การช่วยให้รอดสู่โลกใหม่ที่ชอบธรรม
“เขาจะชื่นชมยินดีด้วยความสงบสุขอันบริบูรณ์.”—บทเพลงสรรเสริญ 37:11.
1, 2. (ก) การช่วยให้รอดจากพระยะโฮวาในสมัยของเราจะต่างไปจากการช่วยให้รอดในสมัยโบราณอย่างไร? (ข) พระยะโฮวาจะทรงนำไพร่พลของพระองค์เข้าสู่โลกแบบใด?
พระยะโฮวาทรงเป็นพระเจ้าแห่งการช่วยให้รอด. ในคราวโบราณ พระองค์ทรงช่วยไพร่พลของพระองค์ในโอกาสต่าง ๆ หลายต่อหลายครั้ง. การช่วยให้รอดเหล่านั้นเป็นเพียงชั่วคราว เพราะไม่ว่าจะในกรณีใดพระยะโฮวาไม่ได้สำเร็จโทษอย่างถาวรต่อโลกทั้งสิ้นของซาตาน. แต่อีกไม่ช้าในสมัยของเรา พระยะโฮวาจะทรงจัดให้มีการช่วยให้รอดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแก่ผู้รับใช้ทั้งสิ้นของพระองค์. ครั้งนี้พระองค์จะทำลายระบบโลกอันไพศาลของซาตานไม่ให้เหลือแม้เงา และพระองค์จะนำผู้รับใช้ของพระองค์เข้าสู่โลกใหม่ที่ชอบธรรมและยั่งยืนถาวร.—2 เปโตร 2:9; 3:10-13.
2 พระยะโฮวาทรงสัญญาดังนี้: “ยังอีกหน่อยหนึ่ง, คนชั่วจะไม่มี. . . . แต่คนทั้งหลายที่มีใจถ่อมลงจะได้แผ่นดินเป็นมฤดก, และเขาจะชื่นชมยินดีด้วยความสงบสุขอันบริบูรณ์.” (บทเพลงสรรเสริญ 37:10, 11) นานเพียงไร? “คนสัตย์ธรรมจะได้แผ่นดินเป็นมฤดก, และจะอาศัยอยู่ที่นั่นต่อไปเป็นนิตย์.” (บทเพลงสรรเสริญ 37:29; มัดธาย 5:5) อย่างไรก็ตาม ก่อนจะเป็นเช่นนั้น โลกนี้จะผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดอย่างที่ไม่เคยพบเห็นกันมาก่อน.
“ความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่”
3. พระเยซูทรงพรรณนาอย่างไรเกี่ยวกับ “ความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่”?
3 ในปี 1914 โลกล่วงเข้าสู่ “สมัยสุดท้าย.” (2 ติโมเธียว 3:1-5, 13, ล.ม.) ปัจจุบันเราผ่านเข้ามาในช่วงเวลานั้น 83 ปีแล้ว และกำลังอยู่ใกล้จุดสิ้นสุดซึ่งพระเยซูทรงบอกล่วงหน้าว่าจะมีสิ่งที่เกิดขึ้นถัดจากนั้นดังต่อไปนี้: “จะเกิดความทุกข์ลำบากใหญ่อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มมีโลกจนกระทั่งบัดนี้ ใช่ และจะไม่เกิดขึ้นอีก.” (มัดธาย 24:21, ล.ม.) ถูกแล้ว จะเลวร้ายยิ่งกว่าสงครามโลกครั้งที่สองเสียอีก ซึ่งเป็นคราวที่มีประมาณ 50 ล้านคนเสียชีวิต. วาระที่โลกจะสะเทือนสะท้านกำลังรุดใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว!
4. เหตุใดการพิพากษาของพระเจ้าจึงมีต่อ “บาบูโลนใหญ่”?
4 “ความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่” จะมาอย่างฉับพลันโดยไม่ทันรู้ตัว “ในชั่วโมงเดียว.” (วิวรณ์ 18:10) การเริ่มต้นของความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่จะเห็นได้เด่นชัดจากการสำเร็จโทษโดยพระเจ้าต่อศาสนาเท็จทั้งสิ้น ซึ่งพระคำของพระเจ้าเรียกเป็น “บาบูโลนใหญ่.” (วิวรณ์ 17:1-6, 15, ล.ม.) ลักษณะเด่นของบาบูโลนโบราณคือศาสนาเท็จ. บาบูโลนสมัยใหม่นั้นก็เหมือนกับคู่เทียบในสมัยโบราณและหมายถึงจักรวรรดิโลกแห่งศาสนาเท็จ. ศาสนาเท็จสวมบทบาทหญิงแพศยาโดยประนีประนอมกับส่วนการเมือง. นางได้ให้การสนับสนุนแก่การเมืองในสงครามของพวกเขา และต่างก็อวยชัยให้พรกองทัพทั้งสองฝ่าย ยังผลให้ประชาชนที่ถือศาสนาเดียวกันฆ่าฟันกันเอง. (มัดธาย 26:51, 52; 1 โยฮัน 4:20, 21) ศาสนาเท็จปิดหูปิดตาต่อความประพฤติเสื่อมทรามของคนในศาสนาของตนและได้ข่มเหงคริสเตียนแท้.—วิวรณ์ 18:5, 24.
5. “ความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่” เริ่มต้นอย่างไร?
5 “ความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่” จะเริ่มต้นเมื่อส่วนการเมืองหันมาโจมตี “บาบูโลนใหญ่” อย่างไม่คาดฝัน. พวกเขา “จะเกลียดชังหญิงแพศยานั้นและจะทำให้นางถูกล้างผลาญและเปลือยกายและจะกินเนื้อของนางและเผานางจนสิ้นด้วยไฟ.” (วิวรณ์ 17:16, ล.ม.) หลังจากนั้น อดีตผู้ให้การสนับสนุนบาบูโลนใหญ่ “จะร้องไห้และทุบตีตัวเองด้วยความเศร้าโศกเพราะเมืองนั้น.” (วิวรณ์ 18:9-19, ล.ม.) แต่ผู้รับใช้ของพระยะโฮวาได้คาดหมายเหตุการณ์นี้มานานแล้ว และพวกเขาจะร้องออกมาว่า “จงสรรเสริญยาห์! . . . เพราะพระองค์ได้ทรงลงโทษตามคำพิพากษาแก่หญิงแพศยาคนสำคัญนั้นที่ได้ทำให้แผ่นดินโลกเสื่อมเสียด้วยการผิดประเวณีของนาง และพระองค์ได้ทรงแก้แค้นแทนเลือดทาสทั้งหลายของพระองค์ที่มือของนาง.”—วิวรณ์ 19:1, 2, ล.ม.
ผู้รับใช้ของพระเจ้าถูกโจมตี
6, 7. เหตุใดผู้รับใช้พระยะโฮวาสามารถมีความมั่นใจเมื่อถูกโจมตีในระหว่าง “ความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่”?
6 เมื่อได้ทำลายศาสนาเท็จแล้ว ส่วนการเมืองก็จะหันมาโจมตีผู้รับใช้พระยะโฮวา. ซาตาน ซึ่งในคำพยากรณ์เรียกเป็น “โกกแห่งแผ่นดินมาโกก” กล่าวดังนี้: “เราจะโจมตีประชาชนที่สงบซึ่งอาศัยอยู่อย่างปลอดภัย.” โดยคิดว่าพวกเขาเป็นเหยื่อที่จะจัดการได้อย่างง่ายดาย มันจะโจมตีพวกเขาโดยใช้ “กองทัพทรงกำลังยิ่งนัก . . . เหมือนอย่างเมฆคลุมแผ่นดิน.” (ยะเอศเคล 38:2, 10-16, ฉบับแปลใหม่) ไพร่พลของพระยะโฮวาทราบว่าการโจมตีนี้จะล้มเหลว เพราะพวกเขาวางใจในพระยะโฮวา.
7 เมื่อฟาโรห์และกองทัพของเขาคิดว่า พวกเขาได้ต้อนผู้รับใช้ของพระเจ้าให้อับจนสิ้นทางไป ณ ทะเลแดง พระยะโฮวาทรงช่วยไพร่พลของพระองค์อย่างอัศจรรย์และทำลายกองทัพของอียิปต์. (เอ็กโซโด 14:26-28) ระหว่าง “ความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่” เมื่อชาติต่าง ๆ คิดว่าพวกเขาต้อนไพร่พลของพระยะโฮวาให้จนมุมแล้ว พระองค์จะทรงช่วยผู้รับใช้ของพระองค์ให้พ้นภัยอีกครั้งด้วยการอัศจรรย์: “ในวันนั้น . . . ความพิโรธของเราจะขึ้นในนาสิกแห่งเรา. ด้วยว่าเราว่าด้วยความเดือดร้อนของเราและด้วยความพิโรธของเราดังไฟ.” (ยะเอศเคล 38:18, 19) ถึงตอนนั้น จุดสุดยอดของ “ความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่” ก็จะมาถึงทันที!
8. เหตุการณ์เหนือธรรมชาติอะไรเกิดขึ้นก่อนพระยะโฮวาจะสำเร็จโทษคนชั่ว และพร้อมด้วยผลเช่นไร?
8 เมื่อถึงจุดหนึ่งหลังจาก “ความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่” เริ่มต้นแล้ว แต่ก่อนที่พระยะโฮวาจะทรงสำเร็จโทษส่วนที่เหลือของโลกนี้ จะเกิดเหตุการณ์เหนือธรรมชาติขึ้น. ขอให้สังเกตว่าเหตุการณ์เหล่านั้นจะก่อให้เกิดผลเช่นไร. “ครั้นแล้วสัญลักษณ์แห่งบุตรมนุษย์ [พระคริสต์] จะปรากฏในฟ้าสวรรค์ และครั้นแล้วตระกูลทั้งปวงแห่งแผ่นดินโลกจะทุบตีตัวเองด้วยความคร่ำครวญ และเขาทั้งหลายจะเห็นบุตรมนุษย์เสด็จมาบนเมฆแห่งฟ้าสวรรค์ด้วยฤทธิ์และสง่าราศีเป็นอันมาก.” (มัดธาย 24:29, 30, ล.ม.) “จะมีนิมิตที่ดวงอาทิตย์ ที่ดวงจันทร์และที่ดวงดาว . . . ขณะที่มนุษย์จะสลบเนื่องด้วยความกลัวและการคอยท่าเหตุการณ์ซึ่งจะเกิดขึ้นบนแผ่นดินโลกที่มีผู้คนอาศัยอยู่.”—ลูกา 21:25, 26, ล.ม.
“การช่วยให้รอดพ้นสำหรับพวกเจ้าใกล้จะถึงแล้ว”
9. เหตุใดผู้รับใช้พระยะโฮวาสามารถ ‘ชูศีรษะขึ้น’ เมื่อเหตุการณ์เหนือธรรมชาติเกิดขึ้น?
9 ณ เวลานั้นเอง คำพยากรณ์ที่ลูกา 21:28 (ล.ม.) จะสำเร็จเป็นจริง. พระเยซูตรัสว่า “ขณะที่เหตุการณ์ทั้งปวงนี้เริ่มจะบังเกิดขึ้น เจ้าทั้งหลายจงยืดตัวตรงและชูศีรษะขึ้น เพราะการช่วยให้รอดพ้นสำหรับพวกเจ้าใกล้จะถึงแล้ว.” เหล่าศัตรูของพระเจ้าจะสั่นสะท้านด้วยความกลัว เพราะพวกเขาจะรู้ว่าเหตุการณ์เหนือธรรมชาติทั้งหลายที่เกิดขึ้นนั้นมาจากพระยะโฮวา. ทว่าผู้รับใช้ของพระยะโฮวาจะยินดีปรีดา เพราะพวกเขาจะรู้ว่าการช่วยให้รอดสำหรับพวกเขามาใกล้แล้ว.
10. พระคำของพระเจ้าพรรณนาอย่างไรเกี่ยวกับจุดสุดยอดแห่ง “ความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่”?
10 จากนั้นพระยะโฮวาจะทรงจัดการอย่างเด็ดขาดโดยทำลายระบบของซาตาน: “เราจะตัดสิน [โกก] ด้วยโรคห่าและโลหิต, เราจะเทห่าฝนอันใหญ่และลูกเห็บโตใหญ่, ไฟ, และกำมะถัน, เหนือเขาและเหนือพลโยธาของเขา . . . และเขาทั้งหลายจะได้รู้ว่าเราคือยะโฮวา.” (ยะเอศเคล 38:22, 23) ระบบของซาตานจะถูกทำลายสิ้นไม่เหลือร่องรอย. สังคมมนุษย์ทั้งสิ้นที่เฉยเมยต่อพระเจ้าจะถูกกวาดล้างทำลาย. นั่นคือจุดสุดยอดของอาร์มาเก็ดดอนในคราวความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่.—ยิระมะยา 25:31-33; 2 เธซะโลนิเก 1:6-8; วิวรณ์ 16:14, 16; 19:11-21.
11. เพราะเหตุใดผู้รับใช้พระยะโฮวาได้รับการช่วยให้รอดผ่าน “ความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่”?
11 คนที่จะได้รับการช่วยให้รอดผ่าน “ความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่” จะได้แก่หลายล้านคนที่นมัสการพระยะโฮวาอยู่ทั่วโลก. คนเหล่านี้ประกอบกันขึ้นเป็น “ชนฝูงใหญ่” ซึ่งมา “จากชาติและตระกูลและชนชาติและภาษาทั้งปวง.” ทำไมพวกเขาได้รับการช่วยให้รอดอย่างที่น่าเกรงขามเช่นนั้น? เพราะพวกเขาถวาย “การรับใช้อันศักดิ์สิทธิ์แด่ [พระยะโฮวา] ทั้งวันทั้งคืน.” ดังนั้น พวกเขารอดชีวิตผ่านอวสานของโลกนี้ และถูกนำเข้าสู่โลกใหม่ที่ชอบธรรม. (วิวรณ์ 7:9-15, ล.ม.) โดยวิธีนี้ พวกเขาเป็นพยานถึงความสำเร็จเป็นจริงแห่งคำสัญญาของพระยะโฮวาที่ว่า “จงคอยท่าพระยะโฮวาและรักษาทางของพระองค์ไว้, แล้วพระองค์จะทรงโปรดให้ท่านเลื่อนขึ้นได้มฤดกที่แผ่นดินนั้น. ท่านคงจะได้เห็น, เมื่อคนชั่วต้องถูกตัดขาดเสีย.”—บทเพลงสรรเสริญ 37:34.
โลกใหม่
12. ผู้รอดชีวิตจากอาร์มาเก็ดดอนสามารถคอยท่าอะไร?
12 นั่นช่างจะเป็นเวลาที่น่าตื่นเต้นเสียนี่กระไร—การขจัดความชั่วให้สิ้นไปและเริ่มอรุโณทัยแห่งยุคที่รุ่งโรจน์ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์! (วิวรณ์ 20:1-4) บรรดาผู้รอดชีวิตผ่านอาร์มาเก็ดดอนจะรู้สึกขอบคุณพระยะโฮวาสักเพียงไรที่ได้เข้าสู่อารยธรรมที่สะอาดสดใสแห่งการสร้างสรรค์ของพระเจ้า โลกใหม่บนแผ่นดินโลกซึ่งจะถูกเปลี่ยนเป็นอุทยาน! (ลูกา 23:43) และพวกเขาจะไม่ต้องตายเลย! (โยฮัน 11:26) แท้จริง นับจากเวลานั้นไป พวกเขาจะมีความคาดหวังอันมหัศจรรย์และน่าพิศวงในการมีชีวิตอยู่ตราบที่พระยะโฮวาทรงพระชนม์ชีพอยู่!
13. พระเยซูจะทรงสานต่องานเยียวยารักษาที่พระองค์เริ่มไว้บนแผ่นดินโลกนี้อย่างไร?
13 พระเยซูผู้ซึ่งพระยะโฮวาได้ทรงแต่งตั้งให้เป็นกษัตริย์ฝ่ายสวรรค์จะดูแลผู้ที่รอดชีวิตให้ได้รับพระพรต่าง ๆ อันน่าพิศวง. เมื่อทรงอยู่บนแผ่นดินโลก พระองค์ทรงเปิดตาของคนตาบอดและหูของคนหูหนวก และรักษา “โรคและความป่วยไข้ทุกอย่างของพลเมืองให้หาย.” (มัดธาย 9:35; 15:30, 31, ฉบับแปลใหม่) ในโลกใหม่ พระองค์จะทรงสานต่องานการรักษาเยียวยาที่ยิ่งใหญ่ แต่ในขอบข่ายทั่วทั้งโลก. ฐานะผู้แทนของพระเจ้า พระองค์จะทรงทำให้คำสัญญานี้สำเร็จเป็นจริงที่ว่า “พระเจ้าจะทรงเช็ดน้ำตาทุก ๆ หยดจากตาของเขา ความตายจะไม่มีต่อไป การคร่ำครวญและร้องไห้และการเจ็บปวดอย่างหนึ่งอย่างใดจะไม่มีอีกเลย เพราะเหตุการณ์ที่ได้มีอยู่แต่ดั้งเดิมนั้นได้ล่วงพ้นไปแล้ว.” (วิวรณ์ 21:4) จะไม่มีความจำเป็นต้องมีผู้ประกอบอาชีพทางการแพทย์หรือมีสัปเหร่ออีกต่อไป!—ยะซายา 25:8; 33:24.
14. การช่วยให้รอดอะไรที่จะมีมายังผู้รับใช้พระยะโฮวาที่เสียชีวิตไปแล้ว?
14 นอกจากนี้ยังมีบรรดาผู้รับใช้พระเจ้าที่ซื่อสัตย์ซึ่งได้ตายไปในอดีตก็จะได้รับการช่วยให้รอดด้วย. ในโลกใหม่ พวกเขาจะได้รับการช่วยให้หลุดพ้นจากอำนาจควบคุมอย่างไม่มีการผ่อนปรนของหลุมฝังศพ. พระยะโฮวาทรงรับรองดังนี้: “จะมีการกลับเป็นขึ้นจากตายทั้งของคนชอบธรรมและคนไม่ชอบธรรม.” (กิจการ 24:15, ล.ม.) เหล่า “คนชอบธรรม” คงจะได้รับการปลุกให้เป็นขึ้นจากตายในช่วงแรก ๆ และมีส่วนในการขยายอุทยาน. ช่างน่าตื่นเต้นสักเพียงไรสำหรับผู้รอดจากอาร์มาเก็ดดอนที่จะได้ฟังประสบการณ์ของเหล่าผู้ซื่อสัตย์ซึ่งเสียชีวิตไปนานแล้ว ซึ่งเวลานั้นกลับมามีชีวิตอีก!—โยฮัน 5:28, 29.
15. จงพรรณนาสภาพการณ์บางอย่างที่จะได้ประสบในโลกใหม่.
15 เวลานั้นทุกคนซึ่งมีชีวิตอยู่จะประสบอย่างที่ท่านผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญกล่าวไว้เกี่ยวกับพระยะโฮวาว่า “พระองค์ทรงแบพระหัตถ์, ประทานแก่สรรพสัตว์ที่มีชีวิตอยู่ให้อิ่มตามความประสงค์.” (บทเพลงสรรเสริญ 145:16) ไม่มีความหิวโหยอีกต่อไป: แผ่นดินโลกจะถูกกอบกู้สู่สมดุลทางนิเวศวิทยาและเกิดดอกออกผลอย่างบริบูรณ์. (บทเพลงสรรเสริญ 72:16) ไม่มีคนไร้ที่อยู่อาศัยอีกต่อไป: “เขาจะสร้างบ้านเรือนและจะได้อยู่เป็นแน่” และแต่ละคนก็จะนั่ง “อยู่ใต้ซุ้มเถาองุ่นและใต้ต้นมะเดื่อเทศของตน; และจะไม่มีอะไรมาทำให้เขาสะดุ้งกลัว.” (ยะซายา 65:21, 22, ล.ม.; มีคา 4:4) ไม่มีความกลัวอีกต่อไป: จะไม่มีสงคราม, ความรุนแรง, หรืออาชญากรรม. (บทเพลงสรรเสริญ 46:8, 9; สุภาษิต 2:22) “แผ่นดินโลกทั้งสิ้นก็สงบลง ปราศจากความวุ่นวาย. ผู้คนก็เบิกบานเปล่งเสียงร้องด้วยความยินดี.”—ยะซายา 14:7, ล.ม.
16. เพราะเหตุใดความชอบธรรมจะซึมซาบอยู่ในโลกใหม่?
16 ในโลกใหม่ สื่อโฆษณาชวนเชื่อทั้งหลายของซาตานจะถูกขจัดให้หมดสิ้นไป. สิ่งที่เข้ามาแทนที่คือ “พลโลกก็จะเรียนรู้ถึงความชอบธรรม.” (ยะซายา 26:9; 54:13) ด้วยการสอนซึ่งส่งเสริมสุขภาพฝ่ายวิญญาณปีแล้วปีเล่า “แผ่นดินโลกจะเต็มไปด้วยความรู้ฝ่ายพระยะโฮวาดุจน้ำท่วมเต็มมหาสมุทร.” (ยะซายา 11:9) ความคิดและการกระทำที่ก่อร่างสร้างจะซึมซาบอยู่ในหมู่มนุษยชาติ. (ฟิลิปปอย 4:8) นึกภาพดูซิ สังคมโลกที่ผู้คนปลอดจากอาชญากรรม, การยกตนข่มท่าน, ความริษยา—ภราดรภาพในระดับนานาชาติซึ่งทุกคนล้วนมีผลแห่งพระวิญญาณของพระเจ้า. จริงทีเดียว แม้แต่เวลานี้บรรดาชนฝูงใหญ่ก็กำลังปลูกฝังคุณสมบัติเช่นนั้น.—ฆะลาเตีย 5:22, 23.
ทำไมนานเหลือเกิน?
17. เหตุใดพระยะโฮวาทรงรออยู่นานก่อนจะยุติความชั่ว?
17 อย่างไรก็ตาม ทำไมพระยะโฮวาทรงรออยู่นานทีเดียวก่อนที่จะขจัดความชั่วและช่วยไพร่พลของพระองค์ให้รอดเข้าไปสู่โลกใหม่? จงพิจารณาถึงสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จ. สำคัญที่สุดคือการพิสูจน์ความถูกต้องแห่งพระบรมเดชานุภาพของพระยะโฮวา สิทธิของพระองค์ที่จะปกครอง. โดยการยอมให้มีเวลาเพียงพอ พระองค์ได้ทรงแสดงให้ประจักษ์อย่างไร้ข้อสงสัยใด ๆ ว่า การปกครองของมนุษย์ซึ่งไม่อยู่ใต้พระบรมเดชานุภาพของพระองค์ปรากฏผลเป็นความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง. (ยิระมะยา 10:23) ดังนั้น บัดนี้พระยะโฮวาทรงมีเหตุผลเต็มเปี่ยมในการแทนที่การปกครองของมนุษย์ด้วยการครอบครองแห่งราชอาณาจักรฝ่ายสวรรค์ของพระองค์ภายใต้พระคริสต์.—ดานิเอล 2:44; มัดธาย 6:9, 10.
18. เมื่อไรที่ลูกหลานของอับราฮามได้รับแผ่นดินคะนาอันเป็นมรดก?
18 สิ่งที่ได้เกิดขึ้นในระหว่างศตวรรษต่าง ๆ นี้คล้ายคลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในสมัยของอับราฮาม. พระยะโฮวาทรงบอกอับราฮามว่า ลูกหลานของท่านจะได้แผ่นดินคะนาอันเป็นมรดก—แต่ยังต้องรอให้ผ่านสี่ร้อยปีไปก่อน “ด้วยความชั่วลามกของพวกอะโมรียังไม่ครบถ้วน.” (เยเนซิศ 12:1-5; 15:13-16) ในที่นี้ คำ “อะโมรี” (เผ่าชนที่เหนือกว่า) คงหมายถึงชาติต่าง ๆ โดยรวมแห่งดินแดนคะนาอัน. ฉะนั้น ประมาณสี่ศตวรรษต้องได้ผ่านไปก่อนที่พระยะโฮวาจะให้ไพร่พลของพระองค์เข้าครอบครองคะนาอัน. ในระหว่างนั้น พระยะโฮวาทรงปล่อยให้ชาติต่าง ๆ แห่งคะนาอันพัฒนาสังคมของพวกเขา. พร้อมด้วยผลเช่นไร?
19, 20. สังคมแบบไหนที่ชาวคะนาอันพัฒนาขึ้นมา?
19 หนังสือคู่มือคัมภีร์ไบเบิล โดยเฮนรี เอช. ฮัลเลย์ ชี้ว่า ที่เมกิดโด นักโบราณคดีพบซากวิหารแห่งอัสโทเร็ธ เทวีผู้เป็นมเหสีของพระบาละ. เขาเขียนดังนี้: “ห่างจากวิหารเพียงไม่กี่ก้าวก็เป็นสุสานซึ่งพบไหจำนวนมากบรรจุกระดูกทารกซึ่งถูกบูชายัญในวิหารนี้ . . . ผู้พยากรณ์ฝ่ายพระบาละและอัสโทเร็ธเป็นฆาตกรเด็กเล็กอย่างเป็นทางการ.” “กิจปฏิบัติอีกอย่างหนึ่งที่น่าขยะแขยงได้แก่สิ่งที่พวกเขาเรียกว่า ‘การบูชายัญฐานราก.’ เมื่อจะปลูกบ้าน เด็กคนหนึ่งจะถูกบูชายัญ และร่างของเขาจะรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของผนัง.”
20 ฮัลเลย์แสดงความเห็นดังนี้: “การนมัสการพระบาละ, เทพธิดาอัสโทเร็ธ, และพระอื่น ๆ ของชาวคะนาอันประกอบด้วยการเต้นรำอย่างบ้าคลั่ง และดื่มสุราเมามาย; วิหารของพวกเขาเป็นที่รวมของความชั่วร้าย. . . . ชาวคะนาอันนมัสการ ด้วยการทำผิดศีลธรรมตามอำเภอใจ . . . ครั้นแล้ว โดยฆ่าบุตรหัวปีของตน ถวายเป็นสิ่งบูชายัญแก่พระเหล่านั้น. ดูเหมือนว่า ส่วนใหญ่แล้ว แผ่นดินคะนาอันได้กลายเป็นเช่นเดียวกับเมืองโซโดมและโกโมร์ราห์ในระดับชาติเลยทีเดียว. . . . อารยธรรมอันน่าชิงชังรังเกียจและเหี้ยมโหดเช่นนั้นมีสิทธิจะดำรงอยู่ต่อไปไหม? . . . นักโบราณคดีซึ่งขุดค้นซากปรักหักพังของเมืองต่าง ๆ ในคะนาอันรู้สึกแปลกใจที่พระเจ้าไม่ได้ทำลายพวกเขาเร็วกว่านั้น.”—เทียบกับ 1 กษัตริย์ 21:25, 26.
21. สภาพการณ์ที่เกิดขึ้นกับชาวคะนาอันและสมัยของเรานี้มีความคล้ายคลึงกันเช่นไร?
21 ความชั่วร้ายของพวกอะโมรี “ครบถ้วน” แล้ว. ดังนั้น พระยะโฮวาทรงมีเหตุผลเต็มเปี่ยมในการทำลายล้างพวกเขา. เป็นเช่นเดียวกันด้วยในทุกวันนี้. โลกนี้เต็มด้วยความรุนแรง, การผิดศีลธรรม, และการดูหมิ่นกฎหมายของพระเจ้า. และเนื่องจากเรามีเหตุอันควรที่จะรู้สึกสะดุ้งตกใจต่อการบูชายัญเด็กอย่างน่าชิงชังรังเกียจในคะนาอันโบราณ จะว่าอย่างไรกับการบูชายัญคนหนุ่มหลายสิบล้านคนในสงครามของโลกนี้ ซึ่งเลวร้ายยิ่งกว่าสิ่งใดในคะนาอันเสียอีก? แน่นอน เวลานี้พระยะโฮวาทรงมีเหตุผลพร้อมมูลในการนำอวสานมาสู่ระบบชั่วนี้.
การทำให้สิ่งอื่นอีกสำเร็จ
22. ความอดกลั้นพระทัยของพระยะโฮวาทำให้อะไรสำเร็จในสมัยของเรา?
22 ความอดกลั้นพระทัยของพระยะโฮวาในสมัยสุดท้ายนี้กำลังทำให้สิ่งอื่นอีกสำเร็จ. พระองค์ทรงปล่อยให้มีเวลารวบรวมและให้การศึกษาแก่ชนฝูงใหญ่ ซึ่งมีจำนวนมากกว่าห้าล้านคนแล้ว. ภายใต้การชี้นำของพระยะโฮวา พวกเขาได้รวมตัวกันเป็นองค์การที่รุดไปข้างหน้า. ชาย, หญิง, และคนหนุ่มสาวได้รับการฝึกอบรมให้สอนความจริงในคัมภีร์ไบเบิลแก่คนอื่น. โดยการประชุมของพวกเขาและสรรพหนังสืออธิบายคัมภีร์ไบเบิล พวกเขาเรียนรู้จักแนวทางอันเต็มด้วยความรักของพระเจ้า. (โยฮัน 13:34, 35; โกโลซาย 3:14; เฮ็บราย 10:24, 25) นอกจากนี้ พวกเขายังได้พัฒนาความเชี่ยวชาญในการก่อสร้าง, อิเล็กทรอนิกส์, การพิมพ์, และงานในด้านอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนการประกาศ “ข่าวดี.” (มัดธาย 24:14, ล.ม.) การสอนและความเชี่ยวชาญในการก่อสร้างเช่นนั้นคงจะถูกนำไปใช้ประโยชน์ได้มากทีเดียวในโลกใหม่.
23. เหตุใดเป็นสิทธิพิเศษที่ได้มีชีวิตอยู่ในเวลานี้?
23 ถูกแล้ว ทุกวันนี้พระยะโฮวากำลังเตรียมผู้รับใช้ของพระองค์ให้ผ่าน “ความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่” เข้าสู่โลกใหม่ที่ชอบธรรม. ตอนนั้น จะไม่มีซาตานและโลกชั่วของมันที่คนเราต้องต่อสู้ ไม่มีความเจ็บป่วย, ความเศร้าโศก, และความตาย. ด้วยความกระตือรือร้นและความยินดีอย่างยิ่ง ไพร่พลของพระเจ้าจะดำเนินไปพร้อมด้วยงานที่ให้ความสุขในการสร้างอุทยาน ที่ซึ่งทุกวันจะมีแต่ความ “ชื่นชมยินดี.” ช่างเป็นสิทธิพิเศษจริง ๆ ที่เรามีชีวิต ณ จุดสุดยอดแห่งยุคสมัยทั้งหลาย, ได้รู้จักและรับใช้พระยะโฮวา, และตระหนักว่าอีกไม่ช้าเลยเราจะ ‘ชูศีรษะของเราขึ้นเพราะการช่วยให้รอดพ้นสำหรับเราใกล้จะถึงแล้ว’!—ลูกา 21:28, ล.ม.; บทเพลงสรรเสริญ 146:5.
คำถามทบทวน
▫ “ความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่” คืออะไร และจะเริ่มต้นอย่างไร?
▫ เหตุใดการโจมตีของโกกต่อผู้รับใช้พระยะโฮวาจะไม่ประสบผล?
▫ “ความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่” จะสิ้นสุดลงอย่างไร?
▫ สิ่งดียอดเยี่ยมอะไรบ้างที่โลกใหม่จะมีให้?
▫ เหตุใดพระยะโฮวาทรงรออยู่นานทีเดียวก่อนจะนำอวสานมาสู่ระบบนี้?
[รูปภาพหน้า 16]
แผ่นดินโลกทั้งสิ้นจะถูกเปลี่ยนเป็นอุทยาน