ห้องสมุดออนไลน์ของวอชเทาเวอร์
ห้องสมุดออนไลน์
ของวอชเทาเวอร์
ไทย
  • คัมภีร์ไบเบิล
  • สิ่งพิมพ์
  • การประชุม
  • ห95 1/9 น. 22-26
  • “ความรักไม่ล้มเหลวเลย”

ไม่มีวีดีโอสำหรับรายการนี้

ขออภัย โหลดวีดีโอนี้ไม่ได้

  • “ความรักไม่ล้มเหลวเลย”
  • หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 1995
  • หัวเรื่องย่อย
  • เรื่องที่คล้ายกัน
  • จัด​กลุ่ม​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ขึ้น
  • การ​ต่อ​ต้าน​จาก​พวก​นัก​เทศน์
  • กิจการ​งาน​ประกาศ​ของ​เรา
  • ช่วง​สงคราม
  • มาตรฐาน​ของ​พระ​ยะโฮวา​เรื่อง​การ​สมรส​ถูก​ทำ​ให้​กระจ่าง
  • สิทธิ​พิเศษ​ใน​การ​รับใช้
  • รัก​แท้​ไม่​เคย​ล้มเหลว
  • ผมเคยเป็นบุตรผู้สุรุ่ยสุร่าย
    ตื่นเถิด! 2006
  • ครอบครัวที่รักผมอย่างแท้จริง
    ตื่นเถิด! 1995
  • ความอิ่มใจด้วยความเลื่อมใสในพระเจ้าได้ค้ำจุนผมเสมอมา
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 2004
  • มรดกคริสเตียนที่มากมายทำให้ชีวิตผมมีความสุขและประสบความสำเร็จ
    หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา (ศึกษา) 2019
หอสังเกตการณ์ประกาศราชอาณาจักรของพระยะโฮวา 1995
ห95 1/9 น. 22-26

“ความ​รัก​ไม่​ล้มเหลว​เลย”

เล่า​โดย ซามูเอล ดี. ลาเดซูยิ

ผม​รู้สึก​ทึ่ง​เมื่อ​ย้อน​คิด​ถึง​ช่วง​หลาย​ปี​ที่​ผ่าน​มา และ​เห็น​ทุก​สิ่ง​ที่​สัมฤทธิผล. พระ​ยะโฮวา​ทรง​ทำ​สิ่ง​น่า​มหัศจรรย์​ทั่ว​แผ่นดิน​โลก. ที่​เมือง​อิเลชา ประเทศ​ไนจีเรีย ไม่​กี่​คน​ใน​พวก​เรา​ซึ่ง​เริ่ม​ประกาศ​เมื่อ​ปี 1931 ได้​กลาย​เป็น 36 ประชาคม. ผู้​เผยแพร่​ประมาณ 4,000 คน​ใน​ไนจีเรีย​ตอน​ที่​ผู้​สำเร็จ​การ​ศึกษา​พวก​แรก​จาก​โรง​เรียน​ว็อชเทาเวอร์​ไบเบิล​แห่ง​กิเลียด​มา​ถึง​ใน​ปี 1947 นั้น ได้​ทวี​ขึ้น​เป็น 180,000 กว่า​คน. ใน​ตอน​แรก ๆ เรา​ไม่​ได้​คาด​หมาย​หรือ​แม้​แต่​นึก​ฝัน​ว่า​จะ​มี​การ​เพิ่ม​พูน​ถึง​ขนาด​นี้. ผม​รู้สึก​ขอบคุณ​สัก​เพียง​ไร​ที่​มี​ส่วน​ใน​งาน​อัน​วิเศษ​นี้! ขอ​ผม​เล่า​ให้​คุณ​ฟัง.

คุณ​พ่อ​ผม​เร่​ขาย​ปืน​และ​ดิน​ปืน​ไป​ตาม​เมือง​ต่าง ๆ ท่าน​ไม่​ค่อย​จะ​อยู่​บ้าน. เท่า​ที่​ผม​ทราบ​ท่าน​มี​ภรรยา​เจ็ด​คน แต่​ไม่​ใช่​ทุก​คน​อยู่​กับ​ท่าน. คุณ​พ่อ​ได้​รับ​เอา​คุณ​แม่​ของ​ผม​เป็น​ภรรยา​ต่อ​จาก​พี่​ชาย​ท่าน ซึ่ง​เสีย​ชีวิต​ไป. คุณ​แม่​เป็น​ภรรยา​คน​ที่​สอง​ของ​ท่าน และ​ผม​อยู่​กับ​คุณ​แม่.

วัน​หนึ่ง คุณ​พ่อ​กลับ​บ้าน​หลัง​จาก​ไป​เยี่ยม​ภรรยา​คน​แรก ซึ่ง​อาศัย​อยู่​ใน​หมู่​บ้าน​ใกล้​เคียง. ขณะ​อยู่​ที่​นั่น ท่าน​ได้​ทราบ​ว่า พี่​ชาย​ต่าง​แม่​ของ​ผม​เข้า​โรง​เรียน. เขา​อายุ​สิบ​ขวบ​เท่า​ผม. ดัง​นั้น คุณ​พ่อ​จึง​ตัดสิน​ใจ​ว่า ผม​ต้อง​เข้า​โรง​เรียน​ด้วย​เช่น​กัน. ท่าน​ให้​เงิน​ผม​เก้า​เพนซ์—สาม​เพนซ์​สำหรับ​หนังสือ​เรียน และ​หก​เพนซ์​สำหรับ​กระดาน​ชนวน. นั่น​เป็น​ปี 1924.

จัด​กลุ่ม​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ขึ้น

ตั้ง​แต่​เป็น​เด็ก ผม​ชอบ​คัมภีร์​ไบเบิล พระ​คำ​ของ​พระเจ้า. ผม​ชอบ​เรียน​คัมภีร์​ไบเบิล​ใน​โรง​เรียน และ​ได้​รับ​คำ​ชมเชย​จาก​ครู​ใน​โรง​เรียน​รวีวารศึกษา​เสมอ. ดัง​นั้น ใน​ปี 1930 ผม​จึง​ฉวย​โอกาส​เข้า​ฟัง​คำ​บรรยาย​โดย​นัก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ผู้​มา​เยือน ซึ่ง​เป็น​คน​แรก ๆ คน​หนึ่ง​ที่​ประกาศ​ใน​เมือง​อิเลชา. หลัง​จาก​คำ​บรรยาย ผม​รับ​หนังสือ​พิณ​ของ​พระเจ้า ภาษา​ยอรูบา​เล่ม​หนึ่ง.

ผม​ไป​โรง​เรียน​รวีวารศึกษา​เป็น​ประจำ. ตอน​นี้ ผม​เริ่ม​เอา​หนังสือ​พิณ​ของ​พระเจ้า ติด​ตัว​ไป​ด้วย และ​ใช้​ใน​การ​แย้ง​หลัก​คำ​สอน​บาง​อย่าง​ซึ่ง​สอน​ที่​นั่น. ผล​ก็​คือ​มี​การ​โต้​เถียง​กัน และ​ผม​ถูก​เตือน​บ่อย ๆ จาก​ผู้​นำ​คริสตจักร​ไม่​ให้​ติด​ตาม ‘คำ​สอน​ใหม่’ นี้.

ใน​ปี​ต่อ​มา ขณะ​เดิน​เล่น​ไป​ตาม​ถนน ผม​พบ​กลุ่ม​คน​กำลัง​ฟัง​ชาย​ผู้​หนึ่ง​บรรยาย. ผู้​บรรยาย​คือ เจ. ไอ. โอเวนพา นัก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล. เขา​ถูก​ส่ง​ไป​ที่​นั่น​โดย​วิลเลียม อาร์. บราวน์ (มัก​ถูก​เรียก​ว่า ไบเบิล บราวน์) ซึ่ง​ดู​แล​งาน​ประกาศ​ข่าว​ราชอาณาจักร​จาก​เมือง​ลากอส.a ผม​ได้​ทราบ​ว่า มี​การ​ตั้ง​กลุ่ม​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กลุ่มเล็ก ๆ ใน​อิเลชา เพื่อ​ศึกษา​หนังสือ​พิณ​ของ​พระเจ้า ดัง​นั้น ผม​จึง​เข้า​ร่วม​ด้วย.

ผม​อายุ​น้อย​ที่​สุด​ใน​กลุ่ม—เป็น​เพียง​เด็ก​นัก​เรียน อายุ​ราว 16 ปี. ปกติ​ผม​จะ​อาย ถึง​กับ​กลัว​ที่​จะ​คบหา​สนิทสนม​กับ​ผู้​ใหญ่​วัย 30 เศษ​หรือ​มาก​กว่า​นั้น. แต่​พวก​เขา​ดีใจ​มาก​ที่​มี​ผม​อยู่​ด้วย และ​พวก​เขา​หนุน​กำลังใจ​ผม. พวก​เขา​เป็น​เหมือน​พ่อ​สำหรับ​ผม.

การ​ต่อ​ต้าน​จาก​พวก​นัก​เทศน์

ไม่​นาน เรา​เริ่ม​เผชิญ​การ​ต่อ​ต้าน​อย่าง​หนัก​จาก​พวก​นัก​เทศน์. คาทอลิก, แองกลิกัน, และ​พวก​อื่น ๆ ซึ่ง​เคย​สู้​รบ​ตบ​มือ​กัน ตอน​นี้​กลับ​รวมหัว​กัน​ต่อ​ต้าน​เรา. พวก​เขา​คบ​คิด​กับ​พวก​หัวหน้า​เผ่า​เพื่อ​ดำเนิน​การ​ขัด​ขวาง​เรา. พวก​เขา​ส่ง​ตำรวจ​มา​ยึด​หนังสือ​ของ​เรา อ้าง​ว่า​หนังสือ​พวก​นั้น​เป็น​อันตราย​ต่อ​ประชาชน. อย่าง​ไร​ก็​ตาม นาย​อำเภอ​เตือน​ว่า พวก​เขา​ไม่​มี​สิทธิ์​ที่​จะ​ยึด​หนังสือ​เหล่า​นั้น และ​สอง​สัปดาห์​ต่อ​มา ก็​มี​การ​ส่ง​หนังสือ​คืน​มา.

หลัง​จาก​เหตุ​การณ์​นี้ เรา​ถูก​เรียก​ตัว​ให้​เข้า​พบ​โอบา หรือ​หัวหน้า​ใหญ่ พร้อม​ด้วย​คน​ใหญ่​คน​โต​อื่น ๆ ใน​เมือง​นั้น. เรา​มี​กัน​ประมาณ 30 คน​ใน​ตอน​นั้น. ความ​มุ่ง​หมาย​ก็​เพื่อ​ให้​เรา​เลิก​อ่าน​หนังสือ “อันตราย” เหล่า​นั้น. พวก​เขา​ถาม​ว่า เรา​เป็น​คน​ต่าง​ถิ่น​หรือ​เปล่า แต่​เมื่อ​เขา​พินิจ​ใบ​หน้า​ของ​เรา เขา​พูด​ว่า “พวก​นี้​ก็​เป็น​ลูก​หลาน​ของ​เรา​นี่ แต่​ก็​มี​คน​ต่าง​ถิ่น​อยู่​ด้วย.” เขา​บอก​ว่า เขา​ไม่​อยาก​ให้​เรา​ศึกษา​หนังสือ​ศาสนา​พวก​นั้น​ต่อ​ไป ซึ่ง​จะ​เป็น​อันตราย​ต่อ​เรา.

เรา​กลับ​บ้าน​โดย​ไม่​พูด​อะไร เนื่อง​จาก​ได้​ตัดสิน​ใจ​แล้ว​ว่า​จะ​ไม่​ใส่​ใจ​กับ​คน​ใหญ่​คน​โต​เหล่า​นั้น. พวก​เรา​ส่วน​ใหญ่​สุข​ใจ​มาก​กับ​สิ่ง​ที่​ได้​เรียน​รู้ และ​ตั้งใจ​แน่วแน่​ที่​จะ​ศึกษา​ต่อ ๆ ไป. ดัง​นั้น แม้​มี​บาง​คน​เริ่ม​หวาด​กลัว​และ​ถอน​ตัว​จาก​กลุ่ม​ของ​เรา พวก​เรา​ส่วน​ใหญ่​ยัง​คง​ศึกษา​ต่อ​ไป​ใน​ห้อง​ทำ​งาน​ของ​ช่าง​ไม้. เรา​ไม่​มี​ผู้​นำ​การ​ศึกษา. เรา​เริ่ม​ด้วย​คำ​อธิษฐาน​และ​จาก​นั้น​ก็​เพียง​แต่​ผลัด​กัน​อ่าน​วรรค​ต่าง ๆ ของ​หนังสือ. หลัง​จาก​นั้น​ประมาณ​หนึ่ง​ชั่วโมง เรา​อธิษฐาน​อีก​ครั้ง​หนึ่ง แล้ว​ก็​กลับ​บ้าน. แต่​เรา​ถูก​แอบ​เฝ้า​ดู และ​หัวหน้า​กับ​ผู้​นำ​ทาง​ศาสนา​ยัง​คง​เรียก​เรา​เข้า​พบ​ทุก​สอง​สัปดาห์​และ​เตือน​ไม่​ให้​ศึกษา​หนังสือ​ของ​พวก​นัก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล.

ใน​ระหว่าง​นั้น เรา​พยายาม​ใช้​ความ​รู้​อัน​น้อย​นิด​ที่​มี​อยู่​ใน​การ​ช่วย​ผู้​คน และ​หลาย​คน​เห็น​พ้อง​กับ​เรา. มี​คนเข้า​ร่วม​กับ​เรา​ที​ละ​คน ๆ. เรา​ดีใจ​มาก แต่​ก็​ยัง​ไม่​ทราบ​อะไร​มาก​เกี่ยว​กับ​ศาสนา​ที่​เรา​กำลัง​สมทบ​อยู่.

ตอน​ต้น​ปี 1932 พี่​น้อง​ชาย​คน​หนึ่ง​จาก​เมือง​ลากอส​ก็​มา เพื่อ​ช่วย​เรา​ใน​การ​จัด​ให้​เป็น​ระเบียบ และ​ใน​เดือน​เมษายน “ไบเบิล” บราวน์​ก็​มา​ด้วย. เมื่อ​เห็น​ว่า​มี​กลุ่ม​ที่​มี​จำนวน​ประมาณ 30 คน บราเดอร์​บราวน์​จึง​สอบ​ถาม​ถึง​ความ​ก้าว​หน้า​ของ​เรา​ใน​การ​อ่าน. เรา​บอก​เขา​ทั้ง​หมด​ที่​เรา​รู้. เขา​บอก​ว่า เรา​พร้อม​ที่​จะ​รับ​บัพติสมา​ได้.

เนื่อง​จาก​เป็น​หน้า​แล้ง เรา​ต้อง​เดิน​ทาง​ไป​ยัง​แม่น้ำ​สาย​หนึ่ง​ซึ่ง​ห่าง​จาก​เมือง​อิเลชา 14 กิโลเมตร​และ​พวก​เรา​ประมาณ 30 คน​รับ​บัพติสมา. ตั้ง​แต่​นั้น​มา เรา​ถือ​ว่า​ตน​เป็น​ผู้​ประกาศ​ข่าว​ราชอาณาจักร และ​เริ่ม​ไป​ตาม​บ้าน. เรา​ไม่​ได้​คาด​คิด​ที่​จะ​ทำ​เช่น​นี้​มา​ก่อน แต่​เวลา​นี้​เรา​กระตือรือร้น​ที่​จะ​แบ่ง​ปัน​สิ่ง​ที่​รู้​กับ​ผู้​อื่น. เรา​ต้อง​เตรียม​ตัว​เป็น​อย่าง​ดี​เพื่อ​จะ​มี​แหล่ง​สนับสนุน​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​ใน​การ​หักล้าง​หลัก​คำ​สอน​เท็จ​ที่​เรา​เผชิญ. ดัง​นั้น ใน​การ​ประชุม เรา​พิจารณา​หลัก​คำ​สอน​ต่าง ๆ เป็น​การ​ช่วย​กัน​และ​กัน​ใน​สิ่ง​ที่​เรา​รู้.

กิจการ​งาน​ประกาศ​ของ​เรา

เรา​ประกาศ​ทั่ว​ทั้ง​เมือง. ผู้​คน​เยาะเย้ย​เรา​และ​ร้อง​ตะโกน​ใส่​แต่​เรา​ไม่​ใส่​ใจ. ความ​ยินดี​ของ​เรา​นั้น​มี​มาก​มาย เพราะ​เรา​มี​ความ​จริง แม้​ยัง​มี​อีก​มาก​ที่​ยัง​ต้อง​เรียน​รู้.

เรา​ไป​ตาม​บ้าน​ทุก​วัน​อาทิตย์. ผู้​คน​จะ​ถาม​คำ​ถาม และ​เรา​ก็​พยายาม​ตอบ​คำ​ถาม. ทุก​เย็น​วัน​อาทิตย์ เรา​มี​คำ​บรรยาย​สาธารณะ. เรา​ไม่​มี​หอ​ประชุม ดัง​นั้น จึง​จัด​การ​ประชุม​กลางแจ้ง. เรา​รวบ​รวม​คน​เข้า​มา, ให้​คำ​บรรยาย, และ​เชิญ​พวก​เขา​ให้​ถาม​คำ​ถาม. บาง​ครั้ง เรา​ประกาศ​ตาม​โบสถ์.

เรา​ยัง​เดิน​ทาง​ไป​ยัง​บริเวณ​ที่​ผู้​คน​ไม่​เคย​ได้​ยิน​เกี่ยว​กับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​มา​ก่อน. ส่วน​ใหญ่​แล้ว เรา​ขี่​จักรยาน​ไป แต่​บาง​ครั้ง​ก็​เช่า​รถ​โดยสาร. เมื่อ​ไป​ถึง​หมู่​บ้าน เรา​จะ​เป่า​แตร​เสียง​ดัง. ทั้ง​หมู่​บ้าน​จะ​ได้​ยิน! ผู้​คน​ก็​รีบ​กรู​กัน​มา​ดู​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น. แล้ว​เรา​ก็​บอก​ข่าวสาร​ของ​เรา. เมื่อ​เรา​บอก​เสร็จ ผู้​คน​ก็​แย่ง​กัน​รับ​หนังสือ. เรา​จำหน่าย​ได้​มาก​มาย.

เรา​คาด​หมาย​อย่าง​กระตือรือร้น​ถึง​การ​มา​แห่ง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า. ผม​จำ​ได้​ว่า เมื่อ​เรา​ได้​รับ​หนังสือ​ประจำ​ปี 1935 บราเดอร์​คน​หนึ่ง​เมื่อ​เห็น​ตาราง​พิจารณา​ข้อ​คัมภีร์​สำหรับ​ทั้ง​ปี ได้​ถาม​ว่า “นี่​หมาย​ความ​ว่า เรา​จะ​ต้อง​อยู่​อีก​หนึ่ง​ปี​เต็ม ๆ ก่อน​ที่​อาร์มาเก็ดดอน​จะ​มา​อย่าง​นั้น​หรือ?”

ใน​การ​ตอบ ผู้​นำ​การ​ศึกษา​ถาม​ว่า “บราเดอร์ คุณ​คิด​ว่า​ถ้า​อาร์มาเก็ดดอน​มา​วัน​พรุ่ง​นี้ เรา​จะ​หยุด​อ่าน​หนังสือ​ประจำ​ปี อย่าง​นั้น​หรือ?” เมื่อ​พี่​น้อง​ชาย​คน​นั้น​บอก​ว่า​ไม่ ผู้​นำ​การ​ศึกษา​กล่าว​ว่า “ถ้า​เช่น​นั้น คุณ​จะ​กังวล​ไป​ทำไม?” เรา​เคย​อยาก​ให้​วัน​ของ​พระ​ยะโฮวา​มา​ถึง​เหลือ​เกิน​และ​ยัง​คง​อยาก​ให้​เป็น​เช่น​นั้น.

ช่วง​สงคราม

ใน​ช่วง​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่​สอง มี​การ​ห้าม​นำ​เข้า​หนังสือ​ของ​เรา. พี่​น้อง​ชาย​คน​หนึ่ง​ใน​อิเลชา​หยิบ​หนังสือ​ความ​มั่งคั่ง ให้​ตำรวจ​คน​หนึ่ง​ดู​โดย​ไม่​ตั้งใจ. ตำรวจ​คน​นั้น​ถาม​ว่า “ใคร​เป็น​เจ้าของ​หนังสือ​เล่ม​นี้?” พี่​น้อง​ชาย​คน​นั้นบอก​ว่า​เป็น​ของ​เขา​เอง. ตำรวจ​บอก​ว่า​นั่น​เป็น​หนังสือ​ต้อง​ห้าม, จับ​เขา​ไป​สถานี​ตำรวจ, และ​คุม​ขัง​เขา​ไว้.

ผม​ไป​สถานี​ตำรวจ​และ​หลัง​จาก​สอบ​ถาม ก็​ประกัน​ตัว​พี่​น้อง​ชาย​คน​นั้น​ออก​มา. จาก​นั้น ผม​โทรศัพท์​ถึง​บราเดอร์​บราวน์​ใน​ลากอส เพื่อ​แจ้ง​ให้​เขา​ทราบ​ถึง​สิ่ง​ที่​ได้​เกิด​ขึ้น. ผม​ยัง​ถาม​ด้วย​ว่า มี​กฎหมาย​อะไร​ที่​ห้าม​การ​นำ​หนังสือ​ของ​เรา​ออก​จำหน่าย​หรือ​ไม่. บราเดอร์​บราวน์​บอก​ผม​ว่า มี​เพียง​การ​นำ​เข้า​หนังสือ​ของ​เรา​ที่​ถูก​ห้าม ไม่​ใช่​การ​นำ​ออก​จำหน่าย. สาม​วัน​ต่อ​มา บราเดอร์​บราวน์​ส่ง​พี่​น้อง​ชาย​คน​หนึ่ง​จาก​ลากอส​มา​ดู​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น. บราเดอร์​คน​นี้​ตัดสิน​ว่า พวก​เรา​ทุก​คน​ควร​ออก​ไป​ประกาศ​ใน​วัน​รุ่ง​ขึ้น​พร้อม​ด้วย​วารสาร​และ​หนังสือ.

เรา​ก็​แยก​กัน​ไป​คน​ละ​ทิศ​คน​ละ​ทาง. หลัง​จาก​นั้น​ประมาณ​หนึ่ง​ชั่วโมง ก็​มี​ข่าว​มา​ถึง​ผม​ว่า​พี่​น้อง​ส่วน​ใหญ่​ถูก​จับ. ดัง​นั้น พี่​น้อง​ที่​มา​เยี่ยม​และ​ผม​จึง​ไป​ที่​สถานี​ตำรวจ. ตำรวจ​ไม่​ยอม​ฟัง​คำ​ชี้​แจง​ของ​เรา​ที่​ว่า หนังสือ​พวก​นั้น​ไม่​ถูก​ห้าม.

พี่​น้อง 33 คน​ที่​ถูก​จับ​ถูก​ส่ง​ขึ้น​ศาล​ของ​หัวหน้า​ผู้​พิพากษา​แขวง​ที่​เมือง​อิเฟ และ​ผม​ไป​กับ​พวก​เขา​ด้วย. ชาว​เมือง​ซึ่ง​เห็น​เรา​ถูก​พา​ตัว​ไป​ตะโกน​ว่า “สิ้น​สุด​เสีย​ที​กับ​คน​พวก​นี้. พวก​เขา​จะ​ไม่​มา​ที่​นี่​อีก.”

มี​การ​เสนอ​ข้อ​กล่าวหา​นั้น​ต่อ​หัวหน้า​ผู้​พิพากษา​แขวง ชาว​ไนจีเรีย. หนังสือ​และ​วารสาร​ทั้ง​หมด​ถูก​นำ​มา​ให้​ดู. ผู้​พิพากษา​ถาม​ว่า​ใคร​มอบ​อำนาจ​ให้​ผู้​บัญชา​การ​ตำรวจ​จับ​กุม​คน​เหล่า​นี้. ผู้​บัญชา​การ​ตำรวจ​ตอบ​ว่า เขา​ทำ​ตาม​คำ​สั่ง​จาก​นาย​อำเภอ. ผู้​พิพากษา​แขวง​เรียก​ผู้​บัญชา​การ​ตำรวจ​และ​ตัว​แทน​ของ​เรา​สี่​คน​รวม​ทั้ง​ผม​ด้วย ให้​ไป​ที่​ห้อง​ทำ​งาน​ของ​เขา.

ผู้​พิพากษา​ถาม​ว่า นาย​บราวน์​เป็น​ใคร. เรา​บอก​ว่า เขา​เป็น​ตัว​แทน​ของ​สมาคม​ว็อชเทาเวอร์​ใน​ลากอส. จาก​นั้น ผู้​พิพากษา​บอก​เรา​ว่า เขา​ได้​รับ​โทรเลข​จาก​นาย​บราวน์​เกี่ยว​กับ​เรา. เขา​เลื่อน​การ​พิจารณา​คดี​ใน​วัน​นั้น และ​ให้​ประกัน​ตัว​พี่​น้อง. วัน​รุ่ง​ขึ้น เขา​สั่ง​ให้​ยก​ฟ้อง​พวก​พี่​น้อง, ปล่อย​ให้​เป็น​อิสระ, และ​เขา​สั่ง​ตำรวจ​ให้​คืน​หนังสือ.

เรา​กลับ​ไป​ที่​อิเลชา พร้อม​กับ​ร้อง​เพลง. ผู้​คน​เริ่ม​ร้อง​ตะโกน​อีก แต่​คราว​นี้​พูด​ว่า “พวก​นี้​มา​อีก​แล้ว!”

มาตรฐาน​ของ​พระ​ยะโฮวา​เรื่อง​การ​สมรส​ถูก​ทำ​ให้​กระจ่าง

ปี 1947 นั่น​เอง​ที่​ผู้​สำเร็จ​การ​ศึกษา​สาม​คน​แรก​จาก​กิเลียด​มา​ถึง​ไนจีเรีย. หนึ่ง​ใน​พี่​น้อง​สาม​คน​นี้​คือ โทนี อัตต์วูด ซึ่ง​ปัจจุบัน​ยัง​คง​รับใช้​ที่​เบเธล​ใน​ไนจีเรีย. ตั้ง​แต่​นั้น​มา เรา​เห็น​การ​เปลี่ยน​แปลง​ขนาน​ใหญ่​ใน​องค์การ​ของ​พระ​ยะโฮวา​ใน​ไนจีเรีย. การ​เปลี่ยน​แปลง​ใหญ่​อย่าง​หนึ่ง​ก็​คือ​ทัศนะ​ของ​เรา​ใน​เรื่อง​การ​มี​คู่​สมรส​หลาย​คน​ใน​เวลา​เดียว​กัน.

ผม​แต่งงาน​กับ โอลาบิซิ ฟาซูบา ใน​เดือน​กุมภาพันธ์ 1941 และ​พอ​จะ​รู้​ว่า​การ​มี​ภรรยา​มาก​กว่า​หนึ่ง​คน​นั้น​ไม่​ถูก​ต้อง. แต่​การ​มี​คู่​สมรส​หลาย​คน​ใน​เวลา​เดียว​กัน​เป็น​เรื่อง​ปกติ​ใน​ประชาคม​ต่าง ๆ จน​กระทั่ง​ปี 1947 เมื่อ​มิชชันนารี​มา​ถึง. พี่​น้อง​ที่​มี​คู่​สมรส​หลาย​คน​เคย​ได้​รับ​การ​บอก​ว่า พวก​เขา​มี​ภรรยา​มาก​กว่า​หนึ่ง​คน​โดย​ไม่​รู้​ว่า​นั่น​ผิด. ดัง​นั้น หาก​พวก​เขา​มี​ภรรยา​สอง​หรือ​สาม​หรือ​สี่​หรือ​ห้า​คน พวก​เขา​ยัง​คง​อยู่​ใน​สภาพ​นั้น​ได้​ต่อ​ไป แต่​ไม่​ควร​มี​เพิ่ม​อีก. นั่น​คือ​นโยบาย​ที่​เรา​มี.

ผู้​คน​จำนวน​มาก​อยาก​เข้า​มา​ร่วม​กับ​เรา​เหลือ​เกิน โดย​เฉพาะ​สมาคม​คะรูบิม​และ​ซะราฟิม​ใน​อิเลชา. พวก​เขา​บอก​ว่า พยาน​พระ​ยะโฮวา​เป็น​พวก​เดียว​ที่​สอน​ความ​จริง. พวก​เขา​เห็น​พ้อง​กับ​คำ​สอน​ของ​เรา​และ​ต้องการ​เปลี่ยน​โบสถ์​ของ​พวก​เขา​เป็น​หอ​ประชุม. เรา​มานะ​พยายาม​เพื่อ​ให้​การ​รวม​ตัว​กัน​นี้​บรรลุ​ผล. เรา​ถึง​กับ​ตั้ง​ศูนย์​อบรม​ผู้​ปกครอง​ของ​พวก​เขา.

ครั้น​แล้ว การ​ชี้​นำ​ใหม่​เกี่ยว​กับ​การ​มี​คู่​สมรส​หลาย​คน​ใน​เวลา​เดียว​กัน​ก็​มี​มา. หนึ่ง​ใน​มิชชันนารี​ให้​คำ​บรรยาย ณ การ​ประชุม​หมวด​ใน​ปี 1947. เขา​พูด​ถึง​ความ​ประพฤติ​และ​นิสัย​ที่​ดี. ถัด​จาก​นั้น เขา​ยก 1 โกรินโธ 6:9, 10 ซึ่ง​กล่าว​ว่า คน​อธรรม​จะ​ไม่​ได้​รับ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​เป็น​มรดก. จาก​นั้น เขา​เสริม​ว่า “และ​ผู้​ที่​มี​คู่​สมรส​หลาย​คน จะ​ไม่​ได้​รับ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้าเป็น​มรดก!” ผู้​ฟัง​ตะโกน​ว่า “อะไร​กัน ผู้​ที่​มี​คู่​สมรส​หลาย​คน​จะ​ไม่​ได้​รับ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​เป็น​มรดก​งั้น​หรือ?” เกิด​มี​การ​แบ่ง​แยก ซึ่ง​เป็น​เหมือน​สงคราม. ผู้​ที่​เข้า​มา​สมทบ​ใหม่​หลาย​คน​เลิก​มา​สมทบ บอก​ว่า “ขอบคุณ​พระเจ้า​ที่​เรา​ไม่​ได้​ถลำ​ลึก​ไป​กว่า​นี้.”

อย่าง​ไร​ก็​ตาม พี่​น้อง​ส่วน​ใหญ่​เริ่ม​แก้ไข​แนว​ทาง​ของ​ตน โดย​ปล่อย​ภรรยา​น้อย​เป็น​อิสระ. พวก​เขา​ให้​เงิน​และ​บอก​ว่า ‘พวก​เธอ​อายุ​ยัง​น้อย ไป​หา​สามี​ใหม่​เถอะ. ฉัน​ทำ​ผิด​ที่​แต่งงาน​กับ​พวก​เธอ. ตอน​นี้ ฉัน​ต้อง​เป็น​สามี​ของ​ภรรยา​คน​เดียว.’

ไม่​นาน​ก็​เกิด​อีก​ปัญหา​หนึ่ง​ขึ้น. บาง​คน​หลัง​จาก​ตัดสิน​ใจ​ว่า​จะ​เอา​ภรรยา​คน​หนึ่ง​ไว้​และ​ปล่อย​คน​อื่น ๆ ไป​นั้น​เกิด​เปลี่ยน​ใจ และ​ตัดสิน​ใจ​ว่า ตน​เอง​ต้องการ​เอา​ภรรยา​คน​ที่​ได้​ปล่อย​ไป​คืน​มา​และ​ปล่อย​ภรรยา​ที่​เอา​ไว้​แต่​แรก​ไป! ดัง​นั้น จึง​เริ่ม​มี​ปัญหา​ขึ้น​อีก​ครั้ง​หนึ่ง.

มี​การ​ชี้​นำ​มา​อีก​จาก​สำนักงาน​กลาง​ใน​บรุกลิน ซึ่ง​อาศัย​มาลาคี 2:14 ที่​อ้าง​ถึง “เมีย​ของ​ท่าน​ซึ่ง​ได้​กัน​เมื่อ​ครั้ง​หนุ่ม​สาว.” การ​ชี้​นำ​ก็​คือ สามี​ควร​เอา​ภรรยา​คน​แรก ไว้​ซึ่ง​เขา​ได้​แต่งงาน​ด้วย. นั่น​เป็น​วิธี​ที่​ปัญหา​นี้​หมด​ไป​ใน​ที่​สุด.

สิทธิ​พิเศษ​ใน​การ​รับใช้

ใน​ปี 1947 สมาคม​ฯ​เริ่ม​เสริม​ประชาคม​ต่าง ๆ ให้​แข็งแรง​ขึ้น และ​จัด​เป็น​หมวด ๆ. สมาคม​ฯ​ต้องการ​แต่ง​ตั้ง​พี่​น้อง​ชาย​ที่​มี​ความ​ก้าว​หน้า​ใน​ความ​รู้​และ​อาวุโส เป็น ‘ผู้​รับใช้​พี่​น้อง’ ซึ่ง​เวลา​นี้​เรียก​ว่า​ผู้​ดู​แล​หมวด. บราเดอร์​บราวน์​ถาม​ผม​ว่า ผม​จะ​รับ​การ​แต่ง​ตั้ง​นั้น​หรือ​ไม่. ผม​บอก​ว่า เหตุ​ผล​ที่​ผม​รับ​บัพติสมา​ก็​เพื่อ​ทำ​ตาม​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระ​ยะโฮวา โดย​เสริม​ว่า “คุณ​ถึง​กับ​บัพติสมา​ให้​ผม. ตอน​นี้ เมื่อ​มี​โอกาส​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​เต็ม​ที่​ยิ่ง​ขึ้น คุณ​คิด​ว่า​ผม​จะ​ปฏิเสธ​หรือ?”

ใน​เดือน​ตุลาคม​ของ​ปี​นั้น เจ็ด​คน​ใน​พวก​เรา​ถูก​เรียก​ไป​ลากอส และ​ได้​รับ​การ​อบรม​ก่อน​ถูก​ส่ง​ออก​ไป​ใน​งาน​หมวด. สมัย​นั้น หมวด​ต่าง ๆ กว้าง​ใหญ่​มาก. ทั้ง​ประเทศ​ถูก​แบ่ง​ออก​เพียง​เจ็ด​หมวด. ประชาคม​มี​น้อย.

งาน​ของ​เรา​ฐานะ​ผู้​รับใช้​พี่​น้อง​นั้น​ยาก​ลำบาก. เรา​เดิน​หลาย​กิโลเมตร​ใน​แต่​ละ​วัน ซึ่ง​บ่อย​ครั้ง​เดิน​ผ่าน​ป่า​ดิบ​ชื้น​ที่​ร้อน​อบอ้าว. ทุก​สัปดาห์ เรา​ต้อง​เดิน​ทาง​จาก​หมู่​บ้าน​หนึ่ง​ไป​อีก​หมู่​บ้าน​หนึ่ง. บาง​ครั้ง ผม​รู้สึก​ว่า​ขา​ของ​ผม​จะ​พับ​ลง​เสีย​ให้​ได้. บาง​ครั้ง ผม​รู้สึก​ราว​กับ​ว่า ผม​กำลัง​จะ​ตาย! แต่​มี​ความ​ยินดี​มาก​มาย​ด้วย​เช่น​กัน โดย​เฉพาะ​เมื่อ​เห็น​จำนวน​ที่​เพิ่ม​ขึ้น​ของ​ผู้​ที่​รับ​เอา​ความ​จริง. ใน​เวลา​เพียง​เจ็ด​ปี จำนวน​ผู้​ประกาศ​ใน​ประเทศ​เพิ่ม​ขึ้น​สี่​เท่า.

ผม​มี​ส่วน​ใน​งาน​หมวด​จน​กระทั่ง​ปี 1955 เมื่อ​สุขภาพ​ที่​ย่ำแย่​ทำ​ให้​ผม​ต้อง​กลับ​มา​บ้าน​ที่​อิเลชา ที่​ซึ่ง​ผม​ได้​รับ​การ​แต่ง​ตั้ง​เป็น​ผู้​ดู​แล​นคร. การ​อยู่​บ้าน​ช่วย​ให้​ผม​ใส่​ใจ​มาก​ขึ้น​ใน​การ​ช่วย​ครอบครัว​ของ​ผม​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ. ทุก​วัน​นี้ ลูก ๆ ทั้ง​หก​คน​ของ​ผม​กำลัง​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​ซื่อ​สัตย์.

รัก​แท้​ไม่​เคย​ล้มเหลว

เมื่อ​ผม​มอง​ย้อน​ไป​ใน​ช่วง​หลาย​ปี​ที่​ผ่าน​มา ผม​มี​หลาย​สิ่ง​เหลือ​เกิน​ที่​จะ​ขอบพระคุณ. มี​ความ​ผิด​หวัง, ความ​กังวล, และ​ความ​เจ็บ​ป่วย แต่​ก็​มี​ความ​ยินดี​มาก​มาย​เช่น​กัน. แม้​ความ​รู้​และ​ความ​เข้าใจ​ของ​เรา​ได้​พัฒนา​ขึ้น​ใน​ช่วง​หลาย​ปี​นั้น ผม​ได้​เรียน​รู้​ด้วย​ประสบการณ์​ถึง​ความ​หมาย​ของ 1 โกรินโธ 13:8 (ล.ม.) ซึ่ง​กล่าว​ว่า “ความ​รัก​ไม่​ล้มเหลว​เลย.” หาก​คุณ​รัก​พระ​ยะโฮวา​และ​ยึด​มั่น​อยู่​ใน​งาน​รับใช้​พระองค์ พระองค์​จะ​ช่วย​คุณ​ให้​ผ่าน​พ้น​ความ​ยาก​ลำบาก​และ​จะ​อวย​พระ​พร​คุณ​อย่าง​อุดม.

แสง​แห่ง​ความ​จริง​กำลัง​สว่างไสว​ยิ่ง​ขึ้น​เรื่อย ๆ. สมัย​ที่​เรา​เริ่ม​งาน​ที​แรก เรา​คิด​ว่า​อาร์มาเก็ดดอน​จะ​มา​อย่าง​รวด​เร็ว นั่น​เป็น​สาเหตุ​ที่​เรา​รีบ​ทำ​ทุก​อย่าง​ที่​เรา​ทำ​ได้. แต่​การ​ทำ​เช่น​นั้น​ก็​เป็น​ประโยชน์​ต่อ​เรา​ทั้ง​สิ้น. นี่​เป็น​สาเหตุ​ที่​ผม​เห็น​ด้วย​กับ​ถ้อย​คำ​ของ​ผู้​ประพันธ์​บทเพลง​สรรเสริญ​ที่​ว่า “เมื่อ​ข้าพเจ้า​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่​จะ​สรรเสริญ​พระ​ยะโฮวา: จะ​ร้อง​เพลง​สรรเสริญ​พระเจ้า​ของ​ข้าพเจ้า​ใน​เมื่อ​ข้าพเจ้า​ยัง​มี​ลม​หายใจ.”—บทเพลง​สรรเสริญ 146:2.

[เชิงอรรถ]

a บราเดอร์​บราวน์​ถูก​เรียก​ว่า ไบเบิล บราวน์ เพราะ​เป็น​นิสัย​ของ​เขา​ที่​จะ​ชี้​ไป​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​แหล่ง​ตัดสิน​ชี้ขาด​เสมอ.—ดู “การ​เก็บ​เกี่ยว​ของ​ผู้​เผยแพร่​กิตติคุณ​แท้” ใน​วารสาร​หอสังเกตการณ์ ฉบับ 1 กันยายน 1992 หน้า 32.

[รูปภาพ​หน้า 23]

ซามูเอล​กับ​มิลตัน เฮนเชล เมื่อ​ปี 1955

[รูปภาพ​หน้า 24]

ซามูเอล​กับ​ภรรยา โอลาบิซิ

    หนังสือภาษาไทย (1971-2026)
    ออกจากระบบ
    เข้าสู่ระบบ
    • ไทย
    • แชร์
    • การตั้งค่า
    • Copyright © 2025 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
    • เงื่อนไขการใช้งาน
    • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    • JW.ORG
    • เข้าสู่ระบบ
    แชร์