พงศ์พันธุ์ของงู—ถูกเปิดโปงอย่างไร?
“เราจะให้เจ้ากับหญิงและพงศ์พันธุ์ของเจ้ากับพงศ์พันธุ์ของนางเป็นศัตรูกัน.”—เยเนซิศ 3:15, ล.ม.
1. (ก) เพราะเหตุใดพระยะโฮวาทรงเป็นพระเจ้าที่มีความสุข? (ข) พระองค์ได้ทรงทำประการใดเพื่อช่วยเราร่วมความยินดีกับพระองค์ได้?
พระยะโฮวาทรงเป็นพระเจ้าที่มีความสุขและด้วยเหตุผลอันดี. พระองค์ทรงเป็นผู้ทรงประทานสิ่งดีต่าง ๆ องค์ยิ่งใหญ่และยอดเยี่ยมที่สุด และไม่มีสิ่งใดที่สามารถขัดขวางความสำเร็จแห่งพระประสงค์ของพระองค์ได้. (ยะซายา 55:10, 11; 1 ติโมเธียว 1:11; ยาโกโบ 1:17) พระองค์ทรงประสงค์ให้ผู้รับใช้ของพระองค์ร่วมในความยินดีกับพระองค์ และทรงจัดให้มีเหตุผลที่ดีสำหรับพวกเขาเพื่อจะมีความยินดีเช่นนั้นได้. ด้วยเหตุนี้ ณ ชั่วขณะที่มืดมนอนธการที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์—คือในคราวที่เกิดการกบฏขึ้นในสวนเอเดน—พระองค์ได้จัดให้มีพื้นฐานสำหรับเราที่จะมองอนาคตด้วยความหวัง.—โรม 8:19-21.
2. เมื่อทรงประกาศคำพิพากษาต่อผู้เป็นกบฏในสวนเอเดน พระยะโฮวาได้จัดเตรียมพื้นฐานสำหรับความหวังให้กับลูกหลานของอาดามและฮาวาอย่างไร?
2 โดยการต่อต้านและใส่ร้ายพระเจ้า บุตรที่เป็นกายวิญญาณองค์หนึ่งของพระยะโฮวาเพิ่งจะได้ทำให้ตัวเองกลายเป็นซาตานพญามาร. มนุษย์สองคนแรก ฮาวาก่อนแล้วตามด้วยอาดาม ได้ตกอยู่ใต้อิทธิพลของมันและฝ่าฝืนกฎหมายของพระยะโฮวาที่มีแจ้งไว้อย่างชัดเจน. พวกเขาถูกตัดสินลงโทษถึงแก่ความตายด้วยความเป็นธรรม. (เยเนซิศ 3:1-24) ถึงกระนั้น ขณะที่ประกาศคำพิพากษาต่อมนุษย์ที่กบฏ พระยะโฮวาทรงจัดให้มีพื้นฐานสำหรับความหวังซึ่งลูกหลานของอาดามและฮาวาจะมีได้. ในทางใด? ดังที่บันทึกในเยเนซิศ 3:15 (ล.ม.) พระยะโฮวาตรัสว่า “เราจะให้เจ้ากับหญิงและพงศ์พันธุ์ของเจ้ากับพงศ์พันธุ์ของนางเป็นศัตรูกัน. เขาจะบดขยี้หัวของเจ้าและเจ้าจะบดขยี้ส้นเท้าของเขา.” คำพยากรณ์นี้เป็นกุญแจสำคัญอย่างหนึ่งซึ่งนำไปสู่ความเข้าใจคัมภีร์ไบเบิลทั้งเล่ม รวมทั้งเหตุการณ์ในอดีตและปัจจุบันที่เกี่ยวข้องกับโลกนี้และผู้รับใช้ของพระยะโฮวาด้วย.
ความหมายของคำพยากรณ์
3. ดังที่มีกล่าวถึงในเยเนซิศ 3:15 จงระบุว่าใครคือ (ก) งู (ข) “หญิง” (ค) “พงศ์พันธุ์” ของงู (ง) “พงศ์พันธุ์” ของหญิง.
3 เพื่อจะหยั่งรู้ค่าในความสำคัญของคำพยากรณ์ข้อนี้ ลองพิจารณาองค์ประกอบต่าง ๆ ของตัวคำพยากรณ์. ผู้ที่ทรงตรัสด้วย ในเยเนซิศ 3:15 ได้แก่งูเฒ่า—ไม่ใช่งูที่ต่ำต้อย หากแต่เป็นผู้ที่ใช้มันพูด. (วิวรณ์ 12:9) “หญิง” ไม่ใช่ฮาวา แต่เป็นองค์การทางภาคสวรรค์ของพระยะโฮวา มารดาของพวกผู้รับใช้ของพระองค์ซึ่งได้รับการเจิมโดยพระวิญญาณที่อยู่บนแผ่นดินโลกนี้. (ฆะลาเตีย 4:26) “พงศ์พันธุ์” ของงู ได้แก่พงศ์พันธุ์ของซาตาน ลูกหลานของมัน—คือพวกผีปิศาจและมนุษย์รวมทั้งองค์การต่าง ๆ ของมนุษย์ที่สำแดงลักษณะนิสัยของซาตานและแสดงความเป็นปฏิปักษ์ต่อ “พงศ์พันธุ์” ของหญิงนั้น. (โยฮัน 15:19; 17:15) “พงศ์พันธุ์” ของหญิง อันดับแรกได้แก่พระเยซูคริสต์ ผู้ซึ่งได้รับการเจิมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ในปี 29 สากลศักราช. ชนจำพวก 144,000 คน ผู้ซึ่ง “ได้บังเกิดใหม่ . . . จากน้ำและพระวิญญาณ” และเป็นทายาทแห่งราชอาณาจักรทางภาคสวรรค์ร่วมกับพระคริสต์ เป็นส่วนอันดับรองของพงศ์พันธุ์แห่งคำสัญญานั้น. คนเหล่านี้เริ่มเสริมเข้ากับพงศ์พันธุ์ของหญิงนับแต่วันเพนเตคอสเตปี 33 ส.ศ. เป็นต้นมา.—โยฮัน 3:3, 5; ฆะลาเตีย 3:16, 29.
4. พระธรรมเยเนซิศ 3:15 เกี่ยวข้องอย่างไรกับการที่โลกจะกลายเป็นอุทยาน เต็มไปด้วยผู้คนที่ปราศจากบาปและความตาย?
4 งูจริง ๆ ในสวนเอเดนถูกใช้เป็นกระบอกเสียงโดยผู้ซึ่งการหลอกลวงของมันทำให้มนุษยชาติสูญเสียอุทยานไป. เยเนซิศ 3:15 ชี้ถึงเวลาซึ่งบุคคลที่ใช้งูเป็นเครื่องมือจะถูกบดขยี้. เมื่อถึงเวลานั้น ทางก็จะเปิดออกอีกครั้งสำหรับมนุษย์ที่เป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าที่จะได้อาศัยอยู่ในอุทยาน โดยปราศจากบาปและความตาย. ช่างจะเป็นเวลาที่น่ายินดีสักเพียงไรเมื่อถึงเวลานั้น!—วิวรณ์ 20:1-3; 21:1-5.
5. ลักษณะนิสัยอะไรที่เป็นลักษณะเฉพาะของลูกหลานฝ่ายวิญญาณของพญามาร?
5 หลังการกบฏในสวนเอเดน ปัจเจกบุคคลและองค์การต่าง ๆ ก็เริ่มเผยให้เห็นลักษณะนิสัยต่าง ๆ ที่แสดงออกมาให้เห็นเหมือนกับของซาตานพญามาร—การกบฏ, การโกหก, การใส่ร้ายป้ายสี, และการฆาตกรรม ควบคู่ไปกับการต่อต้านพระทัยประสงค์ของพระยะโฮวาและคนเหล่านั้นที่นมัสการพระองค์. ลักษณะนิสัยเหล่านี้ระบุตัวลูกหลาน บุตรฝ่ายวิญญาณ ของพญามาร. คนหนึ่งในหมู่คนเหล่านี้ได้แก่คายิน ผู้ซึ่งได้ฆ่าเฮเบลเมื่อพระยะโฮวาทรงพอพระทัยในการนมัสการของเฮเบลแทนที่จะพอพระทัยในการนมัสการของเขา. (1 โยฮัน 3:10-12) นิมโรดเป็นคนหนึ่งซึ่งชื่อของเขานั้นเองระบุว่าเขาเป็นกบฏและผู้ซึ่งได้กลายเป็นพรานและผู้ครอบครองที่มีกำลังมากต่อต้านพระยะโฮวา. (เยเนซิศ 10:9, ล.ม.) นอกจากนี้ยังมีการสืบราชสันตติวงศ์ของอาณาจักรโบราณต่าง ๆ รวมทั้งบาบูโลน พร้อมด้วยศาสนาต่าง ๆ ของมันซึ่งรัฐเป็นผู้สนับสนุนและก่อตั้งอยู่บนความเท็จ และอาณาจักรเหล่านี้ได้กดขี่ข่มเหงเหล่าผู้นมัสการพระยะโฮวาอย่างโหดร้ายทารุณ.—ยิระมะยา 50:29.
“ให้เจ้ากับหญิง . . . เป็นศัตรูกัน”
6. ในทางใดบ้างที่ซาตานแสดงความเป็นปฏิปักษ์ต่อผู้หญิงของพระยะโฮวา?
6 ตลอดช่วงเวลาดังกล่าว มีความเป็นปฏิปักษ์กันระหว่างงูกับผู้หญิงของพระยะโฮวา คือระหว่างซาตานพญามารกับองค์การทางภาคสวรรค์ของพระยะโฮวาซึ่งประกอบไปด้วยเหล่ากายวิญญาณที่ซื่อสัตย์ภักดี. ความเป็นปฏิปักษ์ของซาตานเห็นได้จากการที่มันสบประมาทพระยะโฮวาและพยายามก่อให้เกิดการแตกแยกขึ้นในองค์การทางภาคสวรรค์ของพระยะโฮวา โดยการล่อลวงเหล่าทูตสวรรค์ให้ละทิ้งสถานที่อยู่อันควรของตน. (สุภาษิต 27:11; ยูดา 6) ความเป็นปฏิปักษ์นี้เห็นได้ชัดเมื่อซาตานใช้พวกผีปิศาจของมันให้พยายามขัดขวางผู้ส่งข่าวซึ่งเป็นทูตสวรรค์ที่พระยะโฮวาทรงส่งไป. (ดานิเอล 10:13, 14, 20, 21) ความเป็นปฏิปักษ์นี้เห็นได้เด่นชัดในศตวรรษที่ 20 นี้เมื่อซาตานจ้องที่จะทำลายราชอาณาจักรมาซีฮาในคราวที่ถือกำเนิดขึ้นมา.—วิวรณ์ 12:1-4.
7. ทำไมทูตสวรรค์ที่ภักดีของพระยะโฮวารู้สึกเป็นปฏิปักษ์ต่องูโดยนัยนั้น กระนั้นเขาได้แสดงการยับยั้งใจอย่างไร?
7 มีความเป็นปฏิปักษ์ที่แสดงต่องูโดยนัยนั้นด้วยในส่วนของผู้หญิงของพระยะโฮวา ซึ่งก็คือหมู่ทูตสวรรค์ที่ภักดี. ซาตานได้ใส่ร้ายป้ายสีชื่อเสียงที่ดีของพระเจ้า นอกจากนี้ยังได้ยกเป็นข้อสงสัยขึ้นมาเกี่ยวกับความซื่อสัตย์มั่นคงแห่งสิ่งมีชีวิตที่มีเชาวน์ปัญญาทั้งสิ้นของพระเจ้า ซึ่งก็รวมถึงทูตสวรรค์ทั้งหมด และมันพยายามอย่างขันแข็งที่จะบ่อนทำลายความภักดีของพวกเขาที่มีต่อพระเจ้า. (วิวรณ์ 12:4ก) ทูตสวรรค์, คะรูบิม, และซะราฟิมที่ภักดีคงไม่อาจรู้สึกเป็นอื่นได้นอกจากชิงชังมันผู้นี้ที่ได้ทำตัวเองให้กลายเป็นพญามารและซาตาน. กระนั้น พวกเขาได้คอยให้พระยะโฮวาทรงจัดการเรื่องราวในเวลากำหนดและวิธีของพระองค์เอง.—เทียบกับ ยูดา 9.
ความจงเกลียดจงชังต่อพงศ์พันธุ์แห่งผู้หญิงของพระเจ้า
8. ใครที่ซาตานเฝ้าจับตาดู?
8 ระหว่างนั้น ซาตานก็เฝ้าเขม้นมองอยู่ให้รู้ว่าใครจะมาเป็นพงศ์พันธุ์ของหญิงตามคำพยากรณ์ ผู้ซึ่งพระยะโฮวาตรัสว่าจะบดขยี้หัวของงู. เมื่อครั้งที่ทูตจากสวรรค์ประกาศว่าพระเยซู ผู้ซึ่งประสูติที่เมืองเบธเลเฮ็มเป็น “พระผู้ช่วยให้รอด . . . คือพระคริสต์เจ้า” นี่เป็นการรับรองที่หนักแน่นว่าพระองค์จะได้เป็นพงศ์พันธุ์ของหญิงตามที่บอกเอาไว้ล่วงหน้า.—ลูกา 2:10, 11.
9. หลังจากพระเยซูประสูติ ซาตานแสดงความเป็นศัตรูที่ร้ายกาจอย่างชัดเจนอย่างไร?
9 ความเป็นปฏิปักษ์ที่มุ่งร้ายของซาตานไม่ช้าก็แสดงออกมาให้เห็นเมื่อมันล่อหลอกพวกนักโหราศาสตร์นอกรีตให้ทำภารกิจพิเศษ ซึ่งตอนแรกนำพวกเขาไปหากษัตริย์เฮโรดที่กรุงยะรูซาเลม และต่อจากนั้นก็นำไปถึงบ้านหลังหนึ่งในเมืองเบธเลเฮ็มที่ซึ่งพวกเขาพบกับพระกุมารเยซูและมาเรียมารดาของพระองค์. ไม่นานหลังจากนั้น กษัตริย์เฮโรดออกคำสั่งให้ประหารเด็กผู้ชายทุกคนที่อายุสองขวบลงไปซึ่งอยู่ในเมืองเบธเลเฮ็มและรอบ ๆ. ในการนี้ เฮโรดได้แสดงความเกลียดชังที่เป็นแบบซาตานต่อพงศ์พันธุ์. เห็นได้ชัดว่าเฮโรดรู้อยู่เต็มอกว่าเขากำลังพยายามจะประหัตประหารผู้ซึ่งจะได้เป็นมาซีฮา. (มัดธาย 2:1-6, 16) ประวัติศาสตร์ยืนยันว่า กษัตริย์เฮโรดนั้นไร้ศีลธรรม, เจ้าเล่ห์, และกระหายเลือด—นับเป็นพงศ์พันธุ์คนหนึ่งของงูอย่างแท้จริง.
10. (ก) หลังจากที่พระเยซูรับบัพติสมา ซาตานได้พยายามด้วยตัวเองอย่างไรเพื่อขัดขวางพระประสงค์ของพระยะโฮวาในเรื่องพงศ์พันธุ์ที่ทรงสัญญา? (ข) ซาตานใช้พวกผู้นำศาสนายิวอย่างไรเพื่อบรรลุเป้าหมายของมัน?
10 หลังจากที่พระเยซูได้รับการเจิมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ในปี 29 สากลศักราช และพระยะโฮวาได้ตรัสจากสวรรค์แสดงการยอมรับในตัวพระเยซูฐานะพระบุตรของพระองค์ ซาตานได้พยายามซ้ำแล้วซ้ำอีกที่จะทำให้พระเยซูพ่ายแพ้ต่อการล่อใจ โดยวิธีนี้พยายามขัดขวางพระประสงค์ของพระยะโฮวาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพระบุตร. (มัดธาย 4:1-10) เมื่อไม่ประสบผล มันจึงหันมาใช้ตัวแทนที่เป็นมนุษย์ต่อไปเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของมันให้ได้. ในบรรดาคนที่มันใช้เพื่อจะพยายามทำลายชื่อเสียงของพระเยซูนั้นก็มีพวกหัวหน้าศาสนาที่หน้าซื่อใจคดรวมอยู่ด้วย. คนเหล่านี้ใช้การโกหกและการใส่ร้ายป้ายสี ซึ่งเป็นเครื่องมือเดียวกันกับที่ซาตานเองใช้. เมื่อพระเยซูตรัสบอกชายที่เป็นง่อยว่า “จงชื่นใจเถิด, ความผิดของเจ้าทรงโปรดยกเสียแล้ว” โดยไม่รอดูว่าชายคนนั้นได้รับการรักษาให้หายจริงหรือไม่ พวกอาลักษณ์ก็รีบตัดสินเลยว่าพระเยซูเป็นผู้หมิ่นประมาท. (มัดธาย 9:2-7) เมื่อพระเยซูทรงรักษาประชาชนในวันซะบาโต พวกฟาริซายปรักปรำพระองค์ว่าเป็นผู้ฝ่าฝืนกฎหมายซะบาโตและปรึกษากันหาทางจะกำจัดพระองค์. (มัดธาย 12:9-14; โยฮัน 5:1-18) เมื่อพระเยซูทรงขับผีออก พวกฟาริซายกล่าวหาว่าพระองค์เป็นพวกพ้องกับ “เบละซะบูลนายผีทั้งหลาย.” (มัดธาย 12:22-24) หลังจากที่ลาซะโรได้รับการปลุกเป็นขึ้นจากตาย หลายคนได้แสดงความเชื่อในพระเยซู แต่พวกมหาปุโรหิตและฟาริซายกลับปรึกษากันอีกเพื่อวางแผนจะฆ่าพระองค์.—โยฮัน 11:47-53.
11. สามวันก่อนการวายพระชนม์ของพระเยซู ใครที่พระองค์ทรงระบุว่าเป็นส่วนของพงศ์พันธุ์ของงู และทำไม?
11 ในวันที่ 11 เดือนไนซาน ปี 33 สากลศักราช แม้จะรู้ดีถึงสิ่งที่พวกเขากำลังวางแผนอยู่ พระเยซูเสด็จตรงไปยังบริเวณพระวิหารในกรุงยะรูซาเลมโดยไม่หวั่นเกรง และที่นั่นทรงประกาศการพิพากษาต่อพวกเขาอย่างเปิดเผย. พวกอาลักษณ์และฟาริซายในฐานะเป็นกลุ่มแสดงออกอย่างไม่เปลี่ยนแปลงว่าพวกเขาเป็นคนเช่นไร พระเยซูจึงทรงตรัสว่า “วิบัติแก่เจ้าพวกอาลักษณ์และพวกฟาริซาย, คนหน้าซื่อใจคด เพราะพวกเจ้าปิดเมืองสวรรค์ไว้จากมนุษย์ ถึงแม้พวกเจ้าเองเจ้าก็ไม่เข้าไป, และเมื่อคนอื่นจะเข้าไปพวกเจ้าก็ขัดขวางไว้.” พระเยซูทรงประกาศชี้ชัดว่าพวกเขาเป็นส่วนแห่งพงศ์พันธุ์ของงูโดยกล่าวว่า “โอพวกชาติงูร้าย, เจ้าจะพ้นจากการปรับโทษในนรก [“เกเฮนนา,” ล.ม.] อย่างไรได้?” (มัดธาย 23:13, 33) ถ้อยภาษาของพระองค์สะท้อนย้อนไปถึงคำพยากรณ์ที่เยเนซิศ 3:15.
12, 13. (ก) พวกปุโรหิตใหญ่และพวกอาลักษณ์แสดงหลักฐานมัดตัวเพิ่มขึ้นอย่างไรในเรื่องที่ว่าใครคือบิดาทางฝ่ายวิญญาณของพวกเขา? (ข) ใครที่ได้ร่วมกับพวกเขา? (ค) สำเร็จเป็นจริงตามเยเนซิศ 3:15 พงศ์พันธุ์ของหญิงถูกทำให้ฟกช้ำที่ส้นเท้าอย่างไร?
12 เมื่อได้ยินพระเยซูตรัสคำเหล่านี้แล้ว พวกเขารู้สึกแปลบปลาบใจจนได้ร้องขอพระเมตตาจากพระเจ้าไหม? พวกเขากลับใจจากความชั่วร้ายของตนหรือเปล่า? เปล่าเลย! มาระโก 14:1 รายงานว่าในวันถัดไปนั้นเองมีการชุมนุม ณ ลานบ้านของมหาปุโรหิต “พวกปุโรหิตใหญ่และพวกอาลักษณ์ก็หาช่องที่จะจับ [พระเยซู] ฆ่าเสียด้วยอุบาย.” พวกเขาสำแดงน้ำใจแห่งการฆาตกรรมของซาตานอยู่ต่อไป ผู้ซึ่งพระเยซูได้พรรณนาถึงก่อนหน้านี้ว่าเป็นผู้ฆ่าคน. (โยฮัน 8:44) ไม่นานหลังจากนั้น ยูดาอิศการิโอดผู้ซึ่งซาตานชักนำให้เป็นผู้ออกหากก็เข้าร่วมกับพวกเขา. ยูดาละทิ้งพงศ์พันธุ์แห่งผู้หญิงของพระเจ้าผู้ปราศจากตำหนิและไปเข้าร่วมกับพงศ์พันธุ์ของงู.
13 เช้าตรู่วันที่ 14 เดือนไนซาน สมาชิกศาลศาสนาของยิวได้นำพระเยซูฐานะนักโทษมามอบกับผู้ว่าราชการโรมัน. ตอนนี้เองที่พวกปุโรหิตใหญ่นำหน้าในการตะโกนให้ตรึงพระเยซูเสีย. เมื่อปีลาตถามว่า ‘จะให้เราตรึงกษัตริย์ของท่านทั้งหลายหรือ?’ เป็นพวกปุโรหิตใหญ่นั่นเองที่ตอบว่า “กษัตริย์ของพวกเราไม่มีเว้นแต่กายะซา.” (โยฮัน 19:6, 15) แท้จริง พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นในทุกทางว่าตนเองเป็นส่วนแห่งพงศ์พันธุ์ของงู. แต่พวกเขาไม่ได้มีเพียงลำพังเท่านี้อย่างแน่นอน. บันทึกที่ได้รับการดลใจที่มัดธาย 27:24, 25 รายงานดังนี้: “ปีลาต . . . ก็เอาน้ำล้างมือต่อหน้าฝูงคน.” ครั้นแล้วคนทั้งหมดก็พากันพูดว่า “ให้เลือดของเขาตกอยู่บนเรา, ทั้งบุตรของเราด้วย.” โดยวิธีนี้ชาวยิวแห่งชั่วอายุนั้นแสดงตัวเองเป็นส่วนของพงศ์พันธุ์ของงู. ก่อนจะสิ้นวันนั้น พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์. โดยใช้พงศ์พันธุ์ที่เห็นได้ด้วยตา ซาตานได้ทำให้ส้นเท้าของพงศ์พันธุ์แห่งผู้หญิงของพระเจ้าฟกช้ำ.
14. เพราะเหตุใดการทำให้ส้นเท้าของพงศ์พันธุ์ของหญิงฟกช้ำไม่หมายถึงชัยชนะสำหรับซาตาน?
14 ซาตานมีชัยแล้วอย่างนั้นไหม? ไม่มีทาง! พระเยซูคริสต์ทรงชนะโลกแล้วและมีชัยเหนือผู้ครอบครองโลกนี้. (โยฮัน 14:30, 31; 16:33) พระองค์ทรงรักษาความภักดีต่อพระยะโฮวาเอาไว้จนกระทั่งสิ้นพระชนม์. ความตายของพระองค์ฐานะมนุษย์สมบูรณ์จัดให้มีค่าไถ่ที่จำเป็นเพื่อซื้อคืนสิทธิในเรื่องชีวิตที่อาดามทำให้สูญเสียไป. ดังนั้น พระองค์ทรงเปิดทางที่จะมีชีวิตนิรันดร์สำหรับคนที่สำแดงความเชื่อในการจัดเตรียมนั้นและเชื่อฟังพระบัญญัติของพระเจ้า. (มัดธาย 20:28; โยฮัน 3:16) พระยะโฮวาทรงปลุกพระเยซูจากสภาพคนตายสู่อมตชีพในสวรรค์. เมื่อถึงเวลากำหนดของพระยะโฮวา พระเยซูจะทรงบดขยี้ซาตานจนสิ้นซาก. เยเนซิศ 22:16-18 ได้พยากรณ์ไว้ว่า พระยะโฮวาจะทรงประทานความชอบให้แก่ทุกตระกูลแห่งแผ่นดินโลกที่ได้ทำสิ่งซึ่งจำเป็นเพื่อจะทำให้ตนเองได้พรโดยทางพงศ์พันธุ์ที่ภักดีนั้น.
15. (ก) ภายหลังการวายพระชนม์ของพระเยซู เหล่าอัครสาวกของพระองค์ยังได้ทำการเปิดโปงพงศ์พันธุ์ของงูต่อไปอย่างไร? (ข) ความเป็นปฏิปักษ์ต่อไปอะไรที่พงศ์พันธุ์ของงูแสดงอย่างชัดแจ้งจนถึงทุกวันนี้?
15 หลังจากการตายของพระเยซู คริสเตียนที่ได้รับการเจิมโดยพระวิญญาณได้ทำการเปิดเผยพงศ์พันธุ์ของงูต่อไป ดังเช่นที่องค์พระผู้เป็นเจ้าของพวกเขาได้ทรงทำ. โดยได้รับการกระตุ้นจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ อัครสาวกเปาโลเตือนให้ระวัง “คนละเลยกฎหมาย” ซึ่งการอยู่ของคนพวกนี้คงจะ “เป็นไปตามการดำเนินงานของซาตาน” (2 เธซะโลนิเก 2:3-10, ล.ม.) กลุ่ม “คน” พวกนี้ปรากฏว่าได้แก่พวกนักเทศน์นักบวชของคริสต์ศาสนจักร. ในลำดับต่อมา พงศ์พันธุ์ของงูทำการข่มเหงอย่างทารุณต่อผู้ติดตามของพระเยซูคริสต์. ในคำพยากรณ์ซึ่งบันทึกไว้ที่วิวรณ์ 12:17 อัครสาวกโยฮันบอกล่วงหน้าว่า ซาตานคงจะประกาศสงครามกับชนที่เหลือของพงศ์พันธุ์แห่งผู้หญิงของพระเจ้าต่อไปเรื่อย ๆ จนถึงสมัยของเรา. ตรงกับสิ่งที่ได้เกิดขึ้นจริง ๆ ทีเดียว. ในหลายดินแดน พยานพระยะโฮวาถูกสั่งห้าม, กลุ้มรุม, จำคุก, หรือจับเข้าค่ายกักกันด้วยเหตุที่พวกเขายืนหยัดเพื่อราชอาณาจักรของพระเจ้าและแนวทางที่ชอบธรรมของพระองค์.
การเปิดโปงพงศ์พันธุ์ของงูในสมัยปัจจุบัน
16. ในสมัยปัจจุบัน ใครที่ถูกเปิดโปงว่าเป็นส่วนของพงศ์พันธุ์ของงู และอย่างไร?
16 เพื่อเลียนแบบพระเยซูคริสต์ คริสเตียนแท้ไม่รามือของพวกเขาในการเปิดโปงงูและพงศ์พันธุ์ของมันอย่างไม่หวั่นกลัว. ปี 1917 พวกนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิล ชื่อที่พยานพระยะโฮวาเป็นที่รู้จักในเวลานั้น ได้พิมพ์หนังสือความลึกลับสำเร็จแล้ว ซึ่งในหนังสือนี้พวกเขาได้ตีแผ่ความหน้าซื่อใจคดของพวกนักเทศน์นักบวชแห่งคริสต์ศาสนจักร. ปี 1924 ก็ได้ตีพิมพ์มติที่ชื่อบาทหลวงถูกฟ้องร้อง [ภาษาอังกฤษ] ออกตามมา. ได้มีการจ่ายแจกไปในประเทศต่าง ๆ ห้าสิบล้านฉบับ. ปี 1937 เจ. เอฟ. รัทเทอร์ฟอร์ด ซึ่งตอนนั้นดำรงตำแหน่งนายกสมาคมหอสังเกตการณ์ ได้ให้คำบรรยายที่มีพลังในการเปิดโปงพงศ์พันธุ์ของซาตานซึ่งมีชื่อว่า “ถูกเปิดโปง” และ “ศาสนากับหลักการคริสเตียน.” ปีถัดมา ขณะที่ผู้เข้าร่วมการประชุมภาค 50 แห่งในหลายดินแดนรับฟังอยู่โดยการเชื่อมสายโทรศัพท์จากลอนดอน ประเทศอังกฤษ ท่านได้ให้คำบรรยายที่มีชื่อว่า “จงยอมรับข้อเท็จจริง.” อีกหนึ่งเดือนต่อมาเครือข่ายวิทยุที่กว้างขวางแห่งหนึ่งของสหรัฐก็ได้กระจายเสียงคำปราศรัยในหัวข้อ “ลัทธิฟาสซิสต์หรือเสรีภาพ.” ทั้งหมดนี้ได้รับการเสริมจากการเปิดโปงที่มีพลังในหนังสือต่าง ๆ อย่างเช่นปรปักษ์ และศาสนา รวมทั้งในหนังสือเล่มเล็กชื่อถูกเปิดเผย. สอดคล้องกับสิ่งที่ได้มีการตีพิมพ์ตั้งแต่ทศวรรษปี 1920 หนังสือพระธรรมวิวรณ์—ใกล้จะถึงจุดสุดยอด!a ซึ่งปัจจุบันได้ตีพิมพ์ไปแล้วใน 65 ภาษา ระบุตัวผู้ปกครองทางการเมืองที่ทุจริตและผู้ทำการค้าอย่างผิดกฎหมายที่โลภและไร้หลักการว่าอยู่ในกลุ่มสมาชิกสำคัญของพงศ์พันธุ์ที่ประจักษ์แก่ตาของงู. เมื่อผู้นำทางการเมืองหันไปใช้ความเท็จเพื่อนำผู้อยู่ใต้อำนาจให้หลงทาง, ไม่นับถือต่อความศักดิ์สิทธิ์ของเลือด, และกดขี่ข่มเหงผู้รับใช้ของพระยะโฮวา (โดยวิธีนี้แสดงความเกลียดชังต่อพงศ์พันธุ์แห่งผู้หญิงของพระเจ้า) พวกเขาพิสูจน์ตัวอย่างชัดแจ้งว่าเป็นส่วนแห่งพงศ์พันธุ์ของงู. เป็นจริงเช่นเดียวกันกับผู้ทำการค้าอย่างผิดกฎหมาย ผู้ซึ่งโดยปราศจากการทิ่มแทงของสติรู้สึกผิดชอบโกหกเพื่อได้ผลประโยชน์ทางการเงิน และผลิตหรือขายสินค้าที่รู้อยู่ว่าทำให้เกิดโรคภัย.
17. โอกาสอะไรที่ยังคงเปิดอยู่สำหรับปัจเจกบุคคลที่มีชื่อเสียงผู้ซึ่งอาจได้ออกมาจากระบบของโลกนี้?
17 ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นมลทินเพราะศาสนา, การเมือง, หรือการค้าของโลกจะถูกนับเป็นส่วนของพงศ์พันธุ์ของงูเมื่อถึงอวสานของระบบนี้. ชายหญิงเหล่านี้บางคนกลับมาชื่นชอบพยานพระยะโฮวา. พวกเขาใช้อิทธิพลของตนเพื่อช่วยพวกผู้รับใช้ของพระเจ้าและภายหลังยินดีรับเอาการนมัสการแท้. (เทียบกับกิจการ 13:7, 12; 17:32-34.) ต่อบุคคลเช่นนี้แหละที่คำวิงวอนนี้มีไปถึงพวกเขา: “บัดนี้ โอท่านผู้เป็นกษัตริย์ จงมีความเข้าใจลึกซึ้งเถิด; โอท่านผู้พิพากษาที่แผ่นดินโลก จงรับการแก้ไข. จงปรนนิบัติพระยะโฮวาด้วยใจเกรงกลัว และจงยินดีพร้อมด้วยตัวสั่น. จงจูบพระบุตร เพื่อพระองค์จะไม่พิโรธ และท่านทั้งหลายจะไม่พินาศจากทางนั้น เพราะความพิโรธของพระองค์พลุ่งขึ้นโดยเร็ว. บรรดาคนที่เอาพระองค์เป็นที่คุ้มภัยก็เป็นสุข.” (บทเพลงสรรเสริญ 2:10-12, ล.ม.) ที่จริง เป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกคนซึ่งปรารถนาเป็นที่พอพระทัยของพระยะโฮวาจะต้องลงมือเสียแต่บัดนี้ ก่อนที่องค์ผู้พิพากษาแห่งฟ้าสวรรค์จะปิดประตูโอกาสไปเสีย!
18. แม้ไม่ใช่ส่วนของพงศ์พันธุ์ของหญิง ใครที่เป็นผู้นมัสการของพระยะโฮวา?
18 เฉพาะคนเหล่านั้นที่จะประกอบกันขึ้นเป็นราชอาณาจักรทางภาคสวรรค์เท่านั้นที่เป็นส่วนแห่งพงศ์พันธุ์ของหญิง. คนเหล่านี้มีจำนวนน้อย. (วิวรณ์ 7:4, 9) กระนั้น มีคนอื่น ๆ ที่เป็นชนฝูงใหญ่หลายล้านคน ผู้ซึ่งในฐานะเป็นผู้นมัสการของพระยะโฮวาคอยท่าชีวิตนิรันดร์ในโลกที่เป็นอุทยาน. ทั้งโดยคำพูดและการกระทำ พวกเขากล่าวกับผู้ถูกเจิมของพระยะโฮวาว่า “เราจะไปด้วยท่าน, เพราะเราได้ยินว่าพระเจ้าอยู่กับท่าน.”—ซะคาระยา 8:23.
19. (ก) ทางเลือกอะไรที่ทุกคนต้องตัดสินใจเลือก? (ข) ใครโดยเฉพาะที่ได้รับคำวิงวอนอย่างแรงกล้าให้ลงมือทำอย่างสุขุมขณะที่ยังมีโอกาสอยู่?
19 บัดนี้เป็นเวลาที่มนุษยชาติทั้งหมดต้องทำการเลือก. พวกเขาต้องการนมัสการพระยะโฮวาและยกชูพระบรมเดชานุภาพของพระองค์ หรือพวกเขาจะยอมให้ซาตานเป็นผู้ปกครองของตนโดยการทำสิ่งต่าง ๆ ที่ทำให้มันชอบใจ? มีคนประมาณห้าล้านคนจากชาติต่าง ๆ ที่ได้ยืนอยู่ฝ่ายพระยะโฮวาร่วมกับชนที่เหลือแห่งพงศ์พันธุ์ของหญิงซึ่งเป็นทายาทแห่งราชอาณาจักร. คนอื่น ๆ อีกแปดล้านคนแสดงความสนใจในการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลกับพวกเขา หรือในการเข้าร่วมการประชุมต่าง ๆ ของพวกเขา. พยานพระยะโฮวาบอกกับบรรดาคนเหล่านี้ว่า ประตูโอกาสยังเปิดอยู่. จงยืนอยู่ฝ่ายพระยะโฮวาอย่างไม่แคลงใจ. จงยอมรับพระเยซูคริสต์ฐานะพงศ์พันธุ์ที่ทรงสัญญา. สมาคมคบหากับองค์การอันประจักษ์แก่ตาของพระยะโฮวาด้วยความชื่นชมยินดี. ขอให้คุณร่วมรับเอาพระพรทุกประการที่พระองค์จะทรงจัดเตรียมให้โดยทางการปกครองขององค์กษัตริย์เยซูคริสต์.
[เชิงอรรถ]
a จัดพิมพ์โดยสมาคมว็อชเทาเวอร์ ไบเบิล แอนด์ แทร็กต์ แห่งนิวยอร์ก.
คุณจำได้ไหม?
▫ ใครคืองูที่มีกล่าวถึงที่เยเนซิศ 3:15? และใครคือผู้หญิง?
▫ ลักษณะนิสัยเฉพาะอะไรที่เป็นของพงศ์พันธุ์ของงู?
▫ พระเยซูทรงเปิดโปงพงศ์พันธุ์ของงูอย่างไร?
▫ ใครที่ได้ถูกเปิดโปงว่าเป็นส่วนของพงศ์พันธุ์ของงูสมัยปัจจุบัน?
▫ จำเป็นต้องทำอะไรโดยรีบด่วนเพื่อจะได้ไม่ถูกนับรวมกับพงศ์พันธุ์ของงู?
[รูปภาพหน้า 10]
พระเยซูทรงเปิดโปงพวกผู้นำทางศาสนาที่หน้าซื่อใจคดว่าเป็นส่วนแห่งพงศ์พันธุ์ของงู