนังสือนั้นเต็มไปด้วย “ความระทมทุกข์และการคร่ำครวญและพิลาปร่ำไห้” หนังสือนั้นหวานสำหรับยะเอศเคล ก็เนื่องจากท่านหยั่งรู้ค่าถึงเกียรติยศแห่งการเป็นตัวแทนของพระยะโฮวา. นั่นเป็นประสบการณ์ที่ให้ความสุขแก่ผู้พยากรณ์ที่จะทำให้หน้าที่มอบหมายของท่านซึ่งพระเจ้าทรงประทานให้นั้นให้ลุล่วง. พระเจ้าทรงตรัสแก่ท่านว่า: “บุตรมนุษย์เอ๋ย คำทั้งปวงของเราซึ่งเราจะกล่าวกับเจ้า จงรับเข้าไว้ในหัวใจของเจ้าและฟังด้วยหูของเจ้า.” (ยะเอศเคล 2:9–3:3, 10, ล.ม.) นิมิตเหล่านั้นทำให้ยะเอศเคลสำนึกอย่างมากถึงสิ่งที่พระเจ้าทรงยอมให้ท่านมีส่วนด้วยและเสริมสายสัมพันธ์ของท่านกับพระยะโฮวาให้เข้มแข็งขึ้น.
12. ยะเอศเคลได้ทำอะไร ในช่วงเวลากว่ายี่สิบปีแห่งการรับใช้ในฐานะเป็นผู้พยากรณ์?
12 ยะเอศเคลได้รับนิมิตและข่าวสารต่าง ๆ เพื่อจุดประสงค์หลายอย่างและผู้ฟังหลายชนิด. ท่านต้องฟังด้วยความระมัดระวังและจากนั้นก็กล่าวและปฏิบัติตามที่ได้รับการชี้นำ. รายละเอียดและวิธีการใหม่ ๆ ได้มีการเปิดเผยแก่ท่านเป็นขั้น ๆ ในระหว่างช่วงเวลาประมาณ 22 ปีแห่งงานรับใช้เป็นผู้พยากรณ์. บางครั้งยะเอศเคลกล่าวข่าวสารที่มีถ้อยคำพิเศษเฉพาะอย่าง. ในบางครั้ง ท่านอาศัยการแสดงออกอย่างเงียบ ๆ ดังเช่นการนอนตรงหน้าก้อนอิฐซึ่งเป็นเครื่องหมายเล็งถึงกรุงยะรูซาเลม. (ยะเอศเคล 4:1–8) แบบอย่างของท่านในเรื่องส่วนตัว เช่นปฏิกิริยาของท่านต่อการตายของภรรยาของท่าน ก็เป็นการแจ้งข่าวสารด้วย. (ยะเอศเคล 24:15–19) ท่านจำต้องทันต่อเหตุการณ์ เสนอข่าวสารที่ถูกต้องและปฏิบัติอย่างไม่มีผิดพลาดและตรงเวลา. ยะเอศเคลผูกพันใกล้ชิดอย่างยิ่งและทำงานเป็นขั้นตอนสัมพันธ์กับพระยะโฮวา.
13. เราจะสร้างสัมพันธภาพอันใกล้ชิดกับพระยะโฮวาได้อย่างไร?
13 ในทำนองเดียวกัน เพื่อจะสร้างและรักษาสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับพระยะโฮวาในฐานะเป็นผู้ร่วมงานกับพระองค์นั้น เราต้องรับเอาพระคำของพระเจ้าเข้าไว้ในหัวใจของเรา. (1 โกรินโธ 3:9) การก้าวไปพร้อมกับองค์การที่เห็นได้ของพระเจ้าในแง่นี้เรียกร้องให้เราทันกับอาหารฝ่ายวิญญาณที่มีออกมาตามเวลาอันเหมาะสม. (มัดธาย 24:45–47) “ภาษาบริสุทธิ์” กำลังแผ่ขยายออกไปไม่หยุดยั้ง. (ซะฟันยา 3:9) เฉพาะถ้าเราเป็นผู้ที่ทันกาลอยู่เท่านั้นเราจึงจะสามารถตอบรับด้วยความเชื่อฟังต่อการชี้นำแห่งพระองค์ผู้ประทับบนราชรถนั้นได้อย่างแท้จริง.
14, 15. ตารางเวลาอะไรนับว่าจำเป็นเพื่อจะก้าวไปพร้อมกับก้าวที่จัดขึ้นโดยองค์การของพระเจ้า?
14 เพื่อจะทำเช่นนั้นได้ เราจำเป็นต้องมีตารางเวลาที่ดีเกี่ยวกับการอธิษฐานเป็นส่วนตัว, การศึกษาส่วนตัว, และการเข้าส่วนในงานรับใช้อันศักดิ์สิทธิ์แห่งข่าวดี. (โรม 15:16) จงระลึกถึงแบบอย่างของยะเอศเคลในการกินม้วนหนังสือซึ่งบรรจุข่าวสารของพระเจ้า. ยะเอศเคลกินม้วนหนังสือนั้นทั้งหมด ไม่ใช่แต่บางส่วน. ท่านไม่ได้หยิบขึ้นมาและเลือกแต่บางส่วนซึ่งถูกกับรสนิยมของท่านมากกว่า. ในทำนองเดียวกัน การศึกษาส่วนตัวของเราเกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิลและสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ของคริสเตียนควรมีการปรับปรุงให้ทันกับการออกมาของอาหารฝ่ายวิญญาณ และเราควรรับประทานทั้งหมดที่มีการจัดให้บนโต๊ะฝ่ายวิญญาณ รวมทั้งสัจธรรมอันลึกซึ้งด้วย.
15 เราพยายามอย่างจริงจังไหมเพื่อจะเข้าใจความหมายของอาหารแข็ง? การก้าวไปพร้อมกันเรียกร้องให้ความรู้และความเข้าใจของเราก้าวหน้าไปเกินกว่าเพียงสิ่งพื้นฐาน เพราะเราอ่านว่า: “ทุกคนที่ยังกินน้ำนมอยู่ไม่เป็นคนชำนาญในถ้อยคำแห่งความชอบธรรม ด้วยว่าเขายังเป็นทารกอยู่. แต่อาหารแข็งนั้นเป็นอาหารสำหรับผู้ใหญ่ คือผู้ที่เคยฝึกหัดความคิดของเขาจนสังเกตได้ว่าไหนดีไหนชั่ว.” (เฮ็บราย 5:13, 14) ถูกแล้ว การทำความก้าวหน้าฝ่ายวิญญาณเป็นส่วนสำคัญยิ่งในการก้าวไปพร้อมกับองค์การของพระเจ้า.
ไม่ถูกขัดขวางโดยความไม่แยแส
16, 17. ยะเอศเคลรับมือกับความไม่แยแส, การเยาะเย้ย, และการไม่ตอบรับได้อย่างไร?
16 ยะเอศเคลได้วางแบบอย่างอันดีไว้ด้วยเช่นกันโดยการเป็นผู้ที่เชื่อฟังและการไม่ยอมให้ตนเองถูกขัดขวางโดยความไม่แยแสหรือการพูดเยาะเย้ย. ในทำนองคล้ายคลึงกัน ด้วยการก้าวให้ทันกับพัฒนาการของภาษาบริสุทธิ์ เราก็ถูกทำให้ประสานกันเข้ากับการทรงนำของพระองค์ผู้ประทับบนราชรถนั้น. ด้วยเหตุนั้น เราจึงถูกเตรียมไว้พร้อมเพื่อตอบรับต่อพระบัญชาของพระองค์ ได้รับการเสริมให้เข้มแข็งเพื่อจะไม่ถูกขัดขวางโดยความไม่แยแสหรือการเยาะเย้ยของคนเหล่านั้นซึ่งเราได้บอกข่าวสารการพิพากษาของพระยะโฮวาแก่เขา. เช่นเดียวกับยะเอศเคล พระเจ้าได้ทรงเตือนเราไว้ล่วงหน้าว่าผู้คนบางพวกจะต่อต้านอย่างหนักหน่วง เป็นพวกหัวแข็งและใจดื้อกระด้าง. คนอื่น ๆ จะไม่ฟังเนื่องจากพวกเขาไม่ต้องการฟังพระยะโฮวา. (ยะเอศเคล 3:7–9) และคนอื่น ๆ จะเป็นคนออกหาก ดังที่ยะเอศเคล 33:31, 32 (ล.ม.) กล่าวว่า: “เขาทั้งหลายจะมาหาเจ้า ดุจดังการมาของผู้คน และนั่งลงตรงหน้าเจ้าดังเป็นไพร่พลของเรา; และเขาทั้งหลายจะฟังถ้อยคำของเจ้าแน่ แต่เขาจะไม่ทำตาม เพราะด้วยปากของเขา เขาแสดงความตัณหาและหัวใจของเขาก็มุ่งผลกำไรโดยมิชอบ. และนี่แน่ะ สำหรับพวกเขาเจ้าเป็นเหมือนเพลงรักอันเร่าร้อน เสมือนคนที่มีเสียงไพเราะและกำลังดีดเครื่องสายอย่างชำนาญ. และเขาทั้งหลายจะได้ยินถ้อยคำของท่านแน่ แต่ไม่มีสักคนที่ทำตาม.”
17 ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร? ข้อ 33 เสริมว่า: “และเมื่อสิ่งนั้นบังเกิดขึ้น นี่แน่ะ สิ่งนั้นต้องเกิดขึ้นแน่—พวกเขาจะได้รู้เช่นกันว่าผู้พยากรณ์ได้อยู่ในท่ามกลางเขา.” ถ้อยคำเหล่านี้เปิดเผยว่ายะเอศเคลไม่ได้หยุดเลิกเพราะไม่มีผู้ตอบรับ. ความไม่แยแสของคนอื่น ๆ ไม่ได้ทำให้ท่านเฉยเมยไปด้วย. ไม่ว่าผู้คนฟังหรือไม่ ท่านก็เชื่อฟังพระเจ้าและทำหน้าที่มอบหมายของท่านจนสำเร็จ.
18. คุณอาจถามตัวเองด้วยคำถามอะไร?
18 บัดนี้องค์การที่เห็นได้ของพระเจ้ากำลังเพิ่มทวีการประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่าทุกคนควรเกรงกลัวพระเจ้าและถวายเกียรติยศแด่พระองค์. คุณยังมานะบากบั่นอยู่ไหมเมื่อถูกตำหนิวิจารณ์เนื่องจากการยืนหยัดอย่างกล้าหาญในการให้คำพยานเรื่องราชอาณาจักร หรือเนื่องจากการดำเนินชีวิตอย่างมีศีลธรรม? คุณยืนหยัดมั่นคงอยู่ไหมเมื่อตกเป็นเป้าแห่งการบีบคั้นกดดันเพราะคุณไม่ยอมรับเลือด, ไม่บูชาสัญลักษณ์ของชาติ, ไม่ฉลองวันหยุดของโลก?—มัดธาย 5:11, 12; 1 เปโตร 4:4, 5.
19. เราจะทำอย่างไรกับการชี้นำต่าง ๆ หากเรากำลังก้าวไปพร้อมกับราชรถฝ่ายสวรรค์ของพระยะโฮวา?
19 แนวทางนี้ไม่ใช่แนวทางที่ง่าย แต่คนเหล่านั้นซึ่งอดทนจนถึงที่สุดจะได้รับการช่วยให้รอด. (มัดธาย 24:13) ด้วยความช่วยเหลือจากพระยะโฮวา เราต้องไม่ยอมให้ผู้คนของโลกทำให้เราเป็นเหมือนพวกเขาและดังนั้นจึงก้าวไม่ทันกับราชรถฝ่ายสวรรค์ของพระยะโฮวา. (ยะเอศเคล 2:8; โรม 12:21) หากเราก้าวไปพร้อมกับองค์การแห่งทูตสวรรค์ซึ่งเป็นเสมือนราชรถแล้ว เราจะปฏิบัติตามการทรงนำและคำแนะนำต่าง ๆ ซึ่งได้รับผ่านมาทางองค์การที่เห็นได้ของพระเจ้าอย่างฉับพลัน. พระยะโฮวาทรงจัดเตรียมสิ่งที่เราจำเป็นต้องมีเพื่อรับมือกับการโจมตีต่าง ๆ ที่มีต่อความเชื่อของเรา เพื่อยึดมั่นอยู่กับพระคำแห่งชีวิต และเพื่อเราจะจดจ้องอยู่กับความเป็นจริงฝ่ายวิญญาณซึ่งรวมจุดอยู่ที่องค์บรมมหากษัตริย์ผู้ทรงประทับบนราชรถฝ่ายสวรรค์นั้น.
รับการกระตุ้นให้รักษาฝีก้าว
20. สิ่งที่ยะเอศเคลบันทึกไว้นั้นมีอะไรบ้างที่ควรกระตุ้นให้เราก้าวไปพร้อมกับองค์การของพระเจ้า?
20 นิมิตของยะเอศเคลน่าจะกระตุ้นเราให้รักษาฝีก้าว. ท่านไม่เพียงแต่แถลงการพิพากษาของพระเจ้าแก่ชนยิศราเอลเท่านั้นแต่ยังได้บันทึกคำพยากรณ์เกี่ยวกับการฟื้นฟูด้วย. ยะเอศเคลได้ชี้ไปยังพระองค์ผู้นั้นซึ่งมีสิทธิตามกฎหมายที่จะปกครองบนพระที่นั่งของพระยะโฮวาเมื่อถึงเวลากำหนด. (ยะเอศเคล 21:27) ผู้รับใช้องค์นั้นของพระเจ้า “ดาวิด” จะรวบรวมไพร่พลของพระเจ้าเข้ามาอีกครั้งหนึ่งและบำรุงเลี้ยงพวกเขา. (ยะเอศเคล 34:23, 24) แม้ว่าพวกเขาจะถูกโจมตีโดยโฆฆแห่งมาโฆฆ พระเจ้าก็จะทรงช่วยพวกเขาให้รอด และบรรดาศัตรูของพระองค์จะถูกบังคับให้ “รู้จักพระยะโฮวา” กระทั่งเมื่อพวกเขาดำเนินสู่ความพินาศ. (ยะเอศเคล 38:8–12; 39:4, 7) ครั้นแล้ว บรรดาผู้รับใช้ทั้งหลายของพระเจ้าก็จะชื่นชมกับชีวิตตลอดกาลในระบบใหม่แห่งการนมัสการอันบริสุทธิ์ซึ่งเกี่ยวข้องกับพระวิหารฝ่ายวิญญาณ. น้ำแห่งชีวิตซึ่งไหลออกมาจากสถานศักดิ์สิทธิ์นั้นจะเป็นแหล่งแห่งการบำรุงเลี้ยงและการเยียวยารักษา และจะมีการแบ่งสรรแผ่นดินเพื่อจะเป็นพระพรสำหรับพวกเขา.—ยะเอศเคล 40:2; 47:9, 12, 21.
21. เพราะเหตุใดบทบาทของพยานพระยะโฮวาในสมัยนี้จึงมีมากกว่าของยะเอศเคล?
21 ยะเอศเคลคงต้องตื่นเต้นเพียงไรที่จะบันทึกคำพยากรณ์เหล่านั้นลงไว้! กระนั้น บทบาทของพยานของพระยะโฮวาในสมัยนี้ยิ่งใหญ่กว่า. พวกเรากำลังมีชีวิตอยู่ในเวลาที่คำพยากรณ์เหล่านั้นบางส่วนกำลังสำเร็จสมจริง. ที่จริง เรากำลังมีส่วนด้วยในความสำเร็จสมจริงบางอย่าง. โดยวิธีที่เราดำเนินชีวิตอยู่ เราแต่ละคนแสดงออกซึ่งความเชื่อมั่นไหมว่า บัดนี้พระเยซูทรงปกครองอยู่ในฐานะเป็นผู้มีสิทธิอันชอบธรรมตามกฎหมาย? โดยส่วนตัวแล้วเราเชื่อมั่นไหมว่าอีกไม่ช้าพระยะโฮวาจะทรงทำให้พระองค์เองได้รับการเชิดชูและทรงช่วยคนเหล่านั้นที่ก้าวไปพร้อมกับองค์การของพระองค์ให้รอด? (2 เปโตร 3:13) ความเชื่อมั่นเช่นนั้น พร้อมกับการประพฤติสอดคล้องกับความเชื่อ แสดงว่าเรากำลังก้าวไปพร้อมกับราชรถฝ่ายสวรรค์ของพระยะโฮวาอยู่จริง ๆ.
จงรักษาฝีก้าวต่อ ๆ ไป
22. จะทำอะไรได้บ้างเพื่อหลีกให้พ้นจากการไขว้เขวออกนอกทางเพื่อว่าจะรักษาไว้ซึ่งทัศนะที่ชัดเจนฝ่ายวิญญาณ?
22 เมื่อ ‘เอามือจับคันไถแล้ว’ เราต้องไม่หันไปมองข้างหลังด้วยความปรารถนาต่อสิ่งใด ๆ ที่โลกอาจเสนอให้. (ลูกา 9:62; 17:32; ติโต 2:11–13) ดังนั้น จงให้เราควบคุมบังคับแนวโน้มเอียงใด ๆ ที่จะส่ำสมทรัพย์สมบัติฝ่ายโลก และให้เรารักษาตาของเราให้มองตรงไป จดจ้องอยู่ที่ราชอาณาจักรนั้น. (มัดธาย 6:19–22, 33) โดยการดำเนินชีวิตเรียบง่าย การสลัดภาระทางโลกเสียเท่าที่จะทำได้ จะช่วยเราให้ก้าวไปพร้อมกับองค์การของพระยะโฮวา. (เฮ็บราย 12:1–3) สิ่งที่จิตใจไขว้เขวไปอาจทำให้การมองเห็นราชรถฝ่ายสวรรค์และพระองค์ผู้ประทับราชรถนั้นพร่ามัวไปได้. แต่ด้วยความช่วยเหลือจากพระองค์ เราสามารถรักษาไว้ซึ่งทัศนะฝ่ายวิญญาณที่ชัดเจนได้ ดังที่ยะเอศเคลได้ทำ.
23. พยานที่ซื่อสัตย์ทั้งหลายจำต้องทำอะไรเพื่อประโยชน์ของคนใหม่ ๆ?
23 หน้าที่รับผิดชอบส่วนหนึ่งของเราในฐานะเป็นพยานของพระยะโฮวานั้นเกี่ยวพันกับการช่วยเหลือคนใหม่ ๆ หลายคนให้ก้าวไปพร้อมกับราชรถฝ่ายสวรรค์ของพระเจ้า. ในปี 1990 เกือบ 10,000,000 คนได้เข้าร่วมในการประชุมอนุสรณ์แห่งการวายพระชนม์ของพระเยซูคริสต์. ขณะที่คนเหล่านี้หลายคนอาจกำลังเข้าร่วมการประชุมบางอย่างของคริสเตียน พวกเขาจำเป็นต้องเข้าใจความสำคัญของการก้าวหน้าไปพร้อมกับองค์การที่เห็นได้ของพระยะโฮวา. ในฐานะพยานที่ซื่อสัตย์ เราสามารถช่วยพวกเขาโดยน้ำใจที่เราแสดงออกและการหนุนใจที่เราให้แก่เขา.
24. เราควรทำอะไรในช่วงเวลาอันตื่นเต้นสุดยอดนี้?
24 บัดนี้เป็นช่วงเวลาอันตื่นเต้นเร้าใจที่สุด. ด้วยสายตาแห่งความเชื่อ เราได้เห็นราชรถฝ่ายสวรรค์หยุดอยู่ตรงหน้าเรา. องค์บรมมหากษัตริย์ผู้ประทับบนราชรถได้ทรงมอบหมายหน้าที่แก่องค์การที่เห็นได้ของพระองค์ให้ประกาศแก่นานาประเทศเพื่อว่า ในที่สุด พวกเขาจะได้รู้ว่าพระยะโฮวาคือผู้ใด. (ยะเอศเคล 39:7) จงทำให้โอกาสอันยิ่งใหญ่นี้เป็นประโยชน์มากที่สุดโดยเข้าร่วมในการพิสูจน์แสดงถึงพระบรมเดชานุภาพของพระเจ้าและการยกย่องเชิดชูพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ด้วยการก้าวไปพร้อมกับราชรถฝ่ายสวรรค์ของพระยะโฮวา.
คุณจะตอบอย่างไร?
▫ ยะเอศเคลได้วางแบบอย่างอะไรไว้เกี่ยวกับหน้าที่มอบหมายของท่าน?
▫ การจะรักษาฝีเท้ากับองค์การของพระเจ้านั้นหมายความว่าอย่างไร?
▫ ยะเอศเคลมีทัศนะอย่างไรต่อพระวจนะของพระยะโฮวา?
▫ เราอาจติดตามแบบอย่างของยะเอศเคลได้อย่างไรในการรับมือกับความไม่แยแส?
▫ อะไรที่ควรกระตุ้นเหล่าผู้รับใช้ของพระยะโฮวาให้รักษาฝีเท้าไปพร้อมกับราชรถฝ่ายสวรรค์ของพระองค์?
[รูปภาพหน้า 15]
อะไรคือข้อเรียกร้องเพื่อจะก้าวไปพร้อมกับราชรถฝ่ายสวรรค์ของพระยะโฮวา?