ทัศนียภาพแผ่นดินแห่งคำสัญญา
จงเบิกบานยินดี! ถังเต็มล้นด้วยน้ำมัน
ผู้พยากรณ์โยเอลกระตุ้นให้ ‘ชาวซีโอนชื่นชมยินดีในพระยะโฮวา.’ ท่านเอ่ยถึงน้ำมันมะกอกในการพรรณนาความปีติยินดีและความเจริญรุ่งเรืองดังนี้: “ลานนวดข้าวจะเต็มไปด้วยข้าวสาลี, และถังทั้งหลายก็จะเต็มล้นไปด้วยน้ำองุ่นใหม่และน้ำมัน.”—โยเอล 2:23, 24.
หากคุณมีชีวิตอยู่ในประเทศยิศราเอลในสมัยที่มีการจารึกพระคัมภีร์ คุณคงจะยินดีที่มีต้นมะกอกเทศสักต้นอย่างที่มีภาพข้างบนใกล้บ้านของคุณหรือในทุ่งนาของคุณ.a มันคงจะทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น น่าชื่นชมยิ่งขึ้น. เหตุใดมะกอกเทศสักต้นหนึ่งจึงมีความสำคัญขนาดนั้น?—เทียบกับวินิจฉัย 9:8, 9.
ก่อนอื่น ขอให้มาพิจารณาต้นไม้ของคุณอย่างใกล้ชิด. ต้นมะกอกเทศอาจมีชีวิตอยู่ได้หลายศตวรรษ บางต้นอยู่ได้ถึงกว่าพันปี ฉะนั้น เมื่อพินิจดู จึงอาจจะเห็นลำต้นตะปุ่มตะป่ำสีขี้เถ้า. ต้นไม้ของคุณอาจสูงได้ถึง 6 เมตร แน่นอนไม่สูงตระหง่านอย่างต้นสนซีดาร์หรือสูงสง่าอย่างต้นปาล์ม. ใบที่เขียวตลอดปีซึ่งเป็นเงามันดังเงินให้ความร่มรื่นตลอดปี. กระนั้นก็ตาม คุณคงไม่ประเมินค่าต้นไม้ของคุณที่รูปลักษณ์และร่มเงาของมันเป็นสำคัญ. ไม่อย่างแน่นอน.
ผลของมันเป็นสิ่งที่มีค่า ผลมะกอกเทศสีเขียวหรือสีดำนับพัน! นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ต้นมะกอกเทศเป็นสิ่งสำคัญที่สุดต่อชีวิตและกิจกรรมในประเทศยิศราเอล. ต้นจะเต็มสะพรั่งไปด้วยดอกไม้สีอ่อน ๆ ในเดือนพฤษภาคม เพื่อเตรียมเป็นผลมะกอกเทศลูกเล็ก ๆ. (โยบ 15:33) เมื่อผลเหล่านี้เติบโตเต็มที่ มันอาจเปลี่ยนเป็นสีเขียวอมเหลืองไปจนกระทั่งสีน้ำตาลเข้มหรือสีดำ.
การเก็บผลมะกอกเทศในเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายนนั้นเป็นงานยาก. คุณต้องเอาไม้ฟาดเพื่อให้ผลที่สุกหล่นลงมาบนผ้าที่ปูอยู่ใต้ต้น. (พระบัญญัติ 24:20) ผลมะกอกเทศจะถูกนำไปล้างก่อนผ่านขั้นตอนอื่น อย่างเช่น การแช่ในน้ำเกลือเพื่อขจัดรสขมซึ่งปกติมีอยู่. แล้วขั้นตอนต่อไปล่ะ?
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการชื่นชมหรือได้ประโยชน์จากผลเก็บเกี่ยวอันอุดมของคุณอย่างไร. คุณอาจรับประทานผลมะกอกเทศสด ๆ, หรือนำไปดองเพื่อว่าครอบครัวของคุณจะมีเสบียงอาหารที่มีรสชาติไว้รับประทานหลายเดือน. มะกอกเทศอาจเป็นส่วนประกอบหลักของอาหารที่รับประทานเป็นประจำ เป็นอาหารซึ่งอาจประกอบด้วยมะกอกเทศที่เพิ่มรสชาติให้อาหาร แล้วตามด้วยเค้กข้าวบาร์เลย์.
อย่างไรก็ตาม คุณอาจนำมะกอกเทศส่วนใหญ่มาผ่านขั้นตอนจำเป็นเพื่อให้ได้โภคภัณฑ์ที่มีประโยชน์และมีค่าที่สุด นั่นคือน้ำมันมะกอก. คุณอาจได้น้ำมันที่มีคุณภาพต่างกัน ซึ่งมีวิธีใช้ต่างกันไป. ประการแรก คุณอาจนำผลมะกอกเทศสุกมาตำพอประมาณในครก หรือแม้แต่จะใช้วิธีเหยียบก็ได้. (มีคา 6:15) นั่นจะทำให้ได้น้ำมันที่ดีที่สุด เรียกว่าหัวน้ำมัน ซึ่งเหมาะสำหรับตะเกียงที่จุดให้พลับพลาสว่าง. (เอ็กโซโด 25:37; 27:20, 21) ลองมโนภาพซิว่าคุณจะทะนุถนอมน้ำมันชั้นดีนี้ไว้สักเพียงไรเพื่อจะใช้ปรุงอาหารในโอกาสพิเศษ!
แม้แต่ผลมะกอกเทศที่มีคุณภาพด้อยกว่าก็อาจนำมาเข้าเครื่องหีบเพื่อคั้นให้ได้น้ำมันมากขึ้นจากเนื้อ แม้ว่าจะได้น้ำมันซึ่งมีคุณภาพด้อยกว่าก็ตาม. เนื้อจะมีน้ำมันอยู่ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์. อาจใช้เครื่องหีบหรือคั้นในรูปแบบต่างกันไป แต่ได้แสดงไว้ให้เห็นในที่นี้แบบหนึ่ง. มะกอกเทศทั้งลูกหรือที่คั้นแล้วบางส่วนจะนำมาไว้ที่ฐานโม่กระบอกกลม. หินโม่ซึ่งลากด้วยลาหรือคนจะบดลงไปที่ผล คั้นเอาน้ำมันออกมา ซึ่งจะไหลลงไปเก็บไว้ในเหยือก.—มัดธาย 18:6.
น้ำมันมะกอกอาจเปรียบได้กับทองคำเหลว ซึ่งได้รับการประเมินค่าสูงและมีวิธีใช้มากมาย. หนึ่งต้นอาจให้น้ำมันสำหรับครอบครัวซึ่งมีสมาชิกห้าหรือหกคนใช้ได้หนึ่งปี. น้ำมันมะกอกเทศอาจเป็นส่วนประกอบหลักของอาหารของครอบครัว ซึ่งย่อยง่ายและให้พลังงานสูง. (เทียบกับยิระมะยา 41:8; ยะเอศเคล 16:13.) คุณอาจนำน้ำมันบางส่วนไปทำให้มีกลิ่นหอมและใช้เป็นเครื่องสำอาง หรือใช้ชโลมศีรษะของแขกเพื่อแสดงการต้อนรับ. (2 ซามูเอล 12:20; บทเพลงสรรเสริญ 45:7; ลูกา 7:46) คุณอาจใช้มันเป็นยารักษาบาดแผล.—ยะซายา 1:6; มาระโก 6:13; ลูกา 10:34.
ไม่ได้มีเพียงเท่านี้สำหรับการใช้ประโยชน์จากน้ำมันมะกอกที่มีอย่างอุดม. คุณยังอาจนำไปใช้เพื่อให้แสงสว่างแก่บ้าน, เป็นส่วนของของถวายแด่พระเจ้า, หรือเป็นโภคภัณฑ์อย่างหนึ่งที่ค้าขายทำกำไรได้. ใช่แล้ว ในสมัยที่มีการจารึกพระคัมภีร์ ต้นมะกอกเทศเป็นต้นไม้ที่มีค่าที่สุดอย่างหนึ่ง ดังนั้น โยเอลจึงใช้ต้นมะกอกเทศได้อย่างเหมาะเจาะ เพื่อแสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองและความชื่นชมยินดี.—พระบัญญัติ 6:11; บทเพลงสรรเสริญ 52:8; ยิระมะยา 11:16; มัดธาย 25:3-8.
[เชิงอรรถ]
a โปรดดูปฏิทินปี 1993 ของพยานพระยะโฮวา เพื่อจะเห็นภาพนี้ในขนาดที่ใหญ่กว่า.
[ที่มาของภาพหน้า 24]
Pictorial Archive (Near Eastern History) Est.