องค์การของพระยะโฮวาสนับสนุนงานรับใช้ของคุณ
“ข้าพเจ้าได้เห็นทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่งบินอยู่กลางฟ้าสวรรค์ และท่านมีข่าวดีนิรันดร์จะประกาศเป็นข่าวน่ายินดี.”—วิวรณ์ 14:6, ล.ม.
1. พยานพระยะโฮวาได้ถูกทดสอบอย่างไร และทำไมพวกเขาจึงผ่านพ้นมาได้?
ทำไมการรู้จักบทบาทขององค์การฝ่ายสวรรค์ของพระยะโฮวาจึงสำคัญมากในการสนับสนุนงานรับใช้คริสเตียน? คิดดูซิว่า พยานพระยะโฮวาจะประกาศข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรของพระเจ้าไปทั่วโลกที่เป็นปฏิปักษ์อย่างสำเร็จผลได้ไหมหากปราศจากการสนับสนุนของกองกำลังฝ่ายสวรรค์ของพระยะโฮวา? พยานฯ ได้ทำการประกาศเช่นนั้นในระหว่างศตวรรษที่มีกระแสชาตินิยมอย่างสุดโต่ง, ระบอบการเมืองแบบเผด็จการ, สงครามโลก, และความเป็นปฏิปักษ์ต่าง ๆ นานา. หากปราศจากการช่วยเหลือของพระยะโฮวา พยานฯ จะเอาตัวรอดผ่านการโจมตีจากทั่วโลกด้วยอคติ, ความลำเอียง, และบ่อยครั้งด้วยการกดขี่ข่มเหงอย่างรุนแรงได้ไหม?—บทเพลงสรรเสริญ 34:7.
รอดมาได้แม้เผชิญการต่อต้านทั่วโลก
2. มีความคล้ายคลึงกันอย่างไรระหว่างคริสเตียนแท้แห่งศตวรรษแรกกับคริสเตียนแท้ในทุกวันนี้?
2 ในศตวรรษที่ 20 นี้ ศัตรูทางศาสนาและการเมือง ได้ตั้งอุปสรรคทุกอย่างเท่าที่เป็นไปได้ ไม่ว่าจะในทางกฎหมายและทางอื่นใด ด้วยความพยายามที่จะกีดกันหรือยุติงานของพระยะโฮวา. พี่น้องชายหญิงคริสเตียนถูกกดขี่, ปล่อยข่าวกล่าวหาอย่างผิด ๆ, หมิ่นประมาท, และใส่ร้าย—หลายคนถูกฆ่าด้วยซ้ำ—ซึ่งบ่อยครั้งเนื่องจากการยุยงของพวกหัวหน้าศาสนาแห่งบาบูโลนใหญ่. อาจกล่าวได้ว่า เช่นเดียวกับคริสเตียนในยุคแรก ผู้คน “ทราบว่าพวกที่ถือลัทธินี้ก็ถูกติเตียนทุกแห่ง.” เช่นเดียวกับพวกหัวหน้าศาสนาชาวยิวในสมัยพระคริสต์ที่ต่อต้านอย่างโหดร้ายเพื่อยุติงานรับใช้ของพระองค์ พวกหัวหน้าศาสนาและพวกออกหากซึ่งสมคบกับชู้รักทางการเมืองของตนก็ได้พยายามยุติงานให้คำพยานและงานสอนของไพร่พลของพระยะโฮวา.—กิจการ 28:22; มัดธาย 26:59, 65-67.
3. เราสามารถเรียนอะไรได้จากความซื่อสัตย์มั่นคงของเฮนรีกา ชูร์?
3 เพื่อเป็นตัวอย่าง ให้เรามาดูว่าเกิดอะไรขึ้นที่โปแลนด์ในวันที่ 1 มีนาคม 1946. เฮนรีกา ชูร์ เด็กสาวพยานฯ วัย 15 ปีซึ่งอยู่ใกล้ ๆ เมืองเคล์มได้ไปด้วยกันกับพี่น้องชายพยานฯ อีกคนหนึ่งเพื่อเยี่ยมผู้สนใจในหมู่บ้านใกล้เคียง. ทั้งสองถูกจับกุมโดยสมาชิกของหน่วยทหารคาทอลิกที่มีชื่อว่านาโรโดเว ชีอีวิ ซบรอยเน (กองกำลังแห่งชาติ). พี่น้องชายถูกตีอย่างทารุณแต่ก็รอดชีวิตมาได้. ทว่าไม่เป็นเช่นนั้นสำหรับเฮนรีกา. คนกลุ่มนี้ทรมานเธออย่างสาหัสอยู่หลายชั่วโมงด้วยความพยายามจะบีบบังคับให้เธอทำท่าทางเป็นสัญลักษณ์ของไม้กางเขนแบบคาทอลิก. ผู้ทรมานคนหนึ่งกล่าวว่า “เธอจะคิดถึงอะไรอยู่ในใจก็ได้ ขอเพียงแค่ให้ทำสัญลักษณ์ไม้กางเขนของคาทอลิกเท่านั้น. ไม่อย่างนั้นเธอได้กินลูกปืนแน่!” ความซื่อสัตย์มั่นคงของเธออ่อนลงไหม? ไม่เลย. ตัวแทนศาสนาที่ขี้ขลาดพวกนั้นลากเธอเข้าไปในป่าใกล้ ๆ และยิงเธอ. ถึงกระนั้น เธอได้ชัยชนะ! คนพวกนั้นไม่สามารถทำลายความซื่อสัตย์มั่นคงของเธอ.a—โรม 8:35-39.
4. ส่วนทางการเมืองและศาสนาได้พยายามอย่างไรที่จะขัดขวางงานประกาศเรื่องราชอาณาจักร?
4 เป็นเวลากว่าหนึ่งร้อยปี ผู้รับใช้ของพระเจ้าในสมัยปัจจุบันถูกปฏิบัติอย่างโหดร้ายและอย่างไม่นับถือ. เนื่องจากพยานพระยะโฮวาไม่อยู่ในกลุ่มศาสนาที่คนส่วนใหญ่นับถือซึ่งอยู่ใต้ซาตาน และไม่ต้องการร่วมกลุ่มด้วย พวกเขาจึงถูกมองว่าเหมาะสมจะเป็นเหยื่อของพวกที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างลำเอียงหรือปรปักษ์ที่บ้าคลั่ง. พวกเขาถูกโจมตีอย่างโหดร้ายจากส่วนการเมือง. พยานฯ หลายคนยอมพลีชีพเพื่อความเชื่อของเขา. แม้แต่รัฐบาลที่เรียกตัวว่าประชาธิปไตยบางรัฐบาลก็ได้พยายามขัดขวางการประกาศข่าวดี. ย้อนกลับไปในปี 1917 ที่แคนาดาและสหรัฐ พวกนักเทศน์นักบวชยุยงให้มีการตั้งข้อหาบ่อนทำลายปรักปรำกลุ่มนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิล ชื่อที่พยานฯ เป็นที่รู้จักกันในตอนนั้น. เจ้าหน้าที่ของสมาคมว็อชเทาเวอร์ถูกจำคุกโดยไม่มีความผิด แต่ต่อมาก็ได้รับการปล่อยตัวพ้นผิด.—วิวรณ์ 11:7-9; 12:17.
5. ถ้อยคำอะไรที่ให้กำลังใจแก่ผู้รับใช้ของพระยะโฮวา?
5 ซาตานได้ใช้ทุกวิธีที่มันมีอำนาจทำได้เพื่อยุติงานให้คำพยานของเหล่าพี่น้องของพระคริสต์และเพื่อนร่วมงานที่ภักดีของพวกเขา. กระนั้น ดังที่เห็นจากประสบการณ์มากมาย ไม่มีสิ่งใดไม่ว่าจะเป็นการคุกคาม, การข่มขู่, การประทุษร้ายร่างกาย, คุก, ค่ายกักกัน, หรือแม้แต่ความตาย ที่ทำให้พยานพระยะโฮวาเงียบเสียง. และเป็นเช่นนี้ตลอดประวัติศาสตร์. ได้มีการนำเอาถ้อยคำของอะลีซามาใช้ครั้งแล้วครั้งเล่าในการให้กำลังใจที่ว่า “อย่ากลัวเลย: ด้วยผู้ที่อยู่ฝ่ายเราก็มากกว่าที่อยู่ฝ่ายเขา.” เหตุผลอย่างหนึ่งคือเหล่าทูตสวรรค์ที่ซื่อสัตย์มีจำนวนมากกว่าพวกของพญามาร!—2 กษัตริย์ 6:16; กิจการ 5:27-32, 41, 42.
พระยะโฮวาทรงอวยพระพรการประกาศด้วยใจแรงกล้า
6, 7. (ก) ได้มีความพยายามอะไรบ้างในสมัยแรก ๆ เพื่อประกาศข่าวดี? (ข) ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรที่เป็นประโยชน์เริ่มตั้งแต่ปี 1943?
6 ในระหว่างศตวรรษที่ 20 พยานพระยะโฮวาได้ใช้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าหลายอย่างเพื่อขยายและเร่งงานใหญ่แห่งการให้คำพยานก่อนอวสานจะมาถึง. ย้อนไปในปี 1914 ปาสเตอร์รัสเซลล์ นายกคนแรกของสมาคมว็อชเทาเวอร์ ไบเบิล แอนด์ แทร็กต์ได้สนับสนุนให้ใช้ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวซึ่งจัดให้สัมพันธ์กับคำอธิบายที่อาศัยคัมภีร์ไบเบิลจากแผ่นเสียง ในผลงานการผลิตที่เกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิลที่เรียกว่า “ภาพยนตร์เรื่องการทรงสร้าง” ซึ่งมีความยาวแปดชั่วโมง. ภาพยนตร์นี้ทำให้ผู้ชมในหลายประเทศในเวลานั้นรู้สึกทึ่ง. ต่อมา ในทศวรรษ 1930 และทศวรรษ 1940 ผู้คนรู้จักพยานฯ เนื่องด้วยการประกาศของพวกเขาด้วยการไปตามบ้านพร้อมกับเครื่องเล่นแผ่นเสียงแบบพกพา โดยใช้แผ่นเสียงที่บันทึกคำบรรยายเกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิลโดย เจ.เอฟ. รัทเทอร์ฟอร์ด นายกคนที่สองของสมาคมฯ.
7 ในปี 1943 ได้มีการก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่งอย่างไม่หวั่นกลัวภายใต้การนำของ นาทาน เอช. นอรร์ นายกคนที่สามของสมาคมฯ เมื่อได้มีการตกลงให้ตั้งโรงเรียนตามระบอบของพระเจ้าขึ้นในทุกประชาคม. พยานฯ ได้รับการฝึกอบรมให้ประกาศและสอนตามบ้านโดยไม่ต้องใช้แผ่นเสียง. นับแต่นั้นมา ก็ได้มีการจัดให้มีโรงเรียนอื่น ๆ ขึ้นเพื่อฝึกอบรมมิชชันนารี, ผู้รับใช้เต็มเวลาประเภทไพโอเนียร์, ผู้ดูแลในประชาคม, และผู้ดูแลที่รับผิดชอบในสาขาต่าง ๆ ของสมาคมว็อชเทาเวอร์. ผลเป็นเช่นไร?
8. พยานฯ แสดงความเชื่ออันยิ่งใหญ่อย่างไรในปี 1943?
8 ย้อนไปในปี 1943 ซึ่งอยู่ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง มีพยานฯ ที่เอาการเอางานเพียง 129,000 คนใน 54 ดินแดน. กระนั้น พวกเขามีความเชื่อและความตั้งใจแน่วแน่ว่ามัดธาย 24:14 จะสำเร็จเป็นจริงก่อนอวสานมาถึง. พวกเขาเชื่อมั่นว่าพระยะโฮวาจะทรงให้มีการประกาศข่าวสารสำคัญซึ่งเป็นคำเตือนออกไป ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ตามลำดับซึ่งจะนำอวสานมาสู่ระบบที่เสื่อมทรามนี้. (มัดธาย 24:21; วิวรณ์ 16:16; 19:11-16, 19-21; 20:1-3) ความพยายามทั้งหลายของพวกเขาได้รับผลตอบแทนไหม?
9. ข้อเท็จจริงอะไรแสดงว่างานให้คำพยานได้เจริญก้าวหน้าอย่างดี?
9 ในเวลานี้ มีอย่างน้อย 13 ประเทศที่มีผู้ประกาศที่เอาการเอางานมากกว่า 100,000 คน. ในจำนวนนี้มีหลายประเทศซึ่งเป็นดินแดนที่คริสตจักรคาทอลิกมีอิทธิพล. ถึงกระนั้น ขอพิจารณาดูว่าสภาพการณ์เป็นอย่างไร. บราซิลมีผู้ประกาศข่าวดีประมาณ 450,000 คน และมีมากกว่า 1,200,000 คนเข้าร่วมการประชุมอนุสรณ์ระลึกถึงการวายพระชนม์ของพระคริสต์ในปี 1997. เม็กซิโกเป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง ซึ่งมีพยานฯ เกือบ 500,000 คน และมีมากกว่า 1,600,000 ณ การฉลองอนุสรณ์. ประเทศอื่นซึ่งเป็นคาทอลิกได้แก่อิตาลี (มีพยานฯ ประมาณ 225,000 คน), ฝรั่งเศส (ประมาณ 125,000 คน), สเปน (มากกว่า 105,000 คน), และอาร์เจนตินา (มากกว่า 115,000 คน). ในสหรัฐ ซึ่งคนส่วนใหญ่ถือศาสนาโปรเตสแตนต์, คาทอลิก, และศาสนายิว มีพยานฯ ประมาณ 975,000 คน และมีมากกว่า 2,000,000 คนเข้าร่วมการประชุมอนุสรณ์. แน่ละ ชนฝูงใหญ่กำลังหลั่งไหลออกจากบาบูโลนใหญ่ จักรวรรดิโลกแห่งศาสนาเท็จ พร้อมกับละทิ้งคำสอนลี้ลับที่ศาสนาเหล่านี้สอนและหันมาไว้วางใจในคำสัญญาที่เรียบง่ายและแน่นอนของพระเจ้าเกี่ยวกับ “ฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่.”—2 เปโตร 3:13, ล.ม.; ยะซายา 2:3, 4; 65:17; วิวรณ์ 18:4, 5; 21:1-4.
การปรับให้เข้ากับความต้องการของผู้คน
10. สภาพการณ์ได้เปลี่ยนไปอย่างไรในบางพื้นที่?
10 หลายคนที่ได้หันมาหมายพึ่งพระยะโฮวาโดยทางพระคริสต์เยซูพบความจริงจากการประกาศตามบ้าน. (โยฮัน 3:16; กิจการ 20:20) แต่ได้มีการใช้วิธีอื่น ๆ ด้วย. ยุคสมัยเปลี่ยนไป และสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันทำให้ผู้หญิงหลายคนต้องทำงานนอกบ้าน. บ่อยครั้ง พบไม่กี่คนอยู่บ้านในระหว่างสัปดาห์. ด้วยเหตุนี้ พยานพระยะโฮวาได้ปรับให้เข้ากับสภาพการณ์. เช่นเดียวกับพระเยซูและเหล่าสาวกในยุคแรก พวกเขาไปตามสถานที่และในเวลาที่จะพบผู้คนได้.—มัดธาย 5:1, 2; 9:35; มาระโก 6:34; 10:1; กิจการ 2:14; 17:16, 17.
11. พยานพระยะโฮวาประกาศกันที่ไหนในทุกวันนี้ และพร้อมด้วยมีผลเช่นไร?
11 พยานฯ กำลังใช้ความริเริ่มและประกาศอย่างสุขุมแก่ผู้คนในที่จอดรถใหญ่ ๆ, ห้างสรรพสินค้า, โรงงาน, สำนักงานและสถานธุรกิจ, โรงเรียน, สถานีตำรวจ, ปั๊มน้ำมัน, โรงแรมและภัตตาคาร, และตามถนน. ที่จริง พวกเขาประกาศในที่ใดก็ตามที่จะพบผู้คนได้. และเมื่อผู้คนอยู่บ้าน พยานก็ยังคงเยี่ยมคนเหล่านั้นที่บ้านอยู่ต่อไป. การเข้าพบที่ยืดหยุ่นและใช้การได้จริงเช่นนี้กำลังเกิดผลทำให้มีการจำหน่ายจ่ายแจกสรรพหนังสืออธิบายคัมภีร์ไบเบิลเพิ่มขึ้น. ได้มีโอกาสพบคนที่มีลักษณะเยี่ยงแกะหลายคน. มีการเริ่มการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลหลายราย. งานสอนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์กำลังดำเนินอยู่อย่างกระตือรือร้นโดยผู้รับใช้ที่เป็นอาสาสมัครห้าล้านห้าแสนกว่าคน! คุณมีสิทธิพิเศษเป็นคนหนึ่งในคนเหล่านี้ไหม?—2 โกรินโธ 2:14-17; 3:5, 6.
อะไรกระตุ้นพยานพระยะโฮวา?
12. (ก) พระยะโฮวาทรงสอนไพร่พลของพระองค์อย่างไร? (ข) การสอนนี้มีผลเช่นไร?
12 องค์การฝ่ายสวรรค์มีบทบาทอย่างไรเกี่ยวข้องกับทั้งหมดนี้? ยะซายาพยากรณ์ดังนี้: “บุตรทั้งสิ้นของเจ้าจะเป็นบุคคลที่ได้รับการสั่งสอนจากพระยะโฮวา และสันติสุขแห่งเหล่าบุตรของเจ้าจะมีบริบูรณ์.” (ยะซายา 54:13, ล.ม.) พระยะโฮวากำลังสอนกลุ่มคนที่มีภราดรภาพเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันทั่วโลกโดยทางองค์การที่เห็นได้บนแผ่นดินโลกนี้—ที่หอประชุมราชอาณาจักร, ที่การประชุมภาคและการประชุมหมวด. ผลก็คือ มีเอกภาพและสันติสุข. การสอนของพระยะโฮวาทำให้เกิดมีไพร่พลที่ไม่เหมือนใครที่ได้รับการสอนให้รักกันและรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเอง ไม่ใช่ให้เกลียดเพื่อนบ้าน ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ใดในโลกที่ไร้เอกภาพและแตกแยก.—มัดธาย 22:36-40.
13. เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่ามีการชี้นำของทูตสวรรค์ในงานประกาศ?
13 ความรักกระตุ้นพยานพระยะโฮวาให้ประกาศต่อ ๆ ไปแม้เผชิญความไม่แยแสหรือการกดขี่ข่มเหง. (1 โกรินโธ 13:1-8) พวกเขาทราบว่างานช่วยชีวิตที่พวกเขาทำอยู่นี้กำลังได้รับการชี้นำจากสวรรค์ ดังบอกไว้ที่วิวรณ์ 14:6. ข่าวสารอะไรที่กำลังมีการประกาศกันภายใต้การชี้นำของเหล่าทูตสวรรค์? “จงเกรงกลัวพระเจ้าและถวายสง่าราศีแด่พระองค์ เพราะชั่วโมงแห่งการพิพากษาโดยพระองค์มาถึงแล้ว และจงนมัสการพระองค์ผู้ได้ทรงทำให้มีฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกและทะเลและน้ำพุทั้งหลาย.” การประกาศข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรทำให้พระนามของพระยะโฮวาได้รับการเชิดชู. ผู้คนกำลังได้รับคำเชิญให้ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าพระผู้สร้าง แทนที่จะให้เกียรติแก่สิ่งทรงสร้างและหลักวิวัฒนาการที่ขาดสติ. และเหตุใดงานประกาศนี้จึงเร่งด่วนอย่างยิ่ง? เนื่องจากเวลาแห่งการพิพากษาได้มาถึงแล้ว กล่าวคือการพิพากษาต่อบาบูโลนใหญ่และส่วนอื่น ๆ ทั้งหมดของระบบที่เห็นได้ของซาตาน.—วิวรณ์ 14:7, ล.ม.; 18:8-10.
14. ใครมีส่วนร่วมอยู่ด้วยในแผนการสอนที่ยิ่งใหญ่นี้?
14 ไม่มีคริสเตียนที่อุทิศตัวแล้วคนใดได้รับการยกเว้นจากงานประกาศ. ผู้ปกครองฝ่ายวิญญาณนำหน้าในการประกาศกับประชาคม. ไพโอเนียร์ที่ได้รับการฝึกอบรมเข้าส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในงานนี้. ผู้ประกาศข่าวราชอาณาจักรที่มีใจแรงกล้า ไม่ว่าสามารถประกาศได้เดือนละไม่กี่ชั่วโมงหรือทำได้หลายชั่วโมง ล้วนแต่กำลังประกาศข่าวสารนี้ไปทั่วทุกมุมของแผ่นดินโลก.—มัดธาย 28:19, 20; เฮ็บราย 13:7, 17.
15. อะไรเป็นเครื่องชี้บอกอย่างหนึ่งถึงผลกระทบของการประกาศของพยานพระยะโฮวา?
15 ความพยายามทั้งหมดนี้ได้มีผลกระทบต่อโลกไหม? ข้อพิสูจน์ง่าย ๆ อย่างหนึ่งที่ว่างานนี้มีผลกระทบต่อโลกก็คือการที่หลายต่อหลายครั้งมีการเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับพยานพระยะโฮวาในรายการโทรทัศน์และข่าวในหนังสือพิมพ์ต่าง ๆ. ข่าวเหล่านี้มักเน้นในเรื่องความพากเพียรและความตั้งใจแน่วแน่ของพวกเราในการเข้าถึงทุกคน. จริงทีเดียว การมีใจแรงกล้าและการปรากฏตัวอย่างสม่ำเสมอของเราสร้างความประทับใจอย่างลึกซึ้ง แม้ว่าผู้คนส่วนใหญ่ปฏิเสธข่าวสารและผู้ส่งข่าวสาร!
การมีใจแรงกล้าของเรา เพื่อทำให้การให้คำพยานสำเร็จ
16. ควรสำแดงเจตคติเช่นไรในเวลานี้ซึ่งยังเหลือเวลาอีกเพียงเล็กน้อย?
16 เราไม่ทราบว่ายังเหลือเวลาอีกกี่มากน้อยสำหรับระบบนี้ อีกทั้งเราไม่จำเป็นต้องทราบ ตราบใดที่แรงกระตุ้นในการรับใช้พระยะโฮวาของเรานั้นบริสุทธิ์. (มัดธาย 24:36; 1 โกรินโธ 13:1-3) แต่เราทราบว่าเพื่อความรัก, อำนาจ, และความยุติธรรมของพระยะโฮวาจะปรากฏชัด ข่าวดีต้องได้รับการประกาศ “ก่อน.” (มาระโก 13:10) ด้วยเหตุนั้น ไม่ว่าเราอาจได้คอยท่าอวสานของโลกที่เต็มไปด้วยความชั่วช้า, ความอยุติธรรม, และความรุนแรงนี้กี่ปีแล้วก็ตาม เราต้องดำเนินชีวิตให้สมกับการอุทิศตัวของเราตามขอบเขตแห่งสภาพการณ์ของเราด้วยใจแรงกล้า. เราอาจสูงอายุแล้วหรือเจ็บป่วย แต่เรายังคงสามารถรับใช้พระยะโฮวาด้วยใจแรงกล้าอย่างที่เรามีตอนที่ยังหนุ่มแน่นหรือสุขภาพดีกว่านี้. เราอาจไม่สามารถใช้เวลาในงานรับใช้ได้มากเหมือนที่เราเคยทำ แต่เราสามารถรักษาคุณภาพของเครื่องบูชาแห่งริมฝีปากของเราแด่พระยะโฮวาได้อย่างแน่นอน.—เฮ็บราย 13:15.
17. จงเล่าประสบการณ์ที่กระตุ้นหนุนใจซึ่งอาจช่วยเราทุกคน.
17 ดังนั้น ไม่ว่าจะยังหนุ่มแน่นหรือสูงอายุแล้ว ให้เราแสดงใจแรงกล้าและแบ่งปันข่าวดีเกี่ยวกับโลกใหม่ให้แก่ทุกคนที่เราพบ. ให้เราเป็นเหมือนเด็กหญิงขี้อายอายุเจ็ดขวบที่ประเทศออสเตรเลียซึ่งไปซื้อของกับแม่ของเธอ. เธอได้ยินได้ฟังที่หอประชุมราชอาณาจักรว่าเป็นเรื่องสำคัญมากที่ทุกคนจะต้องประกาศ ดังนั้นเธอใส่จุลสารสองเล่มไว้ในกระเป๋าของเธอ. ขณะที่แม่ของเธอกำลังยุ่งอยู่กับการซื้อของ เด็กหญิงคนนี้ก็หายตัวไป. เมื่อผู้เป็นแม่มองหาเธอ ก็พบว่าเธอกำลังเสนอจุลสารแก่หญิงคนหนึ่ง! แม่ของเธอเดินไปหาและขอโทษผู้หญิงคนนั้นที่ลูกสาวเธออาจก่อความรำคาญแก่เธอ. แต่ผู้หญิงคนนั้นได้รับจุลสารนั้นไว้ด้วยท่าทีอ่อนโยน. หลังจากที่อยู่กันตามลำพังกับลูกสาวแล้ว เธอถามลูกสาวว่าเธอทำอย่างไรจึงกล้าเข้าไปหาคนแปลกหน้า. ลูกสาวตอบว่า “หนูก็เพียงแต่พูดกับตัวเองว่า เข้าที่ ระวัง ไป! แล้วหนูก็ไป!”
18. เราจะแสดงน้ำใจที่น่าชมเชยได้อย่างไร?
18 เราทุกคนจำเป็นต้องมีน้ำใจเหมือนเด็กหญิงชาวออสเตรเลียคนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเข้าพบเพื่อเสนอข่าวดีกับคนแปลกหน้าหรือแม้แต่กับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง. เราอาจกลัวการปฏิเสธ. แต่ขอเราอย่าลืมถ้อยคำที่พระเยซูตรัสที่ว่า “อย่าคิดวิตกในใจว่าจะตอบอย่างไรหรือจะกล่าวอะไร เพราะว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงโปรดสอนท่านว่าควรจะพูดอย่างไรในเวลาโมงนั้นเอง.”—ลูกา 12:11, 12.
19. คุณรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับงานรับใช้ของคุณ?
19 ดังนั้น จงวางใจในความช่วยเหลือจากพระวิญญาณของพระเจ้าขณะที่คุณเข้าพบผู้คนอย่างกรุณาพร้อมด้วยข่าวดี. บ่อยครั้ง หลายล้านคนฝากความไว้วางใจในชายและหญิงที่ไม่คู่ควรแก่การไว้วางใจซึ่งมีชีวิตอยู่ที่นี่ในวันนี้และวันรุ่งขึ้นก็ตายจากไป. เราวางใจในพระยะโฮวาและองค์การฝ่ายสวรรค์ของพระองค์ ซึ่งประกอบด้วยพระคริสต์เยซู, ทูตสวรรค์บริสุทธิ์, และคริสเตียนผู้ถูกเจิมที่ได้รับการปลุกให้เป็นขึ้นจากตาย ผู้มีชีวิตอยู่ตลอดไป! ด้วยเหตุนั้น จงจำไว้ว่า “ผู้ที่อยู่ฝ่ายเราก็มากกว่าที่อยู่ฝ่ายเขา”!—2 กษัตริย์ 6:16.
[เชิงอรรถ]
a สำหรับตัวอย่างอื่น ๆ โปรดดูหนังสือประจำปีแห่งพยานพระยะโฮวา 1994 (ภาษาอังกฤษ) หน้า 217-220.
คุณจะตอบอย่างไร?
▫ องค์การฝ่ายสวรรค์ของพระเจ้าได้มีบทบาทเช่นไรในการช่วยให้ไพร่พลของพระยะโฮวารอดมาได้?
▫ องค์ประกอบทางการเมืองและศาสนาได้โจมตีพยานพระยะโฮวาในศตวรรษที่ 20 เช่นไรบ้าง?
▫ พยานพระยะโฮวาได้ปรับงานรับใช้ของตนอย่างไรให้เข้ากับความจำเป็นของยุคสมัย?
▫ อะไรกระตุ้นคุณให้ประกาศ?
[รูปภาพหน้า 17]
เฮนรีกา ชูร์
[รูปภาพหน้า 18]
ญี่ปุ่น
มาร์ตินีก
สหรัฐ
เคนยา
สหรัฐ
พยานพระยะโฮวาประกาศในทุกที่และทุกเวลา ที่เขาสามารถพบผู้คน
[รูปภาพหน้า 20]
ในตอนต้นศตวรรษนี้ ได้มีการใช้เครื่องเล่นแผ่นเสียงเพื่อแพร่ข่าวสารเรื่องราชอาณาจักร