ค่าไถ่ของพระคริสต์ แนวทางแห่งความรอดจากพระเจ้า
“พระเจ้าทรงรักโลกมากจนถึงกับได้ประทานพระบุตรผู้ได้รับกำเนิดองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่แสดงความเชื่อในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์.”—โยฮัน 3:16, ล.ม.
1, 2. จงพรรณนาสภาพการณ์ที่ได้เกิดขึ้นกับเผ่าพันธุ์มนุษย์.
ขอให้นึกภาพว่าคุณเป็นโรคอย่างหนึ่งที่จะทำให้คุณเสียชีวิตแน่นอนถ้าไม่ผ่าตัด. คุณจะรู้สึกอย่างไรถ้าค่าผ่าตัดแพงมากจนคุณไม่มีเงินพอจะจ่ายได้? จะว่าอย่างไรถ้าแม้แต่เมื่อรวบรวมทรัพย์ของครอบครัวและเพื่อน ๆ แล้วก็ยังไม่พอจ่าย? การเผชิญกับสภาพอับจนซึ่งคุกคามชีวิตเช่นนี้ย่อมเป็นเรื่องน่าท้อแท้อย่างยิ่ง!
2 เรื่องดังกล่าวเป็นตัวอย่างของสภาพการณ์ที่ได้เกิดขึ้นกับเผ่าพันธุ์มนุษย์. อาดามและฮาวาบิดามารดาแรกเดิมของเราถูกสร้างเป็นมนุษย์สมบูรณ์. (พระบัญญัติ 32:4) ทั้งสองมีความคาดหวังในการมีชีวิตตลอดไปและทำให้พระประสงค์ดังต่อไปนี้ของพระเจ้าสำเร็จ: “จงบังเกิดทวีมากขึ้นทั่วทั้งแผ่นดิน; จงมีอำนาจเหนือแผ่นดิน.” (เยเนซิศ 1:28) อย่างไรก็ตาม อาดามและฮาวาแข็งขืนต่ออำนาจของพระผู้สร้าง. (เยเนซิศ 3:1-6) การไม่เชื่อฟังของเขานำมาซึ่งความผิดบาปไม่เฉพาะแต่ที่เกิดกับอาดามและฮาวาเองเท่านั้น แต่กับลูกหลานของเขาที่จะเกิดมาอีกด้วย. โยบชายผู้ซื่อสัตย์กล่าวในเวลาต่อมาดังนี้: “ใครจะนำของสะอาดออกจากของสกปรกได้? ไม่มีใครทำได้เลย.”—โยบ 14:4.
3. ความตายได้แผ่ไปถึงมนุษย์ทุกคนอย่างไร?
3 ด้วยเหตุนี้ บาปเป็นเหมือนโรคที่ได้แพร่มาติดเราแต่ละคน เพราะคัมภีร์ไบเบิลกล่าวไว้ว่า “คนทั้งปวง ได้ทำบาป.” สภาพดังกล่าวนี้ก่อผลซึ่งคุกคามชีวิต. แท้จริง “ค่าจ้างที่บาปจ่ายคือความตาย.” (โรม 3:23; 6:23, ล.ม.) ไม่มีใครในพวกเราเลี่ยงพ้นได้. มนุษย์ทุกคนเป็นคนบาป ด้วยเหตุนั้น ทุกคนจึงตาย. ในฐานะลูกหลานของอาดาม เราเกิดมาในสภาพเช่นนี้. (บทเพลงสรรเสริญ 51:5) เปาโลเขียนดังนี้: “ความผิดได้เข้ามาในโลกเพราะคน ๆ เดียว, และความตายก็เกิดมาเพราะความผิดนั้น อย่างนั้นแหละความตายจึงได้ลามไปถึงคนทั้งปวง, เพราะคนทั้งปวงเป็นคนผิดอยู่แล้ว.” (โรม 5:12) แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเราไม่มีหวังที่จะรอดได้.
การขจัดบาปและความตาย
4. เหตุใดมนุษย์จึงไม่สามารถขจัดความเจ็บป่วยและความตายด้วยตนเอง?
4 จำเป็นต้องมีอะไรเพื่อจะขจัดบาปและผลของบาปอันได้แก่ความตาย? เห็นได้ชัดว่า เป็นสิ่งที่เกินความสามารถของมนุษย์จะจัดเตรียมให้ได้. ท่านผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญร้องครวญดังนี้: “ค่าไถ่ชีวิตนั้นสูงเหลือล้น. สิ่งที่มนุษย์เราสามารถจ่ายให้ได้ไม่มีทางพอเพียงจะช่วยเขาพ้นหลุมฝังศพ เพื่อให้เขามีชีวิตตลอดไป.” (บทเพลงสรรเสริญ 49:8, 9, ฉบับแปล ทูเดส์ อิงลิช) จริงอยู่ เราอาจสามารถยืดชีวิตเราให้ยืนยาวไปอีกสักหน่อยหนึ่งโดยอาหารการกินที่ถูกสุขอนามัยและการเอาใจใส่ทางการแพทย์ แต่ก็ไม่มีใครสามารถเยียวยารักษาสภาพผิดบาปที่เราได้รับตกทอดมา. ไม่มีใครในพวกเราสามารถย้อนกระบวนการแก่ซึ่งบั่นทอนกำลังวังชาและฟื้นฟูร่างกายของเราสู่ความสมบูรณ์ที่พระเจ้าทรงมุ่งหมายไว้แต่แรก. เปาโลมิได้กล่าวเกินจริงเลยเมื่อท่านเขียนว่า เนื่องด้วยบาปของอาดาม มนุษยชาติจึง “ต้องเข้าอยู่ในอำนาจของอนิจจัง”—หรือตามที่ฉบับแปลเดอะ เจรูซาเลม ไบเบิล แปลไว้ว่า “ไม่สามารถบรรลุจุดมุ่งหมายของตน.” (โรม 8:20) อย่างไรก็ตาม น่ายินดีที่พระผู้สร้างไม่ได้ทรงละทิ้งพวกเรา. พระองค์ได้ทรงจัดเตรียมเพื่อขจัดบาปและความตายครั้งเดียวและตลอดไป. โดยวิธีใด?
5. พระบัญญัติซึ่งได้ประทานแก่ชาติยิศราเอลแสดงชัดเจนอย่างไรว่ามีการคำนึงถึงความยุติธรรม?
5 พระยะโฮวาทรง “รักความชอบธรรมและความยุติธรรม.” (บทเพลงสรรเสริญ 33:5) ประมวลกฎหมายที่พระองค์ประทานแก่ชาติยิศราเอลสะท้อนให้เห็นการพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ อย่างสมดุลและให้ความยุติธรรมที่ไม่ลำเอียง. ตัวอย่างเช่น ภายในตัวบทกฎหมายนี้ เราอ่านพบว่า “ชีวิตแทนชีวิต.” พูดอีกอย่างก็คือ ถ้ามีชาวยิศราเอลคนใดได้ไปฆ่าใครเข้า เขาต้องชดใช้ชีวิตที่เขาได้ฆ่าไปนั้นด้วยชีวิตของตน. (เอ็กโซโด 21:23, ฉบับแปลใหม่; อาฤธโม 35:21) โดยวิธีนี้ ตราชูแห่งความยุติธรรมของพระเจ้าจึงจะอยู่ในสภาพสมดุล.—เทียบกับเอ็กโซโด 21:30.
6. (ก) อาจเรียกอาดามได้ว่าฆาตกรในแง่ใด? (ข) ชีวิตแบบไหนที่อาดามทำให้สูญเสียไป และเครื่องบูชาแบบไหนที่จำเป็นต้องใช้เพื่อทำให้ตราชูแห่งความยุติธรรมได้สมดุล?
6 เมื่ออาดามทำบาป เขากลายเป็นฆาตกร. ในแง่ใด? ในแง่ที่ว่าเขาถ่ายทอดสภาพผิดบาปของเขาไปถึงลูกหลานทั้งสิ้นของเขา และด้วยเหตุนี้ ความตายก็ถูกถ่ายทอดไปด้วย. เนื่องจากการไม่เชื่อฟังของอาดาม เวลานี้ร่างกายเราจึงเสื่อมลง ทรุดลงไปเรื่อย ๆ สู่หลุมฝังศพ. (บทเพลงสรรเสริญ 90:10) บาปของอาดามยังมีความหมายที่ร้ายแรงกว่านั้นอีก. พึงจำว่า สิ่งที่อาดามทำให้สูญเสียสำหรับตัวเขาเองและลูกหลานนั้นไม่ใช่ชีวิตตามปกติเช่นที่เป็นอยู่ในเวลานี้ซึ่งอยู่ได้สัก 70 หรือ 80 ปี. เขาสูญเสียชีวิตที่สมบูรณ์—ที่จริง ชีวิตนิรันดร์เลยทีเดียว. ดังนั้น ถ้า ‘ชีวิตต้องแทนชีวิต’ ในกรณีนี้ต้องแทนด้วยชีวิตแบบไหนจึงจะเป็นไปตามความยุติธรรม? ตามเหตุผลแล้ว ก็ต้องเป็นชีวิตมนุษย์สมบูรณ์—ชีวิตที่มีศักยภาพในการให้กำเนิดลูกหลานมนุษย์ที่สมบูรณ์ เช่นเดียวกับชีวิตของอาดาม. หากถวายชีวิตมนุษย์สมบูรณ์เป็นเครื่องบูชาก็จะไม่เพียงแต่ทำให้ตราชูแห่งความยุติธรรมสมดุล แต่ยังทำให้เป็นไปได้ด้วยที่จะขจัดบาปและความตายอันเป็นผลของบาปได้อย่างสิ้นเชิง.
การชำระราคาของบาป
7. จงพรรณนาถึงความหมายของคำว่า “ค่าไถ่.”
7 ราคาที่ต้องจ่ายเพื่อไถ่เราจากบาปมีกล่าวอ้างถึงในคัมภีร์ไบเบิลว่าเป็น “ค่าชีวิต [“ค่าไถ่,” ล.ม.].” (บทเพลงสรรเสริญ 49:7, ฉบับแปลใหม่ สดุดี) ศัพท์คำนี้อาจหมายถึงจำนวนเงินที่ต้องจ่ายให้ซึ่งผู้ลักพาตัวเรียกเอาเพื่อแลกเปลี่ยนกับคนที่เขาได้ลักพาตัว. แน่ละ ค่าไถ่ที่พระยะโฮวาได้ทรงจัดให้ไม่เกี่ยวข้องแต่อย่างใดกับการลักพาตัว. แต่แนวคิดพื้นฐานในการจ่ายตามราคาที่เรียกเอาก็ยังคงอยู่. ที่จริง รูปคำกริยาในภาษาฮีบรูที่แปลกันว่า “ค่าชีวิต” หรือค่าไถ่ ตามตัวอักษรแล้วหมายถึง “ปิดคลุม.” เพื่อชดใช้บาป ค่าไถ่ต้องเหมาะพอดีกับสิ่งที่ค่าไถ่นั้นจะปิดคลุม ซึ่งก็คือชีวิตมนุษย์สมบูรณ์ของอาดาม.
8. (ก) จงพรรณนาถึงหลักการในเรื่องการซื้อคืน. (ข) หลักการในเรื่องการซื้อคืนสัมพันธ์อย่างไรกับพวกเราที่เป็นคนบาป?
8 เรื่องนี้สอดคล้องกับหลักการที่พบในพระบัญญัติของโมเซ คือหลักการว่าด้วยการซื้อคืน. หากชาวยิศราเอลคนหนึ่งยากจนลงและขายตัวเองเป็นทาสแก่ผู้ที่ไม่ใช่ชาวยิศราเอล ญาติของเขาอาจซื้อคืน (หรือไถ่) เขาโดยจ่ายตามราคาที่ถือว่ามีค่าเท่าเทียมกับทาสนั้น. (เลวีติโก 25:47-49) คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่า เนื่องจากเป็นมนุษย์ไม่สมบูรณ์ เราจึงเป็น “ทาสของบาป.” (โรม 6:6; 7:14, 25) ต้องใช้อะไรจึงจะซื้อคืนเราได้? ดังที่เราได้เห็นแล้ว การสูญเสียชีวิตมนุษย์สมบูรณ์เรียกร้องให้มีการจ่ายด้วยชีวิตมนุษย์สมบูรณ์—ไม่มากไม่น้อยไปกว่านี้.
9. พระยะโฮวาได้ทรงจัดเตรียมโดยวิธีใดเพื่อปิดคลุมบาป?
9 แน่นอน มนุษย์เราเกิดมาไม่สมบูรณ์. ไม่มีใครในหมู่พวกเรามีค่าเท่ากับอาดาม; ไม่มีใครสามารถชำระราคาแห่งค่าไถ่ที่ความยุติธรรมเรียกร้องเอา. ดังได้กล่าวไปแล้วแต่แรก คล้ายกับว่าเราเป็นโรคซึ่งคุกคามชีวิตและมีเงินไม่พอจ่ายค่าผ่าตัดที่จะรักษาโรคนั้นได้. ในสถานการณ์เช่นนั้น เราจะไม่รู้สึกขอบคุณหรอกหรือหากมีใครคนหนึ่งยื่นมือเข้ามาและช่วยเราจ่ายค่ารักษาดังกล่าว? นั่นแหละคือสิ่งที่พระยะโฮวาได้ทรงทำ! พระองค์ได้ทรงจัดเตรียมเพื่อไถ่เราจากบาป ครั้งเดียวและตลอดไป. ใช่แล้ว พระองค์ทรงเต็มพระทัยจะประทานสิ่งซึ่งเราไม่มีทางจัดหาได้ด้วยตนเอง. โดยวิธีใด? เปาโลเขียนดังนี้: “ของประทานที่พระเจ้าโปรดให้นั้นคือชีวิตนิรันดรโดยพระคริสต์เยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา.” (โรม 6:23, ล.ม.) โยฮันพรรณนาถึงพระเยซูว่าทรงเป็น “พระเมษโปดกของพระเจ้าซึ่งรับบาปของโลกไป!” (โยฮัน 1:29, ล.ม.) ให้เรามาดูว่า พระยะโฮวาทรงใช้พระบุตรผู้เป็นที่รักของพระองค์อย่างไรในการชำระค่าไถ่.
“ค่าไถ่อันมีค่าเท่าเทียม”
10. คำพยากรณ์ที่เกี่ยวกับ “พงศ์พันธุ์” เล็งตรงไปที่โยเซฟและมาเรียอย่างไร?
10 ทันทีหลังการกบฏในสวนเอเดน พระยะโฮวาทรงประกาศพระประสงค์ของพระองค์ที่จะให้มี “พงศ์พันธุ์” ซึ่งจะไถ่มนุษยชาติจากบาป. (เยเนซิศ 3:15, ล.ม.) ด้วยการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องจากพระเจ้า พระยะโฮวาทรงระบุวงศ์ตระกูลที่จะให้กำเนิดพงศ์พันธุ์นี้. ในที่สุด การเปิดเผยเหล่านี้ก็เล็งตรงไปที่โยเซฟและมาเรีย คู่หมั้นซึ่งอาศัยในแผ่นดินปาเลสไตน์. ในความฝัน โยเซฟได้รับการแจ้งให้ทราบว่ามาเรียตั้งครรภ์เนื่องด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์. ทูตสวรรค์กล่าวว่า “เธอจะประสูติบุตรเป็นชาย, แล้วเจ้าจงเรียกนามท่านว่าเยซู, เพราะว่าท่านเป็นผู้ที่จะโปรดช่วยพลไพร่ของท่านให้รอดจากความผิดของเขา.”—มัดธาย 1:20, 21.
11. (ก) พระยะโฮวาทรงจัดเตรียมอย่างไรเพื่อให้พระบุตรลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์สมบูรณ์? (ข) เหตุใดพระเยซูจึงทรงสามารถเป็น “ค่าไถ่อันมีค่าเท่าเทียมกัน”?
11 นี่ไม่ใช่การตั้งครรภ์ตามปกติธรรมดา เพราะพระเยซูเคยมีพระชนม์ชีพในสวรรค์ก่อนลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์. (สุภาษิต 8:22-31; โกโลซาย 1:15) ชีวิตของพระองค์ได้ถูกโยกย้ายโดยอำนาจอันอัศจรรย์ของพระยะโฮวาสู่ครรภ์ของมาเรีย ทำให้เป็นไปได้ที่พระบุตรผู้ซึ่งพระเจ้าทรงรักยิ่งนี้จะประสูติเป็นมนุษย์. (โยฮัน 1:1-3, 14; ฟิลิปปอย 2:6, 7) พระยะโฮวาทรงจัดแจงสิ่งต่าง ๆ เพื่อว่าพระเยซูจะมิได้ทรงเป็นมลทินด้วยบาปของอาดาม. แทนที่จะเป็นอย่างนั้น พระเยซูประสูติเป็นมนุษย์สมบูรณ์. โดยวิธีนี้ พระองค์ทรงมีสิ่งที่อาดามได้ทำให้สูญเสียไป คือชีวิตมนุษย์สมบูรณ์. ในที่สุด ก็มีมนุษย์ผู้หนึ่งซึ่งสามารถชำระราคาแห่งบาปได้! และนั่นแหละคือสิ่งที่พระเยซูทรงทำในวันที่ 14 เดือนไนซาน ปีสากลศักราช 33. ในวันอันเป็นประวัติศาสตร์นั้น พระเยซูทรงยอมถูกผู้ต่อต้านพระองค์สังหาร และด้วยวิธีนั้นจึงทรงจัดให้มี “ค่าไถ่อันมีค่าเท่าเทียมกัน.”—1 ติโมเธียว 2:6, ล.ม.
คุณค่าของชีวิตมนุษย์สมบูรณ์
12. (ก) จงพรรณนาถึงข้อแตกต่างสำคัญระหว่างการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูกับความตายของอาดาม. (ข) โดยวิธีใดพระเยซูจึงได้กลายมาเป็น “พระบิดาองค์ถาวร” สำหรับมนุษย์ที่เชื่อฟัง?
12 มีข้อแตกต่างอย่างหนึ่งระหว่างการวายพระชนม์ของพระเยซูกับความตายของอาดาม ซึ่งเป็นข้อแตกต่างที่เน้นให้เห็นคุณค่าของค่าไถ่อย่างเด่นชัด. ความตายของอาดามนั้นนับว่าสมควร เพราะเขาจงใจไม่เชื่อฟังพระผู้สร้างของตน. (เยเนซิศ 2:16, 17) ในทางตรงกันข้าม การวายพระชนม์ของพระเยซูนั้นไม่สมควรเลยแม้แต่น้อย เพราะ “พระองค์ไม่ได้ทรงกระทำบาปประการใด.” (1 เปโตร 2:22) ดังนั้น เมื่อพระเยซูสิ้นพระชนม์ พระองค์ทรงมีบางสิ่งที่มีค่าใหญ่ยิ่งที่อาดามผู้ผิดบาปไม่มีเมื่อเขาเสียชีวิต นั่นคือสิทธิแห่งชีวิตมนุษย์สมบูรณ์. ฉะนั้น การวายพระชนม์ของพระเยซูจึงมีคุณค่าเป็นเครื่องบูชา. เมื่อเสด็จสู่สวรรค์ในฐานะองค์วิญญาณ พระองค์ทรงเสนอคุณค่าแห่งเครื่องบูชาของพระองค์แด่พระยะโฮวา. (เฮ็บราย 9:24) โดยทำเช่นนั้น พระเยซูทรงซื้อคืนมนุษยชาติที่ผิดบาปและทรงกลายเป็นบิดาคนใหม่ของมนุษยชาติแทนอาดาม. (1 โกรินโธ 15:45) จึงมีเหตุผลดีที่มีการเรียกพระเยซูว่า “พระบิดาองค์ถาวร.” (ยะซายา 9:6) คิดดูสิว่านี่หมายถึงอะไร! อาดามซึ่งเป็นบิดาที่ผิดบาป ทำให้ความตายแผ่ลามไปถึงลูกหลานทั้งสิ้นของเขา. พระเยซูซึ่งเป็นบิดาที่สมบูรณ์ ทรงใช้คุณค่าแห่งเครื่องบูชาของพระองค์ประทานชีวิตนิรันดร์แก่มนุษย์ที่เชื่อฟัง.
13. (ก) จงยกตัวอย่างเปรียบเทียบวิธีที่พระเยซูทรงยกหนี้ซึ่งอาดามก่อขึ้น. (ข) เหตุใดเครื่องบูชาของพระเยซูมิได้ปิดคลุมบาปของบิดามารดาแรกเดิมของเรา?
13 อย่างไรก็ตาม ความตายของคนเพียงคนเดียวสามารถปิดคลุมบาปของคนเป็นอันมากได้อย่างไร? (มัดธาย 20:28) ในบทความหนึ่งเมื่อหลายปีมาแล้ว เรายกตัวอย่างอธิบายเรื่องค่าไถ่ดังนี้: “ขอให้นึกถึงโรงงานขนาดใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งมีคนงานหลายร้อยคน. ผู้จัดการโรงงานที่ไม่ซื่อสัตย์คนหนึ่งทำให้ธุรกิจล้มละลาย; โรงงานต้องปิดกิจการ. ถึงตอนนี้ หลายร้อยคนไม่มีงานทำและไม่มีเงินใช้จ่าย. คู่สมรส, ลูก ๆ, และแม้กระทั่งเจ้าหนี้ทั้งหลายของคนงานเหล่านี้ต่างก็ประสบความเดือดร้อนเพราะการทุจริตของชายคนนั้นเพียงคนเดียว! ต่อมา มีคนใจดีที่มั่งคั่งผู้หนึ่งช่วยจ่ายหนี้ให้บริษัทและเปิดโรงงานขึ้นมาอีกครั้ง. การเพิกถอนหนี้จำนวนเดียวนั้นส่งผลเป็นการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์อย่างเต็มขนาดแก่ลูกจ้างจำนวนมาก, ครอบครัวของเขา, และเจ้าหนี้ทั้งหลายด้วย. แต่คนที่เคยเป็นผู้จัดการคนนั้นจะมีส่วนร่วมในความรุ่งเรืองใหม่ของกิจการไหม? ไม่ เขาจะอยู่ในคุกและไม่มีโอกาสได้ทำงานนั้นอย่างถาวร! ในลักษณะเดียวกัน การเพิกถอนหนี้ก้อนเดียวของอาดามนำมาซึ่งผลประโยชน์สู่ลูกหลานของเขาหลายล้านคน—แต่ไม่ใช่สำหรับอาดาม.”
14, 15. เหตุใดอาดามและฮาวาจึงถูกเรียกว่าผู้ทำบาปโดยเจตนา และสภาพการณ์ของเราต่างอย่างไรจากสภาพการณ์ของเขา?
14 นี่นับว่ายุติธรรม. พึงจำว่า อาดามและฮาวาเป็นผู้ทำบาปโดยเจตนา. ทั้งสองเลือกไม่เชื่อฟังพระเจ้า. ในทางตรงกันข้าม เราเกิดมาในบาป. เราไม่มีทางเลือก. ไม่ว่าเราจะพยายามสักเพียงไร เราก็ไม่อาจเลี่ยงการทำผิดได้อย่างสิ้นเชิง. (1 โยฮัน 1:8) บางครั้ง เราอาจรู้สึกอย่างเดียวกับเปาโล ซึ่งเขียนไว้ว่า “เมื่อข้าพเจ้าจะกระทำการดี, การชั่วก็ยังติดอยู่ในตัวข้าพเจ้า. เพราะว่าฝ่ายจิตต์ใจของข้าพเจ้าก็มีความเห็นชอบในพระบัญญัติแห่งพระเจ้า. แต่ข้าพเจ้าเห็นมีกฎธรรมดาอีกอย่างหนึ่งอยู่ในอวัยวะของข้าพเจ้า, ซึ่งสู้รบกันกับกฎธรรมดาซึ่งอยู่ในใจข้าพเจ้า, และชักนำข้าพเจ้าให้อยู่ใต้บังคับกฎธรรมดาความผิดซึ่งอยู่ในอวัยวะของข้าพเจ้า. โอข้าพเจ้าเป็นคนเข็ญใจจริง!”—โรม 7:21-24.
15 กระนั้น เพราะค่าไถ่ เราจึงมีความหวัง! พระเยซูทรงเป็นพงศ์พันธุ์ซึ่งพระเจ้าทรงสัญญาไว้ว่า “ทุกชาติแห่งแผ่นดินโลกจะทำให้ตนเองได้พระพร” โดยทางพระองค์. (เยเนซิศ 22:18, ล.ม.; โรม 8:20) เครื่องบูชาของพระเยซูเปิดประตูสู่โอกาสอันน่าทึ่งสำหรับผู้ที่แสดงความเชื่อในพระองค์. ให้เราพิจารณาโอกาสที่เปิดออกเหล่านี้บางประการ.
การได้รับประโยชน์จากค่าไถ่ของพระคริสต์
16. แม้ว่าเราอยู่ในสภาพผิดบาป เวลานี้เราอาจได้รับประโยชน์เช่นไรบ้างเนื่องด้วยค่าไถ่ของพระเยซู?
16 ยาโกโบผู้เขียนคัมภีร์ไบเบิลยอมรับว่า “เราทุกคนต่างก็พลาดพลั้งกันหลายครั้ง.” (ยาโกโบ 3:2, ล.ม.) อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยค่าไถ่ของพระคริสต์ ความผิดของเราจึงสามารถได้รับการให้อภัย. โยฮันเขียนดังนี้: “ถ้าผู้ใดหลงกระทำผิด. เราก็มีพระองค์ผู้ช่วยเหลือสถิตอยู่กับพระบิดา, คือพระเยซูคริสต์ผู้เที่ยงธรรมนั้น และพระองค์นั้นเป็นผู้ทรงระงับพระพิโรธเพราะความบาปของพวกเรา.” (1 โยฮัน 2:1, 2) แน่ละ เราไม่ควรถือว่าบาปเป็นเรื่องเล่น ๆ. (ยูดา 4; เทียบกับ 1 โกรินโธ 9:27.) อย่างไรก็ตาม ถ้าเราผิดพลาด เราสามารถเปิดใจของเราต่อพระยะโฮวา โดยเชื่อมั่นว่าพระองค์ทรง “พร้อมจะให้อภัย.” (บทเพลงสรรเสริญ 86:5, ล.ม.; 130:3, 4; ยะซายา 1:18; 55:7; กิจการ 3:19) ฉะนั้น ค่าไถ่ทำให้เราสามารถรับใช้พระเจ้าด้วยสติรู้สึกผิดชอบที่สะอาด และทำให้เราสามารถเข้าเฝ้าพระองค์ในคำทูลอธิษฐานโดยผ่านทางพระนามของพระเยซูคริสต์.—โยฮัน 14:13, 14; เฮ็บราย 9:14.
17. พระพรอะไรในอนาคตซึ่งเป็นไปได้เนื่องด้วยค่าไถ่?
17 ค่าไถ่ของพระคริสต์เปิดทางไว้เพื่อให้สำเร็จตามพระประสงค์ของพระเจ้า—คือการที่มนุษย์ผู้เชื่อฟังจะได้มีชีวิตตลอดไปในอุทยานบนแผ่นดินโลก. (บทเพลงสรรเสริญ 37:29) เปาโลเขียนดังนี้: “ไม่ว่าคำสัญญาของพระเจ้ามีมากมายเพียงไรก็ตาม คำสัญญาเหล่านั้นกลายมาเป็นจริงโดยพระองค์ [พระเยซู].” (2 โกรินโธ 1:20, ล.ม.) แท้จริง ความตายได้ “ครอบครองดุจกษัตริย์.” (โรม 5:17, ล.ม.) ค่าไถ่จัดให้มีพื้นฐานสำหรับพระเจ้าที่จะกวาดล้าง “ศัตรูสุดท้าย” นี้. (1 โกรินโธ 15:26, ล.ม.; วิวรณ์ 21:4) ค่าไถ่ของพระเยซูเป็นประโยชน์แม้แต่สำหรับผู้ที่ได้ตายไปแล้ว. พระเยซูตรัสดังนี้: “เวลาจะมาเมื่อบรรดาผู้ซึ่งอยู่ในอุโมงค์รำลึกจะได้ยินสุรเสียงของพระองค์ [พระเยซู] และจะออกมา.”—โยฮัน 5:28, 29, ล.ม.; 1 โกรินโธ 15:20-22.
18. ผลอะไรอันน่าเศร้าที่บาปได้ก่อให้เกิดขึ้นกับมนุษย์เรา และผลดังกล่าวนี้จะเปลี่ยนเป็นตรงกันข้ามอย่างไรในโลกใหม่ของพระเจ้า?
18 ขอให้คิดดูเถอะว่าจะมีความยินดีสักเพียงไรที่จะมีชีวิตอย่างที่พระเจ้าทรงมีพระประสงค์ให้เป็น—คือปราศจากความกระวนกระวายที่ทำให้เราหดหู่อย่างในทุกวันนี้! บาปไม่เพียงแต่ได้ทำให้เราไม่ลงรอยกับพระเจ้าเท่านั้น แต่กับความคิดจิตใจ, หัวใจ, และร่างกายของเราเองด้วย. อย่างไรก็ตาม คัมภีร์ไบเบิลสัญญาว่าในโลกใหม่ของพระเจ้า “จะไม่มีใครที่อาศัยอยู่ที่นั่นพูดว่า, ‘ข้าพเจ้าป่วยอยู่.’” ใช่แล้ว ความเจ็บป่วยทางกายและทางอารมณ์จะไม่รบกวนมนุษยชาติอีกต่อไป. เพราะเหตุใด? ยะซายาตอบดังนี้: “พลเมืองทั้งหมดจะได้รับการอภัยโทษแล้ว.”—ยะซายา 33:24.
ค่าไถ่—การแสดงออกซึ่งความรัก
19. เราแต่ละคนควรตอบสนองต่อค่าไถ่ของพระคริสต์อย่างไร?
19 ความรักกระตุ้นพระยะโฮวาให้ส่งพระบุตรที่รักของพระองค์ลงมา. (โรม 5:8; 1 โยฮัน 4:9) ในลำดับต่อมา ความรักกระตุ้นพระเยซูให้ “ทรงชิมความตายเผื่อมนุษย์ทุกคน.” (เฮ็บราย 2:9; โยฮัน 15:13) เปาโลจึงมีเหตุผลที่ดีเมื่อท่านเขียนว่า “ความรักของพระคริสต์ผลักดันเราอยู่ . . . พระองค์สิ้นพระชนม์เพื่อคนทั้งปวงเพื่อคนที่มีชีวิตจะไม่อยู่เพื่อตนเองอีกต่อไป แต่เพื่อพระองค์ผู้ได้สิ้นพระชนม์เพื่อพวกเขาและถูกปลุกให้คืนพระชนม์แล้ว.” (2 โกรินโธ 5:14, 15, ล.ม.) หากเราหยั่งรู้ค่าสิ่งที่พระเยซูทรงทำเพื่อเรา เราก็จะตอบสนอง. ที่จริง ค่าไถ่ทำให้เป็นไปได้ที่เราจะได้รับการช่วยให้พ้นจากความตาย! แน่นอน เราย่อมไม่ต้องการทำประหนึ่งว่าเราถือว่าเครื่องบูชาของพระเยซูคริสต์มีค่าเล็กน้อย.—เฮ็บราย 10:29.
20. เราจะปฏิบัติตาม “คำ” ของพระเยซูได้โดยวิธีใดบ้าง?
20 เราจะแสดงความหยั่งรู้ค่าจากหัวใจสำหรับค่าไถ่นั้นได้โดยวิธีใด? ไม่นานก่อนถูกจับกุม พระเยซูทรงประกาศดังนี้: “ถ้าผู้ใดรักเรา, ผู้นั้นจะประพฤติตามคำของเรา.” (โยฮัน 14:23) “คำ” ของพระเยซูหมายรวมถึงพระบัญชาของพระองค์ที่ให้เรามีส่วนร่วมด้วยใจแรงกล้าในการทำงานมอบหมายดังต่อไปนี้ให้สำเร็จ: “เหตุฉะนั้น จงไปและทำให้ชนจากทุกชาติเป็นสาวก ให้เขารับบัพติสมา.” (มัดธาย 28:19, ล.ม.) การเชื่อฟังพระเยซูยังเรียกร้องให้เราแสดงความรักต่อพี่น้องฝ่ายวิญญาณของเราด้วย.—โยฮัน 13:34, 35.
21. เหตุใดเราควรเข้าร่วมการฉลองอนุสรณ์ในวันที่ 1 เมษายน?
21 วิธีดีที่สุดวิธีหนึ่งซึ่งเราสามารถแสดงความหยั่งรู้ค่าต่อค่าไถ่ก็คือโดยการเข้าร่วมการประชุมอนุสรณ์ระลึกถึงการวายพระชนม์ของพระคริสต์ ซึ่งปีนี้จะจัดในวันที่ 1 เมษายน.a การทำเช่นนี้นับว่าเป็นส่วนหนึ่งของ “คำ” ของพระเยซู เพราะเมื่อทรงตั้งการฉลองนี้ขึ้น พระเยซูทรงมีพระบัญชาแก่เหล่าสาวกว่า “จงกระทำอย่างนี้ให้เป็นที่ระลึกถึงเรา.” (ลูกา 22:19) โดยการที่เราเข้าร่วมในวาระที่สำคัญที่สุดนี้และโดยการเอาใจใส่อย่างแท้จริงต่อทุกสิ่งที่พระคริสต์ทรงมีพระบัญชา เราจะแสดงความเชื่อมั่นคงว่าค่าไถ่ของพระเยซูคริสต์เป็นแนวทางแห่งความรอดจากพระเจ้า. แท้จริง “ไม่มีความรอดในผู้ใดอื่น.”—กิจการ 4:12, ล.ม.
[เชิงอรรถ]
a ปีนี้ วันที่ 1 เมษายน ตรงกับวันที่ 14 เดือนไนซาน ปีสากลศักราช 33 ซึ่งเป็นวันที่พระเยซูสิ้นพระชนม์. โปรดตรวจสอบเวลาและสถานที่ของการประชุมอนุสรณ์กับพยานพระยะโฮวาในท้องถิ่นที่คุณอยู่.
คุณจำได้ไหม?
▫ เหตุใดมนุษย์ไม่อาจไถ่ถอนสภาพผิดบาปของตนได้?
▫ พระเยซูทรงเป็น “ค่าไถ่อันมีค่าเท่าเทียมกัน” ในทางใด?
▫ พระเยซูทรงใช้สิทธิแห่งชีวิตมนุษย์สมบูรณ์ของพระองค์เพื่อประโยชน์ของเราอย่างไร?
▫ พระพรอะไรบ้างที่มีมายังมนุษยชาติเนื่องด้วยค่าไถ่ของพระคริสต์?
[รูปภาพหน้า 15]
เฉพาะมนุษย์สมบูรณ์เท่านั้น ซึ่งมีค่าเท่าเทียมกับอาดาม สามารถถ่วงตราชูแห่งความยุติธรรมให้สมดุล
[รูปภาพหน้า 16]
เนื่องจากพระเยซูทรงมีสิทธิแห่งชีวิตมนุษย์สมบูรณ์ การวายพระชนม์ของพระองค์จึงมีคุณค่าเป็นเครื่องบูชา