คุณจำได้ไหม?
คุณเห็นคุณค่าของการอ่านหอสังเกตการณ์ ฉบับต่าง ๆ เมื่อเร็ว ๆ นี้ไหม? ลองดูซิว่า คุณตอบคำถามต่อไปนี้ได้หรือไม่.
▫ มีความช่วยเหลืออะไรที่เป็นไปได้ที่จะให้แก่ผู้เจ็บป่วยและผู้สูงอายุภายในประชาคมทุกวันนี้?
ในประชาคมคริสเตียนสมัยแรก มีการเก็บรายชื่อของหญิงม่ายซึ่งจำต้องได้รับความช่วยเหลือทางด้านวัตถุ. (1 ติโมเธียว 5:9, 10) ในทำนองเดียวกัน ทุกวันนี้ ผู้ปกครองอาจทำรายชื่อของผู้ที่เจ็บป่วยและสูงอายุ ซึ่งต้องได้รับความเอาใจใส่เป็นพิเศษ. อย่างไรก็ตาม ไม่ควรปล่อยให้ผู้ปกครองเป็นฝ่ายริเริ่มในเรื่องนี้เพียงฝ่ายเดียว. ทุกคนในประชาคมต้องตระหนักถึงความจำเป็นเหล่านี้. (1 ติโมเธียว 5:4-8)—15/8 หน้า 28-29.
▫ เรื่องราวในคัมภีร์ไบเบิลที่โยนาถูกสัตว์ทะเลตัวหนึ่งกลืนลงไปนั้นไม่น่าเชื่อไหม?
ไม่. ไม่ว่าปลาวาฬหัวทุย, ปลาฉลามขาว, หรือปลาฉลามวาฬสามารถกลืนคนได้. นอกจากนี้ พระเยซูเองทรงยืนยันว่า เรื่องราวของโยนานั้นเป็นความจริง. (มัดธาย 12:39, 40)—15/8 หน้า 32.
▫ มีความเสียหายอะไรจากการใช้เครื่องรางแบบถือโชคลาง?
การใช้เครื่องรางแบบถือโชคลางนั้นที่แท้แล้วยับยั้งผู้คนไว้จากการเผชิญหน้ากับปัญหาของตนอย่างชาญฉลาด และสนับสนุนเขาให้หมายพึ่งโชคเป็นดุจยาแก้สารพัดโรค. เครื่องรางทำให้ผู้ใช้มีความรู้สึกผิด ๆ ในเรื่องความปลอดภัย. ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น คนที่เชื่อในอำนาจของเครื่องรางของขลังอาจมอบการควบคุมชีวิตของเขาไว้กับพลังอำนาจที่ไม่ประจักษ์ของภูตผีปิศาจ.—1/9 หน้า 4.
▫ ปัจจัยสี่ประการอะไรบ้างที่สามารถช่วยให้ชีวิตสมรสยั่งยืน?
ปัจจัยเหล่านี้ได้แก่ความเต็มใจจะฟัง, ความสามารถจะกล่าวคำขอโทษ, สมรรถนะให้การเกื้อหนุน ทางอารมณ์อย่างไม่ละลด, และความปรารถนาจะสัมผัสด้วยความรักชอบ. (1 โกรินโธ 13:4-8; เอเฟโซ 5:33; ยาโกโบ 1:19)—1/9 หน้า 21.
▫ วิธีหนึ่งที่พระยะโฮวาทรงให้ความอดทนกับผู้ที่เผชิญการทดลองคืออะไร?
พระยะโฮวาทรงทำเช่นนี้โดยทางตัวอย่างความอดทนที่บันทึกไว้ในคัมภีร์ไบเบิล พระวจนะของพระองค์. (โรม 15:4) เมื่อเราพิจารณาตัวอย่างเหล่านั้น เราได้รับการสนับสนุนให้อดทน และเราเรียนรู้มากด้วยเช่นกันเกี่ยวกับวิธีที่จะอดทน.—15/9 หน้า 11.
▫ ความเลื่อมใสในพระเจ้าคืออะไร?
ความเลื่อมใสในพระเจ้าหมายถึงความเลื่อมใสต่อพระยะโฮวา ซึ่งกระตุ้นเราให้กระทำสิ่งที่พระองค์ทรงพอพระทัย แม้ในยามที่เราเผชิญการทดลองที่ยากลำบาก เนื่องจากเรารักพระเจ้าจากหัวใจ.—15/9 หน้า 15.
▫ เราควรมีทัศนะเช่นไรต่อความเมตตาของพระเจ้า?
เราไม่ควรดูเบาความเมตตายิ่งของพระเจ้า. เราควรเป็นอย่างเปาโล และแสดงความหยั่งรู้ค่าโดยต่อสู้กับความไม่สมบูรณ์ของเราเอง. (1 โกรินโธ 9:27) โดยวิธีนี้ เราจะสำแดงแม้แต่ในขณะเผชิญความยากลำบากว่า เรามีความปรารถนาอย่างแท้จริงที่จะทำสิ่งถูกต้อง.—1/10 หน้า 23.
▫ เหตุใดจึงเป็นการเหมาะสมที่เปาโลจัดความอดทนนานไว้เป็นแง่มุมแรกของความรัก?
เคยกล่าวกันว่าจะไม่มีมิตรสัมพันธ์ระหว่างคริสเตียนหากปราศจากความอดทนนาน หรือปราศจากความเพียรอดทนต่อกันและกัน. ที่เป็นเช่นนั้นเพราะเราทุกคนเป็นมนุษย์ไม่สมบูรณ์ และคนอื่นจำต้องทนความไม่สมบูรณ์และข้อบกพร่องต่าง ๆ ของเรา. ฉะนั้น ความอดทนนานจึงเป็นสิ่งจำเป็นหากจะให้มีความรักดำรงอยู่ระหว่างพี่น้อง.—15/10 หน้า 21.
▫ คริสเตียนรุ่นแรกใช้พระนามของพระเจ้าไหม?
หลักฐานแสดงว่าใช้. พระเยซูทรงสอนพวกสาวกของพระองค์ให้อธิษฐานถึงพระเจ้าว่า “ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่นับถืออันบริสุทธิ์.” (มัดธาย 6:9) และในตอนท้ายแห่งงานรับใช้ พระองค์ทูลอธิษฐานว่า “ข้าพเจ้าได้สำแดงพระนามของพระองค์แก่คนทั้งหลายที่พระองค์ทรงประทานแก่ข้าพเจ้าจากโลก.” (โยฮัน 17:6, ล.ม.) นอกจากนี้ สำเนารุ่นแรกของเซ็ปตัวจินต์ มีพระนามของพระเจ้าในรูปเททรากรัมมาทอนภาษาฮีบรู.—1/11 หน้า 30.
▫ ตัวอย่างอะไรบ้างในคัมภีร์ไบเบิลที่แสดงว่า วิธีที่เราจัดการกับความผิดพลาดของเราสามารถมีผลกระทบต่อชีวิตของเรา?
กษัตริย์ซาอูลดื้อดึงไม่เชื่อฟังคำแนะนำ และความผิดพลาดของท่านจึงทบทวีขึ้น ซึ่งในที่สุดท่านตายในฐานะไม่เป็นที่โปรดปรานของพระเจ้า. (1 ซามูเอล 15:17-29) ในทางตรงกันข้าม แม้ว่าจะผิดพลาดและกระทำบาป กษัตริย์ดาวิดยอมรับการว่ากล่าวอย่างสำนึกผิดกลับใจและรักษาความซื่อสัตย์ต่อพระยะโฮวา. ตัวอย่างเหล่านี้ในคัมภีร์ไบเบิลแสดงให้เห็นว่า การยอมรับความผิดพลาดของเราช่วยเราให้รักษาสัมพันธภาพอันดีกับพระเจ้า และดังนั้น จึงมีความหวังในชีวิตนิรันดร์. (บทเพลงสรรเสริญ 32:1-5)—15/11 หน้า 29-30.
▫ พระยะโฮวาทรงช่วยไพร่พลของพระองค์โดยวิธีใดเมื่อพวกเขาประสบความยุ่งยาก เนื่องจากภัยธรรมชาติหรือสาเหตุอื่น ๆ?
พระยะโฮวาทรงช่วย ไม่ใช่โดยการพลิกผันพลังของธรรมชาติอย่างอัศจรรย์ หรือโดยปฏิบัติการแบบเหนือธรรมชาติอื่น ๆ บางอย่าง แต่โดยพลังอีกอย่างหนึ่งซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจอย่างแท้จริง นั่นคือความรัก. ใช่แล้ว พระยะโฮวาทรงรักไพร่พลของพระองค์อย่างแท้จริง และพระองค์ได้ปลูกฝังความรักซึ่งกันและกันอย่างแรงกล้าในท่ามกลางพวกเขา จนพระองค์ทรงสามารถทำให้สิ่งที่ดูเหมือนเป็นการอัศจรรย์นั้นสัมฤทธิ์ผลสำหรับพวกเขา. (1 โยฮัน 4:10-12, 21)—1/12 หน้า 10.