ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • ห94 1/8 น. 15-20
  • จงพัฒนาความมีเหตุผล

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • จงพัฒนาความมีเหตุผล
  • หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 1994
  • หัวเรื่องย่อย
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • “พร้อม​จะ​ให้​อภัย”
  • การ​ปรับ​ตัว​เมื่อ​เผชิญ​กับ​สภาพการณ์​ที่​แปร​เปลี่ยน​ไป
  • ความ​มี​เหตุ​ผล​ใน​การ​ใช้​อำนาจ
  • เลียน​แบบ​พระ​ยะโฮวา​เรื่อง​การ​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา (ศึกษา) 2023
  • พระยะโฮวาทรงบริบูรณ์ด้วยเหตุผล!
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 1994
  • จงเห็นค่าความเอื้อเฟื้อและความมีเหตุผลของพระยะโฮวา
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 2013
  • “พระ​ยะโฮวา​มี​สติ​ปัญญา” แต่​ก็​ถ่อม
    เข้า​ไป​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา
ดูเพิ่มเติม
หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 1994
ห94 1/8 น. 15-20

จง​พัฒนา​ความ​มี​เหตุ​ผล

“จง​ให้​ความ​มี​เหตุ​ผล​ของ​ท่าน​ปรากฏ​แก่​คน​ทั้ง​ปวง. องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​อยู่​ใกล้.”—ฟิลิปปอย 4:5, ล.ม.

1. เหตุ​ใด​จึง​เป็น​การ​ท้าทาย​ที่​จะ​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล​ใน​โลก​สมัย​ปัจจุบัน?

“คน​มี​เหตุ​ผล”—เซอร์ อะลัน แพต​ริก เฮอร์เบิร์ต​นัก​หนังสือ​พิมพ์​ชาว​อังกฤษ​ได้​เรียก​เขา​ว่า​เป็น​บุคคล​ใน​เทพนิยาย. ที่​จริง​แล้ว บาง​ครั้ง​อาจ​ดู​เหมือน​ว่า คน​มี​เหตุ​ผล​ไม่​มี​เหลือ​อยู่​ใน​โลก​ที่​แบ่ง​แยก​ด้วย​การ​แข่งขัน​กัน​นี้. คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ไว้​ล่วง​หน้า​ว่า “สมัย​สุด​ท้าย” อัน​เป็น​วิกฤตการณ์​เช่น​นี้ ผู้​คน​จะ​เป็น​คน “ดุ​ร้าย,” “หัวดื้อ,” และ“ไม่​ยอม​เป็น​ไมตรี​กับ​ใคร”—พูด​อีก​อย่าง​หนึ่ง​คือ ไม่​มี​เหตุ​ผล​เสีย​เลย. (2 ติโมเธียว 3:1-5) กระนั้น​ก็​ดี คริสเตียน​แท้​ถือ​เอา​ความ​มี​เหตุ​ผล​เป็น​เรื่อง​สูง​ส่ง โดย​รู้​อยู่​ว่า ความ​มี​เหตุ​ผล​นี้​แหละ​เป็น​สัญลักษณ์​ของ​สติ​ปัญญา​จาก​เบื้อง​บน. (ยาโกโบ 3:17) พวก​เรา​ไม่​คิด​ว่า การ​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล​ใน​โลก​อัน​ไร้​เหตุ​ผล​เช่น​นี้​จะ​เป็น​ไป​ไม่​ได้. แทน​ที่​จะ​เป็น​อย่าง​นั้น เรา​จะ​ยอม​รับ​การ​ท้าทาย​อย่าง​เต็ม​ที่​ตาม​คำ​แนะ​นำ​ของ​อัครสาวก​เปาโล​ที่​ท่าน​ได้​รับ​โดย​การ​ดล​ใจ​ซึ่ง​เรา​พบ​ใน​ฟิลิปปอย 4:5 (ล.ม.) ดัง​นี้: “จง​ให้​ความ​มี​เหตุ​ผล​ของ​ท่าน​ปรากฏ​แก่​คน​ทั้ง​ปวง.”

2. ถ้อย​คำ​ของ​อัครสาวก​เปาโล​ที่​ฟิลิปปอย 4:5 ช่วย​เรา​อย่าง​ไร​ที่​จะ​วินิจฉัย​ว่า เรา​มี​เหตุ​ผล​หรือ​ไม่?

2 จง​สังเกต​วิธี​ที่​ถ้อย​คำ​ของ​เปาโล​ช่วย​เรา​ทดสอบ​ตัว​เอง​ว่า เรา​มี​เหตุ​ผล​หรือ​ไม่. ที่​ว่า​เรา​มอง​ตัว​เอง​อย่าง​ไร​นั้น​ไม่​ใช่​ปัญหา​สำคัญ แต่​ปัญหา​อยู่​ที่​ว่า คน​อื่น​มอง​เรา​อย่าง​ไร หรือ​เรา​เป็น​ที่​รู้​จัก​ว่า​เรา​เป็น​คน​แบบ​ไหน​ต่าง​หาก. คัมภีร์​ฉบับ​แปล​ของ​ฟิลลิปส์​แปล​ข้อ​นี้​ว่า “มี​ชื่อเสียง​ดี​เนื่อง​ด้วย​การ​มี​เหตุ​ผล.” พวก​เรา​แต่​ละ​คน​น่า​จะ​ถาม​ว่า ‘ฉัน​เป็น​ที่​รู้​จัก​ว่า​เป็น​คน​แบบ​ไหน? ฉัน​มี​ชื่อเสียง​ใน​ด้าน​การ​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล, ยินยอม, และ​อ่อนโยน​ไหม? หรือ​ฉัน​เป็น​ที่​รู้​จัก​ว่า เป็น​คน​ไม่​ยืดหยุ่น, หยาบ​กระด้าง, หัวดื้อ​ไหม?’

3. (ก) คำ​ภาษา​กรีก​ที่​ได้​รับ​การ​แปล​ว่า “มี​เหตุ​ผล” นั้น​มี​ความ​หมาย​อย่าง​ไร และ​ทำไม​คุณลักษณะ​นี้​จึง​น่า​ดึงดูด​ใจ? (ข) คริสเตียน​อาจ​เรียน​รู้​โดย​วิธี​ใด​เพื่อ​จะ​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล​มาก​ขึ้น?

3 ชื่อเสียง​ของ​เรา​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​เหล่า​นี้​จะ​สะท้อน​อย่าง​ชัดเจน​ว่า เรา​เลียน​แบบ​พระ​เยซู​คริสต์​ถึง​ขีด​ไหน. (1 โกรินโธ 11:1) เมื่อ​ประทับ​อยู่​บน​แผ่นดิน​โลก พระ​เยซู​ได้​สะท้อน​ตัว​อย่าง​ความ​มี​เหตุ​ผล​อัน​ดี​เลิศ​ของ​พระ​บิดา​ของ​พระองค์​อย่าง​ครบ​ถ้วน. (โยฮัน 14:9) ที่​จริง เมื่อ​เปาโล​ได้​เขียน​เกี่ยว​กับ​เรื่อง “ความ​อ่อนโยน​และ​พระ​กรุณา​ของ​พระ​คริสต์,” คำ​ภาษา​กรีก​ซึ่ง​ท่าน​ใช้​สำหรับ​พระ​กรุณา (เอพิไอเคีย) มี​ความ​หมาย​ว่า “ความ​มี​เหตุ​ผล” ด้วย หรือ​ตาม​ตัว​อักษร​ก็​หมาย​ถึง​ความ​ยินยอม. (2 โกรินโธ 10:1) หนังสือ คำ​อธิบาย​คัมภีร์​ไบเบิล​ของ​ผู้​ให้​อรรถาธิบาย เรียก​คำ​นี้​ว่า​เป็น “หนึ่ง​ใน​บรรดา​คำ​สำคัญ​ที่​บอก​ลักษณะ​นิสัย​ในคัมภีร์​ภาค​พันธสัญญา​ใหม่.” คำ​นี้​พรรณนา​คุณลักษณะ​อย่าง​หนึ่ง​ที่​น่า​ดึงดูด​ใจ​มาก​จน​ผู้​คง​แก่​เรียน​คน​หนึ่ง​ได้​แปล​คำ​นี้​ว่า “ความ​มี​เหตุ​ผล​ที่​น่า​พอ​ใจ.” เหตุ​ฉะนั้น ให้​เรา​พิจารณา​สาม​แนว​ทาง​ซึ่ง​พระ​เยซู​ทรง​แสดง​ความ​มี​เหตุ​ผล เช่น​เดียว​กับ​พระ​บิดา​ของ​พระองค์ พระ​ยะโฮวา. ด้วย​เหตุ​นี้ เรา​อาจ​เรียน​รู้​วิธี​ที่​ตัว​เอง​จะ​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล​มาก​ขึ้น.—1 เปโตร 2:21.

“พร้อม​จะ​ให้​อภัย”

4. พระ​เยซู​ทรง​แสดง​อย่าง​ไร​ว่า​พระองค์​เอง​ทรง “พร้อม​จะ​ให้​อภัย”?

4 เช่น​เดียว​กับ​พระ​บิดา​ของ​พระองค์ พระ​เยซู​ทรง​แสดง​ความ​มี​เหตุ​ผล​โดย “พร้อม​จะ​ให้​อภัย” ครั้ง​แล้ว​ครั้ง​เล่า. (บทเพลง​สรรเสริญ 86:5, ล.ม.) ขอ​พิจารณา​ตอน​ที่​เปโตร เพื่อน​สนิท​ของ​พระ​เยซู ได้​ปฏิเสธ​พระองค์​ถึง​สาม​ครั้ง​ใน​คืน​ที่​พระองค์​ถูก​จับ​และ​ดำเนิน​คดี. พระ​เยซู​ตรัส​ไว้​ก่อน​แล้ว​ว่า “ผู้​ใด​จะ​ปฏิเสธ​เรา​ต่อ​หน้า​มนุษย์, เรา​จะ​ปฏิเสธ​ผู้​นั้น​เฉพาะ​พระ​พักตร์​พระ​บิดา​ของ​เรา​ผู้​อยู่​ใน​สวรรค์​ด้วย.” (มัดธาย 10:33) พระ​เยซู​ได้​ใช้​กฎ​ข้อ​นี้​กับ​เปโตร​อย่าง​เข้มงวด​และ​ไร้​ความ​เมตตา​ไหม? เปล่า​เลย ภาย​หลัง​พระองค์​ได้​รับ​การ​ปลุก​ให้​คืน​พระ​ชนม์​แล้ว พระ​เยซู​ยัง​ได้​เยี่ยม​เปโตร​เป็น​ส่วน​ตัว โดย​ไม่​สงสัย เพื่อ​จะ​ปลอบโยน​และ​ให้​คำ​รับรอง​แก่​อัครสาวก​ผู้​สำนึก​ผิด​และ​ชอก​ช้ำ​ใจ​ผู้​นี้. (ลูกา 24:34; 1 โกรินโธ 15:5) ไม่​นาน​หลัง​จาก​นั้น พระ​เยซู​ทรง​อนุญาต​ให้​เปโตร​มี​ความ​รับผิดชอบ​มาก. (กิจการ 2:1-41) ตรง​นี้​แหละ​เป็น​การ​แสดง​ความ​มี​เหตุ​ผล​ที่​น่า​พอ​ใจ​นั้น​อย่าง​เต็ม​ที่! เป็น​การ​ปลอบ​ประโลม​มิ​ใช่​หรือ​ที่​จะ​ระลึก​ว่า พระ​ยะโฮวา​ได้​ทรง​ตั้ง​พระ​เยซู​เป็น​ผู้​พิพากษา​มวล​มนุษยชาติ​ทั้ง​สิ้น?—ยะซายา 11:1-4; โยฮัน 5:22.

5. (ก) พวก​ผู้​ปกครอง​ควร​มี​ชื่อเสียง​ชนิด​ใด​ท่ามกลาง​ฝูง​แกะ? (ข) ผู้​ปกครอง​อาจ​ทบทวน​เนื้อหา​อะไร​ก่อน​ดำเนิน​การ​พิจารณา​ตัดสิน​ความ และ​เพราะ​เหตุ​ใด?

5 เมื่อ​ผู้​ปกครอง​ทำ​หน้า​ที่​พิพากษา​ใน​ประชาคม พวก​เขา​พยายาม​ปฏิบัติ​ตาม​ตัว​อย่าง​ความ​มี​เหตุ​ผล​ของ​พระ​เยซู. เขา​ไม่​ประสงค์​จะ​ให้​แกะ​ทั้ง​หลาย​กลัว​เขา​ประหนึ่ง​เขา​เป็น​ผู้​ลง​โทษ​ทัณฑ์. แทน​ที่​จะ​เป็น​อย่าง​นั้น เขา​พยายาม​เลียน​แบบ​พระ​เยซู​เพื่อ​แกะ​เหล่า​นั้น​จะ​รู้สึก​ปลอด​ภัย​เมื่อ​อยู่​กับ​พวก​ผู้​บำรุง​เลี้ยง​ที่​มี​ความ​รัก. เมื่อ​พิจารณา​ตัดสิน​ความ ผู้​ปกครอง​พยายาม​ทุก​วิถี​ทาง​ที่​จะ​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล พร้อม​จะ​ให้​อภัย. ก่อน​ดำเนิน​การ​พิจารณา​ดัง​กล่าว ผู้​ปกครอง​บาง​คน​เห็น​ว่า​เป็น​ประโยชน์​หาก​จะ​ทบทวน​บทความ​ใน​หอสังเกตการณ์ ฉบับ 1 กรกฎาคม 1992 เรื่อง “พระ​ยะโฮวา ‘ผู้​พิพากษา​แห่ง​แผ่นดิน​โลก​ทั้ง​สิ้น’ ผู้​ไม่​ลำเอียง” และ “ผู้​ปกครอง​ทั้ง​หลาย จง​ตัดสิน​ด้วย​ความ​ยุติธรรม.” ด้วย​วิธี​นี้ พวก​เขา​จำ​ใส่​ใจ​ไว้​เสมอ​ถึง​ข้อ​สรุป​เกี่ยว​ด้วย​แนว​ทาง​การ​ตัดสิน​ของ​พระ​ยะโฮวา​ที่​ว่า “มั่นคง​แน่วแน่​เมื่อ​จำเป็น เมตตา​เมื่อ​มี​ทาง​เป็น​ไป​ได้.” หา​ใช่​เป็น​ความ​ผิด​พลาด​ไม่ใน​การ​เอนเอียง​ไป​ทาง​ความ​เมตตา​ขณะ​พิพากษา​ใน​เมื่อ​มี​พื้น​ฐาน​ประกอบ​ด้วย​เหตุ​ผล​ใน​การ​กระทำ​เช่น​นั้น. (มัดธาย 12:7) เป็น​ความ​ผิด​มหันต์​ที่​จะ​แสดง​ความ​เกรี้ยวกราด​หรือ​ไร้​ความ​ปรานี. (ยะเอศเคล 34:4) ฉะนั้น ผู้​ปกครอง​จะ​หลีก​เลี่ยง​การ​ผิด​พลาด​โดย​พยายาม​ขวนขวาย​หา​แนว​ทาง​ที่​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก​ความ​เมตตา​ให้​มาก​ที่​สุด​เท่า​ที่​เป็น​ไป​ได้​ภาย​ใน​ขอบ​เขต​ของ​ความ​ยุติธรรม.—เทียบ​กับ​มัดธาย 23:23; ยาโกโบ 2:13.

การ​ปรับ​ตัว​เมื่อ​เผชิญ​กับ​สภาพการณ์​ที่​แปร​เปลี่ยน​ไป

6. พระ​เยซู​ทรง​แสดง​ความ​มี​เหตุ​ผล​อย่าง​ไร​เมื่อ​ติด​ต่อ​กับ​หญิง​ชาว​ต่าง​ชาติ​ซึ่ง​ลูก​สาว​ของ​นาง​ถูก​ผี​สิง?

6 เช่น​เดียว​กัน​กับ​พระ​ยะโฮวา พระ​เยซู​เอง​มิ​ได้​รั้ง​รอ​ที่​จะ​เปลี่ยน​แนว​ทาง​หรือ​ปรับ​ตัว​ให้​เข้า​กับ​สถานการณ์​ใหม่ ๆ ที่​เกิด​ขึ้น. ณ โอกาส​หนึ่ง ผู้​หญิง​ต่าง​ชาติ​ได้​อ้อน​วอน​พระองค์​ให้​ช่วย​รักษา​ลูก​สาว​ของ​นาง​ที่​ถูก​ผี​ร้าย​สิง. ด้วย​สาม​แนว​ทาง​ต่าง​กัน ที​แรก​พระ​เยซู​ระบุ​ว่า พระองค์​จะ​ไม่​สงเคราะห์​นาง—ประการ​แรก โดย​ไม่​ยอม​ตอบ​นาง; ประการ​ที่​สอง โดย​การ​กล่าว​ตรง ๆ ว่า พระองค์​ถูก​ส่ง​เข้า​มา​เพื่อ​ชาว​ยิว​เท่า​นั้น ไม่​ใช่​เพื่อ​คน​ต่าง​ชาติ; และ​ประการ​ที่​สาม โดย​การ​ยก​อุทาหรณ์​ซึ่ง​เน้น​จุด​เดียว​กัน​อย่าง​นุ่มนวล. อย่าง​ไร​ก็​ดี ผู้​หญิง​คน​นั้น​ยัง​พยายาม​อย่าง​ไม่​ลด​ละ ซึ่ง​เป็น​การ​ให้​หลักฐาน​แสดง​ว่า​มี​ความ​เชื่อ​มาก. เมื่อ​คำนึง​ถึง​กรณี​พิเศษ​นี้ พระ​เยซู​สามารถ​หยั่ง​เห็น​ได้​ว่า เรื่อง​นี้​หา​ใช่​เวลา​ที่​จะ​บังคับ​ให้​เป็น​ไป​ตาม​กฎเกณฑ์​ทั่ว​ไป ถึง​เวลา​แล้ว​ที่​พึง​ปรับ​เปลี่ยน​เพื่อ​ตอบ​สนอง​ต่อ​หลักการ​อัน​สูง​ส่ง​กว่า.a ดัง​นั้น พระ​เยซู​จึง​ทรง​กระทำ​สิ่ง​ซึ่ง​พระองค์​ได้​ระบุ​ถึง​สาม​ครั้ง​ว่า​พระองค์​จะ​ไม่​ทำ. พระองค์​ได้​รักษา​ลูก​สาว​ของ​หญิง​คน​นั้น!—มัดธาย 15:21-28.

7. บิดา​มารดา​อาจ​แสดง​ความ​มี​เหตุ​ผล​ได้​ใน​ทาง​ใด​บ้าง และ​เพราะ​เหตุ​ใด?

7 ใน​ทำนอง​คล้ายคลึง​กัน เรา​เป็น​ที่​รู้​จัก​เนื่อง​ด้วย​ความ​เต็ม​ใจ​จะ​ยินยอม​เมื่อ​มี​เหตุ​อัน​ควร​ไหม? บิดา​มารดา​มัก​จะ​ต้อง​แสดง​ความ​มี​เหตุ​ผล​ดัง​กล่าว​บ่อย​ครั้ง. เนื่อง​จาก​บุตร​แต่​ละ​คน​แตกต่าง​กัน วิธี​การ​ต่าง ๆ ที่​ใช้​ได้​ผล​กับ​บุตร​คน​หนึ่ง​อาจ​ไม่​เหมาะ​จะ​นำ​มา​ใช้​กับ​อีก​คน​หนึ่ง. ยิ่ง​กว่า​นั้น ขณะ​เด็ก​เติบโต​ขึ้น ความ​ต้องการ​ของ​เขา​ย่อม​เปลี่ยน​ไป. เวลา​ที่​กำหนด​ให้​บุตร​กลับ​บ้าน​ตาม​เวลา​ควร​ปรับ​เปลี่ยน​ไหม? การ​ศึกษา​ประจำ​ครอบครัว​จะ​ได้​รับ​ประโยชน์​จาก​การ​จัด​รูป​แบบ​หรือ​องค์​ประกอบ​ที่​มี​ชีวิต​ชีวา​มาก​กว่า​เดิม​ไหม? เมื่อ​บิดา​หรือ​มารดา​มี​ปฏิกิริยา​เกิน​เหตุ​ใน​เรื่อง​การ​ผิด​เล็ก ๆ น้อย ๆ ตัว​เขา​เต็ม​ใจ​แสดง​ความ​ถ่อม​และ​จัด​การ​เรื่อง​ราว​ให้​เป็น​ที่​เรียบร้อย​ไหม? บิดา​มารดา​ที่​ประพฤติ​ตน​เป็น​ฝ่าย​ยอม​โดย​วิธี​ดัง​กล่าว​คง​จะ​หลีก​เลี่ยง​การ​ทำ​ให้​บุตร​หงุดหงิด​โดย​ไม่​จำเป็น และ​ทำ​ให้​เขา​ห่าง​เหิน​ไป​จาก​พระ​ยะโฮวา.—เอเฟโซ 6:4.

8. ผู้​ปกครอง​ใน​ประชาคม​อาจ​นำ​หน้า​อย่าง​ไร​ใน​การ​ปรับ​เปลี่ยน​ให้​เป็น​ไป​ตาม​ความ​จำเป็น​ของ​เขต​ทำ​งาน?

8 ผู้​ปกครอง​ทั้ง​หลาย​ก็​เช่น​กัน จำเป็น​ต้อง​ปรับ​เปลี่ยน​เมื่อ​มี​สภาพการณ์​ใหม่​เกิด​ขึ้น ใน​ขณะ​เดียว​กัน​ก็​ไม่​อะลุ้มอล่วย​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า​ที่​เฉพาะ​เจาะจง. ใน​เรื่อง​การ​เอา​ใจ​ใส่​ดู​แล​งาน​ประกาศ​นั้น คุณ​ตื่น​ตัว​ต่อ​การ​เปลี่ยน​แปลง​ใน​เขต​ทำ​งาน​ไหม? ขณะ​ที่​แนว​ทาง​ดำเนิน​ชีวิต​ของ​ผู้​คน​ใน​ท้องถิ่น​เปลี่ยน​ไป บาง​ที​อาจ​ส่ง​เสริม​การ​ให้​คำ​พยาน​ตอน​เย็น, การ​ให้​คำ​พยาน​ริม​ถนน, หรือ​โดย​การ​ใช้​โทรศัพท์. การ​ปรับ​เปลี่ยน​ใน​หลาย ๆ ทาง​เช่น​นั้น​ช่วย​เรา​ทำ​งาน​ประกาศ​ตาม​ที่​รับ​มอบหมาย​ให้​ลุ​ล่วง​อย่าง​ได้​ผล​มาก​ขึ้น. (มัดธาย 28:19, 20; 1 โกรินโธ 9:26) นอก​จาก​นี้ เปาโล​ได้​เน้น​ความ​สำคัญ​ของ​การ​ปรับ​เปลี่ยน​ให้​เข้า​กับ​คน​ทุก​ชนิด​เมื่อ​ท่าน​ทำ​งาน​ประกาศ​เผยแพร่. พวก​เรา​ทำ​อย่าง​นั้น​ไหม อย่าง​เช่น โดย​เรียน​ให้​รู้​จัก​ศาสนา​และ​วัฒนธรรม​ใน​ท้องถิ่น​นั้น​พอ​ประมาณ​เพื่อ​จะ​สามารถ​ช่วย​ประชาชน​ได้?—1 โกรินโธ 9:19-23.

9. เหตุ​ใด​ผู้​ปกครอง​ไม่​ควร​ยืนกราน​เสมอ​ที่​จะ​ดำเนิน​การ​แก้​ปัญหา​อย่าง​ที่​เขา​เคย​ทำ​ใน​อดีต?

9 ขณะ​ที่​สมัย​สุด​ท้าย​เป็น​ยุค​วิกฤติ​มาก​ขึ้น​เรื่อย ๆ ผู้​บำรุง​เลี้ยง​ทั้ง​หลาย​อาจ​จำเป็น​ต้อง​ปรับ​เปลี่ยน​ให้​ทัน​ต่อ​ความ​สลับ​ซับซ้อน​อย่าง​น่า​สนเท่ห์​และ​ความ​น่า​เบื่อ​หน่าย​ของ​ปัญหา​ต่าง ๆ ที่​ฝูง​แกะ​ของ​พวก​เขา​เผชิญ​อยู่​ใน​ขณะ​นี้. (2 ติโมเธียว 3:1) ผู้​ปกครอง​ทั้ง​หลาย เดี๋ยว​นี้​ไม่​ใช่​เวลา​ที่​ต้อง​ใช้​ความ​แข็ง​กร้าว! แน่นอน ผู้​ปกครอง​จะ​ไม่​ยืนกรานที่​จะ​จัด​การ​กับ​ปัญหา​ต่าง ๆ ด้วย​วิธี​ที่​เขา​เคย​ใช้​ใน​อดีต หาก​วิธี​การ​ของ​ตน​ใช้​ไม่​ได้​ผล หรือ​ถ้า “ทาส​สัตย์​ซื่อ​และ​สุขุม” เห็น​ชอบ​ที่​จะ​ออก​คำ​แนะ​นำ​ใหม่​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นั้น. (มัดธาย 24:45; เทียบ​กับ​ท่าน​ผู้​ประกาศ 7:10; 1 โกรินโธ 7:31.) ผู้​ปกครอง​ที่​สัตย์​ซื่อ​คน​หนึ่ง ด้วย​ความ​สุจริต​ใจ​พยายาม​ช่วย​พี่​น้อง​หญิง​ที่​ท้อ​แท้​ซึ่ง​ต้องการ​จริง ๆ ที่​จะ​มี​ใคร​สัก​คน​สนใจ​ฟัง​เธอ​พูด. อย่าง​ไร​ก็​ดี เขา​ไม่​ได้​ถือ​ว่า ความ​ท้อ​แท้​ของ​เธอ​เป็น​เรื่อง​ร้ายแรง​นัก​หนา และ​ได้​เสนอ​ทาง​แก้​ปัญหา​รวบรัด​เกิน​ไป. ครั้น​แล้ว​สมาคม​ว็อชเทาเวอร์​ได้​จัด​พิมพ์​คำ​แนะ​นำ​บาง​อย่าง​อาศัย​หลัก​พระ​คัมภีร์​ซึ่ง​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ปัญหา​ของ​เธอ​พอ​ดี. ผู้​ปกครอง​ตั้งใจ​จะ​คุย​กับ​เธอ​อีก คราว​นี้​เขา​ได้​ใช้​คำ​แนะ​นำ​ใหม่​และ​แสดง​ความ​ร่วม​รู้สึก​ต่อ​สภาพ​อัน​ยาก​ลำบาก​ของ​เธอ. (เทียบ​กับ 1 เธซะโลนิเก 5:14, 15.) ช่าง​เป็น​ตัว​อย่าง​ที่​ดี​ของ​ความ​มี​เหตุ​ผล​เสีย​จริง ๆ!

10. (ก) ผู้​ปกครอง​ควร​แสดง​ท่าที​ยินยอม​โดย​วิธี​ใด​ต่อ​เพื่อน​ผู้​ปกครอง​ด้วย​กัน และ​ต่อ​คณะ​ผู้​ปกครอง​โดย​รวม? (ข) คณะ​ผู้​ปกครอง​ควร​มี​ทัศนะ​เช่น​ไร​ต่อ​คน​เหล่า​นั้น​ที่​แสดง​ความ​ไม่​มี​เหตุ​ผล?

10 อนึ่ง พวก​ผู้​ปกครอง​จำ​ต้อง​แสดง​ท่าที​ยินยอม​ต่อ​กัน​และ​กัน​ด้วย. เมื่อ​คณะ​ผู้​ปกครอง​ประชุม​กัน สำคัญ​เพียง​ไร​ที่​จะ​ไม่​มี​ผู้​ปกครอง​เพียง​คน​เดียว​ครอบ​งำ​การ​ดำเนิน​การ! (ลูกา 9:48) ผู้​เป็น​ประธาน​การ​ประชุม​โดย​เฉพาะ​ต้อง​ยับยั้ง​ตัว​เอง​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นี้. และ​เมื่อ​ผู้​ปกครอง​หนึ่ง​หรือ​สอง​คน​ไม่​เห็น​พ้อง​กับ​การ​ตัดสิน​ของ​คณะ​ผู้​ปกครอง​ทั้ง​หมด พวก​เขา​ก็​ไม่​ควร​ยืนกราน​ให้​ดำเนิน​เรื่อง​ตาม​ที่​เขา​ต้องการ. แทน​ที่​จะ​เป็น​เช่น​นั้น ตราบ​ใด​ที่​ไม่​มี​การ​ละเมิด​หลักการ​ใน​พระ​คัมภีร์ พวก​เขา​จะ​ยินยอม ระลึก​อยู่​เสมอ​ว่า ความ​มี​เหตุ​ผล​เป็น​สิ่ง​ที่​เรียก​ร้อง​จาก​ผู้​ปกครอง. (1 ติโมเธียว 3:2, 3) ใน​ทาง​ตรง​กัน​ข้าม คณะ​ผู้​ปกครอง​ควร​จด​จำ​ไว้​เสมอ​ว่า เปาโล​ได้​ตำหนิ​ประชาคม​โกรินโธ​เพราะ ‘เขา​ได้​อด​ทน​กับ​คน​ไม่​มี​เหตุ​ผล’ ผู้​ซึ่ง​เสนอ​ตัว​เป็น “อัครสาวก​เขื่อง ๆ.” (2 โกรินโธ 11:5, 19, 20) ฉะนั้น ผู้​ปกครอง​ควร​เต็ม​ใจ​จะ​แนะ​นำ​เพื่อน​ผู้​ปกครอง​ด้วย​กัน​ซึ่ง​ประพฤติ​ตน​อย่าง​ดื้อ​รั้น ไม่​มี​เหตุ​ผล แต่​ตัว​เขา​เอง​ควร​จะ​เป็น​คน​อ่อนโยน​และ​กรุณา​ใน​การ​กระทำ​ดัง​กล่าว.—ฆะลาเตีย 6:1.

ความ​มี​เหตุ​ผล​ใน​การ​ใช้​อำนาจ

11. มี​ความ​แตกต่าง​กัน​อย่าง​ไร​ระหว่าง​วิธี​ที่​ผู้​นำ​ศาสนา​ชาว​ยิว​สมัย​พระ​เยซู​แสดง​อำนาจ และ​วิธี​ที่​พระ​เยซู​ทรง​กระทำ?

11 เมื่อ​พระ​เยซู​อยู่​บน​แผ่นดิน​โลก ความ​มี​เหตุ​ผล​ของ​พระองค์​ปรากฏ​แจ้ง​ใน​วิธี​ที่​พระองค์​ใช้​อำนาจ​ซึ่ง​พระเจ้า​ทรง​ประทาน​แก่​พระองค์. พระองค์​ต่าง​ไป​จาก​พวก​ผู้​นำศาสนา​สมัย​นั้น​เพียง​ไร! ให้​เรา​พิจารณา​ตัว​อย่าง​หนึ่ง. กฎหมาย​ของ​พระเจ้า​ห้าม​ไม่​ให้​ทำ​การ​งาน​ใน​วัน​ซะบาโต แม้​แต่​จะ​เก็บ​ฟืน​ก็​ทำ​ไม่​ได้. (เอ็กโซโด 20:10; อาฤธโม 15:32-36) ผู้​นำ​ศาสนา​ต้องการ​ควบคุม​วิธี​ที่​ประชาชน​จะ​ประยุกต์​ใช้​ข้อ​กฎหมาย​นั้น. ดัง​นั้น พวก​เขา​จึง​ถือ​เป็น​หน้า​ที่​ของ​ตัว​เอง​ที่​จะ​ออก​ข้อ​บังคับ​ว่า คน​เรา​สามารถ ยก​ของ​อะไร​ได้​จริง ๆ ใน​วัน​ซะบาโต. เขา​ออก​กฎ​ดัง​นี้: น้ำหนัก​ที่​จะ​ยก​ได้​นั้น​ต้อง​หนัก​ไม่​เกิน​มะเดื่อ​แห้ง​สอง​ผล. พวก​เขา​ถึง​กับ​ออก​ข้อ​ห้าม​ไม่​ให้​ใช้​รอง​เท้า​ที่​ตอก​ด้วย​ตะปู โดย​อ้าง​ว่า การ​ยก​น้ำหนัก​ของ​ตะปู​นั้น​ถือ​ว่า​เป็น​งาน! กล่าว​กัน​ว่า รวม​ทั้ง​หมด​แล้ว​พวก​อาจารย์​ยิว​เพิ่ม​กฎ​ถึง 39 ข้อ​เข้า​กับ​กฎหมาย​วัน​ซะบาโต​ของ​พระเจ้า มิ​หนำ​ยัง​ได้​เพิ่ม​กฎ​ไม่​รู้​จบ​สิ้น​เข้า​กับ​กฎ​เหล่า​นั้น. ส่วน​พระ​เยซู พระองค์​ไม่​ได้​หา​ทาง​ควบคุม​ประชาชน​โดย​การ​ทำ​ให้​เขา​อับอาย ด้วย​การ​วาง​กฎเกณฑ์​จำกัด​ไว้​มาก​มาย หรือ​ตั้ง​มาตรฐาน​ที่​เข้มงวด​ซึ่ง​ไม่​อาจ​ปฏิบัติ​ตาม​ได้.—มัดธาย 23:2-4; โยฮัน 7:47-49.

12. เหตุ​ใด​เรา​สามารถ​พูด​ได้​ว่า พระ​เยซู​ไม่​เคย​สั่น​คลอน​เมื่อ​มา​ถึง​มาตรฐาน​อัน​ชอบธรรม​ของ​พระ​ยะโฮวา?

12 เช่น​นั้น​แล้ว เรา​จะ​ทึกทัก​เอา​ว่า พระ​เยซู​ไม่​ได้​ยึด​มาตรฐาน​อัน​ชอบธรรม​ของ​พระเจ้า​อย่าง​เหนียวแน่น​ไหม? พระองค์​ทรง​ยึด​มั่น​แน่นอน! พระองค์​ทรง​เข้าใจ​ว่า กฎหมาย​มี​ประสิทธิภาพ​สูง​สุด​เมื่อ​มวล​มนุษย์​ใส่​ใจ​หลักการ​ต่าง ๆ ที่​อยู่​เบื้อง​หลัง​กฎหมาย​เหล่า​นั้น. ใน​ขณะ​ที่​พวก​ฟาริซาย​ต่าง​ก็​มุ่ง​จะ​ควบคุม​ประชาชน​ด้วย​กฎเกณฑ์​นับ​ไม่​ถ้วน ส่วน​พระ​เยซู​ทรง​หา​ทาง​เพื่อ​เข้า​ถึง​หัวใจ. ยก​ตัว​อย่าง พระองค์​ทรง​ทราบ​เป็น​อย่าง​ดี​ว่า ไม่​มี​การ​ยินยอม​เมื่อ​มา​ถึง​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า​ที่​ว่า “การ​ล่วง​ประเวณี​นั้น​จง​หลีก​หนี​เสีย.” (1 โกรินโธ 6:18) ดัง​นั้น พระ​เยซู​ทรง​เตือน​ประชาชน​เกี่ยว​กับ​แนว​ความ​คิด​ซึ่ง​อาจ​นำ​ไป​สู่​การ​ผิด​ศีลธรรม. (มัดธาย 5:28) การ​สอน​ดัง​กล่าว​ต้อง​ใช้​สติ​ปัญญา​และ​การ​หยั่ง​เห็น​เข้าใจ​มาก​กว่า​เพียง​การ​ตั้ง​กฎเกณฑ์​อย่าง​เข้มงวด​หรือ​ตาย​ตัว.

13. (ก) ทำไม​ผู้​ปกครอง​พึง​หลีก​เว้น​การ​ตั้ง​กฎเกณฑ์​เข้มงวด​ขึ้น​มา? (ข) ใน​ขอบ​เขต​ใด​บ้าง​ซึ่ง​เป็น​เรื่อง​ที่​พึง​แสดง​ความ​นับถือ​ต่อ​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​ปัจเจกบุคคล?

13 ทุก​วัน​นี้ พี่​น้อง​ชาย​ที่​มี​ความ​รับผิดชอบ​ต่าง​ก็​ให้​ความ​สนใจ​ใน​การ​เข้า​ถึง​หัวใจ​พอ ๆ กัน. ดัง​นั้น พวก​เขา​หลีก​เลี่ยง​การ​วาง​กฎ​ตาม​ความ​พอ​ใจ ไม่​ยืดหยุ่น หรือ​ทำ​ให้​ทัศนะ​และ​ความ​คิด​เห็น​ส่วน​ตัว​ของ​เขา​เป็น​กฎหมาย. (เทียบ​กับ​ดานิเอล 6:7-16.) บาง​ครั้ง​บาง​คราว การ​เตือน​ด้วย​ความ​กรุณา​ใน​เรื่อง​ต่าง ๆ เช่น การ​แต่ง​กาย​และ​การ​ประดับ​ตัว​ก็​อาจ​จะ​เหมาะ​สม และ​เหมาะ​กับ​กาล​สมัย แต่​ผู้​ปกครอง​อาจ​ทำ​ให้​ชื่อเสียง​ของ​ตน​ใน​ฐานะ​ที่​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล​เสียหาย​ได้ หาก​เขา​พูด​พร่ำ​เรื่อง​นั้น ๆ หรือ​พยายาม​ยัดเยียด​สิ่ง​ซึ่ง​สะท้อน​ค่า​นิยม​ของ​ตน​เอง​เป็น​สำคัญ. อัน​ที่​จริง ทุก​คน​ใน​ประชาคม​ควร​ละ​เว้น​ความ​พยายาม​ที่​จะ​ควบคุม​ผู้​อื่น.—เทียบ​กับ 2 โกรินโธ 1:24; ฟิลิปปอย 2:12.

14. โดย​วิธี​ใด​พระ​เยซู​ทรง​แสดง​ว่า พระองค์​มี​เหตุ​ผล​เกี่ยว​เนื่อง​กับ​สิ่ง​ที่​ทรง​คาด​หมาย​จาก​ผู้​อื่น?

14 ผู้​ปกครอง​อาจ​ต้องการ​สำรวจ​ตัว​เอง​อีก​ด้าน​หนึ่ง​ด้วย เช่น ‘ผม​มี​เหตุ​ผล​ใน​สิ่ง​ที่​ผม​คาด​หมาย​จาก​ผู้​อื่น​ไหม?’ พระ​เยซู​ทรง​ทำ​เช่น​นั้น​จริง. พระองค์​ทรง​แสดง​แก่​พวก​สาวก​ของ​พระองค์​อย่าง​เสมอ​ต้น​เสมอ​ปลาย​ว่า​พระองค์​ไม่​ทรง​คาด​หมาย​มาก​ไป​กว่า​ความ​พยายาม​สุด​จิตวิญญาณ​ของ​เขา​และ​ที่​พระองค์​ทรง​เห็น​คุณค่า​ความ​พยายาม​เหล่า​นั้น​เป็น​อย่าง​มาก. พระองค์​กล่าว​ชม​หญิง​ม่าย​ที่​สละ​เงิน​เหรียญ​ค่า​เล็ก​น้อย​ที่​นาง​มี​อยู่. (มาระโก 12:42, 43) พระองค์​ทรง​ตำหนิ​สาวก​ของ​พระองค์​เมื่อ​พวก​เขา​วิจารณ์​ของ​ราคา​แพง​ที่​มาเรีย​ได้​บริจาค โดย​ตรัส​ว่า “อย่า​ว่า​เขา​เลย . . . ซึ่ง​ผู้​หญิง​นี้​ได้​กระทำ​ก็​เป็น​การ​สุด​กำลัง​ของ​เขา.” (มาระโก 14:6, 8) พระองค์​ทรง​มี​เหตุ​ผล​แม้​ใน​ยาม​ที่​พวก​สาวก​ได้​ทำ​ให้​พระองค์​เสีย​พระทัย​ก็​ตาม. ยก​ตัว​อย่าง แม้น​ว่า​พระองค์​ขอร้อง​อัครสาวก​คน​สนิท​ทั้ง​สาม​คน​ให้​ระแวด​ระวัง​คอย​เฝ้า​อยู่​กับ​พระองค์​ใน​คืน​ที่​พระองค์​ถูก​จับ แต่​เขา​ทำ​ให้​พระองค์​ผิด​หวัง​โดย​หลับ​ไป​ครั้ง​แล้ว​ครั้ง​เล่า กระนั้น พระองค์​ทรง​กล่าว​ด้วย​ความ​เห็น​อก​เห็น​ใจ​ดัง​นี้: “จิตใจ​พร้อม​แล้ว​ก็​จริง, แต่​เนื้อหนัง​ยัง​อ่อน​กำลัง.”—มาระโก 14:34-38.

15, 16. (ก) เหตุ​ใด​พวก​ผู้​ปกครอง​ควร​ระมัดระวัง​ไม่​กดดัน​หรือ​ขู่เข็ญ​ฝูง​แกะ? (ข) พี่​น้อง​หญิง​ที่​สัตย์​ซื่อ​คน​หนึ่ง​มา​ถึง​ขั้น​ปรับ​ตัว​อย่าง​ไร​ใน​สิ่ง​ที่​เธอ​คาด​หมาย​จาก​คน​อื่น?

15 จริง​อยู่ พระ​เยซู​ทรง​สนับสนุน​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​ให้ “บากบั่น​อย่าง​แข็งขัน.” (ลูกา 13:24, ล.ม.) แต่​พระองค์​ไม่​เคย​คาด​คั้น​ให้​พวก​เขา​ทำ​เช่น​นั้น! พระองค์​ทรงเป็น​แรง​บันดาล​ใจ​ให้​กับ​พวก​เขา, ทรง​วาง​ตัว​อย่าง, ทรง​นำ​หน้า, และ​ขวนขวาย​หา​ทาง​เข้า​ถึง​หัวใจ​ของ​เขา. พระองค์​ทรง​วางใจ​ใน​ฤทธิ์​อำนาจ​แห่ง​พระ​วิญญาณ​ของ​พระ​ยะโฮวา​ที่​จะ​กระทำ​นอก​เหนือ​จาก​นั้น. พวก​ผู้​ปกครอง​สมัย​นี้​ก็​เช่น​เดียว​กัน ควร​สนับสนุน​แกะ​ทั้ง​หลาย​ให้​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​สิ้น​สุด​หัวใจ แต่​ก็​ควร​เลี่ยง​ไม่​ข่มขู่​จน​เขา​เกิด​ความ​รู้สึก​ว่า​ทำ​ผิด​หรือ​อับอาย โดย​แสดง​นัย​ว่า สิ่ง​ที่​พวก​เขา​ทำ​เพื่อ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​อยู่​นั้น​ดู​เหมือน​ยัง​ไม่​พอ​หรือ​ยัง​ไม่​เป็น​ที่​ยอม​รับ. ท่าที​อัน​ส่อ​ถึง​ความ​เข้มงวด​กวดขัน​อาจ​ทำ​ให้​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ทำ​สุด​ความ​สามารถ​อยู่​แล้ว​เสีย​กำลังใจ​ก็​ได้. โดย​เร่งเร้า​ให้ “ทำ​มาก​ขึ้น, ทำ​มาก​ขึ้น, ทำ​มาก​กว่า​นี้!” น่า​เศร้า​เพียง​ใด​หาก​ผู้​ปกครอง​ได้​ฉายา​ว่า​เป็น​คน “เอา​ใจ​ยาก”—ช่าง​ต่าง​กัน​ลิบลับ​กับ​ความ​มี​เหตุ​ผล!—1 เปโตร 2:18.

16 พวก​เรา​ทุก​คน​ควร​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล​ใน​สิ่ง​ซึ่ง​เรา​เอง​คาด​หมาย​จาก​ผู้​อื่น! พี่​น้อง​หญิง​คน​หนึ่ง หลัง​จาก​เธอ​กับ​สามี​ได้​เลิก​งาน​มิชชันนารี​ใน​ต่าง​แดน​เพื่อ​ดู​แล​มารดา​ของ​เธอ​ที่​เจ็บ​ป่วย เธอ​เขียน​ว่า “สมัย​นี้​ยาก​ลำบาก​จริง ๆ สำหรับ​พวก​เรา​ผู้​ประกาศ​ใน​ประชาคม​ที่​นี่. เนื่อง​จาก​เคย​รับใช้​ใน​งาน​ดู​แล​หมวด​และ​ภาค เรา​ถูก​ปิด​กั้น​ไว้​จาก​ความ​กดดัน​มาก​มาย​เช่น​นั้น เรา​ได้​มา​รู้​ใน​ทันที​ทันใด​และ​ด้วย​ความ​ปวด​ร้าว​ใจ​เกี่ยว​กับ​ความ​กดดัน​เหล่า​นี้. ดิฉัน​เคย​รำพึง​กับ​ตัว​เอง เช่น ‘ทำไม​นะ​ซิสเตอร์​คน​นี้​ไม่​เสนอ​หนังสือ​ตาม​คำ​ชี้​แนะ​สำหรับ​เดือน​นี้? เขา​ไม่​ได้​อ่าน​พระ​ราชกิจ หรือ?’ แต่​ตอน​นี้​ดิฉัน​เข้าใจ​เหตุ​ผล​แล้ว. สำหรับ​บาง​คน​ที่​จะ​ออก​ประกาศ​ได้​ก็​ยาก​อยู่​แล้ว.” เป็น​การ​ดี​กว่า​สัก​เพียง​ไร​ที่​จะ​พูด​ชม​พี่​น้อง​ของ​เรา​ใน​สิ่ง​ที่​พวก​เขา​กระทำ แทน​ที่​จะ​ตัดสิน​เขา​เพราะ​สิ่ง​ที่​เขา​ไม่​ทำ!

17. โดย​วิธี​ใด​พระ​เยซู​ทรง​วาง​ตัว​อย่าง​สำหรับ​เรา​เกี่ยว​ด้วย​ความ​มี​เหตุ​ผล?

17 ขอ​พิจารณา​ตัว​อย่าง​สุด​ท้าย​เกี่ยว​ด้วย​วิธี​ที่​พระ​เยซู​ทรง​ใช้​อำนาจ​ของ​พระองค์​อย่าง​มี​เหตุ​ผล. เฉก​เช่น​พระ​บิดา​ของ​พระองค์ พระ​เยซู​ไม่​หวง​อำนาจ​ของ​พระองค์. พระองค์​ก็​เช่น​กัน​ทรง​เป็น​ผู้​มอบ​อำนาจ ทรง​แต่ง​ตั้ง​จำพวก​ทาส​สัตย์​ซื่อ​ของ​พระองค์​ให้​เอา​ใจ​ใส่​ดู​แล “ทรัพย์​สมบัติ​ทั้ง​หมด​ของ​นาย” บน​แผ่นดิน​โลก. (มัดธาย 24:45-47, ล.ม.) และ​พระองค์​ไม่​ประหวั่น​ที่​จะ​ฟัง​ความ​คิด​เห็น​ของ​ผู้​อื่น. บ่อย​ครั้ง​พระองค์​ถาม​ผู้​ฟัง​ว่า “ท่าน​คิด​เห็น​อย่าง​ไร?” (มัดธาย 17:25; 18:12; 21:28; 22:42) สม​ควร​ที่​จะ​เป็น​เช่น​นั้น​ท่ามกลาง​บรรดา​สาวก​ของ​พระ​คริสต์​สมัย​นี้. ไม่​ว่า​ระดับ​อำนาจ​จะ​มาก​น้อย​แค่​ไหน​ก็​ตาม​เขา​ควร​เต็ม​ใจ​ฟัง. บิดา​มารดา​ทั้ง​หลาย จง​ยอม​ฟัง! สามี​ทั้ง​หลาย, จง​ยอม​ฟัง! ผู้​ปกครอง​ทั้ง​หลาย จง​ยอม​ฟัง!

18. (ก) เรา​อาจ​ทราบ​ได้​อย่าง​ไร​ว่า​เรา​มี​ชื่อเสียง​ดี​ใน​ด้าน​ความ​มี​เหตุ​ผล​หรือ​ไม่? (ข) พวก​เรา​ทุก​คน​น่า​จะ​ตั้งใจ​จะ​ทำ​อะไร?

18 เป็น​ที่​แจ่ม​ชัด​แล้ว​ว่า พวก​เรา​แต่​ละ​คน​ต้องการ “มี​ชื่อเสียง​ว่า​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล.” (ฟิลิปปอย 4:5, ฟิลลิปส์) แต่​เรา​จะ​รู้​ได้​อย่าง​ไร​ว่า​เรา​มี​ชื่อเสียง​ดี​เช่น​นั้น​หรือ​ไม่? ตอน​ที่​พระ​เยซู​ทรง​อยาก​รู้​ว่า ผู้​คน​คิด​อย่าง​ไร​เกี่ยว​กับ​พระองค์ พระองค์​ได้​ถาม​สหาย​สนิท​ซึ่ง​พระองค์​ไว้​ใจ. (มัดธาย 16:13) ไฉน​ไม่​เอา​อย่าง​พระองค์​ล่ะ? คุณ​อาจ​ถาม​บาง​คน​ซึ่ง​คุณ​ไว้​ใจ​ว่า​จะ​ให้​คำ​ตอบ​อย่าง​ตรง​ไป​ตรง​มา​ว่า คุณ​ได้​ชื่อ​ว่า​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล เป็น​คน​ยินยอม​หรือ​ไม่. แน่นอน เรา​ทุก​คน​สามารถ​จะ​ทำ​ได้​อีก​มาก​อัน​เป็น​การ​เลียน​แบบ​อย่าง​สมบูรณ์​ของ​พระ​เยซู​เกี่ยว​ด้วย​ความ​มี​เหตุ​ผล! โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง ถ้า​เรา​มี​อำนาจ​เหนือ​คน​อื่น จง​ให้​เรา​ติด​ตาม​ตัว​อย่าง​ของ​พระ​ยะโฮวา​และ​พระ​เยซู​เสมอ ด้วย​การ​ใช้​อำนาจ​อย่าง​มี​เหตุ​ผล พร้อม​จะ​ให้​อภัย, ดัด​แปลง​ได้, หรือ​ยินยอม​เมื่อ​เหมาะ​สม. จริง ๆ แล้ว ขอ​ให้​พวก​เรา​ทุก​คน​พยายาม​เป็น “คน​มี​เหตุ​ผล”!—ติโต 3:2.

[เชิงอรรถ]

a หนังสือ​คำ​ศัพท์​ใน​คัมภีร์​ภาค​พันธสัญญา​ใหม่ ให้​ข้อ​คิด​เห็น​ดัง​นี้: “บุคคล​ซึ่ง​เป็น​เอพิไอเคส [มี​เหตุ​ผล] ตระหนัก​ว่า มี​วาระ​ที่​สิ่ง​หนึ่ง​ถูก​ต้อง​ตาม​กฎหมาย​โดย​ครบ​ถ้วน และ​กระนั้น ใน​ทาง​ศีลธรรม​แล้ว​เป็น​สิ่ง​ผิด​อย่าง​สิ้นเชิง. บุคคล​ผู้​ซึ่ง​เป็น​เอพิไอเคส รู้​ว่า เมื่อ​ไร​ควร​ผ่อน​ผัน​กฎหมาย​ภาย​ใต้​การ​บังคับ​จาก​อำนาจ​บาง​อย่าง​ซึ่ง​เหนือ​กว่า​และ​สำคัญ​กว่า​กฎหมาย.”

คุณ​จะ​ตอบ​อย่าง​ไร?

▫ เพราะ​เหตุ​ใด​คริสเตียน​น่า​จะ​ต้องการ​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล?

▫ โดย​วิธี​ใด​พวก​ผู้​ปกครอง​จะ​เลียน​แบบ​พระ​เยซู​เกี่ยว​กับ​การ​พร้อม​จะ​ให้​อภัย?

▫ เหตุ​ใด​พวก​เรา​ควร​บากบั่น​จะ​ปรับ​เปลี่ยน​อย่าง​ที่​พระ​เยซู​ได้​กระทำ?

▫ เรา​จะ​แสดง​ความ​มี​เหตุ​ผล​อย่าง​ไร​เกี่ยว​ด้วย​วิธี​ที่​เรา​ใช้​อำนาจ?

▫ เรา​อาจ​ตรวจ​สอบ​ตัว​เอง​อย่าง​ไร​ว่า เรา​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล​จริง ๆ หรือ​ไม่?

[รูปภาพ​หน้า 15]

พระ​เยซู​ทรง​เต็ม​พระทัย​ให้​อภัย​เปโตร​ที่​กลับ​ใจ

[รูปภาพ​หน้า 16]

เมื่อ​ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง​แสดง​ความ​เชื่อ​มาก​พระ​เยซู​ทรง​เห็น​ว่า​ไม่​ใช่​เวลา​ที่​จะ​บังคับ​ให้​เป็น​ไป​ตาม​กฎเกณฑ์​ทั่ว​ไป

[รูปภาพ​หน้า 18]

บิดา​มารดา จง​ยอม​ฟัง!

[รูปภาพ​หน้า 18]

สามี​ทั้ง​หลาย จง​ยอม​ฟัง!

[รูปภาพ​หน้า 18]

ผู้​ปกครอง​ทั้ง​หลาย จง​ยอม​ฟัง!

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์