ผู้รับใช้ของพระเจ้า—ประชาชนที่ได้รับการจัดให้เป็นระเบียบและมีความสุข
“ชนประเทศที่นับถือพระยะโฮวาเป็นพระเจ้าของตนก็เป็นผาสุก!”—บทเพลงสรรเสริญ 144:15.
1, 2. (ก) เหตุใดพระยะโฮวามีสิทธิที่จะกำหนดมาตรฐานสำหรับผู้รับใช้ของพระองค์? (ข) คุณลักษณะพิเศษสองประการอะไรของพระยะโฮวาซึ่งเราควรปรารถนาเลียนแบบโดยเฉพาะ?
พระยะโฮวาทรงเป็นองค์บรมมหิศร พระเจ้าองค์ทรงฤทธานุภาพทุกประการ เป็นพระผู้สร้าง. (เยเนซิศ 1:1; บทเพลงสรรเสริญ 100:3) เหตุฉะนั้น พระองค์จึงมีสิทธิอันชอบธรรมในการกำหนดมาตรฐานความประพฤติสำหรับผู้รับใช้ของพระองค์ เพราะทรงทราบว่าอะไรดีที่สุดสำหรับเขา. (บทเพลงสรรเสริญ 143:8) และพระองค์ทรงเป็นตัวอย่างอันเลิศในด้านคุณลักษณะประการต่าง ๆ ซึ่งพวกเขาต้องเลียนแบบ. อัครสาวกคนหนึ่งเขียนดังนี้: “จงเป็นผู้เลียนแบบพระเจ้า ดังบุตรที่รัก.”—เอเฟโซ 5:1, ล.ม.
2 ลักษณะพิเศษประการหนึ่งของพระเจ้าซึ่งเราต้องเลียนแบบนั้นเกี่ยวข้องกับการจัดให้เป็นระเบียบ. พระองค์ ‘ไม่ใช่พระเจ้าแห่งความยุ่งเหยิง.’ (1 โกรินโธ 14:33, ล.ม.) เมื่อเราพิจารณาสิ่งที่พระเจ้าได้สร้างขึ้นอย่างถี่ถ้วนแล้ว เราจำต้องสรุปว่าพระองค์ทรงเป็นผู้มีระเบียบอย่างยิ่งในเอกภพ. อย่างไรก็ดี ลักษณะพิเศษอีกประการหนึ่งที่พระเจ้าทรงประสงค์จะให้ผู้รับใช้ของพระองค์เลียนแบบ คือความสุขของพระองค์ เพราะพระองค์ทรงเป็น “พระเจ้าผู้ประกอบด้วยความสุข.” (1 ติโมเธียว 1:11) ฉะนั้น พระปรีชาสามารถของพระองค์ในด้านการจัดให้เป็นระเบียบจึงได้ดุลยภาพกับความสุข. ลักษณะพิเศษอย่างหนึ่งจะไม่เด่นขึ้นมาจนทำให้ลักษณะอีกอย่างหนึ่งเสียไป.
3. ท้องฟ้าที่ดารดาษไปด้วยดาวแสดงอย่างไรว่าพระยะโฮวาทรงพระปรีชาสามารถในการจัดระเบียบ?
3 สรรพสิ่งที่พระยะโฮวาได้สร้าง จากสิ่งใหญ่โตที่สุดกระทั่งสิ่งที่เล็กที่สุด เป็นหลักฐานที่แสดงว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแห่งการจัดให้เป็นระเบียบ. เพื่อเป็นตัวอย่าง ให้เราพิจารณาเอกภพซึ่งประจักษ์แก่ตา. มีดวงดาวนับล้านล้านดวงในเอกภพ. แต่ดวงดาวทั้งปวงก็ใช่ว่ากระจัดกระจายอย่างไร้ระเบียบ. จอร์จ กรีนสไตน์ นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์ให้ข้อสังเกตว่ามี “รูปแบบที่แสดงถึงการจัดให้เป็นระเบียบในหมู่ดาว.” ดาวถูกจัดเป็นกลุ่มเรียกว่ากาแล็กซี บางกาแล็กซีประกอบด้วยดาวนับพันล้านดวง. และประมาณกันว่ามีนับพันล้านกาแล็กซีทีเดียว! กาแล็กซีต่าง ๆ ถูกจัดให้เป็นระเบียบเช่นกัน กาแล็กซีจำนวนหนึ่ง (ตั้งแต่ไม่กี่กาแล็กซีจนถึงหลายพันกาแล็กซี) ถูกจัดรวมเข้าด้วยกันเป็นคลัสเตอร์หรือกลุ่มกาแล็กซี. และเชื่อกันว่ากลุ่มกาแล็กซีทั้งหลายถูกรวบรวมเป็นหมวดหมู่ที่ใหญ่กว่านั้นอีก เรียกว่าซูเปอร์คลัสเตอร์.—บทเพลงสรรเสริญ 19:1; ยะซายา 40:25, 26.
4, 5. จงให้ตัวอย่างเกี่ยวกับการจัดระเบียบในท่ามกลางสิ่งมีชีวิตบนแผ่นดินโลก.
4 การจัดระเบียบอันเยี่ยมยอดเกี่ยวด้วยสรรพสิ่งที่พระเจ้าสร้างนั้นมองเห็นได้ทุกหนทุกแห่ง ไม่เพียงแต่บนท้องฟ้าที่ประจักษ์แก่ตา แต่บนแผ่นดินโลกเช่นกัน พร้อมด้วยสิ่งมีชีวิตมากมายมหาศาล. เกี่ยวกับสิ่งทั้งมวลนี้ พอล เดวีส์ ศาสตราจารย์ทางฟิสิกส์ได้เขียนว่าผู้เฝ้าสังเกต “รู้สึกพรั่นพรึง” เนื่องด้วย “การจัดระเบียบที่สง่างามและสลับซับซ้อนของโลกทางกายภาพ.”—บทเพลงสรรเสริญ 104:24.
5 จงพิจารณาสักสองสามตัวอย่างว่าด้วย “การจัดระเบียบที่สลับซับซ้อน” ซึ่งพบเห็นในสิ่งมีชีวิต. ประสาทศัลยแพทย์โจเซฟ อีวานส์ได้พูดถึงสมองมนุษย์และไขสันหลังดังนี้: “สภาพแท้แห่งความเป็นระเบียบที่ดีเลิศนั้นชวนให้ตกตะลึงทีเดียว.” เกี่ยวด้วยเซลล์ที่มีชีวิตที่ต้องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์จึงจะเห็นนั้น เอช. เจ. ชอเนสซี นักวิทยาแบคทีเรียกล่าวดังนี้: “ความซับซ้อนและความเป็นระเบียบที่งดงามแห่งโลกจุลินทรีย์ได้ถูกสร้างอย่างน่าพิศวงเสียจริง ๆ จึงดูเหมือนว่าเป็นส่วนหนึ่งแห่งระบบที่กำหนดไว้โดยพระเจ้า.” และไมเคิล เดนตัน นักชีววิทยาทางโมเลกุลพูดถึงรหัสพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) ภายในเซลล์หนึ่ง ๆ ว่า “มันมีประสิทธิภาพมากถึงขนาดว่าข้อมูลทุกอย่าง . . . อันจำเป็นต่อการกำหนดรูปแบบของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดซึ่งเคยมีอยู่บนดาวเคราะห์ดวงนี้ . . . รวมกันแล้วอาจได้แค่หนึ่งช้อนชา กระนั้น ก็ยังเหลือที่ว่างมากพอที่จะบรรจุข้อมูลทุกอย่างจากหนังสือทุกเล่มเท่าที่ได้เขียนขึ้นมา.”—บทเพลงสรรเสริญ 139:16.
6, 7. มีการจัดระเบียบเช่นไรปรากฏอยู่ท่ามกลางเหล่ากายวิญญาณ และโดยวิธีใดกายวิญญาณเหล่านั้นแสดงความหยั่งรู้ค่าต่อผู้ที่สร้างพวกเขาขึ้นมา?
6 พระยะโฮวาไม่เพียงแต่จัดระเบียบสรรพสิ่งที่พระองค์สร้างอันเป็นวัตถุเท่านั้น แต่พระองค์ยังได้จัดระเบียบบรรดาสิ่งที่พระองค์สร้างเป็นวิญญาณในสวรรค์ด้วย. ดานิเอล 7:10 แจ้งให้พวกเราทราบว่า ทูตสวรรค์ “นับล้านนับโกฏิยืนเฝ้าต่อหน้าพระที่นั่ง.” เหล่ากายวิญญาณประกอบด้วยฤทธิ์เดชนับร้อยล้านองค์เฝ้าชุมนุมเช่นนั้น แต่ละองค์รับมอบหน้าที่ทำงานอย่างเหมาะสม! น่าพิศวงเมื่อคิดถึงความเชี่ยวชาญด้านการจัดบุคลากรจำนวนมากมายขนาดนั้นให้เป็นระเบียบ. นับว่าเหมาะสมทีเดียวที่คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่า “ดูกรทูตสวรรค์ทั้งหลาย, จงสรรเสริญพระยะโฮวาเถิด, คือทูตผู้มีกำลังมาก, ผู้ปฏิบัติตามพระดำรัสของพระองค์, ผู้ที่คอยฟังพระสุรเสียงของพระองค์. ดูกรพลโยธาทั้งหลายของพระยะโฮวา, ที่รับใช้, และปฏิบัติตามพระทัย.”—บทเพลงสรรเสริญ 103:20, 21; วิวรณ์ 5:11.
7 ราชกิจของพระผู้สร้างช่างเป็นระเบียบอย่างดีเลิศและมีประสิทธิภาพอะไรเช่นนั้น! ไม่น่าประหลาดใจเลยเมื่อบรรดากายวิญญาณที่ทรงอิทธิฤทธิ์ในสวรรค์พากันร้องประกาศอย่างน่าประหวั่นพรั่นพรึงและด้วยท่าทีแสดงการยอมอยู่ในอำนาจดังนี้: “องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า, และพระเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย, พระองค์เป็นผู้สมควรจะรับสง่าราศีและยศศักดิ์และฤทธานุภาพ เพราะว่าพระองค์ได้ทรงสร้างสรรพสิ่ง, และสรรพสิ่งนั้นก็ได้อุบัติขึ้นแล้วตามชอบพระทัยของพระองค์.”—วิวรณ์ 4:11.
8. ตัวอย่างอะไรแสดงว่าพระยะโฮวาทรงจัดผู้รับใช้ของพระองค์ให้เป็นระเบียบบนแผ่นดินโลก?
8 พระยะโฮวาทรงจัดผู้รับใช้ของพระองค์บนแผ่นดินโลกให้เป็นระเบียบเช่นกัน. คราวที่พระองค์บันดาลให้มีน้ำท่วมโลกสมัยโนฮาในปี 2370 ก่อนสากลศักราช โนฮาและอีกเจ็ดคนรอดชีวิตผ่านน้ำท่วมมาได้เนื่องจากการรวบรวมเป็นครอบครัว. คราวการอพยพครั้งใหญ่ปี 1513 ก่อนสากลศักราช พระยะโฮวาได้ทรงนำไพร่พลของพระองค์หลายล้านคนพ้นจากฐานะทาสของชาวอียิปต์ และได้ประทานข้อกฎหมายที่แจกแจงอย่างละเอียดเพื่อพวกเขาจะได้จัดธุรกิจประจำวันและการนมัสการให้เป็นระเบียบ. เวลาต่อมา ณ แผ่นดินแห่งคำสัญญา พวกเขาหลายหมื่นคนถูกจัดให้เป็นระเบียบสำหรับการรับใช้พิเศษ ณ พระวิหาร. (1 โครนิกา 23:4, 5) ในศตวรรษแรก ได้มีการตั้งประชาคมคริสเตียนขึ้นอย่างเป็นระเบียบภายใต้การชี้นำของพระเจ้าดังนี้: “และพระองค์ได้ประทานบางคนให้เป็นอัครสาวก ให้บางคนเป็นผู้พยากรณ์ ให้บางคนเป็นผู้เผยแพร่กิตติคุณ ให้บางคนเป็นผู้บำรุงเลี้ยงและผู้สอน โดยมุ่งหมายที่จะปรับผู้บริสุทธิ์ให้เข้าที่อีกเพื่องานรับใช้.”—เอเฟโซ 4:11, 12, ล.ม.
ผู้รับใช้สมัยปัจจุบันถูกจัดให้เป็นระเบียบเช่นกัน
9, 10. พระยะโฮวาได้ทรงจัดไพร่พลของพระองค์ให้เป็นระเบียบในสมัยนี้อย่างไร?
9 ทำนองเดียวกัน พระยะโฮวาทรงจัดผู้รับใช้สมัยปัจจุบันอย่างเป็นระเบียบ เพื่อเขาจะทำงานของพระองค์สมัยนี้อย่างมีประสิทธิภาพ คืองานประกาศข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรของพระองค์ก่อนพระองค์จะทรงทำให้ระบบปัจจุบันซึ่งไม่เลื่อมใสพระเจ้าจะมาถึงอวสาน. (มัดธาย 24:14) จงพิจารณาสิ่งที่เกี่ยวข้องกับงานทั่วโลกนี้และการจัดระเบียบที่ดีมีความสำคัญเพียงไร. ชาย, หญิง, และเด็ก ๆ จำนวนหลายล้านคนได้รับการฝึกอบรมให้สอนความจริงจากพระคัมภีร์แก่คนอื่น. เพื่อช่วยในการฝึกอบรมเช่นนี้ จึงมีการพิมพ์คัมภีร์ไบเบิลและสรรพหนังสือคู่มือคัมภีร์ไบเบิลเป็นจำนวนมหาศาล. วารสารหอสังเกตการณ์ ตอนนี้พิมพ์ออก 118 ภาษา งวดละ 16 ล้านเล่ม และ ตื่นเถิด! พิมพ์ออกเป็นภาษาต่าง ๆ 73 ภาษา งวดละประมาณ 13 ล้านเล่ม. เกือบทุกภาษาจัดพิมพ์ออกเวลาเดียวกัน ทั้งนี้ก็เพื่อผู้รับใช้เกือบทั้งหมดของพระยะโฮวาจะได้รับความรู้อย่างเดียวกันและพร้อม ๆ กัน.
10 นอกจากนี้ ประชาคมพยานพระยะโฮวา 73,000 กว่าแห่งทั่วโลกถูกจัดให้มีระเบียบที่จะประชุมรับคำแนะนำด้านคัมภีร์ไบเบิลเป็นประจำ. (เฮ็บราย 10:24, 25) อนึ่ง แต่ละปีมีการประชุมใหญ่อีกหลายพันแห่ง เช่น การประชุมหมวด, การประชุมภาค. มีโครงการก่อสร้างกว้างขวางทั่วโลก ทั้งการสร้างหอประชุมใหม่ หรือการบูรณะซ่อมแซม, สร้างสถานที่สำหรับประชุมหมวด, บ้านเบเธล, และอาคารพิมพ์สรรพหนังสือเกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิล. มีโรงเรียนฝึกอบรมผู้สอนพระคัมภีร์ระดับสูง เช่น โรงเรียนว็อชเทาเวอร์ไบเบิลแห่งกิเลียดมีหลักสูตรอบรมมิชชันนารี และโรงเรียนไพโอเนียร์ ซึ่งเปิดสอนในหลายประเทศรอบโลก.
11. จะเกิดผลประโยชน์อะไรในอนาคตจากการเรียนรู้การจัดระเบียบอย่างดีเวลานี้?
11 พระยะโฮวาทรงจัดระเบียบไพร่พลของพระองค์บนแผ่นดินโลกเป็นอย่างดีเพียงไร เพื่อพวกเขาจะ ‘ทำงานรับใช้ให้ครบถ้วน’ โดยมีเหล่าทูตสวรรค์ที่ปรนนิบัติพระองค์หนุนหลัง! (2 ติโมเธียว 4:5, ล.ม.; เฮ็บราย 1:13, 14; วิวรณ์ 14:6) โดยการสั่งสอนผู้รับใช้ของพระองค์ให้รู้ถึงวิธีการจัดระเบียบที่ดีขณะนี้ พระเจ้าก็กำลังกระทำอีกบางสิ่งให้ลุล่วงไป. ผู้รับใช้ของพระองค์ได้รับการเตรียมตัวไว้เป็นอย่างดี เพื่อว่าเมื่อเขารอดชีวิตผ่านอวสานแห่งระบบนี้ เขาก็ได้รับการจัดระเบียบอยู่แล้วเพื่อเริ่มต้นชีวิตในโลกใหม่. ครั้นแล้ว ในวิธีที่จัดเป็นระเบียบภายใต้การชี้นำของพระยะโฮวา พวกเขาจะเริ่มงานปลูกสร้างอุทยานทั่วแผ่นดินโลก. นอกจากนี้ เขาจะได้เตรียมพร้อมเป็นอย่างดีที่จะสอนข้อเรียกร้องปลีกย่อยเพื่อจะมีชีวิตอยู่ให้แก่มนุษย์นับพัน ๆ ล้านด้วย ซึ่งจะได้รับการปลุกขึ้นจากตาย.—ยะซายา 11:9; 54:13; กิจการ 24:15; วิวรณ์ 20:12, 13.
ถูกจัดให้เป็นระเบียบ กระนั้นยังมีความสุข
12, 13. เพราะเหตุใดเราจึงกล่าวได้ว่าพระยะโฮวาทรงประสงค์จะให้ไพร่พลของพระองค์มีความสุข?
12 ขณะที่พระยะโฮวาทรงทำงานอย่างมหัศจรรย์ อีกทั้งทรงเป็นองค์ที่จัดให้เป็นระเบียบอย่างดีเยี่ยม แต่พระองค์ก็ไม่ได้เย็นชา, เข้มงวด, หรือแข็งกระด้างเหมือนเครื่องจักรกล. ตรงกันข้าม พระองค์ทรงเป็นบุคคลที่อบอุ่น, มีความสุข ซึ่งทรงใฝ่พระทัยในความสุขของเรา. ดัง 1 เปโตร 5:7 (ล.ม.) แจ้งไว้ว่า “พระองค์ทรงใฝ่พระทัยในท่านทั้งหลาย.” เราสามารถเข้าใจความใฝ่พระทัยและความประสงค์ที่จะให้ผู้รับใช้ของพระองค์มีความสุขจากสิ่งที่พระองค์ได้สร้างสรรค์ไว้สำหรับมนุษย์. อาทิ เมื่อพระเจ้าได้สร้างมนุษย์ชายหญิงที่สมบูรณ์ พระองค์จัดให้เขาอยู่ในอุทยานอันรื่นรมย์. (เยเนซิศ 1:26-31; 2:8, 9) พระองค์ได้ประทานสิ่งจำเป็นทุกอย่างเพื่อจะทำให้เขามีความสุขอย่างเต็มที่. ทว่าเขาได้สูญเสียทุกอย่างเพราะการไม่เชื่อฟัง. ผลสืบเนื่องจากบาปของเขา ความไม่สมบูรณ์และความตายจึงได้ตกทอดมาถึงพวกเรา.—โรม 3:23; 5:12.
13 ถึงแม้เวลานี้เราเป็นมนุษย์ไม่สมบูรณ์ แต่เราก็ยังหาความสุขได้จากสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้นมา. มีหลายสิ่งที่ทำให้เราได้รับความเพลิดเพลิน เช่น ภูเขาสูงตระหง่าน, ทะเลสาบ, แม่น้ำ, มหาสมุทรและหาดทรายที่งดงาม; ดอกไม้หลากสีส่งกลิ่นหอม ทั้งพืชผักนานาชนิดนับไม่ถ้วน; อาหารรสชาติดีมีอุดมสมบูรณ์; ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่น่าตื่นตาตื่นใจซึ่งเราไม่เคยเบื่อ; ท้องฟ้าดารดาษด้วยหมู่ดาวซึ่งยังใจเราให้เพลิดเพลินไปกับการคิดรำพึงยามค่ำคืน; บรรดาสัตว์มากมายหลายประเภทพร้อมกับลูกของมันที่น่าดึงดูดใจด้วยท่าทางขี้เล่นน่าขบขัน; เสียงดนตรีที่เป็นแรงบันดาลใจ; การงานอันน่าสนใจและให้ประโยชน์; เพื่อนที่ดี. ปรากฏชัดว่า ผู้จัดเตรียมสารพัดสิ่งดังกล่าวเป็นบุคคลที่ประกอบด้วยความสุขซึ่งชื่นชมกับการทำให้ผู้อื่นมีความสุข.
14. ในการเลียนแบบพระองค์ พระยะโฮวาทรงประสงค์ความสมดุลเช่นไรจากพวกเรา?
14 ดังนั้น เพียงแค่การจัดระเบียบอย่างมีประสิทธิภาพก็หาใช่สิ่งที่พระยะโฮวาทรงประสงค์ไม่. พระองค์ประสงค์ให้ผู้รับใช้ของพระองค์มีความสุขเช่นเดียวกันกับที่พระองค์มีความสุข. พระองค์ไม่พึงประสงค์จะให้พวกเขาหลงอยู่กับการจัดระเบียบสิ่งต่าง ๆ กระทั่งบั่นทอนความสุขของพวกเขา. ผู้รับใช้ของพระเจ้าต้องให้ทักษะการจัดระเบียบสมดุลกับความสุข อย่างที่พระองค์ทรงกระทำ เพราะพระวิญญาณบริสุทธิ์อันมีฤทธิ์เดชของพระองค์อยู่ที่ไหน ที่นั่นมีความยินดี. ตามจริงแล้ว ฆะลาเตีย 5:22 ระบุว่า ผลแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ประการที่สองที่ดำเนินกิจอยู่ท่ามกลางไพร่พลของพระองค์นั้นคือ “ความยินดี.”
ความรักก่อให้เกิดความสุข
15. เหตุใดความรักเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อความสุขของเรา?
15 เป็นเรื่องน่าสนใจอย่างยิ่งเมื่อสังเกตถ้อยคำในคัมภีร์ไบเบิลที่ว่า “พระเจ้าทรงเป็น ความรัก” (1 โยฮัน 4:8, 16) ไม่เคยปรากฏถ้อยคำว่า “พระเจ้าทรงเป็น การจัดระเบียบ.” ความรักเป็นคุณลักษณะสำคัญยิ่งของพระเจ้า และเหล่าผู้รับใช้ของพระเจ้าต้องเลียนแบบคุณลักษณะนี้. ด้วยเหตุผลนี้เอง “ความรัก” จึงเป็นผลแห่งพระวิญญาณอันดับแรก ต่อจากนั้นก็ตามด้วย “ความยินดี” ดังรายการในฆะลาเตีย 5:22. ความรักก่อให้เกิดความยินดี. เมื่อเราเลียนแบบความรักของพระยะโฮวาขณะที่เราติดต่อเกี่ยวข้องกับผู้อื่น ความสุขจะตามมา เพราะคนที่มีความรักเป็นคนมีความสุข.
16. พระเยซูแสดงให้เห็นความสำคัญของความรักอย่างไร?
16 การสั่งสอนของพระเยซูได้ทำให้ความสำคัญในการเลียนแบบความรักของพระเจ้าโดดเด่นขึ้นมา. พระองค์ตรัสดังนี้: “เราพูดสิ่งเหล่านี้ตามที่พระบิดาได้ทรงสอนเรา.” (โยฮัน 8:28, ล.ม.) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระบิดาทรงสอนอะไรให้แก่พระเยซู ซึ่งพระองค์ได้สอนเรื่องนั้นแก่คนอื่น? นั่นคือบัญญัติสองประการที่สำคัญยิ่งที่ให้รักพระเจ้าและรักเพื่อนบ้าน. (มัดธาย 22:36-39) พระเยซูทรงวางตัวอย่างด้วยการสำแดงความรักแบบนั้น. พระองค์ตรัสว่า “เรารักพระบิดา” และทรงพิสูจน์ข้อนี้ด้วยการทำตามพระทัยประสงค์ของพระเจ้ากระทั่งสิ้นพระชนม์. และพระองค์แสดงความรักต่อมนุษย์โดยทรงยอมวายพระชนม์เพื่อพวกเขา. อัครสาวกเปาโลกล่าวต่อคริสเตียนที่เมืองเอเฟโซว่า ‘พระคริสต์ทรงรักท่าน และทรงประทานพระองค์เพื่อท่าน.’ (โยฮัน 14:31; เอเฟโซ 5:2) เหตุฉะนั้น พระเยซูจึงตรัสแก่สาวกของพระองค์ว่า: “นี้แหละเป็นบัญญัติของเรา คือให้เจ้าทั้งหลายรักซึ่งกันและกันเหมือนที่เราได้รักเจ้า.”—โยฮัน 15:12, 13, ล.ม.
17. เปาโลชี้แจงอย่างไรว่า การแสดงความรักต่อคนอื่นเป็นเรื่องสำคัญ?
17 เปาโลได้แสดงให้เห็นว่า ความรักของพระเจ้านั้นสำคัญเพียงไร โดยกล่าวว่า “ถ้าข้าพเจ้าพูดภาษามนุษย์ก็ดี ภาษาทูตสวรรค์ก็ดี แต่ไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็เป็นเหมือนฉาบหรือฉิ่งที่กำลังส่งเสียง. และถ้าข้าพเจ้ามีของประทานกล่าวคำพยากรณ์ได้ และเข้าใจในข้อลึกลับอันศักดิ์สิทธิ์ และมีความรู้ทั้งสิ้น แม้ข้าพเจ้ามีความเชื่อทั้งสิ้นพอจะโยกย้ายภูเขาได้ แต่ไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็ไม่เป็นอะไรเลย. และแม้ข้าพเจ้าจะบริจาคสมบัติทั้งสิ้นของข้าพเจ้าเพื่อเลี้ยงคนอื่น และแม้ข้าพเจ้าจะสละร่างกายเสีย เพื่อข้าพเจ้าอาจอวดได้ แต่ไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็ไม่ได้รับประโยชน์เลย. . . . อย่างไรก็ตาม บัดนี้ยังคงมีความเชื่อ, ความหวัง, ความรัก, สามอย่างนี้; แต่ที่ใหญ่ที่สุดคือความรัก.”—1 โกรินโธ 13:1-3, 13, ล.ม.
18. เราอาจคาดหมายอะไรจากพระยะโฮวา ซึ่งเพิ่มความสุขแก่เรา?
18 เมื่อเราเลียนแบบความรักของพระยะโฮวา เราสามารถมั่นใจได้ว่า พระองค์ทรงรักพวกเรา แม้ยามที่เราทำผิดพลาด เพราะพระองค์ทรงเป็น “พระเจ้าผู้ทรงเมตตากรุณา, ผู้ทรงอดพระทัยได้นาน, และบริบูรณ์ด้วยความดีและความจริง.” (เอ็กโซโด 34:6) หากเรากลับใจด้วยใจจริงเมื่อเราทำผิด พระเจ้าไม่ทรงถือโทษ แต่ทรงโปรดให้อภัยพวกเราด้วยพระทัยรักใคร่. (บทเพลงสรรเสริญ 103:1-3) ใช่แล้ว “พระยะโฮวาทรงเปี่ยมไปด้วยความรักใคร่อันละมุนละไมและเมตตา.” (ยาโกโบ 5:11, ล.ม.) การรู้เช่นนี้ส่งเสริมความสุขของเรา.
ความสุขในระดับหนึ่งเวลานี้
19, 20. (ก) เหตุใดความสุขครบถ้วนทุกประการจึงไม่อาจเป็นไปได้ในเวลานี้? (ข) คัมภีร์ไบเบิลชี้แจงอย่างไรว่าขณะนี้เราสามารถมีความสุขได้ระดับหนึ่ง?
19 อย่างไรก็ดี เป็นไปได้ไหมที่จะมีความสุขเวลานี้ เนื่องจากเราอยู่ในสมัยสุดท้ายของโลกที่เต็มไปด้วยอาชญากรรม, ความรุนแรง, จริยธรรมเสื่อม โลกซึ่งอยู่ภายใต้ซาตาน ที่ซึ่งเราต้องเผชิญความเจ็บป่วยและความตาย? แน่นอน เราไม่ได้คาดหวังความสุขเต็มที่อย่างที่จะพบในโลกใหม่ของพระเจ้า ตามการบอกล่วงหน้าในพระคำของพระองค์ดังนี้: “เพราะนี่แน่ะ เรากำลังสร้างฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่; และสิ่งก่อนนั้นจะไม่ระลึกถึงอีก ทั้งจะไม่คำนึงถึงในหัวใจ. แต่ท่านทั้งหลาย จงยินดีปรีดา และจงปีติชื่นชมตลอดไป ในสิ่งที่เรากำลังสร้างอยู่นั้น.”—ยะซายา 65:17, 18, ล.ม.
20 สิ่งที่ผู้รับใช้ของพระเจ้าจะมีได้ในเวลานี้คือความสุขระดับหนึ่ง เนื่องจากเขารู้จักพระทัยประสงค์ของพระองค์และรู้ถ่องแท้เรื่องพระพรต่าง ๆ ที่น่าพิศวงซึ่งอีกไม่นานจะแพร่หลายในโลกใหม่ของพระองค์ที่จะเป็นอุทยาน. (โยฮัน 17:3; วิวรณ์ 21:4, ล.ม.) นี้แหละคือเหตุผลที่คัมภีร์ไบเบิลกล่าวดังนี้: “ข้าแต่พระยะโฮวาแห่งพลโยธา, คนที่วางใจในพระองค์ก็เป็นผาสุก” “ทุก ๆ คนที่เกรงกลัวพระยะโฮวา, และที่ดำเนินตามมรคาของพระองค์, ก็เป็นผาสุก” “ความสุขมีแก่คนอ่อนโยน เพราะว่าเขาจะได้รับแผ่นดินโลกเป็นมรดก.” (บทเพลงสรรเสริญ 84:12; 128:1; มัดธาย 5:5, ล.ม.) ฉะนั้น ถึงแม้เราจำต้องยอมทนรับมือกับสภาพการณ์ที่ยากลำบากสมัยปัจจุบัน แต่เราก็ยังมีความสุขไม่น้อย. มาตรว่าสิ่งร้าย ๆ เกิดขึ้นกับเรา เราจะไม่รู้สึกเศร้าสลดเหมือนคนเหล่านั้นที่ไม่รู้จักพระยะโฮวาและเป็นผู้ที่ไม่มีความหวังจะได้ชีวิตนิรันดร์.—1 เธซะโลนิเก 4:13.
21. ทำไมการที่ผู้รับใช้ของพระยะโฮวาได้เสียสละเวลา, กำลังเรี่ยวแรง, และโภคทรัพย์จึงเป็นส่วนเพิ่มความสุขให้แก่ตนเอง?
21 อนึ่ง ความสุขเกิดขึ้นกับผู้รับใช้ของพระยะโฮวาเนื่องจากเขาใช้เวลา, กำลังวังชา, และโภคทรัพย์เพื่อสอนคนอื่นให้รู้ความจริงจากคัมภีร์ไบเบิล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้คนที่ “ร้องครางเพราะความชั่วลามกทั้งปวง” ที่กระทำกันอยู่ในโลกของซาตาน. (ยะเอศเคล 9:4) คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “ผู้ใดที่ใส่ใจในพวกคนจนก็เป็นสุข: พระยะโฮวาจะทรงช่วยผู้นั้นให้พ้นในวันร้าย. พระยะโฮวาจะทรงรักษาเขาไว้ให้เขาคงชีพอยู่, เขาจะรอรับพระพรบนแผ่นดิน.” (บทเพลงสรรเสริญ 41:1, 2) ดังพระเยซูตรัสไว้ว่า “การให้ทำให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ.”—กิจการ 20:35, ล.ม.
22. (ก) เกี่ยวกับความสุข จงเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างระหว่างผู้รับใช้ของพระเจ้ากับผู้คนที่ไม่ปฏิบัติพระองค์. (ข) ด้วยเหตุผลอะไรโดยเฉพาะที่เราควรคาดหมายจะมีความสุข?
22 ดังนั้น ขณะที่ผู้รับใช้ของพระเจ้าไม่ได้คาดหมายจะมีความสุขเลอเลิศในยุคปัจจุบัน กระนั้น เขาก็อาจมีความสุขซึ่งคนเหล่านั้นที่ไม่ปฏิบัติพระเจ้าไม่มี. พระยะโฮวาทรงแถลงดังนี้: “ดูเถิด ผู้รับใช้ของเราจะโห่ร้องด้วยความดีใจ, แต่พวกเจ้าจะร้องไห้ด้วยความเสียใจ, และจะพิลาปร่ำไห้เพราะจิตใจชอกช้ำ.” (ยะซายา 65:14) อนึ่ง คนเหล่านั้นที่ปฏิบัติพระเจ้ามีเหตุผลพิเศษที่มีความสุขขณะนี้คือพวกเขามีพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าซึ่ง “พระเจ้าประทานให้แก่คนเหล่านั้นที่เชื่อฟังพระองค์ในฐานะเป็นผู้ครอบครอง.” (กิจการ 5:32, ล.ม.) และอย่าลืมว่า ที่ไหนมีพระวิญญาณของพระเจ้า ที่นั่นมีความสุข.—ฆะลาเตีย 5:22.
23. การศึกษาครั้งต่อไปเราจะพิจารณาเรื่องอะไร?
23 ในองค์การแห่งผู้รับใช้ของพระเจ้าสมัยนี้ บรรดา “ผู้เฒ่าผู้แก่” หรือผู้ปกครองซึ่งนำหน้าในประชาคม ต่างก็มีบทบาทสำคัญซึ่งเอื้ออำนวยให้เกิดความสุขแก่ไพร่พลของพระยะโฮวา. (ติโต 1:5) บุคคลต่าง ๆ ดังกล่าวควรมีทัศนะเช่นไรต่อหน้าที่รับผิดชอบของตนและความสัมพันธ์ที่มีต่อพี่น้องชายหญิงฝ่ายวิญญาณ? เราจะพิจารณาเรื่องนี้ในบทความถัดไป.
คุณจะตอบอย่างไร?
▫ สรรพสิ่งที่พระเจ้าสร้างให้หลักฐานอย่างไรว่าพระยะโฮวาทรงมีระเบียบ?
▫ พระยะโฮวาได้ทรงจัดผู้รับใช้ของพระองค์อย่างเป็นระเบียบทั้งในอดีตและปัจจุบันอย่างไร?
▫ พระยะโฮวาทรงประสงค์ให้พวกเราแสดงความสมดุลในเรื่องใด?
▫ ความรักเป็นสิ่งสำคัญอย่างไรต่อความสุขของเรา?
▫ ความสุขแบบไหนซึ่งเราอาจคาดหมายได้ในสมัยนี้?
[ที่มาของภาพหน้า 10]
Top: Courtesy of ROE/Anglo-Australian Observatory, photograph by Davin Malin