คุณจำได้ไหม?
คุณชอบอ่านวารสารหอสังเกตการณ์ ที่ออกมาเมื่อเร็ว ๆ นี้ไหม? ลองดูซิว่าคุณจะตอบคำถามต่อไปนี้ได้ไหม:
▫ ผู้บำรุงเลี้ยงฝ่ายวิญญาณอาศัยพื้นฐานอะไรในการริเริ่มติดต่อกับบางคนที่ถูกตัดสัมพันธ์เพื่อดูว่าเขาอาจจะได้รับการกระตุ้นให้สำนึกผิดและกลับใจหรือไม่?
แม้ขณะที่ชนยิศราเอลถูกเนรเทศและยังไม่ได้แสดงการกลับใจ พระยะโฮวา ดุจผู้เลี้ยงแกะ ทรงริเริ่มแสวงหาพวกเขา โดยส่งผู้พยากรณ์ของพระองค์ไปหาพวกเขา. คริสเตียนผู้บำรุงเลี้ยงสนใจที่จะให้ความช่วยเหลือแก่ใครก็ตามที่กลับใจซึ่งอาจเป็นเหมือนแกะที่หลงหายไป. (เปรียบเทียบลูกา 15:4-7.)—15/4, หน้า 21-23.
▫ อุทาหรณ์ของพระเยซูเรื่องบุตรที่สุรุ่ยสุร่ายแสดงว่าเราควรจะมีความรู้สึกและปฏิบัติอย่างไรต่อคนหนึ่งคนใดที่ถูกรับกลับเข้ามาใหม่ในประชาคมคริสเตียน? (ลูกา 15:22-32)
เราควรมีเป้าหมายที่จะเลียนแบบผู้เป็นบิดา ผู้ซึ่งแสดงความยินดีเมื่อบุตรที่สุรุ่ยสุร่ายของเขากลับมา. ดังนั้น เราควรจะเต็มใจพูดกับพี่น้องที่ถูกรับกลับเข้ามาและหนุนใจเขาให้ก้าวหน้าในความจริงต่อไป.—15/4, หน้า 25.
▫ การเตรียมการล่วงหน้าอะไรที่ใช้การได้เพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรม?
เมื่อไรก็ตามหากเป็นได้ จงหลีกเลี่ยงการอยู่นอกบ้านในย่านอันตรายยามค่ำคืน. ซ่อนอัญมณีของคุณไว้ และถือของที่มีค่า เช่น กล้องถ่ายรูปไว้ในถุงที่ใช้ซื้อของ. ระมัดระวังที่จะไม่เดินชิดขอบบาทวิถีเกินไป โดยเฉพาะเมื่อคุณถือกระเป๋าเอกสารหรือกระเป๋าถือแบบใด ๆ. (ดูสุภาษิต 3:21-23.)—1/5, หน้า 5-6.
▫ ทำไมคำพยากรณ์ในซะฟันยา 2:3 จึงกล่าวว่า “ชะรอย เจ้าอาจถูกำบังไว้ในวันแห่งความพิโรธของพระยะโฮวา”?
ที่จะได้ชีวิตรอดขึ้นอยู่กับความซื่อสัตย์และความอดทน. (มัดธาย 24:13) ดังนั้น เฉพาะบรรดาผู้ที่ยอมทำตามมาตรฐานอันชอบธรรมของพระเจ้าและพูดภาษาบริสุทธิ์อยู่เสมอจะถูกกำบังไว้ในวันแห่งพระพิโรธของพระยะโฮวา. (ซะฟันยา 2:1, 2)—1/5, หน้า 14.
▫ มีอะไรเกี่ยวข้องอยู่ด้วยในการให้พระเจ้าเป็นอันดับแรกในชีวิตครอบครัว?
บิดามารดาและบุตรต้องนมัสการพระยะโฮวาและบรรลุมาตรฐานของพระองค์ที่วางไว้ในคัมภีร์ไบเบิล.—15/5, หน้า 5.
▫ ทำไมพระยะโฮวาไม่ทรงลงโทษคนบาปเสียในทันทีทันใด?
เหตุผลประการหนึ่งคือ เพื่อให้พระนามของพระองค์เป็นที่รู้จักตลอดทั่วแผ่นดินโลก. (เปรียบเทียบโรม 9:17.) เหตุผลอีกประการหนึ่งคือ เพื่อให้เวลาสำหรับจัดการกับประเด็นเรื่องพระบรมเดชานุภาพของพระเจ้าและความซื่อสัตย์ภักดีของมนุษย์ อันสืบเนื่องมาจากการกบฏในสวนเอเดน. นอกจากนั้น ความอดกลั้นทนนานของพระเจ้ายังให้โอกาสผู้กระทำผิดกลับใจและแก้ไขปรับปรุงแนวทางของเขาให้ถูกต้อง. (2 เปโตร 3:9)—15/5, หน้า 11-12.
▫ ข้อเท็จจริงอะไรที่เป็นหลักฐานว่าคัมภีร์ไบเบิลมีต้นกำเนิดจากอำนาจเหนือมนุษย์?
คัมภีร์ไบเบิลได้รับการจารึกโดยบุคคลต่าง ๆ ราว 40 คน ซึ่งมาจากทุกวงการและเคยมีชีวิตอยู่ในช่วง 1,600 ปี กระนั้น ผู้จารึกเหล่านี้ทุกคนติดตามสาระสำคัญอันเดียวกัน. ความสอดคล้องลงรอยนี้ภายในพระคัมภีร์คงเป็นไปไม่ได้หากปล่อยไว้กับความบังเอิญ หรือเพียงการชี้นำของมนุษย์เท่านั้น.—1/6, หน้า 4-5.
▫ พระราชกิจอันแปลกประหลาดและผิดธรรมดาอะไรที่พระยะโฮวาจะทรงกระทำในสมัยของเรา ตามที่พยากรณ์ไว้ในยะซายา 28:21?
คำเตือนที่พระธรรมวิวรณ์ 17:16 แสดงว่า วันหนึ่งชู้รักทางการเมืองของบาบูโลนใหญ่จะหันมาเล่นงานนาง. ผลก็คือคริสต์ศาสนจักรจะถูกทำลายอย่างสิ้นเชิงพร้อมกับศาสนาเท็จอื่น ๆ. สิ่งนี้จะเป็นการกระทำอันแปลกประหลาดของพระยะโฮวา และเป็นราชกิจอันผิดธรรมดาของพระองค์ในสมัยของเรา.—1/6, หน้า 22-23.
▫ สตรีคริสเตียนควรจะจดจำอะไรไว้ในใจเกี่ยวเนื่องกับการประดับเพชรนิลจินดาและการใช้เครื่องสำอาง?
คัมภีร์ไบเบิลมิได้ห้ามการใช้เครื่องช่วยเสริมความงามเหล่านั้น. (เอ็กโซโด 32:2, 3; เอศเธระ 2:7, 12, 15) แต่ควรทำอย่างสงบเสงี่ยม. นับว่าง่ายที่สตรีจะติดตามความนิยมแบบโลก โดยการใช้ลิปสติก แต่งแต้มสีแก้ม หรือทาเปลือกตาและเขียนขอบตามากเกินไป อย่างที่นางอีซาเบ็ลได้ทำ. (2 กษัตริย์ 9:30) ต้องเอาใจใส่ในเรื่องนี้เพื่อว่าจะได้ไม่ใช้เครื่องสำอางหนักมือเกินไปและประดับเพชรนิลจินดาหรูหราเกินเหตุ.—1/6 หน้า 30-31.
▫ ชนยิศราเอลรอดพ้นจาก “โรคร้ายอย่างในอียิปต์” ซึ่งแพร่หลายในยุคแรก ๆ ได้อย่างไร? (พระบัญญัติ 7:15, ฉบับแปลใหม่.)
ปรากฏชัดว่า พวกเขาส่วนมากรอดพ้นจากโรคดังกล่าวเนื่องจากพวกเขาปฏิบัติตามกิจปฏิบัติที่ส่งเสริมสุขอนามัย ซึ่งสั่งไว้ในคำสัญญาไมตรีเกี่ยวกับพระบัญญัติ.—15/6, หน้า 4.
▫ ทำไมพระเจ้าทรงมีบัญชาว่ามนุษย์ต้องไม่กินเลือด? (เยเนซิศ 9:3, 4; เลวีติโก 17:10, 11; กิจการ 15:22-29)
ชีวิตเป็นของประทานจากพระเจ้าและชีวิตมนุษย์ขึ้นอยู่กับของเหลวซึ่งค้ำจุนชีวิตที่เรียกว่าเลือด. (บทเพลงสรรเสริญ 36:9) โดยการให้ความนับถือต่อเลือดในฐานะเป็นสิ่งพิเศษ มนุษย์จึงแสดงถึงการพึ่งพาพระเจ้าเพื่อมีชีวิต. ดังนั้น เหตุผลหลักสำหรับพระบัญชาของพระเจ้าเรื่องเลือด ไม่ใช่ว่า การรับเลือดเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ว่าเลือดมีความหมายพิเศษต่อพระเจ้า.—15/6, หน้า 8-9.
▫ บิดามารดาและลูกวัยหนุ่มสาวจะทำอย่างไรเพื่อการที่ผู้เยาว์ปฏิเสธการถ่ายเลือดนั้นจะได้รับความนับถือ?
แม้จะไม่บรรลุนิติภาวะ คริสเตียนหนุ่มสาวควรจะอธิบายได้อย่างชัดเจนและด้วยความหนักแน่นถึงเหตุผลทางศาสนาของเขาที่เขาไม่ยอมรับเลือด. บิดามารดาอาจจัดเวลาซักซ้อมกับบุตรของเขาเพื่อให้พวกเขาได้มีประสบการณ์ในการอธิบายถึงความเชื่อมั่นของพวกเขา.—15/6, หน้า 18.
▫ โดยวิธีใดที่สตรีได้รับพระพรอย่างมากมายในระหว่างงานรับใช้ของพระเยซูบนแผ่นดินโลก?
พระเยซูทรงเริ่มงานซึ่งก่อให้เกิดการหนุนใจ ความหวัง และทำให้สตรีทุกเชื้อชาติมีเกียรติในแนวใหม่. พระองค์ทรงสอนความจริงฝ่ายวิญญาณอันลึกซึ้งแก่สตรี. (โยฮัน 4:7, 24–26) ในช่วงงานรับใช้ของพระองค์ พระองค์ยอมรับการรับใช้จากพวกสตรีขณะที่พระองค์เดินทางไปตลอดทั่วดินแดน. (มาระโก 15:40, 41)—1/7, หน้า 14, 15.
▫ พระเยซูทรงมีศิลปะในการสั่งสอนอย่างไรซึ่งบิดามารดารู้สึกว่าใช้ได้ผลกับลูก ๆ ของเขา?
บิดามารดาจะสอนได้ดีโดยการใช้ตัวอย่างต่าง ๆ เพื่อทำให้ความจริงประทับในหัวใจลูก ๆ ของเขา และเขาอาจใช้คำถามที่ดีซึ่งกระตุ้นความคิดเพื่อจะหยั่งดูว่าลูก ๆ ของเขาซึ่งโตกว่าคิดอย่างไรจริง ๆ. (เปรียบเทียบมัดธาย 17:24-27.)—1/7, หน้า 27.
▫ เป็นไปได้อย่างไรที่คริสเตียนถูกชักนำไปผิดทางในเรื่องการคบหาสมาคม? (1 โกรินโธ 15:33)
บางคนอาจมีท่าทีเป็นมิตรและเข้ากันได้ดี แต่ถ้าเขาไม่ได้ร่วมความสนใจของคริสเตียนในการรับใช้พระยะโฮวา หรือกระทั่งไม่เชื่อคัมภีร์ไบเบิล ดังนั้น เขาเป็นผู้ที่ไม่น่าคบเป็นเพื่อน. ทำไม? เพราะว่าชีวิตของเขาตั้งอยู่บนหลักการที่ต่างกัน และเรื่องต่าง ๆ ที่มีความสำคัญสำหรับคริสเตียนอาจไม่มีความหมายสำหรับเขา.—15/7, หน้า 24.
▫ ทำไมเราควรติดตามความกรุณารักใคร่?
ความกรุณารักใคร่เป็นคุณสมบัติที่ทำให้เราเป็นที่รักของพระยะโฮวาและของคนอื่น ๆ. คุณสมบัตินี้ก่อให้เกิดน้ำใจรับรองแขกและทำให้เราเป็นที่เห็นอกเห็นใจคนอื่นมากขึ้น. ความกรุณารักใคร่ให้สายสัมพันธ์ในวงครอบครัวและในประชาคมคริสเตียนเหนียวแน่นยิ่งขึ้น. เหนือกว่าสิ่งอื่นใด ความกรุณารักใคร่นำเกียรติยศมาสู่พระยะโฮวา.—15/7, หน้า 22.
▫ ทำไมวันพิพากษาจึงเป็นวาระแห่งความหวัง?
วันพิพากษาเป็นช่วงเวลาหนึ่งพันปี. พระเจ้าเองทรงครอบครองร่วมกับพระเยซูคริสต์พระบุตรซึ่งพระเจ้าทรงแต่งตั้งให้เป็นผู้พิพากษา. นี้จะเป็นช่วงเวลาที่จะฟื้นฟูมนุษยชาติให้มีชีวิตสมบูรณ์ซึ่งอาดามทำให้สูญเสียไป. (1 โกรินโธ 15:21, 22)—1/8, หน้า 5-7.