ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • ห94 1/7 น. 14-17
  • เกิดอะไรขึ้นกับอำนาจ?

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • เกิดอะไรขึ้นกับอำนาจ?
  • หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 1994
  • หัวเรื่องย่อย
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • วิกฤตการณ์​ทาง​อำนาจ
  • มนุษย์​ใฝ่​หา​อำนาจ​การ​ปกครอง​ที่​ถูก​ทำนอง​คลอง​ธรรม
  • “อำนาจ​สอง​อย่าง,” “ดาบ​สอง​เล่ม”
  • ตำนาน​เกี่ยว​กับ​อำนาจ​อธิปไตย​ปวง​ชน
  • ตำนาน​ของ​อำนาจ​อธิปไตย​ของ​ชาติ
  • ความ​พยายาม​ของ​มนุษย์​ล้มเหลว
  • ทัศนะของคริสเตียนต่อผู้มีอำนาจ
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 1994
  • ความนับถือต่ออำนาจ—ทำไมจึงสำคัญ?
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 2000
  • สิทธิปกครองของพระยะโฮวาและราชอาณาจักรของพระเจ้า
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 2007
  • เหตุ​ใด​เรา​ควร​นับถือ​ผู้​มี​อำนาจ?
    “เป็นที่รักของพระเจ้าเสมอ”
ดูเพิ่มเติม
หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 1994
ห94 1/7 น. 14-17

เกิด​อะไร​ขึ้น​กับ​อำนาจ?

คน​ช่าง​คิด​เห็น​ความ​จำเป็น​ที่​จะ​ต้อง​มี​อำนาจ​การ​ปกครอง. หาก​ปราศจาก​โครง​สร้าง​บาง​อย่าง​ทาง​อำนาจ​การ​ปกครอง สังคม​มนุษย์​จะ​กลาย​เป็น​สังคม​ที่​สับสน​วุ่นวาย​อย่าง​รวด​เร็ว. ดัง​นั้น ตำรา​ที่​มี​ชื่อเสียง​เล่ม​หนึ่ง​เกี่ยว​กับ​กฎหมาย​รัฐธรรมนูญ​ของ​ฝรั่งเศส​กล่าว​ว่า “ใน​กลุ่ม​ชน​ใด​ก็​ตาม จะ​พบ​คน​อยู่​สอง​ประเภท คือ ผู้​ที่​บังคับ​บัญชา​และ​ผู้​ที่​เชื่อ​ฟัง, ผู้​ที่​สั่ง​การ​และ​ผู้​ที่​ทำ​ตาม, ผู้​นำ​และ​สมาชิก, ผู้​ที่​ปกครอง​และ​ผู้​ที่​ถูก​ปกครอง. . . . การ​มี​อำนาจ​การ​ปกครอง​สังเกต​ได้​ไม่​ว่า​ใน​สังคม​ใด​ของ​มนุษย์.”a

อย่าง​ไร​ก็​ดี เจตคติ​ต่อ​อำนาจ​การ​ปกครอง​ได้​เปลี่ยน​ไป​นับ​แต่​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่​สอง​และ​โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​นับ​แต่​ทศวรรษ​ปี 1960. สารานุกรม อูนิแวร์ซาลิส ภาษา​ฝรั่งเศส​ซึ่ง​แสดง​ความ​คิด​เห็น​เกี่ยว​กับ​ช่วง​เวลา​นั้น กล่าว​ถึง “วิกฤตกาล​ที่​มี​การ​ต่อ​ต้าน​การ​ปกครอง​ตาม​ลำดับ​ขั้น​และ​อำนาจ​การ​ปกครอง.” วิกฤตกาล​ดัง​กล่าว​ไม่​ได้​เป็น​สิ่ง​ที่​ยัง​ความ​ประหลาด​ใจ​มา​สู่​นัก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล. อัครสาวก​เปาโล​บอก​ล่วง​หน้า​ว่า “ท่าน​จง​รู้​ข้อ​ความ​นี้, คือ​ว่า​ใน​คราว​ที่​สุด​นั้น​จะ​บังเกิด​กลี​ยุค. เหตุ​ว่า​คน​จะ​เป็น​คน​รัก​ตัว​เอง, เป็น​คน​เห็น​แก่​เงิน, เป็น​คน​อวด​ตัว, เป็น​คน​จองหอง, เป็น​คน​หลู่​เกียรติยศ​ของ​พระเจ้า, เป็น​คน​ไม่​เชื่อ​ฟัง​คำ​บิดา​มารดา, . . . เป็น​คน​ไม่​รัก​ซึ่ง​กัน​และ​กัน, . . . เป็น​คน​ไม่​มี​สติ​รั้ง​ใจ, เป็น​คน​ดุ​ร้าย, . . . เป็น​คน​หัวสูง, เป็น​คน​รัก​การ​สนุกสนาน​มาก​กว่า​รัก​พระเจ้า.”—2 ติโมเธียว 3:1-4.

วิกฤตการณ์​ทาง​อำนาจ

คำ​พยากรณ์​นี้​พรรณนา​เป็น​อย่าง​ดี​ถึง​สมัย​และ​ยุค​ของ​เรา. อำนาจ​ถูก​ท้าทาย​ใน​ทุก​ระดับ—ไม่​ว่า​จะ​เป็น​ครอบครัว, โรง​เรียน, มหาวิทยาลัย, ธุรกิจ, การ​ปกครอง​ใน​ท้องถิ่น​และ​ระดับ​ประเทศ. การ​ปฏิวัติ​ทาง​เพศ, ดนตรี​แรป​ที่​บรรยาย​การ​ผิด​ศีลธรรม​อย่าง​โจ่งแจ้ง, การ​เดิน​ขบวน​ของ​นัก​ศึกษา, การ​นัด​หยุด​งาน​ที่​ไม่​ได้​รับ​ความ​เห็น​ชอบ​จาก​สหภาพ​แรงงาน, การ​ขัด​ขืน​อย่าง​สงบ, และ​การ​กระทำ​ต่าง ๆ ของ​ลัทธิ​ก่อ​การ​ร้าย​ล้วน​แต่​เป็น​สัญลักษณ์​ของ​ความ​เสื่อม​ลง​ของ​การ​นับถือ​อำนาจ.

ณ การ​สัมมนา​ซึ่ง​จัด​ใน​กรุง​ปารีส โดย​สถาบัน​รัฐศาสตร์​แห่ง​ฝรั่งเศส​ร่วม​กับ​เลอ มองด์ หนังสือ​พิมพ์​ราย​วัน​ใน​กรุง​ปารีส ศาสตราจารย์​อีฟว์ เมนี กล่าว​ว่า “อำนาจ​จะ​อยู่​ได้​ก็​ต่อ​เมื่อ​มี​ความ​ถูก​ต้อง​ตาม​ทำนอง​คลอง​ธรรม​หนุน​หลัง​เท่า​นั้น.” เหตุ​ผล​หนึ่ง​ที่​มี​วิกฤตการณ์​ทาง​อำนาจ​ใน​ทุก​วัน​นี้​ก็​คือ หลาย​คน​สงสัย​ใน​ความ​ถูก​ต้อง​ตาม​ทำนอง​คลอง​ธรรม​ของ​ผู้​ที่​มี​อำนาจ. นั่น​คือ พวก​เขา​สงสัย​ใน​สิทธิ​ของ​เขา​ที่​จะ​มี​อำนาจ. การ​หยั่ง​เสียง​มหาชน​เผย​ว่า ต้น​ทศวรรษ​ปี 1980 ประชากร​ใน​สหรัฐ 9 เปอร์เซ็นต์, ใน​ออสเตรเลีย 10 เปอร์เซ็นต์, ใน​อังกฤษ 24 เปอร์เซ็นต์, ใน​ฝรั่งเศส 26 เปอร์เซ็นต์, และ​ใน​อินเดีย 41 เปอร์เซ็นต์​ถือ​ว่า​รัฐบาล​ของ​ตน​ไม่​ได้​เป็น​รัฐบาล​ที่​ถูก​ทำนอง​คลอง​ธรรม.

มนุษย์​ใฝ่​หา​อำนาจ​การ​ปกครอง​ที่​ถูก​ทำนอง​คลอง​ธรรม

ตาม​คัมภีร์​ไบเบิล ใน​ตอน​แรก​เริ่ม มนุษย์​อยู่​ใต้​อำนาจ​การ​ปกครอง​ของ​พระเจ้า​โดย​ตรง. (เยเนซิศ 1:27, 28; 2:16, 17) อย่าง​ไร​ก็​ตาม ต่อ​มา​ไม่​นาน มนุษย์​เรียก​ร้อง​อิสรภาพ​ทาง​ศีลธรรม​จาก​พระ​ผู้​สร้าง​ของ​ตน. (เยเนซิศ 3:1-6) เนื่อง​จาก​ได้​ปฏิเสธ​ระบอบ​ของ​พระเจ้า​หรือ​การ​ครอบครอง​ของ​พระเจ้า พวก​เขา​จึง​ต้อง​หา​ระบบ​การ​ปกครอง​อื่น ๆ. (ท่าน​ผู้​ประกาศ 8:9) บาง​คน​ยึด​อำนาจ​การ​ปกครอง​โดย​ใช้​กำลัง. สำหรับ​พวก​เขา กำลัง​คือ​สิทธิ. การ​มี​กำลัง​ก็​เพียง​พอ​แล้ว​ที่​จะ​บังคับ​ให้​เป็น​ไป​ตาม​เจตจำนง​ของ​ตน. ถึง​กระนั้น คน​ส่วน​ใหญ่​รู้สึก​ถึง​ความ​จำเป็น​ที่​จะ​ทำ​ให้​สิทธิ​ใน​การ​ครอบครอง​นั้น​ถูก​ทำนอง​คลอง​ธรรม.

ตั้ง​แต่​ยุค​แรก ๆ ผู้​ครอบครอง​เป็น​จำนวน​มาก​กระทำ​เช่น​นี้ โดย​บอก​ว่า​ตน​เป็น​พระเจ้า หรือ​ไม่​ก็​ได้​รับ​อำนาจ​จาก​เทพเจ้า​ทั้ง​หลาย. นี่​เป็น​แนว​คิด​เกี่ยว​กับ “ตำแหน่ง​กษัตริย์​อัน​ศักดิ์สิทธิ์” ตาม​ตำนาน ที่​ผู้​ครอบครอง​สมัยแรก ๆ แห่ง​เมโสโปเตเมีย​และ​พวก​ฟาโรห์​แห่ง​อียิปต์​โบราณ​กล่าว​อ้าง.

อะเล็กซานเดอร์​มหาราช, กษัตริย์​กรีก​ซึ่ง​สืบ​ตำแหน่ง​ต่อ​มา, และ​จักรพรรดิ​โรมัน​หลาย​องค์​ก็​อ้าง​ว่า​เป็น​พระเจ้า​และ​ถึง​กับ​เรียก​ร้อง​การ​นมัสการ. ระบบ​ต่าง ๆ ภาย​ใต้​ผู้​ครอบครอง​เหล่า​นั้น​จึง​เป็น​ที่​รู้​จัก​กัน​ว่า “การ​บูชา​ผู้​ครอบครอง” และ​จุด​ประสงค์​ก็​เพื่อ​ทำ​ให้​อำนาจ​ของ​ผู้​ครอบครอง​เหนือ​ชน​ชาติ​ต่าง ๆ ที่​ถูก​ครอบครอง​นั้น​ให้​มั่นคง​ขึ้น. การ​ปฏิเสธ​ไม่​ยอม​นมัสการ​ผู้​ครอบครอง​ถือ​เป็น​การ​กระทำ​ที่​ต่อ​ต้าน​รัฐ. ใน​หนังสือ​มรดก​ของ​โรม (ภาษา​อังกฤษ) ศาสตราจารย์​เออร์เนสต์ บาร์เคอร์ เขียน​ว่า “การ​ยกย่อง​จักรพรรดิ [แห่ง​โรมัน] เป็น​พระเจ้า​และ​ความ​จงรักภักดี​ที่​เขา​ได้​รับ​เนื่อง​จาก​ความ​เป็น​พระเจ้า​ของ​เขา​นั้น​เห็น​ได้​ชัด​ว่า​เป็น​รากฐาน หรือ​อย่าง​น้อย​ที่​สุด ก็​เป็น​เครื่อง​เชื่อม​จักรวรรดิ​เข้า​ด้วย​กัน.”

สิ่ง​นี้​ยัง​คง​เป็น​จริง​แม้​แต่​หลัง​จาก​ที่​จักรพรรดิ​คอนสแตนติน (ครอง​ราชย์​ปี​สากล​ศักราช 306-337) ทำ​ให้ “ศาสนา​คริสเตียน” ถูก​ต้อง​ตาม​กฎหมาย และ​ต่อ​มา​จักรพรรดิ​ทีโอโดซิอุส​ที่​หนึ่ง (ครอง​ราชย์​ปี​สากล​ศักราช 379-395) รับ​เอา​มา​เป็น​ศาสนา​ของ​รัฐ​แห่ง​จักรวรรดิ​โรมัน. จักรพรรดิ​ที่​เป็น “คริสเตียน” บาง​องค์​ได้​รับ​การ​นมัสการ​เยี่ยง​พระเจ้า​จน​กระทั่ง​ถึง​ศตวรรษ​ที่​ห้า​สากล​ศักราช​ที​เดียว.

“อำนาจ​สอง​อย่าง,” “ดาบ​สอง​เล่ม”

เมื่อ​ตำแหน่ง​ของ​โป๊ป​เริ่ม​มี​อำนาจ​มาก​ขึ้น ปัญหา​ระหว่าง​คริสตจักร​กับ​รัฐ​เริ่ม​รุนแรง​ขึ้น. ด้วย​เหตุ​นี้ ตอน​ปลาย​ศตวรรษ​ที่​ห้า​สากล​ศักราช โป๊ป​เกลาซิอุส​ที่​หนึ่ง​ได้​ตั้ง​หลักการ​เกี่ยว​กับ “อำนาจ​สอง​อย่าง” คือ อำนาจ​อัน​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​โป๊ป​ควบ​คู่​กับ​ราชอำนาจ​ของ​กษัตริย์—โดย​มี​กษัตริย์​อยู่​ภาย​ใต้​อำนาจ​ของ​โป๊ป. หลักการ​นี้​ต่อ​มา​ได้​พัฒนา​เป็น​หลัก​เกี่ยว​กับ “ดาบ​สอง​เล่ม” นั่น​คือ “ดาบ​ของ​ทาง​ศาสนจักร​ซึ่ง​โป๊ป​เป็น​ผู้​ถือ​และ​ใช้​เอง โดย​มอบ​ดาบ​ทาง​อาณาจักร​ให้​แก่​ผู้​ครอบครอง แต่​ฝ่าย​หลัง​ต้อง​ใช้​ดาบ​ทาง​อาณาจักร​ตาม​การ​ชี้​นำ​ของ​โป๊ป.” (สารานุกรม นิว บริแทนนิกา) โดย​อาศัย​หลัก​นี้​เป็น​เกณฑ์ ใน​ระหว่าง​ยุค​กลาง คริสตจักร​คาทอลิก​อ้าง​สิทธิ​ที่​จะ​แต่ง​ตั้ง​จักรพรรดิ​และ​กษัตริย์ เพื่อ​ทำ​ให้​อำนาจ​การ​ปกครอง​นั้น​ถูก​ทำนอง​คลอง​ธรรม และ​โดย​วิธี​นี้​จึง​ทำ​ให้​ตำนาน​โบราณ​เกี่ยว​กับ “ตำแหน่ง​กษัตริย์​อัน​ศักดิ์สิทธิ์” คง​อยู่​ต่อ​ไป.

อย่าง​ไร​ก็​ตาม ไม่​ควร​เอา​เรื่อง​นี้​มา​ปนเป​กับ​สิ่ง​ที่​เรียก​กัน​ว่า​สิทธิ​ซึ่ง​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ประทาน​ให้​แก่​พวก​กษัตริย์ ซึ่ง​เป็น​พัฒนาการ​ขั้น​ต่อ​มา​ที่​มุ่ง​จะ​ปลด​ปล่อย​ผู้​ครอบครอง​ทาง​การ​เมือง​จาก​การ​อยู่​ใต้​อำนาจ​ของ​โป๊ป. ทฤษฎี​เกี่ยว​กับ​สิทธิ​ซึ่ง​มา​จาก​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​นั้น​ถือ​ว่า กษัตริย์​ได้​อำนาจ​ปกครอง​โดย​ตรง​จาก​พระเจ้า ไม่​ใช่​โดย​ผ่าน​ทาง​โป๊ป​ใน​กรุง​โรม. สารานุกรม นิว คาทอลิก แถลง​ว่า “ใน​สมัย​เมื่อ​โป๊ป​ใช้​อำนาจ​ทาง​ศาสนจักร​และ​แม้​แต่​ทาง​อาณาจักร​ไป​ทั่ว​เหนือ​ผู้​ครอง​รัฐ​ต่าง ๆ ความ​คิด​ใน​เรื่อง​สิทธิ​ที่​มา​จาก​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ทำ​ให้​กษัตริย์​ของ​รัฐ​ต่าง ๆ อยู่​ใน​ตำแหน่ง​ที่​จะ​พิสูจน์​ให้​เห็น​ว่า​อำนาจ​ของ​ตน​ก็​มา​จาก​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​เช่น​เดียว​กับ​อำนาจ​ของ​โป๊ป.”b

ตำนาน​เกี่ยว​กับ​อำนาจ​อธิปไตย​ปวง​ชน

เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป ผู้​คน​เสนอ​แหล่ง​อื่น ๆ ของ​อำนาจ​การ​ปกครอง. แหล่ง​หนึ่ง​ก็​คือ​อำนาจ​อธิปไตย​ของ​ประชาชน. หลาย​คน​เชื่อ​ว่า ความ​คิด​นี้​มี​จุด​เริ่ม​ต้น​มา​จาก​กรีซ. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ประชาธิปไตย​แบบ​กรีก​โบราณ​มี​การ​ปฏิบัติ​ใน​นครรัฐ​เพียง​ไม่​กี่​แห่ง และ​แม้​แต่​ใน​นครรัฐ​เหล่า​นี้ มี​เพียง​พลเมือง​ที่​เป็น​ผู้​ชาย​เท่า​นั้น​ที่​มี​สิทธิ​ออก​เสียง. ผู้​หญิง, ทาส, และ​ผู้​อยู่​อาศัย​ที่​เป็น​ชน​ต่าง​ชาติ—ซึ่ง​ประมาณ​กัน​ว่า​มี​ครึ่ง​หนึ่ง​ถึง​สี่​ใน​ห้า​ของ​ประชากร—ถูก​ตัด​ออก​ไป. แทบ​จะ​เรียก​ได้​ว่า​ไม่​ใช่​อำนาจ​อธิปไตย​ปวง​ชน!

ใคร​ส่ง​เสริม​ความ​คิด​เกี่ยว​กับ​อำนาจ​อธิปไตย​ของ​ประชาชน? คง​จะ​แปลก​ใจ​ที่​ความ​คิด​นี้​ถูก​นำ​เข้า​มา​ใน​ยุค​กลาง​โดย​นัก​เทววิทยา​โรมัน​คาทอลิก. ใน​ศตวรรษ​ที่ 13 โทมัส อะควินัส ถือ​ว่า ขณะ​ที่​อำนาจ​อธิปไตย​มา​จาก​พระเจ้า แต่​อำนาจ​นั้น​ก็​มอบ​ให้​แก่​ประชาชน. ความ​คิด​นี้​ปรากฏ​ว่า​เป็น​ที่​เห็น​ชอบ​กัน​ทั่ว​ไป. สารานุกรม นิว คาทอลิก บอก​ว่า “ความ​คิด​ที่​ว่า​ประชาชน​เป็น​แหล่ง​ที่​มา​ของ​อำนาจ​การ​ปกครอง​นั้น​ได้​รับ​การ​สนับสนุน​จาก​นัก​เทววิทยา​คาทอลิก​ใน​ศตวรรษ​ที่ 17 เป็น​จำนวน​มาก.”

เหตุ​ใด​นัก​เทววิทยา​ของ​คริสตจักร​ซึ่ง​ประชาชน​ไม่​มี​สิทธิ​มี​เสียง​เลย​ใน​การ​เลือก​โป๊ป, บิชอป, หรือ​บาทหลวง​จึง​สนับสนุน​ความ​คิด​เกี่ยว​กับ​อำนาจ​อธิปไตย​ของ​ประชาชน? ทั้ง​นี้​เพราะ​กษัตริย์​ใน​ยุโรป​บาง​องค์​ร้อน​ใจ​มาก​ขึ้น​ทุก​ที​ที่​ต้อง​อยู่​ใต้​อำนาจ​ของ​โป๊ป. ทฤษฎี​เกี่ยว​กับ​อำนาจ​อธิปไตย​ของ​ประชาชน​ให้​โป๊ป​มี​อำนาจ​ที่​จะ​โค่น​ล้ม​จักรพรรดิ​หรือ​กษัตริย์​หาก​เห็น​ว่า​จำเป็น. นัก​ประวัติศาสตร์​วิลล์ กับ​แอเรียล ดูรันต์ เขียน​ว่า “ผู้​ปก​ป้อง​อำนาจ​อธิปไตย​ปวง​ชน​นั้น​รวม​ทั้ง​พวก​เยซูอิต​หลาย​คน ซึ่ง​เห็น​ว่า​ทัศนะ​นั้น​เป็น​วิธี​ที่​จะ​ทอน​อำนาจ​ของ​กษัตริย์​ที่​ต่อ​ต้าน​อำนาจ​ของ​โป๊ป. คาร์ดินัล เบล​ลาร์​มีน แย้ง​ว่า หาก​อำนาจ​การ​ปกครอง​ของ​กษัตริย์​มา​จาก​ประชาชน และ​ด้วย​เหตุ​นี้​จึง​ขึ้น​อยู่​กับ​ประชาชน จึง​เห็น​ได้​ชัด​ว่า​เป็น​อำนาจ​ที่​อยู่​ต่ำ​กว่า​อำนาจ​ของ​โป๊ป . . . ลูอิส โมลินา เยซูอิต​ชาว​สเปน ลง​ความ​เห็น​ว่า ประชาชน​ใน​ฐานะ​แหล่ง​ที่​มา​ของ​อำนาจ​ทาง​อาณาจักร​อาจ​ถอด​กษัตริย์​ที่​ไร้​ความ​ยุติธรรม​อย่าง​สม​เหตุ​ผล—แต่​โดย​มี​ขั้น​ตอน​ที่​เป็น​ระเบียบ.”

แน่นอน “ขั้น​ตอน​ที่​เป็น​ระเบียบ” จะ​จัด​โดย​โป๊ป. ใน​การ​ยืน​ยัน​เรื่อง​นี้ หนังสือ​ประวัติศาสตร์​สากล​ของ​คริสตจักร​คาทอลิก (ภาษา​ฝรั่งเศส) ยก​ข้อ​ความ​จาก​หนังสือ​ชีวประวัติ​สากล (ภาษา​ฝรั่งเศส) ซึ่ง​แถลง​ว่า “เบล​ลาร์​มีน . . . สอน​ใน​ฐานะ​หลัก​ทั่ว​ไป​ของ​คาทอลิก​ว่า ผู้​ครอง​นคร​ได้​รับ​อำนาจ​จาก​การ​เลือก​ของ​ประชาชน และ​ประชาชน​สามารถ​ใช้​สิทธิ​นี้​ภาย​ใต้​อำนาจ​ของ​โป๊ป​เท่า​นั้น.” (ตัว​เอน​เป็น​ของ​เรา.) ด้วย​วิธี​นี้ อำนาจ​อธิปไตย​ปวง​ชน​จึง​กลาย​เป็น​เครื่อง​มือ​อย่าง​หนึ่ง​ที่​โป๊ป​สามารถ​ใช้​เพื่อ​มี​อิทธิพล​ต่อ​การ​เลือก​ผู้​ครอบครอง และ​หาก​จำเป็น ก็​ให้​มี​การ​ถอด​ผู้​ครอบครอง​นั้น​ออก​จาก​ตำแหน่ง. ใน​สมัย​หลัง ๆ มา​นี้ อำนาจ​อธิปไตย​ปวง​ชน​เปิด​โอกาส​ให้​พวก​บาทหลวง​ใน​นิกาย​คาทอลิก​โน้ม​น้าว​ใจ​ชาว​คาทอลิก​ที่​มี​สิทธิ​ออก​เสียง​ใน​ระบอบ​ประชาธิปไตย​ที่​มี​การ​เลือก​ผู้​แทน.

ใน​ระบอบ​ประชาธิปไตย​สมัย​ใหม่ การ​ที่​รัฐบาล​ถูก​ทำนอง​คลอง​ธรรม​นั้น​อาศัย​สิ่ง​ที่​เรียก​ว่า “ความ​ยินยอม​ของ​ผู้​ที่​ถูก​ปกครอง” เป็น​หลัก. กระนั้น อย่าง​ดี​ก็​เป็น “ความ​ยินยอม​ของ​เสียง​ข้าง​มาก” และ​เนื่อง​จาก​ความ​ไม่​แยแส​ของ​ผู้​มี​สิทธิ์​ออก​เสียง​และ​เล่ห์​เหลี่ยม​ทาง​การ​เมือง ตาม​ความ​เป็น​จริง​แล้ว “เสียง​ข้าง​มาก” นี้​จึง​มัก​เป็น​เพียง​ชน​ส่วน​น้อย​ของ​ประชากร. ทุก​วัน​นี้ “ความ​ยินยอม​ของ​ผู้​ที่​ถูก​ปกครอง” จึง​มัก​มี​ความ​หมาย​ไม่​ต่าง​กัน​กับ “การ​จำ​ยอม​หรือ​การ​สละ​สิทธิ์​ของ​ผู้​ที่​ถูก​ปกครอง.”

ตำนาน​ของ​อำนาจ​อธิปไตย​ของ​ชาติ

ตำนาน​ของ​ตำแหน่ง​กษัตริย์​อัน​ศักดิ์สิทธิ์​ซึ่ง​โป๊ป​ใน​สมัย​แรก ๆ ส่ง​เสริม​นั้น​ส่ง​ผล​สะท้อน​กลับ​มา​ที่​ตำแหน่ง​ของ​โป๊ป เมื่อ​ตำนาน​นั้น​เปลี่ยน​เป็น​สิทธิ​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ประทาน​ให้​กษัตริย์. ทฤษฎี​เกี่ยว​กับ​อำนาจ​อธิปไตย​ปวง​ชน​ก็​ส่ง​ผล​กลับ​มา​ที่​คริสตจักร​คาทอลิก​ใน​ทำนอง​คล้ายคลึง​กัน. ระหว่าง​ศตวรรษ​ที่ 17 และ 18 นัก​ปรัชญา​ทาง​โลก เช่น โทมัส ฮอบส์ กับ จอห์น ล็อก ชาว​อังกฤษ​และ​ชอน-ชาก รูสโซ ชาว​ฝรั่งเศส ครุ่น​คิด​เรื่อง​ความ​คิด​เห็น​เกี่ยว​กับ​อำนาจ​อธิปไตย​ปวง​ชน. พวก​เขา​คิด​ค้น​ทฤษฎี​หลาย​อย่าง​เกี่ยว​กับ “สัญญา​สังคม” ระหว่าง​ผู้​ที่​ครอบครอง​กับ​ผู้​ที่​ถูก​ครอบครอง. หลักการ​ของ​พวก​เขา​ไม่​ได้​อาศัย​เทววิทยา แต่​อาศัย “กฎ​ธรรมชาติ” และ​แนว​คิดนั้น​ลงเอย​ด้วย​ความ​คิด​ที่​ทำ​ความ​เสียหาย​ร้ายแรง​แก่​คริสตจักร​คาทอลิก​และ​ตำแหน่ง​ของ​โป๊ป.

ไม่​นาน​หลัง​จาก​การ​เสีย​ชีวิต​ของ​รูสโซ ก็​เกิด​การ​ปฏิวัติ​ฝรั่งเศส. การ​ปฏิวัติ​นี้​ทำ​ให้​ความ​คิด​บาง​อย่าง​ของ​ความ​ถูก​ต้อง​ตาม​ทำนอง​คลอง​ธรรม​พัง​ทลาย แต่​ก่อ​ให้​เกิด​ความ​คิด​ใหม่​ขึ้น ซึ่ง​เป็น​ความ​คิด​เกี่ยว​กับ​อำนาจ​อธิปไตย​ของ​ชาติ. สารานุกรม นิว บริแทนนิกา แสดง​ความ​คิด​เห็น​ว่า “ชาว​ฝรั่งเศส​ปฏิเสธ​ความ​คิด​ว่า​ด้วย​สิทธิ​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ประทาน​ให้​กษัตริย์, การ​มี​อำนาจ​ของ​ชน​ชั้น​ขุนนาง, เอก​สิทธิ์​ของ​คริสตจักร​โรมัน​คาทอลิก.” แต่​สารานุกรม บริแทนนิกา กล่าว​ว่า “การ​ปฏิวัติ​ได้​นำ​มา​ซึ่ง​ประดิษฐกรรม​ใหม่ นั่น​คือ รัฐ​ประชาชาติ.” ผู้​ที่​ทำ​การ​ปฏิวัติ​จำ​ต้อง​มี “ประดิษฐกรรม” ใหม่​นี้. เพราะ​เหตุ​ใด?

เพราะ​ภาย​ใต้​ระบบ​ที่​รูสโซ​สนับสนุน พลเรือน​ทั้ง​หมด​จะ​มี​สิทธิ​เสมอ​ภาค​ใน​การ​เลือก​ผู้​ที่​จะ​ทำ​การ​ปกครอง. สิ่ง​นี้​น่า​จะ​ก่อ​ให้​เกิด​ประชาธิปไตย​ซึ่ง​อาศัย​การ​ให้​สิทธิ​เลือก​ตั้ง​ทั่ว​ไป—อะไร​บาง​อย่าง​ที่​ผู้​นำ​การ​ปฏิวัติ​ฝรั่งเศส​ไม่​ชอบ. ศาสตราจารย์​ดูแวร์เช อธิบาย​ว่า “เพื่อ​หลีก​เลี่ยง​ผล​อัน​นี้​ซึ่ง​ถือ​ว่า​ไม่​พึง​ปรารถนา ตั้ง​แต่​ปี 1789 ถึง 1791 ชน​ชั้น​กลาง​ที่​อยู่​ใน​สภา​ร่าง​รัฐธรรมนูญ​จึง​คิด​ค้น​ทฤษฎี​เกี่ยว​กับ​อำนาจ​อธิปไตย​ของ​ชาติ. พวก​เขา​ถือ​ว่า​ประชาชน​เป็น ‘ชาติ’ ซึ่ง​พวก​เขา​ถือ​ว่า​เป็น​ตัว​ตน​จริง ซึ่ง​ต่าง​หาก​จาก​ประชาชน​ของ​ชาติ. เฉพาะ​ชาติ โดย​ทาง​ผู้​แทน มี​สิทธิ​ใช้​อำนาจ​อธิปไตย . . . ทั้ง ๆ ที่​ดู​เหมือน​เป็น​ประชาธิปไตย หลัก​ของ​อำนาจ​อธิปไตย​ของ​ชาติ​นั้น​ไม่​ได้​เป็น​ประชาธิปไตย​อย่าง​แท้​จริง​เลย เพราะ​หลัก​นี้​สามารถ​ใช้​อ้าง​เหตุ​ผล​สนับสนุน​รูป​ของ​รัฐบาล​แบบ​ใด​ก็​ได้​ใน​ทาง​ปฏิบัติ โดย​เฉพาะ​อัตตาธิปไตย.” (ตัว​เอน​เป็น​ของ​เขา.)

ความ​พยายาม​ของ​มนุษย์​ล้มเหลว

การ​ยอม​รับ​รัฐ​ประชาชาติ​ใน​ฐานะ​แหล่ง​อำนาจ​การ​ปกครอง​ที่​ถูก​ทำนอง​คลอง​ธรรม​นั้น​นำ​ไป​สู่​ลัทธิ​ชาติ​นิยม. สารานุกรม นิว บริแทนนิกา แถลง​ว่า “มัก​คิด​กัน​ว่า ลัทธิ​ชาติ​นิยม​เก่า​แก่​มาก บาง​ครั้ง​มี​การ​ถือ​อย่าง​ผิด ๆ ว่า ลัทธิ​ชาติ​นิยม​เป็น​ปัจจัย​ถาวร​อย่าง​หนึ่ง​ใน​พฤติกรรม​ทาง​การ​เมือง. ที่​จริง การ​ปฏิวัติ​ใน​อเมริกา​และ​ฝรั่งเศส​อาจ​ถือ​ว่า​เป็น​การ​แสดง​ให้​เห็น​เป็น​ครั้ง​แรก​ถึง​พลัง​อำนาจ​ของ​ลัทธิ​ชาติ​นิยม.” นับ​แต่​ที่​มี​การ​ปฏิวัติ​เหล่า​นั้น ลัทธิ​ชาติ​นิยม​ได้​ลุก​ลาม​ไป​ทั่ว​ทวีป​อเมริกา​ทั้ง​เหนือ​และ​ใต้, ยุโรป, แอฟริกา, และ​เอเชีย. สงคราม​ที่​ชั่ว​ร้าย​เคย​ถือ​กัน​ว่า​ถูก​ทำนอง​คลอง​ธรรม​ใน​นาม​ของ​ลัทธิ​ชาติ​นิยม.

นัก​ประวัติศาสตร์​ชาว​อังกฤษ อาร์โนลด์ ทอยน์บี เขียน​ว่า “น้ำใจ​รัก​ชาติ​เป็น​ดุจ​เชื้อ​หมัก​ของ​เหล้า​องุ่น​ใหม่​แห่ง​ประชาธิปไตย​ใน​ขวด​เก่า​แห่ง​การ​ถือ​เผ่า. . . . การ​ประนีประนอม​อัน​แปลก​ประหลาด​ระหว่าง​ประชาธิปไตย​กับ​การ​ถือ​เผ่า​มี​พลัง​ใน​เชิง​ปฏิบัติ​ทาง​การ​เมือง​ของ​โลก​ตะวัน​ตก​สมัย​ใหม่​ของ​เรา มาก​ยิ่ง​กว่า​ตัว​ประชาธิปไตย​เอง​เสีย​อีก.” ลัทธิ​ชาติ​นิยม​ไม่​ได้​สร้าง​โลก​ที่​สงบ​สุข. ทอยน์บี​กล่าว​ว่า “หลัง​จาก​สงคราม​ศาสนา​ก็​มี​สงคราม​เชื้อชาติ และ​ใน​โลก​ตะวัน​ตก​สมัย​ใหม่​ของ​เรา น้ำใจ​ที่​บ้า​คลั่ง​ทาง​ศาสนา​และ​น้ำใจ​ที่​บ้า​คลั่ง​ทาง​เชื้อชาติ​เป็น​ความ​รู้สึก​รุนแรง​อัน​ชั่ว​ร้าย​อย่าง​เดียว​กัน​อย่าง​เห็น​ได้​ชัด.”

โดย​ทาง​ตำนาน​ของ “ตำแหน่ง​กษัตริย์​อัน​ศักดิ์สิทธิ์,” “สิทธิ​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ประทาน​ให้​กษัตริย์,” “อำนาจ​อธิปไตย​ปวง​ชน,” และ “อำนาจ​อธิปไตย​ของ​ชาติ” ผู้​ครอบครอง​ได้​เพียร​พยายาม​ที่​จะ​ทำ​ให้​อำนาจ​การ​ปกครอง​ของ​ตน​เหนือ​เพื่อน​มนุษย์​นั้น​ถูก​ทำนอง​คลอง​ธรรม. อย่าง​ไร​ก็​ตาม หลัง​จาก​พิจารณา​ประวัติ​ของ​ผู้​ครอบครอง​ที่​เป็น​มนุษย์ คริสเตียน​มี​ความ​คิด​เช่น​เดียว​กับ​ที่​ซะโลโม​กล่าว​ว่า “มนุษย์​มี​อำนาจ​เหนือ​มนุษย์​ด้วย​กัน​เป็น​ผล​เสียหาย​แก่​เขา.”—ท่าน​ผู้​ประกาศ 8:9, ล.ม.

แทน​ที่​จะ​นมัสการ​รัฐ​ทาง​การ​เมือง คริสเตียน​นมัสการ​พระเจ้า​และ​ยอม​รับ​แหล่ง​ที่​มา​ของ​อำนาจ​การ​ปกครอง​ทั้ง​สิ้น​ซึ่ง​ถูก​ทำนอง​คลอง​ธรรม​ว่า​มี​อยู่​ใน​พระองค์. พวก​เขา​เห็น​ด้วย​กับ​ดาวิด​ผู้​ประพันธ์​บทเพลง​สรรเสริญ​ซึ่ง​กล่าว​ว่า “ข้า​แต่​พระ​ยะโฮวา, ยศ​ศักดิ์, อำนาจ, รัศมี, ความ​ชัย​ชนะ, และ​เดชานุภาพ: คง​มี​แก่​พระองค์, เพราะ​สรรพสิ่ง​ใน​สวรรค์​ก็​ดี, ที่​พิภพ​โลก​ก็​ดี, เป็น​ของ​พระองค์; ข้า​แต่​พระ​ยะโฮวา, ราชสมบัติ​สิทธิ์​ขาด​แก่​พระองค์, พระองค์​ทรง​สถิต​อยู่​เหนือ​สิ่ง​สารพัด.” (1 โครนิกา 29:11) กระนั้น ด้วย​การ​เชื่อ​ฟัง​พระเจ้า พวก​เขา​แสดง​ความ​เคารพ​นับถือ​อย่าง​เหมาะ​สม​ต่อ​อำนาจ​การ​ปกครอง​ทั้ง​ใน​ด้าน​อาณาจักร​และ​ศาสนจักร. พวก​เขา​สามารถ​ทำ​เช่น​นี้​ด้วย​ความ​ปีติ​ยินดี​ได้​อย่าง​ไร​และ​ด้วย​เหตุ​ผล​อะไร​นั้น​จะ​พิจารณา​กัน​ใน​สอง​บทความ​ถัด​ไป.

[เชิงอรรถ]

a กฎหมาย​รัฐธรรมนูญ​และ​สถาบัน​ทาง​การ​เมือง (ภาษา​ฝรั่งเศส) โดย​มอริส ดู​แวร์​เช.

b สารานุกรม​คาทอลิก แถลง​ว่า “ความ​คิด​เรื่อง ‘สิทธิ​ซึ่ง​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ประทาน​ให้​แก่​พวก​กษัตริย์’ นี้ (แตกต่าง​กัน​มาก​จาก​หลัก​ที่​ว่า อำนาจ​ทุก​อย่าง​ไม่​ว่า​ของ​กษัตริย์​หรือ​ของ​สาธารณรัฐ​มา​จาก​พระเจ้า) ไม่​เคย​ได้​รับ​การ​เห็น​ชอบ​จาก​คริสตจักร​คาทอลิก. ใน​คราว​การ​ปฏิรูป ความ​คิด​นั้น​รับ​เอา​รูป​แบบ​หนึ่ง​ซึ่ง​เป็น​ปฏิปักษ์​กับ​คริสตจักร​คาทอลิก​มาก กษัตริย์​อย่าง​เฮนรี​ที่​แปด​และ​เจมส์​ที่​หนึ่ง​แห่ง​อังกฤษ​อ้าง​อำนาจ​เต็ม​ที่​ทาง​ศาสนจักร​และ​ทาง​บ้าน​เมือง​ด้วย.”

[รูปภาพ​หน้า 15]

คริสตจักร​คาทอลิก​ได้​อ้าง​ว่า​มี​อำนาจ​ที่​จะ​แต่ง​ตั้ง​จักรพรรดิ​และ​กษัตริย์

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

Consecration of Charlemagne: Bibliothèque Nationale, Paris

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์