การโห่ร้องอวยชัยโลกใหม่แห่งเสรีภาพที่พระเจ้าประทาน
“ [พระเจ้า] จะทรงเช็ดน้ำตาทุก ๆ หยดจากตาของเขา และความตายจะไม่มีอีกต่อไป ทั้งการคร่ำครวญหรือเสียงร้องโวยวายหรือความเจ็บป่วยจะไม่มีอีกเลย.”—วิวรณ์ 21:4, ล.ม.
1, 2. เฉพาะผู้ใดเท่านั้นที่สามารถนำมาซึ่งเสรีภาพแท้ และเราสามารถเรียนรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับพระองค์จากคัมภีร์ไบเบิล?
ประวัติศาสตร์ได้พิสูจน์ความจริงของสิ่งที่ผู้พยากรณ์ยิระมะยากล่าวไว้ที่ว่า “ทางที่มนุษย์จะไปนั้นไม่ได้อยู่ในตัวของตัว ไม่ใช่ที่มนุษย์ซึ่งดำเนินนั้นจะได้กำหนดก้าวของตัวได้.” เฉพาะผู้ใดเท่านั้นที่สามารถชี้ทางเดินของมนุษย์ได้อย่างถูกต้อง? ยิระมะยากล่าวต่อไปว่า “โอ้ พระยะโฮวา ได้โปรดแก้ผิดของข้าพเจ้า.” (ยิระมะยา 10:23, 24) ถูกแล้ว พระยะโฮวาเท่านั้นสามารถนำมาซึ่งเสรีภาพแท้พ้นจากปัญหาต่าง ๆ ที่กำลังทรมานครอบครัวมนุษย์อยู่.
2 ในคัมภีร์ไบเบิลมีตัวอย่างมากมายเกี่ยวกับพระปรีชาสามารถของพระยะโฮวาในการทำให้คนเหล่านั้นที่รับใช้พระองค์มีเสรีภาพ. “ด้วยว่าสิ่งสารพัดที่เขียนไว้คราวก่อนนั้นก็ได้เขียนไว้เพื่อสั่งสอนเราทั้งหลาย. เพื่อเราทั้งหลายจะได้มีความหวังโดยความเพียรและความชูใจตามคำที่เขียนไว้แล้วนั้น.” (โรม 15:4) นอกจากนั้น ยังมีบันทึกเกี่ยวกับการพิพากษาของพระยะโฮวาที่มีต่อศาสนาเท็จอีกด้วย และสิ่งเหล่านี้ทำหน้าที่ “เตือนสติพวกเราผู้ซึ่งกำลังอยู่ในกาลสิ้นสุดแห่งระเบียบการนี้.” (1 โกรินโธ 10:11, ล.ม.)
การปลดปล่อยไพร่พลของพระองค์
3. พระยะโฮวาทรงสำแดงพระปรีชาสามารถของพระองค์อย่างไรเพื่อปลดปล่อยไพร่พลของพระองค์จากอียิปต์?
3 ตัวอย่างพระปรีชาสามารถของพระเจ้าที่จะพิพากษาสำเร็จโทษศาสนาเท็จและปลดปล่อยคนเหล่านั้นซึ่งกระทำตามพระทัยประสงค์ของพระองค์เกิดขึ้นเมื่อไพร่พลของพระองค์ในสมัยโบราณตกเป็นทาสในอียิปต์. เอ็กโซโด 2:23-25 กล่าวว่า “เขาร้องไห้คร่ำครวญจนเสียงนั้นได้ขึ้นไปถึงพระเจ้าด้วยเหตุที่เป็นทาสนั้น. พระเจ้าได้สดับฟังเสียงคร่ำครวญของเขา.” ในการแสดงออกอย่างน่าเกรงขามถึงอำนาจของพระองค์ซึ่งเหนือกว่าพวกพระเท็จของอียิปต์นั้น พระเจ้าองค์ทรงฤทธานุภาพทุกประการทรงนำภัยพิบัติสิบประการมายังชาตินั้น. ภัยพิบัติแต่ละอย่างถูกกำหนดมาเพื่อยังความอัปยศแก่พระของอียิปต์แต่ละองค์ ซึ่งแสดงว่าพระเหล่านั้นเป็นพระเท็จและไม่อาจช่วยชาวอียิปต์ซึ่งกราบไหว้พระเหล่านั้นได้. ด้วยเหตุนั้น พระเจ้าจึงทรงปลดปล่อยไพร่พลของพระองค์และทำลายฟาโรห์กับกองทัพของเขาในทะเลแดง.—เอ็กโซโด บท 7 ถึง 14.
4. เพราะเหตุใดจึงไม่เป็นการอยุติธรรมที่พระเจ้าทรงพิพากษาสำเร็จโทษชาวคะนาอัน?
4 คราวที่พระเจ้าทรงนำพวกยิศราเอลเข้าสู่แผ่นดินคะนาอัน เหล่าคนที่บูชาผีปิศาจซึ่งอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้นถูกทำลายและดินแดนนั้นก็ถูกยกให้ไพร่พลของพระเจ้า. ในฐานะองค์บรมมหิศรแห่งเอกภพ พระยะโฮวาจึงทรงมีสิทธิจะสำเร็จโทษศาสนาต่าง ๆ ที่ไม่ดีนั้น. (เยเนซิศ 15:16) และเกี่ยวกับศาสนาของชาวคะนาอัน หนังสือคู่มือพระคัมภีร์ ของฮัลเลย์บอกดังนี้: “การนมัสการ . . . พระของชาวคะนาอันยึดอยู่กับการเต้นรำอย่างบ้าคลั่ง วิหารของพวกเขาเป็นศูนย์กลางแห่งความชั่ว . . . ชาวคะนาอันนมัสการโดยการทำผิดศีลธรรมตามอำเภอใจต่อหน้าพระต่าง ๆ ที่เขานับถือ ซึ่งถือเป็นพิธีกรรมทางศาสนา ครั้นแล้ว ก็โดยการฆ่าบุตรหัวปีของตนถวายเป็นเครื่องบูชายัญแก่พระเหล่านั้น. ดูเหมือนว่า ส่วนใหญ่แล้ว แผ่นดินคะนาอันได้กลายเป็นเช่นเดียวกับเมืองโซโดมและโกโมร์ราห์ในระดับชาติทีเดียว.” เขากล่าวต่อไปว่า “อารยธรรมอันน่าชิงชังรังเกียจและเหี้ยมโหดเช่นนั้นมีสิทธิ์จะดำรงอยู่ต่อไปไหม? . . . นักโบราณคดีซึ่งขุดค้นซากปรักหักพังของเมืองต่าง ๆ ในคะนาอันรู้สึกแปลกใจที่พระเจ้าไม่ได้ทำลายพวกเขาเร็วกว่านั้น.”
5. การที่พระเจ้าทรงปลดปล่อยไพร่พลของพระองค์ในครั้งโบราณนั้นเป็นแบบอย่างสำหรับสมัยของเราอย่างไร?
5 การที่พระเจ้าทรงลงมือจัดการกับการนมัสการเท็จ โดยการปลดปล่อยไพร่พลแห่งคำสัญญาไมตรีของพระองค์เป็นอิสระ และโดยการจัดแผ่นดินแห่งคำสัญญาให้พวกเขา เป็นแบบเล็งถึงสิ่งที่จะมีมา. สิ่งนี้ชี้ถึงอนาคตอันใกล้เมื่อพระเจ้าจะทรงบดขยี้ศาสนาเท็จของโลกนี้กับพวกผู้สนับสนุนเขา และจะทรงนำพวกผู้รับใช้ของพระองค์ในสมัยปัจจุบันเข้าสู่โลกใหม่แห่งความชอบธรรม.—วิวรณ์ 7:9, 10, 13, 14; 2 เปโตร 3:10–13.
เสรีภาพแท้ในโลกใหม่ของพระเจ้า
6. เสรีภาพอันยอดเยี่ยมอะไรบ้างที่พระเจ้าจะทรงจัดให้มีในโลกใหม่?
6 ในโลกใหม่ พระเจ้าจะทรงอวยพรไพร่พลของพระองค์ด้วยเสรีภาพอันยอดเยี่ยมในทุกด้านซึ่งพระองค์ได้ทรงมุ่งหมายไว้สำหรับครอบครัวมนุษย์. จะมีเสรีภาพพ้นจากความบีบคั้นกดดันทางการเมือง, ทางเศรษฐกิจ, และศาสนาเท็จ. จะมีเสรีภาพพ้นจากความบาปและความตาย รวมทั้งผู้คนจะมีโอกาสที่จะมีชีวิตตลอดไปบนแผ่นดินโลก. “คนสัตย์ธรรมจะได้แผ่นดินโลกเป็นมรดก และจะอาศัยอยู่ที่นั่นตลอดไปเป็นนิตย์.”—บทเพลงสรรเสริญ 37:29; มัดธาย 5:5.
7, 8. อะไรจะเกิดขึ้นเกี่ยวกับสุขภาพอันสมบูรณ์ที่ได้คืนมาในโลกใหม่?
7 ไม่นานภายหลังจากโลกใหม่ถูกนำเข้ามาแล้ว ผู้คนที่อาศัยบนแผ่นดินโลกก็จะได้รับการฟื้นฟูสู่สุขภาพสมบูรณ์อย่างมหัศจรรย์. โยบ 33:25 กล่าวดังนี้: “เนื้อของเขาก็จะกลับเปล่งปลั่งยิ่งกว่าเนื้อของเด็ก และความหนุ่มแน่นของเขาก็จะกลับคืนมา.” ยะซายา 35:5, 6 สัญญาว่า “ขณะนั้นตาของคนตาบอดจะเห็นได้ และหูของคนหูหนวกจะยินได้. แล้วคนง่อยจะเต้นได้ดุจดังอีเก้ง และลิ้นของคนใบ้จะร้องเพลง.”
8 คุณบางคนที่เจ็บป่วยด้านร่างกายเนื่องจากอายุมากหรือสุขภาพไม่ดี ลองนึกภาพตัวคุณเองอยู่ในโลกใหม่ ตื่นขึ้นทุกเช้าด้วยสุขภาพและความกระฉับกระเฉง. ผิวหนังที่เหี่ยวย่นกลับเนียนเกลี้ยงเกลาและมีสุขภาพดี—ไม่จำเป็นต้องใช้ครีมบำรุงผิวอีกต่อไป. ตาที่มัวหรือบอดกลับมองเห็นได้ชัดแจ๋ว—ไม่ต้องใช้แว่นตาอีก. การได้ยินกลับดีดังเดิม—โยนเครื่องช่วยฟังทิ้งได้. แขนขาที่พิการก็กลับแข็งแรงและสมประกอบ—ไม้เท้า, ไม้ค้ำยัน, และเก้าอี้ล้อก็ทิ้งไปได้. จะไม่มีความเจ็บป่วยอีกเลย—หยูกยาทุกอย่างก็โยนทิ้งได้. ด้วยเหตุนี้ ยะซายา 33:24 จึงบอกล่วงหน้าว่า “ไม่มีใครที่อาศัยอยู่ที่นั่นพูดว่า ‘ข้าพเจ้าป่วยอยู่’” ท่านยังได้กล่าวด้วยว่า “เขาจะประสบความชื่นชมยินดี ความทุกข์และการทอดถอนใจจะหนีเขาไป.”—ยะซายา 35:10.
9. สงครามจะถูกทำให้ยุติลงตลอดไปอย่างไร?
9 จะไม่มีใครต้องถูกสังเวยแก่สงครามอีก. “[พระเจ้า] ทรงปราบปรามการสงครามให้สงบเงียบตลอดถึงปลายแผ่นดินโลก ทรงหักคันธนูทรงฟาดฟันทวนเสียเป็นท่อน ๆ ทรงเผารถรบเสียในไฟ.” (บทเพลงสรรเสริญ 46:9) พระเยซูคริสต์ ผู้ครอบครองแห่งราชอาณาจักรของพระเจ้า ซึ่งยะซายา 9:6 ขนานนามว่า “องค์สันติราช” จะไม่ทรงยอมให้มีอาวุธสงครามใด ๆ อีกเลย. ในข้อ 7 กล่าวเพิ่มเติมว่า “ความจำเริญรุ่งเรืองแห่งรัฐบาลของท่านและสันติสุขจะไม่รู้สิ้นสุด.”
10, 11. เสรีภาพอันครบถ้วนจะหมายถึงอะไรสำหรับแผ่นดินโลก?
10 ช่างเป็นพระพรจริง ๆ สำหรับมนุษย์และแผ่นดินโลกนี้ที่จะปลอดจากอาวุธสงคราม! ในปัจจุบัน อาวุธต่าง ๆ ที่ใช้กันในสงครามที่ผ่าน ๆ มายังคงทำลายชีวิตผู้คนอยู่. ในประเทศฝรั่งเศสประเทศเดียว ตั้งแต่ปี 1945 ผู้เชี่ยวชาญการกำจัดวัตถุระเบิดกว่า 600 คนต้องเสียชีวิตในขณะที่กำลังกู้ลูกระเบิดที่ตกค้างจากสงครามครั้งก่อน ๆ. หัวหน้าหน่วยกำจัดวัตถุระเบิดที่นั่นกล่าวว่า “เรายังคงพบกระสุนปืนใหญ่ที่ยังใช้การได้อยู่จากสงครามฟรังโก-ปรัสเซียนในปี 1870. มีทะเลสาบหลายแห่งที่เต็มไปด้วยอันตรายจากลูกระเบิดที่มีพิษสงอยู่ที่ตกค้างจากสงครามโลกที่ 1. บ่อยครั้ง ชาวนาขับรถแทรกเตอร์ทับกับระเบิดต่อต้านรถถังจากสงครามโลกที่สอง และระเบิดขึ้น แล้วก็จบ. สิ่งเหล่านี้มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง.” สองปีมาแล้ว เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ ให้ข้อคิดเห็นว่า “ในช่วง 45 ปี ตั้งแต่สงครามโลกที่ 2 สงบลง [หน่วยกำจัดวัตถุระเบิด] ได้เก็บกวาด [ในฝรั่งเศส] ได้กระสุนปืนใหญ่ 16 ล้านนัด ลูกระเบิด 490,000 ลูก และทุ่นระเบิดใต้น้ำ 600,000 ลูก. . . . พื้นที่อีกหลายล้านไร่ที่ยังคงถูกกั้นรั้วห้ามเข้า เต็มไปด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์กองสูงถึงหัวเข่า และติดป้ายโดยรอบเตือนว่า ‘ห้ามเข้า. อันตรายถึงตาย!’”
11 โลกใหม่จะต่างไปสักเพียงไร! ทุกคนจะมีบ้านอยู่อย่างดี มีอาหารอุดมสมบูรณ์ และการงานอย่างสันติอันนำมาซึ่งผลตอบแทนในการเปลี่ยนแผ่นดินโลกทั้งสิ้นให้เป็นอุทยาน. (บทเพลงสรรเสริญ 72:16; ยะซายา 25:6; 65:17-25) ประชาชนและแผ่นดินโลกจะไม่ถูกกระหน่ำด้วยอาวุธระเบิดนับล้าน ๆ ชิ้นอีกเลย. โลกใหม่เช่นนั้นคือโลกที่พระเยซูทรงคำนึงถึงเมื่อพระองค์ตรัสแก่ผู้หนึ่งที่แสดงความเชื่อในพระองค์ว่า “เจ้าจะอยู่กับเราในอุทยาน.”—ลูกา 23:43.
การสั่งสอนทั่วโลกเพื่อชีวิต
12, 13. พระเยซูและยะซายาบอกล่วงหน้าถึงงานสั่งสอนทั่วโลกชนิดใดสำหรับสมัยของเรา?
12 เมื่อคนเราเรียนรู้เกี่ยวกับโลกใหม่ของพระเจ้า เขาก็เรียนรู้ด้วยว่าในสมัยของเรานี้ พระยะโฮวาได้ทรงก่อตั้งประชาคมขึ้นทั่วโลกที่จัดขึ้นเป็นระเบียบเพื่อการนมัสการแท้. ประชาคมนั้นจะเป็นแกนกลางของโลกใหม่ และพระเจ้าทรงใช้ประชาคมนี้อยู่ในขณะนี้เพื่อสั่งสอนคนอื่น ๆ เกี่ยวกับพระประสงค์ของพระองค์. องค์การคริสเตียนนี้กำลังดำเนินงานสั่งสอนทั่วโลกในลักษณะและขนาดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน. พระเยซูทรงบอกล่วงหน้าว่างานนี้จะมีการกระทำให้เสร็จ. พระองค์ตรัสว่า “ข่าวดีแห่งราชอาณาจักรนี้จะได้รับการประกาศทั่วแผ่นดินโลกที่มีผู้คนอาศัยอยู่ เพื่อให้คำพยานแก่ทุกชาติ; แล้วจุดอวสานจะมาถึง.”—มัดธาย 24:14, ล.ม.
13 ยะซายาก็ได้กล่าวถึงงานสั่งสอนทั่วโลกไว้ด้วยดังนี้: “เมื่อถึงสมัยสุดท้ายนั้น [สมัยของเรานี้] ภูเขาอันเป็นที่ตั้งโบสถ์แห่งพระยะโฮวานั้น [การนมัสการแท้ของพระองค์ที่ถูกยกชูขึ้น] จะถูกสถาปนา . . . และประชาชนจะหลั่งไหลไปถึงที่นั่น. และประชาชาติเป็นอันมากจะพากันกล่าวว่า ‘มาเถิดพวกเรา ให้เราขึ้นไปยังภูเขาแห่งพระยะโฮวา . . . พระองค์จะได้ทรงสอนเราให้รู้จักวิถีทางของพระองค์.’”—ยะซายา 2:2, 3.
14. เราจะระบุไพร่พลของพระเจ้าได้อย่างไรในทุกวันนี้?
14 ฉะนั้น งานให้คำพยานทั่วโลกเกี่ยวกับราชอาณาจักรของพระเจ้าจึงเป็นพยานหลักฐานอันหนักแน่นว่าเราอยู่ใกล้อวสานแห่งระบบชั่วนี้และเสรีภาพแท้ก็ใกล้จะมีมาแล้ว. เหล่าคนที่ไปเยี่ยมประชาชนพร้อมด้วยข่าวสารที่เปี่ยมด้วยความหวังเรื่องโลกใหม่ของพระเจ้าได้มีพรรณนาถึงที่พระธรรมกิจการ 15:14 ในฐานะ “ประชาชนสำหรับพระนามของพระองค์ [พระเจ้า].” ใครล่ะที่ถือพระนามของพระยะโฮวาและให้คำพยานทั่วโลกเกี่ยวกับพระยะโฮวาและราชอาณาจักรของพระองค์? บันทึกทางประวัติศาสตร์แห่งศตวรรษที่ 20 ให้คำตอบว่า เฉพาะแต่พยานพระยะโฮวาเท่านั้น. ปัจจุบัน พวกเขามีจำนวนกว่าสี่ล้านคนในกว่า 66,000 ประชาคมทั่วโลก.—ยะซายา 43:10-12; กิจการ 2:21.
15. เกี่ยวกับเรื่องการเมืองของโลก เราจะสามารถระบุตัวผู้รับใช้แท้ของพระเจ้าได้อย่างไร?
15 พยานหลักฐานอีกอย่างหนึ่งที่ว่าพยานพระยะโฮวากำลังทำให้คำพยากรณ์เรื่องงานประกาศราชอาณาจักรสำเร็จได้มีบันทึกไว้ที่ยะซายา 2:4 ดังนี้: “เขาทั้งหลายจะเอาดาบของเขาตีเป็นผาลไถนา และเอาหอกตีเป็นขอสำหรับลิดแขนง ประเทศต่อประเทศจะไม่ยกดาบขึ้นต่อสู้กันและเขาจะไม่ศึกษายุทธศาสตร์อีกต่อไป.” ฉะนั้น เหล่าผู้ที่ทำงานประกาศเรื่องการปกครองแห่งราชอาณาจักรของพระเจ้าต้อง ‘ไม่ศึกษายุทธศาสตร์อีกต่อไป.’ พระเยซูตรัสว่าพวกเขาต้อง “ไม่เป็นส่วนของโลก.” (โยฮัน 17:16) นั่นหมายความว่าพวกเขาต้องเป็นกลางในเรื่องการเมืองของโลก ไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดในกรณีพิพาทและการต่อสู้ของชาติต่าง ๆ. ใครล่ะที่ไม่เป็นส่วนของโลกและไม่ศึกษายุทธศาสตร์อีกต่อไป? อีกครั้งหนึ่งที่บันทึกทางประวัติศาสตร์แห่งศตวรรษที่ 20 ยืนยันว่า เฉพาะพยานพระยะโฮวาเท่านั้น.
16. งานสั่งสอนทั่วโลกจะเป็นไปอย่างทั่วถึงขนาดไหน?
16 งานสั่งสอนทั่วโลกของพวกพยานพระยะโฮวาจะยังคงดำเนินต่อไปจนกระทั่งภายหลังที่พระเจ้าทรงนำอวสานมาสู่ระบบโลกชั่วสมัยปัจจุบัน. ยะซายา 54:13 กล่าวว่า “บรรดาลูกหลานของเจ้าจะเป็นสาวกของพระยะโฮวา.” ดังนั้น การสอนนี้จะเป็นไปอย่างทั่วถึง จนถึงขนาดที่ยะซายา 11:9 บอกไว้ล่วงหน้าว่า “แผ่นดินโลกจะเต็มไปด้วยความรู้ฝ่ายพระยะโฮวาดุจน้ำท่วมเต็มมหาสมุทร.” ไม่เพียงแต่คนที่รอดผ่านอวสานแห่งระบบชั่วนี้ และเด็ก ๆ ซึ่งอาจเกิดมาในโลกใหม่เท่านั้นที่ต้องรับการสั่งสอนต่อ ๆ ไป แต่อีกหลายพันล้านคนซึ่งจะได้รับการปลุกขึ้นจากตายด้วยเช่นกัน. ในที่สุด ทุกคนซึ่งมีชีวิตอยู่บนแผ่นดินโลกจะได้รับการสอนให้ใช้เจตจำนงเสรีของตนอย่างถูกต้องภายในขอบเขตแห่งกฎหมายของพระเจ้า. ผลจะเป็นอย่างไร? “คนทั้งหลายที่มีใจถ่อมลงจะได้แผ่นดินเป็นมฤดก และเขาจะชื่นชมยินดีด้วยความสงบสุขอันบริบูรณ์.”—บทเพลงสรรเสริญ 37:11.
มีเสรีภาพมากแม้ในขณะนี้
17. โมเซบอกไพร่พลของพระเจ้าในสมัยโบราณให้ทำอะไร?
17 คราวเมื่อชาวยิศราเอลโบราณจวนจะเข้าสู่แผ่นดินแห่งคำทรงสัญญา โมเซกล่าวแก่พวกเขาว่า “นี่แน่ะ เราได้สอนข้อกฎหมายและข้อพิพากษาทั้งหลายแก่เจ้า เหมือนพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าได้ตรัสสั่งไว้แก่เรา เพื่อเจ้าทั้งหลายจะได้ประพฤติตามเมื่อไปอยู่ในแผ่นดินซึ่งเจ้าทั้งหลายจะเข้าไปปกครองนั้น. จงรักษาบัญญัติเหล่านั้นไว้และประพฤติตาม ด้วยการนี้แสดงสติปัญญาและความเข้าใจของเจ้าทั้งหลายต่อหน้าชนประเทศทั้งปวงซึ่งจะได้ยินบรรดาข้อกฎหมายเหล่านี้ และเขาจะว่า ‘แท้จริงชนประเทศอันใหญ่นี้เป็นคนมีสติปัญญาและความเข้าใจ.’ ด้วยมีประเทศที่ไหนเป็นประเทศใหญ่ ผู้มีพระเจ้าอยู่ใกล้เขาทั้งหลาย เหมือนอย่างที่พระยะโฮวาพระเจ้าของเราอยู่ใกล้เราทั้งหลายเมื่อเราอธิษฐานขอพระองค์นั้น.”—พระบัญญัติ 4:5-7.
18. เสรีภาพมากมายอะไรที่ผู้รับใช้พระเจ้ามีอยู่แม้ในขณะนี้?
18 ทุกวันนี้ ชนหลายล้านซึ่งนมัสการพระยะโฮวาก็จวนจะเข้าสู่แผ่นดินแห่งคำสัญญาเช่นกัน—นั่นคือโลกใหม่. เนื่องจากพวกเขาเชื่อฟังกฎหมายของพระเจ้า เขาจึงมีพระองค์อยู่ใกล้และจึงโดดเด่นต่างไปจากชาติอื่นทั้งปวง. พระเจ้าได้ทรงปลดปล่อยพวกเขาจากแนวความคิดที่ผิดทางศาสนา, จากการถือเผ่าพันธุ์, การใช้ยาเสพย์ติด, ลัทธิชาตินิยม, การต่อสู้, และโรคระบาดซึ่งติดต่อโดยการมีเพศสัมพันธ์. ยิ่งกว่านั้น พระองค์ทรงผูกพันพวกเขาไว้ด้วยความรักแห่งภราดรภาพนานาชาติอันไม่มีวันเสื่อมสลาย. (โยฮัน 13:35) พวกเขาไม่วุ่นวายใจกับอนาคตแต่ “โห่ร้องด้วยความดีใจ” (ยะซายา 65:14) พวกเขาชื่นชมกับเสรีภาพมากมายจริง ๆ แม้ในขณะนี้โดยการรับใช้พระเจ้าในฐานะผู้ครอบครอง!—กิจการ 5:29, 32; 2 โกรินโธ 4:7; 1 โยฮัน 5:3.
การปลดปล่อยคนอื่น ๆ จากความเชื่อเท็จ
19, 20. ผู้คนได้รับการปลดปล่อยอย่างไรโดยอาศัยคำสั่งสอนในคัมภีร์ไบเบิลเกี่ยวกับสภาพคนตาย?
19 ผู้คนเป็นอันมากซึ่งฟังการประกาศจากพยานพระยะโฮวาก็กำลังพบเสรีภาพดังกล่าวเช่นกัน. ตัวอย่างเช่น ในประเทศที่มีการกราบไหว้บูชาบรรพบุรุษ พยานพระยะโฮวากำลังทำให้คนอื่น ๆ รู้ว่าคนตายไม่ได้มีชีวิตอยู่ในที่ใดที่หนึ่งและไม่สามารถทำอันตรายคนเป็นได้. พวกพยานฯชี้จากพระธรรมท่านผู้ประกาศ 9:5 ซึ่งกล่าวว่า “คนเป็นย่อมรู้ว่าเขาเองคงจะตาย แต่คนตายแล้วก็ไม่รู้อะไรเลย.” พวกเขายังอ้างถึงพระธรรมบทเพลงสรรเสริญ 146:4 ด้วยซึ่งแจ้งว่าเมื่อคนเราตาย “เขากลับคืนเป็นดินอีก และในวันนั้นทีเดียวความคิดของเขาก็ศูนย์หายไป.” ดังนั้น คัมภีร์ไบเบิลแสดงให้เห็นว่าไม่มีวิญญาณที่เป็นผีหรือจิตวิญญาณอมตะซึ่งทำการรักษาโรคหรือทำให้คนเป็นหวาดกลัว. เพราะฉะนั้น จึงไม่จำเป็นต้องเสียเงินทองซึ่งหามาด้วยความลำบากนั้นไปโดยเปล่าประโยชน์โดยการจ่ายค่าบริการแก่พวกหมอผีหรือนักบวช.
20 ความรู้ในคัมภีร์ไบเบิลอย่างถ่องแท้เช่นนั้นจะปลดปล่อยผู้คนจากคำสอนเท็จเรื่องไฟนรกและสถานชำระบาป. เมื่อคนเราเรียนรู้ความจริงในคัมภีร์ไบเบิลที่ว่าคนตายไม่รู้สึกอะไรเลย เหมือนกับอยู่ในสภาพหลับสนิท พวกเขาก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างกับผู้ที่เขารักซึ่งตายไป. แทนที่จะเป็นเช่นนั้น พวกเขารอคอยเวลาอันยอดเยี่ยมดังที่อัครสาวกเปาโลกล่าวถึงเมื่อท่านบอกว่า “ด้วยว่าคนทั้งปวง ทั้งคนชอบธรรมและคนไม่ชอบธรรมจะเป็นขึ้นมาจากความตาย.”—กิจการ 24:15.
21. ไม่ต้องสงสัยว่าใครจะถูกรวมอยู่ท่ามกลางคนเหล่านั้นที่ถูกปลุกให้เป็นขึ้นจากตาย และเป็นไปได้ว่าปฏิกิริยาของพวกเขาจะเป็นเช่นไร?
21 ในการเป็นขึ้นจากตายนั้น คนตายจะเป็นขึ้นมาสู่ชีวิตบนแผ่นดินโลก พ้นจากความตายอันเป็นผลตกทอดจากอาดามตลอดกาล. ไม่ต้องสงสัย ในเหล่าผู้ที่ถูกปลุกให้เป็นขึ้นจากตายนั้นย่อมจะรวมเอาเด็ก ๆ ซึ่งถูกบูชายัญแก่พระต่าง ๆ ของพวกคะนาอัน เช่นพระโมเล็ก, คนหนุ่ม ๆ ซึ่งถูกฆ่าสังเวยเทพเจ้าของชาวแอซเทก, และอีกหลายล้านคนจนนับไม่ถ้วนที่ถูกสังเวยแก่เทพเจ้าแห่งสงครามด้วย. พวกเขาเหล่านั้นที่เคยตกเป็นเหยื่อของหลักข้อเชื่อเท็จต่าง ๆ มาก่อนจะตื่นเต้นและปีติยินดีสักเพียงไร! ในเวลานั้น ผู้ที่เป็นขึ้นมาจากตายเหล่านั้นสามารถร้องบอกด้วยความสุขเบิกบานว่า “โอ ความตาย ภัยพิบัติของเจ้าอยู่ที่ไหน? โอ หลุมฝังศพ ความพินาศของเจ้าอยู่ที่ไหน?”—โฮเซอา 13:14.
จงแสวงหาพระยะโฮวา
22. หากเราต้องการอยู่ในโลกใหม่ของพระเจ้า เราต้องจดจำสิ่งใดไว้?
22 คุณต้องการจะอยู่ในโลกใหม่อันชอบธรรมของพระเจ้าไหม อันเป็นที่ซึ่งจะมีเสรีภาพแท้? ถ้าเช่นนั้น จงจดจำถ้อยคำที่ 2 โครนิกา 15:2 ที่ว่า “พระยะโฮวาทรงสถิตอยู่ฝ่ายพวกท่านเมื่อท่านอยู่ฝ่ายพระองค์ ถ้าท่านแสวงหาพระองค์ พระองค์จะโปรดให้ท่านประสบ แต่ทว่าถ้าพวกท่านละทิ้งพระองค์ พระองค์จะละทิ้งพวกท่านเสีย.” และจงระลึกเสมอว่าการที่คุณพยายามอย่างจริงใจจะเรียนรู้เกี่ยวกับพระเจ้าและทำให้พระองค์พอพระทัยนั้นจะไม่ถูกมองข้าม. เฮ็บราย 11:6 กล่าวว่าพระเจ้าทรงเป็น “ผู้ประทานบำเหน็จแก่ทุกคนที่ปลงใจแสวงหาพระองค์.” และที่โรม 10:11 บอกว่า “ผู้หนึ่งผู้ใดที่เชื่อในพระองค์จะไม่ผิดหวังเลย.”
23. เพราะเหตุใดเราจึงควรโห่ร้องอวยชัยโลกใหม่ของพระเจ้าอันกอปรด้วยเสรีภาพ?
23 โลกใหม่ของพระเจ้าอันกอปรด้วยเสรีภาพแท้ปรากฏให้เห็นรำไรแล้ว. ที่นั่น “สรรพสิ่งนั้นจะได้รอดจากอำนาจแห่งความเสื่อมเสียและจะเข้าในสง่าราศีแห่งบุตรทั้งหลายของพระเจ้า.” และ “และพระองค์จะทรงเช็ดน้ำตาทุก ๆ หยดจากตาของเขา และความตายจะไม่มีอีกต่อไป ทั้งการคร่ำครวญหรือเสียงร้องโวยวายหรือความเจ็บป่วยจะไม่มีอีกเลย.” (โรม 8:21; วิวรณ์ 21:4, ล.ม.) ครั้นแล้ว ผู้รับใช้ทั้งหลายของพระยะโฮวาจะชูศีรษะขึ้นและโห่ร้องอวยชัยโลกใหม่ของพระเจ้าอันกอปรด้วยเสรีภาพด้วยความยินดีโดยร้องว่า “ข้าแต่พระยะโฮวา ขอบพระคุณพระองค์สำหรับเสรีภาพแท้ในที่สุด!”
คุณจะตอบอย่างไร?
▫ พระยะโฮวาทรงแสดงให้เห็นพระปรีชาสามารถของพระองค์อย่างไรในการปลดปล่อยไพร่พลของพระองค์?
▫ เสรีภาพอันยอดเยี่ยมอะไรบ้างที่จะมีในโลกใหม่ของพระเจ้า?
▫ พระยะโฮวาทรงสั่งสอนประชาชนอย่างไรเพื่อเขาจะได้ชีวิต?
▫ เสรีภาพอะไรบ้างที่ไพร่พลของพระเจ้าชื่นชมแม้ในขณะนี้โดยการรับใช้พระยะโฮวา?
[รูปภาพหน้า 10]
พระยะโฮวาทรงสำแดงความยิ่งใหญ่ของพระองค์เหนือพระเท็จของอียิปต์ โดยการปลดปล่อยผู้นมัสการพระองค์
[รูปภาพหน้า 12, 13]
สมัยนี้ จะระบุตัวผู้รับใช้แท้ของพระเจ้าได้โดยการดำนินงานสั่งสอนทั่วโลกและการถือพระนามของพระองค์