การรับใช้ในฐานะผู้จับคน
“พระเยซูตรัสแก่ซีโมนว่า ‘อย่ากลัวเลย ตั้งแต่นี้ไปท่านจะเป็นผู้จับคน.’”—ลูกา 5:10.
1, 2. (ก) การจับปลามีบทบาทอะไรในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ? (ข) มีการนำเอาการจับปลาแบบใหม่อะไรมาใช้เมื่อเกือบสองพันปีมาแล้ว?
หลายพันปีมาแล้วที่มนุษยชาติจับปลาในท้องทะเล, ทะเลสาบ, และในแม่น้ำมาเพื่อเป็นอาหาร. ในอียิปต์สมัยโบราณ ปลาจากแม่น้ำไนล์นับเป็นส่วนสำคัญของอาหาร. เมื่อน้ำในแม่น้ำไนล์กลายเป็นเลือดในสมัยโมเซ ชาวอียิปต์จึงต้องลำบากไม่เพียงเพราะขาดน้ำเท่านั้นแต่เพราะปลาในแม่น้ำตายไปด้วย จึงมีผลกระทบต่อแหล่งอาหารของเขา. ต่อมา ณ ซีนาย เมื่อพระยะโฮวาทรงประทานพระบัญญัติแก่ชาติยิศราเอล พระองค์ทรงบอกแก่พวกเขาว่าปลาบางชนิดอาจกินได้ แต่บางชนิดเป็นปลาไม่สะอาด จะกินไม่ได้. ข้อนี้บ่งชี้ว่าชนชาติยิศราเอลคงจะกินปลาเมื่อพวกเขามาถึงแผ่นดินแห่งคำสัญญา ฉะนั้น พวกเขาบางคนก็คงจะเป็นคนจับปลา.—เอ็กโซโด 7:20, 21; เลวีติโก 11:9-12.
2 อย่างไรก็ตาม เกือบ 2,000 ปีมาแล้ว ได้มีการนำการจับปลาอีกแบบหนึ่งมาใช้กับมนุษยชาติ. นั่นคือการจับปลาฝ่ายวิญญาณซึ่งไม่เพียงยังประโยชน์แก่ผู้จับปลาเท่านั้นแต่แก่ปลาที่ถูกจับด้วย! การจับปลาแบบนี้ยังคงปฏิบัติกันอยู่ในทุกวันนี้ พร้อมด้วยประโยชน์มหาศาลแก่หลายล้านคนทั่วโลก.
“การจับคน”
3, 4. คนจับปลาสองคนไหนที่แสดงความสนใจมากในพระเยซูคริสต์?
3 ในปีสากลศักราช 29 พระเยซู พระองค์นั้นซึ่งนำการจับปลาในรูปแบบใหม่นี้มาใช้ ได้รับบัพติสมาจากโยฮันผู้ให้บัพติสมา ณ แม่น้ำยาระเดน. ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา โยฮันได้ชี้ให้สาวกของท่านดูพระเยซูและบอกว่า “ดูแน่ะ พระเมษโปดกของพระเจ้า!” สาวกหนึ่งในสองคนนั้นซึ่งมีชื่อว่าอันดะเรอา ได้รีบบอกกับพี่ชายของเขาคือซีโมน เปโตรว่า “เราได้พบพระมาซีฮาแล้ว.” น่าสนใจ ทั้งอันดะเรอาและซีโมนมีอาชีพเป็นชาวประมง.—โยฮัน 1:35, 36, 40, 41, ล.ม.; มัดธาย 4:18
4 ต่อมาสักระยะหนึ่ง พระเยซูทรงประกาศสั่งสอนฝูงชนอยู่ริมทะเลฆาลิลาย ไม่ไกลนักจากที่พักอาศัยของเปโตรกับอันดะเรอา. พระองค์ทรงตรัสแก่ผู้คนว่า “จงกลับใจเสียใหม่ เพราะว่าแผ่นดินสวรรค์มาใกล้แล้ว.” (มัดธาย 4:13, 17) เราอาจจินตนาการได้ว่าเปโตรกับอันดะเรอามีความปรารถนาใคร่ได้ฟังข่าวสารของพระองค์สักเพียงใด. แต่เขาคงไม่ได้ตระหนักว่าพระเยซูจะทรงตรัสบางสิ่งกับเขาซึ่งจะเปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล. ยิ่งกว่านั้น สิ่งที่พระเยซูจะทรงตรัสและกระทำต่อหน้าพวกเขานั้นมีความหมายสำคัญสำหรับเราทุกคนในทุกวันนี้.
5. คนจับปลาที่ชื่อเปโตรสามารถให้การรับใช้แก่พระเยซูได้อย่างไร?
5 เราอ่านว่า “ครั้งหนึ่งเมื่อประชาชนกำลังเบียดเสียดพระองค์เพื่อฟังคำของพระเจ้า พระองค์ทรงยืนอยู่ที่ฝั่งทะเลสาบเฆ็นเนซาเร็ต. ทรงเห็นเรือสองลำจอดอยู่ริมฝั่งทะเลสาบนั้น แต่ชาวประมงขึ้นจากเรือแล้วกำลังซักอวนอยู่.” (ลูกา 5:1, 2) สมัยนั้น บ่อยครั้งชาวประมงอาชีพทำงานตอนกลางคืน และชายเหล่านั้นกำลังซักอวนหลังจากการจับปลามาทั้งคืน. พระเยซูทรงตัดสินพระทัยจะใช้เรือของพวกเขาลำหนึ่งเพื่อสั่งสอนประชาชนเหล่านั้นอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น. “พระองค์จึงทรงเสด็จลงเรือลำหนึ่ง เป็นเรือของซีโมน และขอให้เขาถอยจากฝั่งสักหน่อยหนึ่ง แล้วพระองค์ทรงนั่งลงสอนประชาชนจากเรือนั้น.”—ลูกา 5:3.
6, 7. พระเยซูได้ทรงกระทำการอัศจรรย์อะไรอันเกี่ยวข้องกับการจับปลา ซึ่งนำไปสู่คำกล่าวอะไรที่เกี่ยวกับการจับปลา?
6 ขอสังเกตว่าพระเยซูทรงมีความคิดบางอย่างนอกจากการสั่งสอนฝูงชนเหล่านั้น: “เมื่อพระองค์ทรงสอนเสร็จแล้ว จึงตรัสแก่ซีโมนว่า ‘จงถอยออกไปที่น้ำลึกหย่อนอวนลงจับปลา.’ จำไว้ว่า ชาวประมงเหล่านี้ทำงานมาตลอดคืนแล้ว. จึงไม่น่าประหลาดที่เปโตรตอบว่า “อาจารย์เจ้าข้า ข้าพเจ้าทั้งหลายทอดอวนคืนยังรุ่งไม่ได้อะไรเลย แต่ข้าพเจ้าจะหย่อนอวนลงตามคำสั่งของพระองค์.” เกิดอะไรขึ้นเมื่อพวกเขาทำเช่นนั้น? “เมื่อเขาหย่อนลงแล้วก็ล้อมปลาไว้เป็นอันมาก จนอวนของเขากำลังขาดอยู่. เขาจึงทำสำคัญแก่เพื่อนที่อยู่ในเรืออีกลำหนึ่งให้มาช่วย. เขาก็มาช่วยแล้วได้ปลาเต็มลำเรือทั้งสองลำ จนเรือเกือบจะจมลง.”—ลูกา 5:4-7.
7 พระเยซูได้ทรงทำการอัศจรรย์. ตลอดทั้งคืนไม่มีปลาให้จับในทะเลบริเวณนั้น แต่บัดนี้ กลับเต็มไปด้วยฝูงปลา. การอัศจรรย์นี้มีผลกระทบต่อเปโตรอย่างมาก. “ซีโมนเปโตรเมื่อเห็นดังนั้น ก็กราบลงที่พระชานุของพระเยซูทูลว่า ‘พระองค์เจ้าข้า ขอเสด็จไปให้ห่างจากข้าพเจ้าเถิด เพราะว่าข้าพเจ้าเป็นคนบาป.’ เพราะว่าเขากับคนทั้งหลายที่อยู่ด้วยกันประหลาดใจด้วยปลาเป็นอันมากที่เขาจับได้นั้น. ยาโกโบและโยฮันบุตรของเซเบดาย ผู้ร่วมทำการกับซีโมน ก็ประหลาดใจเหมือนกัน.” พระเยซูทรงทำให้เปโตรสงบใจแล้วตรัสถ้อยคำซึ่งเปลี่ยนชีวิตของเปโตร. “อย่ากลัวเลย ตั้งแต่นี้ไปท่านจะเป็นผู้จับคน.”—ลูกา 5:8-10.
ผู้จับคน
8. คนจับปลาอาชีพสี่คนได้ตอบรับอย่างไรต่อคำเชิญที่ให้ ‘จับคน’?
8 ดังนั้นเอง พระเยซูทรงเปรียบคนเสมือนปลา และพระองค์ทรงเชิญชวนชาวประมงที่ถ่อมใจคนนี้ให้เลิกอาชีพของเขาแล้วเปลี่ยนมาทำงานจับปลาในรูปแบบอันมโหฬารยิ่งกว่า—นั่นคือการจับคนเป็น ๆ. เปโตรกับอันดะเรอาน้องชายของเขา ตอบรับคำเชิญนี้. “เขาทั้งสองก็ละอวนทันทีติดตามพระองค์ไป.” (มัดธาย 4:18-20) จากนั้น พระเยซูทรงเรียกยาโกโบกับโยฮัน ซึ่งกำลังชุนอวนอยู่ในเรืออีกลำหนึ่ง. พระองค์ทรงเชิญชวนพวกเขาให้มาเป็นผู้จับคนด้วย. พวกเขาตอบรับอย่างไร? “เขาทั้งสองก็ละเรือและบิดาของเขาทันทีตามพระองค์ไป.” (มัดธาย 4:21, 22) พระเยซูทรงแสดงความชำนาญในการเป็นผู้จับคน. ในคราวนั้นพระองค์จับได้ถึงสี่คน.
9, 10. เปโตรกับเพื่อนร่วมงานของเขาแสดงออกซึ่งความเชื่ออย่างไร และพวกเขาได้รับการฝึกอบรมในการจับปลาฝ่ายวิญญาณอย่างไร?
9 คนจับปลาเป็นอาชีพหาเลี้ยงชีวิตด้วยการขายปลาที่จับมาได้ แต่คนจับปลาฝ่ายวิญญาณไม่อาจทำเช่นนั้น. ฉะนั้น สาวกเหล่านี้จึงแสดงความเชื่ออย่างมากเมื่อเขาละทิ้งสารพัดสิ่งเพื่อติดตามพระเยซู. แต่พวกเขาก็ไม่สงสัยเลยว่าการจับปลาฝ่ายวิญญาณที่พวกเขาจะทำบรรลุผลสำเร็จ. พระเยซูเคยสามารถทำให้น่านน้ำที่ไม่มีผลิตผลเต็มไปด้วยฝูงปลาจริง ๆ ได้. ในทำนองเดียวกัน เมื่อพวกเขาหย่อนอวนของพวกเขาลงในน่านน้ำแห่งชาติยิศราเอล เหล่าสาวกก็สามารถแน่ใจได้ว่า ด้วยความช่วยเหลือจากพระเจ้า พวกเขาจะจับคนได้. งานการจับปลาฝ่ายวิญญาณซึ่งเริ่มตั้งแต่ตอนนั้นดำเนินต่อมาเรื่อย ๆ และพระยะโฮวาก็ยังคงประทานผลลัพธ์อันอุดม.
10 สาวกเหล่านั้นได้รับการฝึกอบรมจากพระเยซูกว่าสองปีเพื่องานจับคน. บางครั้ง พระองค์ทรงให้คำแนะนำอย่างถี่ถ้วนและส่งพวกเขาออกไปล่วงหน้าพระองค์เพื่อเทศนาประกาศ. (มัดธาย 10:1-7; ลูกา 10:1-11) เมื่อพระเยซูถูกทรยศและถูกประหาร เหล่าสาวกต่างตกตะลึง. แต่การสิ้นพระชนม์ของพระเยซูหมายความว่าจะไม่มีการจับคนอีกต่อไปอย่างนั้นหรือ? เหตุการณ์ในเวลาต่อมาให้คำตอบ.
การจับปลาในทะเลแห่งมนุษยชาติ
11, 12. ภายหลังการคืนพระชนม์ของพระองค์ พระเยซูได้ทรงทำการอัศจรรย์อะไรอันเกี่ยวกับการจับปลา?
11 ไม่นานภายหลังการสิ้นพระชนม์นอกกรุงยะรูซาเลมและการคืนพระชนม์ของพระเยซู เหล่าสาวกก็กลับไปยังฆาลิลาย. ครั้งหนึ่ง พวกเขาเจ็ดคนได้มารวมกันที่ใกล้ทะเลฆาลิลาย. เปโตรบอกว่าเขาจะจับปลา และคนอื่น ๆ ก็ร่วมด้วย. เช่นเคย พวกเขาจับปลาตอนกลางคืน. ที่จริง อีกครั้งหนึ่ง พวกเขาหย่อนอวนลงในทะเลทั้งคืนโดยจับอะไรไม่ได้เลย. จนรุ่งเช้า ก็เห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ริมฝั่งร้องถามพวกเขาว่า “ลูกเอ๋ย มีอะไรกินบ้างหรือ?” สาวกเหล่านั้นร้องตอบว่า “ไม่มี.” ดังนั้น ผู้ที่ยืนบนฝั่งจึงบอกพวกเขาว่า “‘จงทอดอวนลงข้างขวาเรือเถิด แล้วจะได้ปลา.’ เขาจึงทอดอวนลงติดปลาเป็นอันมากจนลากอวนขึ้นไม่ได้.”—โยฮัน 21:5, 6.
12 ช่างเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นจริง ๆ! ดูเหมือนพวกสาวกระลึกขึ้นได้ถึงการอัศจรรย์เกี่ยวกับการจับปลาครั้งก่อน และอย่างน้อยคนหนึ่งในพวกเขานึกขึ้นได้ว่าเงาร่างบนฝั่งนั้นเป็นใคร. “สาวกคนนั้นที่พระเยซูทรงรักจึงบอกเปโตรว่า ‘เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า!’ ดังนั้นเอง เมื่อเปโตรได้ยินว่านั่นคือองค์พระผู้เป็นเจ้า เขาจึงหยิบเสื้อชั้นนอกมาสวมเพราะตัวเปล่าอยู่แล้วกระโดดลงในทะเล. สาวกอื่น ๆ นั้นมาเรือเล็กลากอวนที่ติดปลานั้น เพราะไม่สู้ไกลจากฝั่ง ไกลประมาณห้าสิบวาเท่านั้น.”—โยฮัน 21:7, 8.
13. หลังจากพระเยซูเสด็จสู่สวรรค์ โครงการจับปลานานาชาติอะไรที่ได้เริ่มขึ้น?
13 การอัศจรรย์ครั้งนี้แสดงถึงอะไร? แสดงว่างานจับคนยังไม่เสร็จ. ข้อเท็จจริงนี้ได้มีการเน้นอีกเมื่อพระเยซูตรัสกับเปโตรถึงสามครั้ง—และตรัสผ่านเปโตรถึงสาวกทั้งปวง—ให้เลี้ยงดูแกะของพระเยซู. (โยฮัน 21:15-17) ใช่ โครงการเลี้ยงฝ่ายวิญญาณรออยู่ข้างหน้า. ก่อนวายพระชนม์ พระองค์ทรงพยากรณ์ว่า “ข่าวดีแห่งราชอาณาจักรนี้จะได้รับการประกาศทั่วแผ่นดินโลกที่มีผู้คนอาศัยอยู่ เพื่อให้คำพยานแก่ทุกชาติ.” (มัดธาย 24:14, ล.ม.) ตอนนั้นแหละเป็นเวลาที่คำพยากรณ์นี้เริ่มสำเร็จเป็นจริงในศตวรรษแรก. เหล่าสาวกของพระองค์จะหย่อนอวนของเขาลงในทะเลแห่งมนุษยชาติ และอวนนั้นจะไม่ถูกลากขึ้นมาโดยไม่มีอะไรติดขึ้นมาด้วย.—มัดธาย 28:19, 20.
14. การจับคนของเหล่าสาวกของพระเยซูได้รับพระพรโดยวิธีใดในปีต่าง ๆ ก่อนความพินาศของกรุงยะรูซาเลม?
14 ก่อนพระองค์เสด็จขึ้นไปยังพระที่นั่งของพระบิดาของพระองค์ในสวรรค์ พระเยซูตรัสกับเหล่าสาวกดังนี้: “ท่านทั้งหลายจะได้รับพระราชทานฤทธิ์เดชเมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์จะเสด็จมาเหนือท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็นพยานฝ่ายเราในกรุงยะรูซาเลม สิ้นทั้งมณฑลยูดาย มณฑลซะมาเรีย และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก.” (กิจการ 1:8) เมื่อมีการหลั่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ลงมาเหนือเหล่าสาวกในวันเพ็นเตคอสเตปีสากลศักราช 33 งานจับปลาฝ่ายวิญญาณครั้งใหญ่ได้เริ่มต้นขึ้นในนานาประเทศ. ในวันเพ็นเตคอสเตวันเดียว มีสามพันคนถูกจับขึ้นมาทั้งเป็น และภายหลังจากนั้นไม่นาน “มีคนเข้ามาเป็นสาวกประมาณสามพันคน.” (กิจการ 2:41; 4:4) มีการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ. บันทึกแจ้งให้เราทราบว่า “มีชายหญิงเป็นอันมากที่เชื่อถือได้เข้ามาเป็นสาวกของพระเจ้า” (กิจการ 5:14) ไม่นาน ชาวซะมาเรียได้ตอบรับข่าวดี และไม่นานหลังจากนั้น ชาวต่างชาติที่ไม่ได้รับสุหนัตก็เข้ามาเช่นกัน. (กิจการ 8:4-8; 10:24, 44-48) ประมาณ 27 ปีหลังจากวันเพ็นเตคอสเต อัครสาวกเปาโลเขียนถึงคริสเตียนชาวโกโลซายว่าข่าวดีนี้ได้ “ประกาศแล้วแก่มนุษย์ทุกคนที่อยู่ใต้ฟ้า.” (โกโลซาย 1:23) เห็นได้ชัดว่า เหล่าสาวกของพระเยซูได้จับปลาไปไกลเกินกว่าทะเลฆาลิลาย. พวกเขาได้หย่อนอวนของเขาลงท่ามกลางชาวยิวที่กระจายอยู่ทั่วจักรวรรดิโรมัน เช่นเดียวกับในทะเลแห่งผู้คนที่ไม่ใช่ชาวยิวซึ่งดูเหมือนจะไม่ได้ผล. และอวนของพวกเขาเต็มเมื่อลากขึ้นมา. เพื่อความจำเป็นของชนคริสเตียนในศตวรรษแรก คำพยากรณ์ของพระเยซูที่มัดธาย 24:14 จึงสำเร็จเป็นจริงก่อนที่กรุงยะรูซาเลมถูกทำลายในปีสากลศักราช 70.
การจับคนใน “วันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้า”
15. ในพระธรรมวิวรณ์ ได้มีการพยากรณ์ถึงงานจับปลาอะไรอีก และคำพยากรณ์นี้จะมีการทำให้สำเร็จเมื่อไร?
15 อย่างไรก็ดี ยังมีอีกมากในวันข้างหน้า. ช่วงปลายศตวรรษที่หนึ่ง พระยะโฮวาทรงโปรดให้โยฮัน อัครสาวกคนสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่ ได้รับวิวรณ์เกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในระหว่าง “วันขององค์พระผู้เป็นเจ้า” (วิวรณ์ 1:1, 10) ลักษณะเด่นประการหนึ่งได้แก่การบอกข่าวดีไปทั่วโลก. เราอ่านว่า “ข้าพเจ้าได้เห็นทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่งบินอยู่กลางฟ้าสวรรค์ และท่านมีข่าวดีนิรันดร์จะประกาศเป็นข่าวน่ายินดีแก่คนเหล่านั้นที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินโลก และแก่ทุกชาติและ [ทุก] ตระกูล และ [ทุก] ภาษาและ [ทุก] ชนชาติ.” (วิวรณ์ 14:6, ล.ม.) ภายใต้การนำของพวกทูตสวรรค์ ผู้รับใช้ของพระเจ้าจะประกาศข่าวดีไปทั่วแผ่นดินโลกจริง ๆ ไม่ใช่เพียงทั่วจักรวรรดิโรมันเท่านั้น. งานจับคนระดับโลกจะต้องดำเนินไป และในสมัยของเรานี้ก็ได้เห็นความสำเร็จเป็นจริงของนิมิตนี้อยู่ทีเดียว.
16, 17. งานจับปลาฝ่ายวิญญาณในสมัยหลังนี้เริ่มต้นเมื่อไร และพระยะโฮวาทรงอวยพระพรงานนี้อย่างไร?
16 งานจับคนในช่วงศตวรรษที่ 20 นี้เป็นอย่างไร? ในตอนแรก คนจับปลามีค่อนข้างน้อย. หลังจากสงครามโลกที่หนึ่งยุติลง มีผู้ประกาศข่าวดีที่เอาการเอางานเพียงประมาณสี่พันคนเท่านั้น เป็นชายหญิงที่กระตือรือร้นซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ถูกเจิม. พวกเขาหย่อนอวนลงทุกที่ไม่ว่าแห่งใดที่พระยะโฮวาทรงเปิดโอกาสให้ และก็มีหลายคนติดอวนขึ้นมา. หลังสงครามโลกที่สอง พระยะโฮวาทรงเปิดน่านน้ำแห่งใหม่ ๆ แก่งานจับคน. พวกมิชชันนารีซึ่งได้เข้าโรงเรียนกีเลียดว็อชเทาเวอร์ไบเบิลเป็นหัวหอกของการงานนี้ในหลายดินแดน. ประเทศต่าง ๆ อย่างเช่น ญี่ปุ่น, อิตาลี, และสเปน ซึ่งในตอนแรก ๆ ดูเหมือนไม่ค่อยจะเกิดผลเท่าไร ท้ายที่สุดก็บังเกิดผลอุดมเป็นผู้คนมากมาย. ไม่นานมานี้เราก็ได้ทราบเช่นกันว่าการจับคนในยุโรปตะวันออกได้ประสบผลสำเร็จมากเพียงไร.
17 ปัจจุบัน อวนในหลายประเทศกำลังใกล้จะขาด. ผลผลิตแห่งคนมากมายทำให้มีความจำเป็นต้องจัดประชาคมและหมวดใหม่ ๆ. เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้คนเหล่านี้ จึงมีการสร้างหอประชุมและหอประชุมใหญ่ขึ้นตลอดเวลา. จำเป็นต้องมีผู้ปกครองและผู้รับใช้มากขึ้นเพื่อเอาใจใส่ต่อการเพิ่มขึ้นนี้. งานอันทรงพลังได้เริ่มขึ้นโดยเหล่าผู้ที่ซื่อสัตย์ในสมัยปี 1919. พระธรรมยะซายา 60:22 สำเร็จเป็นจริงแล้วตามตัวอักษร. ‘คนจิ๋วได้กลายเป็นจำนวนพัน’ เช่นเดียวกับคนจับปลาสี่พันคนเหล่านั้นได้กลายเป็นคนกว่าสี่ล้านคนในทุกวันนี้. และยังไม่ถึงที่สุด.
18. เราจะเลียนแบบอย่างอันดียิ่งของผู้จับปลาฝ่ายวิญญาณแห่งศตวรรษแรกได้อย่างไร?
18 ทั้งหมดนี้หมายความอย่างไรสำหรับเราแต่ละคน? พระคัมภีร์บอกว่า เมื่อเปโตร, อันดะเรอา, ยาโกโบ, และโยฮันถูกเชิญให้มาเป็นผู้จับคน “เขาก็สละทิ้งสิ่งสารพัดตามพระองค์ [พระเยซู] ไป.” (ลูกา 5:11) ช่างเป็นตัวอย่างอันดียิ่งจริง ๆ ของความเชื่อและการอุทิศตัว! เราจะสามารถปลูกฝังน้ำใจเสียสละตัวเองอย่างเดียวกันและความพร้อมอย่างเดียวกันนั้นได้ไหม เพื่อรับใช้พระยะโฮวาไม่ว่าจะต้องเสียอะไรก็ตาม? หลายล้านคนได้ตอบแล้วว่าพวกเขาทำได้. ในศตวรรษแรก เหล่าสาวกจับคนในทุกหนทุกแห่งที่พระยะโฮวาทรงอนุญาต. ไม่ว่าในท่ามกลางคนยิวหรือคนต่างชาติ พวกเขาทำการจับคนอย่างไม่จำกัด. ให้เราประกาศเช่นเดียวกันแก่ทุกคนโดยปราศจากการรั้งรอและอคติ.
19. เราควรทำอย่างไรหากน่านน้ำที่เราจับปลาอยู่นั้นดูเหมือนไม่เกิดผล?
19 แต่จะว่าอย่างไรหากเขตที่คุณทำงานในเวลานี้ดูเหมือนไม่บังเกิดผล? อย่าท้อแท้. จงจำไว้ว่า พระเยซูทรงกระทำให้มีปลาเต็มอวนของพวกสาวกหลังจากที่พวกเขาได้ออกจับปลาทั้งคืนโดยไม่ได้ปลาเลย. อาจเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกันนั้นขึ้นได้ทางฝ่ายวิญญาณ. ตัวอย่างเช่นในประเทศไอร์แลนด์ พยานที่ซื่อสัตย์ทำงานหนักเป็นเวลาหลายปีแต่ได้ผลค่อนข้างจำกัด. แต่เมื่อไม่นานมานี้สภาพการณ์เช่นนั้นได้เปลี่ยนไป. หนังสือประจำปี 1991 ของพยานพระยะโฮวา รายงานว่าในตอนสิ้นปีรับใช้ 1990 พี่น้องในไอร์แลนด์มีความยินดีที่มียอดผู้ประกาศ 29 ครั้งติดต่อกัน! บางทีสักวันหนึ่ง เขตที่คุณทำงานอยู่คงจะเกิดผลเช่นเดียวกัน. ตราบเท่าที่พระยะโฮวาทรงอนุญาต จงจับคนต่อ ๆ ไป.
20. เมื่อไรที่เราควรทำงานจับคน?
20 ในประเทศยิศราเอล ชาวประมงออกหาปลาตอนกลางคืน ขณะที่คนทั้งหลายนอนอุ่นสบายอยู่บนเตียง. พวกเขาออกหาปลาไม่ใช่เมื่อเขาเห็นว่าสะดวก แต่เมื่อเขาจะสามารถจับปลาได้มาก ๆ. พวกเราก็เช่นกัน ควรศึกษาเขตทำงานของเราให้ดีเพื่อว่าในตอนที่เราออกประกาศ หรือจับคนนั้น จะเป็นเวลาที่ผู้คนส่วนใหญ่อยู่บ้านและยินดีตอบรับ. ทั้งนี้อาจเป็นช่วงเวลาเย็น, วันสุดสัปดาห์, หรือในเวลาอื่น. ไม่ว่าจะเป็นเวลาใดก็ตาม ขอให้เราทำทุกอย่างที่เราสามารถทำได้เพื่อจะพบคนที่มีใจรักความชอบธรรม.
21. เราควรจดจำเรื่องใดไว้หากเขตทำงานของเรามีการทำบ่อยครั้ง?
21 จะว่าอย่างไรถ้าเขตทำงานของเรามีการทำกันบ่อยครั้งแล้ว? ชาวประมงอาชีพในโลกมักจะโอดครวญว่าพื้นที่หาปลาของตนมีการออกหาปลาถี่เกินไป. แต่พื้นที่หาปลาฝ่ายวิญญาณของเราถือได้ไหมว่ามีการออกจับคนถี่เกินไป? หามิได้! เขตทำงานหลายแห่งบังเกิดผลเพิ่มพูนทั้งที่ทำกันบ่อยครั้ง. บางเขตให้ผลดีกว่าเดิมด้วยซ้ำเนื่องจากมีการทำงานอย่างทั่วถึง. กระนั้นก็ดี เมื่อมีการเยี่ยมตามบ้านบ่อย ๆ จงทำให้แน่ใจเป็นพิเศษว่าได้จดบันทึกทุกคนที่ไม่อยู่บ้านและได้ติดต่ออีกในภายหลัง. จงเรียนรู้หัวเรื่องสำหรับการสนทนาหลาย ๆ เรื่อง. จำไว้เสมอว่าจะมีบางคนมาเยี่ยมอีกครั้งในไม่ช้า ฉะนั้น อย่าอยู่นานเกินไปจนเจ้าของบ้านไม่อยากต้อนรับอีกหรือทำให้เจ้าของบ้านไม่พอใจโดยไม่ได้เจตนา. และจงพัฒนาทักษะในการให้คำพยานตามถนนและเมื่อสบโอกาส. จงหย่อนอวนฝ่ายวิญญาณของคุณลงในทุกโอกาสและทุกวิธีที่มีทางทำได้.
22. สิทธิพิเศษอันใหญ่หลวงอะไรที่เราชื่นชมอยู่ในเวลานี้?
22 จงจำไว้ว่า ในการจับปลานี้ ทั้งผู้จับและปลาที่ถูกจับจะได้ประโยชน์. หากคนเหล่านั้นที่เราจับนั้นบากบั่นไม่ท้อถอย เขาก็สามารถมีชีวิตตลอดไป. เปาโลหนุนใจติโมเธียวดังนี้: “จงเอาใจใส่ตัวท่านและคำสอนของท่านอยู่เสมอ. จงจดจ่ออยู่กับสิ่งเหล่านี้เพราะการกระทำอย่างนี้ ท่านจะช่วยตัวเองและคนที่ฟังท่านให้รอด.” (1 ติโมเธียว 4:16, ล.ม.) พระเยซูเป็นผู้แรกซึ่งฝึกอบรมเหล่าสาวกของพระองค์ในการจับปลาฝ่ายวิญญาณ และงานนี้ยังคงทำกันอยู่ภายใต้การทรงนำของพระองค์. (เทียบวิวรณ์ 14:14-16.) เรามีสิทธิพิเศษอันใหญ่หลวงจริง ๆ ที่ได้ทำงานภายใต้พระองค์เพื่อทำงานนี้ให้เสร็จ! ขอให้เราหย่อนอวนของเราลงตราบเท่าที่พระยะโฮวาทรงอนุญาต. จะมีงานอะไรอีกเล่าที่ยิ่งใหญ่ไปกว่างานจับคน?
คุณจะตอบอย่างไร?
▫ พระเยซูทรงฝึกอบรมสาวกของพระองค์ให้ทำงานอะไร?
▫ พระเยซูทรงแสดงให้เห็นอย่างไรว่างานจับปลาฝ่ายวิญญาณจะไม่สิ้นสุดลงด้วยการที่พระองค์สิ้นพระชนม์?
▫ พระยะโฮวาทรงอวยพระพรงานจับปลาฝ่ายวิญญาณในศตวรรษแรกอย่างไร?
▫ ผลอันอุดมอะไรแห่งการจับคนที่ได้ประสบความสำเร็จในระหว่าง “วันขององค์พระผู้เป็นเจ้า”?
▫ เราแต่ละคนจะเป็นผู้จับคนที่ประสบผลสำเร็จยิ่งขึ้นได้อย่างไร?
[รูปภาพหน้า 15]
ภายหลังพระเยซูคืนพระชนม์ เหล่าอัครสาวกของพระองค์ได้แผ่ขยายงานของพระเจ้าในการจับคน