วาระต่าง ๆ ตามการทำนายของดานิเอลและความเชื่อของเรา
“ความสุขจะมีแก่ผู้ที่คอยอยู่ และมาถึงได้หนึ่งพันสามร้อยสามสิบห้าวันนั้น.”—ดานิเอล 12:12, ฉบับแปลใหม่.
1. ทำไมคนจำนวนมากไม่ประสบความสุขแท้ และมีการเชื่อมโยงความสุขแท้กับอะไร?
ทุกคนต้องการความสุข. กระนั้น ทุกวันนี้น้อยคนประสบความสุข. เพราะเหตุใด? อย่างหนึ่งเป็นเพราะคนส่วนใหญ่แสวงความสุขผิดที่. มีการเสาะหาความสุขจากการศึกษา, ความมั่งคั่ง, งานอาชีพ, หรือการได้มาซึ่งอำนาจ. แต่ในตอนต้นของคำเทศน์บนภูเขาพระเยซูทรงเชื่อมโยงความสุขเข้ากับความสำนึกในความต้องการของคนเราทางฝ่ายวิญญาณ, ความเมตตา, ความบริสุทธิ์ผ่องแผ้วในหัวใจ, และคุณลักษณะอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน. (มัดธาย 5:3-10) ความสุขอย่างที่พระเยซูได้ตรัสไว้เป็นความสุขแท้และยั่งยืน.
2. ตามคำพยากรณ์ อะไรจะนำมาซึ่งความสุขในสมัยสุดท้าย และเกิดคำถามอะไรในเรื่องนี้?
2 สำหรับชนที่เหลือผู้ถูกเจิมในสมัยสุดท้าย ความสุขเกี่ยวโยงกับบางสิ่งเป็นพิเศษ. เราอ่านในพระธรรมดานิเอลดังนี้: “ดาเนียลเอ๋ย ไปเถอะ เพราะว่าถ้อยคำเหล่านั้นก็ถูกปิดไว้แล้วและถูกประทับตราไว้จนถึงวาระสุดท้าย. ความสุขจะมีแก่ผู้คอยอยู่และมาถึงได้หนึ่งพันสามร้อยสามสิบห้าวันนั้น.” (ดานิเอล 12:9, 12, ฉบับแปลใหม่) 1,335 วันดังกล่าวนี้คลุมระยะเวลาไหน? เหตุใดคนที่มีชีวิตผ่านพ้นระยะนั้นมีความสุข? เรื่องนี้มีอะไรเกี่ยวข้องกับความเชื่อของพวกเราสมัยนี้ไหม? เราได้รับการช่วยเหลือเพื่อจะตอบคำถามเหล่านี้ หากเรามองย้อนไปถึงสมัยที่ดานิเอลจารึกถ้อยคำเหล่านี้ ไม่นานภายหลังชาวยิศราเอลได้รับการปลดปล่อยจากบาบูโลนและในปีที่สามแห่งรัชกาลของโคเร็ศกษัตริย์ของเปอร์เซีย.—ดานิเอล 10:1.
การคืนสู่สภาพเดิมนำมาซึ่งความสุข
3. ปฏิบัติการเช่นไรของกษัตริย์ไซรัสที่นำความสุขอย่างมากมายมาสู่ชาวยิวที่ซื่อสัตย์ในปี 537 ก่อนสากลศักราช ทว่าไซรัสไม่ได้ให้สิทธิพิเศษอะไรแก่ชาวยิว?
3 สำหรับชาวยิว การหลุดพ้นจากบาบูโลนเป็นวาระแห่งความปีติยินดีอย่างแท้จริง. หลังจากชาวยิวจำทนอยู่ในสภาพเชลยนานเกือบ 70 ปี ไซรัสมหาราชได้เปิดโอกาสให้พวกเขากลับกรุงยะรูซาเลม เพื่อบูรณะพระวิหารของพระยะโฮวา. (เอษรา 1:1, 2) บรรดาคนที่ตอบรับได้ออกเดินทางด้วยการตั้งความหวังสูง และได้มาถึงประเทศบ้านเกิดในปี 537 ก่อนสากลศักราช. อย่างไรก็ตาม ไซรัสไม่ให้โอกาสพวกเขาตั้งราชอาณาจักรขึ้นใหม่โดยผู้สืบตระกูลของกษัตริย์ดาวิด.
4, 5. (ก) ตำแหน่งกษัตริย์ที่สืบมาทางเชื้อสายของดาวิดถูกโค่นล้มเมื่อไร? ทำไม? (ข) พระยะโฮวาทรงให้คำรับรองอะไรที่ว่าตำแหน่งกษัตริย์โดยทางเชื้อสายดาวิดจะถูกกู้ขึ้นอีก?
4 เรื่องนี้มีนัยสำคัญ. ประมาณห้าร้อยปีก่อนหน้านั้น พระยะโฮวาได้ทรงสัญญากับดาวิดว่า “ราชวงศ์และแผ่นดินของเจ้า, จะตั้งมั่นคงอยู่เป็นนิตย์, พระที่นั่งของเจ้าจะดำรงอยู่ชั่วนิรันดร์.” (2 ซามูเอล 7:16) น่าเศร้าใจ ผู้สืบสันตติวงศ์ดาวิดส่วนใหญ่ได้แสดงตัวเป็นกบฏ และความผิดของคนในชาติฐานฆ่าคนก็ร้ายแรงยิ่งนัก จนพระยะโฮวาได้ทรงปล่อยให้ฐานะกษัตริย์แห่งราชวงศ์ดาวิดถูกโค่นล้มลงในปี 607 ก่อนสากลศักราช. เว้นแต่ช่วงเวลาอันสั้นสมัยมัคคบี ยะรูซาเลมตกอยู่ภายใต้อำนาจปกครองโดยคนต่างประเทศตั้งแต่นั้น กระทั่งกรุงถูกทำลายครั้งที่สองในปีสากลศักราช 70. ดังนั้น ในปี 537 ก่อนสากลศักราช “เวลากำหนดของคนต่างประเทศ” ได้ดำเนินอยู่แล้ว ซึ่งระหว่างปีเหล่านั้นไม่มีบุตรของดาวิดแม้แต่องค์เดียวได้ขึ้นครองเป็นกษัตริย์.—ลูกา 21:24.
5 กระนั้นก็ดี พระยะโฮวาไม่ทรงลืมคำสัญญาที่กระทำไว้ต่อดาวิด. โดยนิมิตและความฝันที่ทรงโปรดให้ตามลำดับ ผ่านทางดานิเอลผู้พยากรณ์ พระองค์ได้ทรงเผยรายละเอียดเหตุการณ์ของโลกที่จะอุบัติในอนาคต ซึ่งจะคลุมเวลาหลายศตวรรษ นับตั้งแต่สมัยบาบูโลนครอบครองโลก กระทั่งถึงเวลาที่กษัตริย์องค์หนึ่งในราชวงศ์ดาวิดจะปกครองราชอาณาจักรแห่งไพร่พลของพระยะโฮวาอีกครั้งหนึ่ง. คำพยากรณ์เหล่านี้ ที่บันทึกอยู่ในพระธรรมดานิเอลบท 2, 7, 8, และบท 10-12, เป็นคำรับรองแก่ชาวยิวที่ซื่อสัตย์ว่า ในที่สุด พระที่นั่งของดาวิดจะ “ดำรงอยู่ชั่วนิรันดร์.” แน่นอน ความจริงดังกล่าวที่ได้รับการเปิดเผยให้เป็นที่ทราบกันเช่นนั้นย่อมนำความสุขมาสู่ชาวยิวผู้ซึ่งได้กลับคืนสู่บ้านเกิดของตนในปี 537 สักเพียงไร!
6. เราทราบอย่างไรว่าคำพยากรณ์บางเรื่องของดานิเอลจะสำเร็จสมจริงในสมัยของเรา?
6 ผู้เขียนวิจารณ์คัมภีร์ไบเบิลส่วนใหญ่อ้างว่าคำพยากรณ์ของดานิเอลได้สมจริงไปแล้วเกือบทุกเรื่องก่อนการประสูติของพระเยซูคริสต์. แต่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เช่นนั้น. ที่ดานิเอล 12:4, (ล.ม.) ทูตสวรรค์องค์หนึ่งรับสั่งแก่ดานิเอลดังนี้: “จงเก็บถ้อยคำเหล่านั้นไว้เป็นความลับ แล้วผนึกม้วนหนังสือไว้จนกระทั่งถึงสมัยอวสาน หลายคนจะไป ๆ มา ๆ และความรู้แท้จะมีอุดมบริบูรณ์.” หากม้วนหนังสือของดานิเอลจะต้องถูกแกะออก—คือความหมายแห่งม้วนหนังสือจะได้รับการเปิดเผยครบบริบูรณ์—เฉพาะสมัยอวสานเท่านั้น จึงแน่ใจได้ว่าอย่างน้อยคำพยากรณ์บางส่วนต้องนำมาใช้ได้กับยุคสมัยนั้น.—ดูดานิเอล 2:28; 8:17; 10:14.
7. (ก) เวลากำหนดของนานาชาติได้มาสิ้นสุดเมื่อไร และตอนนั้นมีคำถามอะไรที่ต้องตอบอย่างเร่งด่วน? (ข) ใครไม่ได้เป็น “ทาสสัตย์ซื่อและสุขุม”?
7 ปี 1914 เวลากำหนดของนานาชาติได้สิ้นสุด และสมัยสุดท้ายสำหรับโลกนี้ได้เริ่มต้น. ราชอาณาจักรที่ปกครองโดยเชื้อสายดาวิดได้รับการกู้คืนแล้ว ไม่ใช่ยะรูซาเลมบนแผ่นดินโลก แต่ใน “เมฆของสวรรค์” อย่างไม่ปรากฏแก่ตา (ดานิเอล 7:13, 14, ฉบับแปลใหม่) ในเวลานั้น เนื่องจาก ‘วัชพืช’ ซึ่งได้แก่คริสเตียนจอมปลอมกำลังรุ่งเรือง, สถานะของคริสเตียนแท้ไม่แจ่มชัด—อย่างน้อยในสายตามนุษย์. กระนั้นก็ดี ต้องมีคำตอบสำหรับปัญหาสำคัญที่ว่า “จริง ๆ แล้วใครคือทาสสัตย์ซื่อและสุขุม?” (มัดธาย 13:24-30; 24:45, ล.ม.) ใครจะเป็นตัวแทนราชอาณาจักรที่ปกครองโดยเชื้อสายดาวิดซึ่งได้รับการกู้แล้ว? ไม่ใช่ชาวยิวพี่น้องร่วมชาติของดานิเอล. พวกเขาถูกปฏิเสธเสียแล้วเนื่องจากขาดความเชื่อและสะดุดพระมาซีฮา. (โรม 9:31-33) ไม่มีทางจะหาพบทาสสัตย์ซื่ออยู่ภายในองค์การต่าง ๆ แห่งคริสต์ศาสนจักร! กิจการชั่วของพวกเขาพิสูจน์ว่าพระเยซูไม่รู้จักพวกเขา. (มัดธาย 7:21-23) ถ้าอย่างนั้น ใครล่ะเป็นทาสสัตย์ซื่อ?
8. ใครที่ได้พิสูจน์ตนเป็น “ทาสสัตย์ซื่อและสุขุม” ในสมัยสุดท้าย? เราทราบโดยวิธีใด?
8 โดยไม่มีข้อสงสัยใด ๆ จำนวนน้อยแห่งกลุ่มพี่น้องผู้ถูกเจิมของพระเยซูนี้แหละเป็นทาสนั้น ซึ่งในปี 1914 เป็นที่รู้จักในชื่อนักศึกษาพระคัมภีร์ แต่ตั้งแต่ปี 1931 เป็นต้นมา มีชื่อเรียกว่าพยานพระยะโฮวา. (ยะซายา 43:10) พวกเขาเป็นกลุ่มเดียวที่ประกาศราชอาณาจักรที่สืบทอดจากดาวิดซึ่งได้รับการกอบกู้ขึ้นแล้ว. (มัดธาย 24:14) พวกเขาเป็นกลุ่มเดียวที่อยู่ต่างหากจากโลก และยกย่องพระนามของพระยะโฮวา. (โยฮัน 17:6, 14) และคำพยากรณ์ต่าง ๆ ในคัมภีร์ไบเบิลซึ่งพาดพิงถึงไพร่พลของพระเจ้าในสมัยสุดท้ายได้มาสำเร็จเป็นจริงกับพวกเขากลุ่มเดียวเท่านั้น. ในบรรดาคำพยากรณ์เหล่านี้ก็มีลำดับวาระต่าง ๆ เชิงพยากรณ์ซึ่งกล่าวไว้ที่ดานิเอลบท 12 รวมทั้งเรื่อง 1,335 วันอันจะนำมาซึ่งความสุข.
1,260 วัน
9, 10. เหตุการณ์อะไรจะบังเกิดขึ้นระหว่าง “วาระหนึ่ง, สองวาระ, และครึ่งวาระ” ตามที่ระบุในดานิเอล 7:25, และข้อคัมภีร์อื่นอะไรบ้างที่กล่าวถึงช่วงเวลาเดียวกัน?
9 ที่ดานิเอล 12:7, (ฉบับแปลใหม่) เราอ่านเกี่ยวกับวาระเชิงพยากรณ์ส่วนแรกดังนี้: “ยังอีกวาระหนึ่ง, สองวาระ, และครึ่งวาระ. และเมื่อการหมดอำนาจของชนชาติบริสุทธิ์สิ้นสุดลงแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็สำเร็จไปด้วย.”a มีการกล่าวถึงวาระอย่างเดียวกันนี้ที่วิวรณ์ 11:3-6 (ฉบับแปลใหม่) ซึ่งบอกว่าเหล่าพยานของพระเจ้าจะนุ่งห่มผ้าเนื้อหยาบประกาศอยู่สามปีครึ่ง แล้วถูกฆ่า. อีกครั้งหนึ่ง ที่ดานิเอล 7:25 เราอ่านว่า “ท่านจะพูดกล่าวร้ายองค์ผู้สูงสุด และจะทำให้วิสุทธิชนขององค์ผู้สูงสุดนั้นอิดหนาระอาใจ และจะคิดเปลี่ยนแปลงบรรดาวาระและธรรมบัญญัติ และเขาทั้งหลายจะถูกมอบไว้ในมือของท่าน ตลอดหนึ่งวาระ, สองวาระ กับครึ่งวาระ.”
10 ในคำพยากรณ์ข้อหลังนี้ คำ “ท่าน” ได้แก่มหาอำนาจที่ห้าของโลกนับจากบาบูโลน. “ท่าน” คือ “อีกเขาหนึ่งเล็ก ๆ” ซึ่งครอบครองในช่วงเวลาที่บุตรมนุษย์รับ “ราชอำนาจ ศักดิ์ศรี กับราชอาณาจักร.” (ดานิเอล 7:8, 14, ฉบับแปลใหม่) เขาที่แสดงนัยนี้ แรกทีเดียวหมายถึงจักรวรรดิอังกฤษ ได้ขยายอำนาจในระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่งเป็นมหาอำนาจคู่แองโกล-อเมริกัน บัดนี้อยู่ภายใต้อำนาจชี้นำของประเทศสหรัฐ. ตลอดสามวาระครึ่งหรือสามปีครึ่ง มหาอำนาจนี้แหละจะรังควานเหล่าผู้บริสุทธิ์ และพยายามคิดเปลี่ยนวาระและกฎหมาย. ในที่สุด เหล่าผู้บริสุทธิ์ก็จะถูกมอบไว้ในมือของมัน.—ดูวิวรณ์ 13:5, 7 ด้วย.
11, 12. เหตุการณ์อะไรนำไปสู่การเริ่มต้นวาระเชิงพยากรณ์ 1,260 วัน?
11 คำพยากรณ์เรื่องเดียวกันเหล่านี้ทุกข้อได้สำเร็จสมจริงอย่างไร? เป็นเวลาหลายปีทีเดียวก่อนสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง บรรดาพี่น้องผู้ถูกเจิมของพระเยซูได้ประกาศคำเตือนอย่างเปิดเผยว่า ปี 1914 จะได้เห็นเวลากำหนดของนานาชาติสิ้นสุดลง. เมื่อสงครามปะทุขึ้น ปรากฏว่าคำเตือนนั้นถูกเพิกเฉย. ซาตานได้ใช้ “สัตว์ร้าย” องค์การฝ่ายการเมืองของโลกซึ่งขณะนั้นครอบงำโดยจักรวรรดิอังกฤษ ด้วยความพยายาม “จะคิดเปลี่ยนแปลงบรรดาวาระและธรรมบัญญัติ” เพื่อถ่วงเวลาการปกครองโดยราชอาณาจักรของพระเจ้า. (วิวรณ์ 13:1, 2) ซาตานทำไม่สำเร็จ. ราชอาณาจักรของพระเจ้าได้รับการสถาปนาในสวรรค์ ไกลเกินกว่าที่มนุษย์จะเข้าไปถึงได้.—วิวรณ์ 12:1-3.
12 สำหรับนักศึกษาพระคัมภีร์ สงครามครั้งนั้นหมายถึงเวลาแห่งการทดสอบ. ตั้งแต่เดือนมกราคม 1914 พวกเขาได้ฉายภาพยนตร์เรื่องการสร้างโลก เป็นการเสนอความรู้ด้านคัมภีร์ไบเบิลซึ่งนำความสนใจไปที่คำพยากรณ์ของดานิเอล. ในฤดูร้อนปีนั้น สงครามก็ปะทุขึ้นทางซีกโลกเหนือ. ในเดือนตุลาคม เวลาที่กำหนดไว้นั้นก็สิ้นสุด. พอถึงสิ้นปี ชนที่เหลือผู้ถูกเจิมต่างก็คาดหมายการข่มเหง ดังเห็นได้จากข้อเท็จจริงที่ว่าข้อคัมภีร์ประจำปีที่เลือกสำหรับปี 1915 เป็นถ้อยคำที่พระเยซูได้ตรัสถามเหล่าสาวกของพระองค์ว่า “จอกนั้นซึ่งเราจะดื่มท่านจะดื่มได้หรือ?” ซึ่งอาศัยมัดธาย 20:22 เป็นหลัก.
13. นักศึกษาพระคัมภีร์สวมผ้าเนื้อหยาบประกาศอย่างไรในช่วง 1,260 วันเหล่านั้น และเกิดอะไรขึ้นเมื่อสิ้นช่วงเวลานั้น?
13 ด้วยเหตุนี้ จากเดือนธันวาคม 1914 พยานฯกลุ่มเล็ก ๆ นี้ ‘ได้สวมผ้าเนื้อหยาบประกาศ’ พวกเขาอดทนด้วยความถ่อมขณะเขาป่าวประกาศการพิพากษาของพระยะโฮวา. ปี 1916 หลายคนตะลึงงันในการตายของ ซี. ที. รัสเซลล์ นายกสมาคมว็อชเทาเวอร์ไบเบิลแอนด์แทร็กต์คนแรก. ขณะที่ความบ้าคลั่งของสงครามลุกลาม เหล่าพยานฯยิ่งเผชิญการต่อต้านขัดขวางมากขึ้น. บางคนถูกขังคุก. บุคคลอื่น ๆ เป็นรายตัวเช่น แฟรงค์ แพลต ในอังกฤษ และโรเบิร์ต เกล็ก ในแคนาดาถูกเจ้าหน้าที่ที่เหี้ยมโหดประทุษร้ายร่างกายอย่างทารุณ. ในที่สุด เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 1918 เจ. เอ็ฟ รัทเทอร์ฟอร์ด นายกสมาคมคนใหม่พร้อมด้วยคณะบริหารของสมาคมว็อชเทาเวอร์ไบเบิลแอนด์แทร็กต์ก็ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลานานด้วยข้อหาเท็จ. โดยวิธีนี้ ในตอนสิ้นวาระเชิงพยากรณ์ “เขาเล็ก” จึงได้ทำลายงานประกาศต่อสาธารณชนอย่างมีระเบียบ.—ดานิเอล 7:8.
14. สิ่งต่าง ๆ ได้เปลี่ยนแปลงอย่างไรสำหรับชนที่เหลือผู้ถูกเจิมในปี 1919 และหลังจากนั้น?
14 พระธรรมวิวรณ์พยากรณ์ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนี้. ภายหลังการชะงักงันไปชั่วระยะสั้น ๆ—ดังบอกไว้ล่วงหน้าเหมือนนอนตายที่ถนนสามวันครึ่ง—ชนที่เหลือผู้ถูกเจิมก็คืนชีพและขันแข็งทำกิจกรรมอีก. (วิวรณ์ 11:11-13) วันที่ 26 มีนาคม 1919 นายกสมาคมพร้อมด้วยคณะผู้บริหารสมาคมว็อชเทาเวอร์ไบเบิลแอนด์แทร็กต์ก็ได้รับอิสรภาพ และในเวลาต่อมาพวกเขาก็พ้นข้อหาเท็จทุกกระทงที่นำขึ้นฟ้องร้อง. ทันทีที่ได้อิสรภาพ ชนที่เหลือผู้ถูกเจิมเริ่มจัดระเบียบกันอีกครั้งหนึ่งเพื่อทำงานต่อไป. โดยวิธีนี้ สมจริงดังที่พระธรรมวิวรณ์พูดถึงวิบัติประการแรก พวกเขาได้ขึ้นมาจากช่องเหวลึกแห่งการอยู่เฉยไม่มีกิจกรรม เหมือนฝูงตั๊กแตนฝ่ายวิญญาณออกมาจากควันหนาทึบ ซึ่งแสดงถึงอนาคตที่มืดมนสำหรับศาสนาเท็จ. (วิวรณ์ 9:1-11) ในระหว่างสองสามปีถัดมา พวกเขาได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีทางฝ่ายวิญญาณและได้รับการเตรียมไว้สำหรับสิ่งที่รออยู่เบื้องหน้า. ในปี 1921 เขาได้จัดพิมพ์หนังสือเล่มใหม่ พิณของพระเจ้า (ภาษาอังกฤษ) ด้วยความมุ่งหมายจะช่วยคนใหม่และเด็กเรียนความจริงพื้นฐานของคัมภีร์ไบเบิล. (วิวรณ์ 12:6, 14) ทุกสิ่งเหล่านี้ได้เกิดขึ้นระหว่างอีกช่วงเวลาหนึ่งที่สำคัญ.
1,290 วัน
15. โดยวิธีใดเราสามารถนับการเริ่มต้นของ 1,260 วันได้? และช่วงเวลานั้นสิ้นสุดเมื่อไร?
15 ทูตสวรรค์ตรัสแก่ดานิเอลว่า “และตั้งแต่เวลาที่ให้เลิกเครื่องเผาบูชาเนืองนิตย์เสียนั้น และให้ตั้งสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน ซึ่งกระทำให้เกิดวิบัติขึ้น จะเป็นเวลาหนึ่งพันสองร้อยเก้าสิบวัน.” (ดานิเอล 12:11, ฉบับแปลใหม่) ภายใต้พระบัญญัติของโมเซ “เครื่องบูชาเนืองนิตย์” ถูกเผาบนแท่น ณ วิหารในกรุงยะรูซาเลม. คริสเตียนไม่ถวายเครื่องบูชาเผา แต่พวกเขาถวายเครื่องบูชาฝ่ายวิญญาณต่อเนื่องไม่ขาด. เปาโลพาดพิงถึงเรื่องนี้เมื่อท่านบอกว่า “จงให้เราถวายคำสรรเสริญแด่พระเจ้าเป็นเครื่องบูชาเสมอ กล่าวคือผลแห่งริมฝีปากที่ประกาศพระนามของพระองค์อย่างเปิดเผย.” (เฮ็บราย 13:15, ล.ม; เทียบกับโฮเซอา 14:2.) เครื่องบูชาที่ถวายอย่างต่อเนื่องนี้ถูกริบไปเมื่อเดือนมิถุนายน 1918. แล้ว “สิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน”—ลักษณะสำคัญประการที่สองที่ต้องติดตามดูคืออะไร? สิ่งนี้คือสันนิบาตชาติ โดยการส่งเสริมของประเทศมหาอำนาจที่เป็นฝ่ายชนะในตอนสิ้นสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง.b ที่ถือว่าน่าสะอิดสะเอียนก็เพราะพวกผู้นำในคริสต์ศาสนจักรได้ยกสิ่งนี้ขึ้นแทนราชอาณาจักรของพระเจ้า ถือเอาสันนิบาตชาติเสมือนเป็นความหวังอย่างเดียวสำหรับมนุษย์เพื่อจะมีสันติภาพ. สันนิบาตชาติได้รับการเสนอขึ้นมาในเดือนมกราคม 1919. ถ้าเรานับ 1,290 วัน (สามปี เจ็ดเดือน) ตั้งแต่เวลานั้น เราก็มาถึงเดือนกันยายน 1922.
16. เมื่อสิ้นช่วง 1,260 วันแล้ว มีพยานหลักฐานอะไรแสดงว่าชนที่เหลือผู้ถูกเจิมพร้อมปฏิบัติการ?
16 ครั้นแล้วเกิดอะไรขึ้น? ถึงตอนนี้นักศึกษาพระคัมภีร์มีชีวิตชีวาขึ้นมา หลุดพ้นจากบาบูโลนใหญ่ และพร้อมจะรุดหน้าต่อไป. (วิวรณ์ 18:4) ณ การประชุมใหญ่ที่เมืองซีดาร์ พอยน์ รัฐโอไฮโอ สหรัฐ ในเดือนกันยายน 1922 โดยปราศจากความกลัว พวกเขาเริ่มประกาศการพิพากษาของพระเจ้าต่อคริสต์ศาสนจักร. (วิวรณ์ 8:7-12) เหล็กไนของตั๊กแตนเหล่านั้นเริ่มแสดงพิษสงจริง ๆ! สิ่งที่ตามมา ได้แก่การเริ่มต้นของวิบัติที่สองตามที่กล่าวในพระธรรมวิวรณ์. กองทหารม้าคริสเตียน—เริ่มแรกประกอบด้วยชนที่เหลือผู้ถูกเจิมและภายหลังมีชนฝูงใหญ่ทวีจำนวนเพิ่มขึ้น—ได้เคลื่อนไปทั่วแผ่นดินโลก. (วิวรณ์ 7:9; 9:13-19) ใช่แล้ว เมื่อสิ้น 1,290 วันแล้ว ไพร่พลของพระเจ้าก็ประสบซึ่งความปีติยินดี.c แต่มีอีกมากที่รอพวกเขาอยู่.
1,335 วัน
17. ช่วง 1,335 วันได้เริ่มขึ้นเมื่อไร และสิ้นสุดเมื่อไร?
17 ดานิเอล 12:12, (ฉบับแปลใหม่) ว่าดังนี้: “ความสุขจะมีแก่ผู้ที่คอยอยู่ และมาถึงได้หนึ่งพันสามร้อยสามสิบห้าวันนั้น!” 1,335 วันเหล่านี้ หรือสามปีกับแปดเดือนครึ่ง ดูเหมือนเริ่มขึ้นเมื่อช่วงเวลาที่อยู่ก่อนหน้าได้สิ้นสุดลง. โดยการนับจากเดือนกันยายน 1922 เวลาดังกล่าวนำเราเข้าสู่ช่วงท้ายฤดูใบไม้ผลิ (ซีกโลกเหนือ) ของปี 1926. ได้เกิดอะไรขึ้นในช่วง 1,335 วันเหล่านั้น?
18. ข้อเท็จจริงอะไรบ่งชี้ว่าย้อนหลังไปในปี 1922 ยังต้องทำความก้าวหน้าต่อไป?
18 ทั้งที่เหตุการณ์ในปี 1922 บ่งลักษณะสำคัญเป็นพิเศษก็ตาม ปรากฏว่า บางคนยังคงใฝ่ฝันถึงวันในอดีต. หนังสือคู่มือการศึกษาพระคัมภีร์ เขียนโดย ซี. ที. รัสเซลล์ ยังคงเป็นเนื้อหาหลักในการศึกษา. นอกจากนั้น เล่มเล็กที่มีชื่อเรื่องว่าหลายล้านคนที่มีชีวิตอยู่เวลานี้จะไม่ตายเลย ซึ่งจ่ายแจกอย่างกว้างขวางได้เสนอแง่คิดที่ว่า ในปี 1925 พระทัยประสงค์มากมายของพระเจ้าเกี่ยวด้วยการฟื้นฟูแผ่นดินโลกเป็นอุทยาน พร้อมทั้งการปลุกเหล่าผู้ซื่อสัตย์ในกาลโบราณขึ้นจากตายจะเริ่มสำเร็จเป็นจริง. ความอดทนของบรรดาผู้ถูกเจิมก็ดูท่าว่าใกล้จะมีผลสัมฤทธิ์แล้ว. กระนั้นก็ดี บางคนที่สมทบกับนักศึกษาพระคัมภีร์ไม่ค่อยกระตือรือร้นจะบอกข่าวดีแก่คนอื่น.
19, 20. (ก) สิ่งต่าง ๆ มากมายเปลี่ยนไปอย่างไรสำหรับไพร่พลของพระเจ้าในระหว่างช่วง 1,335 วัน? (ข) เหตุการณ์อะไรแสดงนัยการสิ้นสุดของช่วงเวลา 1,335 วัน และสิ่งเหล่านั้นบ่งชี้อะไรเกี่ยวด้วยไพร่พลของพระยะโฮวา?
19 ขณะที่ 1,335 วันดำเนินอยู่ต่อไป ทั้งหมดนี้ได้เปลี่ยนแปลง. เพื่อให้การหนุนกำลังพวกพี่น้อง จึงได้มีการจัดระเบียบกลุ่มศึกษาวารสารหอสังเกตการณ์ ขึ้นเป็นประจำ. มีการเน้นเรื่องการออกประกาศตามบ้าน. เริ่มต้นเดือนพฤษภาคม 1923 ทุกคนได้รับการเชิญชวนให้ร่วมงานประกาศทุกวันอังคารแรกของเดือน และได้จัดเวลาระหว่างการประชุมประชาคมในตอนกลางสัปดาห์ไว้เฉพาะเพื่อสนับสนุนพวกเขาสำหรับงานนี้. เดือนสิงหาคม 1923 ณ การประชุมใหญ่ที่ลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐ มีการชี้แจงว่าอุทาหรณ์ของพระเยซูเรื่องแกะและแพะจะสำเร็จสมจริงก่อนสมัยการครองราชย์พันปี. (มัดธาย 25:31-40) ปี 1924 มีการตั้งสถานีวิทยุ WBBR เพื่อการกระจายเสียงออกอากาศประกาศข่าวดี. บทความที่ชื่อ “การกำเนิดชนชาติหนึ่ง” ที่ลงพิมพ์ในวารสารเดอะว็อชเทาเวอร์ ฉบับวันที่ 1 มีนาคม 1925 นั้นให้ความเข้าใจซึ่งได้ปรับเปลี่ยนแล้วเกี่ยวด้วยวิวรณ์บท 12. ในที่สุด คริสเตียนที่สัตย์ซื่อก็สามารถเข้าใจเหตุการณ์โกลาหลวุ่นวายระหว่างปี 1914-1919 นั้นอย่างถูกต้อง.
20 ปี 1925 ได้สิ้นสุดลง แต่อวสานยังไม่มา! ตั้งแต่ทศวรรษปี 1870 เรื่อยมา นักศึกษาพระคัมภีร์ปฏิบัติงานด้วยการคำนึงถึงวันที่—ทีแรกนึกถึงปี 1914, ต่อมาปี 1925. บัดนี้ พวกเขาตระหนักว่าเขาต้องปฏิบัติรับใช้นานเท่าที่พระยะโฮวาทรงประสงค์. วารสารเดอะว็อชเทาเวอร์ ฉบับวันที่ 1 มกราคม 1926 ลงพิมพ์บทความสำคัญเรื่อง “ใครจะถวายเกียรติแด่พระยะโฮวา?” ซึ่งได้ชี้ให้เห็นความสำคัญแห่งพระนามของพระเจ้าอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน. และสุดท้าย การประชุมใหญ่ที่จัดขึ้น ณ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในเดือนพฤษภาคม 1926 มีการรับรองมติเรื่อง “คำพยานสำหรับบรรดาผู้ปกครองของโลก.” เรื่องนี้เป็นการแถลงกันตรง ๆ ถึงความจริงแห่งราชอาณาจักรของพระเจ้าและความพินาศอันจะเกิดแก่โลกของซาตานในไม่ช้า. ณ สถานประชุมเดียวกันนี้ มีการออกหนังสือการช่วยให้รอด (ภาษาอังกฤษ) ซึ่งชี้แจงอย่างตรงไปตรงมา และกลายมาเป็นเล่มแรกของชุดที่เข้ามาแทนหนังสือการศึกษาพระคัมภีร์. พอถึงตอนนี้ ไพร่พลของพระเจ้ามองไปเบื้องหน้า ไม่ได้มองย้อนหลัง. 1,335 วันได้จบสิ้นลงแล้ว.
21. การอดทนตลอดช่วง 1,335 วันมีความหมายอย่างไรสำหรับไพร่พลของพระเจ้าในตอนนั้น และความสำเร็จสมจริงของคำพยากรณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้มีความหมายอย่างไรสำหรับพวกเรา?
21 บางคนไม่เต็มใจที่จะปรับตัวให้เข้ากับพัฒนาการเหล่านี้ แต่คนเหล่านั้นที่อดทนก็มีความสุขอย่างแท้จริง. ยิ่งกว่านั้น ขณะที่เรามองย้อนดูความสำเร็จสมจริงของวาระเหล่านี้ในเชิงพยากรณ์, พวกเรามีความสุขเช่นเดียวกัน เพราะความมั่นใจของเราแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นที่ว่าคริสเตียนผู้ถูกเจิมกลุ่มเล็กน้อยนี้ซึ่งมีชีวิตผ่านวาระเหล่านั้นเป็นทาสสัตย์ซื่อและสุขุมจริง ๆ. ตลอดปีต่าง ๆ ตั้งแต่นั้นมา องค์การของพระยะโฮวาได้แผ่ขยายไปกว้างขวาง แต่ทาสสัตย์ซื่อและสุขุมยังคงเป็นแกนขององค์การ ชี้นำองค์การ. น่าปีติยินดีเสียนี่กระไรเมื่อรู้ว่าความสุขอีกมากมายยังมีไว้สำหรับชนผู้ถูกเจิมและแกะอื่น! เราจะเข้าใจเรื่องนี้ขณะที่เราพิจารณาคำพยากรณ์ของดานิเอลอีกเรื่องหนึ่ง.
[เชิงอรรถ]
a เพื่อพิจารณาวิธีคำนวณวาระต่าง ๆ เชิงพยากรณ์นี้ โปรดดูหนังสือท่านจะมีชีวิตอยู่ได้ตลอดไปในอุทยานบนแผ่นดินโลก บท 16, จัดพิมพ์จำหน่ายโดยสมาคมว็อชเทาเวอร์ไบเบิลแอนด์แทร็กต์แห่งนิวยอร์ก.
b โปรดดูหอสังเกตการณ์ ฉบับวันที่ 1 ตุลาคม 1985 หน้า 9-23.
c โปรดดูหอสังเกตการณ์ ฉบับวันที่ 1 มกราคม 1991 หน้า 12, และหนังสือประจำปี 1975 ของพยานพระยะโฮวา หน้า 132.
คุณจะอธิบายได้ไหม?
▫ เราทราบอย่างไรว่าคำพยากรณ์บางตอนในพระธรรมดานิเอลจะสำเร็จสมจริงในสมัยของเรา?
▫ ทำไมเราสามารถมั่นใจได้ว่าชนที่เหลือผู้ถูกเจิมคือ “ทาสสัตย์ซื่อและสุขุม”?
▫ ช่วงเวลา 1,260 วัน เริ่มขึ้นเมื่อไร และสิ้นสุดเมื่อไร?
▫ ช่วงเวลา 1,290 วันนำมาซึ่งความสบายใจและการกลับสู่สภาพเดิมเช่นไรสำหรับชนที่เหลือผู้ถูกเจิม?
▫ ทำไมคนเหล่านั้นที่อดทนจนกระทั่งครบ 1,335 วันจึงมีความสุข?
[รูปภาพหน้า 8]
ตั้งแต่ปี 1919 เห็นได้ชัดว่า “ทาสสัตย์ซื่อและสุขุม” คือชนที่เหลือผู้ถูกเจิม
[รูปภาพหน้า 10]
สำนักงานกลางแห่งสันนิบาตชาติในกรุงเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์
[ที่มาของภาพ]
UN photo
[กรอบหน้า 11]
ช่วงวาระต่าง ๆ ตามคำพยากรณ์ของดานิเอล
1,160 วัน:
ธันวาคม 1914 ถึงมิถุนายน 1918
1,290 วัน:
มกราคม 1919 ถึงกันยายน 1922
1,335 วัน:
กันยายน 1922 ถึงพฤษภาคม 1926